ซาตานดีไซน์รัก - นิยาย ซาตานดีไซน์รัก : Dek-D.com - Writer
×

    ซาตานดีไซน์รัก

    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักธุรกิจหนุ่มผู้เย็นชา เกิดตกหลุมรักมัณฑนากรสาวเจ้าเสน่ห์

    ผู้เข้าชมรวม

    149

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    149

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.ย. 53 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนที่1
             อุ้ย ขอโทษค่ะ
    นี้คุณเดินภาษาอะไรนะ
    เสียงที่ต่อว่าวริญานั้นไม่ใช้เสียงของคนที่เธอเดินชนแต่หากเป็นเสียงของผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่ที่มีท่าทางน่ากลัวที่เดินมาพร้อมกับเขา ผู้ชายตัวโตคนนั้นบอกเธอด้วยท่าทางเหมือนผู้ใหญ่กำลังสั่งสอนเด็ก แล้วยังสายตาดุที่ส่งมาให้เธออีก  
    กวีน ฉันไม่เป็นไรอย่าเสียมารยาท 
    คำพูดของเจ้านายทำให้กวีนอดรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมเจ้านายของเขาไม่ได้ ปกติเจ้านายของเขาเองต่างหากที่จะแสดงอาการโกรธหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่ตอนนี้ไม่โกรธผู้หญิงคนนี้แถมยังแสดงอาการเป็นห่วงเธออีกต่างหาก กวีนคิดว่าเจ้านายของเขาดูจะไม่ปกติเสียแล้ว 
    วุฒิภัทร วัชรศักย์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ กิจการของเขาไม่ว่าจะเป็นบริษัทส่งออกสินค้าไทย จีเวอร์รี่ หรือกิจการด้านโรงแรมที่กำลังไปได้ดีในขณะนี้ ซึ่งตอนนี้เขาได้สร้างโรงแรมขึ้นใหม่อีกแห่งดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้วเหลือเพียงการตกแต่งภายในเท่านั้น แต่ก็กลับล่าช้าเพราะหาบริษัทที่เขาถูกใจไม่ได้   ตอนนี้เหลือเพียงบริษัทเดียวที่กวีนคิดว่าดีและน่าจะถูกใจเจ้านายของเขาแต่กวีนก็ไม่แน่ใจมากนักเพราะขนาดบริษัทใหญ่ๆเจ้านายของเขายังไม่ถูกใจเลย
    แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า
                    ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะ
    วริญาบอกเขาแล้วรีบขอตัวเดินออกมาเพราะเธอรู้สึกว่ากลัวผู้ชายสองคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่แค่เธอบังเอิญก้มดูของในกระเป๋าเลยไม่ทันมองทางข้างหน้าเลยชนกับเขา ไม่ได้ตั้งใจจะเดินชนเขาซะหน่อยเธอยังโดนดุซะขนาดนี้เลย แล้วสมมุติว่าถ้าเธอตั้งใจจะทำร้ายเขาจริงๆเธอคงตายเพราะนายกล้ามใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาแน่นอนเลย
    เดี๋ยว
    เสียงของวุฒิภัทรทำให้เธอตกใจ   ทำให้เธอหยุดเดินแล้วค่อยๆหันกลับไปทางเขา ท่าทางของเธอทำให้เขารู้ว่าเธอกลัวเขา ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจกับคนของเขาที่ทำให้เธอตกใจกลัวเขาไปเสียแล้ว
    มะ....มีอะ   ไรหรือเปล่าค่ะ
    นี้ของคุณหรือเปล่า
    วุฒิภัทรพูดพร้อมชูปากกาหมึกเจลล์ขึ้นให้หญิงสาวดู
    ค่ะ.....ขอ.......ของฉันเองคะ....ค่ะ
    วริญาบอกเขาและเดินกลับไปทางเขาเพื่อจะรับปากกาคืน
     คุณชื่ออะไร
     เขาไม่ยอมคืนปากกาให้เธอ แต่ถามชื่อเธอแทน ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวผู้ชายสองคนนี้มากขึ้นเธอจะทำยังไงดีนะ ตอบๆเขาไปเถอะเขาอาจแค่ถามชื่อดูคงไม่มีอะไรมาก เธอคิดในใจ 
    วริญาค่ะ
    แต่วุฒิภัทรก็ยังไม่ยอมคืนปากกาให้เธอง่ายๆ ยิ่งเห็นเธอกลัวเขาแบบนี้กับรู้สึกว่าอยากแกล้งเธอมากขึ้น
    ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน เพิ่งมาทำงานที่นี้หรอ
    ปะ...เปล่าค่ะ...ดิฉัน..ขะ......ขอปากกาคือ.....คืนด้วยค่ะ
    นี้เขาจะเอายังไงเนี้ยถึงไม่ยอมส่งปากกาคืนให้เธอซักทีและก็นึกโมโหตัวเองที่ทำไมตอนนี้ดันพูดติดอ่างซะได้ แต่นั้นก็เป็นเพราะเขานั้นแหละวริญาโทษเขาที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้เพราะปกติเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ซะหน่อย  ปกติแล้ววริญาจะเป็นคนที่พูดเก่งเพราะเธอต้องพูดคุยกับลูกค้าที่เธอไปติดต่องานอยู่เสมอแต่วันนี้เธอเป็นอะไรนะทำไมรู้สึกกลัวเขาก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะสายตาของเขาที่มองเธอก็เป็นได้ 
    วริญาคิดว่าเขาอาจจะทำให้เธอหัวใจวายเพราะกลัวเขาก่อนหรือไง แล้วเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่เอาปากกาแล้ว และคิดว่าควรรีบเดินไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจกับหลังหันและวิ่งออกมาโดยไม่หยุดฟังเสียงที่ผู้ชายคนนั้นเรียกเธอ 
     
    เมื่อมาไกลแล้วหันกับไปมองก็ไม่มีใครตามมาและคิดว่าคงปลอดภัยแล้วจากผู้ชายสองคนนั้นจึงหยุดพักหายใจหาย แล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะมือที่จับไหล่ของเธอในตอนนี้
     มายืนตรงนี้ทำไมครับกิ๊ฟ
    เมื่อไดยินเสียงและหันไปเห็นว่าเป็นใครก็รู้สึกโล่งอกหายใจคล่องขึ้น วริญาคิดว่าหากเธอเป็นโรคหัวใจวันนี้เธออาจตายไปแล้ว เพราะวันนี้เธอเจอแต่เรื่องที่ทำให้เธอหัวใจวายได้เลย แต่เธอก็โชคดีที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจอย่างที่ตัวเองคิดไว้
     มาเอาเอกสารคนนะค่ะบอส
    ภูธนิตน์ อนันสิรากุล ที่เธอมักเรียกผู้ชายคนนี้นอกเวลางานว่าพี่ภูนั้นเคยเป็นรุ่นพี่ที่คณะของเธอสมัยเรียนทำให้ทั้งสองสนิทกันมากสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องจนบางครั้งคนอื่นมองว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น โดยเฉพาะวริญายิ่งหมั้นใจมากว่าภูธนิตน์นั้นไม่คิดอะไรกับเธอแน่นอน ที่เธอแน่ใจก็เพราะว่าเขามีคนรักอยู่แล้วและทั้งคู่ก็รักกันมากด้วย อีกทั้งผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพี่สาวของเธอเอง       และตอนนี้ภูธนิตน์ยังได้กลายมาเป็นเจ้านายของเธอยิ่งทำให้สนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเพราะเวลาที่ภูธนิตน์มีปัญหากับพี่สาวของเธอนั้นเขาก็มักจะมาปรึกษาเธอและขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ
    แล้วนี้บอสออกมาข้างนอกทำไมค่ะ
    ก็กิ๊ฟออกมานานไม่กลับไปสักที พี่ก็คิดว่ามีใครฉุดไปแล้วนะซิ กิ๊ฟนะยิ่งโก๊ะๆอยู่ด้วยเกิดมีคนมาหลอกไปพี่ก็โดนพี่สาวเราเล่นงานแย่นะซิ
    ภูธนิตน์พูดถึงนิสัยของวริญาที่มักจะทำอะไรโก๊ะๆโดยบางทีเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไป
    พี่ภูก็
    ฮ่า.....พี่ล้อเล่นนะ
    วริญาทำท่าทางที่บอกว่าเจ้าตัวงอนเขา   ซึ่งเธอจะทำแบบนี้กับเขาเสมอหากเขาทำให้เธอไม่พอใจหรือคอยหัวเราะเธอเวลาที่เธอทำเรื่องเบิ๋นๆ  
    ในสายตาของภูธนิตย์นั้นเธอเป็นน้องสาวที่เขารู้สึกรักและเป็นห่วงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่เพียงน้องสาวของแฟนสาวที่เขารักก็ตาม แต่เขากับรักและเป็นห่วงเธอเหมือนน้องสาวจริงๆเลยก็ว่าได้ วริญาเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพู ผมที่ดัดเป็นลอนนั้นมีสีน้ำตาลเข้มรับกับใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี ตาของเธอกลมโตยิ่งเวลาที่เธอตกใจนั้นดวงตาของเธอกับยิ่งกลมโตกว่าเดิมมันทำให้ใบหน้าของเธอดูมีเสน่ห์เพราะดวงตาของเธอดูใสซื่อบริสุทธิ์ขนตาที่ยาวงอนโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องคอยดัดเลย ริมฝีปากบางได้รูป ปลายจมูกเล็กโด่งรันทำให้เขาคิดถึงเวลาที่เธอโกรธ   วริญานั้นมีนิสัยที่น่ารักใครอยู่ใกล้แล้วก็มีความสุขเช่นเดียวกับเข้า เมื่อมองหน้าวริาแล้วทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่มีน่าตาคล้ายกับวริญาแต่ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้รักเธอแบบน้องสาวอย่างวริญา เขารักเธอแบบชายหญิงเธอเป็นคนรักของเขาและยังเป็นพี่สาวของวริญาอีกด้วย
    มองอะไรค่ะ ทำอย่างกลับไม่เคยเห็นคนน่ารักอย่างนั้นละ
    วริญาพูดออกมาเมื่อเห็นว่าภูธนิตย์มองเธออยู่   ทำให้เขารู้ตัวว่ามองหน้าเธอนานจนเธอรู้ตัว
    หรือว่ามองหน้ากิ๊ฟแล้วคิดถึงหน้าใครอีกคน
    เปล่าซักหน่อย พี่ว่าเรากลับไปที่ห้องดีกว่านะเหลืออีกสิบห้านาทีก็จะถึงเวลานัดแล้ว
    เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะคะบอส.....
    วริญาแซวคนที่รีบเดินหนีเธออย่างรู้ทันว่าเขาคิดถึงใครอยู่
    เมื่อเดินมาใกล้จะถึงห้องที่เธอเดินออกไปเพื่อเอาเอกสารที่ลืมไว้ ก็พอดีกับพนักงานตอนรับคนที่เธอเจอเดินส่งยิ้มมาให้และหยุดตรงน่าภูธนิตน์ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูสุภาพสมกับตำแหน่งที่เธอทำอยู่
    ท่านประธานมาถึงแล้วค่ะ เชิญค่ะ

    ภายในห้องนั้นวุฒิภัทรกำลังนั่งมองสิ่งที่ปรากฏอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างสนใจกับฝีมือการออกแบบตกแต่งภายในที่บริษัท ภูธนิตน์ เดคคอร์ ดีไซน์ ส่งมาให้เมื่ออาทิตย์ก่อนแต่เขาไม่มีเวลาได้ดูอย่างจริงๆจังๆสักที   ตอนนี้ได้ดูแล้วรู้สึกสนใจกับการออกแบบที่แปลกตานี้ เขาคิดว่าคนที่ออกแบบนั้นน่าจะมีความคิดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ดูจากการออกแบบแล้วเป็นผลงานที่โดดเด่นเขาเห็นแล้วรู้สึกชอบมาก ผลงานที่ออกแบบนี้ต่างจากทุกบริษัทที่เขาได้พิจารณามา เพราะทุกบริษัทที่นำผลงานมาเสนอนั้นดูแล้วยังขาดความโดดเด่นอยู่จึงไม่มีบริษัทไหนถูกใจเขา     จากที่เขาดูผู้ที่ออกแบบนั้นน่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดทีเดียว เพราะรู้จักประยุกต์ใช้วัสดุที่มีในประเทศมาใช้แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการใช้สอยที่ดูแล้วช่างลงตัวมากทีเดียว ผู้ออกแบบน่าจะรู้แหล่งข้อมูลในการซื้อหาวัตถุดิบเป็นอย่างดีทีเดียว 
    เสียงเคาะประตูและประตูที่เปิดออกทำให้วุฒิภัทรเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์เพื่อมองผู้ที่เข้ามาอย่างสนใจ ภาพใบหน้าหวานของหญิงสาวที่เขาเพิ่งจะชนกับเธอเมื่อครู่ปรากฏตรงหน้าเขาอีกครั้ง ตอนนี้ใบหน้าของเธอเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง วุฒิภัทรรู้สึกว่าช่างบังเอิญเหลือเกินที่ได้เจอเธออีกครั้งเพราะเขาก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะได้เจอเธออีกครั้ง แล้วเธอมาทำอะไรที่นี้กันนะหรือว่าเธอจะ
    สวัสดีครับ ผมภูธนิตน์ ครับ
    เสียงของภูธนิตน์กล่าวทักทายด้วยความสุภาพทำให้วุฒิภัทรหยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้นและเริ่มรู้สึกตัวว่าเขาเผลอจ้องมองหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาในห้องนี้นานเกินจนทำให้คนที่เข้ามาพร้อมเธอนั้นเริ่มมองเขาอย่างสงสัย
    สวัสดีครับผมวุฒิภัทร เชิญนั่งครับ
    วุฒิภัทรละสายตาจากร่างบางที่เขาสนใจมาทักทายภูธนิตน์และเชิญทั้งสองนั่งตามมารยาทที่ดี และหันไปมองวริญาอย่างอีกครั้ง
    กิ๊ฟ
    เป็นเสียงของภูธนิตน์ที่เรียกวริญาเมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เขาเห็นเธอทำท่าทางแปลกๆเหมือนจะตกใจหรือกลัวอะไรซักอย่าง
    คะ
    วริญารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงของภูธนิตน์เรียกเธอ
    ไม่สบายรึเปล่า
    เปล่าค่ะ กิ๊ฟไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ
    วริญาตอบเสียงสั่นๆ เพราะเธอกำลังตกใจที่เจอคนที่เธอเพิ่งวิ่งหนี้เขามาเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง และก็ไม่คิดว่าจะได้เจออีก ตอนนี้เขาก็กำลังมองมาที่เธอด้วย สายตาของงเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ได้ว่าคือความรู้สึกแบบไหน
     เธออาจจะกลัวเขามั่ง วริญาได้แต่คิดในใจ
    อื่ม
    ภูธนิตน์ทำเสียงว่าเข้าใจและหันไปทางวุฒิภัทร
    นี้คุณวริญาครับ เธอเป็นคนออกแบบผลงานที่ทางบริษัทของผมส่งมาให้ครับ ไม่ทราบว่าคุณวุฒิภัทรได้ดูหรือยังครับ
    ภูธนิตน์แนะนำหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาด้วยน้ำเสียงฟังแล้วสุภาพอ่อนโยนตามแบบฉบับของเขา และได้ถามถึงงานที่เขาส่งมาให้ดูก่อนร่วงหน้าก่อนที่จะได้รับนัดกับวุฒิภัทรในวันนี้ 
    ภูธนิตน์สังเกตุว่าวุฒิภัทรเอาแต่มองว่าที่น้องภรรยาของเขาอย่างสนใจเป็นพิเศษตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้ ภูธนิตน์คิดว่าลูกค้าของเขาคนนี้คงจะสนใจการออกแบบของวริญาและคงจะสนใจคนออกแบบด้วยถึงได้มอง
    วริญาแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาที่มาติดต่องานที่บริษัทก็มักจะมาขายขนมจีบให้สาวน้อยที่นั่งข้างๆเขาเป็นประจำจนเป็นภาพที่ชินตาของเขาไปเสียแล้ว ก็ใครใช่ให้เธอน่ารักเองนี่นาช่วยไม่ได้จริงๆ
    เพิ่งจะได้ดูก่อนหน้าที่คุณภูธนิตน์จะเข้ามาถึงนี้เองครับ
    ไม่ทราบว่าถูกใจรึเปล่าครับ
    ถูกใจมาก..........ครับ
    วุฒิภัทรพูดและมองไปทางวริญาที่ตอนนี้เธอก็กำลังมองหน้าเขาอยู่เช่นกัน และเมื่อเขาหันไปสบตาของเธอก็ทำให้เธอก้มหน้าลงมองกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือเพื่อหลบสายตาของเขา จึงทำให้หญิงสาวไม่เห็นรอยยิ้มเล็กๆตรงมุมปากของเขา 
    วริญาก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่มองมาทางเธอ เธอมองกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมืออย่างกับว่ามันน่าสนใจมาก      ทั้งๆที่ในนั้นก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากเอกสารที่เตรียมมาเพื่อเสนอให้ลูกค้าหากว่าลูกค้าสนใจในผลงานของเธอที่ทางบริษัทส่งมาให้ดูร่วงหน้า ตอนนี้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงจนจะออกมาข้างนอกได้แล้ว ก็ดูสายตาของเขาที่มองมาทางเธอซิมันเหมือนกับว่าจะกินเธอเข้าไปอย่างนั้นนะ 
    หรือว่าเขายังโกรธที่เธอซุ่มซ่ามเดินชนเขา ก็เธอขอโทษเขาไปแล้วนี่นา วริญาได้แค่เพียงคิดเองในใจ
    เอาเป็นว่าผมชอบสไตล์การออกแบบของคุณวริญามากทีเดียวครับดูสวยและน่าสนใจมากครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดผมขอคุยวันหลังนะครับเพราะว่าวันนี้ผมมีประชุมนะครับ แล้วผมจะให้กวีนติดต่อเรื่องวันที่จะคุยรายละเอียดและวันไปดูสถานที่อีกทีนะครับ
    วุฒิภัทรพูดสรุปในและขณะที่พูดก็มองหน้าวริญา เหมือนเขาจะบอกว่าที่เขาพูดนั้นจะหมายถึงเธอไม่ใช่งานที่เขาบอกว่าเพิ่งจะดูไปก่อนหน้านี้ เมื่อพูดจบก็ขอตัวออกจากห้องเพื่อจะไปประชุมต่อ
     ระหว่างที่จะก้าวออกจากห้องนั้นเขาไม่ลืมที่จะหันมามองหญิงสาวที่เขาคิดว่าเธอช่างน่าสนใจเหลือเกิน และก็บังเอิญสบตากับวริญาเข้าพอดี เขารู้สึกว่าแววตาและใบหน้าของเธอนั้นช่างใสซื่อบริสุทธิ์ และมีเสน่ห์อย่างเหลือร้าย   เพราะทุกครั้งที่เขาเผลอมองทีไรมันก็จะตรึงให้เขาสนใจที่จะมองแต่เธอเพียงคนเดียว
     
    หลังจากตกลงว่าจะร่วมงานและจะคุยรายละเอียดพร้อมนัดดูสถานที่อีกทีเพราะวุฒิภัทรนั้นเกิดติดประชุม        เมื่อเขาเดินออกไปจากห้องแล้ว    วริญารู้สึกว่าเธอโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกที่พ้นจากสายตาคู่นั้นมาได้ เธอรู้สึกว่าสายตาของเขาที่มองมาทางเธอนั้นมันเหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้ใจของเธอมันเต้นแรงผิดจังหวะแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะใบหน้าที่ดูเย็นชาและไร้รอยยิ้มของเขาก็เป็นได้ ใบหน้าของเขาดูแล้วเหมือนไม่พอใจเธอ ซึ่งเธอก็คิดว่าคงเป็นเรื่องที่เธอเดินชนเขาก็อาจเป็นได้  วริญายังคงคิดว่าเขาคงจะโกรธเธอมากทีเดียวหากดูจากใบหน้าของเขา แต่ก็ยังโชคดีอยู่มากทีเดียวที่เขาไม่โกรธจนปฎิเสธงานของบริษัท เมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนออกแบบ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับเธอ
    จะกลับบ้านหรือยังครับน้องกิ๊ฟ........มัวใจลอยคิดถึงคุณวุฒิภัทรอยู่รึไงเอ่ย
    เสียงของภูธนิตน์ปลุกให้เธอออกจากความคิด
    เปล่าซักหน่อยพี่ภูก็
    เปล่าจริงง่ะ บอกว่าเปล่าแต่ทำไมต้องหน้าแดงด้วยละครับคนสวย งั้นแบบนี้หนุ่มๆที่มาขายขนมจีบทั้งหลายก็คงจะเตรียมตัวดื่มน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในกันแล้วนะซิ โดยเฉพาะคุณวิชาญพี่ว่าหน้าเป็นห่วงที่สุดเลยว่าไหมครับ
    ภูธนิตน์ยิ้มเหมือนคนรู้ทัน จนทำให้ตอนนี้สาวน้อยตรงหน้าเขาหน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกเสียอีก
    เกี่ยวอะไรกับคุณวิชาญด้วยเล่า
    วริญาพูดด้วยความที่ไม่เขาใจจริงๆที่ทำไม วิชาญ อินทรกุล ลูกค้าคนสำคัญนั้นมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย
    นี่กิ๊ฟอย่าบอกพี่นะว่าไม่รู้จริงๆ ว่าคุณวิชาญเขาสนใจกิ๊ฟอยู่
    กิ๊ฟว่าวันนี้พี่ภูคงจะไม่อยากไปทานข้าวที่บ้านกิ๊ฟแน่ๆเลยใช่ไหมคะ น่าเสียดายจังเลยนะคะเนี่ยวันนี้ พี่กิ่งบอกว่าจะทำหน่อไม้ฝรั่งผัดน้ำมันหอยด้วยไม่รู้ว่าของโปรดใครน๊า
    วริญาพูดตัดบทด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าเป็นต่อเขามากทีเดียว
    ไปซิครับ แหมพี่ไม่แซวแล้วก็ได้รีบไปกันเถอะพี่หิวจะแย่แล้วครับ
    ภูธนิตน์รีบพูดเพื่อเอาใจสาวน้อยตรงหน้าเขา เพราะกลัวจะไม่ได้ไปทานข้าวบ้านของเธอและคนรักของเขาจริงๆ ก็วันนี้เขานะคิดถึงเธอแทบจะทั้งวัน หากไม่ได้เจอเขาคงขาดใจเป็นแน่
    หิวจะแย่จริงๆอ่ะ ไม่ใช้ว่าคิดถึงคนที่อยู่ที่บ้านกิ๊ฟจะแย่หรอกหรอคะพี่ภู................ขา
    หญิงสาวได้ทีก็รีบเอาคืนคนตรงหน้าทันที จนทำให้คนที่โดนแซวนั้นพูดไม่ออกได้แต่ยิ้มและเอามือเกาท้ายทอยตัวเองอย่างอายๆด้วยว่าจนมุมคนตัวเล็กที่ยืนจ้องหน้าเขา อีกทั้งยังทำหน้าทะเล้นใส่เขาอย่างรู้ทันในความคิดของเขาอีกด้วย
     
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น