ตอนที่ 3 : เลี้ยงเด็ก
Novel : Maou okasama daisuki
(ผิดหรือไงที่ถ้าจะรักคุณแม่จอมมารนะ)
บทที่ 3 เลี้ยงเด็ก
วันเวลานับจากที่จอมมารได้รับ ฟิโอน่า มารับเลี้ยงก็ได้ผ่านมานานถึง 5 ปีในตอนนี้เด็กน้อย ฟิโอน่า ก็ได้มีอายุ 5 ขวบและเธอก็ถูกอบรมและเธอก็ถูกอบรมสั่งสอนโดยจอมมารโดยตรง
“นับจากอดีตกาลสมัยที่ผู้กล้าทั้งสองได้เกิดความแตกหักกันจนเกิดเป็น เผ่านักล่า และเผ่าแฟรี่บรรพบุรุษของเราที่เคยอยู่กับเห่านักล่าได้ทำการปฏิวัติเพราะไม่ชอบระบบการปกครองของราชาแต่พวกเรากับเป็นฝ่ายแพ้และถูกส่งมายังจะโลกแห่งนี้แต่พอมาถึง-”
ปึก!
“โอ้ย!”
จอมมารใช้สันหนังสือที่ตนถืออยู่ฝาดลงที่หน้าผากของเด็กสาวที่แอบงีบอยู่บนโต๊ะด้วยความหมั่นไส้
“....”
“เจ็บนะคะท่านแม่”
“เจ็บสิดีจะได้จำแล้วตอนนี้ฉันไม่ใช่ท่านแม่เธอ....เข้าใจไหม”
“ค่า....อาจารย์เฮเลน่า”
“ดีมาก...แล้วทำไมถึงมาหลับระหว่างที่ฉันสอน”
จอมมารจ้องมองเด็กน้อยด้วยสายตาคาดคั้นแต่เด็กน้อย ฟิโอน่า ก็พยามหลบสายตาของจอมมารเพราะไม่อยากตอบคำถาม
“เออ...คือ”
“ฟิโอน่า”
“ม....เมื่อคืนบลูมีไข้สูงมากหนูเลยอยู่ดูแลมันทั้งคืนจนไม่ได้นอนคะ”
แพ้อีกแล้ว
คำคำนี้โผล่ขึ้นมาในความคิดของ ฟิโอน่า เพราะเธอมันจะแพ้อีกคนทุกครั้งที่เธอเรียกชื่อของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่น
“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว...และสั่งให้ลีน่าพามันไปหาหมอเมื่อเช้าแล้ว”
“จริงเหรอคะ!”
ฟิโอน่าหันมาถามอีกคนอย่างดีใจราวกับเธอได้ของขวัณวันเกิดที่ล้ำค่าเพราะว่า บลู มอนเตอร์จิ้งจอกขาวหูยาวตัวสูงไม่เกินแมวบ้านธรรมดาทั่วไป ฟิโอน่า เก็บมันมาเลี้ยงหลังจากตอนที่จอมมารพาเธอไปพักผ่อนแถวชานเมืองตอนนั้น ฟิโอน่า เจอ บลู กำลังบาดเจ็บสาหัดแต่ด้วยความเป็นเด็กเธอเลยไม่รู้ว่าจะช่วยมัน อย่างไรก็เลยไปขอร้องจอมมารซึ่งเธอก็ใช้เวทย์รักษาจนมันหายดีและกะว่าจะปล่อยมันไป แต่พอเดินเข้าไปในป่าเพื่อส่งมันพวกเธอกับเจอซากของ จิ้งจอกขาวที่ตัวใหญ่กว่านอนตายและเจ้าบลู เข้าไปคลอเคลียกับร่างนั้นทำให้เรารู้ว่าเจ้านั้นน่าจะเป็นแม่มันก็เลยลงเอยที่ ฟิโอน่าอาสาที่จะเลี้ยงมันเองจอมมารก็เลยอนุญาต
“ทีนี้กลับมาตั้งใจเรียนได้หรือยัง ฟิโอน่า”
“งืม...แต่หนูยังง่วงอยู่นิคะ”
“นั้นเป็นเพราะเธอฝืนตัวเองเกินไปไงเอาหละวันนี้ฉันจะยอมให้เลิกเร็วสักวันแล้วกันนะ”
“เออ....ขอบคุณค่ะท่านแม่”
พูดจบจอมมารก็เก็บหนังสือและเดินไปจูงมือของฟิโอน่าออกไปจากห้องนั้นเพื่อจะส่งเธอกลับไปนอนที่ห้องแน่นอนว่าด้วยความเป็นเด็กช่างถามฟิโอน่าเลยชอบถามคำถามต่างๆ ระหว่างทางเวลาเธอเดินไปไหนมาไหนกับจอมมาร เพียงสองคน
“ท่านแม่”
“หืม?”
“ทำไมท่านแม่ถึงช่วยหนูหละคะ”
“คำถามนี้อีกแล้วเหรอ ฟิโอน่า”
“ก็หนูชอบฟัง”
ได้ยินแบบนั้นจอมมารก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะต่อให้เธอไม่พูดยัยตัวเล็กนี่ก็ชอบมาเซ้าซี้ไม่เลิกตลอด
“ฉันไม่อยากให้เธอโตมาในสังคมแบบนั้นมันมีแต่จะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำเดิม”
“แล้วเรื่องพ่อแม่ตัวจริงของหนูทำไมท่านแม่ถึงฆ่าหละคะ”
“ผู้ใหญ่นั้นอีโก้สูงยากที่จะเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อง่ายๆ ต่างจากเด็กๆ เช่นเธอ ฟิโอน่า พวกเธอนะขาวสะอาดราวกับผ้าขาวถ้าฉันยังปล่อยให้พ่อแม่เธอฆ่าฉัน ก็มีแต่พวกเขาจะโดนสังคมผู้มีอำนาจกว่า หลอกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจ และจะค่อยๆ กลายเป็นแบบเดียวกับคนในสังคมนั้นและพวกเขาก็จะสอนสิ่งเหล่านั้นต่อมายังเธอ”
“เพราะแบบนั้นท่านแม่ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงเลยฆ่าพ่อแม่หนู....แล้วท่านแม่จะใช้หนูเป็นเครื่องมือแบบนั้นหรือเปล่าคะ”
จอมมารยิ้มกับคำถามของฟิโอน่าก่อนที่เธอจะตอบคำถามของเด็กน้อยแสนฉลาดแบบเธอกลับไป
“หลังจากเธอฆ่าฉันได้ก็เท่ากับฉันยอมรับเธอว่าเหมาะสมกับการเป็นผู้กล้าในอุดมคติของฉันที่จะไม่เพียงช่วยแค่เผ่าแฟรี่ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นหรือจะเป็นพวกมนุษย์ที่สามารถอยู่ร่วมกับพวกเราได้ในสักวัน แต่”
“แต่?”
“แต่หากหลังจากเธอกำจัดฉันนแล้วเธอยังคงมีความฝันอื่นที่อยากทำเธอก็จงทำมันอย่างจริงจังเถอะ ฟิโอน่า ฉันไม่บังคับเธอเพราะอนาคตของเธอเป็นของเธอไม่ใช่ฉัน เพราะฉันมีหน้าที่แค่สนับสนุนเท่านั้น”
“....”
“อีกอย่างสมบัติในปราสาทนี้ก็มีมากมายจนไม่สามารถใช้ได้หมดเธอจะเอามันไปเท่าไหร่ก็ได้เพื่อสร้างความฝันเธอเพราะยังไงเธอก็เป็นลูกสาวฉัน”
ฟิโอน่ามองใบหน้าของผู้เป็นแม่ของเธอด้วยความประทับใจ ในวิธีคิดของคนเป็นแม่ไหนจะการแสดงให้เห็นอีกเพราะตั้งแต่เธอ จำความได้เธอก็เห็นท่านแม่จอมมาร คอยปกครองชาวแฟรี่อย่างยุติธรรม และเป็นกันเอง ไม่เคยแบ่งชนชั้นมาตลอด
“เอาหละถึงแล้ว ฟิโอน่า”
จอมมารพูดพร้อมกับเปิดประตูห้องนอนของ ฟิโอน่า ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะวิ่งตรงไปที่ที่นอนของตัวเองอย่างเร็วเพราะความง่วงปล่อยให้จอมมารแอบหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะตามเธอเข้าไป
“ท่านแม่”
“หืม?”
“หนูมีเรื่องสงสัยอีกเรื่อง”
“อะไรเหรอ”
“ท่านแม่รักหนูไหม”
“รักสิ....รักเหมือนลูกแท้ๆ ”
ฟิโอน่า แทบจะอยากหุบรอยยิ้มแต่ต้องพยามเก๊กไว้เพื่อถามอีกคำถามที่อยู่ในใจเธอ
“งั้นเรื่องความฝันหนู”
“....”
“ท่านจะสนับสนุนความฝันหนูจริงๆ ใช่ไหม”
“ถ้าเกิดเธอรู้ตัวว่าชอบหรือรักในการทำสิ่งใดที่ฉันคิดว่ามันดีงามก่อนที่จะถึงวันที่เธอพร้อมกับคำว่า ผู้กล้า หละก็ฉันยินดีสนับสนุนเธอทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ”
พอได้ยินแบบนั้น ฟิโอน่า ก็กลับมายิ้มอย่างดีใจอีกรอบก่อนเธอจะยกนิ้วก้อยขึ้นมาตรงหน้าจอมมาร
“สัญญานะคะ ท่านแม่”
“อืม...สัญญาจ๊ะ”
ทั้งสองเกี่ยวก้อยสัญญากันกับคำสัญญาที่จอมมารพึ่งให้เด็กน้อยไปเมื่อครู่
...
..
..
7 ปีต่อมา
เพล้ง!
เสียงของอาวุธดาบที่กำลังฟาดฟันกันอย่างดุเดือดอย่างต่อเนื่องดังมาจากทางเนินกว้างริมทะเลสาบที่ตอนนี้มีร่างของหญิงสาวสองคนที่กำลังฝึกซ้อมเพลงดาบอยู่
“ง่ายไป เอาใหม่!”
“หย้ากกกก!”
เพล้ง เพล้ง
“ดีขึ้น เอาหละเปลี่ยนอาวุธ!”
หญิงสาวผู้ไม่ได้มีสีหน้าหรือริ้วรอยที่ดูแก่ขึ้นแต่กับยังคงสภาพของหญิงสาววัยประมาณ 25 – 26 ปีเอาไว้ได้มาตลอด 700 กว่าปีพุ่งเข้าหาร่างของเด็กสาววัยรุ่นเรือนผมสีขาวในตาสีโกเมนที่เปลี่ยนอาวุธจากด่าบมาเป็นโล่เพื่อบล็อกการโจมตี
ตึง!
เสียงของเหล็กที่ปะทะกันจนเกินแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเนินเขาแต่ร่างของเด็กสาวก็ยังคงยืนอยู่ได้เหมือนเดิม
“เลือกได้ดีแต่ว่า”
จอมมารกล่าวชมก่อนที่เธอจะเอามือแตะเข้าที่โล่เหล็กพร้อมกับการร่ายเวทย์
“แรงกระแทกราวกับวงน้ำที่ทำลายเป็นวงกว้าง”
[วิชาคลื่นกระแทก : โล่วงน้ำ]
ตึง!
“อ๊ากก!”
ทันทีที่เธอร่ายเวทย์จบก็เกิดแรงกระแทกทำให้โล่ของเด็กสาวลอยขึ้นไปบนฟ้าเปิดโอกาสให้จอมมารเข้าประชิดตัว
“เสร็จแล้วหละ”
“แน่ใจเหรอคะ”
“หืม?”
ร่างของเด็กสาวกลายเป็นก้อนน้ำที่ค่อยๆ แปรสภาพเป็นห่วงรัดร่างกายของจอมมารเอาไว้จนเธอขยับไม่ได้แถมยังปลดอาวุธเธออีก
“นี่มัน เวทย์กระจกน้ำกับพัฒนาการแห่งวงน้ำสินะ”
จอมมารยิ้มกับผลงานตรงหน้าและเธอก็คิดว่าในไม่ช้าเจ้าตัวที่วางแผนต้องโผล่มาแน่ๆ
“เสร็จหละ!”
เด็กสาวกระโดดออกมาจากที่ซ้อนพร้อมกับตั้งท่าเตรียมฟันร่างของจอมมาร
“หึบ!”
ตุบ!
“อึก!”
แต่จอมมารกับหลบได้อย่างง่ายดายแถมใช้ขาเธอแตะเข้าไปที่ท้องของเด็กสาวจนกระเด็น
“ยอมแล้วหรือยัง”
“ยังหรอกน่า! ขออ้อนวรเหล่ามิโกะแห่งแสงได้โปรดชำล้างวิญญาณร้ายด้วยเถิด!”
[วิชาโจมตี : บอลแสงแห่งการชำระ]
ว่าจบลูกบอลแสงอมฟ้าจำนวน 6 ลูกก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเด็กสาวก่อนที่มันจะพุ่งไปหาร่างของจอมมารด้วยความเร็วสูงแต่จอมมารกับไม่มีท่าทีเดือดร้อนแต่อย่างใดเธอดีดนิ้วหนึ่งทีพร้อมกับเกิดบอลแสงแบบเดียวกับเด็กสาวพุ่งปะทะกันจนกลายเป็นการหักร้างของพลัง
“อะไรกัน”
“จบแล้วหละ”
“หะ!?”
ตูม!
เด็กสาวเงยหน้ามองมองไปที่จอมมารและมันก็มีบอลแสงพุ่งเข้ามาหาเธออย่างเร็วจนเธอตั้งรับไม่ทัน
“อัค! ...... เจ็บง่า”
เด็กสาวล้มลงกลางพื้นหญ้าและนั้นก็ทำให้เวทย์ที่จับกุมจอมมารอยู่คลายออกในทันที
จอมมารมองเธอราวกับจะถามว่าอีกรอบไหมซึ่งคำตอบของอีกคนคือการส่ายหน้า
“ท่านแม่โกหกไหนบอกว่าจะไม่ใช้เวทย์ไง”
“ในสนามรบย่อมเต็มไปด้วยคำโกหกและเล่ห์กลมากมายเพราะงั้นฉันเลยอยากสอนเธอเรื่องนี้ยังไงหละ”
ถึงแม้จะอธิบายเหตุผลไปอย่างนั้นแต่เด็กสาววัย 11 ใกล้ 12 อย่าง ฟิโอน่า ก็ได้แต่ทำแก้มป่องแถมยังเบือนหน้าหนีจอมมาร
“ท่านแม่โกหก”
“เห้อ~ฟิโอน่าหน้าที่ของเธอคืออะไร”
“เป็นผู้กล้าที่เหมาะสมกับการฆ่าจอมมาร”
“ถูกต้อง ทุกอย่างที่ฉันฝึกเธอก็เพื่อรอคอยวันนั้น”
“แต่หนูไม่อยากฆ่าท่านแม่!”
ฟิโอน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโมโห จอมมารที่เห็นแบบนั้นก็ทำได้เพียงมองดูคนที่เธอรักเหมือนลูกที่เริ่มเข้าวัยต่อต้านขึ้นทุกวัน
“ถ้าเธอทำไม่ได้ฉันก็คงต้องหาคนใหม่”
“ไม่! หนูไม่ยอมให้ใครมาฆ่าท่านแม่แน่ๆ เพราะหนูเป็นลูกของท่านแม่และจะเป็นผู้กล้าในอนาคต”
ฟิโอน่าพูดพร้อมกับจับดาบตั้งท่าเตรียมต่อสู้กับจอมมารแน่นอนว่าจอมมารรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวเธอต้องการระบายอารมณ์โกธรดังนั้นเธอจึงเรียกดาบของเธอออกมา
“ความโกธรจะทำให้เธอเสียงานนะ”
“หย้ากกกกก”
“เห้อ~~ยัยเด็กนี่”
….
…
..
..
“เจ็บ เจ็บ เบาๆ หน่อยได้ไหมคะพี่ลีน่า”
“นี่ก็ทำแบบเบาสุดๆ แล้วคะคุณหนู”
หลังจากที่เด็กน้อยฟิโอน่ากลับมาที่ปราสาทเธอก็ได้เมดสาวคนสนิทคอยช่วยทำแผลให้เธออยู่ในตอนที่เธอกำลังงอนผู้เป็นแม่อยู่ตอนนี้
“แล้วคราวนี้ทะเลาะอะไรกันหละคะ”
“ก็....”
“หรือว่าเรื่องผู้กล้า?”
“หึ!”
สาวน้อยแก้มป่องทันทีที่อีกคนพูดเรื่องผู้กล้าแต่มันก็เป็นคำตอบที่ดีสำหรับเมดสาวที่ตอนนี้ต้องถอนหายใจเพราะสองแม่ลูกนี่มักจะทะเลาะกันเรื่องนี้ประจำ
“อีกแล้วสินะคะคุณหนู”
“ทำไม....ทำไมท่านแม่ถึงต้องสร้างผู้กล้ามาเพื่อฆ่าตัวเองด้วยหละมันยังมีวิธีอื่นอีกไม่ใช่หรือไงแต่ทำไมต้องเลือกการฆ่าด้วย”
ลีน่า เห็นด้วยกับความคิดของ ฟิโอน่า แต่จากที่เธอคอยรับใช้และติดตามจอมมารผู้เป็นนายมาหลาย 100 ปีก็ทำให้เธอได้พบเจอผู้กล้ามากมายที่จอมมารเสนอวิธีแก้อย่างสันติตลอดแต่พอพวกเขาเหล่านั้นตายจากหรือหายสาบสูญพวกมนุษย์ก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมตลอดและนั้นเป็นเหตุผลที่จอมมารคงจะเบื่อเต็มทน
“คุณหนูคะ....คุณหนูรู้ใช่ไหมคะว่าท่านจอมมารมีอายุที่แทบจะเป็นอัมตะแถมยังต้องสู้กับผู้กล้ามามากมาย”
“อืม”
“แต่ทุกครั้งที่ท่านจอมมารเลือกที่จะแก้ไขความขัดแย้งของชาวแฟรี่กับมนุษย์ด้วยวิธีสันติก็มีแต่พวกมนุษย์ที่ยังคงกลับมาทำเรื่องราวแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“....”
“ท่านจอมมารเลยเบื่อนะคะท่านคิดว่าหากตัวตนของจอมมารหายไปจะเป็นประโยชน์กับมนุษย์มากกว่าและจะเป็นการหยุดวงจรนี้สะที”
“แล้วถ้าเป็นแบบนั้นพวกพี่ลีน่าหละจะทำยังไงเหรอคะถ้าเกิดมันถึงยุคที่ไม่มีท่านแม่แล้ว”
ลีน่ายิ้มกับความเป็นห่วงของคุณหนูของเธอแต่มันยังไม่ถึงเวลาที่คุณจะรู้เรื่องราวนั้นในตอนนี้เธอจึงเลี่ยงที่จะตอบ
“ท่านจอมมารได้คิดแผนการหลังจากที่ท่านเสียให้กับพวกเราแล้วและเมื่อถึงเวลาคุณหนูก็จะรู้เองคะ”
ลีน่าพูดพร้อมกับเก็บกล่องพยาบาลแล้วเดินออกไปจากห้องนั้นเพื่อให้คุณหนูขของเธอได้มีเวลาส่วนตัว
ฟิโอน่า ล้มตัวลงนอนกับเตียงของเธอและมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าบลูกระโดดขึ้นมาบนเตียงและเอาหน้ามาคลอเคลียกับหน้าของเธอ
“กรู๊ววว”
“นี่บลูทำไมท่านแม่ต้องเลือกการจบชีวิตตัวเองด้วยนะ”
“กรู๊ววว”
เจ้าบลูเอียงคอสงสัยกับสิ่งที่เจ้านายของมันพูดและเพราะอาการของมันที่แสดงออกมาทำให้ ฟิโอน่า รู้สึกว่าตัวเองชักจะบ้าสะแล้วที่คิดว่าเจ้าสุนัขจิ้งจอกมันจะให้ความเห็นเธอได้
“เห้อ~ขอโทษบลูฉันมันบ้าเองหละที่เอาเรื่องคนมาถามแก…หิวไหม”
“กรู๊ววว!”
“ที่นี้หละฟังออกเชียวนะเจ้าตัวแสบ”
ฟิโอน่ายิ้มขำกับการแสดงออกของเจ้าบลูเธอเลยลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบอาหารมาเทลงจานข้าวเจ้าหมาจิ้งจอกน้อยที่กระโดดลงจากเตียงเดินมาพร้อมเธอ
“ทานให้อร่อยนะสาวน้อย”
“กรู๊ววว”
เจ้าบลู ก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าทันทีปล่อยให้เจ้านายของมันหัวเราะกับท่าทางที่น่ารักของตัวเอง
“ฮะฮ่าๆ ……เห้อ~มันต้องมีสักทางหละน่าที่ฉันจะช่วยท่านแม่ได้โดยที่ท่านไม่ต้องตายนะ”
…
..
“ลีน่า เดียวช่วยเอาเอกสารนี่ไปให้ทางฝ่ายบัญชีทีนะ”
“ค่ะ…ท่านจอมมาร”
ลีน่ารับเอกสารจากมือของจอมมารที่กำลงนั่งเซ็นเอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของอณาจักรแต่ลีน่ากับยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับจนจอมมารที่นั่งเคลียร์เอกสารสงสัยจนต้องเหล่มองเพราะไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหรือเวทย์ส่งของเลย
“มีอะไรหรือเปล่า”
“วันนี้ท่านจอมมารทะเลาะกับคุณหนูอีกแล้วเหรอคะ”
“เห่อ~ยัยแสบเล่าให้ฟังอีกหละสิ”
จอมมารถอนหายใจพร้อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้ของตัวเองก่อนจะกอดอก มองลีน่าอย่างเซ็งๆ
“เปล่าคะฉันเดาจากอาการของคุณหนูเอง…ว่าแต่คราวนี้เรื่องเดิมเหรอคะ”
“ใช่นะสิ…รู้สึกพักนี้จะถามบ่อยขึ้นด้วยนะไม่รู้ว่าทำไม”
“ถ้าจะให้ฉันแสดงความคิดเห็น คุณหนูนั้นรักท่านมากและไม่อยากเสียท่านไปหละมั้งคะ”
“เรื่องนั้นฉันรู้ เพราะฉันก็รักเธอเหมือนลูกหรือน้องสาวคนหนึ่ง”
“แถมอาจเพราะคุณหนูอยู่แต่สังคมทีมีแค่พวกเราดูแลตลอดทำให้เธอกลัวมั้งคะ”
“กลัวเหรอ?”
“คะ กลัวที่จะเสียพวกเราคนใดคนหนึ่งไปนะคะ”
“เห้อ~แล้วเธอพอมีไอเดียแก้ไหม?”
“ไม่คะเพราะฉันไม่กล้าทำร้ายเธอเลยไม่เคยคิดไว้”
จอมมารทำท่าครุ่นคิดกับสิ่งที่ลีน่าเสนอเธอคิดว่าอาจเพราะเธอเลี้ยงฟิโอน่าให้อยู่แต่ในปราสาททำให้เด็กกลัวที่จะสูญเสียสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเองแต่จากการที่เธอนั้นมีชีวิตที่ยาวนานเลยทำให้เธอเห็นการที่คนคนหนึ่งต้องสูญเสียสิ่งสำคัญของตัวเองไปหลายต่อหลายครั้งแต่ก็สามารถลุกขึ้นสู้ต่อได้เพราะงั้นหากเธอยังเลี้ยงฟิโอน่าราวกับไข่ในหินแบบนี้อีกเด็กน้อยคงไม่มีภูมิคุ้มกันต่อการสูญเสียแน่
“ลี่น่า”
“คะ”
“เจ้าแสบของเราอายุเท่าไหร่นะ”
“อีก 2 อาทิตย์ก็ครบอายุ 12 คะ”
“เหรอ…งั้นช่วยเตรียมเอกสารสมัครเรียนของ M.A.S. เอาไว้ให้หน่วยนะ”
“MAS เหรอคะ?”
“ใช่ ฉันจะเอายัยหนูไปเข้าเรียนที่นั่นอย่างน้อยยัยหนูก็จะได้มีเพื่อน”
“แต่…หลักสูตรของทางโรงเรียนนั้นมัน”
“ลีน่า บางครั้งเธอก็ต้องเชื่อใจ ฟิโอน่านะ”
“แต่……”
“ไม่มีแต่ ลีน่ารีบเอาเอกสารไปให้ฝ่ายบัญชีได้แล้ว อ้อแล้วถ้าหากเตรียมเอกสารของ MAS เสร็จเมื่อไหร่ก็เรียกยัยหนูมาหาฉันด้วย”
“ทราบแล้วค่ะ”
จอมมารนั่งมองลีน่าถือเอกสารออกไปจากห้องจนเธอมั่นใจว่าลีน่า น่าจะเดินไปไกลพอสมควรแล้วจอมมารเลยถอนหายใจพร้อมกับเดินมายืนที่หน้าต่างห้อง
‘คุณหนูนั้นรักท่านมากและไม่อยากเสียท่านไปหละมั้งคะ’
ระหว่างที่เธอกำลังยืนชมทิวทัศน์ที่สวยงามของสวนดอกไม้ด้านล่างเธอก็คิดถึงคำพูดของ ลีน่า ด้วยและนั้นยิ่งทำให้เธอมีความกังวลใจมากกว่าเดิม
“หวังว่าเธอคงไม่ได้หลงรักฉันในฐานะอื่นนะ ฟิโอน่า”
หลังจากที่จอมมารได้สั่งงานกับลีน่าไปได้สักพักเธอก็พา ฟิโอน่า มาหาเธอ
“ท่านแม่เรียกหนูเหรอค่ะ”
“อืม…ฉันมีเรื่องที่อยากจะให้เธอทำหน่อยนะ”
คำพูดของจอมมารทำให้ ฟิโอน่า ถึงกลับตาโตด้วยความตกใจแต่เธอก็สามารถปรับอารมณ์เป็นปกติได้อย่างรวดเร็วเพราะมีบ่อยครั้งที่จอมมารมักจะใช้ให้เธอมาคอยช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ตลอด
“อะไรเหรอคะท่านแม่”
“ฟิโอน่า ในพรุ่งนี้เธอต้องเข้าเรียนที่ M.A.S.นะ”
“ท……ทำไมหละคะ!”
“ก็ตอนนี้เธออายุ 12 แล้วนิควรได้เวลาสร้างสังคมเพื่อนเอาไว้บ้างนะ”
“แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้วนิคะ”
“ฟิโอน่า”
“ก็หนูไม่อยากห่างท่านแม่นิ”
“พูดอะไรหรือปล่าว?”
“ปล่าวค่ะ! แล้วหนูต้องเริ่มไปเรียนเมื่อไหร่ค่ะ”
“นี่ไม่ได้ฟังเลยสินะ…”
“…”
“พรุ่งนี้ เอกสารและของใช้เธอฉันให้ ลีน่าเตรียมไว้แล้วล่ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ…แล้วมีอะไรอีกไหมค่ะ”
“ไม่มีแล้วล่ะ”
พอได้ฟังแบบนั้นฟิโอน่าก็คิดจะเดินออกไปทันทีแต่เธอต้องหยุดแล้วหันหลังกลับไปมองใบหน้าของจอมมารแวบนึง แต่พออีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจเธอเลยเดินกลับห้องทันที
ปึ่ง!
เสียงปิดประตูที่ดังมากแสดงให้รู้ถึงความไม่พอใจของสาวน้อยที่พึ่งออกไปจนจอมมารต้องถอนหายใจพร้อมกับหมุนเก้าอี้ไปทางหน้าต่างด้านหลัง
“ขอโทษนะ ฟิโอน่า แต่ฉันอยากให้เธอรักคนอื่นมากกว่ามาหลงรักฉัน”
…
..
..
“ท่านแม่นะท่านแม่ ทำไมจะต้องให้เราไปเข้าเรียนที่นั่นด้วยนะ”
“กรู๊วว”
ฟิโอน่า บ่นก่อนที่เธอจะกระโดดลงไปนอนที่เตียงโดยมีเจ้าบลูนอนอยู่ก่อนหน้าเธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย
“นี่บลูวันนี่ท่านแม่เรียกฉันไปพบหละ”
“กรู๊ว?”
“แล้วก็นะ แล้วก็นะ ท่านแม่นะสั่งให้ฉันเข้าเรียนที่ M.A.S.หละทำไมท่านแม่ถึงต้องให้ฉันไปเรียนที่นั่นด้วยนะ!”
“กรู๊ว”
“ก็จริงที่ว่าฉันอาจจะไม่ได้มีเวทมนตร์เยอะเท่าท่านแม่แต่ฉันก็มั่นใจนะว่าฉันเก่งกว่าเด็กในวัยเดียวกันนะ”
“กรู๊ว~”
พอ ฟิโอน่า เริ่มพูดไม่สิเริ่มโม้ถึงความสามารถของตนเจ้าลูกหมาจิ้งจอกก็ทำเป็นขดตัวนอนทันทีราวกับจะบอกว่า ‘เบื่อพวกขี้โม้อะ’ ซึ่งนั้นไม่พ้นสายตาของฟิโอน่าแน่นอนเจ้าหล่อนเลยทำการปาหมอนใส่เจ้าเพื่อนรักขนปุยทันที
“อย่ามาเมินกันนะ บลู เธอต้องฟังฉันให้จบสิ”
“กรู๊ว”
“อย่ามาทำหน้าตาเหมือนเบื่อนะ”
“กรู๊ว กรู๊ว”
“ก็ได้ๆ สัญญาว่าถ้าเธอฟังจนจบฉันจะยกข้าวเย็นวันนี้ส่วนหนึ่งให้”
“กรู๊ว ^^”
“ยัยหมาเห็นแกกิน ต่อนะท่านแม่บอกให้ฉันต้องเข้าเรียน พรุ่งนี้เลยด้วยนะทั้งที่ ทั้งที่ฉัน……”
“กรู๊ว?”
“ทั้งที่ฉันรักและอยากอยู่กับท่านแม่ตลอดแท้ๆ”
ฟิโอน่าพูดพร้อมกับซ่อนใบหน้าที่แดงจัดกับหมอนใบโปรดของตัวเองก่อนจะเผลอปล่อยหยดน้ำตาให้ไหลออกมา
“กรู๊ว~”
“เห้อ~ช่างมันเถอะบลูยังไงสะฉันก็ทำได้แค่ทำตามคำสั่งของท่านแม่อยู่ดีหละเนอะ”
“กรู๊ว~”
“อีกอย่างท่านแม่คงคิดดีแล้วล่ะ………มั้งนะ”
น้ำเสียงและคำพูดของ ฟิโอน่า เต็มไปด้วยความน้อยใจจนเจ้าบลูสัมผัสได้มันเลยเดินเข้ามาเอาใบหน้าเล็กๆ ของมันถูกับแก้มของ ฟิโอน่า เพื่อปลอบใจ
“อืม~ รู้แล้วน่าขอบใจที่ให้กำลังใจนะบลู”
“กรู้ว!”
“บางทีการไปโรงเรียนอาจจะไม่แย่ก็ได้เนอะ”
——————————
ตอนใหม่มาแล้วจร้าาาาา เป็นบ้างกับชีวิตประจำวันของสองแม่ลูกตอนต่อไปจะเป็นแนวรั้วโรงเรียนแล้วนะ ฟิโอน่า จะปรับตัวได้ไหมหรือจะเกิดเหตุการอะไรขึ้นบ้างก็รอดู รออ่าน ได้เลยยย อิอิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

4 ความคิดเห็น
-
#1 Sei,Myu&Yun (จากตอนที่ 3)วันที่ 1 สิงหาคม 2562 / 21:38ดีงามมม#11
-
#1-1 Akatsuki Shiro(จากตอนที่ 3)1 สิงหาคม 2562 / 21:43อะไรดีงามเหรอ ?#1-1
-