มงกุฏแห่งใจ ^O^
ฟินิกซ์หญิงสาวแสนสวย ดีกรีเป็นถึงแฟนของนักบาสโรงเรียน อยู่ๆเธอก็ได้มาเจอชายคนนึงซึ่งชายคนนั้นเข้ามาตีสนิทกับเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง จะเป็นเหตุผลอะไรนั้น ติกตามได้นะค่ะ ><
ผู้เข้าชมรวม
82
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่อง.....มงกุฏแห่งใจ
เวลาเที่ยงตรง ณ โรงอาหารแห่งหนึ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ดูขาวสะอาดแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ได้ถูกดูแลเป็นอย่างดี แต่บัดนี้ภาพสถานที่นั้นกำลังจะกลายเป็นเพียงอดีต เมื่อเด็กนักเรียนชั้นม.ต้น และม.ปลายที่ได้เวลาพักกลางวัน ได้เข้าจับจองที่นั่งกันจนดูเหมือนตลาดสดอย่างใดอย่างนั้น และในโรงอาหารนี้มีสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับอาหารกลางวันของเธอ ที่ดูแล้วว่าเธอคงจะยังไม่ได้ลิ้มรสอาหารที่ตนซื้อมานี้เลย
“ฟินิกส์ ๆ พี่ขอโทษที่ให้รอนะค่ะ พอดีวันนี้อาจารย์เรียกไปพบนิดหน่อยน่ะ พี่ขอโทษนะค่ะที่มาช้าอะ ไม่โกรธพี่น๊า”สาวน้อยที่ถูกเรียกชื่อนั้น หันมองด้วยความดีใจ เนื่องจากเธอกำลังรอการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่ชื่อมิกซ์นี้มานาแสนนาน เธอไม่เคยคิดที่จะโกรธผู้ชายคนนี้เลย เพราะผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เธอไว้ใจ เป็นคนที่เธอคิดว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากที่สุด
“ไม่เป็นไรค่ะ แหมฟินิกซ์ ไม่กล้าโกรธพี่มิกซ์หรอกค่ะ เดี๋ยวแฟนคลับพี่มิกซ์มาเอาเรื่อง ฟินิกซ์ก็แย่สิค่ะ”เธอรู้สึกชินมากกับการที่พี่มิกซ์ของเธอจะต้องไปพบกับอาจารย์ก่อนพักกลางวันทุกครั้ง เพราะพี่มิกซ์เป็นนักบาสประจำโรงเรียนและประกอบกับการที่เขามีรูปร่าง หน้าตาที่สามารถดึงดูดฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดีนั้น ฟินิกส์จึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่ว่าทำไมเขาถึงได้เป็นที่รักของอาจารย์หลายคนนัก
“ครับ ๆ งั้นเรากินข้าวกันดีกว่า พี่หิวแล้วล่ะ”ฟินิกซ์และมิกซ์ก็เริ่มที่กินอาหารจานของตนเอง ทั้งคู่ก้มหน้าก้มตากินข้าวสลับกับการพูดคุยกันตามประสาวัยหนุ่มสาวกันเรื่อยๆโดยพวกเขาทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีชายหนุ่มสองคนแอบมองการกระทำของพวกเขาอยู่
“ขอโทษนะครับ พวกผมนั่งด้วยได้ป่ะครับ”มีชายหนุ่มหน้าตาดีที่ดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฟินิกซ์เดินเข้ามา และในฐานะที่ฟินิกส์เป็นเจ้าของที่ที่มานั่งก่อนจึงตอบไปว่าได้ เพราะเธอคิดว่า ไหนๆโต๊ะนี้ก็มีคนนั่งแค่สองคนแล้วที่ที่เหลือจะเว้นว่างไว้ทำไม
“สวัสดีครับ ผมชื่อไทม์ครับ ส่วนไอนี่ก็ชื่อโอโซนครับ เราเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่อยู่ม.5 แล้วเธอชื่อไรอะ”ชายหนุ่มคนผมออกแดงๆ เหมือนไปย้อมมาที่ดูหน้าตาแล้วน่าจะเป็นคนที่กะล่อนมากในความคิดของฟินิกซ์เข้ามาแนะนำตัว ส่วนคนที่ชื่อโอโซนเขาดูเป็นคนที่น่าตาดีเอาการเลยในความคิดของฟินิกซ์ เขานั่งลงข้างๆเธอพร้อมกับหันมายิ้มหวานให้เธอ และการยิ้มให้กับเธอครั้งนี้เป็นผลให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอมีอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากสายตาที่เขามองมานี้ทางเธอกับนายโอโซนนี้
“อ่อ... สวัสดีค่ะ ชื่อฟินิกส์ค่ะ”ฟินิกซ์รู้สึกได้ถึงรังสีความไม่พอใจของชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามเธอ เธอจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมากที่จะตอบคำถามนี้
“โห ชื่อน่ารักจังเลย”นายคนผมแดงดูจะมีอาการดีใจมากที่ได้ยินชื่อของฟินิกซ์
“ขอบคุณค่ะ”ฟินิกซ์ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรจึง หันไปขอบคุณพร้อมกับยิ้มน้อยๆพอเป็นมารยาท แล้วเธอก็ก้มหน้ากินข้าวในจานของเธอต่อ ซึ่งเธอไม่รู้สึกตัวเลยว่าการกระทำของเธอนั้นกำลังจะทำให้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา
“ปัง! พี่อิ่มแล้ว พี่ไปละนะ เชิญฟินิกซ์คุยกะไอสองคนนี้ไปตามสบายเลยละกัน พี่ขอตัว” พี่มิกซ์แสดงอาการไม่พอใจมากที่เห็นแฟนของตัวเองหันไปคุยกับผู้ชายสองคน โดยที่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย เขาจึงเลือกที่จะเดินจากไปด้วยความโมโห ในขณะนั้นฟินิกซ์เองก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่มิกซ์ถึงได้แสดงกิริยาแบบนี้ออกมา เธอจึงทำได้แค่นั่งคิดทบทวนว่า เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจกันแน่
“ฉันชอบเธอ”อยู่ๆนายโอโซนก็หันมาบอกชอบฟินิกซ์แบบหน้าตาเฉย
“พรวด.... แค่ก แค่กๆ นะ...นายว่าไงนะ”ข้าวผัดกระเพราไข่เจียวที่ฟินิกซ์กินเข้าไปคำแรก หลังจากที่หายสับสนเรื่องพี่มิกซ์แล้ว ทะลักพรวดออกมาทันทีที่เธอได้ยินประโยคแรกที่มาจากปากนายโอโซน
“เป็นแฟนกับฉันมั๊ย”คราวนี้นายนั่นพูดแล้วอมยิ้มน้อยๆ เธอตกใจกับคำพูดนั้น เธอจึงได้แต่คิดในใจว่า หมอนั่นประสาทปะเนี่ย เจอกันไม่ถึงนาที บอกชอบกันแล้ว นี่มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอบ้าแน่ๆเลย
“ถ้าเธอไม่ตอบ ฉันถือว่าตกลงนะ”แล้วนายโอโซนกับนายหัวแดงนั่นก็เดินจากไปพร้อมกับทิ้งความสับสนในใจให้ฟินิกซ์
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฟินิกซ์เดินทางมาโรงเรียนโดยรถประจำทางตามปกติ แต่แล้วมันจะไม่ปกติอีกต่อไป เพราะตอนนี้นายโอโซนนั่นเดินมายืนโหนอยู่ข้างๆเธอ แล้วก็หันมาคุยกับเธอ
“ทำไม วันนี้เธอมาโรงเรียนเร็วจังเลยอะ”โอโซนถามด้วยความสนิทสนม
“เอ่อ...ฉันก็มาเร็วแบบนี้ทุกวันน่ะแหละ”ฟินิกซ์บอกปัดพลางทำสีหน้ากระอักกระอ่วน
“หรอ...เอ้อ! ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวกับเธออย่างเป็นทางการเลย อะแฮ่มๆ ฉันชื่อโอโซน อยู่ห้อง 8 แล้วเธออยู่อะอยู่ห้องไร อ้อ! รู้แล้วเมื่อวานฉันเห็นเธอเรียนพละ น่าจะอยู่ห้อง 2 ใช่ป่ะ”โอโซนแนะนำตัว พร้อมกับสีหน้ายิ้มระรื่น
“อะ...อื้ม”ฟินิกซ์คิดว่า เธอไม่ควรที่จะคุยกับผู้ชายที่เป็นต้นเหตุให้เธอทะเลาะกับแฟน เพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะปรับความเข้าใจกับพี่มิกซ์ได้ว่า มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ก็เล่นเอาเธอเกือบไม่ได้นอนทั้งคืน ฉะนั้นแล้วตอนนี้เธอจึงควรเลี่ยงที่จะคุยกับนายนั่นดีกว่า
รถเมล์แล่นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงหน้าโรงเรียนของฟินิกซ์ เธอจึงอาศัยจังหวะนี้เดินหนีจากนายโอโซน แต่สวรรค์กลับไม่เข้าข้างเธอ เพราะนายโอโซนนั่นเดินตามเธอมาทันจนได้ เธอเลยต้องจำใจเดินไปกับหมอนั่นแต่ก็พยายามทิ้งระยะห่างเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิด
“ห้องเธอไปทางไหนอะ เดี๋ยวฉันไป”โอโซนถามพร้อมกับคว้ากระเป๋าของฉันไปถือเอง
“นี่นาย...เอากระเป๋าฉันคืนมานะ” ฟินิกซ์โวยวายหลังจากถูกแย่งกระเป๋าไป
“แฟนถือกระเป๋าให้แฟน ผิดตรงไหนไม่ทราบ”โอโซนพูดอย่างเต็มปากอีกว่าฟินิกซ์เป็นแฟนของเขา
“อะ ๆ ก็ได้ๆ แต่ฉันไม่ได้เป็นแฟนนาย ฉันมีแฟนแล้วย่ะ รู้ไว้ซะด้วย”ในที่สุดฟินิกซ์ก็ตัดสินใจยอมตกลงให้นายนั่นไปส่งที่ห้อง ซึ่งเธอเองก็รู้สึกว่านายคนนี้ชักจะเริ่มเข้ามายุ่งกับชีวิตของเธอมากเกินไปแล้วนะ และขณะที่เธอกำลังเดินขึ้นบันไดอยู่นั้นเอง ก็มีบางอย่างตกลงมา
เฟี๊ยว...... กระถางต้นไม้กระถางหนึ่งกำลังจะตกลงมาพอดีกับตอนที่ฟินิกซ์และโอโซนกำลังเดินไปถึงที่ตรงนั้นพอดี
“กรี๊ด!.......ขวับ โครม!” ฟินิกซ์ร้องตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ แต่โอโซนรู้สึกตัวไวกว่าจึงกระโจนเข้าไปคว้าตัวฟินิกซ์หลบไปให้พ้นทาง แล้วทั้งคู่ก็ล้มไปด้วยกัน โดยมีเศษกระถางต้นไม้แตกอยู่ตรงข้างๆ พวกเขาไปถึงสองเมตร
“เอิ่ม.....นี่นายลุกขึ้นไปสักทีสิ” ฟินิกซ์รู้สึกว่าตอนนี้เธออายมาก เพราะภาพที่ออกมาในขณะนี้มันช่างล่อแหลมเหลือเกิน
“คริ คริ อ้อ! โทษทีๆ ว่าแต่ทำไมเธอต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” โอโซนเขยิบลุกขึ้นเมื่อรู้สึกว่าฟินิกซ์เริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดี เขาทำท่าทางเหมือนจะชอบใจที่เห็นอาการของฟินิกซ์แบบนี้ หรือบางทีเขาอาจจะพอใจมากเลยด้วยซ้ำกับแผนการที่วางไว้
“หะอะไรไม่มีไร เอิ่ม....ขอบใจนะที่ช่วยอะ” จากเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ฟินิกซ์รู้สึกอยากขอบคุณโอโซนมาก เพราะถ้าเขาไม่คว้าเธอเอาไว้ ตอนนี้เธอก็คงได้ไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วล่ะ
“หะ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เธอไม่เป็นไรใช่มั้ยดูสิหน้าแดงเลย ฮ่า ๆ เธอเดินไปห้องเองได้ใช่มั้ย งั้นฉันไปละเดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ ไว้ตอนเย็นเราค่อยเจอกันนะ ไปละครับ บ๊ายบาย” โอโซนบอกลาด้วยสีหน้าระรื่น ขณะที่ฟินิกซ์ยังสับสนอยู่ว่าเธอควรจะทำหน้าอย่างไรดี จะตกใจก็ใช่จะเขินก็ใช่ เห้อ~ เหนื่อยจัง
ฟินิกซ์เดินกลับมาที่ห้องด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก เพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอเดินไปที่นั่งของตนพร้อมกับกำลังจะหยิบหนังสือออกมาเพื่อที่จะรอเรียนคาบแรก
“ติ๊ด ๆ ติ๊ดๆ” เสียงข้อความเข้าบนจอโทรศัพท์ของฟินิกซ์ ทำให้เธอหันไปหยิบโทรศัพท์เพื่อมากดดูว่าใครส่งข้อความมา อ๋อพี่มิกซ์น่ะเอง เธอคิดพลางเลื่อนมือไปกดปุ่ม อ่านข้อความ
“ฟินิกซ์ตอนนี้พี่ไม่รู้ว่าพี่จะเชื่อใจเธอได้อยู่รึเปล่า ถ้าเธอไม่ได้รักพี่แล้วเธอก็ควรจะบอกพี่นะ ไม่ใช่ทำแบบนี้ พี่ผิดหวังในตัวเธอจริงๆ” ฟินิกซ์อ่านข้อความไปพลางขมวดคิ้วไป นี่พี่มิกซ์หมายความว่าอะไร เธอไปทำอะไรแบบไหนตอนไหน ทำไมพี่มิกซ์ถึงส่งข้อความมาอย่างนี้นะ
ออด~ เสียงออดดังขึ้นแสดงถึงช่วงเวลาพักกลางวัน ฟินิกซ์เก็บหนังสือของเธอลงในกระเป๋าเรียบร้อยแล้วและเธอก็กำลังจะเดินออกนอกห้องเพื่อที่จะไปคุยกับพี่มิกซ์ให้รู้เรื่องว่า มันมีเรื่องอะไรกันแน่ แต่ในขณะที่ฉันจะเดินไปถึงประตูนั้น ก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาขวางเอาไว้ และนั่นเป็นคนที่ฟินิกซ์จำได้ดี นั่นก็คือนายโอโซนจอมเจ้าเล่ห์นั่นเอง
“ไง เรียนเสร็จแล้วหรอ ปะไปกินข้าวกันเถอะ” โอโซนไม่พูดเปล่า เขาเดินมาดึงกระเป๋าในมือของฟินิกซ์ไปถือเป็นครั้งที่สอง ฟินิกซ์รู้สึกโกรธมากที่หมอนี่ชอบเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ประกอบกับการที่เธอยังสับสนอยู่กับการกระทำของพี่มิกซ์ เธอยิ่งรู้สึกโกรธไปกันใหญ่
“นี่นาย! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นแฟนนาย ฉันมีแฟนแล้วพูดไม่รู้เรื่องหรือไง แล้วก็อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกฉันรำคาญ แล้วนี่... เอากระเป๋าฉันคืนมา ฉันจะไปกินข้าว” ฟินิกซ์พูดอย่างเหลืออด พร้อมกับพยายามแย่งกระเป๋าคืนจากหมอนั่น
“อ๊ะ ๆ อะไร ๆ ฉันก็กำลังจะไปกินข้าวไง ไปดิไป” โอโซนไม่ว่าเปล่า เขาอาศัยจังหวะที่ฟินิกซ์กำลังพยายามแย่งกระเป๋าของตนเองคืน คว้าข้อมือของฟินิกซ์แล้วจูงเธอเดินไปด้วยกัน
“อ๊ะ!นี่...ปล่อยนะ” ฟินิกซ์พยามยามยื้อเต็มที่เพราะเธอไม่อยากที่จะสุงสิงกับชายคนนี้อีก
“ฟินิกซ์” ฟินิกซ์หันหน้าขึ้นมองไปตามเสียงเรียกแล้วก็พบกับพี่มิกซ์ เธอจึงพยามยามมากยิ่งขึ้นที่จะเอามือของตนหลุดออกจากพันธนาการของนายโอโซนนั่น แต่ขณะที่เธอกำลังพยายามอยู่นั่นเอง จู่ๆ พี่มิกซ์ก็พูดขึ้นมาว่า
“ฟินิกซ์ ทำไมเธอเป็นคนอย่างนี้ ตั้งแต่เราคบกันมาพี่ไม่เคยสนใจที่จะผู้หญิงคนอื่นเลย แต่ทำไมเธอต้องไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น ทั้งๆ ที่เธอยังมีพี่อยู่ด้วย” พี่มิกซ์พูดด้วยสีหน้าเย็นชา
“เอ่อ... พี่มิกซ์ค่ะ คือว่า...มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดเลยนะค่ะ คือ...” ฟินิกซ์พูดพร้อมกับพยายามที่จะแกะมือออกจากนายโอโซน แต่หมอนั่นมันจับไม่ปล่อยเลยอะ แถมยังจับแน่นขึ้นอีก ฉันเริ่มเจ็บแล้วนะ ฟินิกซ์คิด
“พอ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ตอนนี้พี่เข้าใจแล้วล่ะ ฟินิกซ์อยากเลิกกับพี่แล้วไปคบกับไอ้หมอนี่ใช่มั๊ย ได้พี่จะเป็นฝ่ายไปเอง ตอนนี้พี่กับฟินิกซ์เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว เรา-เลิก-กัน” พี่มิกซ์พูดหน้านิ่งเหมือนพยายามเก็บอารมณ์ไว้ และเขาก็เดินจากไป
“แต่... พี่มิกซ์ค่ะ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป พี่มิกซ์ ๆ” ฟินิกซ์ตะโกนเรียกพี่มิกซ์ และพยายามที่จะตามเขาไป แต่เธอก็ไปไม่ได้เพราะมือของเธอถูกใครบางคนยังจับไว้อยู่ ตอนนี้เธอรู้สึกสับสน รู้สึกตกใจ รู้สึกเสียใจ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริงเหรอ ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นเดินจากไปแล้วพร้อมกับทิ้งคำกล่าวลาที่แสนเจ็บปวดไว้ให้เธอ“เรา-เลิก-กัน” นี่เธอต้องเลิกกับพี่มิกซ์ เพราะเรื่องแค่นี้น่ะนะ แล้วเวลาที่เรามีความสุขด้วยกันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มันไม่ได้มีค่าอะไรเลยหรอ ฟินิกซ์คิด
“หึ หึ” โอโซนแสยะยิ้มอย่างพอใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไปเป็นอย่างมาก
“พี่มิกซ์....นี่มันอะไรกันเนี่ย” ฟินิกซ์บ่นพึมพำกับตัวเอง
“ตอนนี้เธอก็ไม่มีแฟนแล้ว งั้นเราก็มาเป็นแฟนกันได้แล้วน่ะสิ เนอะ” ในที่สุดโอโซนก็ยอมปล่อยมือของฟินิกซ์ออกแล้วก็ยิ้มหน้าระรื่น ผิดกับฟินิกซ์ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำอะไรแล้ว เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกินจนเธอสับสนไปหมดแล้ว
“นาย......ฉัน.......นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว”ฟินิกซ์น้ำตาคลอ
“เฮ้ย! นี่เธอจะร้องไห้เลยหรอเนี่ยเรื่องแค่นี้เองนะ”โอโซนพยามยามที่เข้าไปปลอบไม่ให้ฟินิกซ์ร้องไห้ออกมา
“ฮือๆโฮ....ฉันคบกับเขามาตั้ง 2 ปี แล้วนี่ ฮือ ๆ เราเลิกกันแล้วหรอ ฮือๆ” ฟินิกซ์เริ่มร้องไห้หนักขึ้น จนโอโซนได้แต่ทำท่าทางเก้ๆกังๆอยู่จน เพื่อนของเขาที่ชื่อไทม์เดินเข้ามาพอดี
“เฮ้ย! นี่แกไปทำไรเค้าว่ะ ดูดิร้องไห้ใหญ่เลย” นายไทม์ถามพร้อมกับสีหน้าตกใจ
“ไม่ได้ทำโว้ย! เธอเพิ่งถูกแฟนบอกเลิกเมื่อกี้นี้ แล้วหลังจากนั้นเธอก็เป็นแบบนี้อะ” โอโซนบอกเพื่อนไปส่งๆ พร้อมกับกอดปลอบฟินิกซ์ไว้เผื่อเธอจะรู้สึกดีขึ้นแล้วเลิกร้องไห้
“ก็แกเป็นอยากให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ แล้วจะมาโวยวายอะไรล่ะ” นายไทม์กระซิบถามเพื่อนเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเพื่อนสนิท
“เออ ก็ใช่ไง แต่ไม่คิดว่ายัยนี่จะร้องไห้หนักขนาดนี้นี่หว่า” โอโซนกระซิบตอบ
“เฮ้ย / เฮ้ย” ชายหนุ่มทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นหญิงสาวล้มพับหมดสติลงไป แต่ยังดีที่โอโซนมีความรู้สึกไวพอ เขาเลยประคองร่างที่หมดสติเอาไว้ทัน แล้วทั้งคู่ก็พาเธอไป
(ห้องซ้อมดนตรี)
“อืม....อือ.....” ฟินิกซ์ฟื้นขึ้นด้วยความงัวเงียหลังจากที่หมดสติไปเกือบ 2 ชั่วโมงเต็ม เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับหันไปดูรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตา
“อ่า... ฟื้นแล้วหรอ เฮ้อ....นึกว่าเธอจะเป็นไรไปแล้วซะอีก อ่ะ นี่โจ๊กร้อนๆ กินซะแล้วจะได้กินยา” โอโซนพูดพลางหยิบชามโจ๊กที่ไปซื้อมาให้ฟินิกซ์ พร้อมกับทำท่าจะป้อนให้
“ไม่ต้อง ๆ ฉันกินเองได้ แล้วที่นี่ที่ไหนเนี่ย” ฟินิกซ์ตอบปฏิเสธไป พลางถามถึงที่ที่ตนอยู่
“นี่ห้องดนตรีฉันไม่รู้จะพาเธอไปไหนก็เลยพามาพักที่นี่ก่อนแหะๆ”โอโซนว่าพลางอมยิ้ม
“เห้อ ขอบใจนายมากนะ ที่ช่วยฉันไว้ในตั้งหลายครั้ง”ฟินิกซ์พูดพลางตักโจ๊กเข้าปาก
หลังจากที่ฟินิกซ์กินข้าวกินยาเสร็จแล้ว เธอก็ขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะเธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน นายโอโซนก็ตามเธอกลับบ้านด้วยเช่นกัน แต่ในระหว่างทาง ทั้งคู่ก็เจอกับชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งเล่นกันอย่างสนิทสนมที่สนามหญ้า และผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือพี่มิกซ์ ชายที่เคยเป็นแฟนของฟินิกซ์นั่นเอง เมื่อฟินิกซ์เห็นภาพนี้เข้าเธอก็รู้สึกเสียใจมากไปอีก โอโซนเห็นอย่างนี้ก็เริ่มชอบใจมากขึ้น เพราะเขาก็อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่แล้ว
“........”ฟินิกซ์ยืนมองหน้าพี่มิกซ์นิ่ง จนเจ้าตัวรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกมองอยู่ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบฟินิกซ์ยืนมองอยู่ แต่เขากลับไม่สนใจเธอเลย หันไม่คุยกับผู้หญิงคนนั้นต่อ จนฟินิกซ์ทนเห็นภาพนั้นไม่ได้ จึงรีบวิ่งออกไป
ตึก ตึก ตึก เธอวิ่งไปอย่างไม่รู้จุดหมายพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา โดยมีนายโอโซนวิ่งตามมาด้วย และในที่สุดเธอก็นั่งลงที่ริมฟุตบาทพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จนโอโซนต้องเข้ามาปลอบ
“เอ่อ....ร้องออกมาเลย ร้องไปให้หมด เธอจะได้ลืมเขาคนนั้นได้ไง เอ้อ!เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ที่นึง ฉันรับรองว่าที่ที่นั้น จะทำให้เธอลืมร้องไห้ไปในทันทีเลยล่ะ” โอโซนกล่าวพร้อมกับจับมือฟินิกซ์ให้เดินตามไปด้วยกัน
ในที่สุดเขาก็พาเธอมาถึงที่จนได้ มันเป็นสถานที่ที่คนพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา และคนที่มาที่นี่ก็มักจะได้ร้องออกมาสุดเสียงเมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของที่นี่ ที่ที่ว่านี้ก็คือ สวนสนุกนั่นเอง มันเป็นสถานที่ที่โอโซนมักจะชอบมาเป็นประจำเมื่อเขามีเรื่องเครียด
“นี่นายเห็นฉันเป็นเด็กหรือไง พาฉันมาที่นี่น่ะ” ฟินิกซ์ถามด้วยความสงสัย แต่เธอก็คิดว่าตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นเหมือนกัน
“อะไร นี่ล่ะ ที่ที่จะทำให้เธอลืมผู้ชายคนนั้นได้ ปะไปเล่นกันดีกว่า” โอโซนว่าพลางจูงมือฟินิกซ์ไปเล่นเครื่องเล่นด้วยกัน แล้วเวลาก็ล่วงไปจนถึงเย็น เขาและเธอมีความสุขกันมาก ฟินิกซ์รู้สึกชอบนายโอโซนนี่ขึ้นมาแล้ว เพราะเขาทำให้เธอมีความสุข ถึงแม้ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเลิกกับแฟนก็มาจากเขานั่นเอง เอ๊ะ แต่ก็ไม่ทั้งหมดนิ ที่จริงพี่มิกซ์ก็มีแฟนใหม่ด้วยนิ ฟินิกซ์คิด
หลายเดือนต่อมา ฟินิกซ์ตัดสินใจที่จะคบกับโอโซน เขาทั้งคู่มีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกันมาก ฟินิกซ์หลงรักโอโซน เพราะเขาทำให้เธอมีความสุข เธอจึงให้ความไว้วางใจกับเขา โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ายังมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“โซน วันนี้โซนกลับบ้านเลยปะอะ ฟินิกซ์มีงานต้องทำนิดหน่อย” ฟินิกซ์ถาม
“หืม....อื้มกะว่าจะกลับเลยอะ แต่ถ้าฟินิกซ์ทำงานโซนก็จะอยู่ทำด้วยคร๊าบ”โอโซนพูดพลางทำสีหน้ากะล่อน ทำให้ฟินิกซ์รู้สึกขำไปกับคำพูดหวานๆของโอโซน ซึ่งนานวันเข้าก็ทำให้เธอก็ยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นทุกที
เช้าวันหนึ่ง ฟินิกซ์มาโรงเรียนคนเดียวเพราะโอโซนบอกว่าวันนี้เขาจะเข้าสาย เธอเรียนตามปกติ จนถึงตอนพักกลางวัน เธอนัดกับโอโซนไว้ว่าจะเจอกันที่ห้องซ้อมดนตรีเธอนั่งรอเขา ไม่นานโอโซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนของเขาที่ชื่อไทม์ ฟินิกซ์เห็นก็เลยโบกมือทักทาย ฟุ่บๆ อื้อๆ ชายทั้งสองคนเดินเข้ามาแล้วนำผ้าโปะยาสลบโปะใส่ฟินิกซ์ เธอดิ้นไปมาอย่างหมดทางสู้ ไม่นานเธอก็หมดสติไป ฟินิกซ์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับพบว่าตนเองถูกมัดติดอยู่กับเก้าอีกในอาคารเก่าๆ แห่งหนึ่ง เธอพยายามที่จะแกะมือออกแต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งมีเงาคนเดินมา
“หึ หึ ไม่ต้องพยายามหรอกน่า ทำไปก็ไร้ประโยชน์เธอไม่มีทางที่จะหนีไปจากที่นี่ได้หรอก”ไทม์พูดพลางหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ และที่ยืนอยู่ข้างๆไทม์นั่นคือโอโซน
“นี่นายจับฉันมาทำไมเนี่ย โซนช่วยฉันด้วย เพื่อนนายบ้าไปแล้ว นี่ปล่อยฉันน้า” ฟินิกซ์กล่าว พร้อมกับหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากโอโซน คนที่เธอรัก
“หึ ใครจะช่วยเธอ หะ ไอโซนนะหรอ ฮ่า ๆ แกจะช่วยยัยนี่หรอวะไอโซน ” นายไทม์พูดพลางหันหน้าไปถามเพื่อนซี้ของเขา
“นะ...นี่ หมาความว่ายังไงอะ โซน” ฟินิกซ์ถามโอโซนด้วยแววตาที่สับสน
“นี่เธอยังไม่รู้อีกหรอว่า ทั้งหมดนี่มันคือเรื่องโกหก ทั้งหมดคือแผนการที่ฉันวางไว้เอง ส่วนไอโอโซนก็คือตัวหมากที่ฉันวางเอาไว้เพื่อใช้สั่งสอนเธอไงล่ะ” ไทม์อธิบาย
“แผน นี่พวกนายหมายความว่ายังไงอะ” ฟินิกซ์ถามพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวด
“หึ ๆ เธอจำเด็กผู้หญิงที่ชื่อ ทัฟเฟิลได้มั๊ย” ไทม์ถาม ฟินิกซ์จำชื่อคนคนนี้ได้แม่น เพราะเมื่อก่อนเธอกับทัฟเฟิลเป็นเพื่อนสนิทกันมาก แต่ทัฟเฟิลเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ
“ทัฟเฟิลเป็นน้องสาวฝาแฝดของฉันเอง ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลย มันเป็นเพราะเธอ เธอแย่งแฟนของเพื่อนแบบนั้นได้ลงคอได้ยังไงอะ หะ!” ไทม์ตะโกนด้วยความโกรธพร้อมกับกระชากตัวฟินิกซ์ด้วยความโมโห แต่โอโซนก็เข้ามาช่วยห้ามไว้
“เฮ้ย ใจเย็นๆ”โอโซนพูด ที่จริงแล้วเขารู้สึกชอบฟินิกซ์อยู่ แต่ทำอย่างไรได้เมื่อเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด มันคือแผนที่วางไว้เพื่อจะทำให้ฟินิกซ์ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับทัฟเฟิลน้องสาวฝาแฝดของเพื่อนสนิทเขา
(สองปีที่แล้ว)
“นิกซ์ ๆ คนนี้ไง น่ารักปะๆ”เสียงของเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง ชี้ให้เพื่อนของเธอดูชายคนหนึ่งที่เธอแอบชอบอยู่
“ไหนๆ อ่อ พี่มิกซ์อะนะ อื้มนิกซ์ว่าเขาน่ารักมากเลยอะทัฟ” เด็กหญิงอีกคนหันไปตามเสียงเรียกของเพื่อน พร้อมกับเอ่ยชม
“ฉันจะไปบอกชอบเขาล่ะ ฮิ ฮิ เอาใจช่วยฉันด้วยนะ” แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งออกไป พร้อมกับถือดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งไปด้วย เด็กหญิงอีกคนมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างลุ้น ๆเธอเชียร์ให้เพื่อนของเธอได้สมหวัง ถึงแม้ว่าในใจเธอเองก็ชอบผู้ชายคนนี้เหมือนกัน
“เย้ๆ นิกซ์พี่เขา ตกลงจะเป็นแฟนกับฉันอะ เย้ๆ” หญิงสาววิ่งกลับมาพร้อมด้วยสีหน้า มีความสุข เพื่อนที่ยืนดูอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่ามันไม่ถูกต้องที่เธอจะอิจฉาเพื่อนที่เธอสนิทมากที่สุด เธอจึงได้แค่ยิ้มดีใจไปกับเพื่อนด้วยเท่านั้น
สามเดือนต่อมา หญิงสาวคนที่สมหวังกับความรัก ก็มีความความสุขกับการความสัมพันธ์นี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งชายหนุ่มมีท่าทางที่แปลกๆไป เขาสนิทกับเพื่อนสาวของเธอ ไปไหนมาไหนกับเพื่อนสาวของเธอมากกว่าการที่จะเป็นกับเธอ นานวันเข้าเธอจึงตัดสินใจเข้าไปถามชายหนุ่มว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และคำตอบที่ออกมานั้น ทำให้หญิงสาวคนนั้นตกใจมาก เพราะชายหนุ่มบอกเธอว่าเขาไม่ได้ชอบเธอเลย ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะเขาชอบเพื่อนสาวของเธอ เขาแค่อยากเข้ามาตีสนิทเธอก็เพื่อเป็นทางผ่านเท่านั้น ทุกวันนี้เพื่อนสาวของเธอคนนั้นก็กำลังคบกับชายหนุ่มลับหลังเธออยู่ หลังจากที่หญิงสาวได้รู้ความจริงนี้ เธอก็เสียใจมาก เพราะคนที่เธอไว้ใจมากที่สุดกลับทรยศ หักหลังเธอได้ลงคอ เธอได้แต่โกรธตัวเองที่โง่ถูกหลอกมาตลอด เธอคลุ้มคลั่งมาก จนในที่สุดเธอก็กลายเป็นคนเสียสติโดยสาเหตุมาจากความเสียใจ
(ปัจจุบัน)
“ฮึก ๆ ทัฟ.....ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นฉันทำแบบนี้ไปได้ยังไง ฉันเสียใจ ฉันเสียใจจริงๆ ฮือ ฮือ” ฟินิกซ์พูดแกมน้ำตา เธอไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้ จะทำให้ทัฟเฟิลกลายเป็นแบบนี้ เธอรู้สึกเสียใจมาก ถ้าเธอย้อยอดีตได้เธอก็คงที่จะไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน
“ขอโทษหรอ! เธอคิดว่าคำว่าขอโทษแค่นี้จะทำให้เรื่องมันดีขึ้นมางั้นหรอ!” ไทม์พูดด้วยความโมโหแทนน้องสาว
“เอาน่า ไอไทม์ แค่นี้ฉันก็ว่าเค้าน่าจะสำนึกผิดแล้วล่ะ” โอโซนพูดกับเพื่อนเพื่อให้ใจเย็น
“หึ แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ฉันจะให้เธอรู้ว่าการที่เสียคนสำคัญไปนะมันจะเป็นยังไง” ไทม์พูดพร้อมดึงมีดออกมาจากระเป๋ากางเกง การกระทำของไทม์ทำให้ฟินิกซ์รู้สึกตกใจมาก โอโซนก็เช่นกัน เขาไม่คิดว่าเพื่อนเขาคิดจะทำรุนแรงขนาดนี้
“เฮ้ย! นี่แกจะทำอะไรวะ ปล่อยเลยนะเว้ย” โอโซนว่าอย่างตกใจพร้อมเข้าไปกระชากในมือของเพื่อนให้ออกห่างจากตัวฟินิกซ์
“ปล่อยนะ ฉันจะทำให้ยัยนี้ได้รู้สำนึก” ไทม์พยายามที่จะดึงมือให้ออกจากมือเพื่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่ไทม์” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็น ทัฟเฟิล น้องสาวฝาแฝดของเขาที่ตอนนี้เธอควรจะต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
“ทัฟ! นี่เธอมาได้ไงเนี่ย” ไทม์ผละจากฟินิกซ์ แล้วเดินเข้าไปหาน้องสาว
“นี่พี่เป็นบ้าอะไร พี่คิดจะฆ่าคนเพราะเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ” ทัฟเฟิลพูดด้วยเสียงโกรธ
“พะ....พี่ ขอโทษ พี่แค่คิดว่าต้องแก้แค้นให้เธอ แค่นั้นเอง”ไทม์กล่าวด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“การแก้แค้นมันไม่ได้ทำให้อะไรๆ มันดีขึ้นมาหรอกนะค่ะ มีมีแต่จะทำให้คนอื่นเสยใจมากขึ้นไปอีกมากกว่า เพราะฉะนั้นที่ทัฟมาที่นี่ก็เพื่อที่จะเตือนพี่ว่าพี่ควรลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปซะ ให้อภัยฟินิกซ์เค้าไปซะ ตอนนี้ทัฟก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว อีกอย่างฟินิกซ์ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ทัฟรักมากที่สุดคนนึงอยู่” ทัฟเฟิลกล่าวต่อว่าพี่ชาย พร้อมกับหันไปพูดกับฟินิกซ์ที่โอโซนช่วยแก้มัดให้แล้วเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เวลาทำให้เธอคิดได้ว่า เรื่องความรักเป็นเรื่องของโชคชะตาของแต่ละคน ถ้าเราใช่คู่แท้กันจริง สักวันมันก็จะกลับมาคู่กันเอง
“ทัฟเฟิล ฉันขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ” ฟินิกซ์ร้องไห้ออกมา เธอเสียใจกับการกระทำของเธอเมื่อก่อนมาก เธอเดินเข้าไปหาทัฟเฟิลพร้อมกับกล่าวขอโทษ เธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะลบล้างความผิดที่เธอทำมาได้เลย เธอจึงได้แต่ร้องไห้เท่านั้น
“ไม่เป็นไร ๆ ฉันไม่โกรธเธอหรอก เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว อย่าไปคิดถึงมันเลย เราอยู่กับปัจจุบันดีกว่าเนาะ พี่ไทม์มานี่เลย กลับบ้านกับทัฟเดี๋ยวนี้” ทัฟเฟิลปลอบเพื่อนของตนว่าอย่าคิดมาก แล้วเธอก็หันกลับไปหาเรื่องพี่ชายของเธอต่อ
“โอ๊ย ๆ รู้แล้วไปแล้วครับ อย่าดึง เจ็บๆ” ไทม์ร้องเสียงหลง เพราะน้องสาวตัวดีดึงหูของตัวเองให้ตามไป ทั้งน้องสาวยังไม่วายหันกลับมาบอกโอโซนอีกว่า
“โอโซนฉันฝากดูแลฟินิกซ์ด้วยนะ อย่าให้รู้นะว่านายทำให้เธอเสียใจ ไม่งั้นล่ะก็นายตายแน่” ทัฟเฟิลขู่ แล้วหันหลังกลับไปดึงหูลากพี่ชายตัวแสบให้กลับบ้านไปด้วยกัน
“เอิ่ม....ตายเลยหรอ เอื๊อก” โอโซนพูดพลางกลืนน้ำลายอย่างหวาดๆ
“ถ้านายไม่ชอบ นายก็ไม่ต้องทำสิ ฉันดูแลตัวเองได้” ฟินิกซ์วาแกมประชด พร้อมทำ สีหน้าน้อยใจ
“แหมๆ ใครจะไม่อยากดูแล สาวน้อยสุดสวยอย่างคุณฟินิกซ์ได้ล่ะคร๊าบ โถ่ อุตสาห์แย่งมาจากหมอนั่นได้แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไป ก็เสียดายแย่สิเนาะ” โอโซนพูดอย่างอารมณ์ดี
“นายนี่ก็ เอ้อ! ฉันสงสัยอยู่เรื่องนึง ตอนที่กระถางต้นไม้นั้นตกลงมานั่นก็คือแผนของพวกนายด้วยใช่มะ” ฟินิกซ์ถามโอโซนในเรื่องที่ค้างคาใจมานาน
“เอ่อ...อื้ม แหะๆ” โอโซนตอบพลางเกาหัว ด้วยอาการรู้สึกผิด
“หึ หึ หึ” ฟินิกซ์หัวเราะ เสียงต่ำ จนทำให้โอโซนรู้สึกว่าตนเองอาจจะไม่ปลอดภัย
“นี่! ถ้าตอนนั้นมันพลาดมา ไอกระถางนั่นตกลงมาโดนฉัน แล้วผลมันจะเป็นยังไง ฉันไม่ต้องตายหรอกหรอ หะ มานี่เลย ฉันจะฆ่านาย อย่าหนีนะ ย๊ากก ๆๆ” ฟินิกซ์พูดต่อว่า พลางวิ่งไล่ตามโอโซนซึ่งตอนนี้วิ่งหนีออกไปแล้ว
“...เราไม่อาจควบคุมผู้คนให้ทำดี
หรือไม่ทำชั่วกับเราได้
แต่เราสามารถที่จะควบคุมจิตใจของเราเองได้
ในเมื่อเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้
เราก็ไม่ควรจมอยู่กับอดีต
แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีต
เพื่อทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้นได้
การให้อภัยเป็นเรื่องยาก
แต่การมีชีวิตอยู่
ด้วยจิตใจที่โกรธแค้นนั้น
กลับเป็นเรื่องที่ยากลำบากกว่า”
ผลงานอื่นๆ ของ Wf_Hero Za ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Wf_Hero Za
ความคิดเห็น