ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมฟิคKNB

    ลำดับตอนที่ #1 : [Kotarou X Miyachi]Kings

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 57


    Kings

    “.....หนีเร็วทิ้งไอ้เด็กไร้ประโยชน์นี่ไปเถอะน่ะเป็นแค่ทาสที่ทำผิดกฏร้ยแรงตายก็สมควรแล้ว” เสียงของเหล่าทหารที่คอยคุ้มกันคุกผู้ขังเด็กชายที่มีพลังของสามภพในร่างกาย

    “....ใคร......ทิ้ง...เรา.....” เด็กชายผู้ถูกจองจำลืมตาขึ้นมาก็พบเห็นความวุ่นวายตรงหน้า

    “ราชาทั้ง 5!!! รีบหนีเร็วววววววว” เสียงของผู้คุมคุกที่ชอบทรมานเขาร้องพร้อมทำจะวิ่งแต่ว่า

    “เปรียะๆ” เสียงของสายฟ้าดังขึ้นพร้อมนิ้ว 3 นิ้วจิ้มลงไปที่หน้าอกซ้ายของผู้คุมพร้อมยิ้มมุมปาก

    “บ๊าย บายนะลุง” เจ้าของนิ้วที่จิ้มเป็นชายหนุ่มผมสีส้มอ่อนพร้อมสั้นๆสวมชุดเหมือนกับราชารอบๆมีประกายไฟอันเกิดจากสายฟ้ารอบๆตัว

    “อ้ากกกกกกกกกกก” ร่างผู้คุมคนนั้นถูกช็อตด้วยสายฟ้าจนแหลกสลายคานิ้วทั้งสามของชายหนุ่มแปลกหน้า

    “ว้าวมีเด็กอยู่ในที่แบบนี้ด้วยแหะ นายชื่ออะไรเหรอ?” ชายหนุ่มยิ้มตาหยีถาม

    “มิยาจิ.....คิโยชิ” เด็กชายรับคำพลางคิดในใจ

    “น่ารำคาญ....จริงพี่ชายคนนี้” เด็กชายคิดแต่ยังไม่ทันไรก็มีมือใหญ่อีกข้างกระชากลูกกรงทิ้งเหมือนถอนหญ้าออกไป

    “ช้าจังเลยเจ้ากอริลลาบ้ากล้ามเนื้อ” ชายหนุ่มบ่น

    “ฮ่า โทษทีๆพอดีผ่านห้องอาหารเลยทานสักหน่อยน่ะ” ชายร่างยักษ์เจ้าของมือยิ้มกว้าง

    “แล้วข้างนอกล่ะมีอะไรให้ฉันเล่นอีกมั้ย” ชายหนุ่มสายฟ้าถาม

    “หมดแล้ว เพราะเป็นงานฮายามิยะกับคิโยชิ..” อีกคนว่า

    “ว้าถ้าสองคนนั้นลงมือก็คงไม่เหลืออะ อีกคนทรมานอีกคนคอยซ้ำให้ตาย....” โคทาโร่ถอนหายใจ

    “นั่นน่ะสิ ฝากเด็กคนนี้ไว้กับนายแล้วกัน  ชั้นไปหาอะไรกินต่อล่ะ” ชายร่างยักษ์ก็จัดแจงวิ่งไปทางครัวเพื่อหาอะไรกินต่อทันที

    “ไอ้ตัวตะกละเอ้ย...”ชายหนุ่มแอบแขวะก่อนจะเดินไปหาเด็กชายหน้าสวยตรงหน้าเขา

    “โคทาโร่คุงเจออะไรบ้างตอนนี้เจอแต่พวกน่าเบื่อน่ะแล้วคนที่มากับนายล่ะ” ชายหน้าสวยอีกคนเดินเข้ามาแล้วถาม

     “เอจังไปหาอะไรกินที่ห้องอาหารแล้วล่ะ แต่ก็ดีประหยัดค่าอาหารได้นะ” ชายหนุ่มผู้ใช้สายฟ้านามฮายามะ โคทาโร่ยืนขึ้นแล้วมองเด็กชายผมเหลืองที่ถูกจองจำอยู่ตรงหน้า

    “หน่วยก้านไม่เลวเลยนะเนี่ย เรโอเน่ๆๆ เราเอากลับไปกันเถอะ” โคทาโร่บอกพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย

    “น่ารำคาญน่าทาโร่คุง.....อีกอย่างนายเป็นราชาสายฟ้านะโคทาโร่คุงอยากทำอะไรก็ทำเถอะ ระวังจะได้คนที่เก็บมาเป็นภรรยาแบบกรณีเทปเปย์กับมาโคะจังนะ”  เรโอะแซวพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป

    “กับเด็กเนี่ยนะคิดได้ไงนะ เรโอเน่เนี่ย.......ไปกันเถอะนะเจ้าหนู” โคทาโร่ยกมือขึ้นพร้อมสายฟ้าก็พุ่งตัดโซ่ตรวนทั้งสี่ของเด็กชายออก

    “ไม่ไป...” เด็กชายบอกเสียงห้วนๆด้วยท่าทางดื้อดึง

    “...หืม...ไม่ไปจริงอ่า” โคทาโร่ย่อตัวลงถามพร้อมยิ้มตาหยี

    “....ก็จริงน่ะสิไอ้โง่” เอด็กชายร้องออกมาแต่ยังไม่ทันไรรก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก

    *กร๊อบบบบบบบบ อ้ากกกกกกกกก” เสียงร้องลั่นทำเอาเด็กชายวิ่งมาเกาะโคทาโร่ไว้ทันที

    “กลัวเหรอ...ถ้าไม่ไป...มันอาจจะตามมาหักคอเจ้าหนูก็ได้นะ กร๊อบบบบ”  โคทาโร่ยิ้มบอกยิ่งทำให้เด็กชายเกาะตัวเขาแน่นขึ้นไปอีก

    “ไปสิเจ้าบ้าไปๆๆๆๆ” มิยาจิทุบแขนของทาโร่รัวๆด้วยแรงของเด็กก็คงไม่ต่างกับสะกิดเท่าไหร่

    “อ้าวจะไปแล้วเหรอมิยาจิ “ โคทาโร่ถามพลางอุ้มเด็กชายขึ้น

    “ก็เออสิ อย่าโง่ได้มั้ยรีบไปก่อนที่มันจะมาหักคอชั้นเร็วๆ”  มิยาจิบอกพร้อมตีหัวโคทาโร่รัวๆ

    “จ้าๆ มิยาจิ” โคทาโร่ยิ้มก่อนจะวิ่งหายออกไปทันที

     

    อีกด้าน

    “ฮานามิยะ ทำเกินไปรึเปล่าเนี่ย แถมไม่ตายอีกต่างหาก” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลร่างสูงใหย่เดินมาหาชายหนุ่มร่างเล็กผมสีดำที่กำลังทรมานคนด้วยการเชิดคนให้กระดูกบิดไปมา

    “ยุ่งน่าคิโยชิ ขอชั้นระบายอารมณ์จากการโดนกดขี่หน่อยสิ” ฮานามิยะร้องออกมา

    “เอ๋...เมื่อวานฉันทำหนักไปจนเหมือนกดขี่นายเหรอ” คิโยชิร้องถามออกมาก่อนจะกอดร่างบางเอาไว้

    “ไอ้บ้ามาพูดอะไรตรงนี้หา!!!” ฮานามิยะหน้าแดงแจ๋พลางยกมือขึ้นจับรอยแดงจ้ำๆบนคอของตัวเองแบบอัตโนมัติ

    “ฉันทำหนักไปเหรอ มาโคโตะ” คิโยชิถามอีกครั้ง

    “ยะ...อย่าเรียกชั้นแบบนั้นไอ้บ้าคิโยชิ..” ฮานามิยะร้องออกมาเสียงดังใบหน้าขาวตอนนี้แดงเหมือนลูกตำลึงสุขไปแล้ว

    “ทำไมล่ะ? เมื่อคืนก็ยังเรียกอยู่เลยนี่...” คิโยชิถามด้วยน้ำเสียงซื่อๆ

    “ว้ากกกก ไปตายซะไอ้บ้า” ฮานามิยะร้องออกมาลั่นก่อนจะผลักคิโยชชิแล้ววิ่งออกไปทั้งที่หน้าแดงแจ๋ทันนที

    “อ๋า...ช่างเถอะขอโทษที่ลืมนะจะช่วยให้ไปสบายเดี๋ยวนี้แหละ” คิโยชิเดินมาหาเหล่าคนคุมคุกที่นอนหายใรวยรินอยู่ด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว

     

    “ปราสาทนี่แหละดีที่สุด” โคทาโร่ร้องออกมาหลังตรงดิ่งกลับมาที่ปราสาทที่มีชื่อว่าปราสาทพฤกษาเป็นที่อยู่ของพวกเขาทั้ง 5 คน

    “ปราสาทนี่มันนี่นายเป็นหนึ่งในราชาไร้บัลลังก์เหรอเนี่ย” มิยาจิร้องถาม

    “อื้มใช่แล้วล่ะมิยาจิ ฉันเท่ใช่มั้ยล่ะ” โคทาโร่ยิ้มถาม

    คนอื่นน่ะดูเท่นะแต่นายเหมือนหมาป่างี่เง่ามากกว่า” มิยาจิบอกพร้อมมองเขาตาขวาง

    “ปล่อยผมได้แล้ว ผมจะไปแล้ว” มิยาจิบอกพลางพยายามแกะแขนของโคทาโร่

    “ไม่ให้หนีหรอก เอาน่าๆอยู่ที่นี่ก็ไม่เลวร้ายหรอกนะ รับรองว่าสนุกแต่ว่าตอนนี้เราไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนดีกว่า” โคทาโร่บอกยิ้มๆ

    “อย่าบอกนะว่าให้อาบกับนายไม่มีวันไอ้โงปล่อยผมนะ ปล่อยผมมมมมมม”  มิยาจิร้องลั่น

     

    “โคทาโร่คุงมีเพื่อนแล้วสินะ” เรโอะหรือที่คนในกลุ่มเดียวกันเรียกว่า คุณแม่แห่งห้าราขากำลังนั่งเตรียมของไว้สำหรับน้ำชายามบ่ายของตัวเองกับราชาอีกสี่คน

    “อ๊ะ จริงสิมีคิโยจังเพิ่มเข้ามาด้วยสิน๊า” เรโอะยิ้มอย่างอารมณ์ดี

    “กระดี้กระด๊าจังนะ” ฮานามิยะเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางหงุดหงิด

    “แหมๆ มาโคะจังหงุดหงิดแบบนี้เมื่อคืนหนักไปเหรอจ๊ะ” เรโอะถามพร้อมรอยยิ้ม

    “มะ..ไม่ใช่ว้อยยย” ฮานามิยะร้องออกมา

    “แล้วเสียงครางของนายสลับกับคิโยชิเมื่อคืนมันคืออะไรเหรอจ๊ะ” เรโอะยิ้มกวนประสาทออกมา

    “....ไปตายซะ!!” ฮานามิยะถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่ทันทีซึ่งเรโอะก็หัวเราะร่วนพลางยกมือปัดรองเท้าอย่าวไม่ยากเย็น

    “ว่าแต่ เทวดาปีกแดงล่ะช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเลยนะ”  ฮานามิยะเปลี่ยนเรื่องหลังจากที่รู้ว่าตนเองคงทำอะไรยัยป้า(?)มหาภัยไม่ได้

    “อ๋อ เห็นว่าอยู่กับโคคิจังน่ะเห็นว่าคิโยชิเป็ฯคนยกโคคิจังให้เซย์จังเลยนะทำให้เซย์จังมีความสุขมากเลยล่ะ ดูนั่นสิ” เรโอะชี้ไปทางสวนดอกไม้ที่มีร่างบอบบางของเด็กหนุ่มผมน้ำตาลกำลังทำมงกฏดอกไม้โดยมีเด็กหนุ่มผมแดงยืนอยู่ข้างๆ

    “กำแพงสีชมพูอีกแล้วให้ตายเถอะ”  ฮานามิยะบ่น

     

    “เหมือนเกิดใหม่เลยสบายจริงๆ” โคทาโร่ยิ้มหลังอาบน้ำแต่งตัวแล้วโดยมีมิยาจิยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

    “...ไอ้......” มิยาจิตอนนี้จ้องไปทางทาโร่ด้วยสายตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

    “แต่ว่ามิยาจิก็น่ารักดีเหมือนกันน๊า เอาล่ะไปแนะนำตัวกันเถอะ” โคทาโร่บอกก่อนจะจูงมือเด็กชายวิ่งไปแนะนำตัวกับคนในปราสาททีละคนซึ่งดูเหมือนว่ามิยาจิจะถูกชะตากับคิโยชิและฟุริฮาตะมากกว่าคนอื่นๆ

     

    “แล้วใครจะดูแลมิยาจิ” เหล่าราชาทั้ง 5 แยกมาประชุมหลังฝากมิยาจิไว้กับฟุริฮาตะและเทวดาปีกแดงอาคาชิ

    “ชั้นขอๆๆๆ” เรโอะร้องออกมาทำให้รองเท้าสองข้างลอยเข้าใส่หน้าของเรโอะอย่างพร้อมเพรียง

    “จะไม่ให้แกผลิตพวกเดียวกับแกขึ้นมาหรอกไม่มีวัน!!” ฮานามิยะร้องออกมา

    “สังคมนี้อยู่ยากแล้วมีแกอยู่มันยิ่งอยู่ยาก” เนบุยะบบอกพลางตักข้าวหน้าเนื้อกินต่อ

    “งั้นฉันๆๆๆๆ” โคทาโร่ร้องออกมา

    “อืม...ฮายามะก็น่าจะโอเคนะยังไงก็เป็นคนเก็บมาด้วยนี่” คิโยชิบอก

    “ทำไมทีโคทาโร่คุงไม่เห็นว่าอะไรเลยอะ” เรโอะลุกขึ้นหลังจากโดนร้องเท่าสองข้างเข้าที่หน้าจนล้มลงไปเมื่อครู่

    “นั่นสิ อย่างน้อยไอ้บ้าแบบเจ้านี่ก็ยังรับมือง่ายกว่าไอ้บ้าแบบแกแหละ” ฮานามิยะบอก

    “นั่นสิ ยิ่งถ้าซื่อเหมือนฮายามะแล้วก็น่าจะสอนง่ายน่ะนะ” คิโยชิบอกพร้อมยิ้ม

    “.........” ส่วนเนบุยะเงียบพร้อมแวบออกไปโซ้ยข้าวแล้ว

    “....งั้นฉันกลับไปหามิยาจิน้อยก่อนน๊า” โคทาโร่ยิ้มตาหยีก่อนจะเดินตัวลอยออกไป

    “ดูดีใจกว่าที่คิดนะ..หรือว่าจะเป็นเหมือนมาโคะจังกับเทปจังน๊า” เรโอะแซวพร้อมรอยยิ้มแบบมีเลศนัยประมาณว่า “ได้มีเรื่องสนุกๆให้เจ๊ดูอีกแล้ว”

    “ฮะๆ คงไม่หรอกน๊า  ฮานามิยะเราไปปฏิบัติงานเยี่ยมประชาชนกันเถอะ” คิโยชิจัดแจงช้อนร่างของผู้เป็นภรรยาขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปท่ามกลางเสียงโวยวายของฮานามิยะทันที

    “มิยาจิน้อยยยยยย” โคทาโร่พุ่งไปกอดเจ้าตัวเล็กที่กำลังเล่นกับฟุริฮาตะอยู่พอดี

    “ทำอะไรของแกหาไอ้โรคจิตปล่อยผมนะ” มิยาจิดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมกอดของโคทาโร่

    “โหดร้ายจังเลยอ่า เอาเถอะๆ ไปเล่นกันดีกว่า อาคาชิจัดการดูแลภรรยานายต่อได้เลย” พูดจบโคทาโร่หรือฉยาที่ชาวเมืองรู้จักคือหมาป่าสายฟ้าก็พุ่งทะยานออกไปทันที

    “แล้วจะไม่เป็นไรรึไง แกเป็นหนึ่งในราชาไม่ใช่รึไงรับเด็กที่ถูกจองจำในคุกอย่างผมมาดูแลแบบนี้ไม่กลัวจะมีใครมองไม่ดีรึไง” มิยาจิถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

    “ไม่เห็นเป็นไร ฉันก็ไม่สนใจด้วย เพราะฉันคิดว่าปล่อยมิยาจิน้อยไว้คนได้ไม่ได้มันก็เท่านั้นเอง” โคทาโร่ยิ้มตาหยีซ้อนทับกับแสงอาทิตย์ที่ส่องมาพอดี

    “....แกนี่มัน...โง่จริงๆ....” มิยาจิว่าออกมาพร้อมขยับรอยยิ้มจากใจที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้

     

     

    “ไม่เคยจะเรียบร้อยเลยใช่มั้ยเนี่ยแกน่ะ” เสียงคำราม(?)ของมิยาจิดังขึ้น

    นี่ก็ผ่านไป 6 ปีแล้วที่เขาอยู่กับเจ้าหมาสายฟ้านั่น

    “ให้ตายสิไม่ต่างกับเด็กเลยทั้งที่ตัวเองอายุมากกว่าแท้ๆ” มิยาจิบ่นพลางจัดเสื้อผ้าของโคทาโร่ลงตะกร้าให้เรียบร้อยพร้อมทำมื้อเที่ยงให้ไอ้หมาไฮเปอร์ที่พึ่งหลับไปเพราะออกไปปฏิบัติภารกิจแบบโต้รุ่งมา

    “ตื่นมาคงหิวอีกแหงแถมหลับไปแบบนั้นให้ตาย....” มิยาจิบ่นอุบอิบพลางนั่งทำซูชิแตงกว่าของโปรดของอีกฝ่าย

    “จะว่าไปเราก็อยู่กับเจ้าหมาสายฟ้านี่มานานแล้วล่ะนะ...” มิยาจิคิดเขาอยู่กับโคทาโร่มา 6 ปีในช่วงแรกๆทาโร่ดูจะเป็นผู้ปกครองของเขาแต่ทำไมพอมาช่วงหลังๆนี้ถึงสลับบทบาทกันได้ก็ไม่รู้กลายเป็นเขาที่ต้องคอยดูแลโคทาโร่แทบทุกเรื่องแถมเหมือนรู้สึกว่ายิ่งอยู่ไปนานๆเขายิ่งรู้สึกแปลกๆกับโคทาโร่มายิ่งขึ้นไปอีกโดยเฉพาะตอนที่....

    “มิยาจิทำให้ฉันเหรอน่ากินจังเลยน๊า” โคทาโร่เข้ามากอดมิยาจิจากข้างหลังด้วยสภาพที่ไม่ได้สวมเสื้อ

    “มาอีกแล้วไอ้ความรู้สึกที่ใจเต้นบ้าๆเนี่ยโว้ยยยย” มิยาจิจัดแจงยกท้าขึ้นแล้วกระทืบไปยังเท้าของโคทาโร่อย่างแรง

    “โอ้ย...อีกแล้วมิยาจิชอบลงไม้ลงมือกับฉันตลอดเลยแค่กอดเอง” โคทาโร่ทำแก้มป่อง

    “ให้ตายเถอะบอกผมทีว่าไอ้โง่นี่อายุใกล้จะถึง 100 แล้ว” มิยาจิเอามือกุมขมับ

    “อาบน้ำกันมิยาจิ อาบน้ำกันๆ” ยังไม่ทันไรคนตัวโตกอดก็รอดคอเขาพร้อมบอกหูและหางกระดิกไปมาอย่างน่าเอ็นดู

    “ไม่ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว แกไปอาบคนเดียวเลยไป๊” มิยาจิร้องออกมาทำเอาคนตัวโตหูหางตกพร้อมส่งสายตาลูกหมาหิวนมมาให้

    “ไม่ได้จริงๆเหรอ...” โคทาโร่ถามพพร้อมสายตาลูกหมาหิวนม

    “นั่น......ใจมันอ่อนยวบเลยโว้ยยยยยไอ้สายตาแบบนั้น...ไอ้หมาขี้โกงงงงง” มิยาจิร้องโหยหวนในใจก่อนจะถอนใจยาว

    “ยอมอาบน้ำด้วยก็ได้เลิกส่งสายตาปัญญาอ่อนแบบนั้นวะทีโว้ยยย” มิยาจิว้ากใส่โคทาโร่ทันที

    “แปลว่าจะอาบน้ำกับฉันใช่มั้ย เย้รักมิยาจิที่สุดเลย” โคทาโร่กระโดดกอดคนที่กำลังว้ากทันที

    “มาอีกแล้วไอ้อาการแบบนี้....มาอีกแล้วโว้ยยยยยยยย” มิยาจิคิดไอ้อาการใจเต้นแรงหน้าก็พาลจะร้อนขึ้นมาซะแบบนั้นนี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ยยยยยยยย

    “ปล่อยผม  ไปรอก่อนไป๊ ไอ้โง่!!”  มิยาจิคว้าเขียงฟาดใส่หัวของเจ้าคนตัวแต่ตัวทันที

    “โอ้ย....ไปก็ได้แต่ต้องมานะมิยาจิ” โคทาโร่บอกก่อนจะวิ่งออกไป

    “แหมยังกับคู่แต่งงานใหม่เลยนะ คิจัง” เสียงหวานๆเลี่ยนของคุณแม่แห่งปราสาทดังขึ้นมาทำเอามิยาจิสะดุ้ง

    “จะ..เจ๊เรโอะมาตั้งแต่เมื่อไหร่!!” มิยาจิแทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างทันที่ได้เห็นเจ๊คุณแม่สีม่วง(?)ประจำปราสาท

    “ฮิๆ ชั้นน่ะเหรอพอดีมันได้กลิ่นความรักของเธอน่ะสิจ๊ะ คิจัง” เรโอะยิ้มกว้างขึ้นทำเอามิยาจิรู้สึกขนลุกขึ้นมาซะอย่างนั้น

    “คะ.ความรัก..นะ..นี่จะบอกว่าผมชอบไอ้โง่นั่นน่ะเหรอ!!!” มิยาจิร้องถามออกมาหน้าแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    “ใช่แล้วเจ๊ฟันธงเลยว่าเธอกับโคทาโร่คุงน่ะ...ชอบกันชัวร์ๆ” เรโอะยิ้มกว้าง

    “มโนแล้วเจ๊ ผมจะไปชอบไอ้โง่ได้ไง ตีกันจะตายแบบนี้” มิยาจิจัดแจงคว้าไม้นวดแป้งตีหัวเรโอะอย่างเร็วทันที

    “โอ้ย เขินแล้วอย่ามาลงกับเจ๊สิ...ว่าแต่อยากพิสูจน์มั้ยล่ะ...” เรโอะยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “มะ...หมายความว่าไง....ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบ” มิยาจิร้องออกมา
    “เจ๊รู้อาการของมคิโยจังน่ะเรียกว่าอาการเขินอายเวลามีความรัก....เอาแบบนี้มั้ยเจ๊จะใช้คิโยจังทดสอบว่าโคทาโร่คุงเรียกคิโยจังหรือไม่” เรโอะถามยิ้มๆ

    “หา จะทดสอบยังไง” มิยาจิถามด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจ

    “แหวนลบตัวตน นี่เป็นของที่ฉันขอมาจาดกเทวดาสีเทาจิฮิโระจังคนที่ใส่มันจะไม่มีใครรับรู้ถึงตัวตนได้ยังไงล่ะสวมมันเอาไว้แล้วคอยตามโคทาโร่คุงแล้วจะรู้เองแหละ” เรโอะบอกยิ้มๆก่อนจะวางแหวนลงบนมือของมิยาจิแล้วกระโดดออกหน้าต่างไป

    “....ทดสอบสักหน่อยแล้วกัน” มิยาจิสวแหวนลงไปก่อนจะไปยืนมองโคทาโร่

     

    30 นาทีต่อมา

    “มิยาจิไปไหนนะ....หรือว่าไม่อยากจะอาบกับเราจริงๆ” โคทาโร่ขึ้นมาแต่งตัวก่อนจะเดินออกไปวึ่งมิยาจิก้เดินตามไปด้วย

    “มิยาจิ อยู่ไหนนนนนน มิยาจิ” โคทาโร่ร้องเรียกพลางวิ่งพล่านไปทั่วบ้านที่พวกเขาอยู่

    “...ไม่เจอหรือว่าไปหาคิโยชิ” โคทาโร่พึมพำก่อนจะวิ่งออกไป

    “จะวิ่งทำไมนะให้ตาย” มิยาจิบ่นพลางวิ่งตามไปจนถึงคฤหาสน์ของคิโยชิ

    “อ้าวฮายามะมีอะไรเหรอ” คิโยชิที่กำลังอุ้มเด็กชายผมดำตาสีน้ำตาลวัย 5 ขวบอยู่ถามออกมา

    “คิโยชิ มิยาจิมาที่นี่รึเปล่า” โคทาโร่ถามด้วยท่าทางร้อนรนขึ้นมา

    “เอ่อ ไมม่ได้มานะ” คิโยชิบอก
    “คุณอาฮายาม๊า” เด็กชายส่งเสียงร้องเรียกเขา

    “อ่าไง มาซามุเนะคุง...โตขึ้นเยอะเลยนะ” โคทาโร่ยิ้มแต่ใจยังร้อนรน

    “ฮะๆ ก็ลูกฉันกับมาโคโตะนี่นา” คิโยชิบอกพลางกอดรัดฟัดเหวี่ยงลูชายตัวเอง

    “เห่อลูก” มิยาจิคิด

    “งั้นฉันไปหาที่อื่นก่อนนะ” พูดจบฮายามะก็วิ่งไปอีกที่ทันทีวึ่งมิยาจิก็ตามไป

     

    บ้านต้นไม้ของอาคาชิ

    “อ้าวฮายามะซัง มีธุระอะไรเหรอครับ” ฟุริฮาตะถามเมื่อเห็นฮายามะปีนขึ้นมาที่บ้านเขา

    “มิยาจิมาที่นี่มั้ย” โคทาโร่ถามด้วยท่าทีร้อนรนกว่าเก่า

    “เอ่อไม่ได้มานะฮะ มิไรก็บอกว่าอยากเล่นกับมิยาจิคุงอยู่” ฟุริฮาตะบอก

     “งั้นเหรอ..มิไรเขาโตเร็วนะสมเป็นลูกของนายกับอาคาชิจริงๆ” ฮายามะบอก

    “กะ...ก็นะครับ....อะ...เอ่อ....” ฟุริฮาตะหน้าแดงเพราะเหมือนจะไปนึกถึงหน้าของคนรักเข้า

    “งั้นฉันไปหามิยาจิต่อนะ...”  โคทาโร่รีบวิ่งตามหาอีกคนต่อไปทั่วจนเย็นแล้วก็กลับมาที่บ้านด้วยความเหนื่อยล้า

     

     

    “อ้าวโคทาโร่คุงทำไมฝืนใช้พลังแบบนั้นล่ะ” เรโอะเข้ามาถามเมื่อเห็นร่างของโคทาโร่นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา

    “ก็..มิยาจิหายไป....ฉันเป็นห่วงก็เลย...” โคทาโร่บอก

    “ผมก็เหนื่อยไม่ต่างกันหรอกหายไปแค่วันเดียวเองวิตกจริตไปได้เจ้าหมาบ้าเอ้ย” มิยาจิยืนหอบอยู่ไม่ไกลนัก

    “แต่ไม่ควรจะฝืนนะ รึว่านายรักเขา..” เรโอะถามออกมา

    “อะ...เรโอเน่ฉัน.....” โคทาโร่ชะงักไปพร้อมนิ่งไป

    “นายโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกโคทาโร่คุง...ยอมรับ..อะ...โคทาโร่คุง” ทั้งเรโอะทั้งมิยาจิเบิกตากว้างพร้อมกับเพราะสิ่งที่เห็น

    “.....ก็.....เขาไม่ได้รักฉันนี่....เรโอเน่.......ถ้าฉันบอกไปถ้าเขาหายไปจากชีวิตฉันล่ะจะทำยังไง...ถ้าเขา...เกลียดฉันล่ะ....เรโอเน่...” โคทาโร่กล่าวออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา

    “....โคทาโร่คุง ....” เรโอะถึงกับทำอะไรไม่ถูก

    “สำหรับเขาฉันเป็นแค่ผู้เลี้ยงดู...เพราะงั้น....ฉันจะเก็บความรู้สึกของฉันเอาไว้แล้วอยู่ข้างๆเขาตลอด...” พูดยังไม่ทันจบร่างของโคทาโร่ก็ถูกอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นชกจนลอยไปกองบนโซฟาทันที

    “เฮ้ย คิโยจัง!!” เรโอะร้องออกมาก่อนที่แหวนที่อาบด้วยเวทย์ลอยไปกระแทกหัวของโคทาโร่จนเลือดไหลซิบๆ

    “มิยาจิ!!” โคทาโร่อ้าปากค้างเมื่อเห็นร่างของเด็กหนุ่มผมเหลืองที่เขาดูแลมา 6 ปี

    “ไอ้โง่เอ้ยทำไมไม่ยอมบอกวะ”  มิยาจิตวาดด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋ซึ่งเรโอะสงสัยว่าโกรธหรือเขินกันแน่

    “อะ...เอ๋...” โคทาโร่เบิกตากว้างขึ้นด้วยความสงสัยก่อนริมฝีปากของเขาจะถูกอีกคนปิดด้วยปาก

    “คิกๆ    สุดท้ายก้โกหกไม่ได้แล้วงั้นเจ๊ไปนะ” เรโอะเดินเฉิดฉายออกไปอย่างอารมณ์ดี

    “มะ..มิยาจิ” ใบหน้าของโคทาโร่แดงแจ๋คนตัวโตเริ่มทำอะไรไม่ถูกด้วยความเขินอาย

    “เงียบน่าผมเขิน!! ห้ามพูดอะไรเงียบไปไอ้โง่” มิยาจิว้ากอีกครั้งก่อนจะซุกหน้าลงกับหน้าอกของเขา

    “.....ตะ..แต่ว่า” โคทาโร่ทำท่าจะท้วงแต่ว่าก็ถูกมือของคนที่ซุกเขาอยุ่ทุบจนจุก

    “บอกให้เงียบไงไอ้บ้า!!” มิยาจิร้องออกมา

    “สรุปว่าลงเลยได้ด้วยดีแล้วสินะ โคทาโร่” เสียงอขงอาคาชิดังขั้นพร้อมกับขนนกสีแดงที่โปรยปรายลงมา

    “ก็ดีแล้วล่ะ...” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆโซฟาพร้อมกับเทวดาผู้มีปีกสีเทามายุสุมิ จิฮิโระ

    “พะ..พวกนายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” มิยาจิผละออกจากโคทาโร่พลางชี้นิ้วถามทั้งสองคน

    “มาเอาของ..” สิ้นคำเทวดาสีเทาก็จางลงแล้วหายไปทันทีที่พูดจบ

    “ส่วนผมมาทำพิธีการสาบานรัก...ผมคิดว่าคุณมิยาจิคงไม่อยากใส่ชุดเจ้าสาวไปยืนในโบสถ์เหมือนฮานามิยะใช่มั้ยล่ะครับ” อาคาชิบอกเรียบๆ

    “แหงล่ะ ใครอยากจะแต่งชุดฟูฟ่องแบบนั้นกัน” มิยาจิร้องออกมาก่อนจะโดนโคทาโร่ดึงไปกอดอีกครั้ง

    “แต่ว่าฉันอยากเห็นมิยาจิในชุดเจ้าสาวนี่นา” พูดจบคนตัวโตก็ส่งสายตาลูกหมาหิวนมไปเล่นงานมิยาจิอีกครั้ง

    “.....กรอด.....เดี๋ยวแต่งให้แกดูทีหลังไอ้โง่โอเคมั้ย.......รีบๆเริ่มพิธีได้แล้วอาคาชิ!!” มิยาจิร้องออกมา

    “....ฮายามะ โคทาโร่เจ้าสาบานที่จะรักมิยาจิ คิโยชิ ตราบจนสิ้นชีวิตโดยไม่อาจมีรักอื่นใดได้อีกหรือไม่” อาคาชิถามพร้อมหนังสือสีแดงปรากฏขึ้นในมือของเทวทูตปีกแดง

    “ข้าขอสาบานด้วยกาย วิญญาณ แล้วหัวใจของข้า....ว่าจะรักเขาตลอดไปหากวันใดข้าหมดรักเขาขอให้กายและวิญญาณของข้าต้องแหลกสลายไปตลอดกาล” โคทาโร่กล่าวออกกมา

    “แล้วเจ้าล่ะมิยาจิ คิโยชิ เจ้าจะรักเขาตราบจนสิ้นชีวิตและยินยอมในเรื่องที่เจ้าไม่อาจมีรักอื่นได้อีกตลอดจนสิ้นอายุขัย” อาคาชิหันไปหามิยาจิซึ่งริมฝีปากของคนที่ถูกมองขยับเป็นรอยยิ้มพร้อมกล่าวออกมาว่า

     

    “ข้าเต็มใจที่จะรักเขาตราบจนสิ้นชีวิตและยินยอมอย่างยิ่ง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×