ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The lost descendant princess : รัชทายาทแห่งความมืดผู้สาปสูญ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 สมัครเข้าเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 56


     

    บทที่ 1 สมัครเข้าเรียน


         "กรี้ดดดดดดดดดดด!!! ช่วยจับขโมยคนนั้นทีค่ะ!!!"


         นับเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับตลาดกลางเมืองที่มีคนพลุกพล่าน   อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันรับสมัครวันสุดท้ายของโรงเรียนเวทย์มนตร์เดรคาสอันเป็นโรงเรียนเวทย์ประจำอาณาจักรเดรคาลัสด้วยแล้ว   การลักเล็กขโมยน้อยจึงเกิดขึ้นจนชาชิน โดยหญิงสาวที่เป็นเจ้าของเสียงร้องนั้นกำลังกระโดดโหยงเหยงกลางฝูงชนพลางตะโกนให้คนช่วยจนทหารรักษาการมาถึง


         นับเป็นโชคร้ายของขโมยคนนั้นก็ว่าได้   ที่ขนาดวิ่งหนีมาไกลได้ขนาดนี้และกำลังเลี้ยวตัวหลบเข้าไปในตรอกอันเป็นทางหนีทีไล่ประจำของตนกลับมีร่างในชุดคลุมสีดำสนิทยืนขวางทางอยู่ก่อนแล้ว   ดวงตาของหัวขโมยมองซ้ายขวาเลิกลั่กอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีจนกระทั่งร่างตรงหน้าอ้าปากพูดออกมา


         "แกน่ะ........." เสียงแหบแห้งเหมือนหญิงชราส่งผลให้เจ้าหัวขโมยยิ้มกริ่มเพราะนึกว่าจะจัดการได้ง่ายๆ   แต่ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร พื้นดินบริเวณรอบๆก็ยุบตัวลง   ร่างของชายหัวขโมยถูกดูดลงไปอย่างรวดเร็วและพื้นดินก็กลับมาเป็นปกติ   ไม่มีเสียงร้องซักแอะเลยด้วยซ้ำ   เหลือทิ้งไว้เพียงกระเป๋าใบหนึ่งเป็นของดูต่างหน้าเท่านั้น "โจรยังไงก็คือโจร    ถ้าจะรอสวรรค์ลงทัณฑ์   มันคงจะไม่ทันใจเท่าไหร่   แกโชคร้ายเองนะ" ว่าแล้วก็ต่อให้จบประโยคที่พูดค้างไว้

     
         
    ตึก! ตึก! ตึก!


         เสียงฝีเท้าสามคู่ที่วิ่งตามหลังมาทำให้ร่างในผ้าคลุมหันไปมอง หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าสุดเมื่อเห็นกระเป๋าของตนก็ออกอาการตื่นเต้น

     
         "
    นั่นไงกระเป๋าชั้น   อะ......" เธอมองร่างที่มาอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้อย่างตกใจ "ท่านคือ......" หญิงสาวยังกล่าวไม่ทันจบ   ร่างตรงหน้าก็หายวับไปเหมือนเป็นธาตุอากาศ   ทิ้งไว้เพียงทหารรักษาการสองคนที่เกาหัวงงๆและหญิงสาวเจ้าของกระเป๋ายืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น


         ส่วนคนที่ทำให้คนอื่นตกใจนั้น   ความจริงแล้วเพียงแค่ใช้เวทย์มนตร์พื้นฐานอย่างเวทย์พรางกายที่จะทำให้ร่างกายกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมแล้วก็เดินออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อยเท่านั้นเอง   ว่ากันตามตรง ทหารทั้งสองคนควรจะสัมผัสได้ด้วยซ้ำไป   แต่อารามตกใจทำให้สติหดหาย   ร่างในชุดคลุมเลยสบโอกาสโบกมือบ๊ายบายลาการตอบคำถามอันยุ่งยากออกมาจากตรงนั้นอย่างมีความสุข

     
         
    แต่ไม่ทันจะได้เดินไปไหนไกล   สายตาก็เหลือบไปเห็นขอทานแก่ๆในสภาพโชกเลือดเหมือนโดนสัตว์วิเศษทำร้ายกำลังนอนสลบอยู่ข้างถังขยะ   และด้วยความที่ชอบยุ่ง   เอ้ย! ช่วยคนอื่นอยู่เป็นกิจวัตรประจำวัน   เลยอดไม่ได้ที่จะเดินไปตรวจดูอาการอย่างนึกเป็นห่วง


         "นี่ๆ ท่านลุงคะ" ร่างในชุดคลุมเอ่ยเรียกเบาๆ "ตายรึยังนะ" เธองึมงำ   น่าแปลกที่เสียงคราวนี้ฟังดูหวานใสเหมือนหญิงสาวแรกรุ่น ไม่ใช่หญิงแก่ๆเหมือนเสียงที่ได้ยินครั้งแรก


         เมื่อไร้การตอบสนองจากร่างตรงหน้า ร่างในชุดคลุมที่คาดว่าน่าจะเป็นหญิงสาวจึงเอื้อมมือไปแตะที่แขนของคุณลุงขอทานอย่างแผ่วเบา แสงสีขาวไหลออกจากมือที่โผล่ออกมานอกเสื้อคลุมอย่างต่อเนื่องจนคนเจ็บมีสีหน้าดีขึ้นการส่งพลังนั้นจึงหยุดลง

     
         "
    ให้ตายสิ พลังแสงสว่างยิ่งมีน้อยๆอยู่ด้วย" เธอกล่าวแล้วถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เดินไปหาซอกมุมเหมาะๆเพื่อจัดการกับชุดที่ทำให้อากาศมันอบอ้าวอย่างบอกไม่ถูก และเพราะแถวนั้นค่อนข้างจะไกลออกมาจากตลาดนิดหน่อยจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นนัก


         มือบางปลดฮู้ทสีดำออกจากศีรษะ   เผยให้เห็นใบหน้างามที่ติดจะดูอ่อนโยน   ผิวที่ขาวราวกับหิมะตัดกับเส้นผมสีดำขลับเป็นอย่างดีแต่ถึงกระนั้นก็ไม่ถือว่าขาวซีดอย่างคนเมืองหนาว   ดวงตาสีแดงเลือดกระพริบปริบๆเพื่อปรับให้เข้ากับแสงสว่าง   เธอรวบรวมสมาธิแล้วหลับตาลง   คราวนี้.....เมื่อลืมตาขึ้นมา   ดวงตาที่ปรากฏกลับเป็นสีทองทอประกายงดงามจนยากจะละสายตา


         "อืม กี่โมงแล้วนะ จะทันรึเปล่าเนี่ย" หญิงสาวเสไปมองนาฬิกาพกของตนแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว


         ความจริงเธอมาที่นี่เพื่อจะสมัครเข้าโรงเรียนเวทย์มนตร์   และบ่ายสามโมงคือเวลาปิดรับสมัครซึ่งบัดนี้เหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีเท่านั้น   ไม่มีเวลาจะมารีรอ   หญิงสาวจัดแจงกระโดดขึ้นหลังคาของบ้านหลังใดหลังหนึ่งในบริเวณนั้นแล้วพุ่งตัวไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็วจนเห็นปลายทางอยู่ไม่ไกลนัก   ขาสองข้างรวบชิดติดกันแล้วกระโดดหมุนตัวลงไปยืนบนพื้นดินหน้าประตูโรงเรียนอย่างสวยงาม   เรียกสายตาเหวอๆจากคนที่เกือบหลบไม่ทันไปได้หลายสิบคน

         ร่างบางสาวเท้าเร็วๆไปยังโต๊ะรับสมัครที่อยู่หน้าอาคารใหญ่ยักษ์สีทองอร่ามที่สร้างขึ้น ณ ใจกลางของโรงเรียนแห่งนี้   ซึ่งทอประกายระริบระยับเมื่อต้องแสงแดดในยามบ่ายจนเธอแสบตาจนแทบจะหลับตาเดิน   

        อะไรกันนักหนาเนี่ย   นอกจากเจ็บเท้าเพราะรีบวิ่งมาจะให้ฉันตาบอดด้วยรึไงกัน  
    หญิงสาวคิดอย่างหงุดหงิดใจ




         "ฉันมาทันใช่มั้ยคะ" เด็กสาวกล่าวกับผู้ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะรับสมัครด้วยอาการหอบแฮ่ก ซึ่งสายตาของชายแก่ที่มองกลับมานั้นก็ดูอบอุ่นปนขบขัน

         "เจ้าทันเวลาฉิวเฉียดเลยสาวน้อยลมกรด" ว่าแล้วก็หัวเราะเหอๆแบบน่าสยอง

         หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆตอบกลับไป


       
         "
    อายุเท่าไหร่" มือเหี่ยวย่นค่อยๆขยับไปทางช่องกรอกอายุ


         "17 ปีค่ะ" 
        
     
         "
    อืม...มาสอบก่อนเหรอ   เหอๆ   หวังว่าเจ้าจะมีดีมากพอสำหรับโรงเรียนแห่งนี้นะ" ชายแก่เขียนไปหัวเราะไป  

         ตามปกติแล้ว   ผู้ที่มาสอบมักจะมีอายุ 18
     ปีขึ้นไป   เพราะถือเป็นช่วงที่พลังเวทย์ในตัวเสถียรกว่าช่วงอายุก่อนหน้ามากมายนัก   การที่หลังไม่เสถียรนั้นหมายถึงจะต้องใช้พลังเวทย์จำนวนมากกว่าปกติถึง 5 เท่าเพื่อร่ายเวทย์หนึ่งบท   แต่ก็ยังมีเพียงสายตามั่นใจจากหญิงสาวส่งมาให้แทนคำตอบ


         "ชื่อละ" เมื่อได้รับการยืนยัน   มือเหี่ยวย่นจึงเลื่อนไปยังอีกช่อง


         "โรเวเนีย ราฟรานคาส เดรโครลัสเทียร์" นามสกุลนั้นหญิงสาวพูดเสียงกระซิบ สายตาของผู้สูงวัยเหลือบมองเล็กน้อย

     
         "
    นามสกุลของตระกูลเก่าแก่สินะ" ร่างตรงหน้าหัวเราะเหอๆอีกครั้งแล้วกรอกลงไปอย่างรวดเร็ว "เอาละ พรุ่งนี้แปดโมงห้ามสาย เจ้าไปได้แล้ว" หญิงสาวพยักหน้ารับนิดๆ

         ตระกูลเก่าแก่นั้นย่อมเป็นที่เพ่งเล็งได้โดยง่าย เพราะตระกูลน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นมาหลังจากยุคสงครามจบไปแล้วนั้น พลังเวทย์เทียบกันไม่ได้เลยกับผู้ที่เคร่งครัด แต่งงานกับตระกูลในระดับเดียวกันเสมอมา ว่ากันง่ายๆก็คือการแต่งงานกับคนที่มีพลังเวทย์อ่อนด้อยก็จะทำให้สายตระกูลถัดมามีพลังน้อยลงไปด้วย

         ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ เธอจึงยืนมองชายแก่รวบเอกสารทั้งหมดที่กองสูงเลยแล้วพายกเดินเข้าไปในอาคารอย่างไม่สมกับท่าทางแก่งั่กแบบงงๆ


     
         "
    อืม...กระดาษมันเบาหรือฉันตาฝาดกันนะ"

    ..........................................................................................................................................................................


    จอมเวทย์ว่ามันจะไม่ค่อยแตกต่างกันหรอกค่ะ   ไม่ได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาอะไรเลยนอกจากเพิ่มเติมบางส่วนให้สมบูรณ์   และจอมเวทย์ขอเปลี่ยนจากเด็กสาวเป็นหญิงสาวนะคะ   มันดูเข้ากันมากกว่าเยอะเลย แหะๆ  อายุ17ก็ถือว่าโตแล้วเนอะ

        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×