ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fanfic Minecraft!//yaoi) รักฉันซะ! นายเอนเดอร์แมน!

    ลำดับตอนที่ #4 : Meet the spider.

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58



     
    ผมค่อยๆปรือตาขึ้นในตอนสาย แม้ว่ายังมึนๆจากอาการง่วงอยู่แต่ความคิดของผมก็ย้อนไปหาเหตุการณ์ในฝันของเมื่อวานอย่างรวดเร็ว มาครบเลยครับทั้งกลิ่นคาวเลือด ความจุกและหน่วงแถวๆช่องท้อง และความตกใจในตอนนั้น ที่สำคัญคือชื่อของชายคนนั้น ที่ผมจำได้แม่นแม้เข้ามาในหัวของผมเพียงครั้งเดียว
     
    "ฮีโร่ไบร์น.." ผมเผลอพูดสิ่งที่คิดอยู่ออกมาเบาๆ
    "ใครหน่ะ เพื่อนนายหรอ?" เสียงเอนด์แทรกเข้ามาในความคิดผม ผมหันไปมองเขาที่ยืนพิงประตูอยู่ด้วยสายตางงๆ
    "อะไร? ใครเพื่อนผม?" ด้วยความที่ไม่ได้ฟังผมเลยไม่สามารถที่จะจับใจความประโยคคำถามของเอนด์ แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีรำคาญในการถามซ้ำแต่อย่างใด
    "ก็ชื่อที่นายพูดเมื่อกี้ไง เพื่อนนายหรอ"
    "อ้อ..เปล่า..มันเป็นชื่อของ.." ผมชะงักคำพูดไว้ด้วยความลังเล
    "..ของ??" เอนด์ถามซ้ำพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย
    "ของคนที่ทำร้ายผมในฝัน..เมื่อคืน"
    พอผมพูดจบ สายตาอบอุ่นของเอนด์ก็หายไปในพริบตา แทนที่ด้วยความเกรี้ยวกราดอย่างสุขมเยือกเย็น อย่างกับว่าสายตาคู่นั้นไม่ใช่ของเอนด์เมื่อสองวินาทีที่แล้ว ขนาดผมยังแอบขนลุกเลยครับ- -"
    "มันหน้าตาเป็นยังไง" เสียงของเอนด์นิ่งจนน่ากลัว เหมือนกับทะเลก่อนเกิดพายุยังไงอย่างงั้น ผมไม่อยากจะนึกสภาพ ถ้าเอนด์เกิดโกรธผมขนาดนี้ขึ้นมาผมคงจะทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
    "เอ่อ เหมือนผม ทุกอย่างเลย" ผมตอบไปแบบเกร็งๆ เริ่มรู้สึกว่าผมน่าจะตอบปัดๆไปว่าเป็นชื่อเพื่อนผมน่าจะดีกว่า เพราะตอนนี้เอนด์แผ่รังสีความอาฆาตซะจนผมหายใจไม่ทั่วท้องและอาจจะช็อกตายได้ในเร็วๆนี้หากผมยังต้องคุยเรื่องนี้กับเอนด์ต่อ
    ความเกรี้ยวกราดในสายตาเอนด์เริ่มลดลงถูกแทนที่ด้วยความสงสัย
    "หมายความว่าอย่างไง?"
    "ก็หมายความว่าเขาเหมือนผมทุกอย่างทั้งสีผม ทรงผม เสื้อ กางเกง สีผิว อ้อแต่ว่า เขา..ไม่มีตาดำ"
    "ไม่มีตาดำ..รึว่าจะเป็นปิศาจ ต้องใช่แน่ๆ" เอนด์มีสีหน้ากังวลใจ ก่อนจะกล่าวต่อ
    "ฉันไม่เคยเจอกับปิศาจมาก่อน ไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีไหนพอจะจัดการกับปิศาจได้บ้าง"
    ได้ข่าวว่า เอนด์เดอร์แมน นี่ก็ถือว่าเป็นปิศาจไม่ใช่หรอครับเอนด์- -"
    "ช่างเถอะครับ ผมว่าถึงเรารู้วิธีป้องกัน ก็ทำอะไร'เขา'ไม่ได้หรอก อย่าลืมสิว่าผมเจอในฝันนะ  ไม่ใช่โลกในความจริง" ผมพูดชี้แจงพลางลุกจากเตียง ถึงผมจะพูดแบบไม่ค่อยแคร์ แต่จริงๆผมก็กลัวเหมือนกันนะ แค่นึกถึงตอนนั้นช่องท้องผมก็เสียวแปล๊บแล้ว
    "บางที เพื่อนฉันอาจจะรู้ก็ได้ว่าเวลาจะจัดการกับปิศาจต้องทำยังไง" เอนด์กล่าวขึ้น ผมหูผึ่งทันที ไม่ใช่ตื่นเต้นที่จะได้รู้วิธีกำจัดปิศาจหรอกนะครับ แต่ผมตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนของเอนด์ต่างหาก
    "เพื่อนนาย?" ตาผมเป็นประกายขึ้นมา ถ้าผมได้เพื่อนเพิ่มอีกคนคงจะเป็นอะไรที่สนุกมาก ขนาดมีเพื่อนคนเดียว ชีวิตผมยังมีสีสันเพิ่มขึ้นมาตั้งเยอะ
    "ใช่ นายน่าจะรู้จักเขาดีนะ สเกลลิตั้น ไง"
    อ้อ รู้จักดีเลยหล่ะครับ เขาคนนี้เคยส่งลูกธนูมาจุมพิตกลางหลังผมเลย ทำไมจะไม่รู้จักหล่ะครับแหม่
    "รู้จักสิ ผมเคยทักทายเขาด้วย ทักทายด้วยดาบหน่ะครับ" แล้วหลังจากนั้นก็เอากระดูกจากศพเขาไปปาให้หมากินด้วย สะใจเป็นบ้า
    "เอาน่า ฉันไปด้วยเขาไม่ทำอะไรนายหรอก นายอย่าไปทำอะไรเขาก่อนก็แล้วกัน"
    "แล้วเราจะไปหาเขาได้ที่ไหนหล่ะ นี่มันตอนกลางวันนะ" ถ้าตอนกลางคืนไม่ต้องหาก็เจอ แค่ว่ามันจะไม่ได้เจอแค่สเกลลิตั้นไง
    "เดินๆดูแถวนี้แหละ น่าจะมีซักคนสองคนที่หลบอยู่ตามร่มไม้แถวนี้" แอนด์พูดแล้วเดินไปหยิบอาวุธมาจนครบมือ
    นี่สรุปเป็นเพื่อนกันจริงมั้ยเนี่ย หยิบอาวุธซะครบมือขนาดนี้นี่จะไปคุยหรือไปฆ่ากันแน่ครับเอนด์?
    ผมออกจากบ้านไปพร้อมกับเอนด์ เดินหาสเกลลิตั้นที่น่าจะอยู่ตามใต้เงาไม้ใหญ่ ลมเบาๆพัดผ่านตัวผมอย่างสม่ำเสมอ อากาศเย็นสบาย มันคงจะรู้สึกดีกว่านี้หากผมกับเอนด์ไม่ต้องฆ่าครีปเปอร์ที่อยู่ระหว่างทางเต็มไปหมด และในขณะที่ผมใช้ดาบฟาดครีปเปอร์อยู่นั่นเอง....
    'ฟึบ!!'
    มีเสียงแหวกอากาศของอะไรบางอย่างเฉี่ยวหูไปด้วยความเร็วสูง ...ธนู! ต้องเป็นลูกธนูแน่ๆ! 
    ผมหันซ้ายหันขวาจนเจอไอ้โครงกระดูกถือคันธนูที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ผมสะกิดเอนด์พลางตีครีปเปอร์จนมันล้มลงและสลายไป
    "เอนด์ นั่นไงเพื่อนนาย" 
    เอนด์หันไปเจอกับสเกลลิตั้นตัวหนึ่งซึ่งไม่มีท่าทีจะหยุดยิง หนำซ้ำยังเดินมาทางเรา และมันก็จะเดินออกมาจากเงาร่มไม้แล้วด้วย
    "ไม่! อย่าออกมา!!" เอนด์ตะโกนห้ามสเกลลิตั้น แต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะแล้ว เพราะตอนนี้แดดได้เผาสเกลลิตั้นจนไฟลุกท่วมตัวเป็นที่เรียบร้อย
    "=___=" <<หน้าผมกับเอนด์ในตอนนี้
    'แกร้ก! แกร้ก!' เสียงกระดูกสเกลลิตั้นกระทบกัน มันเดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวาย ก่อนจะล้มลงและสลายไปต่อหน้าต่อตาผมและเอนด์
    "อ่า..ตัวนี้ท่าทางจะโง่ไปหน่อยเนอะ" เอนด์กล่าวเสียงนิ่งด้วยความสมเพชระดับกลางๆ
    " ไม่หน่อยละครับ แต่ไม่ว่าจะตัวไหนๆมันก็เหมือนกันหมดแหละผมว่า อย่าเสียเวลาไปไว้อาลัยเลยครับ รีบหาตัวใหม่ก่อนตกเย็นดีกว่า " ผมเดินนำหน้าเอนด์ไป สายตาสอดส่องระวังครีปเปอร์และหาสเกลลิตั้นไปพร้อมๆกัน
    "หรือเราจะลองถามสไปเดอร์ดู?" เอนด์ชี้ไปทางแมงมุมตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่กำลังปีนต้นไม้อย่างสนุกสนาน
    "เอ่อ..มันหน้าตาไม่ใกล้เคียงสิ่งมีชีวิตที่ท่าทางจะสื่อสารด้วยกันได้เลยนะครับ?"
    "ได้อยู่ละมั้ง เดี๋ยวฉันลองถามดู" พูดจบเขาก็เดินเข้าไปประชิดตัวแมงมุมตัวนั้น
    "เอ่อ..สไปเดอร์ ฉันมีเรื่องจะปรึกษา" เอนด์พูดกับแมงมุม ซึ่งน่าแปลกใจที่ดูเหมือนว่ามันจะฟังรู้เรื่อง มันลงมาจากต้นไม้แล้วมองหน้าเอนด์เหมือนรอฟังอยู่
    "คือ..นายพอจะรู้จักวิธีกำจัดปิศาจมั้ย?"
    "&@!)(;" สไปเดอร์ตอบกลับ
    "ฉันฟังภาษาของนายไม่รู้เรื่องหรอกนะ"
    'พรึบ!'
    ในพริบตาเดียว แมงมุมหน้าตาเอ๋อๆก็เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมยุ่งๆสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ ผิวขาวเนียนแต่ไม่ได้ขาวซีดเหมือนเอนด์ ตาสีแดงทอประกายขี้เล่นและดุร้ายคละกัน สวมใส่เสื้อกล้ามรัดรูปสีดำกับกางเกงขายาวขาดๆสีน้ำตาลและไม่ใส่รองเท้า มือของเขามีเล็บยาวแหลม ท่าทางจะไว้ใช้ปีนต้นไม้
    "วิธีกำจัดก็ง่ายนิดเดียว แกก็ฆ่ามันซะสิ ไอ้ปิศาจที่แกพูดถึงหน่ะนายเอนเดอร์แมน ฝีมือระดับแกหน่ะชิลๆอยู่แล้ว" สไปเดอร์พูดด้วยท่าทางไม่ใส่ใจและกวนส้นเล็กน้อย
    "ปิศาจมันอยู่ในความฝัน" เอนด์ตอบกลับ สไปเดอร์เลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะขมวดคิ้ว
    "แกนอนหลับด้วยรึไง!?!"
    "เอ่อ..ก็เคย แต่ฉันไม่ได้เจอ หมอนั่นต่างหากที่เจอ" เอนด์ชี้มาทางผม
    สไปเดอร์มองผม แล้วเดินมาหาด้วยท่าทีดุร้าย ตาสีแดงของเขาเรืองรองมองมาทางผมด้วยความเกรี้ยวกราจ
    "นี่แกจะทำอะไร!" เอนด์ตะโกน จับแขนสไปเดอร์ไว้
    "ไม่ต้องครับเอนด์ ให้เขาเดินมา"
    "แต่.." เอนด์มองสไปเดอร์ด้วยความไม่ไว้ใจ
    "ปล่อยเขาครับ"
    "..." เอนด์ยอมปล่อยสไปเดอร์ แต่มือของเขาก็เตรียมพร้อมจะใช้ดาบโจมตี
    สไปเดอร์กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาผม แยกเขี้ยวเตรียมจะกัดหน้าผม แล้วทันใดนั้น!
             เขาก็เดินเลยเงาต้นไม้
    "อ่ะ.."สไปเดอร์หรี่ตาเมื่อพบกับแสงแดด และเมื่อเขาลืมตาอีกที ความดุร้ายเกรี้ยวกราจในตาเขาก็หายไป เหลือเพียงความขี้เล่นไว้เท่านั้น เหมือนกับว่าเป็นคนละคนกับเมื่อกี้
    นั่นไง ถึงจะเปลี่ยนร่างเป็นคน แต่สัญชาตญาณของแมงมุมก็ยังอยู่สินะ
    "อ้อ แกนี่เอง ฉันว่าฉันคุ้นๆหน้าแกเหมือนเคยเห็นมาก่อนนะ" สไปเดอร์พูด เขาพิจารณาหน้าผมด้วยท่าทางขี้เล่น
    ไม่คุ้นได้ไงหล่ะครับ ก็คุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่กัดหน้าผมอย่างเอร็ดอร่อยเสมอเวลาที่ผมออกนอกบ้านในตอนกลางคืน
    "ผมอาจจะเคยเดินผ่านคุณมั้งครับ แต่ช่างเรื่องนั้นเถอะ คุณพอจะรู้จักปิศาจที่เรียกว่า'ฮีโร่ไบร์น'มั้ย?" ผมเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว สไปเดอร์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย..หรือว่าเขารู้จัก?
    "มีปิศาจที่ไหนชื่อประหลาดแบบนั้นด้วย?!" และนี่คือสิ่งที่เขาพูดออกมา
    ผมหันไปมองหน้าเอนด์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เป็นอันรู้กันว่าถามสไปเดอร์ต่อไปก็คงไม่ได้เรื่อง เราควรจะเปลี่ยนคน
    "อืม...งั้นถ้าคุณไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปถามคนอื่นก็ได้ครับ" ผมกำลังจะหันหลังให้สไปเดอร์ แต่แล้วเขาก็พูดขึ้น
    "แต่แกบอกว่ามันอยู่ในฝันสินะ"
    "อ่ะ..ครับ"
    "ก็ทำDream catcherสิ"
    "..ห้ะ" ผมมึนเล็กน้อยกับสิ่งที่สไปเดอร์พูด...มันคืออะไรหน่ะ?
    "มันเป็นเหมือนเครื่องราง ที่ใช้ดักจับความฝัน จะทำให้เราไม่ฝันหน่ะ" เขาอธิบาย
    "อ้อ..." เอนด์ทำท่าเหมือนนึกอะไรออก
    "รู้จักหรอครับเอนด์?"
    "อือ เคยได้ยินอยู่..แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันจะใช้ได้จริงมั้ย ฉันพอจะรู้วิธีทำด้วย ใช้..."เอนด์สาธยายอุปกรณ์ที่ต้องใช้ และมันต้องใช้ขนนก...ดูเหมือนจะต้องไปฆ่าไก่ซะแล้ว ผมเพิ่งใช้ขนนกทำธนูไปจนหมดเมื่อไม่นานมานี้เอง
    "และก็ต้องใช้ใยแมงมุมด้วย" เอนด์เสริม พลางมองสไปเดอร์พร้อมกับผม..เอนด์คงกำลังคิดเหมือนที่ผมคิดสินะ
    "ผมว่าผมเจอใยแมงมุมแล้ว" ประโยคนี้หลุดจากปากผมด้วยรอยยิ้มอันเหี้ยมโหด สไปเดอร์ผมขอโทษนะ ผมจำเป็น^^
    "ไหนหรอใยแมงมุม?" สไปเดอร์ผู้ใสซื่อหันหน้าไปหา มองหาใยแมงมุมที่ผมพูดถึง
    "มันอยู่ลึกหน่ะครับ" ลึกเข้าไปในตัวนายไงสไปเดอร์~
    ฉัวะ!!
    ไม่พูดพร่ำทำเพลงมากมาย ผมใช้ดาบฟันสไปเดอร์อย่างไร้ปราณี แม้เขาจะยังอยู่ในร่างคนก็ตาม ทำไงได้ ไม่มีเวลาแล้ว นี่ก็จะค่ำแล้วเนี่ย
    "อั่ก!!" สไปเดอร์กระเด็นออกห่างจากตัวผมไปเล็กน้อย ตาของเขากลับมาฉายความดุร้ายอีกครั้ง เขาแยกเขี้ยวขาววับแล้วกระโจนเข้าหาผมทันที
    ด้วยร่างกายแบบมนุษย์ มันเหมือนว่าจะทำให้สไปเดอร์เร็วขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง ผมยังไม่ทันตั้งหลัก เขากระโจนมาใช้เล็บจิกแขนผมไว้ แล้วกัดเข้าที่คอของผมเต็มแรง
    "อ้ากกก!" จะ..เจ็บชะมัด! ร่างคนของสไปเดอร์คงจะทำให้การโจมตีแรงขึ้นด้วย อึก..มือของผมอ่อนแรงแต่ยังพอจับดาบได้มั่นคงพอตัว ผมใช้ดาบแทงเข้าไปที่ช่องท้องของสไปเดอร์ เขากระเด็นออกห่างผมไป และเอนด์ที่กำลังวิ่งมาช่วยผมก็จัดการเผด็จศึกเขาทันที ใยแมงมุมกระเด็นออกมาจากบริเวณที่เขาตาย..เป็นใยแมงมุมที่ได้มาด้วยความเจ็บปวดจริงๆ=___=
    ผมกุมแผลที่ซอกคอแล้วนั่งลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน
    "ตายละ..นี่ผมลืมพกอาหารมาหรอเนี่ย.."
    "มา เดี๋ยวฉันจะพานายไปที่บ้านเดี๋ยวนี้แหละ" เอนด์ค่อยๆช้อนตัวผมขึ้นอุ้มไว้อย่างเบามือ คงจะกลัวผมเจ็บสินะ
    พุ๊ฟ!!
    เกล็ดสีม่วงฟุ้งกระจายทั่วเหมือนหมอก และพอพวกมันเริ่มจางลง ผมก็อยู่ในบ้านผมเรียบร้อย
    "นอนอยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันเอาขนมปังมาให้" เอนด์พูด เขาวางผมไว้บนเตียงแล้วเดินไปที่หีบเก็บของ เขาหยิบขนมปังขึ้นมาพร้อมกับขนนก และอุปการณ์ที่ใช้ทำdream catcherอื่นๆ
    อ่าว ไม่ใช่ว่าผมใช้ขนนกไปหมดแล้วหรอ สังสัยผมจะจำผิด
    "อ่ะ กินซะ"เขายื่นขนมปังให้ผม ผมรับมาแล้วกินอย่างรวดเร็วในขณะที่เอนด์ก็นั่งทำdream catcherไป
    "ถ้าทำไอ้เครื่องรางนั่นเสร็จ ผมต้องเอามันไว้ที่ไหนหรอ?" ผมถามหลังจากกินขนมปังเสร็จซึ่งใช้เวลาประมาณสามวินาทีในการกิน
    "ไว้หัวเตียงของนาย..อ่ะ เสร็จละ" เอนด์ยื่นเครื่องรางมาให้ผม ผมจัดการห้อยมันไว้กับหัวเตียง หลังจากนั้นผมก็ล้มตัวลงนอน..วันนี้เหนื่อยพอแล้ว ผมควรจะรีบนอนก่อนที่จะไม่ได้นอนเพราะเสียงของสิ่งมีชีวิตนอกบ้านทั้งหลาย-__-
    "ฉันคงบอกว่าให้นายฝันดีไม่ได้แล้วสินะ เพราะต่อจากนี้นายจะไม่ฝันอีก" เอนด์พูด พลางยิ้มบางๆ เขาเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆเหมือนพ่อที่ส่งลูกเข้านอน
    "ไม่เอาน่า ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ" ผมพูดยิ้มๆแต่ก็ไม่ได้ห้ามเอนด์ไม่ให้ทำสิ่งที่เขาทำอยู่
    "นอนซะ ราตรีสวัสดิ์" เอนด์กล่าว สายตาของเอนด์มองลงมาเอ็นดูปนกับความรู้สึกบางอย่างที่ผมอ่านไม่ออก แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจอย่างอธิบายไม่ถูก
    ผมหลับตาลง....อ่า..หวังว่าคืนนี้ผมจะไม่ฝันนะ
     
    -ณ จิตใต้สำนึกของสตีฟ-
    "ชิ.." คำสบถหลุดออกมาจากปากของชายผู้หนึ่งซึ่งมีท่าทางไม่พอใจกับใยแมงมุมที่พันตัวเขาอยู่เต็มไปหมด
    "ใช้dream catcherสินะ เข้าใจคิดกันดีหนิ!" เขาพูดพึมพัมกับตัวเอง ท่าทางที่เขากระชากใยแมงมุมออกจากตัวและน้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
    "ถึงข้าจะเข้าความฝันไม่ได้อีก ไม่ได้แปลว่าเจ้าจะหยุดข้าได้หรอกนะสตีฟ!" ชายผู้หน้าตาเหมือนสตีฟทุกประการประกาศกร้าว ตาอันไร้สีดำของเขาคล้ายกับว่ากำลังลุกโชติช่วงด้วยความโกรธ
    "ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามีความสุขไปมากกว่าข้าหรอกนะ.." ชายผู้นั้นกล่าว ก่อนจะหายวับไปจากโลกใต้จิตสำนึกของสตีฟไปในพริบตา


    ...การสอบเข้าม.4ของไรท์มันจบลงแล้วค่ะ เย่!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×