ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the heart of the forest ดวงใจแห่งผืนป่า (ฟรีจนจบค่อยติดเหรียญ)

    ลำดับตอนที่ #6 : รอยจูบ 5 สัญญาได้หรือไม่?

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 64


    ฟ้านั่งนิ่งไม่ไหวติง เธอช็อกกับคำตอบที่ได้ยินสักพัก ก่อนจะอ้าปากถามต่อแต่ถูกสมิงขัดไว้ สาวเจ้าต้องกลืนคำถามมากมายกลับลงท้องไป

    “อย่าถามซักไซ้ให้ข้ารำคาญ มิเช่นนั้นจะทิ้งไว้กลางป่าเสีย รีบกินข้าวประเดี๋ยวข้าจักพาเจ้ากลับไปกระท่อม ให้เจ้าพักผ่อน เจ้าคงไม่คิดจะนอนกลางป่าหรอกหนา” สมิงเลิกคิ้วขึ้น

    “แล้วทำไมไม่พาหนูไปหาผู้หญิงที่ชื่อใหม่เลยละคะ” ฟ้าถามไปพร้อมหยิบข้าวกับปลาเข้าปากไปด้วย เคี้ยวแก้มตุ่ย เสือใหญ่จ้องมองสักพักแล้วตอบ

    “เส้นทางออกป่ามันไกล ตอนนี้ตัวเจ้าก็ยังบาดเจ็บ ให้อาการดีขึ้นก่อนค่อยไป”

    “แต่หนูอยู่ได้อีกแค่ 2 วัน เองนะคะ หนูต้องรีบกลับบ้าน ถ้าคุณแม่รู้เรื่องทั้งหมดท่านไม่ยอมให้หนูออกเที่ยวคนเดียวเองอีกแน่” แค่ฟ้านึกถึงตอนที่คุณบงกชแม่เธอกำลังดุเธออยู่ สาวเจ้าก็ทำหน้าอ่อนโรย จนสมิงหลุดขำเล็กๆ ออกมา

    “หึ! นี้เจ้ากลัวแค่ที่จะมิได้เที่ยวอีกอย่างนั้นรึ”

    “ถ้าเช่นนั้นก็รีบรักษาตัว หากวันรุ่งเจ้าอาการดีขึ้นข้าจักพาเจ้าไปหาอีใหม่”

    “ค่ะ” ฟ้ารับคำเสียงใส ตอนนี้เธอกินข้าวเสร็จแล้ว ก็ล้วงกระเป๋าหามือถือรุ่นราคากลางๆ เคสสีดำที่ไม่ได้เน้นความสวยงามสักเท่าไหร่แต่เน้นความปลอดภัยของจอมากกว่า ฟ้าเปิดมือถือขึ้นเช็กดูสัญญาณโทรศัพท์ แต่ไม่มีเลยสักขีด

    “ไม่มีสัญญาณเลย เฮ้อ…ก็ในป่านินะ”

    “ลุกขึ้น ข้าจะพาเจ้าไปกระท่อมข้า ไปไม่ไกลจากที่นี้นัก” สมิงพูดเสร็จก็ลุกขึ้นหันหลังเดินนำไปก่อน

    ฟ้าลุกขึ้นตามแต่ยังคงลังเลที่จะตามเขาไป เหตุการณ์เมื่อวานยังคงติดอยู่ในหัวฟ้า

    “ในป่ามีสิงสาราสัตว์มากมาย แถวนี้เองก็เสือชุมอยู่มิใช่น้อย หากเจ้ามิตามข้ามาประเดี๋ยว…โดนเสือจับกินจะหาว่าข้ามิดูดำดูดีไม่ได้หนา ยิ่งรูปร่างเช่นเจ้าแล้ว ยิ่งเป็นที่ถูกใจของเสือแถวนี้แล” สมิงหันหลังอมยิ้มเล็กๆ ฟ้าที่ได้ยินคำว่า ‘เสือ’ ก็รีบจ้ำอ้าวตามสมิงไป

    “คุณยังไม่ได้บอกชื่อกับหนูเลยนะคะ” หลังจากที่เดินมาสักพัก ฟ้าเงยหน้าขึ้นไปถามชายร่างใหญ่ ตอนนี้พวกเขาทั้งสองเดินมาได้จวนจะถึงกระท่อมแล้ว ป่าที่รกทึบตอนนี้เริ่มมีพื้นที่โล่งอยู่บ้าง แต่ยังมีต้นไม้อยู่รำไร

    “แล้วแต่เจ้าจะเรียกข้าเถิด เมื่อนานมาแล้วชาวบ้านแถวนี้เรียกข้า ‘สมิง’ ” สมิงพูดเสียงเรียบโดยไม่ได้หันมามองฟ้าเลยแม้แต่น้อย สาวร่างอวบทีได้ยินคำว่า ‘สมิง’ ก็ถึงกับชะงัก

    “หมายถึง…สมิง..ที่เขา..ว่ากิ”

    “ข้าไม่กระทำเช่นนั้น”

    “เฮ้อ…ค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ เมื่อกี้ใจตกไปที่ตาตุ่มเลยคะ”

    “เจ้านี้กระไร เชื่อคนง่ายเสียจริง”

    “กะ…กะ…ก็ช่วยไม่ได้นิค่ะ ตอนนี้คนที่ฟ้าพึ่งพาได้มีแต่คุณอะคะ”

    “ฟ้าเรียกคุณว่าปู่เสือได้ไหม ถ้าคุณเป็นสมิงจริงๆ ดูคุณจะอยู่มานานแล้ว” ฟ้าไม่กล้าที่จะเรียกว่าสมิงตรงๆ มันดูน่ากลัวไปหน่อยสำหรับเธอ

    “ไม่ได้” สมิงปฏิเสธทันควัน

    “อะ..อะไรคะ ไหนว่าแล้วแต่จะเรียกไงค่ะ งั้นเป็นลุงเสือ” ฟ้าเริ่มบ่นพึมพำ

    “ไม่” สมิงปฏิเสธเสียงเรียบอีก

    “แล้วจะให้เรียกว่าอะไรละคะ” ฟ้าเริ่มโวยวาย

    “พี่เสือ….ได้ไหมคะ!” เธอถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    “ดี” คราวนี้สมิงไม่ปฏิเสธแล้ว และดูจะพอใจกับคำว่า ‘พี่’เป็นอย่างมาก ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉย ฟ้าได้แต่งงกับความเอาแต่ใจของเสือเฒ่าตัวนี้

    “ถึงแล้ว” เสียงเสือใหญ่บอกฟ้า

     

    กระท่อมไม้ขนาด1ห้องยกสูง หลังคากระท่อมถูกสานจากใบจาก ตัวกระท่อมและระเบียงทำจากไม้ไผ่ ริมระเบียงไม้ไผ่มีผ้าขาวม้าผูกเป็นเป้นอน ทางขึ้นกระท่อมมีโอ่งดินเผาสำหรับล้างเท้าขึ้นเรือน รอบกระท่อมมีข้าวของแขวนไว้บางประปราย ข้างๆ มีที่ตากสมุนไพรไว้ ติดๆ กันมีราวไม้ไผ่สำหรับตากผ้าขนาดไม่ใหญ่นัก โรงครัวหลังเล็กอยู่ไม่ไกลจากราวตากสมุนไพร เป็นโรงครัวที่ทำจากไม่ไผ่เช่นกัน ด้านหลังกระท่อมมีสายน้ำเล็กๆ ที่จะลงไปอาบน้ำได้

    “ที่นี้หรอคะ สวยจังอย่างกะละครย้อนยุคเลยคะ” ฟ้าดูจะกระดี๊กระด๋าเป็นพิเศษ

    “อย่ากระโดดกระเด้งให้มาก ไปพักผ่อนเสีย ตกเย็นก็ออกมาชำระร่างกายที่ริมธาร ประเดี๋ยวข้าจักไปหาของป่าก่อน” เขากล่าวจบก็เดินมาล้างเท้าเดินขึ้นกระท่อม เปิดประตูออก ฟ้ารีบเดินตามขึ้นมา

    “ข้าน่าจะกลับเย็น เจ้ารอข้ากลับก่อน ค่อยออกมาอาบน้ำ” สมิงเดินหันหลังออกกระท่อมไป หายลับเข้าไปในป่า ไม่ให้เด็กสาวอ้าปากทันถามอะไร

    “นี้จะใช่กระท่อมหลังเดียวกับที่เจ้าพวกนั้นพูดไหมนะ” ฟ้าสงสัยนิดหน่อยก่อนหันหลังเดินเข้ามาสำรวจในกระท่อม

    ทันทีที่ฟ้าหันหน้าเข้ากระท่อมฝุ่นฟุ้งกระจายทั่วห้อง สภาพภายในไม่ต่างจากกระท่อมที่ไม่ใช้งานมาหลายปี แตกต่างจากภายนอกที่ได้รับการปัดกวาดเช็ดถู โต๊ะไม้ไผ่ฝุ่นเขรอะที่มีตะเกียงเล็กวางไว้ตั้งอยู่สุดมุมของห้อง ถัดมาทางซ้ายมีมุ้งแขวนไว้ ด้านล่างมีเบาะนอน หมอน และผ้าห่มเก่าๆ ที่ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ฝั่งตรงข้ามกันมีหน้าต่างที่ถูกปิดไว้ ที่พื้นห้องของฝั่งเดียวกันมีหีบใส่ผ้าขนาดไม่ใหญ่มากสองหีบ

    “ฝุ่นขนาดนี้อย่างว่าแต่นอนเลย แค่ก้าวขาไปเหยียบยังไม่กล้าเลย”

    “พี่เสือเขานอนในที่ฝุ่นเยอะขนาดนี้เลย ข้างนอกก็ดูสะอาดดี แต่ทำไมข้างในมันสกปรกขนาดนี้เนี่ย” ฟ้าตัดสินใจวางกระเป๋าแล้วเดินมาข้างระเบียงแล้วหยิบไม้กวาดด้ามไม้ไผ่ และเดินกลับมาหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองมาทำเป็นผ้าถูพื้น เพราะสาวเจ้าไม่กล้าไปหยิบจับอะไรซี้ซั้วไปมากกว่านี้ แล้วก็บรรจงทำความสะอาดภายในกระท่อมตลอดทั้งบ่าย

    ตะวันเริ่มตกดิน ท้องสีน้ำเงินถูกแต่งแต้มด้วยสีส้ม นกทั้งหลายพากันกับเข้ารัง ร่างสูงใหญ่กำยำท่อนบนเปลือยเปล่าท่อนล่างนุงผ้าขาวม้า ปล่อยผมยาวสีดำสนิท เดินทางกลับมากระท่อมหลังน้อยของตน ก็พบกับสิ่งผิดปกติ ที่นอนหมอนมุ้งของเขาถูกลากออกมาตากที่ริมระเบียง หน้าต่างกระท่อมถูกเปิดออกรับลมจากภายนอก เขาเดินมาสำรวจดูภายในห้องก็ถูกปัดกวาดเช็ดถูกจนสะอาด ไม่มีฝุ่นมากวนจมูกสมิงเหมือนก่อน เมื่อก้มลงมองในจุดที่เคยวางมุ้งและเบาะนอน ก็พบร่างอวบนอนคดอยู่โดยมีกระเป๋าคู่ใจรองเป็นหมอนนอน สมิงยิ้มเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินตรงไปครัว ในมือถือวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นวันนี้

    ควันไฟพวยพุ่งจากเตาอั้งโล่ สมิงหย่อนมันมือเสือลงในหม้อดินเผา กลิ่นของแกงเลียงลอยลมโชยมาแตะจมูกสาวน้อยที่นอนในกระท่อมจนต้องลุกมาดู ฟ้าเปิดประตูกระท่อมก้าวเท้าเดินไปโรงครัวหลังเล็ก

    “พี่เสือทำอะไรกินอะคะ”

    “ตื่นแล้วหรือ รีบไปอาบน้ำก่อน ประเดี๋ยวมืดค่ำจักไม่สบาย”

    “เอ่อออ…”

    “เอาผ้าขาวม้าของข้าที่อยู่ในหีบห่มตัวเจ้าไป ที่นี้ในป่ามิมีผู้ใดมาแอบดูเจ้าดอก”

    “ก็..มีพี่เสือไงคะ”

    “ข้าไม่ดูเจ้าให้เสียลูกตาข้า” สมิงพูดไม่หันมามองหน้าฟ้าสักนิด สาวเจ้าทำหน้ามุ่ยไม่หยุด

    “หรือจักให้ข้าค่อยเช็ดตัวเจ้าเยี่ยงคืนวาน” เขาหันมามองหน้าสาวน้อยที่หน้าแดงก่ำก่อนจะวิ่งหนีเข้ากระท่อมไป

     

    ฟ้าถอดเสื้อผ้าชุดเดิมที่เปื้อนดินออก แล้วนุ้งผ้าขาวม้าระดับอก แล้วห่มทับด้วยผ้าขนหนูที่นำติดกระเป๋ามาด้วย แล้วรวบผมเป็นมวยแบบทรงดังโงะ ทรงผมประจำตัวเธอ ฟ้าเอาอุปกรณ์อาบน้ำเธอใส่ในขันสำริดใบเก่าที่สมิงเอามาวางไว้ที่โต๊ะไม้ไผ่ตอนเธอหลับ แล้วถือมันไปที่ริมธารหลังกระท่อม

    เธอก้าวเท้าลงในน้ำเย็นที่มีความสูงของน้ำระดับน่องเธอ ฟ้าย่อลงวักน้ำขึ้นมาแตะตัวให้รู้สึกถึงความสดชื่น หลังจากเหตุการณ์ย่ำแย่การเยียวยาด้วยการอาบน้ำเย็นๆ เช่นนี้ดูท่าจะเป็นอะไรที่วิเศษอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเริ่มบรรจงวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงริมธารแล้วเอาขันสำริดตักน้ำสาดลงบนตัวสองสามขัน ก่อนหันไปหยิบสบู่เหลวกลิ่นน้ำนมข้าวขวดเล็กที่แบ่งมาจากขวดใหญ่แล้วลูบไล้ไปทั่วตัว จากนั้นก็ตักน้ำสาดชะล้างสบู่ออกอีกสามสี่ขัน จึงเริ่มทำความสะอาดใบหน้าต่อ ตอนนั้นเองสมิงได้กลิ่นที่ไม่ชอบมาพากลจากธารน้ำ จนต้องลุกจากครัวมาดู จังหวะนั้นเองที่ฟ้าล้างหน้าเสร็จและเงยขึ้น พบกับงูจงอ่างขนาดใหญ่ชูคออยู่อีกฝั่งของธารน้ำ ฟ้าตกใจคลานถอยจนชนเข้ากับร่างใหญ่ มือหนาโอบกอดร่างอวบจากข้างหลัง

    “อยู่นิ่งๆ เสีย” สมิงเอามืออีกข้างกำแล้วไว้ที่ปากแล้วท่องมนต์บางอย่าง เป่าใส่งู

    “ไปซะ! นี้ไม่ใช่ที่ของมึง!” ชายร่างกำยำตวาดเสียงดุใส่งูใหญ่ ก่อนมันเลื้อยหายไปในพงหญ้า เขาก้มลงมองหญิงสาวในอ้อมกอด แต่มีอีกลิ่นหนึ่งสวนจมูกเขาขึ้นมา กลิ่นของน้ำนมข้าวที่มาจากตัวฟ้า มันหอมจนเสือใหญ่หัวใจอยู่ไม่สุข

    “ขะ..ขอบคุณนะคะ พี่เสือ” ฟ้าเงยหน้าขึ้นสบตากับชายด้านหลัง

    “พี่เสือ ปล่อยได้แล้วมั้งคะ ฟ้าจะไปแต่งตัว”

    “อือ แต่งตัวเสร็จก็ไปช่วยข้ายกอาหารที่ครัว” สมิงพูดเสร็จก็ปล่อย แล้วหันหลังกลับไปที่ครัว ส่วนฟ้านั่งหน้าแดงอยู่สักพักก็เก็บอุปกรณ์กลับเข้ากระท่อมไปแต่งตัว เธอใส่ชุดนอนแบบสมัยใหม่ เสื้อติดกระดุมผ้าซาติน กางเกงยางยืดขาสั้น แล้วเดินไปที่โรงครัว

    มื้อเย็นวันนี้ไม่ได้มีอะไรเยอะนักมีเพียงแกงเลียง ปลาย่าง และข้าวสวย เนื่องจากในกระท่อมมีแค่ฟ้ากับสมิงสองคน อาหารทั้งหมดถูกยกมาตั้งที่ริมระเบียงของกระท่อมไม้ไผ่

    “เช็ดมือเสร็จก็กินเลย” สมิงจบแล้วยืนผ้าสะอาดหนึ่งผืนให้ฟ้าเช็ดมือ เธอทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะสังเกตว่า ในจานเธอนั้นไม่ช้อน แต่มีช้อนกลางสำหรับตักแกงเลียง

    “พี่เสือค่ะ ไม่มีช้อนหรอคะ”

    “ไม่มี” สมิงเริ่มเอาเปิปข้าวเข้าปาก

    “ค่ะ” ฟ้าทำเสียงอ่อน

     

    พวกเขาทั้งนั่งกินข้าวกันอยู่อย่างเงียบๆ จนสมิงที่ทานเสร็จก่อนลุกเดินกลับไปที่ครัว แล้วกลับมาพร้อมขันน้ำและถ้วยยาหม้อ

    “กินเสร็จแล้วหรือ”

    “ค่ะ หมดแล้วแกงเลียงหวานมากๆ เลยค่ะแต่เสียดายไม่มีกุ้งใส่เลยมีแต่ผัก” ฟ้าพูดพร้อมโชว์ถ้วยแกงเลียงที่เหลือแต่ความว่างเปล่า สมิงเหลือบมองเล็กน้อย

    “ดี นี้!ล้างมือเสร็จก็กินยาต่อซะ”

     

    ฟ้ารับไว้พร้อมเอามือจุ่มชำระล้างคราบอาหารให้สะอาด แล้วเงยหน้าทำเสียงออดอ้อน

     

    “ไม่กินได้ไหมคะ ตอนนี้ฟ้าก็ดีขึ้นแล้วนะคะ” ทำหน้าตาอ้อนวอนชายหนุ่ม

    “ไม่ได้ วันพรุ่งตอนเช้าเจ้าก็จะต้องกิน ไม่เช่นนั้น ข้าจะไม่ให้เจ้ากลับ” หนุ่มกำยำกำชับเสียงแข็ง ฟ้าได้แต่ทำหน้าซึมแล้วรับยาจากมือหนา เธอกลั้นใจสักพักก่อนกลืนที่รวดเดียวหมด จากนั้นหันไปหยิบขันน้ำสำหรับดื่มมาบ้วนล้างปาก แล้ววิ่งไปกลับเข้ากระท่อม ค้นกระเป๋าหาลูกอมที่เอาติดมาด้วยยัดเข้าปาก ก่อนนึกถึงของสำคัญที่น้องสาวให้ไว้ เธอคว้านหาสร้อยคอไปทั้งกระเป๋าก็ไม่เจอ สมิงที่จ้องมองสักพักก่อนเอ่อถามลองเชิง

    “หาสิ่งใดอยู่”

    “คือ….เมื่อตอนที่หนูหลับอยู่พี่เสือ…เห็นสร้อยที่มีจี้ขนนกสีทองไหมคะ”

    “ไม่” สมิงปฏิเสธเสียงเรียบ

    “ค่ะ…” ฟ้าทำหน้าเศร้าเมื่อรู้ว่าตัวเองทำของสำคัญที่น้องสาวให้มาหาย

    “มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึ” ชายหนุ่มยืนถามอยู่หน้าประตูห้อง

    “ค่ะ สำคัญมาก..”

    สมิงเปลี่ยนอิริยาบถมากอดอก แอบกำหมัดแน่นไว้

    “น้องสาวฟ้าเป็นคนให้ไว้ เพราะเป็นห่วงฟ้าแท้ๆ แต่ฟ้ากลับทำหาย กลับไปจะเล่าให้ตันหยงฟังยังไง…”

    ฟ้าทำหน้าเศร้า พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ผิดกับสมิงที่คลายหมัดในมือและความกังวลใจลง แถมหัวใจยังเต้นจังหวะเร็วขึ้น

    “หายไปแล้วก็หายไป คืนนี้เจ้าต้องนอนแล้ว”

    ฟ้าที่นึกขึ้นได้ว่า กระท่อมหลังนี้มีเพียงห้องเดียว นั้นไม่หมายความว่าเธอต้องนอนร่วมห้องกันเสือใหญ่หรือ

    “คือ..ว่ามันมีอยู่ห้องเดียว ถ้าฟ้านอนห้องนี้แล้วพี่เสือ…..”

    “ข้าจะนอนที่ริมระเบียง”

    “จะดีหรอคะ กลางคืนมันมีน้ำค้างลงเยอะไม่ใช่หรอคะ ไหนจะยุ่งป่าอีก” ฟ้าถามอย่างสงสัย

    “หรือจะให้ข้านอนห้องเดียวกันกับเจ้าละ” เขาเลิกคิ้วมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้อง

    “เอิ่ม..เออ..คือ..”

    “อ้ำอึ้งอยู่ได้ อะไรปิดปากเจ้าไว้รึไร!?”

    “พี่เสือ!!!” ฟ้าทำหน้าคาดโทษหนุ่มปากร้าย

    “ข้านอนริมระเบียงเป็นปกติอยู่แล้ว เจ้าอย่าได้เอามาใส่ใจเลย”

    ฟ้าพยักหน้ารับอย่างเป็นกังวล

    “รีบนอนเถิด วันรุ่งต้องออกแต่ไก่โห่”

    “ค่ะ พี่เสือ”

    สมิงเอื้อมมือจะปิดไม้ไผ่

    “เอ่อ..ขอบคุณนะคะ ฝันดีค่ะ”

    “อือ”

    จากนั้นประตูก็ปิดสนิท

    ‘พี่เสือไม่เห็นดูเหมือนภูตผีอะไรพวกนั้นเลยนิ ก็กินข้าวกินปลาเหมือนเรา แต่ทำไมถึงบอกว่าชาวบ้านเรียกเขาสมิงละ แล้วไหนจะศาลไม้เก่าที่บอกว่าเป็นของตัวเองอีก เราจะโดนหลอกอีกแล้วหรอ คำพูดคำจาที่โบราณๆ หรือว่าคิดไปเอง สมิงอาจจะเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกเฉยๆ ส่วนศาลอาจจะแค่มีหน้าที่ค่อยดูแลเฉยๆ แต่สีตาพี่เสือก็ดูจะไม่ใช่คอนเทคเลนส์ด้วยหรือว่าพี่เสือมีเชื้อชาวต่างชาตินะ’ ฟ้านั่งเกาหัวไปมา ก่อนจะล้มตัวลงนอนข่มตาให้หลับ เพราะคิดไปก็แต่จะทำให้ปวดหัวเปล่าๆ

    ด้านนอกห้องไม้ไผ่ที่ฟ้านอนอยู่ ชายร่างใหญ่เอนตัวนอนลงบนเป้ผ้าขาวม้าในตำแหน่งประจำของเขา ดวงตาสีฟ้าอมเทาจับจ้องสร้อยคอชุบเงินตัวจี้เป็นขนนกสีทองอันเล็ก ก่อนปล่อยยิ้มเล็กๆ ออกมา

     

    “แม้วันนี้พ่อเสือใหญ่ดูยิ้มเล็กยิ้มน้อย มีความสุขใดรึ มาแบ่งปันกันหน่อยดีหรือไม่”

    เสียงของตะเคียนสาวคนสนิท ดังมาจากทางด้านข้างของชายที่นอนเป้ สมิงหุบยิ้มแปลเปลี่ยนสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม

    “นางพิมพ์วิภา ที่ข้าให้เจ้ามาวันนี้เพราะจะให้ไปบอกอีใหม่คนโปรดของเจ้าว่า วันรุ่งข้าจะพาคนไปบ้านมัน ให้นางพักก่อนคืนหนึ่ง แล้วค่อยให้อีใหม่พานางกลับบ้าน” สมิงพูดเสียงเรียบ

    “เอ๊ะ! หรือว่า….” นางพิมพ์วิภาทำหน้าสงสัย

    “ใช่ หญิงคนเมื่อวานที่ถูกเพื่อนไอ้ทีมมันอุ้มเข้าป่ามา”

    “ปกติไม่ยักกะเห็นเจ้าช่วยเหลือมนุษย์ถึงเพียงนี้”

    “ต่อให้มีคนมาตายหน้าบ้านเจ้าก็ไม่ยักจะเหลียวแล หรือหมู่นี้ตัวเจ้าจะมีอาการหลงผิดเพราะอยู่นานนักแล” สาวสวยหุ่นดีกล่าวแซวต่อ

    “มิใช่กงการอะไรของเจ้า แค่ไปบอกอีใหม่ให้เตรียมห้องกระไรให้เรียบร้อยและให้ไปบอกพ่อแม่มันด้วย”

    “ได้ ข้าจะไปเล่าเรื่องทั้งหมดกับใหม่ แล้วจะไปถึงเพลาใด”

    “ออกแต่เช้าตรู่ กว่าจะถึงก็คงบ่ายแก่ๆ แล้ว”

    “แล้วเจ้าทีนเหล่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง”

    “ข้าก็ดุด่าว่ากล่าวไปพอสมควรเท่านั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับมันเองว่า…จะเลือกคบมิตรสหายเช่นไร”

    “งั้นข้าต้องกลับ ประเดี๋ยวจะไม่ทันใหม่เข้านอน”

    พูดเสร็จนางพิมพ์วิภาก็หันหลังกลับ หายลับเข้าไปในความมืดของป่า ร่างของชายหนุ่มบนเป้แปลเปลี่ยนกลับเป็นร่างเสือโคร่งใหญ่สีขาว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×