อัศวินกับสิ่งที่ตามหา - อัศวินกับสิ่งที่ตามหา นิยาย อัศวินกับสิ่งที่ตามหา : Dek-D.com - Writer

    อัศวินกับสิ่งที่ตามหา

    อัศวินผู้ลุ่มหลงมัวเมา... หลงอยู่ในวงเวียนของความยิ่งใหญ่ จนลืมเรื่องสำคัญไปจนสิ้น ลืมแม้กระทั่งองค์ราชา!!

    ผู้เข้าชมรวม

    539

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    539

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ส.ค. 47 / 14:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ข้า...อัศวินผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน...ข้า...อัศวินผู้เพียบพร้อมด้วยทุกสิ่ง... แต่ทำไม...ทำไมข้าถึงยังหาสิ่งนั้นไม่พบ......ทำไมข้าถึงยังไม่อาจไขความข้องใจนี้ได้...

      ข้า...อัศวินผู้ปราดเปรื่อง...ข้า...อัศวินผู้เลิศเลอ...แล้วเหตุใด...ข้าถึงยังไม่อาจเข้าใจในสิ่งที่องค์ราชันย์ได้ตรัสไว้...อะไรคือสิ่งที่ข้าต้องค้นหา...
      จอกศักดิ์สิทธ์งั้นหรือ... ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดเช่นนั้น  มันเป็นเรื่องในอดีตที่ข้าไม่รู้ว่าผ่านไปนานแสนนานเท่าไหร่  แต่ข้าเคยวาดฝันว่าตนเป็นอัศวินผู้เกรียงไกร  กำลังทำงานอันยิ่งใหญ่...และก็เคยคิดว่าตนจะเป็นผู้ค้นพบวัตถุอันเป็นปริศนานี้...แต่ทว่าตอนนี้ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าคิดมันผิด...  รู้ลึกถึงแก่นวิญญาณ  ตราลึกถึงก้นบึ้งแห่งความทะยานอยาก...สิ่งที่สอนข้าให้เข้าใจ  สิ่งที่ชี้นำให้ข้ารู้...ไม่ใช่สิ่งอื่นใด...แต่มันคือความล้มเหลวนับร้อยนับพันครั้ง  มันคือความผิดหวังที่พังครืนลงมาแทบเท้า  มันคือความเจ็บที่รู้ว่าสิ่งที่ตนไล่ตามเป็นเพียงธาตุอากาศ...ไม่มีตัวตนและ...ไม่อาจสัมผัสได้

      งั้นอะไรละ...อะไรคือสิ่งที่ข้าเฝ้าตามหา...อะไรคือสิ่งที่องค์ราชันต้องการ...แม้ตอนนี้ข้าก็ยังไม่อาจตอบได้  ข้าได้แต่เดินหน้าต่อไปราวคนตาบอด  ย่ำเดินอย่างไร้จุดหมาย...ไม่มีความหวังใดๆในกายให้ข้าใช้มันเป็นแหล่งพักพิงยามท้อถอย...
      แสงแดดที่สาดส่องต้องตัวข้าเป็นเพียงสัญญาณบ่งชี้ถึงวันเวลาที่ผันผ่าน...ใช่...ครั้งหนึ่ง...เมื่อตอนที่ข้าเคยรุ่งโรจน์...ข้าเคยเปรียบตนเองว่าเป็นเหมือนดั่งแสงอาทิตย์ที่คอยส่องนำทางให้ผู้คน...เปรียบเสมือนพระเจ้าที่กำความอยู่รอดของผู้คนเอาไว้ในมือ...ข้าเริ่มปลีกตัวจากผู้คน...ถอยห่างจากมนุษย์ผู้โสมม...ข้าเริ่มกลัวที่จะแปดเปื้อน...ข้าเริ่มหวาดหวั่นว่าตนจะถูกฉุดรั้งให้ตกลงสู่ความมืดมิด...ใช่...ข้าคือพระเจ้า...พระเจ้าผู้บริสุทธิ์...

      ผู้คนเริ่มมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ...ข้าไม่สน...พวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาสามัญ...พวกเขาไม่มีวันเข้าใจถึงวิถีทางแห่งพระเจ้า...ข้าผู้ซึ่งเป็นพระเจ้าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะก้มหัวให้ใคร...ไม่เว้นแม้แต่องค์กษัตริย์...ถ้าไม่มีข้า...ถ้าไม่มีอัศวินผู้เก่งกาจอย่างข้า...องค์ราชันย์ก็คงเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาผู้ไม่มีอำนาจอะไร...องค์ราชันย์ต้องพึ่งพาข้าเสมอ...

      แต่...ณ  เวลานี้...ข้ามีเพียงความอดสูที่เอ่อล้นอยู่ในกาย  มีเพียงบาดแผลที่กรีดลึกลงในใจ...ไม่มีความภาคภูมิใจคอยหล่อเลี้ยง...ตอนนี้ข้ารู้ซึ้ง...รู้ดีว่าตนก็ไม่ต่างจากพวกมนุษย์ธรรมดาสามัญ...รู้ดีว่าตนนั้นห่างไกลจากคำว่าพระเจ้ามากมายนัก...

      ข้าทอดสายตามองไปเบื้องหน้า...กำแพงหินอันสูงใหญ่ที่แสนจะคุ้นตาตั้งเด่นเสียดฟ้า...ข้าก้มมองสองมือที่ว่างเปล่า...ก่อนจะรวบรวมความกล้าที่มีเดินหน้าต่อไป...เดินตรงสู่ประตู...ข้าเดินต่อไปด้วยความเร็วที่ลดน้อยลงทุกๆย่างก้าว...แล้วข้าก็ชะงักงันเมื่อสัมผัสถึงกลิ่นไออันน่าเกรงขามของประตูที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

      ...ข้างในคือปราสาท...  ข้าย้ำบอกกับตนเอง  ...องค์ราชันประทับอยู่ข้างใน...  

      ข้าแตะมือกับบานประตูอย่างแผ่วเบา...ความเย็นเยียบของเหล็กกล้าแผ่ซ่านในความรู้สึก...ข้าเริ่มออกแรงผลักและมันก็เคลื่อนตัวออกจากกันอย่างช้าๆ...ข้าเดินเข้าไป...

      ข้าเดินผ่านหลายสิ่งหลายอย่าง...รับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่ตัวข้า...รู้ถึงนิ้วมือที่ชี้ชวนกันให้หันมามองข้าที่กำลังฝืนเดินต่อไปอย่างยากลำบาก...เท้าของข้าหนักอึ้ง...ตอนนี้ประตูสู่ห้องโถงใหญ่เปิดออกราวมัจจุราชที่ง้างเคียวไว้รอรับข้า...องค์ราชันนั่งอยู่บนบัลลังก์...ร่างอันสง่างามประทับนิ่งมองตรงมาที่ข้า...ร่างกายของข้าปฏิเสธที่จะก้าวเข้าไป...ข้าก้มมองสองมือที่ว่างเปล่าอีกครั้ง...ข้าชูสองมือขึ้นมอง...กำลังสลักความจริงลงไปในใจ...

      ...ข้าล้มเหลว...ข้าทำให้องค์ราชันผิดหวัง...  

      ข้าเริ่มก้าวเดินอีกครั้งด้วยความรู้สึกหม่นหมองมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว...ข้าหลุบตาต่ำเสมองพื้นด้วยความอับอาย...แต่ข้าคืออัศวิน...ข้าจะไม่หนีความจริง...ความกล้าที่ใกล้จะมอดดับเต็มทีเป็นเหมือนแรงผลักดันเพียงอย่างเดียวที่หลงเหลือ...ข้าลดตัวลงคุกเข่าอยู่แทบเท้าองค์ราชันย์...ข้าปิดปากนิ่งสนิทไม่คิดที่จะกล่าวคำแก้ตัวใดๆ...แต่แล้วข้าก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อสัมผัสกับความอบอุ่นที่ไหล่...ฝ่ามืออันหยาบกร้านเพราะงานที่ท่านทรงตรากตรำทำมาเป็นระยะเวลาหลายปีออกแรงบีบเบาๆที่ไหล่ข้าแทนคำตอบใดๆ  รอยยิ้มอันอบอุ่นละมุนละไมพร่าพรายบนใบหน้า  

      และวินาทีนี้เองที่ข้าได้ตระหนักถึงความสำเร็จ...วินาทีที่รอยยิ้มจริงใจถูกส่งมา...ข้าก็รู้...รู้ว่าสิ่งที่องค์ราชันย์ต้องการคือสิ่งใด...

      ข้ายิ้มตอบ...ข้ารู้ว่ารอยยิ้มของข้าคงเป็นได้เพียงรอยยิ้มอันอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า...แต่ข้าก็ยิ้มจากใจ...

      สิ่งที่องค์ราชันย์ต้องการ...คือสิ่งที่ข้าได้หลงลืมไปเนิ่นนาน...

      ...ตัวตนและจิตวิญญาณของอัศวิน...ตัวตนที่แท้จริงซึ่งสูญหาย

      ข้ามิใช่พระเจ้า...ข้านั้นห่างไกลจากนักปราชญ์ผู้ฉลาดหลักแหลม...ข้านั้นหรือเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน...เป็นได้เพียงอัศวินผู้โง่เขลา...หากใครถามว่าข้าคือใคร...ข้านั้นไซร้จักตอบกลับ...ว่าข้านี้คือทาสแห่งแผ่นดิน...บอกว่าเป็นเพียงข้ารับใช้แห่งราชัน

      light

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×