ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โหด มันส์ ฮา!! นศท.ญปี 4 พร้อมวิธีเตรียมตัวลุย

    ลำดับตอนที่ #5 : วันที่ 4 ณ เขาชนไก่

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 55


    วันที่ 4 ณ เขาชนไก่

                    วันนี้ก็เหมือนกับทุกวันตื่นมาทำภารกิจให้เรียบร้อย กินข้าวเช้าท่ามกลางแมกไม้เหมือนเช่นทุกที วิธีกินให้มีความสุขคือเวลาหยิบถาดมาแล้วอย่าดมถาดเพื่อนตรวจสอบความสะอาดอย่างเด็ดขาด!! เราเตือนคุณแล้ว จะตรวจไปทำไมคะในเมื่อคุณก็ล้างเองกับมือรู้ว่ามันสะอาดแค่ไหน =o= เพราะฉะนั้นถ้ายังอยากจะกลืนลงก็อย่าดมเลยค่ะ กลิ่นมันไม่พึงประสงค์หรอก เดี๋ยวจะพาลกลืนไม่ลงซะเปล่าๆ อ้อ! ยังไม่เคยเล่าวิธีล้างถาดเลยสินะ!! วิธีล้างถาดก็คือ…..

    1.             1. กินเสร็จแล้ว เทขยะทิ้ง

    2.             2. เดินไปต่อแถวจุ่มถาดน้ำแรก (ซึ่งสกปรกมาก ต้องใช้วิชามารจุ่มยังไงก็ได้ให้มือไม่สัมผัสกับน้ำ)

    3.             3. ใช้ฟองน้ำเน่าๆ ถูๆ สองสามทีอย่าบรรจงมากเดี๋ยวจะโดนเพื่อนข้างหลังเอาถาดโบกหัวให้ อย่าลืมล้างช้อนตัวเองด้วยนะ (เพราะมันมีแค่ 2 กะละมังแต่คนหน่ะ 500 กว่าๆ)

    4.             4. จุ่มน้ำล้างฟอง

    5.             5. จุ่มอีกที น้ำนี้ต้องให้สะอาดเพราะเป็นน้ำสุดท้ายแล้ว

    6.             6. จุ่มน้ำร้อนด้วยความระวัง จะเป็นกะทะเหมือนกะทะทองแดงตามผนังวัด จุดไฟสุมอยู่ข้างล่าง ต้องเดินข้ามกองฝืนอย่างระวัง (แล้วไม้ฝืนก็ยาวเหลือเกินนี่โค่นต้นไม้มาแล้วไม่คิดจะตัดเป็นท่อนเลยใช่ไม๊เนี่ย มันถึงได้ยาวเป้นเมตรขนาดนี้) ไม่งั้นจะหน้าทิ่มลงไปในกะทะได้ เป็นขั้นที่ระทึกใจสุดๆ ว่ามือเราจะโดนลวกไม๊ ไม่ก็น้ำจากถาดของคนอื่นจะกระเด็นมาโดนตัวเราไม๊?

    7.             7. เสร็จแล้วก็เดินเอาถาดไปเรียงไว้เป็นอันเสร้จสิ้นกระบวนการ


             เสร็จแล้วก็มารวมพลเพื่อจะตั้งแถวเดินไปลาดตระเวนต่อไป ครูฝึกก็ถามใครไม่ไหวให้ออกมา พุดซาก็แบบไหวดี ไม่ไหวดีคือเวลาพุดซาเดินมากๆเนี่ยจะปวดสะโพกค่ะ แก้ไม่หายซักที มันจะดังกึกๆ แบบเดินไปแล้วปวดตลอดอะ มองไปหาเพื่อนก็ดูท่าจะช่วยเราไม่ไหวก็เลยตัดสินใจแอดมิดตัวเองเป็นคนป่วยซะเลย ครูฝึกก็ปลอบใจไม่เป้นไรหรอก มาป่วยวันที่สี่ก็เก่งแล้ว แล้วก็นั่งรถกะบะไปกบครูฝึกก็ได้ไปถึงฐานก่อนเพื่อน


              พอไปถึงฐานก็เจอเพื่อนอีกกลุ่มที่นั่งรถเก๋งของครูอีกคนที่มาก่อนแล้วกำลังปิ้งข้าวจี่กันอย่างขมักเขม้น ครูฝึกก็เรียกให้ไปช่วยทำกับข้าว คือฐานนี้จะสอนการทำกับข้าวและการดำรงชีวิตในป่าค่ะ เพราะเย็นนี้เราจะต้องใช้ พุดซาก็จัดการปิ้งเผือก ปิ้งกล้วยไปตามเรื่องตามราว พอสุกก็จัดการแบ่งให้เพื่อนๆ ที่นั่งฟังครูฝึกบรรยายกันกิน


               แต่มันก็มีพวกที่ทำให้พุดซาหงุดหงิดเล็กๆอีกนั่นแหละ ไอ้พวกที่ชอบกั้กของไปให้แต่เพื่อนตัวเองอะ คือของมันก็ไม่เยอะนะ เพื่อนมีตั้งหลายร้อยทำไมต้องให้แต่พวกตัวด้วยอะ แล้วคนอื่นอะจะได้กินไม๊? แล้วเก็บไปซะเยอะเลย ทำตัวแบบ...เฮ้อ.....โตๆกันแล้วน่าจะคิดเองได้ ทำอะไรน่าจะเห็นแก่ส่วนรวมกันบ้าง


              พอเสร็จจากฐานนี้แล้วพุดก็เดินต่อไปยังฐานที่ต้องตั้งฐานลาดตระเวน ซึ่งก็ไม่ไกลกันมากประมาณ
    200 เมตรได้ หลังจากที่รอเพื่อนๆเดินไปกันหมดแล้ว ก็ค่อยๆเดินกระหย่องกระแหย่งไป พอไปถึงก็กินข้าวเที่ยงตรงจุดที่ครูฝึกจะจัดไว้ให้แต่ละชุดลาดตระเวน ชุดของพุดได้มาตุภูมิที่ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีร่มเลยแถมยังอยู่แนวหน้าติดกับป่าอ้อยอีก T^T อาหารมื้อนี้จะยังไม่ได้ทำเอง เป็นหมูยอกับแกงแพนง(มั้ง) รสชาติใช้ได้ หรือเพราะหิวไม่รู้ พอกินเสร็จก็ไปนั่งตากแดดซุ่มรอข้าศึกอย่างเงียบๆ แล้วก็นั่งตากแดดไปอย่างนั้นทั้งบ่ายอะ


               ก่อนอื่นครูจะให้แต่ละชุดยิงส่งตัวแทนมาหกคนไปทำการรบในเวลากลางวัน ซึ่งพุดเป็นคนป่วยเลยไม่ต้องไปก็นั่งเฝ้าฐานไป ขยับแล้วขยับอีก หลับแล้วหลับอีก กอดปืนจนแทบจะได้เสียเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว เวลาช่างผ่านไปช้าจริงๆ แดดก็จะร้อนไหน ทำใจแล้วว่าซันบลอคคงไม่ช่วยอะไร
    T____T และกลับไปก็ต้องเสียเงินฟื้นฟูผิวอีกหลายพัน เพราะผิวของพุดไวต่อแดดมากกกกกกกก ไวต่อทุกสิ่งอย่างแค่รอยข่วนตื้นๆ ยังเป็นแผลเป็นเลยอะ พุดเลยต้องเซฟตัวเองมากกว่าคนอื่นๆ


               ถ้าเรามีเสียงดังหน่อยครูฝึกก็จะยิงปืน ไม่ก็จุดระเบิดให้เราเงียบเหมือนอยู่ในสงคราวจริง แล้วก็จะต้องมีรหัสผ่านอะไรแบบนี้ แล้วเหมือนกองร้อยพุดซาจะเสียงดังมากมั้ง? เลยโดนครูเรียกไปเทศซะหนึ่งกรรณใหญ่ เสร็จแล้วก็ปล่อยมานั่งตากแดดอีก จนบ่ายสี่ก็ให้ส่งคนไปเอาของมาทำกับข้าวกินกัน


                 ตอนที่เพื่อนไปเอาวัตถุดิบคนที่เหลือก็ก่อกองไฟกันค่ะ รีบมาก ฮ่าๆๆ ก่อง่ายกว่าที่คิด แต่คอนโทรไฟไม่ได้โหมกระหน่ำแรงมาก เสียวก็ไอ้ต้นหนามที่ช่างขยันแผ่กิ่งก้านมาเกะกะเหลือเกิน นี่ขนาดเอาออกไปเยอะแล้วนะเนี่ย ยังไม่หมดเลยอะ (วิธีเอาออกก็มือสดๆเลยค่ะ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้มีดรึเครื่องทุ่นแรงอะไรทั้งนั้น)

                 
    แล้วอยู่ๆไม้ที่หามาทำฟืนก็แตกประทุ เปรี้ยะ!! เศษไม้กระเด็นมาใส่หลังต้นคอพุดซานี่ค่า ทั้งแสบทั้งร้อน T___T โชคดีแต่ดวงซวยสิน่า ดีนะที่หันหลังอยู่ ถ้าหันหน้าไปแล้วกระเด็นใส่ตานี่งานงอกเลยนะ

     
                   ไฟโหมลุกพรึบ
    !! พร้อมลมที่ก่อนหน้านี้ไม่มีมาแม้ซักกระผีกจู่ๆก็พัดมาวูบบบบ !


                  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

                 ผ้ายางที่เอามาขึงเป็นหลังคาเกือบติดไฟค่า รีบเอาน้ำเทดับกันจ้าละหวัน เกือบเผาป่าแล้วไม๊หละ (ห่วงว่าจะเป็นการชาปนกิจตัวเองน่าจะดีกว่า
    =.,=)



                หลังจากเหตุการณ์สงบ ไฟหมดและน้ำก็หมดด้วยก็มีตัวแทนเอากระติกน้ำของทุกคนไปเติมน้ำ ส่วนพวกที่ไปเอาวัตถุดิบก็กลับมาพอดี พุดซาก็กากอีกแล้วค่ะ ขนาดทำกับข้าวปกติ สะดวกสบายยังทำไม่เป็นเลย แล้วนับประสาอะไรกับการหุงข้าวด้วยหม้อสนาม
    T_____Tเลยทำหน้าที่เฝ้ายามอย่างเดียวค่ะ


                ชีวิตชั้นช่างมีค่าอะไรอย่างนี้ โครตทำประโยชน์เลย
    V___V โชคดีที่มีเพื่อนเก่ง (ชีวิตนี้โชคดีตลอด ยกเว้นตอนอิเศษไฟนั่นกระเด็นมาโดน ฮ่าๆๆ ) ตั้งแต่ไปรับวัตถุดิบมาละ ได้มาก็ตรวจของของที่ได้มาก็จะมี....


             
     เนื้อหมูกับเนื้อไก่ถุงใหญ่ พอที่จะกินได้สิบคน แต่ละชุดจะมีจำนวนคนในชุดไม่เท่ากันนะ อย่างชุดของพุดซาเนี่ยคนเยอะสุดคือ 11 คน ดังนั้นเลยต้องกินประหยัดๆ กันหน่อย บางชุดก็มีแค่ 7 คน

    มะนาวสามลูก

    พริก ใบมะกรูด ตะไคร้ซอย ข่าซอย

    พริกแกง


           อ้าว...ไม่มีน้ำปลา?? ได้มะนาวมาแต่ไม่มีมีด คำถามคือจะใช้อะไรหั่น แล้วตอนที่นั่งปิ้งมันกันตอนเช้าครูฝึกก็เล่าว่า.....

    เนี่ย...มันมีอยู่ผลัดนึง ไอ้เด็กวิศวะจุฬา เดินมาขอมะนาวเพิ่มบอกว่ามันไม่เปรี้ยว ครูก็งงให้ไปตั้งสามลูกแล้วทำไมมันยังไม่เปรี้ยวก็ให้มันไปอีกสอง มันก็เดินมาอีกครูๆ มันยังไม่เปรี้ยวเลย ครูก็ชักจะยังไงแล้วมะนาวห้าลูกมันจะไม่เปรี้ยวได้ไงวะก็เดินไปดู มันทำต้มยำยังไงรู้ไม๊ มันใส่มะนาวลงไปทั้งลูกเลย ห้าลูกลอยอยู่ในหม้อไม่เห็นหมูเลย 55555

    ตอนฟังก็ฮากันกลิ้งอะ อะไรวะเรียนตั้งวิศวะจุฬาใส่มะนาวไปทั้งลูก สงสัยคุณชายจัดวันๆคงเรียนเก่งอย่างเดียวอะไรแบบนี้ พอถึงคราวตัวเอง.....ไม่แปลกใจละว่าทำไมวิศวะจุฬาถึงใส่ลงไปแม่มทั้งลูก ก็ดูเด๊ะ!! จะให้ใช้ปากกัดเอาหรอ รึใช้หินหั่นเอา??? รู้สึกเห็นใจไอ้รุ่นวิศวะจุฬานั่นขึ้นมาตะหงิดๆ.....

    ไม่ทันที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยก็มีครูฝึกเดินมาก็ถามว่าจะเอาน้ำมะนาวออกมาได้ยังไง ครูก็บอกด้วยน้ำเสียงเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา

    เอ้า....ก็ใช้ช้อนผ่าสิ

    โธ่...ครูขา ก็หนูเคยใช้ช้อนผ่ามะนาวที่ไหนหละคะ หนูจะรู้ได้ไงหละค้า

    พอได้น้ำมะนาวแล้ว ไม่มีน้ำปลาก็มีเพื่อนอาสาไปล่าน้ำปลา ที่ใช้คำว่า “ล่า” เพราะน้ำปลาหายากมากกกกกกก์ อย่างกับต้องไปหมักเองงั้นแหละ ทีหลังต้องเตรียมไปเอง ไปนานแสนนานได้มานิสสสเดียว ไม่รู้ว่าไอ้พวกที่เอาไปตอนแรกมันเอาไปพอกหน้ารึยังไงมันถึงได้เหลือมาก้นขวดขนาดนั้น (ขอให้ไอ้คนงกน้ำปลาเป็นโรคไต โฮะๆๆ) แต่ได้มาก็โชคดีแล้วหละ เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็มีชุดอื่นมาถามหาน้ำปลาจากชุดของพุดเหมือนกันซึ่งก็คือหมด อดไปละกัน มีหลายชุดเลยที่ไม่มีน้ำปลาแล้วก็กินไปแบบจืดๆ เปรี้ยว เผ็ดๆ (ไม่ท้องเสียนี่สุดยอดแล้ว)

    พอได้ของครบก็ตกลงว่าจะทำเมนูอะไรกันดี ผลสรุปคืออะไรก็ได้ขอให้แดรกได้เป็นพอ เพื่อนที่เป็นแม่ครัวเลยจัดตามนั้น ได้ต้มยำหมูผสมไก่ (ใส่รวมกันแม่มเลยเลือกไม่ถูก) กับผัดพริกแกงหมูและไก่ แล้วก็มาม่าที่พุดเตรียมไป ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่เอามาม่าไปคนเดียวนะเนี่ย

    มื้อนั้นเป็นมื้อที่อร่อยกว่าที่คิดมาก ข้าวหุงสวยดี ไม่เละ ไม่ไหม้ สวยกว่าข้าวที่ทหารหุงมาให้กินทุกมื้ออีก ส่วนกับข้าวก็อร่อยแบบที่ว่าไม่คิดว่าจะรสชาติดีขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณเพื่อนๆมากกก ซาบซึ้ง >__< (เพราะถ้าให้พุดทำมื้อนั้นคงไม่ได้กินละ ฮ่าๆๆๆ)

    พอกินข้าวเย็นเสร็จก็นั่งเฝ้าเวรต่อ ซักประมาณทุ่มกว่าๆได้ คือฟ้ามืดหมดแล้วก็เดินออกจากป่า เตรียมตัวเดินกลับกองพัน พุดก็แบบคิดว่าตัวเองน่าจะเดินไหวเพราะก็นั่งเฉยๆมาทั้งวันแล้ว แต่พอเดินได้ยังไม่ทันจะพ้นแนวป่าเลย คือแบบเพื่อนนนนนนนนนนนนน จะเดินเร็วไปไหนวะคะ?? พุดเดินตามไม่ทันค่า สุดท้ายครูฝึกเห็นมันมืดแล้วเดินช้าขนาดนี้กลัวหลงก็เลยให้นั่งรถพยาบาลกลับ ซึ่งก็กลับหลังสุดเลยเพราะรถพยาบาลต้องขับตามหลังกลุ่มสุดท้าย แต่กองร้อยพุดเดินเป็นกองร้อยแรก พอไปถึงโรงนอนเพื่อนๆก็อาบน้ำกันเสร็จหมดแล้ว T^T

         นั่งรถกลับก็ถึงได้รู้ว่าทางที่เพื่อนๆเดินกันมาเนี่ยไกลมากกกกกกกก ต้องข้ามเขา ผ่านป่าอ้อย ผ่านเขื่อนด้วย ซึ่งเขื่อนที่ว่าเนี่ยเป็นเขื่อนที่ยังสร้างไม่เสร็จ แล้วเค้าเอาดินมาถมๆๆ กันให้เป็นทางเดินข้ามเขื่อนเลย แบบมองไปอีกฝั่งน้ำเต็มตลิ่งปริบๆ ส่วนอีกฝั่งเป็นปากเขื่อนซึ่งลึกมากกกก และมีน้ำไหลซึมอยู่หน่อยๆ ในใจก็คิดว่าถ้ามันพังตอนที่เราอยู่ตรงกลางเขื่อนขึ้นมาจะตายไม๊ว๊าาาาาา Y^Y

    พุดไปถึงพอคืนปืนเสร็จก็รีบไปอาบน้ำเลยกลัวอาบไม่ทันสะโพกก็เจ็บ แต่ดีตรงที่ห้องน้ำโล่งแล้วเพราะเพื่อนๆอาบกันเสร็จหมดแล้วก็เลยอาบได้สบายๆ คืนนี้เค้าให้เวลาเยอะมากเป็นชั่วโมง (ปกติ 20 นาทียังไม่ถึงเลย) เพื่อนคนอื่นๆที่เค้าทำกิจเสร็จหมดแล้วก็นั่งคุยกัน พุดก็จัดกระเป่าตัวเองไป เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับแล้วครูเลยให้เวลามากหน่อยเพื่อจัดกระเป๋า พุดก็เตรียมเลยอะไรจะทิ้งที่นี่บ้าง เก็บขยะรวมๆ ใส่ถุงไว้ แยกไว้ต่างหาก พอมีเวลาเหลือก็โปะโลชั่น เผื่อมันจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นบ้าง (หวังลมๆแล้งๆมาก กลับมาเป็นอาทิตย์แล้วผิวยังไม่ฟื้นเลย)

    ซักพักครูประจำโรงนอนก็เรียกไปรวมนอกโรงนอนชี้แจงเรื่องบลาๆๆ ประมาณว่าพรุ่งนี้เช้าต้องขึ้นเขาชนไก่นะ (รด.ญปี 3 จะไม่ได้ขึ้นเขาชนไก่เหมือนรด.ชนะ จะมาขึ้นตอนปี4 จ้า) เสร็จแล้วก็ปล่อยไปนอน ชีวิตสุขสบายกว่าปีที่ผ่านมามากๆ (เน้นย้ำเรื่องนี้สุดๆ และคาดว่าปีหน้าก็น่าจะสบายขึ้น)

    คืนนี้ก็นอนหลับปุ๋ยเลย เพลียกับแดดเมืองกาญมาก ไม่ไหวแล้ววว @^@ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×