คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2
intro
“ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย..” เสียงทุ้มพูดภาษาอิตาลีได้อย่างคล่องแคล่วทั้งที่ในตัวเขาไม่มีอะไรที่บ่งบอกความเป็นชาวยุโรปเลยสักนิด ร่างสูงโปร่งผิวสีเข้มผมสีน้ำตาลประกายแดงขึ้นเมื่อถูกแสงแดดสาดส่องลงมากระทบ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มใบหน้าคมแสยะยิ้มมุมปาก เรียกได้ว่ามองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนเอเชียแน่นอน
ขายาวยกขึ้นยันกำแพงข้างหัวของ’หนอนบ่อนไส้’ที่สภาพไม่ได้ต่างไปจากคำว่าตายสักเท่าไหร่ เนื้อตัวสะบักสะบอมใบหน้าซ้ำเต็มไปด้วยคราบเลือดมือหนาตวัดปากกระบอกปืนเล่นไปมาในอากาศ
“นะ..นายครับ ปล่อยผมไปเถอะ ผมขอโทษ ผมจะไม่ทรยศนายอีก ผมมันเห็นแก่เงินเอง” หนอนบ่อนไส้ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญสารพัดคนเป็นเจ้านายหัวเราะในลำคอเบาๆ
“หึ.. ทำไม ? เงินเดือนที่ฉันให้แกไม่พอหรือไง ถึงต้องไปรับงานแก๊งค์อื่น..”
“แต่ถึงแกจะไม่บอกฉันว่านายแกอีกคนเป็นใคร ฉันว่าฉันก็รู้อยู่ดี..เรื่องชั่วๆแบบนี้ ไม่กี่คนหรอกที่ทำ” เขาพูดต่อปากกระบอกปืนสีเงินแวววาวจรดลงบนหน้าผากของคนที่เคยเป็นลูกน้องของเขา
“แล้วฉันจะบอกอะไรให้นะ..ในสังคมนี้น่ะ ควรมีนายแค่คนเดียว คนอื่นเป็นได้แค่พันธมิตร”
“แต่ถ้าแกมีนายสองคน..แล้วยังทำตัวเป็นนกสองหัวเนี่ย” พูดพลางปลดเซฟตี้กระบอกปืนดังแกร๊ก หนอนบ่อนไส้ตัวสั่นงกน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสายอย่างไม่มียางอาย
“จุดจบของแก ก็จะเป็นแบบนี้” ราวกับการสั่งเสียปลายนิ้วลั่นไกทันทีที่พูดจบ..
ปัง!!!
“อ้ากก!” เสียงร้องครวญครางดังขึ้นก่อนเงียบไปเลือดสีแดงเข้มกระเซ็นโดนใบหน้าคมเล็กน้อยพร้อมกับลำตัวคนทรยศที่เย็นเฉียบเสียงลมหายใจหนักก็ไม่มีแล้ว เห็นแบบนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากโกดังร้างที่เขามักใช้เจรจาเป็นการส่วนตัวพร้อมกับการ์ดคนสนิทที่เดินตามมาติดๆพลางยกมือหน้าขึ้นคราบเลือดลวกๆ
“สกปรกจริงๆ.. นี่ฮาวี่ รู้สึกตัวนี้แรงดีดมันเยอะไป เสียงก็ดังจนเกินเหตุด้วย ฝากคอมเม้นท์โรงงานด้วยนะ ของแบบนี้ใครเค้าจะซื้อกัน” พูดก่อนเก็บตัวอย่างปืนรุ่นใหม่ที่เขาเพิ่งได้จากโรงงานเถื่อนมาลองใช้เหน็บไว้ข้างลำตัวแล้วปัดชายเสื้อสูทปิดทับ
“ครับนาย” บอดีการ์ดสูงร่างกำยำโค้งตอบเล็กน้อย เก็บคำพูดเหล่านั้นจำใส่สมองเอาไว้โดยอัตโนมัติ
“แล้วตกลงเป็นยังไงบ้างล่ะฮาวี่?” มือหนาเสยผมเปียกเหงื่อขึ้นลวกๆ
ในนั้นมันร้อนชะมัด ให้ตายเถอะ
“คุณจงอิน ผมบอกว่าให้เลิกเรียกชื่อผมแบบนั้นสักทีไงครับ ฮาวี่ชวนอ้วกอะไรเนี่ย ผมชื่อฮาเวิร์ดต่างหาก” บอดี้การ์ดคนเก่งพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าจนใจ
“ฮ่าๆ เอาน่าๆ อย่าไปเครียดนักเลย” พูดเสร็จก็ก้าวขาขึ้นรถไปก่อนจงอินหัวเราะร่วนพร้อมกับโบกมือปัดไปราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ไม่เล็กน้อยสำหรับฮาเวิร์ดสักเท่าไหร่ เพราะเวลาออกงาน นายก็ยังคงเรียกเขาว่าฮาวี่นี่สิ .. น่าอายชะมัด
ฮาเวิร์ดเดินอ้อมมาขึ้นรถในฝั่งของคนขับก่อนรถเบ๊นซ์สุดหรูจะเคลื่อนตัวไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นในโกดังนั่น
“แน่นอนว่า ความเสียหายครั้งนี้ไม่มีอะไรครับ เพราะลูกน้องของเราซื่อสัตย์พอที่จะไม่ยอมร่วมมือกับมันแล้วเอามาบอกเราก่อน” ฮาเวิร์ดพูดขึ้นในขณะที่จงอินกำลังนั่งเท้าคางกับประตูแล้วเหม่อออกไปด้านนอก
เฮ้อ น่าเบื่อจังน้า ไม่มีอะไรสนุกๆทำเลย..
“ฟังอยู่หรือเปล่าครับนาย” จงอินสะดุ้งแล้วเหลือบมองฮาเวิร์ดด้านหน้า
“อืม..ฉันฟังอยู่น่า” ฮาเวิร์ดถอนหายใจเบาๆก่อนพูดต่อ
“คงเป็นเพราะพวกเราทั้งหมดได้รับการดูแลจากคุณแท้ๆ” ฮาเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม จงอินหลุดหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
“พูดอะไรน่าขนลุกจริงๆนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรมากสักหน่อย ลูกน้องของฉันก็เหมือนพวกพ้องที่ฉันรักนั่นแหละ”
“คุณเนี่ยเหมือนนายท่านจริงๆนะครับ” ฮาวี่พูดเสริมแล้วหัวเราะตาม
“หึ..แน่นอน ก็พ่อลูกกันนี่นา” จงอินไหวไหล่ตอบ
“เหมือนแค่เรื่องดีก็พอนะครับ บางเรื่องก็ไม่ควรจะเหมือนเลย”
“อะไรล่ะที่นายว่ามันไม่ดี”
“ก็อย่างเช่น คุณน่ะชอบเที่ยวผู้หญิงไม่เลือก อ้อ เคยมีผู้ชายด้วยนี่ครับ เอาแต่เล่นสนุก ดื่มจนเมาเละ ระวังตัวหน่อยสิครับคุณจงอิน ใช่ว่าเรามีศัตรูน้อยซะที่ไหน” ฮาเวิร์ดพูดราวกับสั่งสอนเด็กตัวเล็กๆที่ดื้อและเอาแต่ใจ แต่ก็จริงๆ ตระกูลของฮาเวิร์ดรับใช้ครอบครัวของจงอินมารุ่นสู่รุ่น เขาเลยจำเป็นต้องรู้อุปนิสัยของเจ้านายทั้งรุ่นปัจจุบันและก่อนหน้าให้มากที่สุด เพราะเขาต้องการทำหน้าที่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง นายของตระกูลเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นปู่ รุ่นพ่อ หรือแม้กระทั่งรุ่นจงอินตอนนี้ก็ตาม
บางทีเขาก็คิดสงสัยว่า เรื่องแบบนี้มันสืบทอดกันได้ด้วยหรอ..
“เฮ้ๆ ฮาวี่ ฉันเลือกคนนะเฟ้ย อย่ามากล่าวหาซี้ซั้วสิ” จงอินรีบเถียง ก็มันไม่จริงเสียหน่อย พ่อเสือไบอย่างเขาถึงแม้ว่าจะควงสาวหนุ่มไม่ซ้ำหน้า แต่ก็เลือกแล้วเลือกอีกนะ
“เปลี่ยนคนควงเป็นว่าเล่นแบบนั้น ใครเค้าจะคิดว่าคุณจงอินเลือกมาล่ะครับ” ฮาเวิร์ดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับเจ้านายของตัวเองที่ชอบทำตัวเป็นเด็กๆ ทั้งที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว
“นายนี่บ่นกว่าแม่ฉันอีกนะฮาวี่” จงอินเอนหัวพิงเบาะนั่งก่อนเปิดกระจกลงแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
“ก็นายหญิงสั่งให้ผมดูแลคุณจงอินดีๆนี่ครับ พ่อผมก็กำชับไว้ก่อนท่านเสีย แล้วก็นั่นด้วยครับ เพลาๆลงบ้างนะคุณจงอิน เฮ้อ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะครับ”
“เฮ้ยๆ เงียบไปเลยนะฮาวี่ เรื่องอายงอายุเนี่ยไม่ต้องพูดถึงเลย พอๆ” จงอินรีบขัดขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจ ฮาเวิร์ดหัวเราะออกมาเบาๆ
จะบอกว่าแก่รึไง ไม่แก่นะเฟ้ย เพิ่ง28 เอ๊าะๆเลย ยังเลข2อยู่ ..
“ขำอะไร อายุนายก็ไล่เลี่ยกับฉันแหละน่า” พูดพลางพ่นกลุ่มควันสีเทาลอยออกไปด้านนอกฮาเวิร์ดไหวไหล่ตอบกลับแล้วหัวเราะเสียงดัง
“แล้วนาย..คิดว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้เป็นใครครับ ?” ฮาเวิร์ดเปลี่ยนเรื่องให้ตามคำขอ จงอินลูบคางคิดในสมองไล่ชื่อศัตรูที่เคยปะทะกันมาไม่รู้ต่อกี่แก๊งค์
“เอาจริงๆมันก็มีเยอะอยู่นะ แต่ฉันว่าที่กัดแล้วไม่ปล่อยนี่ก็มีอยู่บริษัทเดียวแหละ..”
ปึง!!!
เสียงทุบโต๊ะดังไปทั่วห้องทำงานของประธานบริษัทยักใหญ่ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกใบหน้าเกรี้ยวโกรธบ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“จะ..ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณยุนโฮ” ลูกน้องสุดดำพยายามเกลี้ยกล่อมให้ชายหนุ่มสูงวัยผู้เป็นนายใจเย็นลงแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลย
“จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง!!! เราไม่ได้ข้อมูลอะไรแถมยังเสียคนไปอีก แกจะรับผิดยังไง บอกมา!!!!!!” เสียงทุ้มตวาดลูกน้องลั่นที่ทำงานผิดพลาด
“ผะ ผม..” คนทำพลาดก้มหน้ารับชะตากรรมแต่โดยดี คนเป็นลูกชายที่นั่งไขว่ห้างเท้าคางมองอยู่มุมห้องด้วยสายตาเฉื่อยชา
เฮ้อ.. น่าเบื่อ
ใบหน้าเรียวสวยเสมองออกไปนอกกระจกใสในห้องทำงานของพ่อเขา วันนี้เขาเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว มาถึงก็รีบมาหาครอบครัวที่บริษัททันทีหวังจะชวนไปกินข้าวด้วยความคิดถึง แต่พอเข้ามาก็เห็นพ่อของเขาตวาดลูกน้องอารมณ์เสียไม่หยุดมาสักพักแล้ว
บริษัท เอส คอเปอร์เรชั่น ที่ทำธุรกิจเป็นผู้จัดนำสิ้นค้าส่งออกนอกประเทศบังหน้า แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของบริษัทนี้นั้นเป็นการค้ายารายใหญ่ ส่งออกยาไปพร้อมกับสินค้าในบริษัทเบื้องหน้า งานที่สกปรกแบบนี้ เขาไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ แต่ในเมื่อเขาโตขึ้นมาด้วยธุรกิจนี้ เงินที่เขาใช้อยู่อยู่ประจำก็มาจากธุรกิจสกปรกของพ่อ เขาจึงเลือกที่จะอยู่ห่างๆ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ช้าไม่เร็ว เขาก็จะต้องมาสานต่อกิจการ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยอยากทำเลยก็ตาม
“พวกแกออกไป แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!” สิ้นเสียงคำสั่งลูกน้องชุ่ยๆก็รีบจรลีออกจากห้องนั้นโดยทันที ประธานบริษัททรุดตัวนั่งลงพร้อมยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเจ็บใจ
“เซฮุน.. ลูกพร้อมหรือยัง?” ถึงแม้จะเครียดงานมากแค่ไหน เขาก็จะไม่มีวันพาลใส่ครอบครัวเด็ดขาด นี่คือสิ่งที่ทำให้เซฮุนรักและเคารพพ่อของตัวเองมากมาย เขาอยากจะเป็นคนเก่ง เด็ดดาด และควบคุมตัวเองอยู่เหมือนพ่อจัง..
ถ้าเขาอยู่ในจุดๆนั้น บนเก้าอี้ตัวใหญ่อันนั้น เขาจะรู้สึกยังไงกันนะ..
“พร้อมเมื่อไหร่ผมจะบอกพ่อ..ได้ไหมครับ?” เซฮุนหันกลับมามองคนเป็นพ่อพร้อมกับรอยยิ้มบาง ยุนโฮยิ้มตอบอย่างจนใจ ยังไงๆเขาก็ไม่สามารถที่จะบังคับลูกตัวเองเหมือนที่พ่อคนอื่นทำได้ สถาบันครอบครัวคือสิ่งที่มีผลต่อจิตใจของเขามากที่สุดนั่นเอง..
“พ่อเคยขัดใจเซฮุนด้วยหรอ? ไปเถอะ นี่ก็เย็นแล้วนะ แม่จะรอนานเปล่าๆ”
ถึงแม้ว่ามือจะต้องเปื้อนเลือด เปื้อนโคลน เปื้อนมลทิน สิ่งสกปรกมากแค่ไหน แต่เพื่อความอยู่รอดของเขาและครอบครัว ยุนโฮก็ต้องยอม ตะเกียกตะกายตัวเองพยุงเซฮุนและภรรยาอันเป็นที่รักของเขาขึ้นมาจากพื้นดินที่โดนคนเหยียบซ้ำขึ้นมาให้ได้
ในเมื่อพ่อเสียสละเพื่อเขาถึงเพียงนี้ แล้วเขาล่ะ?..
นั่นสินะ.. ทำไมถึงได้อยู่เฉยๆแบบนี้กัน?..
Myfaraway : ใจกล้ามากเปิดเรื่องใหม่ #โดนคนอ่านเรื่องเก่าๆเขวี้ยงหม้อไหกะละมังใส่ T v T 5555555555555555 ฮรี่ ก็ เรื่องนี้ไม่อยากให้มองพี่จงอินเป้นมาเฟียนิ่งๆนะนางไม่นิ่ง นางออกกวนๆเพลย์บอยงี้ ตามความเป้นจริงเลยแค่นางไม่กาก นางเป็นมาเฟียนะเฟร้ยอิอิ 555555555555555 หวังว่าจะชอบกันนะคะ เลิ้บๆมาก ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม แสดงความคิดเห็นให้กำลังใจกันเยอะๆน้า เย่ >_<)/
ความคิดเห็น