ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    * ~ ... My ♥ Is Mu$ic แปลเพลงสากลจ๊ะ ... ~ ♫

    ลำดับตอนที่ #9 : แปลเพลง Mine by Taylor Swift

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 53


    Mine by Taylor Swift

     

    วันสุดท้ายของเดือนตุลา ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้ว โรแมนติกดีจริงๆเลยน๊า (>,<)  คิกๆ
    เวลาอากาศหนาวๆเราอารมณ์ดีค่ะ  วันนี้เลยมาแปลเพลงของเทเลอร์คนสวยอีกเพลงด้วยความเต็มใจยิ่ง
    วันนี้เพลงที่จะมาแปลคือเพลง Mine นั่นเองค่ะ  ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก
    อยากรู้ว่าเพราะแค่ไหนกด Play ที่คลิปด้านล่างได้เลย  อิๆ
    เราชอบฉากที่ห้อยรูปลงมามากมาย เพลงนี้เทเลอร์ก็สวยมากๆอีกเพลงจ้า
    มาดูเอ็มวีสวยๆ ฟังเพลงเพราะๆ แล้วอ่านคำแปลกันเลย
    หนาวนี้มีความสุขกันทุกคนนะคะ




    You were in college working part time waiting tables

    ครั้งแรกที่เราพบกันคุณทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟระหว่างเรียนวิทยาลัย
    Left a small town, never looked back
    จากเมืองเล็กๆมาโดยไม่ได้หันหลังกลับไปเลย
    I was a flight risk with the fear of fallin'

    ส่วนฉันหวาดกลัวการตกหลุมรัก และพร้อมจะวิ่งหนีอยู่เสมอ
    Wonderin' why we bother with love if it never lasts
    ไม่เข้าใจว่าจะไปยุ่งยากกับความรักทำไม ในเมื่อสุดท้ายมันก็ต้องจบลง

    I say "Can you believe it?"
    ฉันพูดว่า "คุณเชื่อหรือเปล่า?"
    As we're lyin' on the couch
    ตอนที่เราเอนกายลงบนโซฟาด้วยกัน
    The moment I can see it
    ช่วงเวลานั้นฉันจำได้
    Yes, yes I can see it now
    ใช่ ใช่แล้วล่ะ  ฉันจำภาพเราขณะนั้นได้ขึ้นใจ

    Do you remember we were sittin' there by the water?
    คุณจำได้ไหมคะ วันที่เรานั่งเคียงคู่กันริมน้ำที่นี่
    You put your arm around me for the first time
    วันนั้นคุณโอบกอดฉันเป็นครั้งแรก
    You made a rebel of a careless man's careful daughter
    คุณเปลี่ยนความคิดของคนที่เคยหวาดกลัวการตกหลุมรัก
    You are the best thing that's ever been mine
    คุณนี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดของฉัน

    Flash forward and we're taking on the world together

    เพียงชั่วพริบตา เราก็ตกลงจะเผชิญโลกใบนี้ไปพร้อมๆกัน
    And there's a drawer of my things at your place
    มีลื้นชักสำหรับเก็บของๆฉันอยู่ในห้องของคุณ
    You learned my secrets and you figure out why I'm guarded
    แล้วคุณก็ได้รู้ความลับของฉัน เข้าใจว่าทำไมฉันถึงปิดกั้นตัวเอง
    You say we'll never make my parents' mistakes
    คุณบอกว่าเราจะไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนพ่อแม่ของฉัน

    But we've got bills to pay

    แต่เราก็เจอปัญหาหนี้สินที่ต้องจ่าย
    We've got nothing figured out
    ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออกสักอย่างเลย
    When it was hard to take yes, yes
    ช่างยากเย็นเหลือเกินกับการรับมือ  ใช่แล้วละ
    This is what I thought about
    นี่แหละคือสิ่งที่ฉันคิด

    Do you remember we were sitting there by the water?

    จำวันที่เราสองคนนั่งอยู่ตรงนี้ที่ริมน้ำได้ไหมคะ
    You put your arm around me for the first time
    วันที่คุณโอบกอดฉันเป็นครั้งแรกไง
    You made a rebel of a careless man's careful daughter
    คุณทำให้คนที่ปิดกั้นตัวเองมาตลอดกล้าเปิดหัวใจ
    You are the best thing that's ever been mine
    คุณนี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดของฉัน

    Do you remember all the city lights on the water
    คุณจำภาพแสงไฟจากบ้านเรือนสะท้อนอยู่บนผิวน้ำได้หรือเปล่า
    You saw me start to believe for the first time
    คุณเห็นแล้วว่าฉันเริ่มเปิดใจเชื่อเป็นครั้งแรก
    You made a rebel of a careless man's careful daughter
    คุณทำให้หญิงสา่วผู้ระมัดระวังตัวรู้สึกอ่อนไหว
    You are the best thing that's ever been mine
    คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดของฉันค่ะ

    And I remember that fight 2:30 AM

    ฉันยังจำวันที่เราทะเลาะกันตอนตีสองครึ่งได้ดี
    You said everything was slippin' right out of our hands
    คุณบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันหลุดลอยไปจากมือของเราแล้ว
    I ran out crying and you followed me out into the street
    ฉันวิ่งหนีออกมาทั้งน้ำตา คุณพยายามวิ่งตามฉันบนถนน

    Brace myself for the goodbye
    ฉันเตรียมใจไว้ว่าเราคงต้องจบกันเพียงเท่านี้
    Cause that's all I've ever known
    เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันพบเห็นมาตลอด
    Then you took me by surprise
    แล้วคุณก็ทำให้ฉันต้องประหลาดใจ
    You said "I'll never leave you alone"
    คุณบอกฉันว่า "ผมไม่มีวันทิ้งให้คุณโดดเดี่ยว"

    You said
    คุณพูดว่า
    "I remember how we felt sittin' by the water
    "ผมยังจำความรู้สึกขณะที่เรานั่งอยู่ริมน้ำตอนนั้นได้
    And every time I look at you it's like the first time
    ทุกครั้งที่ผมมองคุณ ก็รู้สึกเหมือนครั้งแรกที่เราพบกัน
    I fell in love with a careless man's careful daughter
    ผมตกหลุมรักหญิงสาวผู้หวาดกลัวการมีความรัก
    She is the best thing that's ever been mine"
    เธอคือสิ่งที่ดีที่สุดของผม"

    (Hold on, we'll make it last)
    ฉันเชื่อมั่น  เราจะอยู่ด้วยกันไปจนวันสุดท้าย
    (Hold on, never turn back)
    ยึดมั่นไว้ เราจะไม่แยกจากกันแน่นอน
    You made a rebel of a careless man's careful daughter
    คุณเปลี่ยนความคิดของคนที่พบเห็นแต่ความรักอันผิดหวัง
    You are the best thing that's ever been mine
    คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดของฉันนะคะ

    Do you believe it?
    คุณเชื่อหรือเปล่า?
    We're gonna make it now
    สิ่งที่เราทำตอนนี้แหละคือข้อพิสูจน์
    And I can see it
    ฉันสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
    (Yeah, yeah, yeah)
    ใช่ ใช่ ใช่แล้วล่ะ
    I can see it now (see it now, see it now)
    ตอนนี้ฉันเชื่อและเข้าใจในรักแล้วค่ะ ^^

    Translated by white-ruff


     


    คำศัพท์จากเพลงจ้า
    1.  Flight risk  =  A person who appears ready to leave a job or relationship, presumably for a better opportunity elsewhere.  สำหรับเพลงนี้เกี่ยวกับความรักเราแปลได้ว่าเธอพร้อมจะวิ่งหนีความรักได้ตลอดเวลาค่ะ  เข้าทำนองเจ้าสาวกลัวฝน ในเพลงเทเลอร์มาจากครอบครัวที่มีปัญหาเลยกลัวการมีความรักค่ะ
    2.  Couch =  โซฟายาว
    3.  Rebel  =  กบฏ, ขัดขืน, หัวดื้อ, ต่อต้าน  เมื่อนำมาอยู่ในเพลงเราคิดว่าเธอเกิดความคิดต่อต้านสิ่งที่เธอคิดมาตลอดนั่นคือการไม่เชื่อในรักจ้า
    4.  Careless man's careful daughter  =  ถ้าแปลตรงตัวน่าจะเป็นพ่อของเธอไม่ระมัดระวังในความรักเลยทำให้เกิดปัญหา เธอไม่อยากทำผิดพลาดเหมือนพ่อของเธอ  เธอเลยเติบโตขึ้นมาเป็นลูกสาวผู้ปิดกั้นตัวเองจากความรัก เราจะขอแปลให้สั้นๆเป็น หญิงสาวผู้หวาดกลัวความรัก จ้ะ ผิดพลาดยังไงรบกวนชี้แนะและอธิบายน๊า
    5.  Slip  =  เลื่อนไหล, พลาด, หลุดลอย
    6.  Brace  =  n.เสาค้ำ เครื่องค้ำจุน vt. ตัดสินใจแน่วแน่ แน่ใจ พร้อมเผชิญ ในเพลงเราเลือกใช้ความหมายที่สองค่ะ  คือเธอแน่ใจว่าการทะเลาะนี้จะนำไปสู่จุดจบของความสัมพันธ์ และพยายามทำใจให้พร้อมรับมือ

    7.  Hold on  =  แปลไำด้เยอะแยะตาแป๊ะค่ะ  รอมั่งล่ะ  เอาตรงตัวก็ถืออย่างระมัดระวังมั่งหล่ะ  we're hold on together เราอยู่ด้วยกันอีกล่ะ  สุดท้ายที่เราไปเจอมาแล้วเลือกมาใช้แปลคือ  ความเชื่อใจ  เชื่อมั่นค่ะ  เลือกใช้ตามสถานการณ์นะคะผู้อ่าน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×