ตอนที่ 2 : { Chapter1 } It'syou : ผู้ชายในฝัน
Titte : It's You : เพราะเธอ
Author : D’sweet.eye
Pairing :Mark Vs Bam
Rate : LOVE LOVE LOVE
Chapter1
ม๊ายยย!! ผมเด้งตัวตื่นเพราะไอ้ฝันบ้าบอๆ ไอ้พี่หวังดันเอาใครที่ไหนก็มาไม่รู้มาซ้อนตัวไว้ในห้องของผมพร้อมกับกำชับว่าถ้าไดร์ฟอันกระจี๊ดนึงอันนั้นหาย ก็เท่ากับผมเป็นฆาตกรรมจำเป็น เฮือก!!! ฝันร้ายชะมัดแต่คนไทยถือนะว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี แล้วถ้าฝันดีจะกลายเป็นฝันดีขึ้นไปอีก -*- (ไม่ค่อยจะเข้าข้างตัวเองอ่ะ) แล้วมันก็ดีๆจริงๆที่มันเป็นแค่ความฝันขืนเป็นเรื่องจริงผมต้องตายแน่ๆ ก็ไอ้คนตัวเล็กอย่างผม ไหนจะมาจากต่างบ้านต่างเมืองอีก มันคงไม่สนุกแน่ๆถ้าจะมีใครเอาภาระมาให้ผมแบกไว้แบบนี้
// ตี๊ด....ตี๊ด.. //
ผมเอื้อมมือปิดนาฬิกาปลุกที่ดังสนั่นห้องตอนนี้ เวลา 06.00 น ถึงเวลาที่ผมจะต้องตื่นไปโรงเรียนแล้วซินะ ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจเหมือนอย่างเคย
อื้อออ เอ๊ะ! เสียงอะไร? ดังมาจากห้องครัวผมรีบวิ่งไปดูต้นเสียงแต่ทว่าห้องพักผมไม่มีรูมเมทแน่นอนเพราะถ้ามีสตาร์ฟที่ดูแลนักเรียนแลกเปลี่ยนต้องบอกอะไรผมไว้บ้างแหละ ไม่ใช่ซุ่มสี่ซุ่มห้าจะให้ใครมาอยู่กับผมก็ได้แบบนี้ ผมเดินตรงไปห้องครัวก่อนจะไม่ลืมถือไปเบสบอลติดมือไปด้วยถ้าเป็นโจรละก็ไม่ตายคามือก็อย่ามาเรียกผมว่าแบมมี่เลย!!
“ย๊ากกกกก” ผมวิ่งตรงไปที่ห้องครัวก่อนจะง้างมือตั้งท่าจะตีกับคนที่อยู่ตรงหน้าแต่ว่ามัน..เมี๊ยววว ลูกแมวน้อยตัวที่ขาวกำลังกินเศษเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารที่ผมลืมทิ้งไว้
“แมวน้อย นายเข้ามาอยู่ในห้องฉันได้อย่างไงเนีย?”
“นายใจร้ายจังนะ คิดจะตีแม้แต่ลูกแมวตัวเล็กๆ” ใคร?!! ใครอีกคนพูดในขณะที่ผมยังง้างไม้เบสบอลที่ติดมือมาดูเผินๆแล้วก็คงไม่ต่างจากคนทำร้ายแมวน้อยน่าสงสาร
“นะ นะ นาย!” เห็นแล้วก็ต้องตกใจฉี่แทบราดก็อะไรซะอีกหละ ไอ้คนนั้น ผู้ชายคนนั้นที่อยู่ในฝันผม เค้าๆๆๆ อ๊ากก ผมตกใจจนแทบช๊อก แต่ทีทำผมตกใจ ซ๊อก จนแทบชักอยากจะตายไปอีก ก็สภาพเค้าไม่ต่างอะไรก้บซีเปลือยสวมแค่บ๊อกเซอร์เล็กๆสั้นๆตัวเดียวเดินปล่อยน้อยชายห้อยโตงเตงรับลมอย่างเบิกบานใจในห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
“อะไรนายเป็นอะไรของนาย? ไม่เคยเห็นคนหล่อ?” หนอย! หล่ออย่างกับผีอะไรหละ ถ้านายหล่อบาดจิตเหมือนมาร์ค Got 7 ฉันจะไม่ว่านายสักคำ ถ ถ ถ นี้มันปลวกวัดโพธิ์ชัดๆ
“ออกไปเลยนะ นายเข้ามาทางไหนก็ออกไปทางนั้นเลย ด่วน” ผมชี้นิ้วไปทางประตูห้องพลางบอกเป็นนัตส์ว่าให้ออกไปก่อนฉันจะหมดความอดทนกับสภาพของนาย
“ทำไมฉันต้องออกในเมือแจคสันฝากฉันไว้ให้นายดูแล แล้วนายก็ตบปากรับคำแจคสันไว้แล้ว” ตบปากรับคำผมเนียนะรับว่าจะดูแลไอ้หมอนี้ นี่! นายกำลังพูดปลดนะถ้าเป็นคนไทยนายถือว่านายกำลังทำผิดศิล 5 แล้วนายก็ต้องตกนรกนะจะบอกให้
“ผมเนียนะ?รับปากพี่แจคสันว่าจะดูแลนาย นายบ้าจนเพี้ยนไปรึป่าว” ไม่จริงอ่ะไม่จริง มันเป็นแค่ฝันแต่ไหงไอ้คนในฝันนี้ดันมายืนเถียงอยู่ตรงหน้าผม ฉอด ฉอด ฉอด หรือจะเป็นฝันซ้อนฝัน แน่ๆเลยมันต้องเป็นความฝัน ผมไม่รอช้าก่อนจะฝาดฝ่ามือลงบนแก้มซ้าย ป๊าบ! ! ! อะโอ้ย เจ็บเป็นบ้านี้มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย ไม่นะ ผมรีบวิ่งไปเปิดลิ้นชักโต๊ะหนังสือถ้ามันมีไดร์ฟสีขาวอันเล็กนั้น แสดงว่าทั้งหมดทั้งมวล นี่ผมกำลังบิดเบื้อนความจริงภาวนาให้มันเป็นแค่ความฝันใช่มั้ยเนี่ยๆๆ เฮ้อออ แบมมี่จะเป็นลม
“แค่ฉันจะมาอยู่ทีนี้นายก็ทำ ดี๊ ด๊า ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฉันแค่มาอยู่ฉันไม่ได้จะมาฆ่านาย” อีกคนพูดก่อนจะถือวิสาสะเดินหยิบขนมของผมในตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดทีวีดูน่าตาเฉย
“แล้วอีกอย่างไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำอะไรนายหนะ นายมันไม่มีอะไรให้ฉันพิศวาทหรอก” ไอ้ๆๆบ้าใครเค้าคิดแบบนั้นกันเล่านี่สาบานได้ว่าฉันยังรู้จักนายยังไม่ถึงชั่วโมงแต่ความเกลียดชันมันปาไปไกลยิ่งกว่าความเร็วแสง
“ปากนายเหรอที่พูดนั้นหนะ ผมแค่ไม่อยากให้คุณมาอยู่ด้วย อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่านายกับพี่แจคสันไปทำอะไรมา แต่นั้นก็เหอะมันไม่ธุระกงการอะไรของผมอยู่แล้ว เชิญนายออกไปได้แล้ว ได้โปรดเคารพการตัดสินใจของผมด้วย”
“ฟังดูดีนะ ฉันอับจนหนทางแล้วนิจ้างฉันก็ไม่มีทางไปจากห้องรูหนูนี่หรอก”
“ดูปากผมดีๆนะ ผมไม่ให้อยู่อย่างไงผมก็ไม่ให้อยู่” ผมพูดก่อนจะสั่งให้อีกคนดูปากผมช้าๆชัดๆ
“ให้ฉันดูชัดๆเดียวก็จับปล่ำซะหรอก” เย้ยยย ไอ้บ้านี้มันน่ากลัวกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีกนะ
“คุณจะปล่อยตัวอยู่กับคนที่คุณไม่รู้จักเนียนะ คุณเป็นใคร ชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน อะไรทำให้คุณต้องมาอยู่บ้านผมทั้งๆที่เราสองคนก็ไม่เคยแม้แต่จะเดินผ่านกัน”
“เพราะโชคชะตานำพาให้เราสองคนมาพบกัน..” ผมอึ้งกับคำพูดอีกคน ไอ้บ้านี้มันพูดอะไรรู้มั้ยว่าผมศรัทธาเรื่องพรหมลิขิตมากขนาดไหน >< อยากบอกนะว่านายแอบผม เหมือนในนิยายหรือซีรีส์เกาหลีที่เค้ามาปิ๊งกับตอนอยู่ห้องพักนักเรียน อ๊าก
“ชื่อละครสมัยนี้แม่งมันจะตั้งเรียกน้ำย่อยอะไรขนาดนี้ว่ะ แค่ชื่อก็แทบอ้วกแล้ว น้ำเน่าชิบหายว่ามั้ย?” -*- ไอ้เราก็นึกว่าพูดเรื่องเดียวกันนี้นายไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ฉันตั้งใจพูดเลยใช่มั้ย?
“ลืมบอกไปฉันชื่อ มาร์ค ขออยู่ที่นี้สักพักแล้วกัน โอเคนะ? ตกลงตามนี้แล้วอย่าถามฉันมาก ผู้หญิงท้อง ผู้ชายน้ำแตกเพราะฉันมาเยอะแล้ว” อะ..เอิ่มพูดไม่ออกเลยผม แต่.. แต่นายจะมาอยู่ที่นี้ไม่ได้นะ ได้ๆ นายเล่นวิธีนี้ใช่มั้ย งั้นก็ลองเอากับผมสักตั้งก็แล้วกัน (?) ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงก่อนจะลากไอ้คนที่นอนไขว้ห้างกระดิ๊กเท้าบนโซฟาอย่างสบายใจ ไล่ออกจากห้อง
“ออกไป” ผมชี้นิ้วไล่
“ไม่” อีกคนสะบัดมือผมออกก่อน
“ออกไป”
“ถ้าไม่หยุดฉันจูบแน่” คิดว่าฉันจะกลัวงั้นซิ?
“ออกไป”
“ท้าทายงั้นซิ? จุ๊บ”
0.0’’ ย๊ากไอ้บ้านี้ ไอ้....ไอ้ยังไม่ทันที่ผมจะตั้งตัวหลบปากเน่าๆของอีกคนก็ประกบลงที่ปากของผมอย่างแนบแน่น เฮือกกลิ่นน้ำส้มที่เค้าพึ่งดื่มไปเมื่อกี้ยังคงติดปากผม นี้มันจ จ มากไปแล้วนะ ผมบีบหน้าหนีก่อนจะดันอกอีกคนให้ออกห่าง
“อี๊!! ไอ้บ้าไอ้คนสกปกร อย่าทำแบบนี้ได้อย่างไง” ผมรีบใช้หลังมือถูปากตัวเอง แหวกนี้ผมต้องเอาน้ำมนต์มาป้วนปากแทนน้ำยาซะแล้วหละมั้ง
“ยังพูดไม่หยุดอีก? จุ๊บ” เฮ้ยไอ้บ้ามันจูบผมอีกแล้ว สองครั้งแล้วนะที่นายขโมยจูบผม อ๊ากกก
“สกปรกออกไปนะ ผมสั่งให้ออกไป”
“จุ๊บบบ ถ้าขืนนายยังพูดไม่หยุด ฉันสาบานเลยว่านายจะไม่โดนแค่จุ๊บแน่ หรืออยากจะลอง?”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ติดตามนะครับแหม่... มาต่อไวๆเน้อ
อ่านแล้วฟินมากอ่ะเจ้
เขินแทนอารึมแปป