คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Kotarou X Miyachi]Kings
Kings
“.....หนีเร็วทิ้งไอ้เด็กไร้ประโยชน์นี่ไปเถอะน่ะเป็นแค่ทาสที่ทำผิดกฏร้ยแรงตายก็สมควรแล้ว” เสียงของเหล่าทหารที่คอยคุ้มกันคุกผู้ขังเด็กชายที่มีพลังของสามภพในร่างกาย
“....ใคร......ทิ้ง...เรา.....” เด็กชายผู้ถูกจองจำลืมตาขึ้นมาก็พบเห็นความวุ่นวายตรงหน้า
“ราชาทั้ง 5!!! รีบหนีเร็วววววววว” เสียงของผู้คุมคุกที่ชอบทรมานเขาร้องพร้อมทำจะวิ่งแต่ว่า
“เปรียะๆ” เสียงของสายฟ้าดังขึ้นพร้อมนิ้ว 3 นิ้วจิ้มลงไปที่หน้าอกซ้ายของผู้คุมพร้อมยิ้มมุมปาก
“บ๊าย บายนะลุง” เจ้าของนิ้วที่จิ้มเป็นชายหนุ่มผมสีส้มอ่อนพร้อมสั้นๆสวมชุดเหมือนกับราชารอบๆมีประกายไฟอันเกิดจากสายฟ้ารอบๆตัว
“อ้ากกกกกกกกกกก” ร่างผู้คุมคนนั้นถูกช็อตด้วยสายฟ้าจนแหลกสลายคานิ้วทั้งสามของชายหนุ่มแปลกหน้า
“ว้าวมีเด็กอยู่ในที่แบบนี้ด้วยแหะ นายชื่ออะไรเหรอ?” ชายหนุ่มยิ้มตาหยีถาม
“มิยาจิ.....คิโยชิ” เด็กชายรับคำพลางคิดในใจ
“น่ารำคาญ....จริงพี่ชายคนนี้” เด็กชายคิดแต่ยังไม่ทันไรก็มีมือใหญ่อีกข้างกระชากลูกกรงทิ้งเหมือนถอนหญ้าออกไป
“ช้าจังเลยเจ้ากอริลลาบ้ากล้ามเนื้อ” ชายหนุ่มบ่น
“ฮ่า โทษทีๆพอดีผ่านห้องอาหารเลยทานสักหน่อยน่ะ” ชายร่างยักษ์เจ้าของมือยิ้มกว้าง
“แล้วข้างนอกล่ะมีอะไรให้ฉันเล่นอีกมั้ย” ชายหนุ่มสายฟ้าถาม
“หมดแล้ว เพราะเป็นงานฮายามิยะกับคิโยชิ..” อีกคนว่า
“ว้าถ้าสองคนนั้นลงมือก็คงไม่เหลืออะ อีกคนทรมานอีกคนคอยซ้ำให้ตาย....” โคทาโร่ถอนหายใจ
“นั่นน่ะสิ ฝากเด็กคนนี้ไว้กับนายแล้วกัน ชั้นไปหาอะไรกินต่อล่ะ” ชายร่างยักษ์ก็จัดแจงวิ่งไปทางครัวเพื่อหาอะไรกินต่อทันที
“ไอ้ตัวตะกละเอ้ย...”ชายหนุ่มแอบแขวะก่อนจะเดินไปหาเด็กชายหน้าสวยตรงหน้าเขา
“โคทาโร่คุงเจออะไรบ้างตอนนี้เจอแต่พวกน่าเบื่อน่ะแล้วคนที่มากับนายล่ะ” ชายหน้าสวยอีกคนเดินเข้ามาแล้วถาม
“เอจังไปหาอะไรกินที่ห้องอาหารแล้วล่ะ แต่ก็ดีประหยัดค่าอาหารได้นะ” ชายหนุ่มผู้ใช้สายฟ้านามฮายามะ โคทาโร่ยืนขึ้นแล้วมองเด็กชายผมเหลืองที่ถูกจองจำอยู่ตรงหน้า
“หน่วยก้านไม่เลวเลยนะเนี่ย เรโอเน่ๆๆ เราเอากลับไปกันเถอะ” โคทาโร่บอกพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย
“น่ารำคาญน่าทาโร่คุง.....อีกอย่างนายเป็นราชาสายฟ้านะโคทาโร่คุงอยากทำอะไรก็ทำเถอะ ระวังจะได้คนที่เก็บมาเป็นภรรยาแบบกรณีเทปเปย์กับมาโคะจังนะ” เรโอะแซวพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป
“กับเด็กเนี่ยนะคิดได้ไงนะ เรโอเน่เนี่ย.......ไปกันเถอะนะเจ้าหนู” โคทาโร่ยกมือขึ้นพร้อมสายฟ้าก็พุ่งตัดโซ่ตรวนทั้งสี่ของเด็กชายออก
“ไม่ไป...” เด็กชายบอกเสียงห้วนๆด้วยท่าทางดื้อดึง
“...หืม...ไม่ไปจริงอ่า” โคทาโร่ย่อตัวลงถามพร้อมยิ้มตาหยี
“....ก็จริงน่ะสิไอ้โง่” เอด็กชายร้องออกมาแต่ยังไม่ทันไรรก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก
*กร๊อบบบบบบบบ อ้ากกกกกกกกก” เสียงร้องลั่นทำเอาเด็กชายวิ่งมาเกาะโคทาโร่ไว้ทันที
“กลัวเหรอ...ถ้าไม่ไป...มันอาจจะตามมาหักคอเจ้าหนูก็ได้นะ กร๊อบบบบ” โคทาโร่ยิ้มบอกยิ่งทำให้เด็กชายเกาะตัวเขาแน่นขึ้นไปอีก
“ไปสิเจ้าบ้าไปๆๆๆๆ” มิยาจิทุบแขนของทาโร่รัวๆด้วยแรงของเด็กก็คงไม่ต่างกับสะกิดเท่าไหร่
“อ้าวจะไปแล้วเหรอมิยาจิ “ โคทาโร่ถามพลางอุ้มเด็กชายขึ้น
“ก็เออสิ อย่าโง่ได้มั้ยรีบไปก่อนที่มันจะมาหักคอชั้นเร็วๆ” มิยาจิบอกพร้อมตีหัวโคทาโร่รัวๆ
“จ้าๆ มิยาจิ” โคทาโร่ยิ้มก่อนจะวิ่งหายออกไปทันที
อีกด้าน
“ฮานามิยะ ทำเกินไปรึเปล่าเนี่ย แถมไม่ตายอีกต่างหาก” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลร่างสูงใหย่เดินมาหาชายหนุ่มร่างเล็กผมสีดำที่กำลังทรมานคนด้วยการเชิดคนให้กระดูกบิดไปมา
“ยุ่งน่าคิโยชิ ขอชั้นระบายอารมณ์จากการโดนกดขี่หน่อยสิ” ฮานามิยะร้องออกมา
“เอ๋...เมื่อวานฉันทำหนักไปจนเหมือนกดขี่นายเหรอ” คิโยชิร้องถามออกมาก่อนจะกอดร่างบางเอาไว้
“ไอ้บ้ามาพูดอะไรตรงนี้หา!!!” ฮานามิยะหน้าแดงแจ๋พลางยกมือขึ้นจับรอยแดงจ้ำๆบนคอของตัวเองแบบอัตโนมัติ
“ฉันทำหนักไปเหรอ มาโคโตะ” คิโยชิถามอีกครั้ง
“ยะ...อย่าเรียกชั้นแบบนั้นไอ้บ้าคิโยชิ..” ฮานามิยะร้องออกมาเสียงดังใบหน้าขาวตอนนี้แดงเหมือนลูกตำลึงสุขไปแล้ว
“ทำไมล่ะ? เมื่อคืนก็ยังเรียกอยู่เลยนี่...” คิโยชิถามด้วยน้ำเสียงซื่อๆ
“ว้ากกกก ไปตายซะไอ้บ้า” ฮานามิยะร้องออกมาลั่นก่อนจะผลักคิโยชชิแล้ววิ่งออกไปทั้งที่หน้าแดงแจ๋ทันนที
“อ๋า...ช่างเถอะขอโทษที่ลืมนะจะช่วยให้ไปสบายเดี๋ยวนี้แหละ” คิโยชิเดินมาหาเหล่าคนคุมคุกที่นอนหายใรวยรินอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว
“ปราสาทนี่แหละดีที่สุด” โคทาโร่ร้องออกมาหลังตรงดิ่งกลับมาที่ปราสาทที่มีชื่อว่าปราสาทพฤกษาเป็นที่อยู่ของพวกเขาทั้ง 5 คน
“ปราสาทนี่มันนี่นายเป็นหนึ่งในราชาไร้บัลลังก์เหรอเนี่ย” มิยาจิร้องถาม
“อื้มใช่แล้วล่ะมิยาจิ ฉันเท่ใช่มั้ยล่ะ” โคทาโร่ยิ้มถาม
คนอื่นน่ะดูเท่นะแต่นายเหมือนหมาป่างี่เง่ามากกว่า” มิยาจิบอกพร้อมมองเขาตาขวาง
“ปล่อยผมได้แล้ว ผมจะไปแล้ว” มิยาจิบอกพลางพยายามแกะแขนของโคทาโร่
“ไม่ให้หนีหรอก เอาน่าๆอยู่ที่นี่ก็ไม่เลวร้ายหรอกนะ รับรองว่าสนุกแต่ว่าตอนนี้เราไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนดีกว่า” โคทาโร่บอกยิ้มๆ
“อย่าบอกนะว่าให้อาบกับนายไม่มีวันไอ้โงปล่อยผมนะ ปล่อยผมมมมมมม” มิยาจิร้องลั่น
“โคทาโร่คุงมีเพื่อนแล้วสินะ” เรโอะหรือที่คนในกลุ่มเดียวกันเรียกว่า คุณแม่แห่งห้าราขากำลังนั่งเตรียมของไว้สำหรับน้ำชายามบ่ายของตัวเองกับราชาอีกสี่คน
“อ๊ะ จริงสิมีคิโยจังเพิ่มเข้ามาด้วยสิน๊า” เรโอะยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“กระดี้กระด๊าจังนะ” ฮานามิยะเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางหงุดหงิด
“แหมๆ มาโคะจังหงุดหงิดแบบนี้เมื่อคืนหนักไปเหรอจ๊ะ” เรโอะถามพร้อมรอยยิ้ม
“มะ..ไม่ใช่ว้อยยย” ฮานามิยะร้องออกมา
“แล้วเสียงครางของนายสลับกับคิโยชิเมื่อคืนมันคืออะไรเหรอจ๊ะ” เรโอะยิ้มกวนประสาทออกมา
“....ไปตายซะ!!” ฮานามิยะถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่ทันทีซึ่งเรโอะก็หัวเราะร่วนพลางยกมือปัดรองเท้าอย่าวไม่ยากเย็น
“ว่าแต่ เทวดาปีกแดงล่ะช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเลยนะ” ฮานามิยะเปลี่ยนเรื่องหลังจากที่รู้ว่าตนเองคงทำอะไรยัยป้า(?)มหาภัยไม่ได้
“อ๋อ เห็นว่าอยู่กับโคคิจังน่ะเห็นว่าคิโยชิเป็ฯคนยกโคคิจังให้เซย์จังเลยนะทำให้เซย์จังมีความสุขมากเลยล่ะ ดูนั่นสิ” เรโอะชี้ไปทางสวนดอกไม้ที่มีร่างบอบบางของเด็กหนุ่มผมน้ำตาลกำลังทำมงกฏดอกไม้โดยมีเด็กหนุ่มผมแดงยืนอยู่ข้างๆ
“กำแพงสีชมพูอีกแล้วให้ตายเถอะ” ฮานามิยะบ่น
“เหมือนเกิดใหม่เลยสบายจริงๆ” โคทาโร่ยิ้มหลังอาบน้ำแต่งตัวแล้วโดยมีมิยาจิยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“...ไอ้......” มิยาจิตอนนี้จ้องไปทางทาโร่ด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“แต่ว่ามิยาจิก็น่ารักดีเหมือนกันน๊า เอาล่ะไปแนะนำตัวกันเถอะ” โคทาโร่บอกก่อนจะจูงมือเด็กชายวิ่งไปแนะนำตัวกับคนในปราสาททีละคนซึ่งดูเหมือนว่ามิยาจิจะถูกชะตากับคิโยชิและฟุริฮาตะมากกว่าคนอื่นๆ
“แล้วใครจะดูแลมิยาจิ” เหล่าราชาทั้ง 5 แยกมาประชุมหลังฝากมิยาจิไว้กับฟุริฮาตะและเทวดาปีกแดงอาคาชิ
“ชั้นขอๆๆๆ” เรโอะร้องออกมาทำให้รองเท้าสองข้างลอยเข้าใส่หน้าของเรโอะอย่างพร้อมเพรียง
“จะไม่ให้แกผลิตพวกเดียวกับแกขึ้นมาหรอกไม่มีวัน!!” ฮานามิยะร้องออกมา
“สังคมนี้อยู่ยากแล้วมีแกอยู่มันยิ่งอยู่ยาก” เนบุยะบบอกพลางตักข้าวหน้าเนื้อกินต่อ
“งั้นฉันๆๆๆๆ” โคทาโร่ร้องออกมา
“อืม...ฮายามะก็น่าจะโอเคนะยังไงก็เป็นคนเก็บมาด้วยนี่” คิโยชิบอก
“ทำไมทีโคทาโร่คุงไม่เห็นว่าอะไรเลยอะ” เรโอะลุกขึ้นหลังจากโดนร้องเท่าสองข้างเข้าที่หน้าจนล้มลงไปเมื่อครู่
“นั่นสิ อย่างน้อยไอ้บ้าแบบเจ้านี่ก็ยังรับมือง่ายกว่าไอ้บ้าแบบแกแหละ” ฮานามิยะบอก
“นั่นสิ ยิ่งถ้าซื่อเหมือนฮายามะแล้วก็น่าจะสอนง่ายน่ะนะ” คิโยชิบอกพร้อมยิ้ม
“.........” ส่วนเนบุยะเงียบพร้อมแวบออกไปโซ้ยข้าวแล้ว
“....งั้นฉันกลับไปหามิยาจิน้อยก่อนน๊า” โคทาโร่ยิ้มตาหยีก่อนจะเดินตัวลอยออกไป
“ดูดีใจกว่าที่คิดนะ..หรือว่าจะเป็นเหมือนมาโคะจังกับเทปจังน๊า” เรโอะแซวพร้อมรอยยิ้มแบบมีเลศนัยประมาณว่า “ได้มีเรื่องสนุกๆให้เจ๊ดูอีกแล้ว”
“ฮะๆ คงไม่หรอกน๊า ฮานามิยะเราไปปฏิบัติงานเยี่ยมประชาชนกันเถอะ” คิโยชิจัดแจงช้อนร่างของผู้เป็นภรรยาขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปท่ามกลางเสียงโวยวายของฮานามิยะทันที
“มิยาจิน้อยยยยยย” โคทาโร่พุ่งไปกอดเจ้าตัวเล็กที่กำลังเล่นกับฟุริฮาตะอยู่พอดี
“ทำอะไรของแกหาไอ้โรคจิตปล่อยผมนะ” มิยาจิดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมกอดของโคทาโร่
“โหดร้ายจังเลยอ่า เอาเถอะๆ ไปเล่นกันดีกว่า อาคาชิจัดการดูแลภรรยานายต่อได้เลย” พูดจบโคทาโร่หรือฉยาที่ชาวเมืองรู้จักคือหมาป่าสายฟ้าก็พุ่งทะยานออกไปทันที
“แล้วจะไม่เป็นไรรึไง แกเป็นหนึ่งในราชาไม่ใช่รึไงรับเด็กที่ถูกจองจำในคุกอย่างผมมาดูแลแบบนี้ไม่กลัวจะมีใครมองไม่ดีรึไง” มิยาจิถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“ไม่เห็นเป็นไร ฉันก็ไม่สนใจด้วย เพราะฉันคิดว่าปล่อยมิยาจิน้อยไว้คนได้ไม่ได้มันก็เท่านั้นเอง” โคทาโร่ยิ้มตาหยีซ้อนทับกับแสงอาทิตย์ที่ส่องมาพอดี
“....แกนี่มัน...โง่จริงๆ....” มิยาจิว่าออกมาพร้อมขยับรอยยิ้มจากใจที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้
“ไม่เคยจะเรียบร้อยเลยใช่มั้ยเนี่ยแกน่ะ” เสียงคำราม(?)ของมิยาจิดังขึ้น
นี่ก็ผ่านไป 6 ปีแล้วที่เขาอยู่กับเจ้าหมาสายฟ้านั่น
“ให้ตายสิไม่ต่างกับเด็กเลยทั้งที่ตัวเองอายุมากกว่าแท้ๆ” มิยาจิบ่นพลางจัดเสื้อผ้าของโคทาโร่ลงตะกร้าให้เรียบร้อยพร้อมทำมื้อเที่ยงให้ไอ้หมาไฮเปอร์ที่พึ่งหลับไปเพราะออกไปปฏิบัติภารกิจแบบโต้รุ่งมา
“ตื่นมาคงหิวอีกแหงแถมหลับไปแบบนั้นให้ตาย....” มิยาจิบ่นอุบอิบพลางนั่งทำซูชิแตงกว่าของโปรดของอีกฝ่าย
“จะว่าไปเราก็อยู่กับเจ้าหมาสายฟ้านี่มานานแล้วล่ะนะ...” มิยาจิคิดเขาอยู่กับโคทาโร่มา 6 ปีในช่วงแรกๆทาโร่ดูจะเป็นผู้ปกครองของเขาแต่ทำไมพอมาช่วงหลังๆนี้ถึงสลับบทบาทกันได้ก็ไม่รู้กลายเป็นเขาที่ต้องคอยดูแลโคทาโร่แทบทุกเรื่องแถมเหมือนรู้สึกว่ายิ่งอยู่ไปนานๆเขายิ่งรู้สึกแปลกๆกับโคทาโร่มายิ่งขึ้นไปอีกโดยเฉพาะตอนที่....
“มิยาจิทำให้ฉันเหรอน่ากินจังเลยน๊า” โคทาโร่เข้ามากอดมิยาจิจากข้างหลังด้วยสภาพที่ไม่ได้สวมเสื้อ
“มาอีกแล้วไอ้ความรู้สึกที่ใจเต้นบ้าๆเนี่ยโว้ยยยย” มิยาจิจัดแจงยกท้าขึ้นแล้วกระทืบไปยังเท้าของโคทาโร่อย่างแรง
“โอ้ย...อีกแล้วมิยาจิชอบลงไม้ลงมือกับฉันตลอดเลยแค่กอดเอง” โคทาโร่ทำแก้มป่อง
“ให้ตายเถอะบอกผมทีว่าไอ้โง่นี่อายุใกล้จะถึง 100 แล้ว” มิยาจิเอามือกุมขมับ
“อาบน้ำกันมิยาจิ อาบน้ำกันๆ” ยังไม่ทันไรคนตัวโตกอดก็รอดคอเขาพร้อมบอกหูและหางกระดิกไปมาอย่างน่าเอ็นดู
“ไม่ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว แกไปอาบคนเดียวเลยไป๊” มิยาจิร้องออกมาทำเอาคนตัวโตหูหางตกพร้อมส่งสายตาลูกหมาหิวนมมาให้
“ไม่ได้จริงๆเหรอ...” โคทาโร่ถามพพร้อมสายตาลูกหมาหิวนม
“นั่น......ใจมันอ่อนยวบเลยโว้ยยยยยไอ้สายตาแบบนั้น...ไอ้หมาขี้โกงงงงง” มิยาจิร้องโหยหวนในใจก่อนจะถอนใจยาว
“ยอมอาบน้ำด้วยก็ได้เลิกส่งสายตาปัญญาอ่อนแบบนั้นวะทีโว้ยยย” มิยาจิว้ากใส่โคทาโร่ทันที
“แปลว่าจะอาบน้ำกับฉันใช่มั้ย เย้รักมิยาจิที่สุดเลย” โคทาโร่กระโดดกอดคนที่กำลังว้ากทันที
“มาอีกแล้วไอ้อาการแบบนี้....มาอีกแล้วโว้ยยยยยยยย” มิยาจิคิดไอ้อาการใจเต้นแรงหน้าก็พาลจะร้อนขึ้นมาซะแบบนั้นนี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ยยยยยยยย
“ปล่อยผม ไปรอก่อนไป๊ ไอ้โง่!!” มิยาจิคว้าเขียงฟาดใส่หัวของเจ้าคนตัวแต่ตัวทันที
“โอ้ย....ไปก็ได้แต่ต้องมานะมิยาจิ” โคทาโร่บอกก่อนจะวิ่งออกไป
“แหมยังกับคู่แต่งงานใหม่เลยนะ คิจัง” เสียงหวานๆเลี่ยนของคุณแม่แห่งปราสาทดังขึ้นมาทำเอามิยาจิสะดุ้ง
“จะ..เจ๊เรโอะมาตั้งแต่เมื่อไหร่!!” มิยาจิแทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างทันที่ได้เห็นเจ๊คุณแม่สีม่วง(?)ประจำปราสาท
“ฮิๆ ชั้นน่ะเหรอพอดีมันได้กลิ่นความรักของเธอน่ะสิจ๊ะ คิจัง” เรโอะยิ้มกว้างขึ้นทำเอามิยาจิรู้สึกขนลุกขึ้นมาซะอย่างนั้น
“คะ.ความรัก..นะ..นี่จะบอกว่าผมชอบไอ้โง่นั่นน่ะเหรอ!!!” มิยาจิร้องถามออกมาหน้าแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ใช่แล้วเจ๊ฟันธงเลยว่าเธอกับโคทาโร่คุงน่ะ...ชอบกันชัวร์ๆ” เรโอะยิ้มกว้าง
“มโนแล้วเจ๊ ผมจะไปชอบไอ้โง่ได้ไง ตีกันจะตายแบบนี้” มิยาจิจัดแจงคว้าไม้นวดแป้งตีหัวเรโอะอย่างเร็วทันที
“โอ้ย เขินแล้วอย่ามาลงกับเจ๊สิ...ว่าแต่อยากพิสูจน์มั้ยล่ะ...” เรโอะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“มะ...หมายความว่าไง....ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบ” มิยาจิร้องออกมา
“เจ๊รู้อาการของมคิโยจังน่ะเรียกว่าอาการเขินอายเวลามีความรัก....เอาแบบนี้มั้ยเจ๊จะใช้คิโยจังทดสอบว่าโคทาโร่คุงเรียกคิโยจังหรือไม่” เรโอะถามยิ้มๆ
“หา จะทดสอบยังไง” มิยาจิถามด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจ
“แหวนลบตัวตน นี่เป็นของที่ฉันขอมาจาดกเทวดาสีเทาจิฮิโระจังคนที่ใส่มันจะไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนได้ยังไงล่ะสวมมันเอาไว้แล้วคอยตามโคทาโร่คุงแล้วจะรู้เองแหละ” เรโอะบอกยิ้มๆก่อนจะวางแหวนลงบนมือของมิยาจิแล้วกระโดดออกหน้าต่างไป
“....ทดสอบสักหน่อยแล้วกัน” มิยาจิสวแหวนลงไปก่อนจะไปยืนมองโคทาโร่
30 นาทีต่อมา
“มิยาจิไปไหนนะ....หรือว่าไม่อยากจะอาบกับเราจริงๆ” โคทาโร่ขึ้นมาแต่งตัวก่อนจะเดินออกไปวึ่งมิยาจิก้เดินตามไปด้วย
“มิยาจิ อยู่ไหนนนนนน มิยาจิ” โคทาโร่ร้องเรียกพลางวิ่งพล่านไปทั่วบ้านที่พวกเขาอยู่
“...ไม่เจอหรือว่าไปหาคิโยชิ” โคทาโร่พึมพำก่อนจะวิ่งออกไป
“จะวิ่งทำไมนะให้ตาย” มิยาจิบ่นพลางวิ่งตามไปจนถึงคฤหาสน์ของคิโยชิ
“อ้าวฮายามะมีอะไรเหรอ” คิโยชิที่กำลังอุ้มเด็กชายผมดำตาสีน้ำตาลวัย 5 ขวบอยู่ถามออกมา
“คิโยชิ มิยาจิมาที่นี่รึเปล่า” โคทาโร่ถามด้วยท่าทางร้อนรนขึ้นมา
“เอ่อ ไมม่ได้มานะ” คิโยชิบอก
“คุณอาฮายาม๊า” เด็กชายส่งเสียงร้องเรียกเขา
“อ่าไง มาซามุเนะคุง...โตขึ้นเยอะเลยนะ” โคทาโร่ยิ้มแต่ใจยังร้อนรน
“ฮะๆ ก็ลูกฉันกับมาโคโตะนี่นา” คิโยชิบอกพลางกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูชายตัวเอง
“เห่อลูก” มิยาจิคิด
“งั้นฉันไปหาที่อื่นก่อนนะ” พูดจบฮายามะก็วิ่งไปอีกที่ทันทีวึ่งมิยาจิก็ตามไป
บ้านต้นไม้ของอาคาชิ
“อ้าวฮายามะซัง มีธุระอะไรเหรอครับ” ฟุริฮาตะถามเมื่อเห็นฮายามะปีนขึ้นมาที่บ้านเขา
“มิยาจิมาที่นี่มั้ย” โคทาโร่ถามด้วยท่าทีร้อนรนกว่าเก่า
“เอ่อไม่ได้มานะฮะ มิไรก็บอกว่าอยากเล่นกับมิยาจิคุงอยู่” ฟุริฮาตะบอก
“งั้นเหรอ..มิไรเขาโตเร็วนะสมเป็นลูกของนายกับอาคาชิจริงๆ” ฮายามะบอก
“กะ...ก็นะครับ....อะ...เอ่อ....” ฟุริฮาตะหน้าแดงเพราะเหมือนจะไปนึกถึงหน้าของคนรักเข้า
“งั้นฉันไปหามิยาจิต่อนะ...” โคทาโร่รีบวิ่งตามหาอีกคนต่อไปทั่วจนเย็นแล้วก็กลับมาที่บ้านด้วยความเหนื่อยล้า
“อ้าวโคทาโร่คุงทำไมฝืนใช้พลังแบบนั้นล่ะ” เรโอะเข้ามาถามเมื่อเห็นร่างของโคทาโร่นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา
“ก็..มิยาจิหายไป....ฉันเป็นห่วงก็เลย...” โคทาโร่บอก
“ผมก็เหนื่อยไม่ต่างกันหรอกหายไปแค่วันเดียวเองวิตกจริตไปได้เจ้าหมาบ้าเอ้ย” มิยาจิยืนหอบอยู่ไม่ไกลนัก
“แต่ไม่ควรจะฝืนนะ รึว่านายรักเขา..” เรโอะถามออกมา
“อะ...เรโอเน่ฉัน.....” โคทาโร่ชะงักไปพร้อมนิ่งไป
“นายโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกโคทาโร่คุง...ยอมรับ..อะ...โคทาโร่คุง” ทั้งเรโอะทั้งมิยาจิเบิกตากว้างพร้อมกับเพราะสิ่งที่เห็น
“.....ก็.....เขาไม่ได้รักฉันนี่....เรโอเน่.......ถ้าฉันบอกไปถ้าเขาหายไปจากชีวิตฉันล่ะจะทำยังไง...ถ้าเขา...เกลียดฉันล่ะ....เรโอเน่...” โคทาโร่กล่าวออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา
“....โคทาโร่คุง ....” เรโอะถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“สำหรับเขาฉันเป็นแค่ผู้เลี้ยงดู...เพราะงั้น....ฉันจะเก็บความรู้สึกของฉันเอาไว้แล้วอยู่ข้างๆเขาตลอด...” พูดยังไม่ทันจบร่างของโคทาโร่ก็ถูกอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นชกจนลอยไปกองบนโซฟาทันที
“เฮ้ย คิโยจัง!!” เรโอะร้องออกมาก่อนที่แหวนที่อาบด้วยเวทย์ลอยไปกระแทกหัวของโคทาโร่จนเลือดไหลซิบๆ
“มิยาจิ!!” โคทาโร่อ้าปากค้างเมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มผมเหลืองที่เขาดูแลมา 6 ปี
“ไอ้โง่เอ้ยทำไมไม่ยอมบอกวะ” มิยาจิตวาดด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋ซึ่งเรโอะสงสัยว่าโกรธหรือเขินกันแน่
“อะ...เอ๋...” โคทาโร่เบิกตากว้างขึ้นด้วยความสงสัยก่อนริมฝีปากของเขาจะถูกอีกคนปิดด้วยปาก
“คิกๆ สุดท้ายก้โกหกไม่ได้แล้วงั้นเจ๊ไปนะ” เรโอะเดินเฉิดฉายออกไปอย่างอารมณ์ดี
“มะ..มิยาจิ” ใบหน้าของโคทาโร่แดงแจ๋คนตัวโตเริ่มทำอะไรไม่ถูกด้วยความเขินอาย
“เงียบน่าผมเขิน!! ห้ามพูดอะไรเงียบไปไอ้โง่” มิยาจิว้ากอีกครั้งก่อนจะซุกหน้าลงกับหน้าอกของเขา
“.....ตะ..แต่ว่า” โคทาโร่ทำท่าจะท้วงแต่ว่าก็ถูกมือของคนที่ซุกเขาอยุ่ทุบจนจุก
“บอกให้เงียบไงไอ้บ้า!!” มิยาจิร้องออกมา
“สรุปว่าลงเลยได้ด้วยดีแล้วสินะ โคทาโร่” เสียงอขงอาคาชิดังขั้นพร้อมกับขนนกสีแดงที่โปรยปรายลงมา
“ก็ดีแล้วล่ะ...” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆโซฟาพร้อมกับเทวดาผู้มีปีกสีเทามายุสุมิ จิฮิโระ
“พะ..พวกนายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” มิยาจิผละออกจากโคทาโร่พลางชี้นิ้วถามทั้งสองคน
“มาเอาของ..” สิ้นคำเทวดาสีเทาก็จางลงแล้วหายไปทันทีที่พูดจบ
“ส่วนผมมาทำพิธีการสาบานรัก...ผมคิดว่าคุณมิยาจิคงไม่อยากใส่ชุดเจ้าสาวไปยืนในโบสถ์เหมือนฮานามิยะใช่มั้ยล่ะครับ” อาคาชิบอกเรียบๆ
“แหงล่ะ ใครอยากจะแต่งชุดฟูฟ่องแบบนั้นกัน” มิยาจิร้องออกมาก่อนจะโดนโคทาโร่ดึงไปกอดอีกครั้ง
“แต่ว่าฉันอยากเห็นมิยาจิในชุดเจ้าสาวนี่นา” พูดจบคนตัวโตก็ส่งสายตาลูกหมาหิวนมไปเล่นงานมิยาจิอีกครั้ง
“.....กรอด.....เดี๋ยวแต่งให้แกดูทีหลังไอ้โง่โอเคมั้ย.......รีบๆเริ่มพิธีได้แล้วอาคาชิ!!” มิยาจิร้องออกมา
“....ฮายามะ โคทาโร่เจ้าสาบานที่จะรักมิยาจิ คิโยชิ ตราบจนสิ้นชีวิตโดยไม่อาจมีรักอื่นใดได้อีกหรือไม่” อาคาชิถามพร้อมหนังสือสีแดงปรากฏขึ้นในมือของเทวทูตปีกแดง
“ข้าขอสาบานด้วยกาย วิญญาณ แล้วหัวใจของข้า....ว่าจะรักเขาตลอดไปหากวันใดข้าหมดรักเขาขอให้กายและวิญญาณของข้าต้องแหลกสลายไปตลอดกาล” โคทาโร่กล่าวออกกมา
“แล้วเจ้าล่ะมิยาจิ คิโยชิ เจ้าจะรักเขาตราบจนสิ้นชีวิตและยินยอมในเรื่องที่เจ้าไม่อาจมีรักอื่นได้อีกตลอดจนสิ้นอายุขัย” อาคาชิหันไปหามิยาจิซึ่งริมฝีปากของคนที่ถูกมองขยับเป็นรอยยิ้มพร้อมกล่าวออกมาว่า
“ข้าเต็มใจที่จะรักเขาตราบจนสิ้นชีวิตและยินยอมอย่างยิ่ง”
ความคิดเห็น