ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #25 : พบเจออีกครั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 50
      0
      14 ส.ค. 57

    1

    พบเจออีกครั้ง

     

                …หกปีต่อมา

     

                หญิงสาวร่างบางก้าวยาวไปตามทางเดินอย่างกระฉับกระเฉง ผมสีดำเกล้าเป็นมวยไว้ด้านหลังแบบหลวมๆ หลุดลุ่ย มือกอดแฟ้มแนบไว้ที่หน้าอก เป็นภาพที่หลายคนพบเห็นจนคุ้นเคยในช่วงเวลานี้

                กาลเวลาได้แปรเปลี่ยนจากเด็กสาวกลายมาเป็นหญิงสาว จากผมที่สั้นแตะบ่ามาเป็นผมสีดำยาวถึงกลายหลัง จากใบหน้าจิ้มลิ้มกลายเป็นอ่อนหวาน จากเด็กสาวธรรมดาที่เอ่ยถ้อยน้อยกว่ายิ้ม วางตัวเรียบง่ายกลายมาเป็นหญิงสาวช่างเจรจาที่มีบุคลิกเจิดจ้าสะดุดตาผู้คน

                อชิเดินเลี้ยวเมื่อมาถึงหัวมุม ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องหนึ่ง  นิ่งคิดทบทวนถึงคำตอบที่เตรียมมาทั้งคืน ก่อนจะเคาะประตูพอเป็นมารยาทแล้วเดินพรวดเข้าไปทันที

                 ฉันมาปฏิเสธ

                หญิงสาวเอ่ยขึ้นขณะกวาดตามองผู้ชายสองคนภายในห้อง คนหนึ่งที่ยืนอยู่ เจ้าของผมสีอ่อนและดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่เธออย่างประหลาดใจและสนอกสนใจ ขณะที่ชายอีกคนซึ่งกำลังนั่งก้มหน้ายุ่งวุ่นวายกับกองเอกสารบนโต๊ะ ผมเพ้าฟูยุ่ง เป็นช่วงเวลาสักครู่หนึ่งกว่าที่เจ้าของของห้องจะมีปฏิกิริยาตอบรับการมาของเธอ แล้วเงยหน้าขึ้น

                “คุณ!”

                อชิอ้าปากค้าง เมื่อใบหน้าที่ปรากฏชัดแก่สายตาคือใบหน้าของคนคุ้นเคย

                เอาล่ะ ฉันโดนเด็กนายปฏิเสธแล้วสิ ฝากคุยด้วยแล้วกัน

                ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่เอ่ยขึ้นมาขัดบรรยากาศในความตกตะลึงของอชิ หญิงสาวหันมองเขาซึ่งกำลังเดินจากไปโดยทิ้งเธอเอาไว้กับชายคนที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้มาเจอกันอีกในสถานการณ์เช่นนี้

                หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหกปี…” ชายหนุ่มยิ้มประหลาด พร้อมกับว่าช้าๆ ดูเหมือนว่าสิ่งแรกที่ผมได้ยินจากคุณจะเป็นคำปฏิเสธ

                “พี่เทวา?”

                หญิงสาวยืนตัวแข็ง  กระพริบตามองหนึ่งในคนที่หายไปจากชีวิตเธอมานาน

                ยินดีที่ได้เจอคุณนะอชิ

                ชายหนุ่มยิ้ม ดวงตาคมปลาบที่ซ่อนอยู่หลังเลนส์ทอประกายวิบวับ

                ไม่ได้เจอกันนานนะคะเธอว่า คุณเป็นยังไงบ้าง

                “อย่างที่เห็นนะเทวาขยับแว่น ชีวิตผมยุ่งวุ่นวายขึ้นมาพอสมควรเมื่อออกมาอยู่คนเดียวคุณได้อ่านหนังสือที่ผมส่งไปให้จบมั้ย

                “ทุกเล่ม

                เธอตอบสั้นๆ พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ลงนั่ง ยังคงแปลกประหลาดใจไม่หายที่ได้มาเจอคนที่เธอไม่คาดคิดในสถานที่ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แม้ว่าเขาจะหายไปจากชีวิตของเธอมานาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยืนยันตัวตนของเขาในชีวิตเธอถูกส่งมาเสมอสำหรับวันเกิดของเธอในทุกปีที่ผ่านมาคือหนังสือหนึ่งเล่มถ้วนไม่มีพร่อง

                ใครจะไปคิดว่านักจิตวิทยาที่เธอบ่นนักบ่นหนาว่าไร้มารยาท เอาแต่ใจจะเป็นเทวาไปได้ ทีแรกเขาติดต่อผ่านหัวหน้าของเธอมาอีกทีว่าเพื่อนของเขาอยากให้เธอย้ายไปทำงานด้วย แต่หญิงสาวพอใจกับสถานภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ดีอยู่แล้ว และสาขาที่เธอเรียนมาก็ไม่ได้จะไปเกี่ยวกับจิตวิทยาแต่อย่างใดจึงปฏิเสธไป ทว่าเขายังคงไม่ยอม ดึงดันส่งข้อมูลมาให้อีก สุดท้ายก็ขอให้เธอไปพบเพื่อพูดคุยในวันนี้

                ด้วยเหตุนี้ทีแรกหญิงสาวจึงเตรียมคำปฏิเสธไปพูดใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างหัวเสีย

                คุณยังดูเหมือนเดิมนะ

                หญิงสาวจ้องมองเขาราวกับได้เห็นอะไรที่แปลกประหลาด นี่เป็นหนึ่งในคำทักที่เธอไม่ได้ยินมานานมากแล้ว

                แปลกนะคะ มีแต่คนบอกว่าฉันเปลี่ยนไป

                “ผมเห็นคุณเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แค่อาจจะดูเป็นตัวคุณมากขึ้นมาอีกหน่อย

                อชิพยักหน้ารับน้อยๆ แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่นัก

                แต่ฉันกลับรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไปนิดหน่อย

                หญิงสาวเอ่ยทัก ลอบมองรอยแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายซึ่งยืนยันข่าวลือที่เธอได้ยินมา รูปร่างภายนอกของเทวายังคงดูเหมือนเดิมราวกับเป็นคนเดียวกับเมื่อหกปีก่อน เขายังคงไว้ผมยาวเหมือนเดิมแม้ว่าในเวลานี้จะอยู่ในสภาพยุ่งนิดๆ ยังคงสวมแว่นแบบเดิม และมีดวงตาคมปลาบเช่นเดียวกับที่เธอเห็นนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ

                หากแต่มีบรรยากาศบางอย่างที่ต่างออกไป

                อาจจะเป็นความรู้สึกอิสระที่ผมเพิ่งจะได้มาน่ะ หกปีที่ผมไม่ได้เจอคุณเลย ผมใช้ความพยายามทั้งหมดที่จะทวงเอาอิสระคืนมาหญิงสาวพยักหน้าเรียบๆ ชายหนุ่มพูดขึ้นมาอีก ได้ยินว่างานจบของคุณทำเรื่องเกี่ยวกับคาวาน ทำอะไรบ้าบิ่นไม่เบานะ

                “ฉันเลยถูกส่งตัวมาทำงานที่นี่ไงเธอบ่น

                หลังจากที่เรียนจบในระดับอุดมศึกษา หญิงสาวก็ถูกส่งตัวมายังเขต 13 ซึ่งจัดว่าเป็นเขตที่แร้นแค้นและด้อยพัฒนาที่สุดรองจากเขต 5 ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ

                อยู่ดีๆ ชายหนุ่มก็มองเธอยิ้มๆ แล้วหัวเราะออกมา

                มีอะไรหรือเปล่าคะ

                อชิจ้องมองคนตรงหน้าอย่างงุนงง

                เปล่า ผมแค่นึกถึงตอนที่ผมเจอคุณแรกๆ นะชายหนุ่มพูดพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ตอนนั้นคุณนั่งตัวแข็งอยู่ในห้องแนะแนว ดูเกร็งๆ แต่กลับตอบคำถามได้ฉะฉานเสียจนผมอดทึ่งไม่ได้ แล้วครั้งต่อๆ มาที่เราเจอกันอีก คุณกลับนิ่งเฉยและสุภาพเสียจนผมต้องเป็นฝ่ายเกร็งแทนและพอเจอกันครั้งนี้ คุณก็ปฏิเสธผมทันทีเลย

                “…ไม่ทันดูว่าเป็นคุณนี่

                หญิงสาวพึมพำ รู้สึกขัดเขินเล็กน้อย

                สรุปว่าคุณจะยอมย้ายมาเป็นผู้ช่วยให้เพื่อนผมมั้ยชายหนุ่มถามขึ้น

                ฉันไม่แน่ใจว่าจะเป็นให้ได้น่ะค่ะ แล้วฉันก็ติดงานที่นี่อยู่

                “คุณพูดอย่างนี้เพราะคิดปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่ทันอ่านรายละเอียดดีน่ะสิ

                เทวาว่าอย่างรู้ทัน

    ฉัน…”

    เขาไม่ใช้งานคุณหนักหรอก งานตรงสายกับที่คุณจบมานั่นล่ะเทวาบอกยิ้มๆ ถ้ายังไงช่วยกลับไปอ่านรายละเอียดแล้วพิจารนาให้ผมอีกทีนะครับ

    ค่ะ

    หญิงสาวรับคำ พร้อมกับส่งยิ้มให้เทวา

     

    อชิเดินออกมาจากห้องทำงานของเทวา ก่อนจะหยุดยืนพิงกำแพงแล้วจ้องมองเพดานพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    หญิงสาวไม่คาดคิดเลยว่าอยู่ๆ เธอจะได้เจอกับคนซึ่งหายเงียบไปนานอย่างเทวา เธอได้ยินข่าวลือหลายอย่างเกี่ยวกับเขามา ซึ่งก็ล้วนแต่จะทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่เสมอ

    หลังจากที่เกิดเรื่องที่กุลินหายไปได้ไม่นาน เทวาก็ขอออกจากกลุ่มของหมอทัศนัยพร้อมกับย้ายข้าวของออกจากบ้านไปด้วย อันนี้เป็นเรื่องที่เธอลอบถามมาจากพ่อของเธอ ซึ่งเวลานี้ยังอยู่สุขสบายดีรวมถึงแม่ของเธอ และอีกครั้งที่เธอได้ยินข่าวลือนั้นมาจากการพูดคุยระหว่างเพื่อนสาวของเธอว่าเทวาได้หมั้นกับลูกสาวของนายแพทย์คนหนึ่ง

    ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาน่าจะเป็นไปได้ดีไม่น่าจะถูกส่งตัวมาที่เขตห่างไกลอย่างเขต 13 ได้เลย

    อาจจะเหมือนอย่างเธอก็ได้ หญิงสาวซึ่งถูกใครต่อใครคาดหวังมาแต่เด็กว่าจะต้องก้าวไปไกล หน้าที่การงานดี มีตำแหน่ง อาจไปได้ไกลถึงการเป็นผู้คุมกฎในอนาคต แต่ที่เธอเลือกเป็นคือจะใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ทั้งที่อาจารย์หลายคนเอ็นดูเธอ ชมเชยว่าเธอขยันเรียนดี ทว่าเธอกลับไม่ทำตามคำแนะนำทั้งหลายของพวกเขา และสุดท้ายก็เลือกจะหนีมาที่นี่ตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษางานจบซึ่งเป็นคนเดียวที่เข้าใจเธอ

    คาวานจะผิดหวังในตัวเธอไหมเธอย้ำถามตัวเองอย่างนี้อยู่หลายครั้ง

                ผ่านมาหกปีแล้ว เด็กสาวยังคงรักษาสัญญาด้วยการเก็บกล่องข้อมูลเอาไว้เป็นอย่างดี เธอพกมันติดตัวอยู่ตลอดราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เพียงแต่เสียดายที่เธอไม่เห็นหนทางจะนำข้อมูลอันมีค่ามหาศาลนี้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์

                หญิงสาวเหลือบมองเวลาที่ข้อมือ

                สักพักร่างของเธอก็เลือนหายไป

     

                อชิมาปรากฏตัวอีกครั้งที่สถานที่ทำงาน เป็นสถานที่ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์โลกในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้ง 13 เขต แต่เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมคืบหน้ามานานแล้ว จึงไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่นัก นักประวัติศาสตร์ที่ทำงานตรงนี้ก็ดูราวกับจะเป็นพวกหมาหัวเน่านอกคอก ดูเหมือนว่าในความคิดของผู้คุมกฏแล้ว การขุดคุ้ยเทคโนโลยีในยุคสุดท้ายก่อนอารยธรรมโลกเก่าจะล่มสลายกลับมาใช้งานให้ได้มากที่สุดจึงจะเป็นเรื่องที่คุ้มค่าแก่การสนับสนุน

                แต่เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่ซึ่งอยู่นอกสายตา หญิงสาวจึงสามารถรวบรวมงานอย่างอื่นมาแอบเก็บเอาไว้ในที่แห่งนี้ได้อย่างสะดวกใจ

                หญิงสาวกวาดตาไปรอบตัว ก่อนจะพบว่าเธอกลับมาในเวลาที่เขาพากันเลิกงานแล้ว แต่นี่ก็เพิ่งจะแค่บ่ายสามเท่านั้น หลังจากที่เริ่มฝึกงานมาได้สักระยะ เธอก็เริ่มจะปลงกับสภาพเฉื่อยเนือยของคนที่นี่

                “อ้าวอชิ วันนี้หัวหน้าให้เธอเลิกงานก่อนเพื่อไปทำธุระไม่ใช่หรือ

                เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักขณะที่เธอและเพื่อนคนอื่นๆ เริ่มจะเก็บของกลับบ้าน

                ได้เจอนักจิตวิทยาเอาแต่ใจที่ตื๊อให้เธอไปช่วยงานหรือยังอีกฝ่ายแซวขึ้น

                ค่ะ เจอแล้ว

                อชิพยักหน้าอย่างปลงๆ ดันเป็นคนที่เธอไม่คาดคิดด้วยสิ

                คุณตอบเขาไปว่าไงชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มนั้นถามขึ้น

                ตอบไปว่าขอคิดดูก่อนน่ะค่ะ

                “แล้วนี่เธอยังจะมาทำงานต่ออีกเหรอเจ้าหน้าที่หญิงถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นเอกสารในมืออชิ ปกติเธอก็เลิกช้าตลอดเลย

                “ค่ะหญิงสาวตอบสั้นๆ

                ถ้าอย่างนั้นพวกพี่ไปก่อนนะ

                พวกเขาจ้องมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะโบกไม้โบกมือลา แล้วพากันเดินออกไป

                ไม่นานก็เหลือเพียงเธอคนเดียวในสถานที่แห่งนี้ อชิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะคว้าเอกสารกองหนึ่งขึ้นมากอด ฝุ่นคลุ้งกระจายจนหญิงสาวปิดปากจาม สักพักจึงเริ่มไล่ตรวจดูฟอสซิลที่เพิ่งจะถูกขนย้ายเข้ามาใหม่เมื่อวานเพียงลำพัง

                “…ยังทำงานอยู่อีกหรือ

                หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน เมื่อร่างหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง

                อาจารย์เจตนา!?” อชิโค้งศีรษะลงทันทีเมื่อตั้งสติได้ มาทำอะไรที่นี่หรือคะ

                “มีธุระที่เขตนี้พอดี เลยคิดจะมาดูเธอเสียหน่อย

                ชายชราว่าเรียบๆ เขาเป็นผู้ชายสูงวัยที่ยังคงดูกระฉับกระเฉง ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่ง ผมขาวโพลนเกือบทั้งศรีษะ หยักศกและยาวเลยบ่าลงมา เกือบจะดูคล้ายอาจารย์เจตน์ในแบบบวกอายุไปอีกสามสิบ

                หญิงสาวได้รับข่าวมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอได้เข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาว่าพ่อของอาจารย์เจตน์มีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์สอนอยู่ที่นี่ หากแต่เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าอาจารย์ท่านนี้แหละที่จะมาเป็นที่ปรึกษางานจบให้กับเธอ และยอมให้เธอทำวิจัยในหัวข้อที่อาจารย์ทุกท่านล้วนแต่ส่ายหน้าหนี ความโชคดีของเธอทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เธอเคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เจตน์ของเธอมาก่อน

                ดูเหมือนว่านับตั้งแต่เกิดการปล่อยตัวคนจำนวนหนึ่งอย่างลึกลับโดยมีชื่อของคาวานมาเกี่ยวข้องคาวานก็ดูราวกับเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์โลกเก่าต้องห้าม

                งานน่าเบื่อไหมเจตนาถาม

                ตัวงานไม่น่าเบื่อหรอกค่ะ แต่คนที่นี่ไม่ค่อยกระตือรือร้นหญิงสาวตอบ ชายชราพยักหน้าเรียบๆ มีข่าวเรื่องอาจารย์เจตน์มาบ้างมั้ยคะ

                “มีแต่ข่าวบางๆ ที่เชื่อถือไม่ค่อยได้ผู้เป็นอาจารย์ส่ายหน้า ไม่นึกเลยว่าลูกชายฉันจะทำเรื่องอย่างนี้ แต่ก่อนผมคิดว่าลูกชายผมมันเอาจริงเอาจังเกินไป ไม่นึกว่าบทจะบ้าก็บ้าเอาเรื่อง นี่ทำเอาหัวหมุนกันไปหมด

                อชิยิ้มเจื่อน ถึงอย่างไรอาจารย์เจตน์ก็เป็นอาจารย์ของเธอเช่นกัน      

                “เออปีนี้หลานผมจะต้องเรียนเสริมแล้ว ผมอยากขอคุณไปเป็นคนสอนให้เธอหน่อย

                อชิกระพริบตาปริบๆ หากเป็นก่อนหน้าจะเจอเทวา หญิงสาวคงรับคำอย่างยินดีแทบจะทันที แต่พอมาได้ฟังตอนนี้ เธอก็รู้สึกราวกับว่าระยะนี้เธอชักจะเริ่มรับงานมาเยอะไป

                ได้ค่ะ หนูยินดี

                “ดีเลย ผมค่อยโล่งอก นอกจากคุณแล้วผมก็ไม่ไว้ใจคนอื่น ผมไม่อยากให้หลานสาวผมโตมาแบบถูกล้างสมอง แต่ก็อย่าไปทำให้เธอเกิดบ้าขึ้นมาอย่างพ่อเขาล่ะ

                ระหว่างที่อาจารย์เจตน์หายตัวไป ลูกสาวของอาจารย์เจตน์ก็ถูกส่งมาอยู่กับปู่ของเธอ ซึ่งก็คืออาจารย์เจตนา

                แต่อาจารย์คงไม่ได้มาหาหนูด้วยเรื่องนี้ใช่มั้ยคะอชิถามขึ้น

                แน่ล่ะ ผมก็แก่แล้วคุณ มาทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้ม

                เอ้อ

                “เออนี่ไม่ใช่กะโหลกของพวกออสตราโลพิคัสนะ น่าจะเป็นโฮมินิดพันธุ์อื่นมากกว่าชายชราชี้ไปที่เอกสารทางวิชาการที่วางกองอยู่ ถึงทางการจะละเลยยังไงก็ไม่น่าจะปล่อยให้มั่วขนาดนี้นะ

                โฮมินิดหมายถึงสัตว์สายพันธุ์คล้ายมนุษย์ โฮมินิดในแต่ละพันธุ์อาจเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์หรือไม่ก็ได้

    บางครั้งอชิก็อดคิดไม่ได้ ว่าอาจารย์เจตน์นั้นนิสัยแตกต่างกับผู้เป็นพ่อมากอยู่ทีเดียว หญิงสาวนึกไปถึงสมัยที่เธอเคยเรียนกับอาจารย์เจตน์ เธอพบว่าอาจารย์เจตน์นั้นในบางเวลาก็ทั้งดุทั้งเข้มงวดอยู่มากทีเดียว แต่นอกเหนือจากเวลาสอนแล้วก็ค่อนข้างเงียบขรึม ในขณะที่อาจารย์เจตนานั้นไฮเปอร์ หญิงสาวต้องพยายามตามเรื่องให้ทันเสียจนหัวหมุนอยู่บ่อยๆ

    เอ้อ คุณทำงานไปก่อนนะ เดี๋ยวผมมาใหม่

    อยู่ๆ อาจารย์เจตนาก็พูดขึ้นมาหลังจากที่เงยหน้าขึ้นจากนัล

    งานด่วนหรือคะ

    ใช่ชายชราตอบ ใต้ตากระตุก  เมียผมน่ะ

    หญิงสาวกระพริบตาถี่

    ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่คุ้นกับเรื่องนี้เสียทีเดียวหรอก

                อชิ!”

                หญิงสาวสะดุ้ง เมื่อคนที่เธอคาดว่าออกไปแล้วกลับชะโงกหน้าเข้ามาเรียก

                หลานสาวผมรออยู่ข้างนอกแหนะ ฝากหน่อย

                อชิทำหน้าเหวอ ก่อนจะพยักหน้าอย่างงุนงง แล้วเดินออกไปหาหลานสาวของอาจารย์เจตนาซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างนอก หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะก้มตัวลงคุย

                นาวาจ๊ะ

                เด็กสาวหันมอง เธอดูราวกับนาราขนาดย่อส่วนไม่ผิดเพี้ยน แต่มีดวงตาที่เหมือนอาจารย์เจตน์ บางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าอาจารย์เจตน์รู้สึกยังไงนะเวลาที่มองเด็กคนนี้ เหมือนอย่างที่อชิอดนึกถึงนาราในทุกครั้งที่ได้มองอย่างอดไม่ได้

                พี่อชิ

                เด็กสาวกระโดดลงจากเก้าอี้ พร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ามองให้กับเธอ

                “ทำไมคุณปู่ไม่พานาวาไปด้วยล่ะ

                “คุณปู่บอกว่าจะต้องไปไหนไม่รู้กับคุณยายน่ะค่ะ เลยบอกให้นาวากลับบ้านพร้อมพี่อชิ

                หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ อย่างอดนึกสงสารเด็กสาวตรงหน้าไม่ได้ที่ไม่ได้อยู่กับทั้งพ่อและแม่ เธอได้ยินว่านาราต้องการจะพาตัวลูกสาวกลับไป แต่ญาติทางฝั่งพ่อไม่ยินยอม รวมทั้งตัวเธอเองก็พูดออกมาเลยว่าไม่ชอบแม่

                ถ้าอย่างนั้นนาวารอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ ข้างในฝุ่นเยอะ

                “คิดถึงอากุลิน เด็กสาวเอ่ยขึ้น อากุลินแพ้ฝุ่น

                อชิทอดมองเด็กสาวด้วยความรู้สึกซับซ้อน นาวาแทบไม่เคยพูดถึงนารา แต่กลับบ่นถึงกุลินอยู่เสมอ บ่อยกว่าที่พูดถึงพ่อของเธอด้วยซ้ำ

                พี่เองก็เหมือนกัน

                หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เธอเคยเจอกุลินแค่ครั้งเดียว แต่กลับรู้สึกผูกพันเหมือนรู้จักกันมานาน

                ไม่ว่าจะอาจารย์เจตน์ หรือกุลินอชิก็ได้แต่หวังให้คนทั้งคู่ปลอดภัยดี

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×