ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผิดแผน
I Kill You...ฉันจะฆ่าเธอ [TAENY]
By.Whisky (ฉัน ชื่ออะไร)
ตอนที่ 2 : ผิดแผน
เจสสิก้าเดินออกมาจากห้าง หลังจากที่เธอเข้าไปเอาของที่ลืมไว้แต่ก็ไม่พบคนที่ควรจะยืนรออยู่
สายตาแหลมคมกวาดมองไปรอบๆพื้นที่ก็ไม่พบใครแม้แต่คนเดียว ลานจอดรถเงียบสนิท
แสงไฟสลัวไม่สว่างมากนักแต่ก็พอที่จะเดินตามหาคนที่รออยู่เมื่อครู่
“ฟานี่เธออยู่ไหนน่ะ”
เจสสิก้าตัดสินใจตะโกนเรียกเพื่อนสาว ยิ่งเดินหาเท่าไรก็ไม่พบใครบริเวณนี้ มีเพียงความเงียบที่น่าตกใจ
ใบหน้าหวานเริ่มถอดสีเมื่อเดินจนทั่วก็ไม่พบเพื่อนสาวคนสวยแต่อย่างใด มือเรียวบางขว้าโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแบรนด์เนม
กดโทรหายุนอาอย่างเร่งรีบ ด้วยความรู้สึกสั่นเทากลัวว่าเพื่อนสนิทจะเกิดอันตรายอะไรหรือเปล่าแต่ก็ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย….
“โถ่ ยุนอาเธอทำอะไรของเธออยู่นะ รับสายซักทีซิ”
เจสสิก้ากดโทรหาบอดี้การ์ดของสเตฟานี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าปลายสายจะรับแต่อย่างใด
จึงตัดสินใจก้าวเดินตามหาสเตฟานี่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าขานั้นจะสั่นเพราะความกลัวแต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสเตฟานี่ทายาทพันล้านล่ะก็
มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ความเงียบสนิทเป็นสถานการณ์กดดัน ให้ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของเธอเอง
จนกระทั่งสายตาแหลมสะดุดตาเข้ากับเงาบางอย่างท้ายรถสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากตัวเธอนักพร้อมกับเสียงเหมือนลมหายใจหอบเบาๆ
บริเวณนั้น ร่างสวยค่อยๆก้าวเดินไปอย่างเงียบๆและช้าที่สุดเพื่อไม่ให้อะไรซักอย่างตรงนั้นจับความเคลื่อนไหวของเธอได้
หัวค่อยๆก้มต่ำลงเมื่อใกล้ถึงบริเวณกระจกรถด้านข้าง เสียงหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อร่างกายหยุดอยู่ท้ายรถคนดังกล่าวแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอแสดงตัว จะพบอะไรข้างรถคันนี้ จะใช่สเตฟานี่มั้ย เธอถูกทำร้ายหรือเปล่า
เจสสิก้าขบฟันคิดอยู่พักหนึ่งเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นแต่ก็ต้องช่วยสเตฟานี่ได้มั้ย
ก่อนที่จะตัดสินใจแสดงตัวเจสสิก้ากัดฟันแน่นพุ่งพวดเข้าไปยังต้นเหตุของความหน้าสงสัยทันที
“ฟานี่ !!!!”
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองสเตฟานี่ถูกชายร่างใหญ่ประคองโอบกอดไว้อยู่ ท่าทางไม่มีสติ
โดยมีผ้าขนหนูสีขาวปิดปากเธอเอาไว้คงจะเป็นยาสลบหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้เพื่อนของเธอหมดสติไปแบบนั้น
“แสนักนะ”
ชายร่างใหญ่ทิ้งสเตฟานี่ลงกับพื้น วิ่งตรงมาที่เจสสิก้าพร้อมกับอาวุธในมือหวังที่จะทำร้ายเพื่อปิดปากผู้พบเห็นระทำของตนในที่นี้
“กรี๊ดดดด”
แม้จะตกใจแค่ไหนเจสสิก้าก็พยายามตั้งสติให้อยู่กับตัวเองเสมอ เธอหลบมีดแหลมนั้นอย่างฉิวเฉียด
ผู้ร้ายท่าทางอารมณ์เสียที่พลาดเป้าหมายไป กำมีดในมือแน่นจนสั่นเทา
ไม่รู้ว่าแค้นอะไรกันมาก่อนหรือเปล่าถึงได้ฆ่ากันแบบนี้
“อย่าอยู่เลย!!!”
“กรี๊ดดด ฟานี่ ฟานี่”
เจสสิก้าส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวดังลั่นหวังว่าจะให้สเตฟานี่ตื่นขึ้นมาแล้วหนีไปด้วยกัน
แต่เสียงของเธอคงไปไม่ถึงเพราะร่างที่นอนสลบกับพื้นไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นจากยาสลบในผ้าขนหนูนั้นเลย
ชายร่างใหญ่วิ่งเข้ามาพร้อมมีดคมกริบครั้งนี้คงไม่พลาดแน่ๆ
ฉึก !!! เสียงมีดแหลมเสียดสีกับเนื้อบาง น้ำสีแดงเข้มไหลออกจากปากแผลบริเวณสีข้าง แม้ไม่ได้ดึงมีดออกก็ตาม
แววตาแข็งกร้าวของโจรร้ายจ้องมองเจสสิก้าด้วยความดุร้ายก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น…
หญิงแข็งแรง ร่างสูงกระชากคอเสื้อโจรร้ายขึ้นมาชกซ้ำไปที่ใบหน้าของมัน จนกระเด็นเซถอยหลังไป
ผู้ร้ายเป็นฝ่ายถูกแทงบริเวณสีข้างแม้จะไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้เสียหลักการต่อสู้ ท่าทางเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ยุนอาแม้จะเป็นผู้หญิงแต่ก็แข็งแกร่งทางด้านการต่อสู้เป็นอย่างดี ชายร่างใหญ่เห็นท่าว่าจะไม่ดีต่อตัวเองแน่ๆจึงคิดจะหลบหนีออกไปจากตรงนี้
มือหนาดึงมีดแหลมที่ปักขาอยู่ออก เลือดไหลนองเต็มพื้น
ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะวิ่งหนีไปทางบันไดหนีไฟ
“ยุนอา”
เจสสิก้าตะโกนเรียกยุนอาเอาไว้ก่อน ถ้ายุนอาตามโจรร้ายนั่นไป
เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อสเตฟานี่ขึ้นถ้าหากนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลช้าไป ร่างสูงหยุดเท้าที่ก้าววิ่งตามโจรร้ายเมื่อเสียงแหลมกระทบหู
ปล่อยให้ผู้ร้ายบาดเจ็บวิ่งหนีไป....
“คุณเจส คุณสเตฟานี่”
ยุนอาหันกับมาเข้าไปขว้าตัวสเตฟานี่มาโอบกอด เมื่อพยายามเรียกกี่ครั้งสเตฟานี่ก็ไม่ฟื้นซักครั้ง
-----------------------------
“หมอตรวจร่างกายคุณสเตฟานี่แล้วนะครับ เธอปลอดภัยดีไม่มีส่วนไหนได้รับบาดเจ็บครับ
ถ้าฤทธิ์ยาสลบหมดไปเธอก็จะฟื้นเป็นปกติครับ”
“ขอบคุณมากนะค่ะคุณหมอ”
เจสสิก้ายกมือไหว้หมอรักษาสเตฟานี่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังร่างที่นอนสลบอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานที่สดใส
ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ใจหวั่นไหวนึกโทษตัวเองที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างสเตฟานี่ต้องเกิดอันตรายเช่นนี้
มือบางยกขึ้นลูบแก้มใสอย่างเบามือ แววตานั้นจับจ้องไปที่สเตฟานี่ไม่กระพริบ
“ฟานี่ ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียวอีกแล้ว”
เรียวปากหวานเคลื่อนตัวเข้าไปข้างแก้มสเตฟานี่ ฝากฝังรอยจูบไว้บนแก้มมลของเพื่อนสนิท
ด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวลไม่ให้สเตฟานี่ตื่นนมาพบฝันร้ายแบบครั้งนี้อีก…
“เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ไง”
“ผิดที่เจสเอง เจสเป็นคนทิ้งฟานี่ไว้เอง”
“คุณเจส”
“ถ้าเจสไม่ทิ้งฟานี่ไว้คนเดียว ถ้าไม่เผลอลืมของไว้ที่ร้านนั้น หรือ หรือว่าถ้าเจสชวนฟานี่เข้าไปด้วยกัน เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
เจสสิก้าได้แต่เพ้อพูดเองว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอเองทั้งหมดด้วยน้ำเสียงสั่น น้ำตาคลอ
ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ด้านหลังรู้สึกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก มือเล็กวางลงบนหัวไหล่ของคนที่นั่งจ้องร่างบางบนเตียง
“ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไร ถ้าเรารู้เราก็คงจะไม่ทำ”
“ฟานี่จะเป็นอะไรมั้ย”
“หมอบอกว่าเธอปลอดภัยแล้ว คุณเจสไปพักเถอะทางนี้ยุนจะเป็นคนดูแลเอง”
“แต่…”
“ไปเถอะ คุณควรเชื่อพี่นะ"
สายตาหมองเศร้าของเจสสิก้ามองสเตฟานี่อีกครั้ง ก็จริงอย่างที่ยุนอาพูดตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครู่
เธอได้แต่เดินวนเวียนอยู่หน้าห้องตรวจด้วยความเป็นห่วงเพื่อนที่รักสุดหัวใจ เจสสิก้าส่งยิ้มหวานให้ยุนอาก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเงียบๆ
สเตฟานี่อยู่กับยุนอาปลอดภัยที่สุดเพราะเขาเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งแต่ยังเล็กๆ
เมื่อได้ออกมาข้างนอกห้องแล้วเจสสิก้าเดินสะบัดผมตรงไปที่ร้านกาแฟด้านหน้าโรงพยาบาล
ผู้คนบางตาเพราะนี่ก็สามทุ่มแล้ว
RRRRR !!!
เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กดังขึ้น เจ้าของเครื่องหยิบขึ้นมากดรับสายทันทีเมื่อหน้าจอโชว์เบอร์นั้น...เป็นคนที่ต้องการจะคุยอยู่พอดี
"คะ คะ คุณเจสครับ"
"มีอะไรจะอธิบายมั้ย"
"เอ่อ คือว่า ผม ผมไม่ได้...."
"งานแค่นี้ยังไม่สำเร็จ ฉันก็ไม่ควรจะเลี้ยงแกไว้"
"คะ คะ คุณเจส คุณเจสครับ"
สิ้นสุดคำพูดของเธอ เจสสิก้าก็ตัดสายทันที ปลายสายตาเงยขึ้นมาพบกับผู้หญิงร่างสูงคนหนึ่ง เจสสิก้าขมวดคิ้วเพ่งมองผู้นั้นทันที...
"ซอยอน"
"พี่เจสค่ะ พี่ฟานี่เป็นไงบ้างค่ะ"
"ฟานี่ปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้พักผ่อนอยู่กับยุน"
"ซอเป็นห่วงพี่ฟานี่ค่ะ เลยรีบมาแล้วพี่เจสล่ะค่ะเจ็บตรงไหนมั้ยค่ะ"
"พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ดีนะยุนมาช่วยทัน เดี๋ยวรอพี่ซื้อโกโก้แล้วเราขึ้นไปพร้อมกันนะค่ะ"
เจสสิก้ายิ้มหวานให้กับซอยอน หันไปสั่งโกโก้ปั่นซักแก้วเพื่อให้ร่างกายสดชื่นมากขึ้นเพราะเธออาจจะต้องอยู่ยาวในคืนนี้
------------------------------
ภายในห้องพักพิเศษในโรงพยาบาลใหญ่ ยุนอามองร่างบอกบางที่นอนนิ่งบนเตียงไร้วี่แววว่าเธอจะฟื้นจากยาสลบเร็วๆนี้
มือหนายกขึ้นปัดเส้นผมที่ปะหน้าอยู่ออก ตั้งแต่คุณฮวังเสียไปก็เกิดแต่เรื่องอันตรายกับเธอ
"สเตฟานี่ ทิฟฟานี่ เธอโด่งดังในเรื่องแฟชั่น เธอจะยิ้มสดใสเสมอเวลาที่ได้คิดออกแบบชุดสวยๆ"
"พี่ชอบเธอเวลาที่เห็นเธอตั้งใจออกแบบเสื้อผ้าเหล่านั้นนะ"
ยุนอาลุกขึ้นยืนยิ้มมุมปากแววตาดูแข็งแรงจนหวั่นใจ ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ๆ
ประกบริมฝีปากบางเข้ากับปากของสเตฟานี่อย่างแผ่วเบา เป็นรสจูบที่ไร้รสชาติ
ไม่มีการตอบรับจากร่างที่นอนอยู่ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งยามที่สเตฟานี่หลับเช่นนี้...
"พี่บอกแล้วไงว่าเธอจะตายด้วยฝีมือใครไม่ได้ นอกจากพี่คนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าคุณเจสไม่มาตอนนั้นพี่คงจะ....."
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยุนอาค่อยๆยืดตัวยืนตรงจ้องมองใบหน้าสเตฟานี่หลับไหลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"พี่ฟานี่ !!"
ซอยอนเอ่ยปากเรียกชื่อผู้เป็นพี่เต็มเสียงเมื่อพบร่างที่นอนนิ่งเฉยอยู่
"พี่ฟานี่ พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะค่ะ"
"คุณซอยอนไม่ต้องห่วงนะค่ะ คุณสเตฟานี่ปลอดภัยแล้ว"
"ขอบคุณพี่ยุนมากนะค่ะที่เข้ามาช่วยพี่ฟานี่กับพี่เจสทันไม่อย่างงั้น..."
"ไม่อยากงั้นก็คงจะฆ่าคุณสเตฟานี่สำเร็จ"
ขณะที่ซอยอนกำลังพูดกับยุนอาอยู่นั้นเอง เสียงหนึ่งแทรกบทสนทนาขึ้นพร้อมกับร่างสูงผมพริ้วสวยดกดำ
เสื้อผ้านั้นถูกจัดให้เป็นระเบียบแต่ก็แฝงความเซ็กซี่เอาไว้ด้านหลังไม่น้อย เธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมถอดแว่นดำ
เผยให้เห็นแววตาดุดันเหมือนคนแค้นกันมานาน
"ทำไมเธอพูดแบบนั้น"
เจสสิก้าตอบกับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"เอ้า !! ก็จริงนี่ หรือไม่จริง ถ้าหมารับใช้อย่างยุนอาไม่คอยมาเดินตามตูดยัยทิฟฟานี่ล่ะก็ ยัยนี่คงตาย...สมใจใครหลายๆคนไปแล้ว"
"ซอนมีเธอนี่มัน..."
"คุณเจส"
ยุนอารีบเบรกร่างสวยเอาไว้ทันทีเมื่อเจสสิก้าเริ่มเสียงดังขึ้นมา
"คุณมาเยี่ยมคุณสเตฟานี่ก็กรุณาใช้คำพูดที่ให้สุภาพด้วย แม้ว่าคุณสเตฟานี่จะหลับอยู่ อีกอย่างคุณไม่มีสิทธิเรียกชื่อเธอว่า ทิฟฟานี่"
"ทำไม หรือว่า..."
"พะ พี่ พี่ยุนอา"
เสียงแหบดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทุกคนต่างให้ความสนใจกับเจ้าของเสียงนั้นทันที
"พี่อยู่นี่แล้วค่ะ สเตฟานี่พี่อยู่นี่"
"พี่ยุนค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับฟานี่ ฟานี่ปวดหัวจัง"
"คุณถูกทำร้ายแล้วโดนยาสลบน่ะ พักผ่อนอีกซักหน่อยเถอะนะจะได้ดีขึ้น"
ยุนอายิ้มหวานให้กับสเตฟานี่ มือหนึ่งเอื้อมไปขว้ามือเธอมากุมไว้แน่นเป็นความหมายว่า ยุนอาจะไม่ให้สเตฟานี่เป็นอันตรายอีก
ซึ่งการกระทำของยุนอาก็ตกอยู่ในสายตาหนึ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นแววตาที่รู้สึกเช่นไร
ความรู้สึกแวบหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวบอดี้การ์ดสาว ร่างสูงปล่อยมือที่เคยกุมนั้นออกทันที
ทำได้เพียงแค่ส่งสายตาความห่วงใยผ่านไปให้ถึงเธอก็พอ
"สำออยล่ะสิ"
"ซอนมี"
สเตฟานี่เอียงหัวมองดูผู้มาเยือนยามค่ำขนาดนี้ เรื่องที่เธอถูกทำร้ายอย่างที่ยุนบอกคงจะแผ่กระจากออกไปสู่สังคมแล้ว
"เธอมาที่นี่ทำไม"
"ฉันก็แค่มาเยี่ยมเธอไง มาดูว่าเธอตาย...สมใจหรือเปล่า"
"งั้น ฉันต้องเสียใจด้วยนะที่ดวงแข็งไปหน่อย"
"ก็ดี แสดงความยินดีด้วยนะในฐานะ...เพื่อนเก่า"
ซอนมีรากเสียงยาวประโยคสุดท้าย จิกสายตาเพ่งมองคนพึ่งฟื้น ความอ่อนแอของสเตฟานี่ครั้งนี้ทำให้ซอนมีกล้าเข้าชน
"ความยินดีของเธอ ฉันไม่ขอรับไว้เพราะฉันไม่อยากได้ความยินดีสกปรกจากเธอ"
"ทิฟฟานี่ !!!"
"เธอไม่มีสิทธิเรียกฉันแบบนั้น เธอคิดจะตีเสมอฉันหรอซอนมี มันยังเร็วไปสำหรับ...สไตล์สิสต์กระจอกๆอย่างเธอ"
"มันจะมากไปแล้วนะ"
"มันไม่มากหรอก ฉันไม่เคยคิดว่าเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันมันโง่เองที่คิดว่าเธอดีทั้งที่เธอก็แค่พวกเห็บ
พวกหมัดที่คอยเกาะกินเลือดคนอื่นโดยไม่คิดที่จะหากินเอง อย่างเธอก็เป็นได้แต่สิ่งมีชีวิตใต้เท้าฉันก็เท่านั้น"
สเตฟานี่จิกสายตาเหยียดหยามอดีตเพื่อนเก่าอย่างเลือดเย็น กวาดสายตามองสาวปากแดงตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้เธอจะพึ่งฟื้นมาแต่ความร้ายกาจ รุนแรงของเธอไม่ได้หลับไปพร้อมเธอเมื่อตื่นขึ้นมาก็สามารถนำมันออกมา
จนทำให้คนทั้งห้องถึงกับเงียบสนิทเลยทีเดียว
"เธอควรออกไปจากที่นี่นะซอนมี ฉันไม่อยากหายใจในห้องร่วมกับเธอมันเหม็นเน่า"
ร่างบางพูดพร้อมกับโน้มตัวลงนอน โดยมีซอยอนจับผ้าห่มกายให้ความอบอุ่น
"ซอนมีออกไปเถอะ"
เจสสิก้าพูดขึ้น ซอนมีต้องจำใจออกมาจากห้องผู้ป่วยทันทีเพราะถ้าอยู่ต่อความร้ายแรงของสเตฟานี่จะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ๆ
เมื่อยืนอยู่หน้าห้องซอนมีขบฟันแน่นด้วยความแค้นในใจ ถ้าไม่มีเจสสิก้า หรือยุนอาเข้ามาสเตฟานี่คงได้ตายไปแล้วจริงๆ
แต่ความคิดนั้นต้องหยุดนิ่งเมื่อสายตามองเห็นใครบางคนเดินผ่านหางตา ซอนมีรีบหันไปมองแผ่นหลังของใครบางคนด้วยความรู้สึกคุ้นตา
สองเท้าค่อยๆก้าวตามไปด้วยความสงสัย
"คุณ คุณค่ะ"
ตัดสินใจตะโกนเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้ว ใครบางคนเดินหายไป คงจะเป็นคนหน้าคล้ายหรือมีลักษณะใกล้เคียงกัน
ซอนมียิ้มให้กับตัวเองก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงพยาบาล...
------------------------------
"คุณเจสสิก้า คุณซอยอน ขอตัวซักครู่นะคะ พี่จะออกไปซื้อชาซักหน่อย"
"อืม"
เจสสิก้าตอบเพียงสั้นๆ แต่สายตายังก้มมองไอแพดตรงหน้าอยู่ ยุนอาเดินเปิดประตูออกมาจากห้องเดินตรงไปยังด่านฟ้า
บรรยากาศด้านบนนี้เย็นสบายและหายใจได้เต็มปอด ลมพัดเอื่อยๆให้สดชื่นขึ้น มือบางหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาสูบ
เงยหน้ามองท้องฟ้าในคืนที่ดวงจันทร์มีเพียวเสี้ยวเล็กๆ
"ทิฟฟานี่..."
เอ่ยเรียกชื่อนั้นขึ้นมาขณะที่กำลังมองเสี้ยวพระจันทร์ ยุนอาหลับตาลงช้าๆ ปล่อยความรู้สึกลอยตัวไปกับสายลมเอื่อยๆ...ก็ทำให้นึกถึง.....
"ยุนอาลูกต้องอยู่ในนี้นะห้ามออกมาและอย่าส่งเสียงนะลูก"
เสียงของหญิงสาวมีอายุพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาและรีบร้อน ก่อนที่มือทั้งสองจะปิดประตูตู้ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง
ขนาดเล็กพอที่จะให้เด็ก 5ขวบเข้าไปอยู่ในนั้นได้สบาย
"แม่"
เด็กน้อยตาใส ไร้เดียงสาเรียกชื่อผู้เป็นแม่เบาๆ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก มือน้อยค่อยๆเปิดประตูตู้ช้าๆ
"แกรู้มั้ยโทษของคนที่หักหลังฉันจะเป็นอย่างไง"
"แต่เรื่องที่คุณทำทั้งหมดมันผิดกฎหมายนะ"
"ก็แล้วไงฉันมีเงิน มีทองล้นฟ้าขนาดนี้แกคิดว่ามันคุ้มกันมั้ยล่ะ"
สายตาเด็กน้อยมองไม่เห็นอะไร นอกจากขาของคนด้านนอกและบทสนทนาของผู้ใหญ่
"เงินทองที่คุณได้มามันมาจากความทุกข์ของคนอื่นนะ"
"ฉันคิดว่าเราคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ"
"เรื่องของแกจะถูกเปิดโปรง"
"เรื่องของฉันจะไม่ถูกเปิดถ้าแกตายซะ"
ปัง ปัง ปัง!!! เสียงปืนถูกเหนี่ยวไกดังติดกันถึงสามครั้ง ร่างของชายหนุ่ม หญิงสาวล้มลงนอนกับพื้นต่อหน้าต่อตาเด็กสาวที่ถูกซ่อนอยู่ในตู้
แววตาของหญิงมีอายุหันมาทางด้านตู้นั่นเป็นช่วงพอดีกับที่สบตามองกัน น้ำใสไหลออกจากดวงตาน้อยๆไม่ขาดสาย สองมือปิดปากแน่นสนิท
เลือดสีแดงสดส่งกลิ่นคาวฟุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่นานนักชายร่างใหญ่หลายคนก็เดินออกจากบ้านของเธอไป...
เด็กน้อยนั่งร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้ออกมาจากตู้ตามคำสั่งแม่ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน กี่วัน กี่คืนแล้ว
เด็กสาวตัวเล็กยังคงจำคำสั่งสุดท้ายของผู้เป็นแม่ได้ดี คาบน้ำตาที่ไหลไม่หยุดหลายวันยังคงเปื้อนหน้าจนดูไม่ได้
กลิ่นคาวเลือดเปลี่ยนเป็นเหม็นอบอวน...ชณะที่เธอนั่งกอดเข่าอยู่ในความมืดมิดไม่มีใคร ไม่มีเสียงใด แสงสว่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
"ยุนอา"
เด็กสาวหรี่ตามองเพื่อสายตาปรับแสง มองขัดขึ้น...ผู้มาเยือนคนใหม่
"ยุนอาฉันมารับเธอไปอยู่ด้วย"
ผู้ชายคนหนึ่งส่งยิ้มให้เธอ เด็กน้อยตัวผอม ร่างกายมอมแมม เป็นเวลา 4วันแล้วที่เด็กตัวเล็กๆอยู่ในนั้นโดยไม่ได้กินอะไรเลย
ร่างผอมบางถูกอุ้มออกมาพาดบ่าเดินออกไป...ในบ้านของเธอยังมีร่างผู้เป็นพ่อและแม่นอนอยู่ตรงนั้นถึงแม้มันจะมีกลิ่นเหม็น
แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรบนบ่าของผู้ชายร่างใหญ่ แววตานั้นยังคงจับจ้องพ่อแม่ของตัวเองจนสุดสายตา...
"ฉันจะเป็นคนเลี้ยงดูเธอเอง ไม่ต้องห่วงนะฉันจะทำศพพ่อแม่เธอให้สมฐานะ และเธอจะได้แก้แค้นให้พ่อแม่ของเธอ...ยุนอา"
เสียงทุ้มใหญ่พูดปลอบใจเธอ เด็กน้อยแววตาเศร้าหมอง ไม่เคยพูดกับใครหลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป
ในพิธีฝังศพ ยุนอายังคงยืนตากฝนอยู่หน้าหลุมศพน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสายเหมือนใจจะขาดเมื่อเสียผู้เป็นพ่อแม่ไป
ฝนที่ตกลงมาช่วยปิดบังน้ำตาของเด็กเพียง 5ขวบคนนี้
วันเวลาผ่านไปถึง 6ปี ยุนอาตอนนี้อายุ 11แล้ว เด็กน้อยตัวเล็กมีใบหน้าสวยและดูแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เคยมีใครได้ยินเสียงยุนอาเลยซักครั้ง
ชายร่างสูงคิดว่าเด็กตัวเล็กคนนี้จะตกใจกับเหตุการณ์นั้นจนไม่อยากพูดกับใครเลย....วันหนึ่ง ยุนอานั่นอ่านหนังสืออยู่ในสวนของโรงเรียน
สถานที่แห่งนี้เงียบสงบ มีเพียงเสียงนกที่อยู่เป็นเพื่อน เด็กน้อยรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มาที่นี่
"นี่ๆ"
ร่างสูงขมวดคิ้วหันหน้ามองต้นเสียงก็พบกับเด็กสาวตัวอ้วน กลม ส่งยิ้มตาปิดให้กับเธอ
"ทำอะไรอยู่หรอ"
"...."
"ระบายสีกันเถอะ"
เด็กน้อยหน้าเหมือนหมี ยิ้มหวานพร้อมกับส่งสมุดระบายสีน่ารักให้กับยุนอา
"ฉันชื่อทิฟฟานี่นะ พี่ล่ะ"
เหมือนต้องมนต์สะกดเมื่อรอยยิ้มจนตาปิดนั้นเหมือนความรู้สึกหวั่นไหวและมันช่างดูอ่อนโยนเหลือเกิน...
"ยุนอา..."
ร่างสวยก้มหน้าลงสะบัดความคิดทรงจำบ้าๆในหัว ทิ้งก้นบุหรี่ลงในถัง สองขาลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาให้ความอ่อนล้าหายไป
"อดีตเป็นเรื่องที่ดีแม้มันจะเลวร้ายหรือดี เพราะอดีตทำให้มีปัจจุบัน"
เสียงหวานดังขึ้นไม่ไกลจากตัวเธอนัก เป็นน้ำเสียงที่คุ้นหูดีและเธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"ฟานี่เป็นอย่างไงบ้าง"
"คุณสเตฟานี่เธอปลอดภัยดี"
"งานนี้พลาดหรอ"
"เอ่อ...คือ ถ้าคุณเจสสิก้าไม่เข้ามา..."
"ไม่เป็นไรหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ไปพักผ่อนเถอะ"
"เอ่อ คุณ"
"ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร มันไม่ใช่ตอนนี้ ต่อไปก็อย่าพลาดอีกแล้วกัน"
ร่างหนึ่งเดินเปิดประตูออกไปจากด่านฟ้าของโรงพยาบาล เหลือเพียงแต่ยุนอาที่ยืนมองตามด้วยความสับสนในใจ
เหมือนมีปมบางอย่างที่ไม่สามารถแกะออกจากใจของเธอได้
------------------------------
ภายในห้องพักผู้ป่วยซอยอนขอตัวกับก่อนเพราะพรุ่งนี้จะต้องเข้าร้านแต่เช้า บรรยากาศเย็นจนต้องหยิบผ้ามาห่มให้เพื่อนสาวอีกชั้น
แล้วกับมานั่งที่เดิม เจสสิก้านั่งไขว่ห้างมองร่างสเตฟานี่ที่หลับไปแล้ว....
"เจสสิก้าลูกรู้มั้ยว่า ตระกูลฮวังเป็นประธานบริษัทฮวังคอร์ปอเรชั่นแต่เพียงผู้เดียว"
"ค่ะ"
"ความจริงเราไม่ใช่เพียงแค่หุ้นส่วนรายใหญ่ ตระกูลจองเองก็สมควรที่จะได้ยืนตำแหน่งประธานบริษัทเหมือนกัน
แต่คุณฮวังมันโกงพ่อและเขี่ยเราให้ตกมาเป็นเพียงแค่หุ้นส่วน"
"....."
"ลูกจะต้องทวงสิทธิของเราคืนมา...แบบที่พ่อกับแม่สอนแกมา ไม่อย่างนั้นบ้านเราจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ที่ซุกหัวนอน"
"ค่ะ คุณพ่อ"
เจสสิก้านึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเต็มแรง จนทำให้คนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมา
"เจส"
เจสสิก้าลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงสเตฟานี่ทันที
"ฟานี่ ขอโทษนะฉันทำให้เธอตื่นใช่มั้ย"
"เปล่า เธอมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าเจส"
"ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอน่ะ"
"ขอบคุณนะเจสฉันทำให้รำบาคตลอดเลย"
สเตฟานี่กุมมือเจสสิก้าไว้แน่น เธอมีเพียงแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวที่เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ
อาจจะเพราะว่านิสัยเกเรทำให้ไม่มีเพื่อนก็อาจจะใช่
"ฉันเป็นเพื่อนเธอนี่"
"เธอเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันไว้ใจและรักที่สุดนะเจส"
สองตายิ้มให้เพื่อนสนิท โชคดีแค่ไหนที่เธอมีเจสสิก้าเป็นเพื่อนรู้ใจจนทุกวันนี้
------------------------------
ซอยอนเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสอง เมื่อถึงคฤหาสน์ฮวัง คฤหาสน์สไตล์โรมัน ตกแต่งด้วยวัสดุหรู ราคาแพง ลงตัวกับบริเวณโดยรอบ
กินพื้นที่ไปกว่า 24ไร่ ที่แห่งนี้มีคนอยู่มากมายถึงมันจะห่างไกลจากตัวเมืองมากแต่ก็เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี
เด็กสาวตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่ทางขึ้นบันไดไปชั้นสอง รูปบานใหญ่เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ในภาพนั้นคุณฮวังท่าทางสง่างามและดูมีอำนาจ
กับลูกสาวใบหน้างดงาม ริมฝีปากแดง แววตาคมกริบดูมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลที่สุด
"ถ้างานนี้ไม่มีพี่เจส กับพี่ยุนพี่ก็คง...."
ซอยอนหยุดคำพูดของตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามีใครเดินมาด้านหลังของเธอ
"พี่ฟานี่จะมาเมื่อไรหรอ"
"ซันนี่ พี่ฟานี่คงจะมาพรุ่งนี้ค่ะ"
"ซันนี่เป็นห่วงพี่ฟานี่"
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่ฟานี่ปลอดภัยดี"
"ซันนี่หวังจะให้เป็นอย่างนั้น....ซะที่ไหน"
"อะไรนะค่ะ"
"อยากไปทะเลกับพี่ฟานี่"
"พรุ่งนี้ลองชวนดูสิค่ะ"
ซอยอนยิ้มหวานให้ซันนี่น้องสาวอัจฉริยะคนสวยผู้เดียวที่ได้ส่วนแบ่งจากคุณฮวังด้วยตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสาขาย่อย
แม้อายุจะยังน้อยแต่ความสามารถไม่น้อยตามอายุเธอ ซันนี่กอดตุ๊กตาเดินเลี่ยงเข้าห้องนอนตัวเองไปเมื่อประตูห้องปิดลง
ซันนี่ก็วางตุ๊กตาหมีตัวโปรดลงบนเตียงดวงตากลมเล็กจ้องมองหมีขนฟูสีน้ำตาล มันดูเก่าและดำไปบ้างจากการที่มันได้มานานแล้ว...
"พี่เอาของขวัญวันเกิดมาให้ซันนี่ด้วยนะ"
"ไหนๆ เย้ๆซันนี่ดีใจที่สุดเลย"
"ปิดตาก่อนสิ"
เด็กน้อยยกมือขึ้นปิดตาตัวเองตามคำสั่งของพี่สาว หัวใจดวงเล็กๆเต้นตูมตามด้วยความดีใจ
"นี่ไงเปิดตาได้"
มือเล็กเปิดตาออกเผยให้เห็นตุ๊กตาหมีขนฟูสีน้ำตาลตัวใหญ่ มันน่ารักจนอดใจที่จะเข้าไปกอดไม่ได้
เป็นปกติที่เด็กน้อยจะรู้สึกยินดีเมื่อได้ของขวันเช่นนี้
"ขอบคุณนะค่ะพี่ฟานี่"
"ถ้าไม่มีพี่เจส กับพี่ยุนพี่ก็คงจะ...."
ซันนี่โอบกอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดบนเตียงใหญ่ นุ่ม ก่อนที่จะหลับไปในคืนนี้....
---------------------------------
"ผมไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอ"
"คนที่ทำงานพลาด ฉันจะไม่เก็บไว้หรอกนะ"
"ให้โอกาสผมเถอะครับ เอ่อ ผมจะฆ่ามันให้ได้"
"แกไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ฉันจะหลอกให้มันมาติดแผนของฉันเอง...."
---------------------------------
ตอนนี้อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ ให้เห็นว่าตัวละครหลักบางส่วนคืิดอย่างไงกับฟานี่บ้าง ความหลังเป็นไง ใครคือคนร้ายตัวจิง
ส่วนแทยอนจะเป็นตัวละครลับหรือเปล่า จะเป็นคนแบบไหนในเรื่องนี้ ขออุ๊ปไว้ก่อนแล้วกัน อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามหยกนะค่ะ
By.Whisky (ฉัน ชื่ออะไร)
ตอนที่ 2 : ผิดแผน
เจสสิก้าเดินออกมาจากห้าง หลังจากที่เธอเข้าไปเอาของที่ลืมไว้แต่ก็ไม่พบคนที่ควรจะยืนรออยู่
สายตาแหลมคมกวาดมองไปรอบๆพื้นที่ก็ไม่พบใครแม้แต่คนเดียว ลานจอดรถเงียบสนิท
แสงไฟสลัวไม่สว่างมากนักแต่ก็พอที่จะเดินตามหาคนที่รออยู่เมื่อครู่
“ฟานี่เธออยู่ไหนน่ะ”
เจสสิก้าตัดสินใจตะโกนเรียกเพื่อนสาว ยิ่งเดินหาเท่าไรก็ไม่พบใครบริเวณนี้ มีเพียงความเงียบที่น่าตกใจ
ใบหน้าหวานเริ่มถอดสีเมื่อเดินจนทั่วก็ไม่พบเพื่อนสาวคนสวยแต่อย่างใด มือเรียวบางขว้าโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแบรนด์เนม
กดโทรหายุนอาอย่างเร่งรีบ ด้วยความรู้สึกสั่นเทากลัวว่าเพื่อนสนิทจะเกิดอันตรายอะไรหรือเปล่าแต่ก็ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย….
“โถ่ ยุนอาเธอทำอะไรของเธออยู่นะ รับสายซักทีซิ”
เจสสิก้ากดโทรหาบอดี้การ์ดของสเตฟานี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าปลายสายจะรับแต่อย่างใด
จึงตัดสินใจก้าวเดินตามหาสเตฟานี่อีกครั้ง ถึงแม้ว่าขานั้นจะสั่นเพราะความกลัวแต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสเตฟานี่ทายาทพันล้านล่ะก็
มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ความเงียบสนิทเป็นสถานการณ์กดดัน ให้ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของเธอเอง
จนกระทั่งสายตาแหลมสะดุดตาเข้ากับเงาบางอย่างท้ายรถสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากตัวเธอนักพร้อมกับเสียงเหมือนลมหายใจหอบเบาๆ
บริเวณนั้น ร่างสวยค่อยๆก้าวเดินไปอย่างเงียบๆและช้าที่สุดเพื่อไม่ให้อะไรซักอย่างตรงนั้นจับความเคลื่อนไหวของเธอได้
หัวค่อยๆก้มต่ำลงเมื่อใกล้ถึงบริเวณกระจกรถด้านข้าง เสียงหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อร่างกายหยุดอยู่ท้ายรถคนดังกล่าวแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอแสดงตัว จะพบอะไรข้างรถคันนี้ จะใช่สเตฟานี่มั้ย เธอถูกทำร้ายหรือเปล่า
เจสสิก้าขบฟันคิดอยู่พักหนึ่งเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆเท่านั้นแต่ก็ต้องช่วยสเตฟานี่ได้มั้ย
ก่อนที่จะตัดสินใจแสดงตัวเจสสิก้ากัดฟันแน่นพุ่งพวดเข้าไปยังต้นเหตุของความหน้าสงสัยทันที
“ฟานี่ !!!!”
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองสเตฟานี่ถูกชายร่างใหญ่ประคองโอบกอดไว้อยู่ ท่าทางไม่มีสติ
โดยมีผ้าขนหนูสีขาวปิดปากเธอเอาไว้คงจะเป็นยาสลบหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้เพื่อนของเธอหมดสติไปแบบนั้น
“แสนักนะ”
ชายร่างใหญ่ทิ้งสเตฟานี่ลงกับพื้น วิ่งตรงมาที่เจสสิก้าพร้อมกับอาวุธในมือหวังที่จะทำร้ายเพื่อปิดปากผู้พบเห็นระทำของตนในที่นี้
“กรี๊ดดดด”
แม้จะตกใจแค่ไหนเจสสิก้าก็พยายามตั้งสติให้อยู่กับตัวเองเสมอ เธอหลบมีดแหลมนั้นอย่างฉิวเฉียด
ผู้ร้ายท่าทางอารมณ์เสียที่พลาดเป้าหมายไป กำมีดในมือแน่นจนสั่นเทา
ไม่รู้ว่าแค้นอะไรกันมาก่อนหรือเปล่าถึงได้ฆ่ากันแบบนี้
“อย่าอยู่เลย!!!”
“กรี๊ดดด ฟานี่ ฟานี่”
เจสสิก้าส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวดังลั่นหวังว่าจะให้สเตฟานี่ตื่นขึ้นมาแล้วหนีไปด้วยกัน
แต่เสียงของเธอคงไปไม่ถึงเพราะร่างที่นอนสลบกับพื้นไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นจากยาสลบในผ้าขนหนูนั้นเลย
ชายร่างใหญ่วิ่งเข้ามาพร้อมมีดคมกริบครั้งนี้คงไม่พลาดแน่ๆ
ฉึก !!! เสียงมีดแหลมเสียดสีกับเนื้อบาง น้ำสีแดงเข้มไหลออกจากปากแผลบริเวณสีข้าง แม้ไม่ได้ดึงมีดออกก็ตาม
แววตาแข็งกร้าวของโจรร้ายจ้องมองเจสสิก้าด้วยความดุร้ายก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น…
หญิงแข็งแรง ร่างสูงกระชากคอเสื้อโจรร้ายขึ้นมาชกซ้ำไปที่ใบหน้าของมัน จนกระเด็นเซถอยหลังไป
ผู้ร้ายเป็นฝ่ายถูกแทงบริเวณสีข้างแม้จะไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้เสียหลักการต่อสู้ ท่าทางเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ยุนอาแม้จะเป็นผู้หญิงแต่ก็แข็งแกร่งทางด้านการต่อสู้เป็นอย่างดี ชายร่างใหญ่เห็นท่าว่าจะไม่ดีต่อตัวเองแน่ๆจึงคิดจะหลบหนีออกไปจากตรงนี้
มือหนาดึงมีดแหลมที่ปักขาอยู่ออก เลือดไหลนองเต็มพื้น
ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะวิ่งหนีไปทางบันไดหนีไฟ
“ยุนอา”
เจสสิก้าตะโกนเรียกยุนอาเอาไว้ก่อน ถ้ายุนอาตามโจรร้ายนั่นไป
เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อสเตฟานี่ขึ้นถ้าหากนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลช้าไป ร่างสูงหยุดเท้าที่ก้าววิ่งตามโจรร้ายเมื่อเสียงแหลมกระทบหู
ปล่อยให้ผู้ร้ายบาดเจ็บวิ่งหนีไป....
“คุณเจส คุณสเตฟานี่”
ยุนอาหันกับมาเข้าไปขว้าตัวสเตฟานี่มาโอบกอด เมื่อพยายามเรียกกี่ครั้งสเตฟานี่ก็ไม่ฟื้นซักครั้ง
-----------------------------
“หมอตรวจร่างกายคุณสเตฟานี่แล้วนะครับ เธอปลอดภัยดีไม่มีส่วนไหนได้รับบาดเจ็บครับ
ถ้าฤทธิ์ยาสลบหมดไปเธอก็จะฟื้นเป็นปกติครับ”
“ขอบคุณมากนะค่ะคุณหมอ”
เจสสิก้ายกมือไหว้หมอรักษาสเตฟานี่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังร่างที่นอนสลบอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานที่สดใส
ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ใจหวั่นไหวนึกโทษตัวเองที่ปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างสเตฟานี่ต้องเกิดอันตรายเช่นนี้
มือบางยกขึ้นลูบแก้มใสอย่างเบามือ แววตานั้นจับจ้องไปที่สเตฟานี่ไม่กระพริบ
“ฟานี่ ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียวอีกแล้ว”
เรียวปากหวานเคลื่อนตัวเข้าไปข้างแก้มสเตฟานี่ ฝากฝังรอยจูบไว้บนแก้มมลของเพื่อนสนิท
ด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวลไม่ให้สเตฟานี่ตื่นนมาพบฝันร้ายแบบครั้งนี้อีก…
“เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ไง”
“ผิดที่เจสเอง เจสเป็นคนทิ้งฟานี่ไว้เอง”
“คุณเจส”
“ถ้าเจสไม่ทิ้งฟานี่ไว้คนเดียว ถ้าไม่เผลอลืมของไว้ที่ร้านนั้น หรือ หรือว่าถ้าเจสชวนฟานี่เข้าไปด้วยกัน เรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
เจสสิก้าได้แต่เพ้อพูดเองว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอเองทั้งหมดด้วยน้ำเสียงสั่น น้ำตาคลอ
ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ด้านหลังรู้สึกเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก มือเล็กวางลงบนหัวไหล่ของคนที่นั่งจ้องร่างบางบนเตียง
“ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไร ถ้าเรารู้เราก็คงจะไม่ทำ”
“ฟานี่จะเป็นอะไรมั้ย”
“หมอบอกว่าเธอปลอดภัยแล้ว คุณเจสไปพักเถอะทางนี้ยุนจะเป็นคนดูแลเอง”
“แต่…”
“ไปเถอะ คุณควรเชื่อพี่นะ"
สายตาหมองเศร้าของเจสสิก้ามองสเตฟานี่อีกครั้ง ก็จริงอย่างที่ยุนอาพูดตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครู่
เธอได้แต่เดินวนเวียนอยู่หน้าห้องตรวจด้วยความเป็นห่วงเพื่อนที่รักสุดหัวใจ เจสสิก้าส่งยิ้มหวานให้ยุนอาก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเงียบๆ
สเตฟานี่อยู่กับยุนอาปลอดภัยที่สุดเพราะเขาเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งแต่ยังเล็กๆ
เมื่อได้ออกมาข้างนอกห้องแล้วเจสสิก้าเดินสะบัดผมตรงไปที่ร้านกาแฟด้านหน้าโรงพยาบาล
ผู้คนบางตาเพราะนี่ก็สามทุ่มแล้ว
RRRRR !!!
เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กดังขึ้น เจ้าของเครื่องหยิบขึ้นมากดรับสายทันทีเมื่อหน้าจอโชว์เบอร์นั้น...เป็นคนที่ต้องการจะคุยอยู่พอดี
"คะ คะ คุณเจสครับ"
"มีอะไรจะอธิบายมั้ย"
"เอ่อ คือว่า ผม ผมไม่ได้...."
"งานแค่นี้ยังไม่สำเร็จ ฉันก็ไม่ควรจะเลี้ยงแกไว้"
"คะ คะ คุณเจส คุณเจสครับ"
สิ้นสุดคำพูดของเธอ เจสสิก้าก็ตัดสายทันที ปลายสายตาเงยขึ้นมาพบกับผู้หญิงร่างสูงคนหนึ่ง เจสสิก้าขมวดคิ้วเพ่งมองผู้นั้นทันที...
"ซอยอน"
"พี่เจสค่ะ พี่ฟานี่เป็นไงบ้างค่ะ"
"ฟานี่ปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้พักผ่อนอยู่กับยุน"
"ซอเป็นห่วงพี่ฟานี่ค่ะ เลยรีบมาแล้วพี่เจสล่ะค่ะเจ็บตรงไหนมั้ยค่ะ"
"พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ดีนะยุนมาช่วยทัน เดี๋ยวรอพี่ซื้อโกโก้แล้วเราขึ้นไปพร้อมกันนะค่ะ"
เจสสิก้ายิ้มหวานให้กับซอยอน หันไปสั่งโกโก้ปั่นซักแก้วเพื่อให้ร่างกายสดชื่นมากขึ้นเพราะเธออาจจะต้องอยู่ยาวในคืนนี้
------------------------------
ภายในห้องพักพิเศษในโรงพยาบาลใหญ่ ยุนอามองร่างบอกบางที่นอนนิ่งบนเตียงไร้วี่แววว่าเธอจะฟื้นจากยาสลบเร็วๆนี้
มือหนายกขึ้นปัดเส้นผมที่ปะหน้าอยู่ออก ตั้งแต่คุณฮวังเสียไปก็เกิดแต่เรื่องอันตรายกับเธอ
"สเตฟานี่ ทิฟฟานี่ เธอโด่งดังในเรื่องแฟชั่น เธอจะยิ้มสดใสเสมอเวลาที่ได้คิดออกแบบชุดสวยๆ"
"พี่ชอบเธอเวลาที่เห็นเธอตั้งใจออกแบบเสื้อผ้าเหล่านั้นนะ"
ยุนอาลุกขึ้นยืนยิ้มมุมปากแววตาดูแข็งแรงจนหวั่นใจ ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ๆ
ประกบริมฝีปากบางเข้ากับปากของสเตฟานี่อย่างแผ่วเบา เป็นรสจูบที่ไร้รสชาติ
ไม่มีการตอบรับจากร่างที่นอนอยู่ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งยามที่สเตฟานี่หลับเช่นนี้...
"พี่บอกแล้วไงว่าเธอจะตายด้วยฝีมือใครไม่ได้ นอกจากพี่คนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าคุณเจสไม่มาตอนนั้นพี่คงจะ....."
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยุนอาค่อยๆยืดตัวยืนตรงจ้องมองใบหน้าสเตฟานี่หลับไหลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"พี่ฟานี่ !!"
ซอยอนเอ่ยปากเรียกชื่อผู้เป็นพี่เต็มเสียงเมื่อพบร่างที่นอนนิ่งเฉยอยู่
"พี่ฟานี่ พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะค่ะ"
"คุณซอยอนไม่ต้องห่วงนะค่ะ คุณสเตฟานี่ปลอดภัยแล้ว"
"ขอบคุณพี่ยุนมากนะค่ะที่เข้ามาช่วยพี่ฟานี่กับพี่เจสทันไม่อย่างงั้น..."
"ไม่อยากงั้นก็คงจะฆ่าคุณสเตฟานี่สำเร็จ"
ขณะที่ซอยอนกำลังพูดกับยุนอาอยู่นั้นเอง เสียงหนึ่งแทรกบทสนทนาขึ้นพร้อมกับร่างสูงผมพริ้วสวยดกดำ
เสื้อผ้านั้นถูกจัดให้เป็นระเบียบแต่ก็แฝงความเซ็กซี่เอาไว้ด้านหลังไม่น้อย เธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมถอดแว่นดำ
เผยให้เห็นแววตาดุดันเหมือนคนแค้นกันมานาน
"ทำไมเธอพูดแบบนั้น"
เจสสิก้าตอบกับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"เอ้า !! ก็จริงนี่ หรือไม่จริง ถ้าหมารับใช้อย่างยุนอาไม่คอยมาเดินตามตูดยัยทิฟฟานี่ล่ะก็ ยัยนี่คงตาย...สมใจใครหลายๆคนไปแล้ว"
"ซอนมีเธอนี่มัน..."
"คุณเจส"
ยุนอารีบเบรกร่างสวยเอาไว้ทันทีเมื่อเจสสิก้าเริ่มเสียงดังขึ้นมา
"คุณมาเยี่ยมคุณสเตฟานี่ก็กรุณาใช้คำพูดที่ให้สุภาพด้วย แม้ว่าคุณสเตฟานี่จะหลับอยู่ อีกอย่างคุณไม่มีสิทธิเรียกชื่อเธอว่า ทิฟฟานี่"
"ทำไม หรือว่า..."
"พะ พี่ พี่ยุนอา"
เสียงแหบดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ทุกคนต่างให้ความสนใจกับเจ้าของเสียงนั้นทันที
"พี่อยู่นี่แล้วค่ะ สเตฟานี่พี่อยู่นี่"
"พี่ยุนค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับฟานี่ ฟานี่ปวดหัวจัง"
"คุณถูกทำร้ายแล้วโดนยาสลบน่ะ พักผ่อนอีกซักหน่อยเถอะนะจะได้ดีขึ้น"
ยุนอายิ้มหวานให้กับสเตฟานี่ มือหนึ่งเอื้อมไปขว้ามือเธอมากุมไว้แน่นเป็นความหมายว่า ยุนอาจะไม่ให้สเตฟานี่เป็นอันตรายอีก
ซึ่งการกระทำของยุนอาก็ตกอยู่ในสายตาหนึ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นแววตาที่รู้สึกเช่นไร
ความรู้สึกแวบหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวบอดี้การ์ดสาว ร่างสูงปล่อยมือที่เคยกุมนั้นออกทันที
ทำได้เพียงแค่ส่งสายตาความห่วงใยผ่านไปให้ถึงเธอก็พอ
"สำออยล่ะสิ"
"ซอนมี"
สเตฟานี่เอียงหัวมองดูผู้มาเยือนยามค่ำขนาดนี้ เรื่องที่เธอถูกทำร้ายอย่างที่ยุนบอกคงจะแผ่กระจากออกไปสู่สังคมแล้ว
"เธอมาที่นี่ทำไม"
"ฉันก็แค่มาเยี่ยมเธอไง มาดูว่าเธอตาย...สมใจหรือเปล่า"
"งั้น ฉันต้องเสียใจด้วยนะที่ดวงแข็งไปหน่อย"
"ก็ดี แสดงความยินดีด้วยนะในฐานะ...เพื่อนเก่า"
ซอนมีรากเสียงยาวประโยคสุดท้าย จิกสายตาเพ่งมองคนพึ่งฟื้น ความอ่อนแอของสเตฟานี่ครั้งนี้ทำให้ซอนมีกล้าเข้าชน
"ความยินดีของเธอ ฉันไม่ขอรับไว้เพราะฉันไม่อยากได้ความยินดีสกปรกจากเธอ"
"ทิฟฟานี่ !!!"
"เธอไม่มีสิทธิเรียกฉันแบบนั้น เธอคิดจะตีเสมอฉันหรอซอนมี มันยังเร็วไปสำหรับ...สไตล์สิสต์กระจอกๆอย่างเธอ"
"มันจะมากไปแล้วนะ"
"มันไม่มากหรอก ฉันไม่เคยคิดว่าเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันมันโง่เองที่คิดว่าเธอดีทั้งที่เธอก็แค่พวกเห็บ
พวกหมัดที่คอยเกาะกินเลือดคนอื่นโดยไม่คิดที่จะหากินเอง อย่างเธอก็เป็นได้แต่สิ่งมีชีวิตใต้เท้าฉันก็เท่านั้น"
สเตฟานี่จิกสายตาเหยียดหยามอดีตเพื่อนเก่าอย่างเลือดเย็น กวาดสายตามองสาวปากแดงตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้เธอจะพึ่งฟื้นมาแต่ความร้ายกาจ รุนแรงของเธอไม่ได้หลับไปพร้อมเธอเมื่อตื่นขึ้นมาก็สามารถนำมันออกมา
จนทำให้คนทั้งห้องถึงกับเงียบสนิทเลยทีเดียว
"เธอควรออกไปจากที่นี่นะซอนมี ฉันไม่อยากหายใจในห้องร่วมกับเธอมันเหม็นเน่า"
ร่างบางพูดพร้อมกับโน้มตัวลงนอน โดยมีซอยอนจับผ้าห่มกายให้ความอบอุ่น
"ซอนมีออกไปเถอะ"
เจสสิก้าพูดขึ้น ซอนมีต้องจำใจออกมาจากห้องผู้ป่วยทันทีเพราะถ้าอยู่ต่อความร้ายแรงของสเตฟานี่จะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ๆ
เมื่อยืนอยู่หน้าห้องซอนมีขบฟันแน่นด้วยความแค้นในใจ ถ้าไม่มีเจสสิก้า หรือยุนอาเข้ามาสเตฟานี่คงได้ตายไปแล้วจริงๆ
แต่ความคิดนั้นต้องหยุดนิ่งเมื่อสายตามองเห็นใครบางคนเดินผ่านหางตา ซอนมีรีบหันไปมองแผ่นหลังของใครบางคนด้วยความรู้สึกคุ้นตา
สองเท้าค่อยๆก้าวตามไปด้วยความสงสัย
"คุณ คุณค่ะ"
ตัดสินใจตะโกนเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้ว ใครบางคนเดินหายไป คงจะเป็นคนหน้าคล้ายหรือมีลักษณะใกล้เคียงกัน
ซอนมียิ้มให้กับตัวเองก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงพยาบาล...
------------------------------
"คุณเจสสิก้า คุณซอยอน ขอตัวซักครู่นะคะ พี่จะออกไปซื้อชาซักหน่อย"
"อืม"
เจสสิก้าตอบเพียงสั้นๆ แต่สายตายังก้มมองไอแพดตรงหน้าอยู่ ยุนอาเดินเปิดประตูออกมาจากห้องเดินตรงไปยังด่านฟ้า
บรรยากาศด้านบนนี้เย็นสบายและหายใจได้เต็มปอด ลมพัดเอื่อยๆให้สดชื่นขึ้น มือบางหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นมาสูบ
เงยหน้ามองท้องฟ้าในคืนที่ดวงจันทร์มีเพียวเสี้ยวเล็กๆ
"ทิฟฟานี่..."
เอ่ยเรียกชื่อนั้นขึ้นมาขณะที่กำลังมองเสี้ยวพระจันทร์ ยุนอาหลับตาลงช้าๆ ปล่อยความรู้สึกลอยตัวไปกับสายลมเอื่อยๆ...ก็ทำให้นึกถึง.....
"ยุนอาลูกต้องอยู่ในนี้นะห้ามออกมาและอย่าส่งเสียงนะลูก"
เสียงของหญิงสาวมีอายุพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาและรีบร้อน ก่อนที่มือทั้งสองจะปิดประตูตู้ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง
ขนาดเล็กพอที่จะให้เด็ก 5ขวบเข้าไปอยู่ในนั้นได้สบาย
"แม่"
เด็กน้อยตาใส ไร้เดียงสาเรียกชื่อผู้เป็นแม่เบาๆ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก มือน้อยค่อยๆเปิดประตูตู้ช้าๆ
"แกรู้มั้ยโทษของคนที่หักหลังฉันจะเป็นอย่างไง"
"แต่เรื่องที่คุณทำทั้งหมดมันผิดกฎหมายนะ"
"ก็แล้วไงฉันมีเงิน มีทองล้นฟ้าขนาดนี้แกคิดว่ามันคุ้มกันมั้ยล่ะ"
สายตาเด็กน้อยมองไม่เห็นอะไร นอกจากขาของคนด้านนอกและบทสนทนาของผู้ใหญ่
"เงินทองที่คุณได้มามันมาจากความทุกข์ของคนอื่นนะ"
"ฉันคิดว่าเราคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ"
"เรื่องของแกจะถูกเปิดโปรง"
"เรื่องของฉันจะไม่ถูกเปิดถ้าแกตายซะ"
ปัง ปัง ปัง!!! เสียงปืนถูกเหนี่ยวไกดังติดกันถึงสามครั้ง ร่างของชายหนุ่ม หญิงสาวล้มลงนอนกับพื้นต่อหน้าต่อตาเด็กสาวที่ถูกซ่อนอยู่ในตู้
แววตาของหญิงมีอายุหันมาทางด้านตู้นั่นเป็นช่วงพอดีกับที่สบตามองกัน น้ำใสไหลออกจากดวงตาน้อยๆไม่ขาดสาย สองมือปิดปากแน่นสนิท
เลือดสีแดงสดส่งกลิ่นคาวฟุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่นานนักชายร่างใหญ่หลายคนก็เดินออกจากบ้านของเธอไป...
เด็กน้อยนั่งร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้ออกมาจากตู้ตามคำสั่งแม่ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน กี่วัน กี่คืนแล้ว
เด็กสาวตัวเล็กยังคงจำคำสั่งสุดท้ายของผู้เป็นแม่ได้ดี คาบน้ำตาที่ไหลไม่หยุดหลายวันยังคงเปื้อนหน้าจนดูไม่ได้
กลิ่นคาวเลือดเปลี่ยนเป็นเหม็นอบอวน...ชณะที่เธอนั่งกอดเข่าอยู่ในความมืดมิดไม่มีใคร ไม่มีเสียงใด แสงสว่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
"ยุนอา"
เด็กสาวหรี่ตามองเพื่อสายตาปรับแสง มองขัดขึ้น...ผู้มาเยือนคนใหม่
"ยุนอาฉันมารับเธอไปอยู่ด้วย"
ผู้ชายคนหนึ่งส่งยิ้มให้เธอ เด็กน้อยตัวผอม ร่างกายมอมแมม เป็นเวลา 4วันแล้วที่เด็กตัวเล็กๆอยู่ในนั้นโดยไม่ได้กินอะไรเลย
ร่างผอมบางถูกอุ้มออกมาพาดบ่าเดินออกไป...ในบ้านของเธอยังมีร่างผู้เป็นพ่อและแม่นอนอยู่ตรงนั้นถึงแม้มันจะมีกลิ่นเหม็น
แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอะไรบนบ่าของผู้ชายร่างใหญ่ แววตานั้นยังคงจับจ้องพ่อแม่ของตัวเองจนสุดสายตา...
"ฉันจะเป็นคนเลี้ยงดูเธอเอง ไม่ต้องห่วงนะฉันจะทำศพพ่อแม่เธอให้สมฐานะ และเธอจะได้แก้แค้นให้พ่อแม่ของเธอ...ยุนอา"
เสียงทุ้มใหญ่พูดปลอบใจเธอ เด็กน้อยแววตาเศร้าหมอง ไม่เคยพูดกับใครหลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป
ในพิธีฝังศพ ยุนอายังคงยืนตากฝนอยู่หน้าหลุมศพน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสายเหมือนใจจะขาดเมื่อเสียผู้เป็นพ่อแม่ไป
ฝนที่ตกลงมาช่วยปิดบังน้ำตาของเด็กเพียง 5ขวบคนนี้
วันเวลาผ่านไปถึง 6ปี ยุนอาตอนนี้อายุ 11แล้ว เด็กน้อยตัวเล็กมีใบหน้าสวยและดูแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เคยมีใครได้ยินเสียงยุนอาเลยซักครั้ง
ชายร่างสูงคิดว่าเด็กตัวเล็กคนนี้จะตกใจกับเหตุการณ์นั้นจนไม่อยากพูดกับใครเลย....วันหนึ่ง ยุนอานั่นอ่านหนังสืออยู่ในสวนของโรงเรียน
สถานที่แห่งนี้เงียบสงบ มีเพียงเสียงนกที่อยู่เป็นเพื่อน เด็กน้อยรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่มาที่นี่
"นี่ๆ"
ร่างสูงขมวดคิ้วหันหน้ามองต้นเสียงก็พบกับเด็กสาวตัวอ้วน กลม ส่งยิ้มตาปิดให้กับเธอ
"ทำอะไรอยู่หรอ"
"...."
"ระบายสีกันเถอะ"
เด็กน้อยหน้าเหมือนหมี ยิ้มหวานพร้อมกับส่งสมุดระบายสีน่ารักให้กับยุนอา
"ฉันชื่อทิฟฟานี่นะ พี่ล่ะ"
เหมือนต้องมนต์สะกดเมื่อรอยยิ้มจนตาปิดนั้นเหมือนความรู้สึกหวั่นไหวและมันช่างดูอ่อนโยนเหลือเกิน...
"ยุนอา..."
ร่างสวยก้มหน้าลงสะบัดความคิดทรงจำบ้าๆในหัว ทิ้งก้นบุหรี่ลงในถัง สองขาลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาให้ความอ่อนล้าหายไป
"อดีตเป็นเรื่องที่ดีแม้มันจะเลวร้ายหรือดี เพราะอดีตทำให้มีปัจจุบัน"
เสียงหวานดังขึ้นไม่ไกลจากตัวเธอนัก เป็นน้ำเสียงที่คุ้นหูดีและเธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"ฟานี่เป็นอย่างไงบ้าง"
"คุณสเตฟานี่เธอปลอดภัยดี"
"งานนี้พลาดหรอ"
"เอ่อ...คือ ถ้าคุณเจสสิก้าไม่เข้ามา..."
"ไม่เป็นไรหรอก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ไปพักผ่อนเถอะ"
"เอ่อ คุณ"
"ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร มันไม่ใช่ตอนนี้ ต่อไปก็อย่าพลาดอีกแล้วกัน"
ร่างหนึ่งเดินเปิดประตูออกไปจากด่านฟ้าของโรงพยาบาล เหลือเพียงแต่ยุนอาที่ยืนมองตามด้วยความสับสนในใจ
เหมือนมีปมบางอย่างที่ไม่สามารถแกะออกจากใจของเธอได้
------------------------------
ภายในห้องพักผู้ป่วยซอยอนขอตัวกับก่อนเพราะพรุ่งนี้จะต้องเข้าร้านแต่เช้า บรรยากาศเย็นจนต้องหยิบผ้ามาห่มให้เพื่อนสาวอีกชั้น
แล้วกับมานั่งที่เดิม เจสสิก้านั่งไขว่ห้างมองร่างสเตฟานี่ที่หลับไปแล้ว....
"เจสสิก้าลูกรู้มั้ยว่า ตระกูลฮวังเป็นประธานบริษัทฮวังคอร์ปอเรชั่นแต่เพียงผู้เดียว"
"ค่ะ"
"ความจริงเราไม่ใช่เพียงแค่หุ้นส่วนรายใหญ่ ตระกูลจองเองก็สมควรที่จะได้ยืนตำแหน่งประธานบริษัทเหมือนกัน
แต่คุณฮวังมันโกงพ่อและเขี่ยเราให้ตกมาเป็นเพียงแค่หุ้นส่วน"
"....."
"ลูกจะต้องทวงสิทธิของเราคืนมา...แบบที่พ่อกับแม่สอนแกมา ไม่อย่างนั้นบ้านเราจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ที่ซุกหัวนอน"
"ค่ะ คุณพ่อ"
เจสสิก้านึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเต็มแรง จนทำให้คนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมา
"เจส"
เจสสิก้าลุกขึ้นไปยืนข้างเตียงสเตฟานี่ทันที
"ฟานี่ ขอโทษนะฉันทำให้เธอตื่นใช่มั้ย"
"เปล่า เธอมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าเจส"
"ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอน่ะ"
"ขอบคุณนะเจสฉันทำให้รำบาคตลอดเลย"
สเตฟานี่กุมมือเจสสิก้าไว้แน่น เธอมีเพียงแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวที่เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ
อาจจะเพราะว่านิสัยเกเรทำให้ไม่มีเพื่อนก็อาจจะใช่
"ฉันเป็นเพื่อนเธอนี่"
"เธอเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันไว้ใจและรักที่สุดนะเจส"
สองตายิ้มให้เพื่อนสนิท โชคดีแค่ไหนที่เธอมีเจสสิก้าเป็นเพื่อนรู้ใจจนทุกวันนี้
------------------------------
ซอยอนเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสอง เมื่อถึงคฤหาสน์ฮวัง คฤหาสน์สไตล์โรมัน ตกแต่งด้วยวัสดุหรู ราคาแพง ลงตัวกับบริเวณโดยรอบ
กินพื้นที่ไปกว่า 24ไร่ ที่แห่งนี้มีคนอยู่มากมายถึงมันจะห่างไกลจากตัวเมืองมากแต่ก็เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี
เด็กสาวตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่ทางขึ้นบันไดไปชั้นสอง รูปบานใหญ่เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ในภาพนั้นคุณฮวังท่าทางสง่างามและดูมีอำนาจ
กับลูกสาวใบหน้างดงาม ริมฝีปากแดง แววตาคมกริบดูมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลที่สุด
"ถ้างานนี้ไม่มีพี่เจส กับพี่ยุนพี่ก็คง...."
ซอยอนหยุดคำพูดของตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามีใครเดินมาด้านหลังของเธอ
"พี่ฟานี่จะมาเมื่อไรหรอ"
"ซันนี่ พี่ฟานี่คงจะมาพรุ่งนี้ค่ะ"
"ซันนี่เป็นห่วงพี่ฟานี่"
"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พี่ฟานี่ปลอดภัยดี"
"ซันนี่หวังจะให้เป็นอย่างนั้น....ซะที่ไหน"
"อะไรนะค่ะ"
"อยากไปทะเลกับพี่ฟานี่"
"พรุ่งนี้ลองชวนดูสิค่ะ"
ซอยอนยิ้มหวานให้ซันนี่น้องสาวอัจฉริยะคนสวยผู้เดียวที่ได้ส่วนแบ่งจากคุณฮวังด้วยตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสาขาย่อย
แม้อายุจะยังน้อยแต่ความสามารถไม่น้อยตามอายุเธอ ซันนี่กอดตุ๊กตาเดินเลี่ยงเข้าห้องนอนตัวเองไปเมื่อประตูห้องปิดลง
ซันนี่ก็วางตุ๊กตาหมีตัวโปรดลงบนเตียงดวงตากลมเล็กจ้องมองหมีขนฟูสีน้ำตาล มันดูเก่าและดำไปบ้างจากการที่มันได้มานานแล้ว...
"พี่เอาของขวัญวันเกิดมาให้ซันนี่ด้วยนะ"
"ไหนๆ เย้ๆซันนี่ดีใจที่สุดเลย"
"ปิดตาก่อนสิ"
เด็กน้อยยกมือขึ้นปิดตาตัวเองตามคำสั่งของพี่สาว หัวใจดวงเล็กๆเต้นตูมตามด้วยความดีใจ
"นี่ไงเปิดตาได้"
มือเล็กเปิดตาออกเผยให้เห็นตุ๊กตาหมีขนฟูสีน้ำตาลตัวใหญ่ มันน่ารักจนอดใจที่จะเข้าไปกอดไม่ได้
เป็นปกติที่เด็กน้อยจะรู้สึกยินดีเมื่อได้ของขวันเช่นนี้
"ขอบคุณนะค่ะพี่ฟานี่"
"ถ้าไม่มีพี่เจส กับพี่ยุนพี่ก็คงจะ...."
ซันนี่โอบกอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดบนเตียงใหญ่ นุ่ม ก่อนที่จะหลับไปในคืนนี้....
---------------------------------
"ผมไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอ"
"คนที่ทำงานพลาด ฉันจะไม่เก็บไว้หรอกนะ"
"ให้โอกาสผมเถอะครับ เอ่อ ผมจะฆ่ามันให้ได้"
"แกไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ฉันจะหลอกให้มันมาติดแผนของฉันเอง...."
---------------------------------
ตอนนี้อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ ให้เห็นว่าตัวละครหลักบางส่วนคืิดอย่างไงกับฟานี่บ้าง ความหลังเป็นไง ใครคือคนร้ายตัวจิง
ส่วนแทยอนจะเป็นตัวละครลับหรือเปล่า จะเป็นคนแบบไหนในเรื่องนี้ ขออุ๊ปไว้ก่อนแล้วกัน อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามหยกนะค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น