ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัญมณีทั้ง4แห่งเมืองเวทมนต์

    ลำดับตอนที่ #2 : โชคดีน่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 55


     ฉัน   กับ ทิปโฟนี่ เดินไปยังห้องประชุมที่ตอนนี้มีคนมากันมากแล้ว ที่กลางห้องมีเก้าอี้ที่วางอยู่มากมายเต็มไปหมด ส่วนด้านหน้าของมีเวทีที่ยกสูงขึ้นไปไม่มากนักมีผ้าม่านสีเทากั้นเอาไว้ ที่ข้างเวทีมีหญิงชายวัยกลางคนที่เดินมากำลังจะเดินขึ้นไปบนเวที
              “ลิเลีย เราไปนั่งตรงโน่นกันดีกว่าทิปโฟนี่พูดแล้วลากฉันไปที่นั่งที่อยู่ด้านข้างในสุดแต่อยู่ด้านริมๆ เราเดินผ่านหน้าเวทีกันมาเพื่อที่จะได้เดินไปที่นั่งตรงนั้นได้สะดวกขึ้น เราเดินผ่านกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีพอดี แต่ก็เห็นว่าจะมีแต่ยัยผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่ดูน่ารัก แต่ดูแล้วคงเป็นคนที่หยิ่งพะยองน่าดูทีเดียว ยัยตัวเล็กคนนั้นก็ดูท่าทางที่จะอายุเท่าๆฉันแล้วก็ดูจะเป็นหัวโจกเพื่อนเขาด้วย ดูท่าฉันคงมองเจ้าหล่อนนานเกินไป เธอเลยหันมามองฉันด้วยหางตาที่ดูแล้วคล้ายๆเหมือนไม่ชอบเอาเสียเลย ฉันมองหน้าเธอก่อนที่จะยิ้มที่(คิดว่า)ดีที่สุดไปให้เธอ แต่ยัยนี้ดันเมินฉันด้วยการทำปากแบ้ใส่ฉันแล้วเฉิดหน้าใส่ฉัน ชิ!!! ฉันขอถอนคำพูดที่ว่ายัยนี้น่ารัก
              ฉานนนนนเกลียดดดดยายยยยยนี้แล้วววววววว
    ฉันตัดสินใจเฉิดหน้าใส่ยัยนี้บาง ส่วนยัยนั้น(ยัยนั้นยัยนี้ ฉันงงไปหมดแล้ว)มองฉันแล้วทำปากเหวอใส่ฉัน ฉันไม่สนใจเดินผ่านยัยนี้ไปโดยไม่สนใจ แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
              พลัก...ตุ๊บ...
    ฉันกับทิปโฟนี่ที่กำลังเดินผ่านไปก็เป็นอันต้องล้มลงอย่างไม่เป็นท่า ก็เพราะยัยนั้นหันไปซุบซิบๆกับเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ริมสุดแล้วก็พยักหน้ากัน แล้วยัยคนที่ซุบซิบกับยัยตัวเล็กก็เดินออกมาพลักฉันเสียเฉยๆ มันเลยเป็นเหตุให้ฉันล้มลงไปทางทิปโฟนี่ แล้วก็พาทิปโฟนี่ล้มลงไปด้วย ฉันกับทิปโฟนี่หันไปมองหน้ายัยพวกนี้ ที่มองพวกฉันแล้วก็พากันหัวเราะชอบใจกับผลงานของตัวเอง คนที่เดินผ่านกันไปมาหันมามองพวกเราแล้วก็หัวเราะกันคิกคัก ทิปโฟนี่ลุกขึ้นก่อนฉันพยุงฉันให้ลุกขึ้นยืน ฉันลุกขึ้นมองหน้ายัยนี้ด้วยความแค้น เพิ่งเจอกันแท้ๆกลับมาเกลียดกันเสียแล้ว
              “อะไรของพวกเธอเนี่ย ไม่ทราบว่าพวกเธอมีปัญหาอะไรกับพวกฉันย่ะสงสัยทิปโฟนี่คงจะทดพิษบาดแผลไม่ไหวเลยเริ่มอาระวาดแล้ว ก็อยู่ๆทิปโฟนี่ลุกขึ้นมามองหน้ายัยพวกนี่ด้วยสายตาที่รังเกรียจก่อนที่จะพลักคนที่พลักพวกเราเมื่อกี้ล้มลงไปนอนกับพื้นบาง(ขออธิบายลักษณะยัยคนที่พลักพวกเรเมื่อกี้นิดหนึ่ง ยัยนี้ก็เหมือนยัยตัวเล็กนั้นหล่ะ แต่น่ารักน้อยกว่าแล้วก็ดูท่าจะเป็นลูกน้องเขา)แล้วก็เกิดกันทะเทาะกันใหญ่ ฉันที่เริ่มรำคาญรีบลากทิปโฟนี่ออกมาแล้วไปนั่งที่ๆเราหมายปองที่จะนั่งกัน ทิปโฟนี่ก็ยังกระฟัดกระเฟือนอยู่ตลอดไม่เลิก แล้วทิปโฟนี่ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นฉันที่นั่งอยู่
              “ไปทำอะไรเขาเข้าหล่ะ ยัยพวกนั้นถึงได้มาพลักเธอน่ะทิปโฟนี่ถามขึ้นมา
              “ฉันยิ้มให้ยัยหัวโจกนั้น แล้วยัยนั้นก็เฉิดหน้าใส่ฉัน แล้วฉันก็เฉิดหน้าใส่ยัยนั้นบ้างฉันบอกแล้วก็ทำมือประกอบไปด้วย
              “แสดงว่ายัยนั้นมันเกลียดเธอ ส่วนฉันเกียดยัยนั้นทิปโฟนี่พยักพเยินหน้าไปทางยัยที่พลักเรา
              “ปกติคนธาตุน้ำใจเย็นกันไม่ใช่หร่อฉันถามทิปโฟนี่แล้วมองหน้าทิปโฟนี่
              “มันก็ใช่ แต่ฉันมีอารมณ์ไปทางพ่อ ที่ขี้หงุดหงิดความอดทนน้อย แต่ฉันไม่มีพลังทางด้านพ่อหรอกน่ะท่าทางยัยนี้จะอารมณ์ดีขึ้นแล้วก็เลยเริ่มยิ้มออกมาบาง
              “ขอนั่งด้วยได้ไหมครับเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นพวกเรามองหน้ากันก่อนที่จะพยักหน้าหงึกหงัก เขาแทรกตัวผ่านพวกเรามาแล้วนั่งลงข้างๆฉันที่เป็นเก้าอี้ว่างอยู่ เขาหันหน้ามามอองพวกเราแล้วส่งยิ้มมาให้ ในมือของเขาคือ ถุงขนมที่ส่วนมากจะเป็นเค้กเสียมากกว่า
              “หวัดดีฉัน ไลโนครี ไลโนครี คลูนิโลเจอร์ ดีที่รู้จัก...เอาเค้กไหมอร่อยน่ะมีรส สตอเบอร์รี่ แช็คโกแลต ส้ม แล้วก็รสดอกริฟโซรี่*”เขายื่นถุงขนมมาตรงหน้าพวกเราแล้วอธิบายรสเค้กต่างๆที่มีอยู่ในถุงมากมาย พวกเราส่ายหน้าประติเสธ                                                                                                                                                  
               T^T
    ไลโนครีทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยต้องรีบคว้าถุงขนมมาแล้วล้วงมือเข้าไปหยิบเค้กมาก้อนหนึ่งแล้วก็ปรากฏว่าเป็นรสแช็คโกแลต แล้วก็รีบส่งถุงให้ทิปโฟนี่หยิบเค้กบ้าง ทิปโฟนี่หยิบได้รสสตอเบอร์รี่ หลังจากนั้นก็ยื่นถุงเค้กกลับไปให้ไลโนครี เขาก้มลงไปสำรวจถุงขนมเค้กแล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันสองคนที่กัดขนมเค้กกินกันอยู่ ตานี้บ้ารึเปล่าเนี่ย
              “^_^ หมดเลย
    ไลโนครีพูดแล้วก็มองไปที่หน้าเวที ที่ตอนนี้มีคนที่บอกให้พวกเราไปห้องประชุมได้แล้วยืนอยู่บนเวที ฉันมองไปที่กลุ่มยัยตัวเล็กที่ยังเล่นกันอย่างไม่รู้การะเทศะ
              “เธอมองอะไรหร่อไลโนครีถามฉันที่นั่งมองยัยพวกตัวเล็กไม่ละสายตา
              “ก็กลุ่มโน่นไงที่นั่งเล่นกันอยู่น่ะฉันว่าพลางพยักเพยินหน้าไปทางกลุ่มที่บอก
              “อ้อ...ฉันว่าฉันรู้จักน่ะ พวกเด็กที่มีพลังเวทสูงน่ะ แต่ชอบทำตัวโอ้ออด ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไรหรอกไลโนครีว่าแล้วก็กินขนมต่อ
              “แล้วนายรู้ชื่อคนพวกนั้นหรือเปล่าอ่ะ ฉันถามก่อนที่เขาจะกินขนมอีกคำ
              “ฉันไม่รู้หรอก แต่เดี๋ยวเราก็รู้น่ะ เพราะว่านี้เป็นการทดสอบของโรงเรียนนี้ แล้วเขาก็จะเรียกชื่อทีล่ะคน เธอก็จะรู้ไลโนครีพูด
    นี้เป็นการทดสอบของโรงเรียนหร่อลิเลยน่าพูดพลางมองหน้าของไลโนครี
    (_ _)(-_-)(_ _)(-_-)ไลโนครีพยักหน้า เขาว่าไงเราก็ว่าตามไปก่อน ตามคำสุภาษิตย์ที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหนี่ตาตาม
              อาจารณ์ที่อยู่บนเวที(ที่รู้เพราะว่าเขาแนะนำตัวนะ)ทั้งสองท่านกล่าวอะไรที่เกี่ยวกับโรงเรียนนี้ไปเรี่อยๆ ส่วนฉันที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างก็ใช้เวลาส่วนมากสำรวจห้องนี้ไปเรี่อยๆ  บนฝาพนังของห้องนี้เป็นการทำพนังเป็นเรื่องเล่าต่างๆของดาบเวทที่มีพลังทั้งด้านมืดและด้านแห่งแสงสว่าง  ฉันนั่งเล็งสายตาอ่านอย่างคล่าวๆแล้วก็ตัดสินใจว่าหันมามองเวทีดีกว่าเพราะว่าเมื่อก่อนหน้านี้ไม่นาน ทิปโฟนี่บอกว่าใกล้ได้เวลาโชว์ความสามารถพิเศษกันแล้ว
    เอาหล่ะถึงเวลาของการทดสอบแล้วล่ะทุกคน...ภายในประตูที่ลงเวทมนต์ทั้งสามประตูนี้เป็นประตูของการทดสอบอาจารณ์ที่เป็นหญิงกลางคนพูดแล้วก็กระชากผ้าคลุมที่คลุมประตูทั้งสามบานออกเผยให้เห็นประตูที่บานแรกเป็นสีขาว บานที่สองเป็นสีดำ และบานที่สามเป็นสีฟ้า ลักษณะมันเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นแต่สีประตูเท่านั้น แล้วก็เริ่มพูดต่อ
    พวกเธอทั้งหลายต้องเลือกที่จะเข้าไปข้างในผ่านทางประตูใดประตูหนึ่งเมื่อพวกเธอเข้าไปแล้ว...เธอจะเจออะไรที่น่ากลัวกว่าที่เธอจิตนาการ...แต่ถ้าเธอผ่านการทดสอบของของที่น่ากลัวข้างในไปได้แล้ว...พวกเธอจะต้องหาอัญมณีที่มีทั้งหมดสามร้อยเม็ดที่อยู่ข้างในนั้นมาในหมายเหตุนี้คือคนล่ะเม็ด...การคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนก็ง่ายมาก...ใครที่ได้อัญมณีออกมาได้คือผ่านการทดสอบและจะได้เข้าเรียนที่นี้...การแบ่งห้องเรียนก็สุดแสนจะสบาย...คัดจากสีอัญมณีที่เอาออกมา...สีแต่ล่ะสีมีสีที่ต่างกันคือ สีเขียว สีแดง สีดำ สีฟ้า สีขาว แต่ล่ะสีมีด้วยกันทั้งหมดสีล่ะหกสิบเม็ด ดั่งนั้น สีเขียว จะเป็นสีของหอลาวเดอร์ริค สีแดง หอเลนเตอร์เซน สีดำ หอไลลินล็อค สีฟ้า หอลิน โวล์เธอร์ และ สีขาว จะเป็นหอโลเกอร์น่า มีโอกาศเพียงไม่มากเพราะนักเรียนปีนี้ที่มาสมัคกันมีทั้งหมดเกือบหลักพัน...อาจารณ์พูดแล้วก็กวาดสายตามองไปรอบๆ
    เอาล่ะใครที่ฉันเรียกชื่อให้ออกมาแล้วฉันจะกลัดอัญมณีแห่งพลังชีวิตให้...ถ้าใครเข้าไปแล้วก็จำเป็นต้องใช้คาถาและดาบเพราะฉนั้นก็ต่างได้รับอัตราย...ถ้าอัญมณีนี้ตัดสินว่าพวกเธอไม่สมควรที่จะเข้าเรียนที่นี้อัญมณีที่เป็นสีดำก็จะกลายเป็นสีขาวเรื่อยๆ...จนกะทั้ง...มันกลายเป็นสีขาวหมดทั้งเม็ดเมื่อนั้น...ร่างของพวกเธอก็จะหายและกลับมาออกมานั่งอยู่ที่เดิมแห่งนี้ที่เดิมและเมื่อนั้น...พวกเธอก็เดินกลับบ้านไปได้เลยอาจารณ์เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้วอ่ะ
    คามาตัสเบอร์เลนน่า อีกหลายๆตนที่เริ่มลุกขึ้นพื่อไปบนเวที ตอนที่ถูกเรียกชื่อของตัวเอง ไปเรื้อยๆๆ ฉันนั่งจับตามองอยู่ว่าเมื่อไรชื่อของยัยนั้นจะขึ้นมาซักที (ยัยตัวเล็ก) จนกระทั่งคนที่หนึ่ง คนที่สอง ไปเรื่อยๆ เลยเหลือแต่ฉัน ทิปโฟนี่ ไลโนครี และกลุ่มยัยตัวเล็กอีก3คน
    เวนเตอร์ เออร์เก็นหน้าเสียงของอาจารณ์ที่เคารพรัก (...) ดังขึ้น เด็กหญิงที่มีผมแดงจัด ตาสีส้มอ่อนลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เวที เอาหล่ะคนเริ่มน้อยจนเหลือเพียง4คนสุดท้ายแล้ว
    รีเล็ต วิเตอร์รีแล้วยัยที่แกล้งพลักฉันก็ลุกขึ้น ยัยนี้ชื่อรีเล็ตหร่อ รีเล็ตมีผมสีเทาขุ่น ตาสีเทาออกไปทางสีดำด้วยซ้ำ ชิ!!! บังอาจมีพลังธาตุวาโยแบบฉันอีก ฉันหันมามองทิปโฟนี่ ก็เป็นอันต้องตกตะลึง เพราะว่า ยัยนี้มันยิ้มชั้วร้ายมาก
    ฮึๆๆ”<<<เสียงทิปโฟนี่หัวเราะ
    มีหัวเราะอีก ตายแล้วนี้ฉันเลือกคบเพื่อนถูกคนไหมเนี่ย น่ากลัวอ่ะ
    ทะ...ทิปโฟนี่ เธอหัวเราะอะไรอ่ะฉันเรียกทิปโฟนี่ ทิปโฟนี่หันมามองฉัน แล้วส่งยิ้มให้ (ไม่เหมือนเมื่อกี่น่ะ) ทิปโฟนี่หันไปมองยัยรีเล็ตที่กำลังเดินเข้าไปในประตูบานที่2แล้ว
    ก็ฉันคิดแผนเอาคืนยัยขี้เล็ดนั้นแล้วอ่ะดิทิปโฟนี่พูด ฉันเห็นว่านายไลโนครีหันควับมามองทันที
    ขี้เล็ด ฮ่าๆๆๆๆๆ คะ...คิดได้ไงอ่ะ ขี้เล็ด ฮ่าๆๆๆไลโนครีหัวเราะเสียงดังลั่น มือหนึ่งกุมท้อง มือหนึ่งปาดน้ำตา (ถุงขนุมนายนี้แอบเอาเท้าเขี่ยๆไปไว้ที่เก้าอี้นายซื้อที่นั่งข้างๆเมื่อกี้แล้ว) มันน่าหัวเราะมากมากขนาดนั้นเลยหร่อ
    เงียบน่าไลโนฉันดุไลโนครี นายนี้มองหน้าฉันแล้วรีบเอามือปิดปากแล้วทำตาโต เงีบยกริบเลย
    ว่ามา เธอว่าไงฉันว่าตามนั้น ฉันพูดแล้วดึงหัวนายไลโนครีมาตรงกลางๆเพื่อที่จะได้ยินแผนการด้วย (พอดีอยากให้นายนี้มีส่วนผิดเป็นเพื่อนด้วยอ่ะน่ะ)
    แผนของฉันมีอยู่ว่า..............................................@!#%” ฉันกับไลโนครีพยักหน้าตามเพื่อบอกว่าเข้าใจแล้วแล้วเราก็ยิ้มให้กันเพื่อส่งสัญญาณให้กัน
    โอเล็ค ริเวียร์เตอร์ยัยตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปบนเวที ฉันเห็นว่าก่อนที่คุณเธอจะก้าวขึ้นไปยัยนั้นแลบลิ้นให้ฉันด้วย นึกว่าฉันกลัวหร่อ
    ยัยนั้นไปแล้ว เอาหล่ะเราก็เริ่มที่จะปฏิบัติแผนการได้แล้วไลโนครีพูดแล้วลุกขึ้นเป็นจังหวะพอดีที่รายชื่อของไลโนครีดังขึ้น พวกเราเลยไม่ต้องหน้าแตก ที่อยู่ๆนายนี้ก็ลุกขึ้นมา (ถึงไม่มีใครแล้วมันก็น่าอายอยู่ดี)
    ไปได้แล้วนาย ไปประตูที่2น่ะประตูของยัยรีเล็ตน่ะทิปโฟนี่พูดแล้วก็ชี้ไปที่ประตูบานที่
    แล้วก็อย่าลืมแผนซะหล่ะทิปโฟนี่พูดย้ำ
    ลิเลียน่า เดอร์ริเกอร์น่าเสียงเรียกของอาจารณ์ดังขึ้น ฉันยืนขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่บนเวที
    ขยับเข้ามาอีกสิ ฉันไม่แขนยาวขนาดที่จะยื่นไปถึงเธอได้หรอกน่ะ อาจารณ์ที่เป็นหญิงพูดขึ้น ฉันพยักหน้าแล้วขยับเข้าไปไกลอีก อาจารณ์ยื่นเข็มกลัดที่เป็นสีทองมีจี้เป็นอัญมณีสีดำขนาดเท่ากำปั่นเด็กทารกมากลัดที่หน้าอกข้างซ้าย ทีแรกฉันนึกว่ามันจะหนักแล้วเสียอีกแต่ที่ไหนได้ ไม่รู้สึกอะไรเสียด้วยซ้ำ พอกลัดเสร็จแล้วก็พูดว่า...
    เอาชีวิตไว้ให้รอด แล้วก็สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในโรงเรียนนี้ให้ได้น่ะ...โชคดี
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×