ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The lost descendant princess : รัชทายาทแห่งความมืดผู้สาปสูญ

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 8 คำขอร้อง ชายหนุ่มดวงตาสีเงิน

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 56


     

    บทที่ 8 คำขอร้อง   ชายหนุ่มดวงตาสีเงิน

     

    โรเวเนียที่เพิ่งจะเดินกลับมาถึงบ้านในตอนบ่ายๆถูกฟรายาสลากเข้าไปนั่งจ้องหน้าในห้องครัว   ตอนแรกเธอคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องขนม   แต่มองไปแล้วเหมือนฟรายาสจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอวางขนมไว้เพราะมันวางอยู่ที่เดิมและไม่ได้รับการแตะต้องเลยแม้แต่นิดเดียว   สีหน้าชายหนุ่มดูเคร่งเครียดมากแต่ก็ยังอุตส่าห์สังเกตเห็นใบรายการในมือเธอ

     

    ฟรายาสสูดหายใจเข้าลึกๆหลายครั้งจนผมสีน้ำตาลสะบัดไปมาเล็กน้อย

     

    คือว่า   ยินดีด้วยที่สอบผ่าน   แล้วก็...พี่มีเรื่องให้เธอช่วยหน่อยน่ะท่าทางลุกลี้ลุกลนทำให้โรเวเนียได้แต่สงสัยว่าทำไมคุณหมอผู้อารมณ์ดีถึงได้ออกอาการผวาขนาดนี้

     

    ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง   ฉันช่วยได้ก็จะช่วย   ถือว่าตอบแทนพี่ที่ช่วยเหลือฉันละกันนะหญิงสาวเอ่ยตอบ   ไม่สนใจกับคำแสดงความยินดีซักเท่าไหร่

     

    ฝ่ายฟรายาสที่ได้ยินโรเวเนียเรียกเขาว่าพี่ดีใจจนแทบน้ำตาไหลพราก   ดีใจยิ่งกว่าการได้รับคำตกลงช่วยเหลือซะอีก

     

    เอ้าๆ   ตกลงพี่จะให้ฉันช่วยมั้ยเนี่ยโรเวเนียเอ่ยย้ำเมื่อเห็นชายหนุ่มฉีกยิ้มค้าง

     

    ช่วยสิ   ช่วยๆ   เอ่อ....ถ้าจะเล่าเรื่อง   มันก็นานอยู่นะชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆเตรียดจะเล่า   แต่ก็ถูกหญิงสาวเอ่ยขัดด้วยท่าทางกวนๆ

     

    ถ้าลำบากนักก็ไม่ต้องเล่าสิเล่นเอาฟรายาสอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น เอ่อ....ชายหนุ่มจนคำพูด

     

    ฮะๆๆ   ฉันล้อเล่นน่ะโรเวเนียกล่าวออกมาในที่สุด

     

    ฟราราสน้ำตาซึมเพราะโดนแกล้ง ก็...พี่เป็นหมอที่พเนจรไปทั่วใช่มั้ยละ   ดังนั้นพี่เลยค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องเงิน   จะช่วยใครทีก็ไม่กล้าเก็บเงินซะอีก   ทีนี้ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากร้านสมุนไพรแต่ว่าก็โดนปฏิเสธ   พี่เลย...เขานิ่งค้าง   ทำท่าสยดสยอง

     

    แล้วพี่ก็เลย?” เด็กสาวเอ่ยถามย้ำ

     

    ก็คือ   เธอคงรู้จักร้านขายอาหารสัตว์วิเศษแล้วใช่มั้ยละ   ที่นั่นก็ถือเป็นร้านสมุนไพรได้เหมือนกันเหมือนฟรายาสจะเรียบเรียงคำตอบยังไม่เสร็จดีนัก   โรเวเนียจึงรินชามานั่งจิบรอ   ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ คือเจ้าของร้านขายอาหารสัตว์วิเศษจะให้พี่ยืมสมุนไพรสำหรับทำยาไปได้   แต่ว่าจะต้องคืนตามจำนวนที่ใช้ไปหรือไปหาสมุนไพรที่มีค่าพอกันมาคืน   แต่ว่าพี่ดันหยิบผลของต้นแมนเดรกมาโดยไม่รู้ตัวน่ะ   ตอนนี้คงผสมกับยาตัวไหนซักตัวไปแล้ว   ราคามันก็เล่นเอาพี่ไม่มีปัญญาใช้คืนพูดมาถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็นิ่งเงียบไปอีกครั้ง

     

    แล้วตกลงพี่จะให้ฉันทำอะไรละหญิงสาวกล่าวเข้าเรื่อง

     

    ก็...ขอแรงไปช่วยที่ร้านซักวันได้มั้ยละ   นางแม่มดนั่นบอกว่าจะสาปพี่เป็นกบเพราะว่าพี่ไม่ยอมหาต้นแมนเดรกไปคืน   โถ่!   ก็มันเอาทำยาไปหมดแล้วนี่   เล่นรูปร่างเหมือนผลเบอร์รี่ซะขนาดนั้นใครจะไปนึกทันว่าเป็นของสำคัญขนาดนั้นละฟรายาสบ่น

     

    แล้วพี่จะเอาผลเบอรรี่ไปทำไมโรเวเนียขมวดคิ้ว ไม่คิดบ้างเหรอว่าร้านสมุนไพรจะมีเบอร์รี่ได้ยังไง

     

    คราวนี้ชายหนุ่มทำหน้าพิลึก มันเป็นร้านขายอาหารสัตว์นะ   สัตว์วิเศษบางตัวก็กินผลเบอร์รี่เป็นอาหาร   แต่ที่พี่หยิบมาก็เพราะว่าผลเบอร์รี่แถวนี้เป็นเบอร์รี่ป่า   มันช่วยในการรักษาอาการหวัดได้น่ะถ้าเกิดเอามาปรุงยาดีๆว่าแล้วก็งึมงำกับตัวเอง รู้งี้เลือกเรียนเป็นทหารดีกว่า

     

    หญิงสาวกลั้นหัวเราะคิกๆกับท่าทางหมดอาลัยตายอยาก

     

    โอเค   ฉันจะช่วยก็ได้   แต่พี่ต้องบอกเหตุผลดีๆนะว่าทำไมพี่ไม่ไปทำเอง   งานแค่วันเดียวกับราคาของผลต้นแมนเดรกที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของยาแก้คำสาปหลายชนิดนี่ดูท่ามันจะเกินคุ้มไปหน่อย   เท่าที่ฉันได้ยินก็เกือบๆสองพันเดรคใช่มั้ยละโรเวเนียกอดอกมอง   ดวงตาสีทองหรี่ลงอย่างจับผิด

     

    ฟรายาสยิ้มแหย   โบกมือยอมแพ้ ข้าบอกแล้วๆๆ   ไม่ต้องมองอย่างนั้นก็ได้  

     

    ก็บอกมาสิหญิงสาวสวนขึ้นมาในทันที

     

    ก็...อย่างที่บอกว่านางแม่มดจะสาปพี่เป็นกบ   แถมยังย้ำแล้วย้ำอีกกับพี่ว่าให้ไปหาสมุนไพรมาคืนเธอให้ได้   และเพื่อชดเชยที่พี่ทำนางเสียเวลาจนไม่สามารถปรุงยาชิ้นสำคัญได้จึงต้องส่งคนไปช่วยนางเธอวันนึง   เธอไม่คิดจะสงสารพี่บ้างเหรอชายหนุ่มทำท่านึก ว่าแต่ตกลงเธอชื่ออะไรละมาแนวเดียวกับจาเวสเป๊ะๆ

     

    หญิงสาวพ่นหัวเราะดังพรืด นี่ตกลงพี่ยังไม่รู้จักชื่อฉัน   แล้วยังให้ฉันพักอยู่ในบ้านเนี่ยนะ!เธอคิดว่าของที่คุณยายแม่มดคนนั้นกำลังหาตอนที่เธอเข้าไปที่ร้านอาจจะเป็นเจ้าผลแมนเดรกนั่นก็ได้   ก็ดูน่าสนุกดี!  ฉันชื่อโรเวเนีย   เรียกสั้นๆว่าโรวี่หรือโรวก็ได้

     

    ชายหนุ่มทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม โอเคขอรับ

     

    แล้วก็เรื่องช่วยงานที่ร้าน   วันไหน   กี่โมง   อ้อ!ฉันมาจากแถวๆชายแดน   พี่ต้องอธิบายเรื่องเวลาของที่นี่ให้ฟังด้วยโรเวเนียชี้หน้าอย่างไม่มีเกรงใจ   ซึ่งฟรายาสก็ไม่ขัด   ฉีกยิ้มดีใจที่หญิงสาวรุ่นน้องยอมช่วย

     

    ที่นี่ปีนึงก็มี 365 วันเหมือนที่อื่น   แต่เราจะนับเป็นฤดูกาล   ฤดูละ 90 วัน   วันที่ 1-90 จะเป็นฤดูร้อนของที่นี่   วันที่ 91-180 คือฤดูใบฝน   วันที่ 181-270 จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง   ส่วนวันที่เหลือจะเป็นฤดูฝนแล้ววนกลับมาที่ฤดูร้อนใหม่   อย่างวันนี้ก็ฤดูร้อนวันที่ 45   ส่วนวันที่ทางโรงเรียนเรียกตัวก็คือฤดูร้อนวันที่ 52 และปีนี้ก็อย่างที่เธอรู้   นับจากเวลาที่อาณาจักรก่อตั้งเหมือนกันหมด   ศักราชที่ 1700 พอดีชายหนุ่มอธิบาย ส่วนเรื่องช่วยงานที่ร้านก็เริ่มพรุ่งนี้ตอน 8 โมง”  

     

    อืม   งั้นขอฉันถามอีกอย่าง   ปกติเค้าปิดเทอมกันวันไหนน่ะโรเวเนียพยักหน้าแล้วเอ่ยถามพลางพยายามจดจำรูปแบบเวลาไว้ในหัว   ต่างกันไม่มากเท่าไหร่   เพียงแต่ของเราแบ่งเป็น 12 เดือน

     

    ช่วงปิดเทอมเหรอ   อืม...ก็ช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั้ง 95 วันเลยน่ะ   แต่ที่นี่ไม่มีฤดูหนาวเพราะว่าเป็นเขตร้อน   เจ้าระวังอย่าลืมใส่ผ้าคลุมล่ะชายหนุ่มบอกคร่าวๆแล้วเตือนอย่างหวังดี

     

    ฉันรู้น่าหญิงสาวบอกปัด   ถอนหายใจกับตัวเอง   ยังไงฉันก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี   เมื่อไหร่ไอ้นิสัยชอบช่วยเหลือคนมันจะหายไปซะทีเนี่ย!   ต้องบอกว่าต่อให้ฟรายาสไม่อ้อนวอนขอร้อง   เธอก็ยอมช่วยตั้งแต่ครั้งแรกที่เอ่ยปากแล้วล่ะเพียงแต่นิสัยชอบแกล้งมันก็ไม่ได้ไปไหน   ดังนั้นถือว่าฟรายาสทั้งซวยทั้งโชคดีเลยก็ว่าได้ที่มาเจอหญิงสาวผู้รวมนิสัยทั้งดีและไม่ดีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

     

    แล้วก็วันนี้ฉันแวะไปที่โรงแรม   ตอนนี้มันซ่อมเสร็จแล้ว   ดังนั้นฉันจะไม่รบกวนพี่แล้วละโรเวเนียกล่าวสิ่งที่คิดไว้   ซึ่งก็เรียกเสียงอุทานจากฟรายาสได้เป็นอย่างดี

     

    อ้าว   เจ้าจะไปแล้วเหรอชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าเหวอ อยู่ที่นี่ก่อนก็ได้   ข้าไม่คิดเงินหรอก   ห้องพักก็มีหลายห้อง   เอาไว้เผื่อมีคนพาคนป่วยมาพักน่ะ

     

    โรเวนียเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ที่นี่มีคนอื่นนอกจากข้าด้วยเหรอ

     

    อ่อ   ฮะๆ   เธอเห็นประตูในห้องครัวมั้ยละหญิงสาวพยักหน้า   ตอนแรกเธอคิดว่าน่าจะเป็นประตูออกไปหลังบ้านแต่ว่าท่าทางจะไม่ใช่ ด้านหลังประตูเป็นทางแยกไปห้องพักอีกสี่ห้องน่ะ   ตอนนี้ก็มีพรานบางคนที่ถูกสัตว์วิเศษในป่าทำร้ายมานอนพักอยู่เหมือนกันชายหนุ่มฉีกยิ้มประมาณว่าฉันเก่งใช่มั้ยละ   ช่างเหมือนกับจาเวสอย่างกับเป็นพี่น้องกัน   เล่นเอาหญิงสาวหมดอารมชื่นชมไปเลย

     

    ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอรบกวนต่อไปแล้วกันนะคะหญิงสาวกล่าวตัดบท    ลุกออกจากเก้าอี้เพื่อจะไปดูเจ้าตัวน้อยว่าเป็นยังไงบ้าง

     

    ถ้าเกิดจะไปหาตัวเล็กนั่นละก็   มันกำลังนอนอยู่น่ะ   อย่าเพิ่งไปกวนเลยชายหนุ่มเอ่ยเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะลุกออกไป   โรเวเนียจึงหันมาเลิกคิ้วมอง

     

    เจ้าตัวเล็กกินอิ่มแล้วก็หลับไปเลยคำตอบนั้นทำให้หญิงสาวกุมขมับ   ตกลงเจ้าตัวน้อยจะไม่ทำอะไรนอกจากกินกับนอนใช่มั้ยเนี่ย !!!

     

    แล้วก็อีกอย่างนึง....หญิงสาวหันหน้าไปมองฟรายาสที่กำลังทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ ขอบคุณนะจ๊ะสำหรับขนมว่าแล้วก็โบกถุงที่ไปหยิบมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ไปมา   หญิงสาวหน้าแดงด้วยความอับอาย

     

    ฮึ่ย!   คราวหน้าฉันจะไม่ให้อะไรแล้วว่าแล้วก็กระทืบเท้าปึงๆออกไปจากห้องครัว   ชายหนุ่มคาดว่าหญิงสาวน่าจะไปเดินตลาดคลายเครียด

     

    ฟรายาสหัวเราะก๊าก   หยิบขนมขึ้นมากินอย่างมีความสุข   นี่ถ้าเจ้าตัวรู้ว่าส่วนผสมของขนมชนิดนี้คือเกสรดอกหิมะที่หาได้ยากในดินแดนแห่งนี้จนทำให้ขนมปุยหิมะที่มีสีน้ำตาลชนิดนี้มีราคาสูงถึงถุงละ 200 เดรคละก็นะ หึๆๆๆ  

     

    ในถุงนึงมีขนม 10 ชิ้น   ดังนั้นราคาก็ตกชิ้นละ 20 เดรค   ซึ่งขนมชิ้นนึงเทียบเท่ากับค่าอาหารที่เลี้ยงครอบครัวปานกลางครอบครัวหนึ่งได้ทั้งวันเลยทีเดียว   1 เดรคก็มีค่าเท่ากับ 100 เคล   ส่วนใหญ่พวกเสื้อผ้าเครื่องประดับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดรค หรือ 200-300 เคลนั่นเอง   ทั้งสามอาณาจักรจะใช้แตกต่างกันเพียงสกุลเงินเท่านั้น   ค่าของมันถือว่าเทียบเท่ากันและสามารถใช้ซื้อของได้ทุกอาณาจักรโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยน   ของอาณาจักรฟีรอสจะใช้เป็นสกุลฟีล โดย 1 ฟีล เท่ากับ 100 ฟัจ   ส่วนอาณาจักรโรเดนเวียร์จะใช้เงินสกุลโรดิค   ซึ่ง 1 โรดิคเท่ากับ 100 โร้ค

     

                แล้วชายหนุ่มผู้ไม่ค่อยจะได้ใช้เงินซื้อของก็นั่งละเลียดขนมไปเรื่อยๆ  

     



                กลับมาทางด้านโรเวเนีย   เธอกำลังเดินไปหาซื้อเนื้อมาเก็บไว้สำหรับเจ้าตัวน้อย   อารมณ์พาลทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นและคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาจนไม่รับรู้โลกภายนอก   มารู้สึกตัวก็ตอนที่มีแรงสะกิดไหล่นั่นละ

     

                หญิงสาวมองไอศกรีมโคนที่ยื่นมาตรงหน้า   สีฟ้าๆของมันทำให้ดูไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นัก   แต่สิ่งที่เธอสนใจจริงๆคือมือขาวๆนั้นต่างหาก  

     

                “ไม่กินเหรอ   อร่อยนะเจ้าของมือนั้นคือชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเรียบนิ่งและชอบอ่านนิยายอยู่เป็นนิจ   มืออีกข้างของเขาถือไอศกรีมที่รูปร่างเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน   และเมื่อเห็นเธอจ้องมองอยู่ชายหนุ่มก็หันหน้าไปด้านข้างแล้วเลียของในมือด้วยใบหน้าที่ติดจะแดงนิดๆ

     

                “คิกๆโรเวเนียที่เห็นแล้วอารมณ์ขุ่นมัวหายไปทันทียื่นมือไปรับความหวังดีของอีกฝ่ายแล้วลองกินดูบ้าง   อืม...ก็หวานๆเย็นๆเหมือนรสสายไหม   จะว่าไปนายนี่ก็น่ารักดีนะเนี่ย   เล่นเอาแกล้งไม่ลงเลยแฮะ   ว่าแล้วก็หัวเราะคิกๆในใจ

     

                ชายหนุ่มผมเงินออกเดินนำโดยไม่พูดอะไร   ซึ่งเมื่อเห็นดังนั้นหญิงสาวเลยเดินตามหลังไปบ้าง   ความคิดเพียงอย่างเดียวของเธอก็คืออยากจะรู้ว่าคนตรงหน้าจะไปทำอะไรกันแน่   สองร่างเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ   หญิงสาวเดินลั้ลลามองทางไปบ้างหันไปมองหน้าชายหนุ่มบ้างอย่างอารมณ์ดี   จนในที่สุดคนเดินนำก็มาหยุดอยู่หน้าร้านๆหนึ่ง

     

                หืม???   ร้านหนังสือ   ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นร้านที่ทางโรงเรียนบอกให้มาซื้อหนังสือแต่ก็ไม่ใช่   ป้ายยักษ์เขียนชื่อไว้ตัวโตว่า  ร้านหนังสือมีชีวิต’  

     

                “ร้านนี้ขายหนังสือเก่าๆชายหนุ่มที่เดินมาด้วยกันไขข้อสงสัย

     

                “อ้อ!   แล้วเธอก็ตอบรับเบาๆ   เดินเข้าไปในร้านบ้าง

     

                “นายจะมาซื้ออะไรเหรอโรเวเนียที่เดินตามไปเรื่อยๆเอ่ยถาม

     

                “ฉันจะหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีแห่งดินแดนแล้วก็ได้เสียงตอบกลับมาแบบเรียบๆ   ไร้ซึ่งความรำคาญใดๆ   และนั่นก็ยิ่งทำให้หญิงสาวร่าเริงเข้าไปใหญ่   รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นปลิงเหมือนเจ้าจาเวสเข้าทุกที  

     

    คิดพลางสยองไปพลาง   สงสัยฉันคงจะเจอเจ้าหัวแดงมากไปจนหลอนแล้วละมั้ง

     

    จู่ๆร่างตรงหน้าก็หยุดกึก   หันขวับมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวอย่างที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว   ดวงตาสีทองเบิกกว้างอย่างตกใจ

     

    ม...มีอะไรเหรอ

     

    เธอ....ชายหนุ่มใช้ดวงตาสีเงินอ่อนของเขาจ้องมองมา   ทำเอาโรเวเนียถึงกับเคลิ้ม   ดวงตาสีสวยแบบนี้อยากควักมันออกมาดูเล่นจังเลย!   แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความคิดละนะ...

     

    หึ!” เมื่อเห็นประกายที่สื่อออกมาจากดวงตาของหญิงสาว   ชายหนุ่มก็แค่นหัวเราะ   ดวงตาสีเงินพราวระยับอย่างขบขัน    กระตุกยิ้มมีเสน่ห์ที่มุมปากเพียงแวบเดียวแล้วก็หายไปจนหญิงสาวไม่มีโอกาสจะมองได้ทัน เลิกเดินตามได้แล้ว   อยากได้อะไรก็ไปเลือกดูว่าแล้วก็เดินหนีไป

     

    โรเวเนียทำท่าเสียดาย   โรคอย่างที่สามของเธอคือแพ้คนตาสวย   ชายหนุ่มเพื่อนใหม่ของเธอก็เป็นคนที่ตาสวยมากถึงมากที่สุด   ดวงตาสีเงินอ่อนดูมีประกายระยิบระยับ   แถมยังช่วยขับให้ใบหน้าที่ไร้ที่ติอยู่แล้วของชายหนุ่มดูดึงดูดมากกว่าปกติขึ้นไปอีกหลายเท่าอย่างลงตัวเป็นที่สุด

                หญิงสาวตัดสิใจเดินหาหนังสือที่ตัวเองสนใจไปรอบๆร้าน   แต่เธอก็ยังไม่เห็นว่าจะมีหนังสือมีชีวิตตรงไหน   ร่างบางเดินลัดเลาะไปตามชั้นหนังสืออย่างสนใจ   ขนาดหนังสือบางเล่มที่หยุดตีพิมพ์ไปเป็นร้อยปีแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีขายอยู่ที่นี่   หญิงสาวไม่ใส่ใจกับชั้นวางของไม้ที่ฝุ่นเขรอะ   ไล่ดูหนังสือเล่มนู้นเล่มนี้ทีอย่างตื่นเต้นและหมายมาดในใจไว้ว่าไว้คราวหน้าเธอจะมาอีกอย่างแน่นอน

     

    สุดท้ายหญิงสาวก็ได้หนังสือเกี่ยวกับหมาป่าแสงจันทร์มาเป็นตั้ง   ในขณะที่ชายหนุ่มผมเงินที่เธอยังไม่รู้จักชื่อถือหนังสือปกแข็งที่ห่อหุ้มด้วยหนังมาเพียงเล่มเดียว   แต่ว่าขนาดของมันก็กะประมาณได้เกือบๆ 2000 หน้า  

     

    ซื้อไปทำไมเสียงที่เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยขณะรอเจ้าของร้านคิดเงินทำให้หญิงสาวสะดุ้ง

     

    อะ!   คือสัตว์วิเศษฉันเป็นหมาป่าแสงจันทร์น่ะเธอตอบง่ายๆ

     

    หือ?” เสียงอุทานดูเหมือนจะสงสัย   แต่เขาก็หันกลับไปสนใจคุณลุงเจ้าของร้านขายหนังสือต่อในทันทีโรเวนียจึงไม่คิดจะพูดอธิบาย

     

    3000 เดรคสำหรับพ่อหนุ่มคนนี้   ส่วนของแม่หนู 530 เดรคค่าหนังสือของชายหนุ่มทำให้เธอตาโต   แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมอธิบายอะไรเพิ่มเติม

     

    จนออกมานอกร้านหนังสือโรเวเนียก็ตัดสินใจเอ่ยถามอีกจนได้ แล้วตกลงนายชื่ออะไร

     

    “.....” ดวงตาสีเงินเพียงจ้องมองมาที่เธอนิ่งๆ   หญิงสาวทำหน้ามุ่ย

     

    ฉันไม่อยากรอนี่นาเธอบ่นอุบอิบ   แต่เมื่อนึกได้ว่าพูดอะไรออกไปแก้มของหญิงสาวก็แดงแปร๊ดอัตโนมัติ อะ...คือไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะ   แค่ว่านายเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกันแล้วเลยอยากจะรู้จักชื่อไว้เฉยๆโรเวเนียเอ่ยแก้แบบตะกุกตะกักแล้วก็ตาค้างเมื่อร่างตรงหน้าส่งเสียงหัวเราะออกมา

     

    หึๆ  ฮะๆๆ  เข้าใจละหนุ่มผมเงินยิ้มบาง ฉันชื่อเวเฟียส   ชารอเฟย์   อย่าลืมละกัน

     

    อะ...อะไรนะหญิงสาวหน้าเหวอเมื่อได้สติ   แต่ตอนนั้นร่างของเวเฟียสก็หายลับไปจากสายตาเสียแล้ว ตอนแรกนึกว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อใบหน้าตายซะอีกนะเนี่ย   ตกลงยิ้มเป็นหรอกเหรอ???” อนิจจา   สาเหตุที่หญิงสาวช๊อกค้างไม่ใช่อย่างที่ใครๆคิดเลยแม้แต่น้อย

     

    สุดท้ายแล้วโรเวเนียก็เดินกลับมายังบ้านฟาง   แต่ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วสิว่าเธอออกไปข้างนอกทำไม   แต่เมื่อคิดได้มันก็คงสายเกินไปสำหรับวันนี้แล้วละ   ลืมซื้อเนื้อให้เจ้าตัวน้อยอีกแล้ว!  วันนี้มันจะวุ่นวายไปถึงไหนเนี่ยยยย!!!



    ..........................................................................................................................................................................


    จบไปจนได้นะคะสำหรับตอนแรก สำหรับตอนที่สองน่าจะลงให้ได้ดึกๆ คือจอมเวทย์เขียนสดค่ะ แหะๆ วางพลอตไว้แค่คร่าวๆ จะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่บุญแต่กรรม

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×