ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are Superstars [Andy VerSioN : My SaSSy GirL]

    ลำดับตอนที่ #8 : We are Superstars [Andy VerSioN : My SaSSy GirL] Chapter 8 ~~จุ๊บๆๆๆ~~

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 51


    Chapter 8

    ผมขับรถไปส่งน้องเยจินจนได้ครับ ตลอดทางน้องเค้าก็กวนประสาทผมบ้างเล็กน้อยแต่พองาม...ไม่เป็นไรครับ มลพิษทางเสียงยังดีกว่าต้องไปเป็นอุปกรณ์ซ้อมไอคิโดให้น้องเยจิน...ผมได้แต่ขับรถไปเงียบๆ สงบปากสงบคำ ฟังน้องเค้าพูดโน่นพูดนี่ไปเรื่อยๆ....

    คำพูดที่บอกว่า...เกลียดอะไร มักได้อย่างนั้น...เคยได้ยินกันใช่มั๊ยครับ

    ตอนนี้ผมซึ้งอย่างหาที่เปรียบมิได้แล้ว...ผมไม่ชอบผู้หญิงห้าวหาญ พูดแจ๊ดๆเหมือนนกแก้ว...แต่แฟนคนล่าสุดที่ผมไมได้เต็มใจคบด้วยเลยสักนิด มีหมดเลยล่ะครับ...

    ผมขับรถมาจนเกือบจะถึงบ้านของน้องเยจินอยู่แล้ว และจะด้วยอะไรก็ไม่รู้ ผมถึงได้พูดประโยคนี้ออกไป...“อย่าเพิ่งกลับบ้านเลยนะ...ไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย”
       
    น้องเยจินหันมามองผมอย่างแปลกใจ...แต่ก็ยิ้มให้ผม “ก็ได้...แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันอยากกินราเม็ง”
       
    ผมหักพวงมาลัยรถไปทางขวามือ “ไม่มีปัญหา...พี่รู้จักร้านหนึ่ง อร่อยมาก พี่ดงวานพาไปกิน”
       
    น้องเยจินยิ้มให้ผม “ถ้าไม่อร่อยอย่างปากว่าล่ะก็...พี่เจ็บ”
       
    “อร่อยอยู่แล้ว....” ผมหัวเราะแห้งๆ...ในใจไม่นึกอยากกินราเม็งเลยสักนิด ใช่ว่าผมคนเดียวที่เบื่อ คนอื่นๆก็เบื่อ เพราะเจอหน้าพี่ดงวานทีไร พี่มักจะลากไปกินราเม็งทุกที จนหน้าผมจะเป็นเส้นอยู่แล้ว แต่...จะว่าไปหน้าพี่ดงวานก็คล้ายเส้นเราเม็งเหมือนกันนะ...หึ หึ หึ...
       
    ผมจอดรถลงหน้าซอยที่พี่ดงวานเคยพาผมมากินราเม็งเจ้าอร่อย....ร้านนี้อยู่ในซอยครับ เป็นรถเข็น และมีเก้าอี้อยู่สองสามชุดไว้ต้อนรับลูกค้า...ครั้งแรกที่ผมมากับพี่ดงวาน ผมก็แทบอยากจะกราบไหว้บูชาพี่เค้าเลยล่ะครับ ค่าที่พี่ดงวานเก่งอุตส่าห์ดั้นด้นหาร้านราเม็งเจ้าอร่อย ชนิดที่กินแล้วต้องเบิ้ลสามแบบนี้ให้ผมรู้จัก เรื่องราเม็งต้องยกให้พี่ดงวานครับ
       
    ผมก้าวลงจากรถมายืนรอน้องเยจิน...ไม่อยากจะชมน้องเค้าเท่าไหร่ แต่ชมสักหน่อยคงไม่เสียหายมากนัก นิสัยอย่างเดียวของน้องเยจินที่ผมรู้สึกดีด้วยก็คือ....น้องเค้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ชายครับ
       
    ผมหมายความว่า...น้องเยจินไม่ได้เป็นผู้หญิงประเภทนั่งรอให้ผู้ชายมาเปิดประตูรถให้ คอยกางร่มเวลาเดินตากแดด หรือว่าต้องคอยช่วยหิ้วกระเป๋าถือ...ผมนึกนิยมน้องเยจินผู้แข็งแรง อดทน ไม่นั่งรอให้ผู้ชายคอยเทคแคร์อย่างเดียว
       
    ผมดึงฮูดเสื้อกันหนาวตัวเก่งขึ้นมาคลุมหัว อาศัยความมืดและหมวกช่วยบดบังร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้จากสายตาของคนอื่น...ความจริงก็อยากหาแว่นกันแดดมาใส่เหมือนกันล่ะครับ แต่กลัวคนหาว่าผมบ้า
       
    “ร้านอยู่ในซอยนี้เหรอ...โอ้โห!!!ขยันสรรหาที่กินเนอะ” น้องเยจินหันมายิ้มให้ผมอีกแล้วครับ...อย่านะครับน้อง อย่าทำให้พี่ละลายด้วยรอยยิ้มนางฟ้าแบบนี้  เพราะอีก 5 วินาที น้องก็จะกลายร่างเป็นนางมารเหมือนเดิม
       
    ผมเดินทิ้งระยะห่างกับน้องเยจินพอสมควร คือไม่เข้าใกล้น้องเค้าจนเกินไปนัก เดี๋ยวแม่เกิดเข้าใจผิดคิดว่าผมอยากจะรื้อฟื้นความหลัง ชวนผมซ้อมไอคิโดอีกรอบ แผลก็ไม่ต้องหายกันพอดี งานการไม่ต้องทำกันแล้วครับ...
       
    ผมกับน้องเยจินเดินมาถึงกลางซอยก็เจอร้านราเม็ง...เราสองคนเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่าง...แล้วก็ลงมือสั่งราเม็ง...ไม่นานนัก ราเม็งร้อนๆสองชามก็มาวางอยู่ตรงหน้าเราสองคน
       
    “อร่อยมั๊ย...” ผมถามน้องเยจินหลังจากที่น้องเค้าตวัดเส้นเข้าปากไปคำใหญ่
       
    เยจินพยักหน้า รีบเคี้ยวแล้วก็ตอบผม “อร่อยมากๆ...วันหลังจะพาพี่โจมากิน”
       
    “พี่โจเคยมากินที่ร้านนี้แล้ว” ผมบอกน้องเค้าไป...เห็นน้องเค้ากินอย่างมีความสุขผมก็รู้สึกดีครับ...แต่ติดอยู่ที่ว่าไอ้ตอนที่อ้าปากดูดเส้นนี่สิ เจ็บปวดน่าดู  ลองนึกถึงปากเจ่อๆบวมๆด้วยพิษบาดแผล ค่อยๆตวัดเส้นเข้าปาก จะอ้ามากก็ไม่ได้ จะเคี้ยวนานก็ไม่ดี ปวดกรามที่เพิ่งได้รับความกระทบกระเทือน...ผมนั่งกินอย่างทรมานทรกรรมอยู่นานกว่าจะหมดชาม...
       
    ผมกินหมดไปหนึ่งชาม แต่น้องเยจินกินไปแล้วสามชาม...สวย แต่กินเก่งแบบนี้ ผมจะเลี้ยงไหวมั๊ยครับเนี่ย สงสัยต้องไปออดอ้อนพี่ฮาคยองให้หางานเพิ่ม เดี๋ยวผมไม่มีปัญญาเลี้ยงน้องเยจิน
       
    ผมดึงทิชชู่ส่งให้น้องเค้า...และสิ่งที่ผมได้รับกลับมาทำให้คะแนนความน่ารักของน้องเยจินเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า...”ขอบคุณนะ...”
       
    มีผู้หญิงมาขอบอกขอบใจผมก็บ่อยนะครับ แต่ไม่มีใครทำให้ผมตัวเบาหวิวได้เท่าน้องเยจินอีกแล้ว...เฮ้อ!!! น้องเค้ากำลังร่ายเวทมนตร์หลอกลวงผมแน่ๆ  ไม่ได้ครับ...ผมต้องสู้กับมนต์ดำแม่มดเยจินให้ได้
       
    น้องเยจินก้มลงความหาของในกระเป๋าถืออยู่ครู่หนึ่ง แล้วน้องเค้าก็ส่งยาสามเม็ดให้ผม...”กินซะ”
       
    ยาพิษรึเปล่าเนี่ย...น้องเค้าจะวางยาผมใช่มั๊ยครับ...ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย แต่เอ๊ะ!!ไอ้รูปลักษณ์เม็ดยานี่มันคุ้นตาผมอยู่เหมือนกันนะ และน้องเยจินก็ช่วยทำให้ผมกระจ่าง
       
    “ยาแก้อักเสบ หมอให้กินหลังอาหารทันที รีบกินซะ เดี๋ยวไม่หาย”
       
    โอ้ลัลล้า...กลับไปผมจะไปเติมข้อความในสมุดบันทึกของผม ต่อจากข้อความเมื่อเช้านี้...
       
    ตอนเย็น...ฮานเยจินห่วงผม หายาให้ผมกิน และยังเอ่ยประโยคเด็ดอีกด้วย ‘ขอบคุณนะ’...คืนนี้ผมคงนอนยิ้มกับจิ้งจกบนเพดานแหงมๆ...ฮี่ๆๆๆๆ ผมมีความสุขจังเลย
       
    ผมกับน้องเยจินเดินกลับมาที่รถอีกครั้ง...ตอนที่เดินกลับมานะ ผมใจเต้นมากเลยครับ อยากจะเอื้อมมือไปจับมือน้องเค้าแบบที่ผมเคยทำกับไดอาน่า...จับมือกันเดิน มีความสุขจะตาย
       
    แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่กล้าทำครับ เพราะน้องเยจินมีความสามารถพิเศษ น้องเค้าสามารถล้มผู้ชายที่แตะเนื้อต้องตัวน้องเค้าได้อย่างราบคาบ ผมก็มีเลยอันต้องพับโครงการทำสวีทหวานกับฮานเยจินเอาไว้เพียงเท่านี้
       
    น้องเยจินน่ารักมากครับ...เธอเปิดประตูรถเองโดยไม่รอให้ผมเปิดให้ เธอไม่ทำท่าทางกระโชกโฮกฮากใส่ผม หรือว่าเธอเริ่มหลงเสน่ห์ของผมเข้าแล้ว...บอกแล้วไงฮะว่าผมน่ะหล่อมากกกกกก...
       
    คนหล่อมีชัยไปกว่าครึ่ง นี่คือสัจธรรม...

    ผมเริ่มคุ้นชินกับน้องเยจินแล้วล่ะครับ ความจริงน้องเค้าก็น่ารักดี ถ้าไม่ป่วนจนผมตั้งขบวนรับไม่ทัน ผมก็...โอเคอ่ะนะ เป็นแฟนน้องเค้าก็ได้อ่ะ หยวนๆ...
       
    ผมจอดรถที่หน้าบ้านน้องเยจิน...ผมควรจะเป็นสุภาพบุรุษไปส่งน้องเค้าถึงเตียง เอ๊ย!!!ถึงห้องใช่มั๊ยครับ ขอโทษที ผมเผลอเอาคำสอนของพี่เฮซองออกมาใช้อีกแล้ว แต่เพื่อน้องเยจิน ผมจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนดีมากมายหรอกนะ แต่เป็นเพราะผมกลัวตายต่างหากล่ะ
       
    ผมเปิดประตูรถ แล้วเรียกน้องเยจิน “เยจิน...พี่เข้าไปข้างในได้มั๊ย”  นั่นแหละครับ ได้คืบ ผมจะเอาศอกครับ....
       
    รอยยิ้มหวาน เสียงใสๆ ทำเอาผมเอ๋อรับประทาน “อย่าดีกว่าค่ะ ดึกมากแล้ว พี่แอนดี้รีบกลับบ้านเถอะ”
       
    นี่คือความสุขที่ผมใฝ่หา ผู้หญิงที่แสนจะน่ารัก อ่อนหวาน  แบบนี้แหละที่เรียกว่าถูกใจใช่แฟนแอนดี้เลย...
       
    ผมเดินไปยืนใกล้น้องเยจิน พยายามทำหน้าที่ผมเคยส่องกระจกดูแล้วเล็งเห็นว่าผู้หญิงละเมอส่งไปให้น้องเค้า....”นอนหลับฝันดีนะ...”
       
    อ๊ะ อ๊ะ...อย่าเพิ่งเลี่ยนครับ นี่คือประโยคคลาสสิค ใช้ได้ตั้งแต่คุณทวดยังหนุ่มเชียวนะครับ และมันก็ได้ผลทุกยุคทุกสมัย....
       
    น้องเยจินยิ้มหวานจ๋อยเลยครับ...และน้องเค้าก็ทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงอีกจนได้...
       
    มือของน้องเยจินเลื่อนมาแตะที่บ่าของผม แล้วก็เขย่งเท้าขึ้นมาจุ๊บที่แก้มผมทีหนึ่ง...
       
    “ฝันดีเหมือนกันนะคะ...” แค่นั้นยังไม่พอครับ ตอนปิดประตูรั้ว น้องเค้ายังทำปากส่งจูบจุ๊บๆให้ผมอีก ก่อนจะเดินหายไปในบ้าน...
       
    นี่เป็นความจริงใช่มั๊ยครับ...ช่วยหยิกผมทีเถอะครับ ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั๊ยเนี่ย ผมแตะแก้มตัวเองลูบเบาๆ รอยจารึกหมาดๆของน้องเยจิน โอ...พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก...
       
    และผมก็ขับรถกลับบ้านอย่างละเมอเพ้อพก ไม่รู้ว่าฝ่าไฟแดงไปกี่แยก ปาดหน้ารถไปกี่คัน ผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน...จำได้แค่เพียงว่า น้องเยจินของแอนดี้น่ารักจริงๆเลย...


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×