ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chavala ชวาลา

    ลำดับตอนที่ #17 : ใต้ผืนฟ้ามีดาวนับล้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 43
      0
      14 ส.ค. 57

    17

    ใต้ผืนฟ้ามีดาวนับล้าน

     

                เด็กสาวกวาดตามองรอบบริเวณ ย่างกรายไปตามที่ร้างซึ่งครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยองุ่นผลอิ่ม เธอเคยคิดว่าพื้นที่แห่งนี้รกร้างเหลือเกิน แต่เมื่อได้ลองสังเกตอย่างถี่ถ้วนก็พบว่าต้นหญ้าสดใหม่ได้เริ่มงอกเงยขึ้นมา อย่างน้อยท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆครึ้มสีเทาก็ช่วยให้ทุกอย่างดูสว่างไสว

                เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาที่ไร่องุ่นร้างก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกดิน นาราพยายามบอกให้เด็กสาวนอนพักผ่อนให้เต็มที่หลังจากหนึ่งวันอันยาวนานได้ผ่านพ้นไป แต่เธอรั้นที่จะหนีออกมาโดยบอกว่าเธอต้องการเวลาที่ครุ่นคิดเพียงลำพัง

                อชิเดินมาจนใกล้บริเวณศาลาที่เคยใช้เป็นที่พูดคุยกับคาวานเมื่อครั้งก่อน ร่างหนึ่งนั้นเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อยู่ตรงนั้น

                เธอหยุดมอง ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้

                คุณมานานแล้วหรือคะ

                เด็กสาวถามเสียงเบา ลังเลที่จะเอื้อมนิ้วไปสัมผัสร่างนั้นลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาเบือนมาสบ ปลายนิ้วของเธอหยุดค้างที่ตรงนั้น ก่อนจะดึงกลับมาอย่างเก้อเขิน

                “ไม่รู้สิเขาว่า “…ฉันหลับ

                “ฉันรบกวนคุณหรือเปล่า

                เด็กสาวหมายถึงการที่เธอขอให้เขามาเจอในตอนนี้ เธอรู้ดีว่ามันออกจะกะทันหันไป ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นการตำหนิ ซ้ำยังนัดเวลามาเจอกันได้ในทันที

                ไม่เลย เมื่อครู่ฉันฝันร้ายเขาสั่นศรีษะน้อยๆ ขับไล่ความคิด ก่อนจะเสริมขึ้น ค่อนข้างแย่

                เธอกระพริบตา อ้าปากน้อยๆ เผื่อจะได้แก้ไขความเข้าใจผิดของอีกฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วเธอก็สรุปว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรนักจึงตัดสินใจหุบปากลงสนิทแล้วทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ

                หลังจากปล่อยผ่านเวลาให้เดินไปโดยมีแต่ความเงียบ อชิก็เริ่มต้นพูดขึ้น

                ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากจนเกินไป

                การตรวจสุขภาพเป็นยังไงบ้าง

                “มีคนพาฉันไปตรวจที่อื่นมา เขาว่าฉันมียีนเหมือนกับมนุษย์โลกเก่า

                เด็กสาวตอบเรียบๆ พยายามควบคุมอารมณ์ภายในให้อยู่ในความสงบ แต่เธอรู้ดีมีพายุกำลังเริ่มก่อตัวอยู่ในนั้น และเธอกำลังรู้สึกทรมานด้วยความอัดอั้น เธอสับสนเหลือเกิน และไม่อาจหาข้อสรุปใดๆ ให้ตัวเองได้เลย เธอรู้สึกราวกับภายในหัวเต็มไปด้วยข้อมูลมากมายที่ล่องลอยไปมา

                แล้วเธอรู้สึกยังไง

                “ฉัน…” เด็กสาวอึกอัก ไม่รู้สิ

                คาวานถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้และหลับตาลง นานเพียงพอที่จะทำให้อชิคิดว่าเขาเผลอหลับไปเสียแล้ว แต่พอเธอตั้งท่าจะสะกิดเรียก เขากลับผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหันหัน อชิทำตาโต เธอตกใจเล็กๆ กับท่าทีที่คาดเดาไม่ได้ของเขา

                มานี่ มีอะไรดีๆ จะให้ดู

                เขาพูดพร้อมกับดึงคอเสื้อเธอขึ้น เด็กสาวอ้าปากค้าง ไม่เคยมีใครหยาบคายกับเธอขนาดนี้มากก่อน ไม่มีสักครั้งที่ใครจะมาหิ้วเธอขึ้นอย่างกับชิ้นผ้า อชิสะบัดตัวออกจากมือของชายหนุ่ม และกระโดดถอยออกมาตั้งท่าขู่ฝ่อ

                นี่!”

    อชิร้อง ทำตาโต

                “จะไปไหม?”

                “ไป!”

                เธอตอบอย่างหงุดหงิด ตัดสินใจเก็บคำว่ามารยาทใส่เข้าไปในลิ้นชักสักแห่งแล้วล๊อคไว้แน่นๆ

     

                พวกเขาพากันเดินมาเรื่อยๆ ภายใต้ความเงียบ ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม เด็กสาวเหลียวมองนกที่โผบิน และยอดหญ้าที่ไหวเอนตามแรงลม ความรู้สึกอบอุ่น และสุขสงบเข้ามาชำระล้างจิตใจของเด็กสาวให้ปลอดโปร่งอย่างที่ไม่เป็นมาเนิ่นนาน

                พลันคาวานก็ทิ้งตัวนอนลง รอยยิ้มเกลื่อนบนหน้า

                เขาใช้มือข้างหนึ่งดันตัวขึ้นมา อีกข้างเอื้อมมาดึงมือเธอให้เอนตัวนอนลงตามบ้าง อชิจ้องมองเขาอย่างประหลาดใจ แต่สุดท้ายก็ทำตามแต่โดยดี

                โลกที่เธออยู่ตอนนี้มันดีไหม

                เด็กสาวซึมซับความรู้สึกสดใหม่จากผืนหญ้า เอียงหูฟังเสียงลมที่พัดโชยกลิ่นดินชื้น เวลานี้เธอรู้สึกว่าโลกงดงามเหลือเกิน

                ค่ะอชิหลับตาลง “…เคยคิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจ

                “โลกของเราจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีสายพันธุ์ใดครอบครองโลกตลอดกาล มีวันที่รุ่งเรืองที่สุด และวันที่ต้องดับสูญเป็นเช่นนี้ตลอดมาและเธอเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลไกเหล่านั้น เช่นเดียวกับทุกคน

                คาวานเอ่ยขึ้น น้ำเสียงนุ่มทุ้มราวกับจะปลอมประโลม

                ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงมาที่นี่ ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยให้อะไรๆ เป็นไป

                “เพราะฉันเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำ ฉันเชื่อว่าฉันยังคงรอดชีวิตอยู่เพื่อแก้ไขสิ่งที่เคยล้มเหลว ฉันเคยเป็นหนึ่งในคนที่ต่อต้านแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงมนุษย์อย่างผิดธรรมชาติในระดับพันธุกรรม และอย่างที่เธอเห็นฉันล้มเหลวมาจนถึงตอนนี้

                อชินิ่งฟังอย่างสงบ หวนนึกไปถึงครั้งหนึ่งที่คาวานให้เธอค้นลึกลงไปภายในจิตใจของเธอเอง และเธอก็พบว่าตัวเธอไม่ได้มีความปราถนาใดที่สูงส่งเลยแม้แต่น้อย

                “ฉันทนเห็นคนที่ฉันรักหายไปทีละคนไม่ได้

    เด็กสาวขยับแขนทั้งสองข้างเข้ามาประสานมือเหนือบริเวณน้อย มือทั้งสองข้างบีบแน่น

    เพียงเท่านี้เองความปราถนาของเธอ

    คนที่ฉันรักรึ…”

    คาวานกระซิบแผ่ว แทบจะกลืนหายไปกับเสียงลม

    หมอทัศนัยคนที่ตรวจฉันวันนี้บอกว่าต้องการความช่วยเหลือจากฉันอชิเกริ่นขึ้น ดูเหมือนคนรอบตัวหลายๆ คนของฉันจะร่วมมือกันทำอะไรบางอย่าง พวกเขาพยายามช่วยกันไม่ให้พวกผู้คุมกฎรู้ว่าฉันแตกต่าง ไม่ให้รู้ว่าฉันเป็นเหมือนมนุษย์โลกเก่า พวกเขาไม่ชอบเงา เกลียดชังเงา นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้รับรู้มาในวันนี้

    ฉันไม่กล้าเธอบีบมือแน่นขึ้นอีก ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันยังไม่พร้อมที่จะฟังว่าพวกเขากำลังทำอะไร

    คาวานเอียงหน้าเข้าหาเด็กสาว ทั้งสองสบตากัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายหันกลับไป

    ปฏิวัติฉันเข้าใจว่าอย่างนั้น

    เด็กสาวนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอพอจะรู้จักคำนี้จากหนังสือที่อ่าน แต่เธอไม่เคยนึกถึงมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นใกล้ๆ ตัวนี่มันหมายความว่าทั้งอาจารย์เจตน์ พี่กุลิน พี่นารา อาจารย์เทวา หมอทัศนัย หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอ คนรอบตัวเธอทั้งหลายเหล่านี้ต้องการที่จะปฏิวัติหรือ?

    ฉันว่าฉันเพิ่งจะพูดไปเมื่อครู่ว่าไม่พร้อมจะรู้

    เราจะได้คุยกันง่ายขึ้น ฉันไม่ใจดีหรอกนะ

    น้ำเสียงของคาวานกลับมาห้วนสั้นอย่างที่เธอคุ้นเคย เด็กสาวลอบถอนหายใจ อย่างน้อยเขาก็อ่อนโยนพอที่จะพาเธอมานอนคุยกันบนพื้นหญ้า แม้ว่าจะยังไม่มืดพอที่จะเห็นดาว และไม่ได้ให้บรรยากาศดีๆ อย่างที่เธอเคยได้อ่านในนิยายรักบางเล่ม

    คุณรู้ได้ยังไง

    มันเกี่ยวกับธุระของฉัน ฉันก็ต้องสืบหาข้อมูลเป็นธรรมดา

    จะเป็นยังไงถ้าเรากลับไปมีพันธุกรรมแบบมนุษย์โลกเก่าคะ

    คาวานลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับบิดขี้เกียจ เด็กสาวจำต้องลุกขึ้นตามแม้ว่ากำลังเคลิ้มกับสัมผัสจากยอดหญ้าอยู่ไม่น้อย อีกครั้งที่สายตาของเขาทอดมองออกไปไกล

    มันเป็นสิทธิที่มนุษย์ควรได้คืนมา มนุษย์ถือว่าตัวเองอยู่เหนือสัตว์อื่นเพราะว่ามีปัญญา แต่ถ้าเราไม่สามารถที่จะตั้งข้อสงสัย ไม่สามารถทำตามความปรารถนาที่มี เธอไม่คิดหรือว่ามันเป็นการลดค่าตัวเองให้ต่ำลงไปยิ่งกว่าสัตว์ที่พวกเราปรามาศเสียอีก

    ฉันเชื่อว่าเราต่างมีเจตจำนงเสรี เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตที่มี ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ อย่างหุ่นยนต์ที่ได้รับการป้อนโปรแกรมคำสั่งแล้วก็ทำงานฉันไม่คิดว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐหรือเลวร้าย แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่คนกลุ่มหนึ่งจะเข้ามาควบคุมเราทุกคน เพียงเพราะความเชื่อของคนเพียงกลุ่มเดียวที่บอกว่ามนุษย์มีส่วนเลวร้ายที่จะต้องกำจัด

    ที่เธอเงียบไปไม่ใช่ว่าสิ่งที่ฉันพูดมาคือความในใจของเธอตลอดมาหรือชวาลา?”

    เด็กสาวจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา ใบหน้าของเขาเลือนรางภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นที่ค่อยๆ อ่อนแรง

    ความมืดย่ามกรายเข้ามาหากแต่แสงสว่างจะเจิดจ้าที่สุดในเวลานั้น

     

    แล้วเรื่องของพ่อฉันล่ะคะ ถึงเวลาที่คุณจะบอกมาได้แล้วมั้ง

    อชิเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำ พวกเขานั่งอยู่บนผืนหญ้า และแหงนหน้าดูดาวที่ทอแสงระยับเกลื่อนทั่วแผ่นฟ้า งดงามจับตา

    พ่อของเธอตอนนี้ถูกสอบสวนอยู่

    ชายหนุ่มตอบเสียงเบา สัมผัสได้ถึงอาการของร่างเล็กข้างตัวที่แข็งเกร็งตื่นตระหนก  เขาเบือนหน้าไปอีกทาง

    ใจเย็นเถอะ เขาจะไม่เป็นอะไร

    เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น ทั้งร่างผ่อนคลายลงบ้าง ถึงกระนั้นความสับสน ความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกก็ยังแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง

    เธอคงไม่รู้ว่าพ่อของเธอเป็นโปรแกรมเมอร์?”

    เด็กสาวส่ายหน้า พ่อของเธอเป็นคนจัดการงานบ้านและเลี้ยงดูเธอ มีบางครั้งที่เขาดูเหมือนจะรับงานบางอย่างมา แต่ก็ไม่เคยบอกว่าเป็นอะไร

    เขาถูกจับได้ว่าพยายามทำการแทรกแซงข้อมูลของกลุ่มผู้คุมกฎ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนสอบสวน ส่วนแม่ของเธอพยายามเดินเรื่องเพื่อช่วยเหลือเขาอยู่

    นั่นมัน…!”

    คำพูดของเธอสะดุดลง ราวกับมีก้อนบางอย่างติดอยู่ในคอ น้ำตารื้นขึ้นที่ขอบตานั้นร้อนผ่าว

    นั่นมันมากพอที่จะถูกกำจัดถูกฆ่าได้เลย

    หากแต่เธอไม่อาจเอ่ยคำพูดเหล่านั้นออกไปได้

    “…พวกเขาจะไม่เป็นไร

    น้ำเสียงนั้นอ่อนโยน เด็กสาวเงยหน้าขึ้นโดยหวังจะให้น้ำตานั้นไหลกลับเข้าไป อชิสูดจมูก ก่อนจะก้มหน้าหลังมองขาที่เหยียดยาวของตัวเอง

    ฟังนะอชิ

    เสียงของคาวานเข้มขึ้น เด็กสาวสูดจมูกอีกครั้งก่อนจะหันมองเขา

    ถ้าเพียงแต่เธอแสดงจุดยืนที่แน่ชัดของเธอออกมา และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับฉันคาวานทิ้งช่วง เบือนสายตากลับมาสบกับเด็กสาวอย่างมั่นคง “…ฉันมีวิธี

    ตกลงค่ะ

    อชิตอบอย่างรวดเร็ว คาวานเลิกคิ้วขึ้น

    ถ้าอย่างนั้นหลังสอบเสร็จมาเจอกันที่ร้านหนังสือใกล้บ้านเธออชิตั้งท่าจะต่อต้าน ชายหนุ่มรีบเสริม ฉันไม่ต้องการให้เธอละเลยการเรียน

    คาวาน…” เด็กสาวเอ่ยเรียก เป็นครั้งแรกที่เธอเอ่ยเรียกชื่อเขา ฉันไว้ใจคุณ

    พวกเขาสบตากันอีกครั้ง ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าของเด็กสาวเนิ่นนาน หยุดลงที่ดวงตาก่อนจะเป็นฝ่ายละไปและทอดตัวลงบนผืนหญ้าอีกครั้ง

    เด็กสาวทำตาม

    ท้องฟ้ายังคงงดงามจับใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×