ตอนที่ 11 : ตอนที่ 10 : การปะทะกันของหมาและคน(1)
ตอนที่ 10 การปะทะกันของหมาและคน(1) 03/02/2557
อากาศเย็นๆที่เกิดจากลมพัดปะทะเข้ากับละอองจากน้ำตกทำให้อากาศในถ้ำค่อนข้างชื้นบวกกับความเย็นของพนังหินทำให้เหมือนอยู่ในห้องแอร์ที่แสนเย็นสบาย บรรยากาศที่เย็นเหมือนฝนตกใหม่ทำให้คนที่นอนอยู่คร้านที่จะตื่นหากไม่ใช่สัมผัสนุ่มๆของอะไรบางอย่างที่ปัดผ่านผิวแก้ม
เปลือกตาสีขาวกระพริบถี่ก่อนจะลืมขึ้นช้าๆจะพบบางอย่างที่วูบไหวไปมาด้านข้างแก้ม แกว่งไปทางซ้ายทีขวาทีจนคนมองได้แต่ถอนหายใจและตัดสินใจเอื้อมมือไปจับเจ้าสิ่งนั้นไว้มันหยุดเคลื่อนไหวไปมา แต่พอเขาปล่อยมันก็โบกไปมาอีกรอบเหมือนสนุกเสียเหลือเกินกับการโบกหางสั้นๆใส่แก้มเขา
“แกปลุกฉันดีๆไม่เป็นรึไงห๊ะ”มือขาวขยุ้มคอตัวปัญหาขึ้นมา พลิกจากท่านอนตะแคงมาเป็นนอนหงายพร้อมกับมือที่หิ้วเอาเจ้าก้อนปุกปุยสีดำขึ้นมาชูไว้ตรงหน้า
บ๊อก!!
เสียงเห่าเบาๆพร้อมลิ้นสีแดงที่สดที่แลบออกมา มองยังไงก็ดูน่าลักน่าฆ่าทิ้งจริงๆนั้นแหละ
“แล้วไอ้หมานั้นไปไหนของมัน”เจ้าขนปุยที่เขาเพิ่งปล่อยลงข้างตัวเงยขึ้นมองเหมือนจะสงสัยว่าเขาถามหาหมาที่ไหนในเมื่อมันก็อยู่ข้างๆ
“ฉันไม่ได้หมายถึงแก ว่าแต่ช่างเถอะ..”คนที่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างกลับเงียบไปเพราะคิดสะระตะไปแล้วหากเขาถามว่ามันมาอยู่ที่นี้ได้ไง เขาคงบ้าไม่น้อยที่คิดถามแบบนั้นกับหมาที่ไม่สามารถอ้าปากตอบให้เขาได้
ส่วนไอ้หมานั้นเขายังไม่เห็นมันและไม่รู้สึกถึงการมาของมันก็หมายความว่าเมื่อคืนมันไม่มา ประสาทสัมผัสของเขาไม่น่าพลาดหากมันกลับมาจริงเขาก็น่าจะรู้สึกตัว ส่วนไอ้หมาขนปุยนั้นคงอยู่ในข้อยกเว้นที่สัญชาตญาณของเขาไม่เคยจับการมาของมันได้สักที
“เฮ้อ”ร่างขาวๆผุดลุกขึ้นจากฟูกนอนที่ยึดเป็นของตัวเองเมื่อคืนนี้ ยืนบิดซ้ายขวาก่อนจะพบว่าแม้ร่างกายฝืดๆไปบ้างแต่แผลก็หายดีเกือบเต็มร้อย แผลกระสุนก็จางไปมากเหลือแค่เจ็บจี๊ดๆคงเพราะยาดี
ดวงตาสีเทาเบิกกว้างเมื่อคิดถึงยาดีและวิธีการป้อนยาเมื่อวานขนทั่วแขนขาก็พร้อมจะพากันลุกชันที่แน่ๆไม่ได้เกิดจากอากาศหนาวเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อแน่ๆ
ดวงตาสีเทากวาดไปทั่วผนังถ้ำแสงแดดที่สาดส่องมาทางช่องที่เปิดออกสู่น้ำตกและช่องบนเพดานถ้ำทำให้มองเห็นบริเวณโดยรอบได้ดีกว่าปกติ ทางเดินมืดที่เขาเห็นเมื่อวานกลายเป็นทางเดินสว่างๆที่มีซอกมีแง่งให้ค้นหา หินงอกหินย้อยเปล่งประกายสะท้อนกับแสงแดดถ้าไม่นับเรื่องความรกก็นับว่าเจ้าหมานั้นหาที่อยู่ได้ดีไม่น้อย
ขายาวๆก้าวไปตามเส้นทางเดิมที่เจ้าหมานั้นเคยพาเขาไปดูปืนแต่เดินไปได้แค่พักเดียวเขาก็เลี้ยวไปอีกด้านจำได้ว่าไอ้หมายักษ์นั้นมันทักเขาเอาไว้ว่าเขาคงอยากอาบน้ำ มือขาววางเปะปะไปตามทางเดินกว้างขนาดที่คนโตๆสวนกันได้ค่อนข้างลำบาก แนวแตกที่ร่องหินทำให้มองเห็นทางเดินจากแสงแดดที่รอดเข้ามาและเมื่อมองไปด้านล่างผ่านร่องหินที่แตกขนาดที่คนเท่าเขาจะกระโดดออกไปได้สบายก็พบว่าด้านล่างเป็นเหมือนผาขนาดเล็ก ตกลงไปคงไม่สวยแต่หากกระโดดพุ่งไปเกาะต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปเกือบจะ 2เมตรมันก็เป็นเส้นทางไปน้ำตกที่น่าตื่นเต้นดีไม่น้อย
เขาละสายตาจากภาพมุมด้านข้างของน้ำตกก่อนจะเดินเรื่อยเข้าไปข้างใน ความมืดที่เริ่มมากขึ้นทำให้เขาเริ่มหงุดหงิดและเผลอคิดไปว่าโดนเจ้าหมานั้นหลอกแต่ก่อนจะได้กรนด่ามันในใจก็พบแสงสว่างเบื้องหน้าที่สาดส่องลงมาจากโพรงถ้ำกว้างเกือบ 2 เมตรที่ด้านบนปกคลุมด้วยเถาวัลย์หนา ทำให้แสงแดดที่ส่องผ่านใบของพวกมันเข้ามากลายเป็นจุดสีส้มเล็กๆที่วูบไหวได้ยามเมื่อลมผ่าน ริมฝีปากสีส้มยกยิ้มให้ตัวเองก่อนจะเดินผ่านแนวแสงธรรมชาติเขาไปด้านใน
ซอกหินแตกเป็นแนวเล็กๆขนาดกว้างประมาณ 2 ฟุตที่มีน้ำตกไหลพุ่งลงมาทำให้ดูเหมือนซาวเว่อร์อาบน้ำดีๆนี้เอง
“อาบน้ำด้วยกันไหมซ๊อค”ริมฝีปากสีส้มสดเหยียดยิ้มให้ลูกหมาขนปุยที่ยืนอยู่ห่างออกไปเกือบ 2 เมตรหลังแนวแสง
“เหอะ ไอ้หมาสกปรก”ว่าเสร็จคนว่าก็ยื่นมือเขาไปใต้น้ำก่อนจะพบว่าน้ำนั้นเย็นเหมือนแช่น้ำแข็ง มือขาวสะอาดรองน้ำเย็นๆมาลูบหน้าหลายๆครั้งก่อนจะค่อยๆปลดกางเกงผ้าสีน้ำตาลเนื้อหนาพร้อมรองเท้าสานที่ชินริหามาแทนเฟอรากาโม่คู่เก่าออกแล้วโยนพวกมันทิ้งไปด้านที่เจ้าหมาขนปุยนั้นอยู่
“หึ ฉันไม่ชอบให้ใครมาดูตอนอาบน้ำนะจำไว้”ก้อนกลมๆที่โดนกางเกงทับค่อยๆมุดออกมาจนกระทั่งหัวเล็กๆนั้นสามารถโผล่ออกมาจากกองผ้าได้
ภาพที่สะท้อนผ่านดวงตาสีดำคู่โตคือภาพขาวสร่างที่ยืนอยู่ใต้สายน้ำตกขนาดเล็ก เส้นผมสีทองสะท้อนแสงแดดยามเช้าเป็นประกายเหมือนเส้นไหม เวลาโดนน้ำและมือขาวๆนั้นลากผ่านก็ราบไหวยาวไปจรดต้นคอขาว ดวงตาสีเทาที่ปกติจะทอประกายดุกลับหลับพริ้มใต้ละอองน้ำที่สาดกระเซ็นมาโดนใบหน้า ก่อนมือขาวๆนั้นจะลูบน้ำผ่านหน้าผากเกลี้ยงเกลาลงมาที่คิ้วสีทองสวย ผ่านสันจมูกโด่งและสิ้นสุดที่ริมฝีปากสีส้มที่ชอบพูดคำแปลกๆที่ไม่เหมือนภาษาของมัน
ใบหน้าได้รูปนั้นเงยหน้ารับน้ำอีกครั้งปล่อยให้หยดน้ำหยดจากปลายคางได้รูปไหลเรื่อยลงมาตามคอยาวขาว แอ่งกระดูกที่ไหล่ แผงอกที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ จุดแต้มสีชมพูสดบนหน้าอก แนวกล้ามเนื้อที่วางเรียงเป็นคู่ๆ1 คู่ 2 คู่ 3 คู่ แนวสะดือที่บุ๋มเข้าไป ไรขนอ่อนที่แทบจะกลืนไปกับสีผิวลากยาวเป็นเส้นตรงลงมาด้านล่าง... ภาพในดวงตานั้นเปลี่ยนมุมเมื่อแขนยาวนั้นเอื้อมไปเท้ากับพนังก้มหน้าลงปล่อยให้สายน้ำไหล่เรี่ยลงมาตามแผ่นหลังกว้าง สะบักไหล่ แนวกล้ามเนื้อที่ค่อยๆลู่ลงก่อนจะผายออกอีกครั้งพร้อมแนวโค้งที่นูนขึ้นเป็น.....
“โอ๊ะ สะดวกดีแหะ”ดวงตาสีดำกลมตวัดมองมือขาวๆเอื้อมออกไปข้างสายน้ำตรงจุดที่มีรอยแตกยาวๆพอให้กิ่งไม้ 2-3 กิ่งจะลอดเข้ามาได้ ใบไม้สีเขียวๆที่กลิ่นค่อนข้างฉุนแต่ใช้สระผมแล้วสบายหัวอย่างหน้าเหลือเชื่อ
ใบไม้ 4-5 ใบในมือถูกขยี้ผสมกับน้ำจนเป็นฟองก่อนจะนำมาสระผม เขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันคือใบอะไร รู้แค่ว่าชินริแนะนำกับเขาว่ามันสระผมได้แค่ขยี้ให้เป็นฟองเอามาขยี้กับผมแล้วล้างออกก็แค่นั้น
มือขาวๆนั้นสระผมไปช้าๆพอให้ทั่วก่อนจะล้างออกแล้วเอื้อมมือไปหยิบเอาใบไม้ของอีกต้นขึ้นมาขยี้ผสมกับดอกไม้สีม่วงสดจนเกิดฟองหากเป็นที่บ้านชินริเขาคงไม่ต้องมาขยี้เองเพราะชินริจะตากแห้งแล้วเก็บเอาไว้สำหรับอาบน้ำโดยเฉพาะแต่ที่นี้ก็นับว่าโชคดีที่ต้นไม้พวกนี้มาขึ้นอยู่ข้างๆที่อาบน้ำ
มือขาวๆลูบเอาฟองของใบไม้ไปตามลำตัวช้าๆ ก่อนจะขัดไปตามท่อนขายาวเคลื่อนผ่านรอยแผลเป็นจากกระสุนที่เขาเป็นคนกรีดออกและรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดยาวๆถากอีกข้างหนึ่ง แผลเป็นที่เขาไม่เคยภาคภูมิใจกับมัน
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ใครมาดูฉันอาบน้ำ”ใบหน้าเหลี่ยมเล็กเอียงมองด้วยความสงสัยก่อนดวงตาสีดำคู่โตจะเบิ่งกว้างเมื่อโดนหิ้วคอเข้าไปใต้น้ำตกจนขนดำๆนั้นเปียกลู่ มือขาวๆเอื้อมหยิบใบไม้สำหรับสระผมก่อนจะขยี้ลงบนตัวหมาที่พอขนลีบแล้วดูตลกมากกว่าน่ารัก
“แกนะมันสกปรกต้องอาบบ่อยๆรู้ไหม”ว่าไปมือก็ค่อยขยี้ไปตามขนสีดำนั้นเร็วๆ ขัดไปทุกซอกทุกมุมจนแน่ใจว่าทั่วจึงยกตัวลูกหมาขึ้นไปใต้น้ำตกให้น้ำสาดโดนล้างฟองออกจากขนลีบๆนั้น
หงิง หงิง!!
“อะไรแค่นี้ทำเป็นหนาวแล้วเหรอ”ริมฝีปากจุดยิ้มขำเมื่อหมาตัวเปียกสั่นเป็นเจ้าเข้าเหมือนหมากลัวผี
ฮัดชิ้ว!!
จมูกสีดำสั้นๆจามออกมาครั้งใหญ่ พาทำให้คนที่ไม่ชอบสิ่งมีชีวิตเล็กๆนึกเอ็นดูมันขึ้นมา
“เป็นหมาต้องอดทนรู้ไหม”ปากว่าไปนั้นก่อนจะวางเจ้าตัวเล็กลงบนพื้นให้สะบัดจนน้ำกระจาย มือที่กำลังเอื้อมไปหยิบกางเกงพลันนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่เอาเสื้อมาจากบ้านชินริเลย เฮ้อ แบบนี้คงต้องใส่ตัวเก่าไปก่อนแล้วลงไปเอาซะแล้วหละมั้ง
“ซ๊อค จำทางไปบ้านชินริได้ไหม”หมาเจ้าของชื่อหันมามองก่อนจะสะบัดก้นเดินออกไปทั้งเปียกๆเหมือนงอน
“เฮ้ย อย่ามางอนนะโว๊ย พาฉันไปบ้านชินริซะดีๆ”คนที่แต่งตัวด้วยกางเกงเรียบร้อยแล้วเดินตามหมาขนลีบออกไปยังโถงถ้ำกวาดตามองหาเสื้อตัวเองที่วางกองๆไว้ด้านข้างฟูกขึ้นมาสวม ตั้งใจว่าคงต้องลงไปหาชินริซักที เขาหายมาก็นานมากแล้ว สาวเจ้าอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าเขาหายมาเพราะไอ้หมานรก 1 วันเต็ม แต่อย่างน้อยๆเขาก็ควรโผล่หน้าไปให้เห็น ก่อนจะตัดสินใจต่อไปว่าจะทำยังต่อ
“ไปกันเถอะซ๊อค”คาเซอริโอหันไปเรียกเจ้าลูกหมาที่ขนเริ่มแห้งหลังจากเก็บข้าวของเสร็จ เจ้าตัวเล็กเดินนำออกไปตามทางเดินมืดๆที่เจ้าหมาบ้านั้นวิ่งหายไปเมื่อวาน พอเป็นตอนกลางวันถึงได้รู้สึกว่าสว่างขึ้นมาหน่อย ทางเดินกว้างประมาณ2 เมตรขนาบข้างด้วยหินแข็งแรงสลับ คดเคี้ยวกันไป หากทำเป็นที่ซ่อนมันคงมีข้อเสียที่ไม่สามารถสังเกตศัตรูได้จากจุดที่พัก แต่ข้อดีของมันคือความก้องของผนังหากไม่เดินเข้ามาดีๆแบบเงียบๆคนด้านในคงไหวตัวทันและหากจะหนีก็คงหนีได้ไม่ยากเพราะถ้ำที่มีซอกทางเดินมากขนาดนี้หากชำนานก็เป็นชัยภูมิที่ได้เปรียบแม้เขาจะเป็นมาเฟียที่ถนัดซ่อนตัวบนซากตึกหรือกองข้าวของมากกว่าแต่ก็ยังอดที่จะชอบถ้ำนี้ไม่ได้
หลังเดินออกมาซักพักภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือปากทางเข้าถ้ำที่ปกคลุมด้วยแนวต้นไม้และเถาวัลย์มองผ่านๆคงมองไม่เห็นทางเข้า เศษดินที่เริ่มปะปนกับเศษหินทำให้มองไม่เห็นรอยเท้าของเจ้าหมาป่านั้นว่าหายไปทางไหน หึ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาหรอกนะที่จะไปสนใจว่ามันหายไปไหน
ขายาวๆก้าวตามหมาตัวจ้อยที่เดินออกไปด้านขวา ไต่เรียบไปตามแนวหินช้าๆ ทางเดินที่ลาดลงเรื่อยๆพร้อมเสียงน้ำตกที่แว่วห่างออกไป หากวัดจากพื้นราบก็นับว่าเป็นถ้ำที่ไม่สูงมากนักไม่ต้องตะเกียดตะกายขึ้นไป จากที่ตั้งของถ้ำน่าจะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำอาเรมและที่ตั้งของกลุ่ม ถ้ำในภูเขานั้นน่าจะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอาเรม
“ชักช้าเกินไปแล้ว”เมื่อเข้าใกล้แนวป่าที่เริ่มคุ้นตามือขาวก็ฉวยเอาเจ้าตัวเล็กมาอุ้มไว้ในมือข้างหนึ่ง ดวงตาสีเทากวาดมองไปทั่วๆแนวป่าที่เริ่มบางลงก่อนจะเริ่มมองเห็นบ้านหลังแรกที่เก่าโทรมเหมือนไม่มีคนอยู่ ถัดมาคือบ้านใต้ต้นไม้ของช่างไม้คาเพนเตอร์ บรรดาหมาในร่างคนยังคงมองเขาด้วยสายตาแปลกๆเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนไปคือจำนวนคนในหมู่บ้านน้อยลง บรรดาตัวผู้ในหมู่บ้านหายไปมากโดยเฉพาะพวกตัวรุ่นๆกับเจ้าหมานั้น พวกที่ยังอยู่ก็ดูเหมือนจะเคร่งเครียดมองทุกคนตาขวางๆกันหมด หึ คงไม่พ้นแผนที่เมื่อวานที่เขาให้เจ้าหมานั้นไป ป่านนี้อาจจะกำลังกระจายกำลังกันตรวจตามจุดกากบาทบนแผนที่นั้นก็ได้ อย่างน้อยการให้แผนที่กับเจ้าหมานั้นไปก็ไม่เสียเปล่าซะทีเดียวและดูเหมือนจะคุ้มค่าที่จะลงทุนหละนะ
ปลายเท้าหยุดชะงักเมื่อก้าวมาถึงบ้านต้นไม้ที่คุ้นเคย ความเงียบที่ปกคลุมเรียกให้ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาแต่เจ้าตัวก็ทำเพียงปัดมันออกไปและยกมือเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้คิ้วเรียวสีทองขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ประตูไม่ได้ล็อคตามธรรมดาของบรรดาหมาๆทั้งหลายที่ไม่ชอบล็อคประตูบ้าน เขาเคยแย้งไปแล้วรอบหนึ่งว่าเจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงน่าจะล็อคซักหน่อยแต่ชินริก็ทำเพียงยิ้มสว่างกลับมาเท่านั้น ทำให้เขาเลิกที่จะแย้งเพราะยังไงซะความคิดของคนอย่างเขาก็ไม่เหมือนกับพวกหมาปีศาจอยู่แล้ว
“ชินริ”คาเซอริโอออกปากเรียกในความเงียบ ลางสังหรณ์บางอย่างเรียกให้เลิกผ้าสีน้ำตาลตุ่นๆที่ปิดห้องสาวเจ้าไว้ออก ภายในห้องเงียบไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต ขายาวๆก้าวไปอีกฟากเลิกผ้าดูห้องของเจ้าชินอูก่อนจะพบความว่างเปล่าอีกครั้ง ความรู้สึกแปลกๆที่รู้สึกเมื่อก้าวมาถึงบ้านตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง
ขายาวๆก้าวไปที่อีกฟากบ้านซึ่งเคยเป็นที่นอนของเขาเลิกผ้าปูออกก่อนจะคว้าเอาห่อผ้าหนาๆขึ้นมา มือสองข้างรีบถลกขากางเกงข้างขวาขึ้นก่อนจะมัดซองมีดที่ขอให้ชินริเย็บให้ลงไปใส่มีดด้ามยาวลงแล้วรั้งกางเกงลงมาปิดเหมือนเดิมแล้วเลิกขากางเกงข้างซ้ายขึ้นตรวจสอบซองมีดสั้นที่เขามักพกติดตัวเสมอๆว่ายังเรียบร้อย ซองปืนที่เอวถูกคว้าขึ้นมาจากห่อผ้า มือขาวปลดแม๊กกาซีนลูกรักทั้งสองที่อุตสาห์นั่งทำความสะอาดทั้งคืนขึ้นมาเซ็คลูกกระสุนก่อนจะประกอบลงไปตามเดิมและเก็บเข้าซองที่เอวดึงเสื้อลงมาปิดให้เรียบร้อย Colt 1902military 2 กระบอก กับกระสุนนอกอีก 20 นัด ไม่พร้อมเท่าไหร่ นี้อาจเป็นครั้งแรกที่คนอย่างคาเซอริโอนึกไม่อยากยิงปืนขึ้นมาชั่วแว๊บ
“ตามมา ฉันยังจำเป็นต้องใช้จมูกของแกช่วย”มือขาวคว้าคอลูกหมาขนปุยสีดำขึ้นมาก่อนจะเดินเร็วๆไปที่เป้าหมายต่อไป ที่ๆอาจจะบอกเขาได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง
“หมอ”
ปัง!!
ประตูไม้บานหน้าถูกถีบออกกระแทกกับพนังดังโครม
“อ๊ะ คุณคาโลไปไหนมาครับ เมื่อคืน..”
“เจ้านั้นอยู่ไหน”
“ใครครับ”
“ผู้ช่วยหมอ ไอ้คนที่ตาเล็กๆมีผ้าพันแผลที่หัวนั้นนะ”
“อ๋อ คุณริวจิ ทำไมเหรอครับ”
“ฉันถามว่ามันไปไหน”มือใหญ่กระชากแขนหมอร่างเล็กมาเขย่าด้วยแรงอารมณ์
“เออ คุณคาโลครับผม..”
“เฮ้อ โทษที ฉันใจร้อนไปหน่อย ตอนนี้ฉันยังบอกอะไรไม่ได้นะ แต่ช่วยบอกทีว่าเจ้านั้นมันไปไหน”คาเซอริโอรีบปล่อยแขนที่เขาบีบจนแน่นออก เจ้าของแขนคลำแขนปรอยเหมือนเจ็บ
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ปกติเขาจะมาหาผมทุกเช้าแต่วันนี้ก็ยังไม่เห็นมาเลยสงสัยจะตื่นสายหละมั้ง”
“เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
“เมื่อวานตอนเย็นๆหละมั้งครับ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินปกติเขาก็กลับบ้านเวลานั้น”คิ้วสีทองขมวดฉับใช้ความคิด เมื่อวานหลังพระอาทิตย์ตกดินเขาก็ให้แผนที่นั้นกับเจ้าหมาไป จากถ้ำมาถึงนี้ใช้เวลาไม่กี่นาที
“พวกหมาตัวผู้ไปไหนหมด”
“อ๊ะ เอ่อ หมายถึงพวกผู้ชายเหรอครับ ผมเห็นวิ่งออกไปช่วงหัวค่ำนะครับ ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย แปลกเหมือนกันนะครับที่พวกเขาหายกันไปนานแบบนี้ ปกติต้องส่งคนกลับมาเปลี่ยนเวรไปแล้วแท้ๆ”ยังไม่กลับมา หากดูจากระยะทางในแผนที่ถ้าพวกหมานั้นคิดจะไปดูทุกจุดตามแผนที่มันก็คงจะใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมา เจ้าบ้านั้นก็ดันมาหายไปแบบนี้อีกสังหรณ์ใจแปลกๆ
“วันนี้พวกผู้หญิงไปไหน”
“เอ่อ ไปซักผ้าตามปกตินั้นแหละครับ ก็วันนี้ครบรอบซักผ้าพอดี”พอดีเกินไปนะสิ เจ้าริวจินั้นต้องออกไปหลังจากที่รู้ว่าพวกตัวผู้ออกไปแน่ๆ ถ้าแบบนี้มันก็หมายความว่า
บรู๊ววว!!
“เสียงอะไรนะ”
“เสียงหอนแบบนี้มัน การสื่อสารของพวกเขานะครับ แต่ผมว่ามัน……”
“ของริวจิ ของไอ้บ้านั้นอะไรก็ได้หยิบมาให้ที เร็วๆเข้า”
“อ๊ะ ครับๆ”หมอฮิโตะรีบหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านก่อนจะกลับออกมาพร้อมผ้าผืนใหญ่ 1 ผืน
“อ๊ะ นี้ครับผ้ารองไหล่เขาใช้ประจำเวลาเขาเอาตะกร้าไปเก็บสมุนไพร”มือขาวคว้าเอาผ้าผืนใหญ่ยื่นไปให้เจ้าลูกหมาที่ทำจมูกฟุดฟิตดมก่อนจะคว้าเอา Colt 1902military มากระชับไว้ในมือขวา
“คุณคาโลเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”เสียงถามดังสั่นๆเมื่อมองเห็นอาวุธในมือเขา
“ฉันก็ยังไม่แน่ใจ นายรออยู่ที่นี้เตรียมตัวให้ดี แต่ถ้าเจอพวกที่ไปล่าตระเวนกลับมาหรือใครก็ได้ที่มันไว้ใจได้บอกให้ไปหาฉันที เข้าใจนะ”ว่าจบมือใหญ่ก็คว้าคอหมาสีดำมาไว้ในมืออีกข้างและผลุนผลันวิ่งไปทางแม่น้ำ ภาวนาให้ลางสังหรณ์และอะไรที่เผลอคิดไปไม่เกิดขึ้น ขอให้ทันทีเถอะ ชินริ
=======================================
Aloha นักอ่านที่น่ารัก กลับมาอีกครั้งตามสัญญาต้นเดือนกุมภาพันธ์ หุหุ
ตอนนี้เริ่มปั่นจริงๆคือวันที่ 3 แต่งไปได้ครึ่งตอน เป็นครึ่งตอนที่แสนหวาดเสียว เพราะมันมีฉาก ฉากกกก อาบน้ำของคาเซอริโอ อ๊ากก นางมารบ้าไปแล่น เป็นฉากที่แต่งไปยิ้มเขินไป น้ำลายหยดแหมะๆไป แหมๆ เหมือนแอบดูคนหล่ออาบน้ำเลยแหะ ซู๊ด(แอบสูดน้ำลายตัวเองเล็กน้อย) ยอมรับว่าตอนนี้ อิโรติคมากๆ ชนะฉากอาบน้ำของหนูชิเรียวเรื่อง vateria ขาดลอย หุหุ เป็นฉากที่เขียนไปคนเขียนก็ยิ้มไปด้วยความถูกใจมากๆ
ส่วนครึ่งหลังมาปั่นเอาวันนี้ตั้งแต่เที่ยงยันเย็น ทำไมมันไม่เสร็จสักทีหละนั้น อุ๊บ๊ะ ไปๆมาๆตอนเดียวยาวเกือบ 40 หน้า A4 มิน่ากว่าจะเสร็จ(ปกตินางมารชอบปั่นให้เสร็จเป็นตอนๆไม่อยากเขียนขาดตอนอ่ะคะ อิอิ) ในเมื่อมองเห็นความยาวของมันขนาดนี้จึงหั่นตอนซะ แยกๆออกมาเป็นทั้งหมด 3 ตอนคะ
ส่วนล่างของตอนค่อนข้างจะเครียดและดูตื่นเต้นขึ้นมาอีกแล้ว พ่อหนุ่มคาโลของเราชักปืนขึ้นมาอีกแล้ว งานนี้มียิงกันตายอีกชัวร์ (อืม นิยายเรื่องนี้อยู่หมวดแฟนตาซีแต่ไหงมันฉาก action เยอะขนาดนี้หละเนี่ย) นอกจากยกปืนแล้วคาเซอริโอของเรายังประกาศลั่นว่าจะไปช่วยชินริอีกด้วย เกิดอะไรขึ้นกับชินริ ทำไมหนุ่มๆของเราต้องไปช่วยสตรีทั้งๆที่มันเป็นเรื่อง yaoi ตอนหน้าต้องติดตาม พบกันอาทิตย์หน้าคะ
ปล. นางมารสังเกตเห็นว่าแฟนพันธุ์แท้ของนิยายเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งน่ายินดียิ่ง comment แต่ละตอนก็มากขึ้นแต่ฉะไหน comment ถึงน้อยกว่า fanclub ไปได้หละเนี่ย แปลกๆนะเนี่ย -_-
จอมเวทย์ที่ถูกลืม ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คะ อิอิ ใช่คร๊า คาเซอริโอมีแววเป็นได้ทั้งรุกและรับ(แม้จะยังไม่เคยรับให้ใครก็เถอะ) ผู้เข้าวินผ่านรุกรวมพ่องูด้วยเหรอคะเนี่ย ในจินตนาการนางมารแล้วพ่องูของเราเนี่ยเขาดูจะสวยๆกว่าคาโลซะอีกนะคะ แต่เหมือนนักอ่านหลายท่านจะไม่คิดแบบนางมาร
WindyZz รักนวลสงวนตัวรอพ่องู เอิ่ม อิตาคาโลเหมือนจะห่างไกลคำว่ารักนวลสงวนตัวไปพอสมควรนะคะเนี่ย
silver_มังกร ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คะ ในที่สุดก็มีนักอ่านเห็นว่าคาโลมีแววเป็นฝ่ายรุกขึ้นมาอีกคนแล้ว (ปลื้มแทนเจ้าตัวจริงๆ)
Ash-Grey มีการจับกลุ่มเป็นแฟนคลับพ่องูอันเหนียวแน่น น่าปลื้มแทนพ่องูเขาจริงๆ
โอ้ที่รักกกก. นายสวยมากกกก
จริงๆเราชอบเคะสวยมากกว่าน่ารักนะ...
แต่ก็เห็นด้วยกับคคห.40จริงๆนั่นแหละ.......คาโลจังง(ปัง!//หลบกระสุน)
ว่าแต่ประโยค ''-อย่างหน้าเหลือเชื่อ'' ---> ''-อย่างน่าเหลือเชื่อ''
ควรใช้คำว่าน่ามากกว่าหน้านะค่ะ เพราะ หน้า หมายถึง หน้าคนใช้กับการแสดงสีหน้า หน้าตกใจ หน้าแดง ฯลฯ
ส่วน น่า หมายถึง น่ารัก น่าตกใจ น่าสนุก ฯลฯ
และเราก็เห็นด้วยกับ คห.40 และ คห.47ด้วยค่ะอิอิ
ขอช่วยภาวนาอย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับชินริ
...อันแหน่ะ มีห่วง(?)ด้วยอ่ะ โลลลล ห่วงอะดิ่ ห่วงซาเวียร์อะเดดดดดดด้ //เผ่น
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2557 / 19:59
แต่เมะนี่ เดาไม่ออกแหะ มีหลายคนเกิน