ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พิธีชำระบาป
พรมสีแดงที่ทอดยาวจากตัวปราสาทถูกโรยด้วยกรีบกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์  เด็กหนุ่มรูปร่างบอบบางก้าวเดินไปตามที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อเข้าสู่พิธีชำระบาป  ดอกไม้ที่มีสีขาวราวหิมะนานาชนิดถูกจัดเรียงรายไว้ตามข้างทาง 
เขาก้าวเข้าไปในห้องพิธี  มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้วและข้างหน้ามีจอมปราชญ์ยืนรออยู่  เขาคุกเข่าลงพร้อมกับเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ
เสียงบทสวดดังแผ่วๆอยู่เบื้องบน  บทสวดที่เขาไม่เข้าใจในความหมาย  มันดังแผ่วๆแต่กลับไม่ยอมจบ  เหมือนเวลาจะผ่านไปนานแสนนานจนเขาอยากจะลุกเดินออกจากห้องไปแต่ก็ไม่อาจทำตามใจปรารถนาได้  เสียงบทสวดทอดยาวและสิ้นสุดลงเป็นสัญญาณให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วราวกับว่าเสียงของเขาจะออกมาเองโดยไม่ทันสั่ง เขาได้ยินตนเองกล่าวว่าขอบคุณทั้งๆที่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด 
ไข่สีเงินปรากฎขึ้นบนมือของเขา 
“มันจะเป็นของเจ้า” กระแสเสียงที่เป็นเหมือนดังมนต์สะกดดังมาจากจอมปราชญ์ข้างหน้า 
\"มันจะเป็นของข้าตราบสิ้นชีวา\"เขากล่าวรับ  แล้วโค้งให้แก่นักปราชญ์ 
เขาก้าวเดินไปตามทางข้างหน้าที่ดูใกล้เพียงไขว้คว้าแต่ในความรู้สึกนั้นช่างไกลเกินเอื้อม  พาร่างบางเดินตรงไปที่บัลลังก์คุกเข่าลงอีกครั้งหน้ากษัตริย์แห่ง planetoid ฉวยมือของกษตริย์ผู้สูงส่ง  บรรงจงประทับริมฝีปากลงบนหลังมือนั้นอย่างแผ่วเบา 
\"ข้าจักขอสัตย์สาบานต่อท่านจ้าวแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่  ว่าชีวิตนี้จักหาไม่เพื่อแดนดิน เลือดหลั่งราวรินไหลก็จักไม่บิดเบือนบัญชา สิ่งใดท่านประสงค์ข้าจักนำมาถวายทุกสิ่งสรรพ  แม้มีเพียงชีวาก็ขอแลกเพื่อองค์ราชันย์\"
\"ขอเพียงแค่เจ้านั้นซื่อสัตย์ต่อข้า  เซลเรส  ข้าก็พอใจแล้ว\" กษัตริย์บนบัลลังก์กล่าวตอบ \" ข้ายกชีวิตของเจ้าให้ซาเร็ตคงดีกว่า\"
\"ท่านอย่ากล่าวเช่นนี้เลย\" เซลเรสส่ายหัว \"ข้านั้นย่อมภักดีต่อแผ่นดิน  นี่คือสิ่งที่ข้าเกิดมาเพื่อแบกรับ\"
\"เจ้าไม่จำเป็นต้องแบกรับ  วางมันไว้เสียที่นี่\"
\"แต่ข้ากลับชอบที่จะแบกมันเสียมากกว่า  กษัตริย์แห่งข้า\" เซลเรสว่าแล้วโค้งคำนับ  เดินออกจากห้อง 
“เสร์จซะที” เด็กหนุ่มตะโกนออกมาหลังจากต้องทนอยู่ในห้องพิธี  แสงแดดอ่อนของยามเช้ายังคงทอแสงสว่างโลมเลียใบหน้าสวยๆให้ดูอ่อนหวานยิ่งขึ้นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงเมื่อต้องสู้กับแสงแดด  ลมเบาๆพัดผมสีน้ำตาลที่ออกจะเข้มกว่าสีน้ำตาลของนัยน์ตาให้พริ้วไหว  ริมฝีปากบางแดงระเรื่องแย้มออกเป็นรอยยิ้ม
“นายน่าจะรอให้พ้นวังก่อนนะ” น้ำเสียงของเพื่อนร่วมพิธีดังมาจากข้างหลัง  ในมือถือไข่สีแดงเพลิงอย่างที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสัตว์ประเภทไหนจะออกมาจากไข่ใบนั้นแล้วร่างที่ดูจะแข็งแรงยิ่งกว่าก็เดินตรงมาหา  สบกับนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนมองที่ไข่สีเงินอย่างมาดหมายแล้วยิ่งต้องแย้มรอยยิ้ม
“เอาน่าซาเร็ต นายก็รู้ว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว” เซลเรสตอบกลับเสียงใส  ชูไข่ในมืออวดเพราะไข่ของตนดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า  สีเงินอมเทามันยากแก่การเดาว่าสัตว์ประเภทไหนจะออกมา
“อวดอยู่ได้”เด็กหนุ่มผู้มีชื่อว่าซาเร็ตตอบ  พร้อมโยนไข่ในมือขึ้นลง  “ฉันชอบมันนะ  ประเภทไฟ  แต่ของนายสิเดายาก”  ซาเร็ตว่าพร้อมวิ่งไปหวังจะคว้าไข่ที่ดูจะเต็มไปด้วยปริศนาของคนชั่งอวด  แต่เจ้าตัวดีกลับเร็วกว่ากระโดดหลบแถมแย่งไข่สีแดงมาไว้ในมือได้อย่างไม่ต้องออกแรง
“ร่าเริงกันจริงนะ” เสียงเย็นๆของเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันดังขัดจังหวะการหยอกล้อ  ที่ข้างตัวมีสัตว์รูปร่างแปลกตายืนอยู่ข้างๆ
ถ้าเป็นไปได้พวกเขาไม่อยากอยู่เสวนากับเด็กหนุ่มคนนี้เลยแต่เจ้าตัวแสบก็ไม่ยอมที่จะเดินเลี่ยงหรือหลบหน้า
รอยยิ้มกวนประสาทผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าที่ออกจะหวานเหมือนผู้หญิงมากกว่าหล่อเหมือนผู้ชาย  “ถ้านายอยากเล่นด้วยก็ได้นะ”  คำชวนที่ไร้ความจริงใจอย่างสิ้นเชิงจากเด็กหนุ่มหน้าหวานมันทำให้อารมณ์ของคนถูกชวนพุ่งสูง
“ไม่ละ ฉันไม่มีเวลามาทำตัวไร้สาระหรอก”  แต่ถ้าโกรธก็จะเป็นฝ่ายแพ้จึงกัดฟันกรอดตอบออกไป
ซาเร็ตเห็นการสนทนาที่กำลังมันแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้  ทำท่าจะคว้าไข่สีเงินมันมาสักหน่อย  แต่เพื่อนข้างตัวก็มีสามาธิดีเยี่ยมรีบเปลี่ยนข้างถือ  แต่การกระทำนั้นดันไปเข้าทีของเจ้าตัวแสบซะได้
“นี่เรามาพนันกันมั้ยว่าไข่ใบนี้จะมีสัตว์ประเภทไหนออกมา”ซาเร็ตพนันออกไปโดยที่เจ้าของยังไม่ได้เห็นชอบด้วยแต่จะค้านก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเสียหน้าเลยต้องสวมหน้ากากวางมาดกวนประสาทเอาไว้แล้วรีบระดมสมองคิดแผนแก้แค้นคนข้างๆ  เมื่อความคิดดีๆผุดขึ้นมาในสมองก็ต้องยิ้มพรายอย่างอารมณ์ดี
“โดยมีไข่ของซาเร็ตเป็นเดิมพัน” เจ้าตัวรีบบอกก่อนที่คนถูกท้าจะรับปากยอมพนัน
“เล่นอะไรนะเซลเรส” ซาเร็ตกระซิบเสียงเครียด
“นายเริ่มก่อนนะซาเร็ต” เจ้าตัวว่าพลางยิ้มกริ่มถึงเจ้าคนตรงหน้าจะแน่สักแค่ไหนก็คงไม่กล้าพอที่จะมาตอแยกับข้อเสนอนี้สักเท่าไหร่  เพราะถึงมันจะชนะมันก็ไม่มีสิทธิ์เอาไข่ของซาเร็ตไปและถ้ามันแพ้มันก็ต้องเสียเงินพนันด้วย  ยิ่งคิดก็ยิ่งถูกใจกับความคิดของตน  “นายคงไม่อยากเอาสัตว์เลี้ยงขององค์ชายไปเก็บไว้หรอกนะ”  ไม่ชอบเก็บความคิดของตนไว้คนเดียวเลยต้องย้ำเตือนมันอีกสักหน่อย 
เจ้าเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆพึ่งเข้าใจแผนการของเขาจากสีหน้าเครียดขรึมเลยเปลี่ยนเป็นยิ้มร่า  ถูกใจกับแผนนี้
ไอ้คนถูกท้าก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกยืนนิ่งยังกะรูปสลัก  “ข้าไม่ชอบพนัน” 
เขาก้าวเข้าไปในห้องพิธี  มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ก่อนแล้วและข้างหน้ามีจอมปราชญ์ยืนรออยู่  เขาคุกเข่าลงพร้อมกับเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ
เสียงบทสวดดังแผ่วๆอยู่เบื้องบน  บทสวดที่เขาไม่เข้าใจในความหมาย  มันดังแผ่วๆแต่กลับไม่ยอมจบ  เหมือนเวลาจะผ่านไปนานแสนนานจนเขาอยากจะลุกเดินออกจากห้องไปแต่ก็ไม่อาจทำตามใจปรารถนาได้  เสียงบทสวดทอดยาวและสิ้นสุดลงเป็นสัญญาณให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วราวกับว่าเสียงของเขาจะออกมาเองโดยไม่ทันสั่ง เขาได้ยินตนเองกล่าวว่าขอบคุณทั้งๆที่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด 
ไข่สีเงินปรากฎขึ้นบนมือของเขา 
“มันจะเป็นของเจ้า” กระแสเสียงที่เป็นเหมือนดังมนต์สะกดดังมาจากจอมปราชญ์ข้างหน้า 
\"มันจะเป็นของข้าตราบสิ้นชีวา\"เขากล่าวรับ  แล้วโค้งให้แก่นักปราชญ์ 
เขาก้าวเดินไปตามทางข้างหน้าที่ดูใกล้เพียงไขว้คว้าแต่ในความรู้สึกนั้นช่างไกลเกินเอื้อม  พาร่างบางเดินตรงไปที่บัลลังก์คุกเข่าลงอีกครั้งหน้ากษัตริย์แห่ง planetoid ฉวยมือของกษตริย์ผู้สูงส่ง  บรรงจงประทับริมฝีปากลงบนหลังมือนั้นอย่างแผ่วเบา 
\"ข้าจักขอสัตย์สาบานต่อท่านจ้าวแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่  ว่าชีวิตนี้จักหาไม่เพื่อแดนดิน เลือดหลั่งราวรินไหลก็จักไม่บิดเบือนบัญชา สิ่งใดท่านประสงค์ข้าจักนำมาถวายทุกสิ่งสรรพ  แม้มีเพียงชีวาก็ขอแลกเพื่อองค์ราชันย์\"
\"ขอเพียงแค่เจ้านั้นซื่อสัตย์ต่อข้า  เซลเรส  ข้าก็พอใจแล้ว\" กษัตริย์บนบัลลังก์กล่าวตอบ \" ข้ายกชีวิตของเจ้าให้ซาเร็ตคงดีกว่า\"
\"ท่านอย่ากล่าวเช่นนี้เลย\" เซลเรสส่ายหัว \"ข้านั้นย่อมภักดีต่อแผ่นดิน  นี่คือสิ่งที่ข้าเกิดมาเพื่อแบกรับ\"
\"เจ้าไม่จำเป็นต้องแบกรับ  วางมันไว้เสียที่นี่\"
\"แต่ข้ากลับชอบที่จะแบกมันเสียมากกว่า  กษัตริย์แห่งข้า\" เซลเรสว่าแล้วโค้งคำนับ  เดินออกจากห้อง 
“เสร์จซะที” เด็กหนุ่มตะโกนออกมาหลังจากต้องทนอยู่ในห้องพิธี  แสงแดดอ่อนของยามเช้ายังคงทอแสงสว่างโลมเลียใบหน้าสวยๆให้ดูอ่อนหวานยิ่งขึ้นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหรี่ลงเมื่อต้องสู้กับแสงแดด  ลมเบาๆพัดผมสีน้ำตาลที่ออกจะเข้มกว่าสีน้ำตาลของนัยน์ตาให้พริ้วไหว  ริมฝีปากบางแดงระเรื่องแย้มออกเป็นรอยยิ้ม
“นายน่าจะรอให้พ้นวังก่อนนะ” น้ำเสียงของเพื่อนร่วมพิธีดังมาจากข้างหลัง  ในมือถือไข่สีแดงเพลิงอย่างที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสัตว์ประเภทไหนจะออกมาจากไข่ใบนั้นแล้วร่างที่ดูจะแข็งแรงยิ่งกว่าก็เดินตรงมาหา  สบกับนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนมองที่ไข่สีเงินอย่างมาดหมายแล้วยิ่งต้องแย้มรอยยิ้ม
“เอาน่าซาเร็ต นายก็รู้ว่าฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว” เซลเรสตอบกลับเสียงใส  ชูไข่ในมืออวดเพราะไข่ของตนดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า  สีเงินอมเทามันยากแก่การเดาว่าสัตว์ประเภทไหนจะออกมา
“อวดอยู่ได้”เด็กหนุ่มผู้มีชื่อว่าซาเร็ตตอบ  พร้อมโยนไข่ในมือขึ้นลง  “ฉันชอบมันนะ  ประเภทไฟ  แต่ของนายสิเดายาก”  ซาเร็ตว่าพร้อมวิ่งไปหวังจะคว้าไข่ที่ดูจะเต็มไปด้วยปริศนาของคนชั่งอวด  แต่เจ้าตัวดีกลับเร็วกว่ากระโดดหลบแถมแย่งไข่สีแดงมาไว้ในมือได้อย่างไม่ต้องออกแรง
“ร่าเริงกันจริงนะ” เสียงเย็นๆของเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันดังขัดจังหวะการหยอกล้อ  ที่ข้างตัวมีสัตว์รูปร่างแปลกตายืนอยู่ข้างๆ
ถ้าเป็นไปได้พวกเขาไม่อยากอยู่เสวนากับเด็กหนุ่มคนนี้เลยแต่เจ้าตัวแสบก็ไม่ยอมที่จะเดินเลี่ยงหรือหลบหน้า
รอยยิ้มกวนประสาทผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าที่ออกจะหวานเหมือนผู้หญิงมากกว่าหล่อเหมือนผู้ชาย  “ถ้านายอยากเล่นด้วยก็ได้นะ”  คำชวนที่ไร้ความจริงใจอย่างสิ้นเชิงจากเด็กหนุ่มหน้าหวานมันทำให้อารมณ์ของคนถูกชวนพุ่งสูง
“ไม่ละ ฉันไม่มีเวลามาทำตัวไร้สาระหรอก”  แต่ถ้าโกรธก็จะเป็นฝ่ายแพ้จึงกัดฟันกรอดตอบออกไป
ซาเร็ตเห็นการสนทนาที่กำลังมันแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้  ทำท่าจะคว้าไข่สีเงินมันมาสักหน่อย  แต่เพื่อนข้างตัวก็มีสามาธิดีเยี่ยมรีบเปลี่ยนข้างถือ  แต่การกระทำนั้นดันไปเข้าทีของเจ้าตัวแสบซะได้
“นี่เรามาพนันกันมั้ยว่าไข่ใบนี้จะมีสัตว์ประเภทไหนออกมา”ซาเร็ตพนันออกไปโดยที่เจ้าของยังไม่ได้เห็นชอบด้วยแต่จะค้านก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเสียหน้าเลยต้องสวมหน้ากากวางมาดกวนประสาทเอาไว้แล้วรีบระดมสมองคิดแผนแก้แค้นคนข้างๆ  เมื่อความคิดดีๆผุดขึ้นมาในสมองก็ต้องยิ้มพรายอย่างอารมณ์ดี
“โดยมีไข่ของซาเร็ตเป็นเดิมพัน” เจ้าตัวรีบบอกก่อนที่คนถูกท้าจะรับปากยอมพนัน
“เล่นอะไรนะเซลเรส” ซาเร็ตกระซิบเสียงเครียด
“นายเริ่มก่อนนะซาเร็ต” เจ้าตัวว่าพลางยิ้มกริ่มถึงเจ้าคนตรงหน้าจะแน่สักแค่ไหนก็คงไม่กล้าพอที่จะมาตอแยกับข้อเสนอนี้สักเท่าไหร่  เพราะถึงมันจะชนะมันก็ไม่มีสิทธิ์เอาไข่ของซาเร็ตไปและถ้ามันแพ้มันก็ต้องเสียเงินพนันด้วย  ยิ่งคิดก็ยิ่งถูกใจกับความคิดของตน  “นายคงไม่อยากเอาสัตว์เลี้ยงขององค์ชายไปเก็บไว้หรอกนะ”  ไม่ชอบเก็บความคิดของตนไว้คนเดียวเลยต้องย้ำเตือนมันอีกสักหน่อย 
เจ้าเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆพึ่งเข้าใจแผนการของเขาจากสีหน้าเครียดขรึมเลยเปลี่ยนเป็นยิ้มร่า  ถูกใจกับแผนนี้
ไอ้คนถูกท้าก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกยืนนิ่งยังกะรูปสลัก  “ข้าไม่ชอบพนัน” 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น