คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : BONDAGE 01 - Lost & Found
มืดสนิท...
เหมือนอยู่ในห้องที่ถูกปิดตาย ไม่มีแม้แต่แสงจันทร์สอดส่องเข้ามา
มืดจนผมไม่อาจมองเห็นมือของตัวเองที่กำลังโบกไปมาอยู่ตรงหน้า
...ทำไมผมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
“ครืดดด...ครืดดด...”
เสียงลมหายใจ
ลมหายใจของสัตว์ใหญ่ที่ตอนนี้อยู่ตรงหน้าผม ห่างออกไปไม่ไกลนัก
เป็นเสียงลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอ
เจ้าตัวอะไรสักอย่างนั่นคงกำลังหลับอยู่เป็นแน่แท้
“ครืดดดดดด!!” เสียงนั่นดังมาอีกระลอก ฟืดฟาดๆราวกับมันรู้สึกตัว...
รู้สึกตัวว่าผมมายืนอยู่ตรงหน้ามันแล้ว
ดวงตาสีแดงเบิกกว้าง ส่องประกายแสงออกมาสว่างจนพอมองเห็นทุกสิ่งในบริเวณนั้นได้ลางๆ
‘มังกร’ น่าจะเป็นคำพรรณนาที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของเสียงลมหายใจเมื่อครู่
มังกรตามความเชื่อของโลกตะวันตก ตัวสีดำสนิท และดวงตาเรืองแสงสีแดงสว่าง
ตัวของมันเริ่มขยับ ขนาดที่ใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปทำให้มันดูน่ากลัวสำหรับผม
“อย่ากลัวไปเลย”
เสียงของบุรุษที่ไม่มีที่มาดังก้องในหัวผม
ที่แห่งนี้มีเพียงผม กับมังกรตัวสีดำนั่น คงไม่พ้นมันที่กำลังพูดอยู่กับผม
ร่างของมันขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ
“นายเป็นใคร” ผมตัดสินใจถามออกไป แม้ว่าในใจจะยังคงกล้าๆกลัวๆอยู่ก็ตาม
“เราคือนาย นายคือเรา”
อ่อ...
ฮะ มันพูดว่าอะไรนะ!?
ติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ดติ๊ด!!!
“เฮ้ยยยยยย!!!”
พลั่กก!!
ไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ เสียงผมสะดุ้งตื่นจนตกเตียงลงมากระแทกพื้นเองแหละ
“โอยยย...” ฮึกๆ ทำไมต้องฝันประหลาดแบบนี้อยู่เรื่อยเลยวะ
“เฮ้ย ไอ้ไนท์ มึงเบาๆหน่อยดิวะ ยังเช้าอยู่เลย วันนี้กูไม่มีเรียนนะว้อย”
อ่า... เสียงก่นด่าที่แสนคุ้นเคย ดังมาจากเตียงอีกด้าน มันคือเสียงของไอ้โช รูมเมตผมเอง
“เออ ขอโทษๆ เดี๋ยวเย็นกูกลับมาเลี้ยงข้าว” ผมบอกมันก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ไม่งั้นผมอาจไปเรียนสายได้
ผมชื่อไนท์ครับ เฟรชชี่ปีหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพครับ
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาพักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้พร้อมกับไอ้โช
เราสองคนไม่รู้จักกันมาก่อนหรอกครับ ที่มาเจอกันได้ก็เพราะประกาศหารูมเมตในอินเทอร์เน็ตนี่ล่ะ
ตอนแรกก็นึกว่าจะเข้ากันไม่ได้ครับ เพราะตัวผมเรียนคณะสายศิลป์ ส่วนไอ้โชมันเรียนสายวิทย์
แต่หลังจากที่อยู่กับมันไปได้สองเดือน ผมก็พบว่า มันมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้เราสองคนเข้ากันได้อย่างประหลาด
แม้จะอยู่คนละคณะ แต่เรากลับสนิทกัน ยิ่งกว่าเพื่อนสนิทที่คณะเสียอีก
อาจเป็นเพราะเราอยู่ร่วมหอลงโลง ... ไม่ใช่ละ อาจเป็นเพราะความที่อยู่ใกล้ชิดละมั้ง
..ร้อยละแปดสิบของผู้อ่านขณะนี้กำลังจะทำการจิ้นวายใช่มั้ยครับ
หยุด!!
ถ้าชีวิตนี้ผมต้องมีแฟนเป็นผู้ชาย ไอ้ตัวขี้เกียจนี่จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายของผม!!
“กูไปก่อนนะ เย็นเจอกันที่ร้านเดิม” ผมบอกก่อนที่จะปิดประตูออกจากห้องไป
ถึงแม้จะนอนกลมอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่เชื่อสิ ว่ามันได้ยินผมพูดแน่ สำหรับไอ้โชแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่ครับ หึหึ
อพาร์ตเมนต์ที่ผมกับโชอยู่นั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ ถ้านั่งรถเมล์ ก็คงประมาณสามสี่ป้ายก็ถึง
เพื่อนๆที่คณะผมนิยมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แต่เอาตามตรงนะ ผมมันบ้านนอกเกินไปมั้ง เลยไม่ชินกับ
การที่ต้องไปเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องตอนเช้าๆแบบนั้นทุกวัน ผมจึงเลือกเดินทางด้วยรถเมล์เป็นประจำครับ
จะยกเว้นก็ช่วงที่มีสอบเช้า หรือตื่นสาย อันนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที
ผมรอรถเมล์เพียงครู่เดียว รถสายที่ผมนั่งประจำก็เข้ามาจอดที่ป้าย แม้ว่าคนจะเยอะ แต่ที่ในรถก็กว้างและอากาศถ่ายเทมากกว่ารถไฟฟ้า ที่บางทีเหมือนแอร์เสียซะงั้น และคนที่ขึ้น ส่วนใหญ่ก็เด็กมหาลัยเดียวกับผมทั้งนั้น
หลังจากยืนอยู่บนรถเมล์ไปได้ไม่กี่นาที รถก็มาจอดที่ป้ายแถวมหาลัยแล้วครับ โชคดีจริงๆที่วันนี้รถไม่ติดมาก
ทันทีที่รถจอด เหล่านักศึกษามหาลัยก็กรูลงจากรถ ทำเอารถโล่งไปเลย
ผมเดินเท้าต่อจากป้ายรถเมล์เข้าไปในรั้วมหาลัย ตรงไปยังตึกคณะ พลางเหลือบมองดูเวลา
อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มคลาสแล้ว แต่เวลาเท่านี้ก็เพียงพอที่จะให้ผมเดินไปเข้าเรียนทันพอดี
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ผมก็มาถึงห้องเรียนคลาสเช้า ซึ่งเป็นคลาสเรียนรวมของคณะ
เปิดประตูเข้าไปก็พบกับเพื่อนร่วมคณะนับร้อยนั่งรอกันอยู่ก่อนแล้ว
“อ้าว ไอ้ไนท์ ทำไมวันนี้มาเช้าจังวะ” อ่า...คำทักทายแรกจากไอ้เพื่อนตัวดี
“แล้วลมอะไรหอบมึงมาเรียนวะครับ คุณสนเพื่อนรัก หายหัวไปทั้งอาทิตย์เลยนะครับ” ผมกวนตรีนมันกลับ
แค่เห็นหน้ามันตอนเช้าก็คันตรีนตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับ
เพราะหน้ามันกวนตรีนผมมากๆ ผมเซ็ตตั้ง แถมยังเจาะหูอีกข้างละสามรูอีกต่างหาก
คนอื่นบอกว่าไอ้สนมันหล่อโหด แต่ผมว่ายังไงมันก็ไม่หล่ออ่ะ โหดก็ไม่โหด หน้าตากวนตรีนมากกว่า
หลังจากพูดจาภาษาหมาใส่มันไป ไอ้สนมันก็ดึงคอผมมาล็อคไว้ด้วยแขนขวา ก่อนที่จะเอามืออีกข้างมาจี้เอวผม
“โอ้ยยๆๆ ฮ่าๆๆ พอแล้วๆ ยอมแล้ว ฮ่าๆๆ” ผมร้องเสียงหลง บอกให้มันพอ ไม่งั้นคงได้ขาดใจตายก่อนเรียนแน่
“ไนท์ เย็นนี้มึงไปไหนป่าววะ” เสียงเพื่อนอีกคนของผมถามขึ้น ไอ้เน้ช เอ่อ... อ่านว่า เน้ด ครับ
เน้ชมันหน้าตี๋เรียบๆ แต่ก็สเป็คสาวหลายคนในคณะอ่ะครับ เพราะมันรูปหล่อพ่อรวยขนาดนั้น
บางวันก็มีรถหรูๆ ขับมาส่งถึงหน้าคณะ บางวันก็นั่งแท็กซี่มาเรียน แถมรถที่ขับมาส่งก็แทบไม่ซ้ำกับวันก่อนนั้น
“กูไปกินข้าวกะไอ้โชว่ะ ไปทำมันตื่นตอนเช้าอีกแล้ว” ถ้าเป็นเพื่อนสนิทแบบไอ้พวกนี้ มันจะรู้จักกับไอ้โชครับ
เพราะเคยเจอกันบ่อย ทั้งที่โรงอาหารรวม ที่ร้านอาหารนอกรั้วมหาลัยที่ผมชอบไปนั่งกิน แล้วก็ที่วงเหล้าที่ห้องผม
เอ่อ...อันนี้คงไม่ต้องสาธยายอะไรมากนะฮะ
“พวกมึงไปกินด้วยกันมั้ย”
“เออ ดีๆ กูว่าจะชวนมึงไปกินด้วยอยู่ นนท์มันอยากกินส้มตำทอดเลยมาแง้วๆกะกูอยู่เนี่ย กะว่าจะพามันไปกินให้หายอยากซะ ^^” ไอ้นนท์คือแฝดน้องของไอ้เน้ชครับ เรียนอยู่อีกคณะ หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ แต่นิสัยไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ เวลาอยู่ด้วยกันต้องดูนิสัยกับท่าทางถึงจะรู้ว่าใครเป็นใคร เน้ชมันจะขรึมๆ ไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ จะมียิ้มก็เฉพาะตอนพูดถึงน้องมันนี่ล่ะครับ เพราะมันหวงน้องมันมากกกกกกกก
เอาไว้ได้เจอกับนนท์แล้วจะแยกออกเองล่ะครับ ว่าใครเน้ช ใครนนท์
พอตกลงกันได้อาจารย์ก็เข้ามาพอดีครับ วงสนทนาของผมจึงสงบลง เพราะอาจารย์วิชานี้ค่อนข้างขี้บ่น
คลาสเริ่มขึ้นแล้ว แต่พวกผมนั่งฟังเสียงโมโนโทนของแกไม่รู้เรื่อง
จนท้ายที่สุด ก็ค่อยๆนอนตายตกตามกันไปทีละคนสองคน...ไม่เว้นแม้แต่ผม...
“ฮ๊าววววว...” เสียงไอ้สนมันหาวหลังจากที่เลิกเรียนแล้วครับ
“เน้ช กูว่าไปหาไรกระแทกปากแถวคณะไอ่นนท์มันดีกว่า”
“หะ มึงจะไปกินทำไมถึงนู่น มันมีอะไรอร่อยวะ” เน้ชถามพร้อมกับทำหน้าตี๋ตาขีดใส่ด้วยความฉงน = =
“กูจะไปส่องสาวคณะนั้น” ตึงงง O_o!!
“เออ ไปก็ไป เผื่อเจอนนท์จะได้ไปอยู่กะมันเลย บ่ายนี้กูว่าง” เน้ชมันเห็นดีเห็นชอบที่จะไปด้วย
แต่ผมดันมีเรียนวิชาเลือกตอนบ่ายนี่สิ เลยต้องขอมันแยกไปกินข้าวเที่ยงอีกที่นึง
“เออ แล้วเจอกันตอนเย็น”
“มึงไปกินแถววิดวะก็อย่าไปโดนใครงาบไปกินนะว้อยไอ้ไนท์ เด๋วหาว่ากูไม่เตือน ฮ่าๆๆๆ” มันหลุดออกมาจากปากของไอ้สนอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย
“แสดดดด มึงจะแดกตรีนกูแทนข้าวเที่ยงมั้ยครับคุณสน!!” ว่าแล้วผมก็ไล่เตะตูดมันอยูครู่นึง ก่อนที่จะหยุดไล่
เพราะเหนื่อย และต่อให้ไล่ทันยังไงผมก็เตะมันไม่ถึงอยู่ดี พอดีเกิดมาขาสั้นไปนิดนึง แถมไอ้สนมันตัวสูงมากเกินไป ผิดที่มันเองนะครับที่มันสูงจนผมเตะไม่ถึงเนี่ย T^T
“ไปละ” ผมหน้ามุ่ยใส่ไอ้สน ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปคณะข้างๆ ซึ่งเป็นสถานที่เรียนวิชาเลือกที่ผมเรียนตอนบ่าย
ระหว่างทางที่จะไปโรงอาหารนั้น ความจริงผมต้องเดินผ่านโค้งตรงหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งมันไกลมากกกกกกกกกกกก ผมเลยตัดสินใจเดินลัดตรงถนนสายรองที่ไม่ค่อยมีใครเดิน ผมเดินไปเรียนวิชานี้ด้วยเส้นทางนี้แทบทุกครั้งที่มีเรียนจนชินแล้วล่ะครับ
แต่ดูท่าวันนี้จะมีอะไรบางอย่างผิดแปลกไปจากเดิม
รถตู้สีดำติดฟิล์มมืดสนิท จอดอยู่บนถนนเส้นเล็กๆเส้นนี้ อันที่จริงคือที่จอดรถมันอยู่อีกที่ต่างหาก
คงจะเป็นคนนอกล่ะมั้งครับ ถึงไม่รู้ว่าเขาห้ามจอดบนถนนแบบนี้
‘แกร๊ก!’ เสียงประตูรถดังขึ้น ผมกับผู้ชายในชุดดำใส่แว่นดำสามสี่คนเดินลงมาจากรถ
มันจะไม่แปลกเลยครับ ถ้าพวกเค้าไม่มายืนเรียงเป็นหน้ากระดานขวางทางผมแบบนี้!
“เอ่อ...มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ??” ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วล่ะครับ ใครจะไปคิดล่ะว่าในรั้วมหาลัยมันจะมีอะไรแบบนี้ด้วย
“พวกผมไม่มีธุระอะไรกับคุณหรอกครับ” ชายชุดดำ 1 เอ่ยคำพูดออกมา
“แต่” ชายชุดดำ 2 แย้งขึ้น
“เจ้านายของพวกเรา” ชายชุดดำ 3 เสริมต่อ
“มีธุระกับคุณ!!” ประโยคเพียงไม่กี่ประโยคถูกจบลงด้วยชายชุดดำ 4
โอ้ยยยย มันจะแบ่งกันพูดทีละท่อนทำไมฟระ!! ผมมึน!!
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว พวกมันสี่คนก็มาล้อมผมไว้หมดแล้ว ผมเห็นท่าไม่ดีจึงเตรียมจะวิ่งหนี
แต่มันคนหนึ่งก็คว้าแขนผมไว้ได้ทัน
ผมรีบสะบัดแขนหวังจะให้หลุดแล้วรีบวิ่งออกไป
แต่มือมันกำแขนผมแน่นมาก สะบัดยังไงก็ไม่หลุด จนทีสุด มันก็มาล็อคตัวผมไว้ได้อย่างสมบูรณ์
“เฮ้ย จะทำไรวะ ปล่อยนะว้อยยยย!!” ผมตะโกนสุดเสียง หวังจะให้ใครสักคนที่ผ่านมาใกล้ๆได้ยิน
แต่อย่างที่ผมบอกไปตอนแรก ถนนเส้นนี้มันร้าง!!
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะว้อย ปล่อย กุบอกให้ปล่อยยย!!” ผมดิ้นสุดแรงเกิด แต่ไม่ยักกะกระทบกระเทือนอะไรมันสี่คนเลย ที่แน่ๆคือพวกมันแรงเยอะมาก อย่างกับไม่ใช่คน
“เจ็บนิดเดียวนะครับคุณ ทุกอย่างจะได้สะดวกยิ่งขึ้น” ไม่ทันที่ผมจะถามว่ามันจะทำอะไร
หมัดหนักๆ ที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนก็กระแทกเข้ากับหน้าท้องของผม
มันทั้งเจ็บทั้งจุกจนสติผมเริ่มพร่าเลือน
“อั่ก! โอย...” ผมพยายามฝืนสติตัวเองไว้ แต่ก็ไม่ไหวแล้ว...
ช่วยด้วย...ใครก็ได้ ช่วยผมที...
//Cho
!!!
“เอ้ย เป็นไรวะไอ้โช จู่ๆก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมา” เสียงเพื่อนในกลุ่มถามผมด้วยความตกใจ
“เปล่า...” ผมตอบสั้นๆ ...ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกเมื่อครู่คืออะไร
รู้สึกเหมือนเสียงใครสักคนกำลังร้องหาผมอยู่....
“หรือว่า...” ผมลุกพรวดออกจากโต๊ะยาวของโรงอาหาร โดยไม่สนใจเพื่อนรอบตัว
ขาทั้งสองก้าวไปข้างหน้า... เปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง
วิ่งไปข้างหน้า ไปตามความรู้สึกที่มันกำลังร้องหาผม
ในที่สุด ร่างผมก็มาหยุดอยู่แถวๆถนนเส้นเล็กหลังคณะ ที่เชื่อมต่อไปที่คณะรัฐศาสตร์
สายตาผมหยุดกึกกับภาพตรงหน้า
ภาพของคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม...
กำลังถูกคนแปลกหน้าหามตัวขึ้นรถตู้สีดำไปในสภาพหมดสติ...
“เฮ้ย!!” ผมแผดเสียงลั่น รีบวิ่งไปหมายจะช่วยเหลือไอ้ไนท์ที่กำลังจะโดนอุ้มตัวไป
แต่ทันทีที่ประตูรถตู้ปิดลง รถคันดังกล่าวก็หายไปต่อหน้าต่อตาผมทันที
“นี่มัน...” ผมยืนตะลึงอยู่กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปตรงหน้า
“..เวทมนตร์เคลื่อนย้าย”
“โธ่เว้ยย!” ผมสบถอย่างหัวเสีย ที่ไม่สามารถช่วยไนท์ไว้ได้ทัน
มันเป็นความผิดของผมเองล่ะ..
ผิดที่ผมอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรเพื่อมัน
เพื่อคนที่ผมเฝ้ารอมาทั้งชีวิต..
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดอันแสนอ่อนแอของตัวเองออกไปพลางนึกถึงหนทางที่จะช่วยเหลือไนท์
ผมตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา นิ้วโป้งกดเบอร์โทรหาคนที่น่าจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างในเวลานี้
“ฮัลโหล...สนหรอ...เกิดเรื่องแล้วว่ะ”
ความคิดเห็น