คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ เรื่องราวที่เล่าขาน
“นานมาแล้วมีความเชื่อว่า ราชาฮาเดสผู้ปกครองยมโลกมีบุตรหกพระองค์ ครองตำแหน่งเจ้าชายแห่งนรกตามตำนานได้บันทึกเกี่ยวกับเจ้าชายแห่งนรกไว้ดังนี้
องค์แรก องค์ชายใหญ่ ทรงมีพระนามว่า เลเธ ในภาษากรีกแปลว่าหลงลืม ตามตำนานได้บอกลักษณะของพระองค์ไว้ว่า เป็นชายหนุ่มผมสีขาวโผลน ดวงตาสีเขียวมรกดมีปีกเป็นโครงกระดูกสีขาวสลับแดงเป็นผู้มอบ ความหลงลืมให้มนุษย์
องค์ที่สอง ทรงมีพระนามว่า เฟียร์ ปรากฏตัวในร่างของชายหนุ่มผมสีฟ้า ดวงตาสีเขียวเช่นเดียวกับผู้เป็นพี่เป็นผู้มอบ ความกลัวให้มนุษย์
องค์ที่สาม ทรงมีพระนามว่า อโลน ปรากฏตัวในร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำเงินสลับดำดวงตาสีน้ำเงินเป็นผู้มอบ
ความโดดเดี่ยวให้มนุษย์
องค์ที่สี่ ทรงมีพระนามว่า ซอโรว์ ปรากฏตัวในร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลดวงตาสีนิลเป็นผู้มอบความโศกเศร้าให้มนุษย์
องค์ที่ห้า ทรงมีพระนามว่า เฮท ปรากฏตัวในร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดง ดวงตาสีแดงเป็นผู้มอบความเกลียดชังแก่มนุษย์
องค์ที่หก ทรงมีพระนามว่า สลีป ปรากฏตัวในร่างของเด็กชายผมสีน้ำเงินจนเกือบม่วงดวงตาสีม่วงอ่อนเป็นผู้มอบความง่วงให้กับมนุษย์
ในตำนานนั้นได้มีคำทำนายไว้ว่าเมื่อถึงวันที่พระอาทิตย์กับพระจันทร์ซ้อนทับกันครบหกร้อยหกสิบหกครั้งเจ้าชายแห่งนรกจะมาที่โลกมนุษย์อีกครั้งพร้อมกับความวุ่นวายครั้งใหม่ และตอนนี้ผมขอจบการนำเสนอรายงานในหัวข้อตำนานปรัมปราในอดีต ขอขอบคุณทุกท่านที่รับฟังครับ”
แปะๆๆๆ
“เยี่ยมยอด เธอทำได้ดีมากอรุณ เธอเอาคะแนนเต็มไปเลย เอาล่ะไปนั่งที่ได้แล้ว” เสียงของอาจารย์กล่าวต่อเด็กหนุ่มอายุประมาณ 14 ปี
“ขอบคุณครับ จารย์” เด็กหนุ่มรับคำชมยิ้มๆแล้วไปนั่งที่
“นายสุดยอดเลยนะอรุณ” เพื่อนของเขากอดคอเขาแล้วยิ้มซึ่งอรุณก็ยิ้มออกมา
“แหม เราก็แค่ไปหาจากทางอินเตอร์เน็ตแค่นั้นเอง” อรุณเกาหัวแก้เขิน
“นายนี่น้าถ่อมตัวเกินไปมั้ง นายน่ะเก่งจะตาย” คำชมนั่นทำเอาเด็กหนุ่มยิ้มออกมา
“ก็สมเป็นตระกูล ทิวากาลล่ะนะ” เสียงของเด็กหนุ่มท่าทางเย็นชาพูดทำเอาอรุณหุบยิ้มทันที
ตระกูลทิวากาล เป็นตระกูลของนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มีเงินมากมายมหาศาล พ่อแม่ของเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่มันก็เป็นสาเหตุทำให้เขาแทบไม่มีเพื่อนเลยแถมพ่อแม่ยังเดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่นไม่เคยได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย เขาผิดเหรอที่เป็นคนของตระกูลทิวากาล ตระกูลทิวากาลก็คนนะ เหงาเป็นนะ โกรธเป็นนะ แต่ทำไมทุกคนทำเหมือนเขาไม่ใช่คนเป็นแค่ตัวประหลาด ทำไม
“อรุณ....อรุณ...” เพื่อนของเขาส่งเสียงเรียก
“อ๊ะ.....ขอโทษนะวายุ” อรุณหยุดความคิดของตนไว้แล้วหันมาคุยกับวายุซึ่งเด็กหนุ่มผมสีดำเกือบดำก็มองเพื่อนของตนอย่างไม่เข้าใจ
“นายคิดเรื่องตระกูลของนายอีกแล้วใช่มั้ย ชั้นบอกนายแล้วว่าอย่าคิดมาก ไม่ว่านายจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือนายเป็นเพื่อนของผมแค่นั้นก็พอแล้วนี่” วายุบอกยิ้มๆซึ่งอรุณก็ยิ้มตอบชั่งมันเถอะ อย่างน้อยก็ยังมีไอ้หมอนี่แหละนะที่ยอมรับเรา
“ขอบคุณนะ วายุ” เขายิ้มออกก่อนที่ทั้งสองจะเรียนต่อไป
“ชั้นกลับก่อนนะ อรุณโชคดีนะ” วายุบอกเขาตอนเลิกเรียนแล้ววิ่งออกไป
“เฮ้อ.....” อรุณถอนหายใจก่อนจะเดินกลับบ้าน
บ้านของเขาอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครเป็นบ้านหลังเล็กสำหรับอยู่คนเดียว ใช่เขาอยู่คนเดียวเขาต้องการแยกออกจากตระกูลทิวากาลแต่พ่อแม่เขาก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือนซึ่งเขาก็รับไว้ทุกครั้งเพราะไม่ต้องการให้เสียน้ำใจ
“เฮ้อ......” เขาถอนหายใจและก็นึกถึงคำพูดที่วายุเคยพูดกับเขา
“นายน่ะอยู่บ้านคนเดียวก็ลองหาคนรู้ใจสักคนสิ เพราะชั้นไปหานายไม่ได้ทุกวันหรอกนะ”
“คนรู้ใจ คนรัก เฮ้อ คนอย่างชั้นเนี่ยนะ แต่ว่ามันก็น่าเบื่อจริงๆแหะ” อรุณคิดอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมคิดต่ออีกว่า
“ถ้ามีเรื่องน่าสนุกเกิดขึ้นบ้างก็ดีสิ” พริบตานั้นเกิดแสงสว่างขนาดดวงอาทิตย์พันดวงเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับมีอะไรบางอย่างพุ่งมาชนเขาจนตกเก้าอี้แล้วภาพทุกอย่างที่ก็ดับวูบไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วเขาก็ได้สติอีกครั้งหนึ่ง
“นะ..นี่เรา” เขาลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบตัวซึ่งห้องเขาก็ปกติทุกอย่างแต่ที่มันไม่ปกติก็คือเสียงเปิดน้ำในอ่าล้างหน้าในห้องน้ำ
“เฮ้ย มันดังได้ไงฟะ” เขาคิดอย่างกลัวๆพร้อมกับคำตอบเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
“ขออภัยที่ข้าโผล่มาชนเจ้าจนสลบไปนะ” เสียงเรียบเฉยดังขึ้นแต่เขานี่แทบจะเป็นลมตรงนั้นเลยเพราะคนที่เดินออกมานั้นเป็นชายหนุ่มผมสีขาวโผลน ดวงตาสีมรกตที่ดูเฉยชาไร้ความรู้สึกแถมยังมีปีกโครงกระดูกอีกลักษณะตรงตามตำนานที่เขาพึ่งนำเสนออาจารย์ไปตอนกลางวันเปะๆ
“จะ..เจ้าชายแห่งนรก เลเธ....” อรุณพูดพร้อมเอานิ้วชี้ไปทางชายหนุ่ม
“หืม....มีมนุษย์รู้เรื่องของข้าด้วยเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มท่าทางทึ่งๆกับสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดออกมาเมื่อกี้
“ตะ...ตัวจริงเหรอเนี่ย” อรุณแทบช็อคเมื่อเจอเรื่องเหลือเชื่อตรงหน้า
“ก็ข้าน่ะสิ ว่าแต่มีเจ้าเป็นคนแรกนะ..เนี่ยที่ไม่หาว่าข้าบ้า หรือไม่ก็หวาดกลัวจนหมดสติไปน่ะ” เลเธบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“เอ่อ จริงสิ เจ้าจะว่าอะไรมั้ยถ้าข้าจะขอใช้ที่นี่เป็นที่อยู่ชั่วคราวน่ะ” เลเธถาม
“จะ..เจ้าชายแห่งนรกในตำนานจะมาขอพักอยู่บ้านเรางั้นเหรอเรากำลังฝันอยู่รึเปล่าเนี่ย” อรุณคิดแล้วตบหน้าตัวเองแล้วความรู้สึกเจ็บก็แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าซีกซ้ายที่เขาตบ
“มะ..ไม่ได้ฝัน....” เขาพึมพำออกมาซึ่งเลเธได้ยินก็คิดอย่างขบขันว่า
“นายควรจะตบหน้าตั้งแต่เห็นข้าแล้วนะ”
“เอาล่ะ ข้าขอคำตอบด้วย” เลเธบอกซึ่งเรียกสติของอรุณกลับมาจากอาการตะลึง
“ก็ได้ครับ แต่ว่าบ้านผมมันบ้านสำหรับอยู่คนเดียวนะครับ” อรุณเริ่มแผนเอาความชิบหายออกจากตัว
แต่ว่าเลเธพยักหน้าอย่างพอใจในคำตอบ“ไม่มีปัญหางั้นก็....” ชายหนุ่มหยิบลูกแก้วสีขาวขุ่นๆออกมาแล้วพึมพำภาษาบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจซึ่งสักพักก็เกิดแสงสว่างเท่ากับดวงอาทิตย์นับพันดวงทำเอาเขาต้องรีบหลับตาแทบไม่ทันพอเขาลืมตาขึ้นมาอีกทีเลเธก็ยังยืนอยู่เพียงแต่ลูกแก้วในมือหายไปเท่านั้น
“เอาล่ะ เรียบร้อยแล้วล่ะ ข้ากลับห้องก่อนนะ” เลเธบอกซึ่งอรุณก็เลิกคิ้วอย่างสงสัย
“เอ๋ บ้านเรามีห้องเพิ่มด้วยเหรอ” อรุณคิดก่อนจะเดินตามออกมาก็อ้าปากค้างเพราบ้านสองชั้นที่เขาอยู่คนเดียวถูกขยายออกเป็นบ้านสำหรับอยู่ด้วยกันสองคนพื้นทีถูกขยายกวางขึ้นแถมยังเพิ่มห้องครัวเพิ่มขึ้นมาอีก
“นี่เป็นเวทของข้าเองน่ะ พอดีมันไม่ค่อยได้ใช้เลยลองใช้ดูได้ผลด้วยแหะ” เลเธบอก
“ท่านเลเธ ทำอะไรก็ปรึกษาผมก่อนสิครับ” อรุณแหวใส่
“อย่าเรียกข้าแบบนั้น มีให้เลือก สองอย่าง คือ เลเธ กับพี่เลเธ อายุของข้าถ้าเทียบกับอายุมนุษย์คือ 20 ปีเข้าใจมั้ย” เลเธหันมาบอกเขาซึ่งเขาก็พยักหน้า
“คะ..ครับ.......พี่เลเธ” เขาลองเรียกอย่างไม่ชินนักเพราะเขาเป็นลูกคนเดียวเลยไม่ชินกับเรื่องแบบนี่
“อื้ม ดีมากเอาล่ะ อยากกินอะไรมั้ยข้าจะทำให้ทาน” เลเธถาม
“เอ๋ พะ..พี่เลเธทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับ” อรุณถามเพราะเขาคิดว่าเลเธเป็นเหมือนพวกเจ้าชายเป็นพวกดีแต่สั่งทำอะไรไม่เป็นซะอีก
“อืม ปกติเจ้าออกไปกินอาหารข้างนอกเหรอ” เลเธคว้าผ้ากันเปื้อนลายหมีน้อยมาสวมซึ่งไม่ได้เข้ากับใบหน้านิ่งๆของเขาเลยแม้แต่น้อย
“อืม ก็ผมอยู่คนเดียวนี่” อรุณตอบเสียงเบาๆซึ่งเลเธสัมผัสความโดดเดี่ยวจากน้ำเสียงนั้นได้ทันทีร่างสูงจึงเดินเข้าไปแล้วลูบหัวอรุณเบาๆ
“พี่เลเธทำอะไรน่ะ” อรุณหน้าร้อนวูบอย่างไม่เข้าใจตนเองแล้วถอยออกมา
“เข้าใจมั้ยว่าที่ข้าให้เจ้าเรียกว่าพี่เพราะอะไรน่ะ ก็เพราะว่าตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ ข้าคือพี่ของเจ้าแล้วเจ้าก็คือน้องชายคนหนึ่งของข้า ว่าแต่เจ้าชื่ออะไร” เลธถาม
“ผมชื่อ อรุณ...อรุณ ทิวากาล” เขาตอบออกมาพร้อมหลบตาร่างสูง
“อรุณเหรอ เป็นชื่อที่ดี พ่อของเจ้าคงตั้งเพราะดวงตาสีอำพันของเจ้าที่งดงามเหมือนแสงจากรุ่งอรุณสินะ” เลเธบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่กระแสเสียงแฝงไว้ด้วยความชื่นชม
“เอ๋ พี่เลเธไม่รู้จักตระกูลทิวากาลเหรอครับ” อรุณถาม
“ข้าจะไปรู้ได้ไงพึ่งมาโลกมนุษย์วันแรกเนี่ย เอาล่ะ อรุณนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวเลย ข้าจะทำอาหารให้” เลเธบอกแล้วเดินที่ห้องครัว
“ทำไมกันนะ ใจของเราถึง...ชั่งเถอะคงเพราะไม่ชินกับการอยู่กับคนอื่นมั้ง” อรุณคิดถึงอาการที่ตนหน้าร้อนวูบเมื่อตอนนั้นก่อนจะให้เหตุผลตัวเองไปโดยที่เขาหารู้ไม่ว่า ตั้งแต่เขารับเจ้าชายแห่งนรกมาอยู่ที่บ้านความสงบสุขก็ได้จากเขาไปแล้ว
ความคิดเห็น