คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 11 การหาสมุนไพรสุดอันตราย (ตอนปลาย) 60% แก้ไข
บทที่ 11 การหาสมุนไพรสุดอันตราย (ตอนปลาย)
ไม่นึกเลยว่าไอ้ต้นแมนเดรกบ้าๆนั่นจะหายากขนาดนี้!!!
หญิงสาวเอื้อมมือไปเกาะแง่งหินแล้วเหวี่ยงตัวตามสเต็ปขึ้นไปตามหน้าผาอย่างชำนาญไม่ต่างจากคนชินทางอย่างจาเวสเท่าไหร่นัก จนเมื่อถึงที่ราบ ร่างบางก็ล้มแหมะลงนอนบนพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ปากบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจัง
“ถ้าเกิดรู้ว่าเจ้าต้นแมนเดรกมันจะเกิดในที่สูงๆขนาดนี้น่ะนะ ฉันน่าจะคิดค่าจ้างจากพี่ฟรายาสให้หมดตัวเลยจริงเชียว!”
จาเวสหัวเราะแหะๆ
“ก็นะ......”
บริเวณหน้าผานี้เป็นลานโล่งกว้าง มีหญ้าสีเขียวขึ้นประปราย ก้อนหินก้อนใหญ่กระจายรอบพื้นที่ถัดจากตรงหน้าผาไปไม่ไกลนัก เห็ดสารพัดชนิดขึ้นเกาะกลุ่มกันที่โคนหิน ต้นสมุนไพรสีแดงที่มีดอกเหมือนดอกแดนดีไลออนงอกอยู่ตรงกลางขึ้นแซมไปตามบริเวณที่มีผืนหญ้าสีเขียวเป็นหย่อมๆ ป่าไม้แหวกออกเป็นทางเดินสามทาง
ชายหนุ่มเดินสำรวจไปรอบๆ เจ้าต้นกรีฟนี่พอเดินหาล่ะหายากนัก แต่พอตั้งใจจะเริ่มหาสมุนไพรชนิดอื่น มันกลับโผล่มาตามรายทางอย่างที่รู้สึกว่าไม่น่าเสียเวลาไปเปล่าๆหลายชั่วโมง จาเวสเดินหาสัญลักษณ์ที่เคยทำไว้ระหว่างทางแยกสามทางอย่างระมัดระวัง
ท้องฟ้าที่เริ่มกลายเป็นสีส้มทำให้การเดินทางในครั้งนี้เร่งรีบยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อเขาพบกับจุดหมายแล้วจึงต้องจำใจสะกิดโรเวเนียที่กำลังหลับตาพักผ่อนให้ตื่นขึ้นมา
ไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หญิงสาวลืมตามองอย่างโกรธๆ
“ปลุกฉันนี่แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่ามีสาระน่ะ”
“เจอทางไปถ้ำแล้วขอรับเจ้าหญิง” จาเวสฉีกยิ้มแล้วผายมือไปยังทิศที่ทางเดินเต็มไปด้วยกรวดหิน โรเวเนียลุกขึ้นปัดกระโปรงแล้วขมวดคิ้วมอง
“แน่ใจนะว่าถูกอะ ไหงทางอื่นมันดูจะเดินสบายกว่าตั้งเยอะ”
“ทางนี้แน่นอน เอาหัวเป็นประกัน” หัวสีแดงขยับขึ้นลงถี่ๆ
เมื่อเห็นว่าจาเวสรับคำอย่างมั่นใจซะขนาดนั้น เธอจึงทำได้แต่เชื่อ หญิงสาวตัดสินใจเดินนำไปก่อนโดยไว้อาลัยอีกสองทางแยกที่แสนสะดวกสบายแถมเห็นดอกไม้ป่าขึ้นเต็มไปหมดตามข้างทางแล้วหันหน้าไปยังเส้นทางขวาสุดที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้หนามระเกะระกะ
ยิ่งคิดก็พาลน้ำตาจะไหล หมายมาดในใจไว้ว่าจะต้องหาทางรักษาโรคปฏิเสธคนไม่เป็นให้หายไปซักทีก่อนที่จะขาดทุนตายเข้าซักวัน
โรเวเนียเปลี่ยนมาเกาะหลังจาเวสหลังจากทางเดินแคบๆค่อยๆมืดลงเรื่อยๆตามความทึบของป่า สองขาก้าวไวๆพลางดันตัวจาเวสไปข้างหน้า ชายหนุ่มหัวเราะฮ่าๆในบางจังหวะที่โรเวเนียสะดุ้งแล้วกรีดร้องเมื่อค้างคาวตัวจ้อยพุ่งตัวผ่านหน้าไป
โฮก!! กรี้ดดดดดดด!!!
เสือขาวตัวใหญ่ตกใจเสียงหวีดแก้วหู มันตะกุยเท้ากับพื้นดินแล้วหันหลังเผ่นแน่บ โรเวเนียหลับตาปี๋ กำชายเสื้อของจาเวสไว้แน่น
“คึคึ มันแค่เสือธรรมดาน่า เส้นทางนี้ปลอยภัยแน่นอนขอบอก” จาเวสกลั้นหัวเราะกึกๆ
“แง่ม เปล่ากลัวซะหน่อย ฉันแค่ตกใจเฉยๆ” หญิงสาวแก้ตัว
“ครับๆๆๆ” จาเวสรับคำแล้วเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี “นึกอยากจะเป็นวิหคเลยเอาขนนกมาติดปีกบิน นกมีขนหนึ่งเส้นเราก็จับเป็นแล้วเอามากิน!”
โรเวเนียที่เงี่ยหูฟังแยกเขี้ยวใส่ “เดี๋ยวๆๆๆๆ เพลงบ้าอะไรน่ะ อย่าบอกนะว่าแต่งเอง”
“เปล่าแต่งเองซะหน่อย มันมีจริงๆนะ!” ว่าแล้วยอดชายนายจาเวสก็ร้องเพลงต่อ “เนื้อนกนั้นไม่อร่อยเลยเอาไปปล่อยแต่มันไม่บิน นกน้อยหันมาพูดว่าจริงๆแล้วนะเราเป็นกระต่าย เกิดอยากกินเนื้อกระต่ายเลยเอาก้อนหินมาทุบหัวมัน ต่ายน้อย....”
“ยู้ดดดดดดดดดดด พอเถอะขอร้อง” หญิงสาวฟังเพลงไปหน้าซีดไป เสียงจาเวสนี่มันยาพิษชัดๆ!!!
ชายหนุ่มยอมหยุดตามคำขอแต่ก็ฮัมเพลงในลำคอเบาๆ โรเวเนียคิดว่าตราบใดที่ไม่มีเสียงหลุดออกจากปากเป็นใช้ได้
หญิงสาวมองรอบๆ จะว่าไปเดินทางมาเกือบๆจะสองกิโลได้แล้ว ท้องฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย ว่าจะใช้เวทย์ลมเสริมความเร็วแต่ตลอดทางที่ผ่านมาไม่มีใบไม้กระดิกแม้แต่ใบเดียว ดังนั้นจึงแปลว่าไม่มีลม ใช้เวทย์ไปก็เปลืองพลังเปล่าๆกลัวจะหมดแรงก่อนพบเป้าหมาย
อีกทั้งอันตรายระหว่างทางที่อาจจะพบเจอก็ทำให้หญิงสาวตัดสินใจบังคับไม่ให้จาเวสใช้พลังเวทย์เพื่อเก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉิน ขอปลอดภัยไว้ก่อน ณ ตอนนี้ ส่วนขากลับค่อยว่ากัน...
คนไม่อยากกลับบ้านช้าดันหลังจาเวสไปข้างหน้า เมื่อรีบเร่งเดินทาง ไม่นานนักเธอก็เห็นถ้ำอยู่ด้านหน้า มันออกจะเหมือนเป็นโพรงดินขนาดใหญ่มากกว่าจะเป็นถ้ำแต่ก็ดูแข็งแรงเกินกว่าจะถล่มได้ง่ายๆ
เธอเดินมาถึงจนได้ หญิงสาวพ่นลมหายใจเหนื่อยๆ เธอเดินจนรู้สึกเหมือนขามันแข็งโป๊กแบบว่าเอาก้อนหินมาทุบก้อนหินคงร้าวอะไรแบบนั้น พื้นที่เล็กๆหน้าถ้ำถูกเว้นไว้เป็นรูปครึ่งวงกลม ไม่มีพืชชนิดไหนเลยที่สามารถก้าวล้ำไปถึงหน้าถ้ำนั้นได้ โรเวเนียขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
เมื่อเธอจะหันหน้าไปถามก็พบว่าจาเวสกำลังเดินหาอะไรบางอย่าง ในที่สุดเขาก็หยิบหินก้อนเล็กๆขึ้นมาจากพื้นดินก้อนหนึ่ง
หญิงสาวเดินเข้าไปดูอย่างสนอกสนใจ
“อะไรน่ะ???”
“ที่นี่เป็นเหมืองแร่” จาเวสตอบกลับมาสั้นๆ
“เหมือง???” โรเวเนียทวนคำ
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ แต่ใช้เวทย์ไฟสลับน้ำใส่ก้อนหินก้อนนั้น จนในที่สุดมันก็แตกออกและร่วงกราว เผยให้เห็นทับทิมเม็ดแดงสวยข้างใน หญิงสาวมองมันตาเป็นประกาย
“ตอนมาคราวที่แล้วไมทันได้สังเกตเพราะมาเที่ยวเฉยๆ แต่เมื่อกี๊ฉันรู้สึกได้ว่ามีสายพลังที่แข็งแกร่งมากอยู่แถวๆนี้เลยลองแผ่พลังเวทย์ออกไปหาตำแหน่ง มันสะท้อนให้ฉันเห็นพอดีว่าเจ้าก้อนนี้คืออัญมณี” เขาพลิกเม็ดทับทิมในมือไปมา “และขอบอกอีกอย่างนึงว่า ของที่เธอต้องการอยู่ในถ้ำ แต่ผู้พิทักษ์เหมืองแห่งนี้คงไม่ยอมให้เอาออกมาง่ายๆ”
หญิงสาวหันไปมองจาเวสที่นานๆจะมีสาระอย่างทึ่งๆ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือผู้พิทักษ์ที่ว่านั่น เห็นทีงานนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิดเท่าไหร่ การที่สถานที่แห่งหนึ่งจะมีผู้พิทักษ์ได้นั้นแปลว่าจะต้องมีการสละชีวิตของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเพื่อปกป้องอะไรบางอย่าง
“แล้วนายรู้มั้ยว่าเผ่าพันธุ์อะไรคือผู้พิทักษ์ของสถานที่แห่งนี้” เธอเอ่ยถามพลางทิ้งตัวลงนั่งบนก้อนหินแบนๆก้อนหนึ่ง จาเวสเดินมานั่งข้างๆ
“ฉันอธิบายไม่ถูก แต่กระแสพลังบอกว่ามันชำนาญธาตุมากกว่าสองธาตุ” เขาหยิบกิ่งไม้แถวนั้นวาดรูปบนพื้น “ธาตุไฟแน่ๆล่ะ แล้วก็น่าจะลม...”
“แล้วสรุปว่า....”
“ฉันคิดว่าบางที...เราอาจจะไม่รอดกลับไป” ไม่รอให้ความเงียบปกคลุมได้นานนัก เจ้าตัวถามต่อในทันที “ลุย?”
แทบจะไม่ต้องคิด เธอเอ่ยสวนทันควัน “ก็ต้องลุยสิ! คิดว่ากลัวรึไง” หญิงสาวยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“เฮ้ๆๆ ถ้าตายไปนี่ไม่มีใครพบศพเลยนะ ฉันไม่อยากเป็นผีเฝ้าถ้ำกับเธอด้วย” ประโยคหลังจาเวสงึมงำ แต่คนหูดีก็ยังได้ยิน
“ให้มันน้อยๆหน่อย เห็นว่าไม่ทำอะไรแล้วกล้าหือเหรอ” หญิงสาวแยกเขี้ยวใส่ จาเวสพยายามทำตาใสซื่อกลับมาทำให้โรเวเนียหัวเราะน้อยๆอย่างขบขัน “เอาเถอะๆ แต่เรามานั่งเถียงกันหน้าถ้ำเนี่ย ผู้พิทักษ์จะไม่รู้ตัวแล้วเหรอ”
“เขารู้แล้วล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ” จาเวสบอกว่าไม่ต้องห่วงทั้งๆที่ทำสีหน้าเคร่งเครียด
“เพราะ..???”
“เพราะครั้งนี้...เรากำลังเผชิญหน้ากับมังกร...”
(50%)
..........................................................................................................................................................................
'แปลก' โรเวเนียเอ่ยกับตัวเองในใจ
เพียงแค่ด้านหน้าของถ้ำเพียงเท่านั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆที่รายล้อมรอบร่างกาย พาลให้รู้สึกอึดอัด หญิงสาวก้าวเดินพลางมองสำรวจรอบๆไปพลางๆ ผนังถ้ำที่เป็นสีเขียวมรกตเปล่งประกายงดงามจนยากจะละสายตา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจทำให้วางใจได้ ถ้ำที่ไหนกันไม่มีแม้แต่แสงอาทิตย์ส่องผ่านแต่กลับมองเห็นรอบข้างได้อย่างชัดเจน เสียแต่ว่าสีสันทั้งหมดเหมือนจะกลายเป็นสีเขียวกลืนกันกับผนังถ้ำเพียงเท่านั้น
หลังจากสลัดความหวั่นใจทั้งหมดทิ้ง สัญชาติญาณเดิมของคนที่ชื่นชอบสัตว์วิเศษก็ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะหันหลังก้าวเดินฉับๆเข้าไปในถ้ำโดยที่จาเวสไม่ทันจะได้ห้าม มังกรก็มังกรเถอะ! อยากเห็นซักครั้งเป็นบุญตา ถึงตายก็ไม่เสียใจแล้ว!!! "เฮ้ รอด้วยสิ แฮ่กๆ" ยอดชายนายจาเวสส่งเสียงตามหลังแล้ววิ่งมายืนข้างๆอย่างรวดเร็ว
เขาที่ยืนอึ้งได้ไม่ถึง 5 วิ กับการตัดสินใจแบบฉับพลันของเพื่อนสาว จู่ๆก็มีรังผึ้งหล่น ตุ้บ! ลงตรงหน้า พอโกยแน่บตามหลังโรเวเนียเข้ามาในบริเวณถ้ำเจ้าพวกนั้นก็ต่างพากันบินเลี้ยวหายลับไปตามต้นไม้ เล่นเอาทำอะไรไม่ถูก...ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี อย่างนี้มันเข้าทำนองหนีผึ้งปะมังกรรึเปล่านะ???
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อก เรียกกำลังใจโดยการเอื้อมมือไปแตะดาบข้างกายให้พอรู้สึกว่ายังมีทางรอด
ทั้งสองก้าวเท้าอย่างเงียบกริบขณะเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ อุณหภูมิรอบข้างค่อยๆหนาวเย็นขึ้นตามลำดับจนหญิงสาวต้องเดินห่อไหล่และกอดแขนตัวเองไว้ทั้งสองข้าง หนีบคทาคู่ใจไว้เพื่อจะได้หยิบเอามาได้ทันยามฉุกเฉิน จาเวสเหลือบมองแล้วแอบตำหนิตัวเองไม่ได้ที่ดันลืมของสำคัญอย่างเสื้อหนาวซะได้ ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าอากาศข้างในมันจะหนาวในเมื่อเคยเข้ามาเดินเล่นอยู่หลายครั้ง แต่ตอนนั้นสถานการณ์ไม่ได้ชวนเอาคอไปพาดเขียงอย่างตอนนี้น่ะนะ
"เมื่อไหร่จะถึง" โรเวเนียพูดพลางพยายามลดอาการสั่นกึกๆของตัวเอง ริมฝีบางบางเม้มซีดจนกลายเป็นสีม่วง
"ถ้าเกิดหมายถึงสุดถ้ำละก็ อีกซักครึ่งชั่วโมงน่ะ เห็นเขาลูกไม่ใหญ่มากแต่เท่าที่ฉันรู้สึกได้มันเชื่อมกันกับภูเขาลูกหลังๆไปอีกหลายลูก" จาเวสเอ่ยตอบ ขมวดคิ้ว
"ไหนนายว่าเขารู้ตัวแล้วไง รู้ได้ยังไง"
"ก็เขาบอกว่ากำลังรออยู่" ชายหนุ่มตอบกลับซื่อๆ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าหญิงสาวที่เดินนำหน้าอยู่นั้นผ่อนฝีเท้าลงเรื่อยๆจนมาอยู่เสมอกันพร้อมทั้งแสยะรอยยิ้มงดงามตามแบบฉบับโรเวเนียอีกด้วย
"แล้วนายก็ไม่คิดจะอธิบายให้ฉันฟัง???"
จาเวสหันหน้าไปมองอย่างช้าๆ เหงื่อตกเมื่อเห็นคทาในมือหญิงสาวสั่นเปรี๊ยะๆ
"แหะๆ..."
หญิงสาวถอนหายใจเฮือก หยุดเดินฉับพลัน และนั่นทำให้จาเวสต้องหยุดตามไปด้วย ไม่ต้องรอนาน เสียงที่ดังราวกับฟ้าฟาดก็ตวาดแหวใส่หน้า
"เล่ามา!!!"
(60%)
ความคิดเห็น