ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    INSIDE แดจังกึม

    ลำดับตอนที่ #6 : สิ่งที่คุณยังไม่เคยรู้ 4

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 49


    ข้าวศิลา

    เกาหลีมีของกินอร่อยหลายอย่าง เช่น " ข้าวศิลา" ซึ่งแบ่งได้หลายประเภท
    ประเภทหนึ่งเรียกว่า " ข้าวลายคราม " ใช้เนื้อวัวและผักสด ใส่ในชามหินที่เผาจนร้อน
    แล้วคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน อร่อยมาก

    ชามหินชนิดนี้ทำจากถ่านหินภูเขาไฟ กล่าวกันว่าด้วยแร่ธาตุของธรรมชาติ จะทำให้ข้าวที่หุงออกมาอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

    ข้าวชนิดนี้ไม่ต้องอาศัยเครื่องเคียงใด ๆ อีก เพราะว่า ทุกอย่างได้รวมอยู่ในชามข้าวหมดแล้ว
    แค่เติมน้ำมันงาเล็กน้อย เอาช้อนคลุก ๆ ก็ทานได้

    สมัยก่อนหญิงเกาหลีมีฐานะต่ำต้อย ผู้ชายกินข้าวได้
    แต่ ผู้หญิง ต้องกินแต่ข้าวที่ไหม้เกรียม ให้เทน้ำชาลงไปแล้วขูดเอาข้าวก้นหม้อมากิน เค้าว่าบำรุงนัก

    คำศัพท์เฉพาะในราชสำนัก

    ในราชสำนักเกาหลี จะมีศัพท์เฉพาะ เช่น

    ข้าว . . . . . . . . . . เรียกว่า " ซูชิ "
    ซอส . . . . . . . . . . เรียกว่า" จอ จิ"
    หัวไชเท้าดอง . . . เรียกว่า " ซอง ซอง ยี"
    สาหร่าย . . . . . . . เรียกว่า " แฮแท "

    ถ้าจะถามพระราชาว่าเสวยข้าวมั้ย จะพูดว่า " ฝ่าบาท ซูชิมั้ยเพคะ "

    พูดถึงซูชิ ในวังจะมีห้องหุงข้าวโดยเฉพาะ เรียกว่าห้อง " ซูชิ "
    ทุกครั้งที่หุงข้าว จะใช้เตาเล็ก ๆ เผาถ่านให้แดง แล้ววางหม้อหุงข้าวใบเล็กลงไป
    ซึ่งหม้อใบนี้จะหุงข้าวได้เพียง 2 ชามเท่านั้น

    ความจริงแล้ว ข้าวที่นำขึ้นถวายก็แค่ทำพอเป็นพิธี ต้องวางให้สูง ดูเด่นเป็นสง่า
    และปกติ ชามข้าวจะใหญ่กว่าชามน้ำแกงด้วย

    มีดเงินอิ๋งจวง

    สาว ๆ สมัยนี้ถ้าจะป้องกันตัว ไม่ให้ถูกลวนลาม เราอาจจะมีสเปรย์พริกไทย เครื่องช็อตไฟฟ้า

    แต่สำหรับเกาหลีนั้น มีของอย่างหนึ่งเรียกว่า "มีดเงินอิ๋งจวง"....ซึ่งมี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ประมาณ 15
    เซนติเมตร ขนาดเล็ก 9 เซนติเมตร ผลิตจากเงินและเหล็กผสมผสาน ข้างในมีตะเกียบเล็ก ๆ หนึ่งคู่
    เผื่อกินข้าวอยู่ข้างนอกจะได้มีพร้อมทุกเวลา อีกทั้งยังใช้ทดสอบว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่....นอกจาก
    เป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งแล้ว สำคัญคือมีไว้ป้องกันตัว ถึงคราวคับขันจริง ๆ พวกเธอจะใช้มีดฆ่าตัว
    ตาย ใช้ชีวิต ป้องกันศักดิ์ศรีตัวเองไว้

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    มีดเงินอิ๋งจวง

    สาว ๆ สมัยนี้ถ้าจะป้องกันตัว ไม่ให้ถูกลวนลาม เราอาจจะมีสเปรย์พริกไทย เครื่องช็อตไฟฟ้า

    แต่สำหรับเกาหลีนั้น มีของอย่างหนึ่งเรียกว่า "มีดเงินอิ๋งจวง"....ซึ่งมี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ประมาณ 15
    เซนติเมตร ขนาดเล็ก 9 เซนติเมตร ผลิตจากเงินและเหล็กผสมผสาน ข้างในมีตะเกียบเล็ก ๆ หนึ่งคู่
    เผื่อกินข้าวอยู่ข้างนอกจะได้มีพร้อมทุกเวลา อีกทั้งยังใช้ทดสอบว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่....นอกจาก
    เป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งแล้ว สำคัญคือมีไว้ป้องกันตัว ถึงคราวคับขันจริง ๆ พวกเธอจะใช้มีดฆ่าตัว
    ตาย ใช้ชีวิต ป้องกันศักดิ์ศรีตัวเองไว้

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    คำศัพท์เฉพาะในราชสำนัก

    ในราชสำนักเกาหลี จะมีศัพท์เฉพาะ เช่น

    ข้าว . . . . . . . . . . เรียกว่า " ซูชิ "
    ซอส . . . . . . . . . . เรียกว่า" จอ จิ"
    หัวไชเท้าดอง . . . เรียกว่า " ซอง ซอง ยี"
    สาหร่าย . . . . . . . เรียกว่า " แฮแท "

    ถ้าจะถามพระราชาว่าเสวยข้าวมั้ย จะพูดว่า " ฝ่าบาท ซูชิมั้ยเพคะ "

    พูดถึงซูชิ ในวังจะมีห้องหุงข้าวโดยเฉพาะ เรียกว่าห้อง " ซูชิ "
    ทุกครั้งที่หุงข้าว จะใช้เตาเล็ก ๆ เผาถ่านให้แดง แล้ววางหม้อหุงข้าวใบเล็กลงไป
    ซึ่งหม้อใบนี้จะหุงข้าวได้เพียง 2 ชามเท่านั้น

    ความจริงแล้ว ข้าวที่นำขึ้นถวายก็แค่ทำพอเป็นพิธี ต้องวางให้สูง ดูเด่นเป็นสง่า
    และปกติ ชามข้าวจะใหญ่กว่าชามน้ำแกงด้วย

    มีดเงินอิ๋งจวง

    สาว ๆ สมัยนี้ถ้าจะป้องกันตัว ไม่ให้ถูกลวนลาม เราอาจจะมีสเปรย์พริกไทย เครื่องช็อตไฟฟ้า

    แต่สำหรับเกาหลีนั้น มีของอย่างหนึ่งเรียกว่า "มีดเงินอิ๋งจวง"....ซึ่งมี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ประมาณ 15
    เซนติเมตร ขนาดเล็ก 9 เซนติเมตร ผลิตจากเงินและเหล็กผสมผสาน ข้างในมีตะเกียบเล็ก ๆ หนึ่งคู่
    เผื่อกินข้าวอยู่ข้างนอกจะได้มีพร้อมทุกเวลา อีกทั้งยังใช้ทดสอบว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่....นอกจาก
    เป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งแล้ว สำคัญคือมีไว้ป้องกันตัว ถึงคราวคับขันจริง ๆ พวกเธอจะใช้มีดฆ่าตัว
    ตาย ใช้ชีวิต ป้องกันศักดิ์ศรีตัวเองไว้

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    มีดเงินอิ๋งจวง

    สาว ๆ สมัยนี้ถ้าจะป้องกันตัว ไม่ให้ถูกลวนลาม เราอาจจะมีสเปรย์พริกไทย เครื่องช็อตไฟฟ้า

    แต่สำหรับเกาหลีนั้น มีของอย่างหนึ่งเรียกว่า "มีดเงินอิ๋งจวง"....ซึ่งมี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ประมาณ 15
    เซนติเมตร ขนาดเล็ก 9 เซนติเมตร ผลิตจากเงินและเหล็กผสมผสาน ข้างในมีตะเกียบเล็ก ๆ หนึ่งคู่
    เผื่อกินข้าวอยู่ข้างนอกจะได้มีพร้อมทุกเวลา อีกทั้งยังใช้ทดสอบว่าอาหารนั้นมีพิษหรือไม่....นอกจาก
    เป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งแล้ว สำคัญคือมีไว้ป้องกันตัว ถึงคราวคับขันจริง ๆ พวกเธอจะใช้มีดฆ่าตัว
    ตาย ใช้ชีวิต ป้องกันศักดิ์ศรีตัวเองไว้

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ประเภทของ . . . ซังกุง

    นางกำนัลของเกาหลีมีแบ่งหลายระดับ ระดับสูงสุดคือ " ซังกุงปกครอง " มีหน้าที่ดูแลตรวจตราทุกอย่าง
    ในวังหลวง ถัดมาก็คือ " รองซังกุงปกครอง " " ซังกุงรับบัญชา " " ซังกุงพี่เลี้ยง " " ซังกุงสาวใช้ " และ
    ทุกแผนกก็จะมีหัวหน้าซังกุงอีกคนคอยกำกับดูแล ในวังของเกาหลี,มีนางกำนัลประมาณ 600 คน

    การจะเป็นซังกุงได้นั้น นอกจากมีประสบการณ์และผลงานโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
    เพราะพวกเธอมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่พระราชา ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องออกจากวัง ให้คนอื่นมาเป็น
    แทน ผู้ที่เป็นซังกุงในระดับสูง แม้ป่วยก็บอกใครไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องให้คนสนิท หรือญาติพี่น้องมาทำ
    งานแทน ถึงรักษาอำนาจของตนให้คงอยู่ไว้ได้

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    สมุนไพร

    วิชาแพทย์ของเกาหลีก็ต้องพึ่งการแพทย์ของจีน ทำให้ยาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีด้วย แต่โดยสภาพภูมิ
    ประเทศของเกาหลีเอง ก็เหมาะสำหรับปลุกสมุนไพรหลายอย่าง เช่นโสมกับต้น "ตงฉง" กลายเป็นสมุน
    ไพรล้ำค่า ที่เกาหลีมักถวายเป็นเครื่องบรรณาการแด่เมืองจีน

    แต่สูตรยาจีนมีมากมาย บางชนิดไม่มีในเกาหลี บางครั้งพระราชาเกาหลีก็ต้องส่งคนไปภาคกลาง สรรหา
    เมล็ดพันธุ์ของสมุนไพร เพื่อนำกลับมาปลูกเอง ถ้าปลูกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องอาศัยพ่อค้านำเข้า ทำให้เรียก
    ราคาได้สูง สร้างกำรี้กำไรไปตามกัน

    แต่ ณ. ปัจจุบันนี้ เกาหลีส่งออกยาจีนเป็นล่ำเป็นสัน ทุกปีจะมีจัดนิทรรศการสมุนไพรที่เมือง "แดจอน"
    และ "แดคู"

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ห้องอุปกรณ์

    ถ้าใครเคยมาทานอาหารที่ประเทศเกาหลี จะพบเครื่องใช้ที่ทำจากทอง หรือไม่ก็เงินเป็นส่วนใหญ่ ที่แท้
    ค่านิยมแบบนี้มาจากในวังโบราณนั่นเอง

    สมัยก่อนในวังเกาหลี จะมีหน่วยงานเฉพาะดูแลพวกเครื่องทอง เครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ เรียกว่า
    " ห้องอุปกรณ์ " ที่นิยมใช้เครื่องเงินในการกินข้าว เพื่อป้องกันการวางยาพิษ เพราะพวกเขายังไม่มี
    ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารมากนัก โดยเฉพาะด้านเชื้อโรคต่าง ๆ บางส่วนโดนเครื่องเงินเข้าจะกลาย
    เป็นสีดำ จึงกลายเป็นความนิยมที่จะทานข้าวด้วยช้อนหรือตะเกียบที่ทำจากเงิน แต่ยาพิษมีตั้งร้อยแปด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×