คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #321 : ☆ [Full Trans] 110928 โทโฮชินกิ 'คำขอบคุณและความตั้งใจ' ที่อยู่ในอัลบั้ม TONE
☆ [Full Trans] 110928 โทโฮชินกิ 'คำขอบคุณและความตั้งใจ' ที่อยู่ในอัลบั้ม TONE
1.「จะมอบความรู้สึกขอบคุณนี้เป็นของขวัญ」 (ชางมิน)
แม้แต่ซิงเกิ้ลที่กลับมาครองอันดับ 1 อีกครั้งอย่าง『Why?(Keep Your Head Down)』ด้วยซาวน์ดนตรีและการแสดงที่นำสมัยได้แสดงให้เห็นถึงโทโฮชินกิที่เจริญเติบโตที่เหนือความคาดหมาย ทว่าในอัลบั้มสเกลนั้นน่าประหลาดใจ! ค้นหาวิถีใหม่ของโทโฮชินกิ และความรู้สึกที่แท้จริงของยุนโฮและชางมินผู้ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยความพยายามนั้นจะเป็นเช่นไร ? เราจะมาคุยเบื้องลึกถึงอัลบั้มใหม่『TONE』ที่พูดได้ว่าความหมายของ Volume และความท้าทายนั้นต่างก็เป็นงานชิ้นเอก
❤ อัลบั้มก็สำเร็จออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วยบอกความรู้สึกจริงๆตอนนี้หน่อยค่ะ
ยุนโฮ: เป็นการออกอัลบั้มที่หายไปนานไปนานเลยล่ะครับ คิดว่าเป็นอัลบั้มที่แสดงให้เห็นถึงความสดใหม่ของพวกเราสองคน และ(เป็นอัลบั้มที่)พยายามเพื่อแสดงให้เห็นในด้านที่ไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อนด้วยครับ
ชางมิน: สำหรับผม คิดว่าจะมอบความรู้สึกขอบคุณนี้เป็นของขวัญให้กับแฟนๆทุกคนที่อุตส่าห์สนับสนุนและรอโทโฮชินกิ ดังนั้นจึงทำอัลบั้มนี้ออกมาครับ
❤ คำว่า“TONE” นี้สื่อถึงสีด้วย จากที่ได้ฟังก็คิดว่าเพลงเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งสองคนรู้สึกอย่างไรกับคำชมในเรื่องดนตรีที่สมบูรณ์แบบคะ?
ยุนโฮ: เป็นการท้าทาย(ดนตรี)แนวใหม่หลายๆแนวที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยล่ะครับ ดนตรีแนวคลับก็มี ทั้งยังได้ลองท้าทายเพลงบัลลาดที่ยาว 6.45 นาทีด้วย แถมยังได้ลองแนวร็อคอีก คิดว่าจะดีมั้ยน้าถ้ามีเพลงไหนที่ทำให้แต่ละคนสนุกได้เยอะขึ้น? (คือต้องการจะสื่อว่าแต่ละคนชอบแนวเพลงไม่เหมือนกันดังนั้นแนวเพลงในอัลบั้มนี้จึงมีหลากหลายค่ะ) อันที่จริง ก็รู้สึกว่ามีเพลงที่ทำให้ทุกคนสนุกได้อยู่เยอะแล้วเลยรู้สึกพอใจครับ
ชางมิน: คิดว่าต้องพยายามอย่างนักเพื่อตอบแทนทุกคนที่คอยเฝ้าดูพวกเราเติบโตมาโดยตลอด พวกเราจึงใส่ความตั้งใจลงไปในเพลงต่อเพลงอย่างพิถีพิถันมากกว่าแต่ก่อนอีกครับ แล้วก็คิดว่าอยากแสดงให้เห็นในด้านความเป็นสุภาพบุรุษและความเป็นผู้ใหญ่ด้วยครับ
❤ คือคิดว่ามีทั้งพลังและความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น
ชางมิน: แค่ได้รู้สึกแบบนั้นก็ดีใจแล้วครับ แน่นอนว่าพอเหลือกัน 2 คนแล้วก็ต้องมีบางส่วนที่ไม่สามารถเติมเต็มได้ ก็เลยคิดว่า『TONE』เป็นอัลบั้มที่เตรียมมาด้วยความกังวลมากๆว่าจะใส่อะไรลงไปดี เพื่อเติมในส่วนที่ขาดนั้น และเพื่อนำข้อดีหรือเสน่ห์ของพวกเราออกมาใช้
❤ ถ้างั้นขอถามเกี่ยวกับเพลงนะคะ สำหรับเพลง『B.U.T (BE-AU-TY)』นี้เป็นเพลงที่ร้องด้วยความรู้สึกแบบไหนเหรอคะ
ชางมิน: อืม~ ผมคิดว่าทั้งคำตอบของทั้งผมและพี่ยุนโฮน่าจะเหมือนกันนะครับ (เพลงนี้)เป็นเพลงแดนซ์นัมเบอร์ที่รุนแรงเท่าที่เคยมีมาเลยครับ หายใจแทบไม่ทัน...ที่จริง คนเต้นเองเนี่ยล่ะครับที่หายใจแทบไม่ทัน.....
ยุนโฮ: ฮ่าๆๆๆ
ชางมิน: มีเพลงที่ลำบากสุดๆอยู่หลายเพลงเลยนะครับ แน่นอนว่าเพลงนี้มีท่าเต้นที่เหนื่อยแล้วก็หายใจลำบากมาก แต่ว่ามีจุดที่แตกต่างกับแดนซ์นัมเบอร์ก่อนหน้าตรงที่ พยายามที่จะยั่วยวนผู้หญิงอย่างมาก ก็ประมาณนี้ล่ะครับ อีกด้านหนึ่งก็คิดว่าน่าจะทำให้ทุกคนรู้สึกถึงเสน่ห์ของโทโฮชินกิได้ด้วย
❤ ในมิวสิควีดีโอเพลงนี้มีอารมณ์ไหนเหรอคะ?
ยุนโฮ: คือเป็นครั้งแรกเลยล่ะครับที่ได้ลองแสดงฉากแอคชั่น ตอนที่เตะไทคิกทันทีนั้น ครั้งแรกยังไม่เข้าใจเลยครับ(หัวเราะ) แต่ก็คิดว่ายังไงก็ต้องทำเพราะงั้นก็ต้องทำให้ได้ จากนั้นก็ได้ลองใส่คอนแทคเลนส์สีเทาด้วย แต่ว่าคอนแทคเลนส์เนี่ยเข้ากับตาผมได้ยากกว่าที่คิดน่ะครับ(หัวเราะ) แต่ถ้าจะให้พูดจากปากตัวเองเนี่ยมันก็จะน่าอายใช่ไหมล่ะครับ แต่ผมก็รู้สึกว่าทั้งฉากแอคชั่นและฉากเต้นนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัวเลยล่ะ ผมพอใจมากเลย
2. 「เพื่อที่จะข้ามผ่านขีดจำกัดของโทโฮชินกิเราต้องอัดเสียงแก้ไข」 (ยุนโฮ)
❤ สำหรับเพลง『Duet』 ชื่อเพลง “Duet” นี่สะท้อนอะไรในใจของทั้ง 2 คนหรือเปล่าคะ?
ยุนโฮ: เป็นชื่อเพลงก็เลยต้องเหมือนกับพวกผมใช่มั้ยล่ะครับ แบบนี้ก็เหมาะสมดีออกนะ แต่ว่ามันไม่ได้มีแค่นั้นหรอกครับ ความรักของแต่ละคู่เนี่ยก็คงไปได้สวย แต่ผมรู้สึกว่า(เพลงนี้) พูดถึงพลังของ “ความพอดีของคนทั้งคู่” ครับ เป็นเพลงที่อยากให้ทุกคนฟังจริงๆครับ
❤ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน มิตรภาพได้เปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าคะ?
ยุนโฮ: ถึงจะเคยพูดไปแล้วว่าอยู่ด้วยกันมาตั้ง 8 ปีแล้ว แค่มองตากันก็เข้าใจอีกฝ่ายได้ แต่จนถึงการเริ่มต้นกิจกรรมนี้มีส่วนที่เติบโตขึ้นกว่าที่แต่ละคน(เคย)เป็น นั่นก็คือแม้จะไม่ได้พูดอะไรแต่ว่าก็เข้าใจกัน ทั้งชางมินและผมเอง เราเชื่อใจกันมากกว่า(เชื่อใน)คำพูดครับ
❤ รู้สึกว่าผูกพันกันมากขึ้นใช่ไหมคะ?
ยุนโฮ: อืม ถ้าจะบอกว่าใช่มันก็ใช่ละครับ แล้วก็ระหว่างที่เตรียมอัลบั้มนี้ มัน(ความสัมพันธ์)ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกครับ สไตล์เพลงของชางมินกับผมเนี่ย 108 องศาเลยนะ.....
❤ (พูดพร้อมกัน) “108องศา”
ยุนโฮ: อ๋า~ (หัวเราะ) พอดีจะเปรียบว่า 180 องศาน่ะครับ (กลับเข้าเรื่องเพลงต่อ) ตอนแรกคิดว่า จะทำไงกันดี? เราต่างกันเยอะเลยทีเดียว ในทางกลับกันกลับได้สีใหม่ที่ออกมาสวยงาม ยิ่งไปกว่านั้นเราทั้งคู่ก็รู้สึกพอใจแล้วล่ะครับ สำหรับผลลัพธ์(ว่าอัลบั้มนี้เป็นยังไง) จากนี้ทุกคนก็จะได้เห็นกันครับแล้วทุกคนจะเข้าใจทันทีเลย
❤ งั้นมาต่อกันที่เพลง 『シアワセ色の花』นะคะ สำหรับเพลงนี้ร้องด้วยอารมณ์แบบไหนเหรอคะ?
ชางมิน: ตอนที่ได้ฟังเดโม่ของเพลงนี้เป็นครั้งแรก รู้สึกว่าเป็นเพลงบัลลาดที่มีระดับที่สูงขึ้นของโทโฮชินกิเลยนะเนี่ย อัดเสียงเพลงนี้ด้วยความจริงใจจากใจเราทั้งสองคนอย่างตั้งใจเลยนะครับ แต่ว่าถึงจะอัดเสร็จได้ในรอบเดียว ด้วยเวลาเพิ่งผ่านไปนิดหน่อย พี่ยุนโฮเค้าก็เอาแต่พูดกับคนอัดเสียงว่า 「อยากอัดแก้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ」เป็นเพลงที่อัดแก้มากที่สุดเลยล่ะครับ
❤ ทำไมยุนโฮถึงอยากอัดเสียงแก้นักล่ะคะ?
ยุนโฮ: พี่ไดเร็กเตอร์ก็ประมาณว่าโอเคแล้วล่ะครับ แต่คิดว่าการแสดงพลังเสียงของทั้งสองคนในเพลงยาว 6.45 นาทีแบบนี้เป็นเรื่องสำคัญน่ะครับ พอลองถามตัวเองดูว่า “ถ้าจะพูดถึงขีดจำกัดของโทโฮชินกิในตอนนี้แล้วล่ะก็ ไปได้ถึงไหนกันนะ?” ก็มักจะรู้สึกว่า 「ตอนนี้มันก็ดีแหละแต่ยังไงก็ต้องพยายามอีก 」 แบบนี้น่ะครับ
3. 「ในทัวร์อยากจะสื่อสารข้อความผ่านทั้งบทเพลงและการสร้างสรรค์ใหม่ๆ」 (ยุนโฮ)
❤ งั้นช่วยเลือกเพลงสัก 1 เพลงที่สนใจมาหน่อยค่ะ
ยุนโฮ: มีเพลงเยอะเลยอะ (หัวเราะ) สำหรับผมแล้วแน่นอนว่าต้องเป็นเพลงที่อัดแก้เยอะที่สุด เพลง 『シアワセ色の花』 ครับ ผมว่าเป็นเพลงที่เรา 2 คนตั้งใจอัดกันมากๆเลยล่ะ
ชางมิน: ผมชอบทุกเพลงเลยนะ แต่ถ้าจะพูดถึงเพลงที่มีความหมายมากที่สุดแล้วล่ะก็ต้องเป็นเพลง 『Why? (Keep Your Head Down)』 ครับ ผมว่าเป็นเพลงที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของโทโฮชินกิครับ
❤ แล้วสำหรับในอนาคต ในฐานะโทโฮชินกิมีเรื่องอะไรใหม่ๆที่อยากท้าทายไหมคะ?
ยุนโฮ: ได้เข้าร่วมงาน 「a-nation」 ของฤดูร้อนปีนี้ไปแล้ว ต่อไปก็คือ ถ้าทำทัวร์เดี่ยวให้ออกมาดีที่สุดได้ คงรู้สึกดีใจมากที่สุดเลยล่ะครับ
❤ ขอถามคล้ายๆกันนิดนึงนะคะ อยากทำกิจกรรมแบบไหนมากขึ้นเหรอคะ?
ชางมิน: สำหรับผมแล้วถึงตอนนี้จะยังไม่พอใจสักเท่าไหร่ แต่จะพูดก็พูดนะครับ ผมยังไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรให้ต้องมุ่งไปในระยะนี้เลย ไม่ใช่ว่าไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลยนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าตรงไหนถึงตรงไหนที่ผมยังไม่พอใจ ผมอยากเป็นศิลปินที่พัฒนาและเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ต้องดีกว่าตอนนี้ พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ แบบนี้น่ะครับ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงเป็นศิลปินที่พัฒนาต่อเนื่องไปไม่หยุด ถึงแม้มันจะยาก แต่ผมก็อยากเป็นแบบนั้นครับ
ยุนโฮ: ชางมินคุงพูดได้เท่ห์ทีเดียวนะ (หัวเราะ) สำหรับผมนอกจากนั้นแล้ว(ที่ชางมินพูด) ผมอยากเป็นศิลปินที่มีความสนุกด้วยครับ ที่คนเค้าว่ากันว่า “อัจฉริยะไม่ได้ชนะด้วยความพยายาม” (ตรงนี้เป็นสำนวนญี่ปุ่นค่ะ อาจแปลไม่ถูก100%น้า T T) ความพยายามที่ว่านั้นจะหมายถึงความสนุกรึเปล่านะ ในฐานะศิลปินแล้วเนี่ยไม่ใช่เอาแต่ร้องเพลง แต่ว่าต้องร่วมสร้างความทรงจำดีๆกับทุกคนด้วยครับ ผมก็เลยรู้สึกว่าอยากจะร่วมสร้างความทรงจำสนุกๆกับทุกคนนับแต่นี้เป็นต้นไป แล้วก็ยังอยากโชว์การแสดงเท่ห์ๆให้ดูด้วย! แบบนี้ล่ะครับ
❤ ปีหน้าตั้งแต่เดือนมกราคมก็จะมีอารีน่าทัวร์แล้ว ช่วยฝากอะไรหน่อยค่ะ
ชางมิน: เนื่องจากไม่ได้มาแสดงเวทีเดี่ยวต่อหน้าทุกคนนานแล้วนะครับ อยากแสดงให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงโทโฮชินกิครับ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงและการร้องที่ยกระดับขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถสื่อสารกับผู้ชมทุกคนได้มากขึ้น ดังนั้น(สิ่งเหล่านี้)จึงเป็นความรู้สึกขอบคุณที่จะตั้งใจบอกแฟนๆที่อุตส่าห์รอพวกเรามาเป็นเวลานาน ผมอยากให้การแสดงของเราออกมาประมาณนี้ล่ะครับ
ยุนโฮ: ฮา~
❤ พูดไปหมดแล้วเหรอคะ (หัวเราะ)
ยุนโฮ: ก็ชางมินเค้าพูดไปหมดแล้วหนิครับ (หัวเราะ) ผมกับชางมินเริ่มต้นมาด้วยกัน แน่นอนว่าต้องมีการแสดงเท่ห์ๆ...แต่ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะครับ ทั้งข้อความที่บอกถึงการมาอยู่ในจุดๆนี้ของโทโฮชินกิ การร้องเพลง และการที่ทุกคนเข้าใจในตัวพวกเราผมรู้สึกดีใจมาก ดังนั้นจึงพยายามอย่างมากที่จะสื่อสารสิ่งเหล่านี้กับทุกคนครับ
Source: http://smash.music.yahoo.co.jp/pow_dtl/itv/powyjm00467/3/
ความคิดเห็น