คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 จดหมายปริศนา
บทที่ 2 จดหมายปริศนา
“กระผมทำงานในบ้านครอบครัวนก...ทำงานโอเว่อร์โหลดตั้งแต่เช้ายันค่ำ...เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทำ...ทำง๊าน...ทำงานในบ้านครอบครัวหฤโหด”
ผมถูบ้านพลางครวญเพลงที่ผมคิด..เป็นไงครับตรงกับชีวิตจริงผมไหม...
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมมีความสุข เพราะทั้งไอ้แม่นกและไอ้ลูกนกตัวกวนต่างก็ไม่อยู่บ้าน ตอนนี้บ้านหลังนี้เลยกลับมาเป็นของผมอีกครั้ง..แม้จะเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เถอะ
แค่มีความสุขสักสามสี่ชั่วโมง....ก็เป็นสวรรค์น้อยๆที่หาได้ยากของผมแล้ว
ผมเริ่มเต้นในห้องโถงใหญ่กลางบ้านจากตอนแรกที่เป็นจังหวะวอลซ์ช้าๆค่อยๆกลายเป็นจังหวะที่ร้อนแรงอย่างร็อคและกลับกลายเป็นการเต้นแบบบีบอยแทน โดยไม่รู้ตัวถึงการมาของใครบางคน
“มินเดอเรลล่า มินเดอเรลล่า....”
มือขาวเอื้อมมาจับไล่ผมที่กำลังเต้นอยู่ในโถงอย่างแผ่วเบาพร้อมกับกระซิบเสียงค่อยๆใกล้หู
“ย้ากกกกก! อย่าเข้ามานะโว้ย เดี๋ยวพ่อตีไม่เลี้ยง”
ผมคว้าเอาไม้ถูพื้นที่อยู่ใกล้ขึ้นมาเป็นอาวุธชี้ไปยังไอ้คนที่บังอาจมาจับไหล่ผมโดยพลการ แต่แล้ว...ก็จำต้องลดอาวุธเมื่อเห็นชัดๆว่าคนๆนั้นคือใคร...
“แอนดี้!”
“ครับผม...มินเดอเรลล่า”
หนุ่มน้อยท่าทางน่ารักตรงผมเอ่ยตอบรับพร้อมกับยิ้มแก้มป่อง
“จะให้ฉันบอกนายเป็นรอบที่เท่าไหร่ฮะ แอนดี้ ฉันบอกให้นายเข้าหน้าบ้าน..ไม่ใช่ลับๆล่อๆอย่างนี้ และที่สำคัญ...เลิกเรียกฉันว่า มินเดอเรลล่า ซะ!”
ผมเอ่ยบอกแอนดี้อย่างหัวเสีย แค่การต้องมาได้ยินชื่อนี้จากปากไอ้ลูกนกทุกวันก็ทำให้ผมจะเอียนอ้วกอยู่แล้ว เจ้าบ้าแอนดี้มันยังจะเอามาเรียกอีก..พอซะทีได้ไหม....ผมไม่ใช่มินเดอเรลล่านะ......
“ก็มันเหมาะกับพี่มากเลยนะ...มินเดอเรลล่า”
มันยังไม่เลิกครับ...ผมขอสอยมันลงไปกองกับพื้นก่อนแล้วค่อยถามธุระทีหลังได้ไหม?
ผมส่งสายแห่งความเฮี้ยมโหดไปยังเจ้าแอนดี้ หวังให้มันรู้ถึงคำว่าสำนึกแต่ดูเหมือนเจ้านี่จะมีออร่าความใสซื่อครอบงำเยอะเกินไป....เพราะมันก็ไม่รับรู้อะไรอยู่ดี
“มาพี่..วันนี้ให้ฉันช่วยอะไร?”
“นายช่วยล้างจานในห้องครัวให้หน่อยละกันนะ...แอนดี้”
ผมกล่าวอย่างอ่อนใจโทสะเมื่อครู่ที่กำลังขึ้นว่าจะสอยเจ้านี่สักทีมลายหายไปในทันที ..ผมจะไปทำลงได้ยังไงล่ะครับ...เพราะถ้าไม่มีแอนดี้...ผมที่ต้องทนทุกข์จากการอยู่ใต้การปกครองของครอบครัวนกคงเหี่ยวเฉาไปแล้ว ถ้าไม่ได้เจอกับเขา...แอนดี้
แอนดี้...เขาเป็นเด็กข้างบ้านผม..จริงๆผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาอยู่ข้างบ้านผมตั้งแต่เมื่อไหร่ คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ผมมีความสุขมากจนเกินไป...ถึงได้มองไม่เห็นใครเลยสักคนข้างๆตัว นอกจากพ่อและแม่ที่ผมรัก ถึงแม้เขาจะอ่อนกว่าผมอยู่สองสามปี แต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่สูง ช่วงแรกๆที่ผมต้องเผชิญชะตากรรมกับเจ้าพวกครอบครัวนกก็ได้เขาเนี่ยแหละที่ทำให้ผมไม่หมดหวังในชีวิต...และได้เขาเนี่ยแหละคอยแอบมาช่วยงานบ้านอันแสนหนัก...
ไว้สักวันที่ผมหลุดพ้นจากที่นี่ ผมจะตอบแทนและกล่าวคำว่า “ขอบคุณ”กับเขา ....แต่วันนั้นคงยังอีกนาน..นายรอไปก่อนแล้วกันนะแอนดี้ ไว้ถึงตอนนั้นฉันจะซื้อขนมอร่อยๆให้นายกินจนเบื่อเลย
“ติ๊งต๊อง”
ขณะที่ผมกำลังถูบ้านตรงห้องโถงที่บัดนี้มีรอยเท้าที่เกิดจากการที่ผมเต้นเมื่อครู่อยู่นั้น เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมชะเง้อหน้าแอบมองทางหน้าต่างจึงได้พบว่าคนที่กดไม่ใช่ใครที่ไหนไกล...บุรุษไปรษณีย์คิมดงวานนั่นเอง
“สวัสดี มินบง วันนี้ก็ขยันขันแข็งอีกแล้วนะ..”
บุรุษไปรษณีย์คิมดงวานเอ่ยทักทายผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย ผมไม่เข้าใจ..ชีวิตเขามันมีความสุขมากเลยหรือไง...เห็นกี่ทีก็ยิ้มซะจนหน้าผากย่นทุกทีเลย แต่เรื่องนั้นมันไม่เท่าไหร่ แต่..เมื่อไหร่นายนี่เขาจะเลิกมองผ้ากันเปื้อนสีหวานแหววบนตัวผมแล้วก็ยิ้มจนจะฉีกถึงหูซะที...ผมก็อายเป็นนะโว้ย!
“วันนี้มีจดหมายหลายฉบับเลยนะ อ่ะ!..โดยเฉพาะฉบับนี้ ขอบอกว่า...น่าสนใจมาก”
เขาเอ่ยพลางหยิบตั้งจดหมายกองยักษ์ออกมาให้ผม พร้อมกับดึงจดหมายฉบับหนึ่งที่อยู่บนยอดของกองมายื่นให้ผม
มันคือจดหมายอะไรกัน...ทำไม เขาถึงต้องบอกว่าน่าสนใจ
“เออ..คุณคิมฮะ ทำไมจดหมายฉบับนี้มันถึง...”
ผมก้มอ่านชื่อบนหน้าซอง...แน่นอนครับ มันจะเป็นชื่อผมไปได้ยังไง มันก็ต้องเป็นจดหมายของไอ้ครอบครัวนกนั้นอยู่แล้ว แต่ทำไมจดหมายของพวกเขาถึงจะมาน่าสนใจสำหรับผมล่ะ...พอผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นมาถาม ปรากฏว่าบุรุษไปรณีย์คิมดงวานก็หายไปซะแล้ว เหลือเพียงแต่กลุ่มควันสีขาวที่พวยพุ่งจากรถมอเตอร์ไซต์เขาที่พอจะบอกให้ผมรู้ว่า..เขามาจริงๆ
เมื่อไม่มีใครให้ถาม ผมจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน...พลางเอาจดหมายฉบับนั้นมาส่องกับแสงแดดระหว่างที่เดินเผื่อว่ามันจะพอทำให้เห็นข้อความข้างใน แต่มีเหรอ..จะเห็น
“มีอะไรเหรอครับ..พี่ดงวาน”
แอนดี้ที่เดินตัวเปียกออกมาจากห้องครัวเอ่ยถามผม เดี๋ยวนะ..ตัวเปียกอย่างงั้นเหรอ?
“แอนดี้นายไปล้างจาน หรือว่าลงไปว่ายน้ำในอ่างล้างจานกันฟ่ะ?”
ผมเอ่ยถามด้วยใบหน้าฉงนพลางสำรวจไปบนคนตรงหน้าที่เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้ายังกับลูกหมาตกน้ำ
“เออคือ...เหอะ เหอะ...ผมก็แค่บังเอิญเปิดน้ำปแงไปหน่อย..แต่...แต่ผมจัดการเช็ดตรงที่เปียกให้หมดแล้วนะครับ ไม่ต้องห่วง”
แอนดี้เอ่ยแบบขะเขิน..พลางเอามือเกาหัวที่ตอนแรกก็ยุ่งอยู่แล้วให้มันยุ่งมากขึ้น
“เอ้า...เอาผ้านี่ไปเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนไป เดี๋ยวฉัน...จะไปหยิบเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน”
ความเป็นคนดีในตัวผมกระตุ้นให้ผมหยิบยื่นผ้าขนหนูใกล้มือไปให้เขา พร้อมกับเสนอตัวนำเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน...อือ..หรือว่ามันเป็นความเคยชินกับการที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้จากเจ้านี่เป็นประจำก็ไม่รู้
ผมจึงจำต้องวางจดหมายปริศนานี่ไว้บนโต๊ะและเดินหายไปทางหลังบ้านมุ่งไปสู่ห้องของผม
ต้องใช้เวลาหาอยู่ตั้งนานกว่าจะหาเสื้อผ้าที่เจ้าแอนดี้มันน่าจะพอใส่ได้ ก็เสื้อผ้าผมนะ..มีแต่เล็กๆเก่าๆ จริงๆไม่อยากจะให้ยืมเลย อายเขา..มันดูซอมซ่อเหลือเกิน แต่มันก็คงดีกว่าปล่อยเจ้านั่นให้เป็นหวัดล่ะนะ
“แอนดี้ นายเอาอันนี้ไปใส่ก่อนละกัน ไม่รู้เสื้อมันจะฟิตไปหรือเปล่า ส่วนกางเกงนี่ เอายางยืดไปแล้วกัน นายใส่คงจะเออ...สั้นไปหน่อย แต่ก็ใส่ไปก่อนละกันนะ”
ผมเดินกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าและกางเกงที่คาดว่าเจ้าแอนดี้น่าจะพอใส่ได้...แต่ก็ต้องถึงกับอึ้ง
“แอนดี้!”
เจ้าบ้านั่นกำลังยืนอ่านข้อความในจดหมายปริศนาที่ผมวางไว้ที่โต๊ะเมื่อกี้นี้ อย่างนี้ก็แปลว่ามัน....แกะออกมาแล้วนะซิครับ งานนี้ตายแน่...ไอ้แม่นกมันต้องมาจิกผมอีกแล้ว
“นายทำบ้าอะไรแอนดี้...นายไปแกะจดหมายแบบนี้ได้ไงกัน รู้ไหมว่า....หึ”
ผมตะโกนเอะอะเสียงดังใส่เขา ซึ่งเขาก็ยังคงไม่สนใจแต่กลับยื่นจดหมายในมือมาให้ผมแทน ซึ่งผมก็รับมาอ่านโดยไม่คิดอะไร ก็แหม...ผมก็กำลังอยากรู้เหมือนกันนิ
เรียนท่านผู้มีเกียรติ
เนื่องมาจากในวันที่ 21 มีนาคมนี้ เศรษฐีโซจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำเนื่องในวันเกิดของคุณหนู โซซาริน ลูกสาวคนเดียวของท่าน ทางเราซึ่งเป็นเจ้าภาพจึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติมาเข้าร่วมงานในวันนั้น หวังว่าพวกท่านคงจะให้เกียรติมาร่วมงานเต้นรำของพวกเรา
ด้วยความเคารพอย่างสูง
โซจามง
เลขานุการฝ่ายกิจกรรมแห่งบ้านตระกูลโซ
งานเต้นรำ..จดหมายเชิญไปงานเต้นรำ นี่ผมไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม....
ความคิดเห็น