ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (OS EXO) ALL FOR YOU, SUHO

    ลำดับตอนที่ #7 : เข้าใจผิด [chanyeol x suho]

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 57







                    “เรียกคุณคิมจุนมยอนมาพบผมที่ห้อง ด่วน!"

     

    เลขาสาวสวยยังไม่ทันได้ตอบกลับไปเมื่อโดนปลายสายวางหูใส่เสียงดังจนเผลอสะดุ้ง ถอนหายใจออกมาแรงๆให้กับความเอาแต่ใจของลูกชายเจ้าของบริษัทก่อนที่นิ้วเรียวจะกดสายต่อแล้วกรอกน้ำเสียงใสลงไปอย่างมืออาชีพราวกับลืมความหงุดหงิดเมื่อครู่ไปอย่างสิ้นเชิง

     

    "คุณจุนมยอนคะ รองประธานปาร์คเชิญพบที่ห้องทำงานค่ะ"

     

    ไม่นานคนถูกตามก็เดินมาถึงหน้าห้องคนที่ต้องการพบตัวเขา ยิ้มรับเลขาสาวที่โค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูห้องให้เขาเข้าไป

     

    "ดูเหมือนรองประธานปาร์คจะกำลังอารมณ์ไม่ดีนะคะ"

     

    เลขาสาวกระซิบเตือนด้วยความหวังดีให้ได้ยินกันสองคนก่อนจะหันไปหาเจ้านายหนุ่ม

     

    "คุณจุนมยอนมาแล้วคะ"

     

    น้ำเสียงสดใสไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นพอเลขาสาวออกไปทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบชวนอึดอัด จุนมยอนมองหน้าเจ้าของห้องที่เอาแต่นั่งกอดอกนิ่งอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่ง แค่เห็นสายตาดุๆที่ส่งมานั้นก็รู้แล้วว่าปาร์คชานยอลกำลังไม่พอใจ

     

    "คราวนี้เรื่องอะไรอีกหละครับคุณรองประธาน"

     

    จุนมยอนเองก็ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน แต่ลูกน้องอย่างเขาคงจะไปถือโทษโกรธเจ้านายไม่ได้ แต่ถ้าในฐานนะแฟนขอบอกเลยว่าเขากำลังเริ่มโกรธแฟนตัวสูงตรงหน้าขึ้นมานิดๆแล้ว เขาถูกเรียกให้มาพบรองประธานปาร์คที่ห้องเป็นรอบที่สามของวัน ครั้งแรกอีกฝ่ายให้เหตุผลว่าที่เรียกมาพบเพราะอยากเห็นหน้า ครั้งที่สองบอกว่าคิดถึง ถ้าเป็นในเวลาปกติคงจะดีใจอยู่หรอกแต่ไม่ใช่เวลาที่ต้องรีบเคลียงานท่วมหัวแบบนี้ หรือเขาจะโกรธตัวเองดีทั้งๆที่ตั้งใจจะไม่มาหากถูกเรียกอีกแต่เอาเข้าจริงสองเท้ากลับดื้อพาเจ้าของมาหน้าห้องคนที่ตนก็คิดถึงเหมือนกันจนได้

     

    "พี่มีอะไรจะบอกผมไหม"

     

    จุนมยอนถอนหายใจเบาๆก่อนจะตอบกลับไป

     

    "พี่คิดถึงนาย พี่รักนาย พอใจรึยัง ขอร้องหละชานยอลอย่าเล่นเป็นเด็กๆด้วยการเรียกพี่มาพบบ่อยๆแบบนี้เลยนะ พี่ยังมีงานค้างอีกเพียบที่ต้องรีบทำให้เสร็จ"

     

    "ขอโทษละกันที่ผมมันก็แค่คนที่ชอบเล่นเป็นเด็กๆไม่ใช่คนเก่งอย่างพี่ที่จะได้ไปทำงานไกลถึงต่างประเทศ"

     

    "ชะ...ชานยอล นายรู้แล้วหรอ"

     

    "พี่คิดจะบอกผมเมื่อไหร่ ช่างเถอะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้พี่ต้องบอกผมมาก่อนว่าใครเป็นคนเสนอชื่อพี่ไป ภรรยาท่านประธานใช่ไหมเพราะเขารู้เรื่องของเราเลยทำแบบนี้ใช่ไหม ต่อหน้าก็บอกว่าถ้าผมรักใครก็จะรักด้วยแต่ลับหลังกลับมาแกล้งพี่แบบนี้ เหอะ ผมจะไปจัดการเอง"

     

    ร่างสูงลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้องไปแต่กลับโดนมือเรียวคว้าแขนไว้เสียก่อน

     

    "ไม่ต้องกลัวนะผมจะปกป้องพี่เอง ต่อให้ต้องเสียตำแหน่งรองประธานนี้ไปผมก็จะไม่ยอมให้พี่ต้องห่างจากผมเด็ดขาด"

     

    รอยยิ้มที่หวังจะทำให้อีกฝ่ายอุ่นใจเป็นต้องหายไปเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของจุนมยอน

     

    "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่นาย คือ... คือพี่... เป็นคนตัดสินใจไปเอง"

     

    "ผู้หญิงคนนั้นบังคับให้พี่บอกผมแบบนี้ใช่ไหม"

     

    "เลิกว่าแม่ตัวเองสักทีนะชานยอล! พี่เป็นคนอยากไปเอง พี่เสนอตัวไปเป็นผู้ช่วยคุณชอยเอาโครงการไปนำเสนอกับเครือข่ายทางโน้นเอง นายก็รู้ว่าช่วงสิ้นปีแบบนี้ใครๆก็เร่งทำผลงานเพื่อให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นในปีหน้ากันทั้งนั้น ถ้าพี่ทำให้พวกเขาสนใจโครงการของทางเราได้ปีหน้าพี่ต้องได้เลื่อนขึ้นแน่นอน"

     

    จุนมยอนเริ่มขึ้นเสียงเมื่ออารมณ์เสียที่คนตรงหน้ายังคงเข้าใจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่แบบผิดๆส่วนคนอารมณ์ร้อนอย่างชานยอลถือคติแรงมาก็แรงกลับเลยตะคอกใส่อีกฝ่ายเสียงดัง

     

    “อยากไปมากนักหรออเมริกา พี่อยากอยู่ห่างจากผมนักหรือไง! การเลื่อนตำแหน่งมันสำคัญกับพี่มากกว่าผมใช่ไหม! หรือว่าอยากหาแฟนใหม่ เอาแบบฝรั่งผมบลอนด์ตาสีฟ้าเลยเป็นไง!"

     

    เสียงโวยวายหยุดลงเมื่อเจ้าของวาจาร้ายกาจโดนฝ่ามือจุนมยอนฝาดลงเต็มแรงจนแก้มขึ้นรอยแดง ราวกับได้สติชานยอลสวมกอดเข้าด้านหลังคนที่ตบเขาแล้วหันหลังกลับเตรียมจะเปิดประตูออกจากห้องไป จุนมยอนก็แค่ไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาร้องไห้ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตา แต่ความอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมแขนนั้นก็พาลให้หยดน้ำใสที่พยายามกลั้นพรั่งพรูออกมาจากดวงตากลมอย่างห้ามไม่ได้ ร่างเล็กสะอื้นจนตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่าย ข้างหูก็ได้ยินเสียงพร่ำเอ่ยขอโทษไม่ขาดสายจนสุดท้ายก็ยอมใจอ่อนอย่างทุกที ในเมื่อเขาพร้อมที่จะให้อภัยอีกฝ่ายได้เสมอ ตั้งแต่เลือกที่จะรักคนอารมณ์ร้อน ปากร้าย แถมเอาแต่ใจอย่างปาร์คชานยอล

     

    จนกระทั่งร่างเล็กเริ่มนิ่งชานยอลคลายอ้อมกอดออกก่อนจะพลิกตัวอีกฝ่ายให้หันกลับไปมองหน้ากัน จุนมยอนสูดน้ำมูกเสียงดังขณะถูกมือหนาลูบเช็ดคราบน้ำตาที่สองข้างแก้ม

     

    "ผมขอโทษนะครับ"

     

    หน้าหงอยๆอย่างคนรู้สึกผิดของคุณหนูชานยอลลูกชายท่านประธานที่ปกติเอาแต่เก็กหล่อกับทำหน้าดุทำเอาจุนมยอนหลุดขำออกมา ก็ของแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยสักหน่อย

     

    "เปลี่ยนอารมณ์เร็วจัง พี่หายโกรธผมแล้วใช่ไหมครับ"

     

    "อืม"

     

    จุนมยอนตอบรับในลำคอก่อนจะเอียงหน้าหลบริมฝีปากได้รูปที่ยื่นเข้ามาใกล้ ฝ่ายนั้นเลยเลือกที่จะกดจมูกลงกับพวงแก้มใสแล้วสูดหายใจเข้าเสียงดังแทน

     

    "ไหนว่าหายโกรธแล้วไง แล้วทำไมไม่ยอมให้จูบหละครับ"

     

    "ก็...”

     

    เพียงแค่ใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อหันไปมองประตูห้องทางด้านหลัง เขาก็พอจะเดาคำตอบได้ รอยยิ้มกริ่มปรากฎขึ้นบนในหน้าหล่อก่อนชานยอลจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเกาะไหล่ร่างบางแล้วดันให้เดินถอยหลังไปช้าๆจนแผ่นหลังขอจุนมยอนทาบลงกับบานประตู ชานยอลเอื่อมมือผ่านคนตรงหน้าไปกดล็อคประตูอย่างรวดเร็ว

     

    “โอเคแล้วนะ”

     

    ไม่ต้อรอให้อีกฝ่ายตอบตกลงชานยอลประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากบางที่เขาโหยหา สำผัสที่แผ่วเบาชวนเคลิบเคลิ้มเปลี่ยนเป็นดูดดึงจนเกิดเสียงดังก่อนลิ้นร้อนจะสอดแทรกเข้าในในโพรงปากเล็กไล่กวาดชิมความหวานจนพอใจแล้วจึงผละออกมาเมื่อถูกกำปั้นเล็กทุบลงบนอกด้วยแรงที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด

    จุนมยอนโกยอากาศเข้าปอดอย่างเร่งรีบก่อนตกใจเมื่อโดนความเย็นวาบเล่นงาน พอก้มลงไปมองก็เห็นว่ากระดุมเสื้อโดนอีกฝ่ายริดออกจากรางดุมครบทุกเม็ดจนแผ่นอกขาวเนียนปรากฎสู่สายตาคนตรงหน้า

     

    “ชะ...ชานยอล”

     

    มือเรียกยกขึ้นกุมมืออีกฝ่ายที่เริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นอกซ้ำยังแกล้งลากปลายนิ้วผ่านยอดอกสีหวานไปมา

     

    “ดะ...เดี๋ยวสิ นายจะไม่ฟังก่อนหรอว่าทำไมพี่ถึงได้อยากทำงานนี้แล้วก็อยากจะเลื่อนตำแหน่ง”

     

    "ก็ได้... แต่ถ้าเหตุผลไม่ดีพอผมจะไม่ยอมให้พี่ไปอเมริกาเด็ดขาด จุนมยอน"

     

    ชานยอลกลืนน้ำลายเหนียวลงคอก่อนะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงติดแหบเล็กน้อยก่อนจะจ้องคนตรงหน้านิ่งรอฟังคำอธิบาย

     

    "แล้วเหตุผลที่ว่าพี่อยากลดระยะห่างของพี่กับคนที่พี่รักมันดีพอไหมชานยอล"

     

    "ลดระยะห่างด้วยการหนีผมไปทำงานเมืองนอกเนี่ยนะ! พี่คิดอะไรของพี่..."

     

    ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าเผลอขึ้นเสียงออกไปอีกรอบประโยคหลังของร่างสูงจึงเบาลงอย่างเห็นได้ชัดทำเอาจุนมยอนผุดยิ้มบางๆออกมาก่อนจะพูดต่อ

     

    "พี่หมายถึงฐานะระหว่างเราต่างหาก ถึงพี่จะไม่อาจเทียบเท่านายได้ทั้งด้านชื่อเสียง วงตระกูล ทรัพสินทร์เงินทอง รวมถึงหน้าที่การงาน แต่พี่ก็อยากจะพยายามเข้าใกล้กับคำว่าคู่ควรกับนายให้มากที่สุดเท่าที่พี่จะทำได้"

     

    "พะ...พี่จุนมยอน ขอบคุณนะครับที่พี่ทำเพื่อผมขนาดนี้ ขอบคุณที่รักผม ผมรักพี่นะครับ"

     

    ชานยอลคุกเข่าลงซบใบหน้าลงบนหน้าท้องอีกฝ่ายโดยมีจุนมยอนยกมือขึ้นลูบผมสีดำสนิทเล่นเบาๆแต่ไม่นานก็ต้องรีบผลักหัวอีกฝ่ายออกไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะบริเวณสะดือ พอเงยหน้าขึ้นมาก็โดยค้อนใส่จนต้องรีบขอโทษแล้วลุกขึ้นมาติดกระดุมเสื้อให้อีกฝ่ายตามเดิม

     

    “เฮ้อ... ผมไม่อยากให้พี่ไปเลย แต่ถึงจะห้ามพี่ก็คงไม่ล้มเลิกความตั้งใจหรอกใช่ไหม... งั้นมานี่เลยเด็กดื้อ”

     

    เมื่อได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าขึ้นลงร่างสูงก็จัดการคว้ามือร่างบางแล้วลากออกจากห้องไปตามที่ตัวเองต้องการ จุนมยอนได้แต่คิดในใจว่าใครกันแน่ที่เป็นเด็กดื้อขณะที่ก้าวเท้าตามคนตรงหน้าไปอย่างเต็มใจ

     

    คนเอาแต่ใจจัดการบอกเลขาของตนว่าวันนี้จะไม่กลับเข้าบริษัทอีกแถมด้วยการลางานพรุ่งนี้ แน่นอนว่าเลขาสาวท้วงขึ้นเนื่องจากยังมีกำหนดงานและเอกสารที่ต้องเซ็นต์แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ ไม่นานชานยอลก็มายืนกอดอกเก็กมาดขรึมรอคนตัวเล็กเก็บของอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของอีกฝ่าย ซ้ำยังเอ่ยปากสั่งให้ลูกน้องในแผนกของจุนมยอนช่วยสะสางงานที่หัวหน้าคั่งค้างอยู่ให้เรียบร้อยเรียกเสียงบ่นอุบอิบอยู่เนื่องๆแต่ใครจะกล้าขัดคำสั่งลูกเจ้าของบริษัทหละ จุนมยอนที่พึ่งเก็บของเสร็จส่งยิ้มแห้งๆให้กับเหล่าลูกน้องให้แผนกก่อนจะส่งสายตาคาดโทษให้ร่างสูงที่ทำเพียงยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะคว้ามือเขาไปกระชับแน่นแล้วพาออกจากบริษัทไปด้วยกัน

     

     

     

     

    “จะซื้ออะไรนักหนาก็ไม่รู้ เป็นไง หนักหละสิ”

     

    จุนมยอนที่บ่นงุบงิบตลอดทางเดินนำลิ่วมาจนถึงหน้าห้อง หันไปส่งเสียงแหย่คนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาพร้อมถุงสินค้าพะรุงพะรังเต็มสองมือ มือเรียวกดรหัสเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้าไปก่อนแล้วจึงเดินตามเข้ามา ชานยอลวางบรรดาถุงเสื้อผ้า รองเท้า แบรนด์ดังลงบนโต๊ะก่อนจะยกมือขึ้นปาดเหงือโดยมีจุนมยอนแอบขำให้กับการกระทำนั้น

     

    “ซื้อเยอะขนาดนี้พี่ขนไปทั้งหมดไม่ไหวหรอกนะ”

     

    “ทีตอนพาไปซื้อไม่เห็นพูดงี้เลย ชี้เอาชี้เอา”

     

    “ก็มันสวยนี่หน่า แล้วนายก็บอกเองว่าให้พี่เลือกได้ตามสบาย”

     

    “ก็พี่ต้องไปอยู่ที่นู่นเป็นปีแค่นี้ผมว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมไม่อยากให้พี่ไปเลย เฮ้อ...”

     

    คนที่กำลังเศร้าแต่กลับโดนหัวเราะส่งสายตาดุดุไปให้จุนมยอนที่ยังคงส่งเสียงคิกคักออกมาจนไหล่เล็กสั่นไหว

     

    “ใครบอกนายว่าพี่จะไปอเมริกาเป็นปี ห๊า”

     

    “ผมคุยกับคุณชอยหมดแล้ว คุณชอยจะย้ายไปประจำที่สาขาย่อยที่อเมริกาปีนึง ส่วนพี่ก็จะตามไปเป็นผู้ช่วยเขาเสนองานกับพวกฝรั่ง”

     

    “มิน่าหละนายถึงได้โมโหพี่ขนาดนั้น”

     

    “เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ ผมจะบอกแม่ว่าให้หาคนอื่นไปแทนพี่เองนะ น้า...”

     

    ชานยอลลากเก้าอี้ใต้โต๊ะออกมานั่ง คว้ามือนุ่มของจุนมยอนที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามขึ้นมากุมแล้วแกว่งไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

     

    “แล้วถ้าพี่บอกว่าอาทิตย์เดียวหละ ถ้าพี่ไปแค่อาทิตย์เดียวนายจะยอมให้พี่ไปแล้วทนคิดถึงพี่ไหวไหม”

     

    “พี่หมายความว่าไง”

     

    ชานยอนเผลอบีบมือคนตรงข้ามแน่น ยื่นหน้างงๆ ตาโตๆ คิ้วชนกันเข้าไปใกล้อีกฝ่ายที่พูดในสิ่งที่เขาไม่ค่อยเข้าใจออกมา จุนมยอนหัวเราะให้กับท่าทีของคนรักอีกครั้งก่อนจะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจโดยไม่ลืมแขวะคนที่โมโหเขาทั้งๆที่เป็นฝ่ายเข้าใจผิดเอง

     

    “คือคุณชอยเขาย้ายไปประจำที่นั่นหนึ่งปี ส่วนพี่แค่ไปช่วยเขาเสนอโครงการในตอนแรก ถ้าการเจรจาเรียบร้อย ไม่เกินสัปดาห์พี่ก็ได้กลับมาก่อนแล้ว พาโบ”

     

    “พี่พูดจริงใช่ไหม ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

     

    “อืม”

     

    “เย้! พี่ไม่ต้องจากผมไปนานๆแล้ว เย้ วู้”

     

    ทำเอาเจ้าของห้องได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆให้กับคนที่ผุดลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นพร้อมส่งเสียงดังไปรอบห้องแต่บนใบหน้าหวานกลับปรากฏรอยยิ้มกว้าง อยากจะอัดคลิปชานยอลตอนนี้แล้วเอาไปแชร์ให้พนักงานทุกคนที่บริษัทดูจัง อยากจะรู้จริงๆว่าเจ้านายจอมวางมาดจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

     

    “จุนมยอน คืนนี้ผมขอค้างที่นี่นะ”

     

    “พ่อแม่นายจะไม่ว่ารึไงที่นายไม่กลับบ้าน”

     

    “พ่อไม่เคยสนใจผมอยู่แล้ว ส่วนคุณนายหญิงหนะช่างเถอะ คืนนี้ก็คงสนุกอยู่กับงานประมูลเครื่องเพชรอีกตามเคย ตกลงผมค้างกับพี่ได้ไหมครับ”

     

    “ค้างที่นี่ก็ได้...”

     

    สายตาเป็นประกายหมองลงอย่างรวดเร็วเมื่อจุนมยอนเอ่ยขัดสิ่งที่เขากำลังคิดอย่างรู้ทัน

     

    “แต่นายต้องรับปากก่อนว่าจะนอนเฉยๆไม่ทำอย่างอื่น”

     

    “โธ่ ทำไมจุนมยอนของผมใจร้ายจัง”

     

    “พี่มันคนใจร้าย งั้นขอเชิญคุณปาร์คชานยอลกลับไปนอนคฤหาสน์ของตัวเองเลยนะครับ”

     

    “โอเค นอนเฉยๆก็ได้...”

     

    จุนมยอนหลุดหัวเราะเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้เมื่ออีกคนตอบกลับมาเสียงแผ่วพร้อมกลับหน้าบูดบึ้งเหมือนเด็กอดกินขนม แต่ที่รู้ก็คือพอได้แกล้งคนที่ชอบแกล้งตัวเองกลับมันก็สนุกดีนะ

     

     

     

     

    จุนมยอนลงมือจัดกระเป๋าเดินทางเตรียมพร้อมสำหรับไฟลท์บินพรุ่งนี้หลังจากที่ไล่ร่างสูงที่ดึงดันจะช่วยจัดกระเป๋าไปอาบน้ำ ต้องให้ขู่จะไล่กลับไปนอนบ้านชานยอลถึงได้ยอมรีบรุดเข้าห้องน้ำไปแทบไม่ทัน หลังจากนั้นไม่นานจึงเป็นเขาที่ได้ผ่อนคลายกับกระแสน้ำอุ่นที่ไหลผ่านร่างกายชำระความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจมาทั้งวันอย่างหมดสิ้นบ้าง

     

    “ชานยอล หยิบผ้าเช็ดตัวในตู้มาให้หน่อยสิ พี่ลืมเอาเข้ามา”

     

    จุนมยอนแง้มประตูห้องน้ำโผล่หน้าออกมาเรียกอีกฝ่าย ผมที่เปียกน้ำลู่ไปตามใบหน้าหวานที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายทำเอาคนที่ถือผ้าเช็ดตัวมาให้เผลอกลืนน้ำลายเสียงดัง คนที่ยื่นมือออกมารับผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดเป็นต้องร้องหวือเมื่อคว้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการแถมยังโดนดึงให้ออกมายืนเปลือยเปล่าต่อหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อรับรู้ถึงสายตาที่โลมเลียไปทั่วร่างกาย จุนมยอนพยายามจะสะบัดข้อมือให้หลุดจากมือหนาแต่นอกจากจะไม่หลุดแล้วมือนั้นยังดึงรั้งร่างเขาเข้าไปกอดอีก

     

    “พะ...พี่ตัวเปียกอยู่นะ”

     

    นอกจากจะไม่ฟังกันแล้วชานยอลยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นจมูกโด่งกดลงบนพวงแก้มใสซ้ายทีขวาทีจนชื่นใจแล้วเลื่อนไปกระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า

     

    “มะ...ไม่ได้จริงหรอ”

     

    “พรุ่งนี้พี่มีบินแต่เช้า พี่อยากพักผ่อน”

     

    “โอเคครับ”

     

    เล่นเอาจุนมยอนงงเมื่อคนอย่างปาร์คชานยอลยอมฟังกันง่ายๆ คลายอ้อมกอดออก ส่งผ้าเช็ดตัวมาให้แล้วหันหลังควับเดินไปทางประตูห้อง ซ้ำยังทำงอนโดยการหันกลับมาบอกว่าจะกลับบ้าน เสื้อผ้าที่เอาของเขาไปใส่จะคืนให้ทีหลังแล้วทำท่าจะเปิดประตูห้องออกไป

     

    “เฮ้อ! โอเค ไว้พี่ไปนอนพักบนเครื่องก็ได้”

     

    จุนมยอนจงใจถอนหายใจเสียงดังก่อนจะหัวเราะพรืดเมื่ออีกฝ่ายทำตาเป็นประกายแล้วพุ่งเข้ามาเหมือนเด็กหิวขนม

     

    “ขอโทษนะที่ผมมันเอาแต่ใจ ปากเสีย อารมณ์ร้อน แล้วก็ชอบเล่นเป็นเด็กๆ แต่ผมก็รักพี่มากนะจุนมยอน”

     

    “อือ รู้แล้ว จะทำอะไรก็รีบทำสิ พูดมากอยู่ได้...”

     
                    สุดท้ายคิมจุนมยอนก็ยอมทำตามใจปาร์คชานยอลอีกจนได้ ก็ในเมื่อการทำตามใจคนๆนี้มันก็เท่ากับว่าเขาได้ทำตามใจตัวเอง 







     

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×