คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Eventing
เครดิต:http://www.vrhorseman.com/2007/article2.html
อีเว้นติ้ง Eventing
เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจและมีโอกาสแก้ตัวได้ในวันต่อไป เพราะกีฬาประเภทนี้ต้องทดสอบถึง 3 แบบ คือ
ทดสอบด้วย
1. ศิลปะการบังคับม้า
2. ข้ามภูมิประเทศ
3. กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง
แล้ว เอาคะแนนทั้งหมดมารวมกัน ใครเสียคะแนนน้อยที่สุดคนนั้นเป็นผู้ชนะ ในการแข่งขันวันแรกจะเป็นการแข่งขันศิลปะการบังคับม้า ซึ่งเป็นกากรแข่งขันที่ไม่หนักมากนัก แต่ผู้ขี่ก็ต้องพยายามเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นการเก็บคะแนนสะสมไว้ในวันแรก ในวันที่สองของการแข่งขันจะเป็น การแข่งขันข้ามภูมิประเทศ เป็นการแข่งขันความเร็ว และความทรหด โดยแบ่งอกเป็น 4 phase คือ
Phase A : Roads and Tracks
ซึ่ง ผู้แข่งขันจะต้องขี่ม้าไปตามเส้นทางที่กำหนดให้ในภูมิประเทศเป็นระยะทาง ประมาณ 3-6 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับเกรดของผู้แข่งขัน ผู้ขี่จะต้องกะความเร็วในการเดินทางให้ได้ประมาณกิโลเมตร ใน 4 นาที ซึ่งผู้ขี่สามารถใช้ฝีเท้าวิ่งเรียบหรือโขยกสั้นก็ได้ แต่จะต้องระลึกไว้เสมอว่ายังมีการแข่งขันรออยู่อีก 3 Phase
Phase B : Steeplechase
เป็น การแข่งขันในลู่วิ่ง ซึ่งมีเครื่องกีดขวางตั้งไว้เป็นระยะประมาณ 6-8 เครื่อง ซึ่งสิ่งที่สำคัญของ Phase นี้ คือ ผู้แข่งขันจะต้องผ่าน Phase ให้ได้ในเวลาที่กำหนด คือ 640 เมตร / นาที (เร็วมาก)
Phase C : Roads and Tracks อีกครั้ง
ซึ่ง ใน Phase นี้จะมีระยะทางยาวกว่าใน Phase A เพื่อเป็นการผ่อนคลายม้า หลังจากวิ่งเร็วมากใน Phase B ปกติระยะทางประมาณ 5-8 กิโลเมตร ในความเร็วที่กำหนดให้เท่ากับ Phase A
Phase D : ข้ามภูมิประเทศ
การ ขี่ม้าวิบากในภูมิประเทศมีระยะทางประมาณ 4-8 กิโลเมตร จะมีเครื่องกีดขวางตามธรรมชาติเป็นระยะ ตามเส้นทางที่ผู้ออกแบบสนามได้กำหนดไว้ จำนวนเครื่องกีดขวางมีประมาณ 30 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับเกรดของการแข่งขัน ด้วยความเร็ว 520-570 เมตร/นาที
หลัง จากผ่านการแข่งขันในภูมิประเทศอันทรหดในระยะทางประมาณไม่ต่ำกว่า 20-30 กิโลเมตร ในวันต่อไปจะเป็นการแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ซึ่งก่อนจะแข่งขันในแบบทดสอบนี้ได้ ม้าต้องได้รับการตรวจสุขภาพจากกรรมการตัดสินเสียก่อน เพื่อป้องกันการทารุณสัตว์ เพราะการแข่งขันในภูมิประเทศโอกาสที่ม้าจะได้รับบาดเจ็บมีสูงกว่า การแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เมื่อรวมเอาคะแนนทั้ง 3 แบบทดสอบแล้วผู้ที่มีคะแนนเสียน้อยที่สุดคือ ผู้ชนะเลิศ
ในปัจจุบันกีฬา Eventing แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1. 3 Day Event ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว
2. 1 Day Event เหมือนกันทั้ง 3 แบบทดสอบ แตกต่างกันตรงที่การทดสอบในภูมิประเทศจะแข่งขันเฉพาะ Phase D เท่านั้น A, B, C ตัดออก การแข่งขันแบบนี้จะทำให้ลดการบอบช้ำของม้าไปได้มาก และสามารถทำให้การแข่งขันได้บ่อยขึ้น
เครดิต:http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=130&post_id=51844
ความคิดเห็น