ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Royal Road นิยายแปล online Moonlight Sculptor

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter six : The Meaning Behind Royal Road (5/10 23.03)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 56


    Chapter Six: The Meaning Behind Royal Road

    ...............................

    ในตอนนี้นั้นWeedสามารถรู้ทุกๆอย่างใน Memphis Hall ชั้นหนึ่งได้เหมือนบ้านตัวเอง เขาสามารถรู้ได้อย่างแม่นยำว่า Death Knight จะออกตระเวณที่ไหนเมื่อไหร่ และจุดที่ดีที่สุดหรับหรับการล่า Skeleton Knights

    การเริ่มต้นล่าโดนไม่มีปาตี้นั้น สิ่งหนึ่งที่Weedกลัวก็คือโดนซุ่มโจมตีระหว่างที่เขาไม่มีเลือดและมานา ด้วยเหตุนี้เองที่ Weedต้องหามุมหลบเพื่อพื้นมานาและเลือดด้วยยาหรือสมุนไพร

    เขาเข้าไปยังจุดปลอดภัยที่ศัตรูของเขาไม่ทีทางหาพบ ผ้าพันแพลและสมุนไพรถูกใช้อย่างชำนาญ อย่างไรก็ตามความรู้ในการหลบซ่อนตัวนั้นเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมากเขาได้เลือกที่เหล่านี้จากการพิจารณืและผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้เขาก็ไม่เสียใจที่เลือกจุดเหล่านั้น

    "ที่นี่สินะ" เมื่อWeedขึ้นไปยังทางเหนือของดัน แล้วก็พบทางเข้า

    /////////////////////////////////////////////////////////

     You have completed Memphis Hall B1 Floor Map for the first time.
    Your Fame has increased by 20 (+20 Fame)

    ////////////////////////////////////////////////////

    ในตอนแรกที่Weedเข้ามาที่ Lavias นั้นได้ซื้อแผนที่สถานที่ต่างๆที่เข้าไปได้ถูกบันทึกไว้ในแผนที่เหล่านี้ ตอนนี้แผนที่ของMemphis Hall’s มีราคาสูงมากถ้าหากขายให้พวกผู้เล่นเนื่องจาก Weedมันทึกที่ต่างๆไว้อย่างละเอียด ไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสทำเงินจากสิ่งเหล่านี้เลย

    Weedได้เดินทางออกจาก Memphis Hall และเดินทางขึ้นไปทาง the Cave of Dead Warriors ซึ่งมาไม่ค่อยยากเท่าไหร่ในเวลานี้Weedได้เข้ามายัง Cave และได้ยินเสียงน่าสยดสยองขวัญ

    'มันคืออะไร' เขารู้สึกถึงเงาของอะไรบางอย่างที่ครางต่ำอยู่ ในทัศนวิศัยที่มืดมิดยังคงมีเสียงดังที่ได้รับ

    'รู้สึกไม่ค่อยดีเลย'  Weed เคลื่อนที่อย่างระมัดระวังพร้อมเลื่อนมือขวาไปจับดาบเผื่อมีอะไรสักอย่างออกมาจากเงามืด

    'ฉันไม่ใช่คนแรกที่ค้นพบดันเจี้ยนแห่งนี้ คงมีใครสักคนที่พย Lavias เป็นคนแรกคงค้นพบที่แห่งนี้เป็นคนแรกเช่นเดียวกัน' เมื่อระยะทางใกล้เข้ามามีพวก Undead มาขวางทางWeedไว้

    "มนุษย์ เจ้าเป็นอัศวินอย่างนั้นหรือ"   มันใหญ่โตมากกล้ามเนื้อของมันใหญ่และมากกว่าพวกของ skeleton knight และพวก lizard man เยอะเลยทีเดียว เขามีไหล่ที่กว้างและดูอันตราย แต่ที่คอของมันดูเหมือนไม่มีอะไรมันเป็นมอนเตอร์ที่ประหลาดมากเนื่องจากหัวของมันได้ถูกถือไว้โดยแขนซ้ายมันมันนั่นเองและสามารถพูดได้

    ‘A Dullahan, huh.’ Weedได้ยอมรับฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากมันมีเลเวลสูงถึง 140

    "ฉันไม่ใช่อัศวิน" Weedตอบ

    "แล้วเจ้าเป็นใคร"

    "ผมคือช่างเกะสลัก"

    "ช่าง เกะสลักเรอะ" ใบหน้าของมันปรากฎความผิดหวังอย่างชัดเจน Dullahans ชอบที่จะพัฒนาความสามารถของตัวมันเองในการต่อสู้มันเป็นอัศวินที่เหมือนกว่า skeleton kinght "เจ้าเป็นเพียงช่างเกะสลัก ช่างน่าผิดหวังอะไรเช่นนี้" มันพึมพำ Weedได้ถูกมันประเมิณความสามารถไว้ต่ำเป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้ปติมากรดูน่าสงสารไปเลยทีเดียวในหมู่มนุษย์ มันจึงเพิงเฉยต่อเขา

    ผู้สร้างเกมส์ Royal Road คือUnicorn Corporations พวกเขาได้มีความขัดแย้งกันตอนปล่อยตัวเกมส์ มันเป็นเกมส์เสมือนจริงเกมส์แรก และเป็นแบบแฟนตาซี 100%  แต่ทำไมนั้นมันถึงมีชื่อเกมส์ว่า Royal Road ไงไม่มีใครที่สามารถจะปกครองทุกทวีปและพื้นมหาสมุทรได้ เกมส์นี้จึงเปรียบสเหมือนเส้นทางที่จะทำให้กลายเป็นมหาจักรพรรดิได้ เหมือนดั่งเช่น Genghis Khan, Napoleon, or Alexander the Great could achieve และเกมส์นี้จะกลายเป็นเส้นทางสู่วามฝัน

    มันเป็นความหวังที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ จักรพรรดิที่จะพิชิตทุกทวีปให้เป็นหนึ่งเดียว มันสอนคนให้ผันและคาดหวังในสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นอยากจะเป็นนั่นคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า Royal Road

    คนแรกที่สามารถพิชิตแผ่นดินทั้งหมดได้จะได้รับเงินรางวัล 10% ของ เงินที่ Unicorn Corporations หามาได้ภายใน 1 เดือน นี่คือผลรายได้มหาศาล เฉพาะในเกาหลีเพียงอย่างเดียวคนเล่นก็มากกว่าล้านคน ในญี่ปุ่น USA EU รวมๆกันแล้วมากกว่า 100 ล้านคน ทุกๆคนจ่ายเงินให้แก่บริษัทค่ารายเดือน 300 USD ต่อเดือน มันเป็นการยากเลยทีเดียวที่จะนับเงินรวมทั้งหมด ดังนั้น 10% ของมันจึงมีค่ามากมหาศาลสามารถทำให้คนที่ได้รับรางวัลกลายเป็นเศรษฐีได้เลย

    นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่ใน Royal Road นั้นเลือกสายอาชีพเป็นสายต่อสู้เกือบทั้งหมด อยากจะจับดาบเพื่อขึ้นเป็นจักรพรรดิ ดังนั้นพวกของ Blacksmith กับพวกช่างฝีมือพ่อค้าดูต้อยต่ำลงไปเลยทีเดียวเนื่องจากความสามารถในการต่อสู้ต่ำ และยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงพวกปติมากรกับพวกศิลปะ อย่างWeed เป็นต้น

    ไม่ต้องมีคำพูดอะไร Weed จับดาบ Clay word ปรากฎออร่าสีน้ำเงินจากดาบของมันออกมา Clay word นั้นมีความสามารถพิเศษคือสามารถ slow ศัตรูได้  ทันใด นั้น Weed ยกดาบกัน การโจมตี

    *Slam!*

    /////////////////////////////
    Clay Sword’s durability has decreased.
    /////////////////////////////

    ข้อความได้ปรากฎมาพร้อมกับแรงที่สั่นสะเทือนไปถึงแขนของ Weed เลยทีเดียว กุเพิ่ซ่อมดาบเสร็จเองนะครับ แต่การโจมตีครั้งเดียวกลับทำให้ควานทนทานลดลงเลยทีเดียว จนมันดูเหมือนความพอเศษของ Dullahan นั้นทำให้ความแข็งแกร่งของเขานั้นกากลงไปเลยทีเดียว

    "จะต้องไม่แพ้ Sculpting Blade! " Weed โจมตีสวนกลับไปอย่างทันที ทั้งสองพลัดกันแลกเปลี่ยนการโจมตีอย่างว่องไว Weedซึ่งพร้อมไปด้วยความคิดที่จะฆ่าได้เล็งเห็นถึงบางอย่างที่สำคัญที่มีความสำคัญ การต่อสู้จะต้องจบลงอย่างรวดเร็วเท่าที่เป็นไปได้ นั่นเป็นเป็นวิธีเดียวที่จะลดความเสี่ยงของศัตรูที่กำลังจะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น สำหรับ Weed ที่ทำการล่ามาด้วยตัวคนเดียว Dullahan หรือมอนเตอร์ต่างๆนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรเลยนอกจากมีแต่ปัญหาเท่านั้น Weed สามารถที่จะสามารถสร้างงานศิลปะในขณะที่เขาว่างได้ทุกเมื่อ นั่นหมายความว่าเขาต้องลดเวลาของการต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    *Bash!* Dullahan ใช้สกิลไปกับการเหวี่ยงขวานของมัน กระแทกให้ Weed ถอยหลังกลับเป็นทางยาว

    “Devil’s Strike!” Dullahan คำรามขณะใช้สกิลต่อเนื่องใส่ Weed ขวานของมันได้ลอยขึ้นไปในอากาศและหมุนเหวี่ยงกลับมาใส่เหมือนมันบินได้ แม้ว่า Weed จะพยายามกลบเลี่ยงการประทะนั้นเขาก็ยังต้องเสียเลือดไปกว่า 300 จากลมประทะเพียงอย่างเดียว แต่หาก Weed ใช้ Seven Celestial Footsteps นั้นเขาคงหลบได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะรับความเสียหาย เนื่องจากเป้าหมายของเขาคือต้องการเลื่อนระดับของ ability ของความอดทนและพลังป้องกัน

    ตอนนี้ถึงคลาวของ Weed แล้ว

    “Triple!” การโจมตีแรกนั้นพลาดเป้า ระหว่างที่การโจมตีครั้งที่สองที่ตามมามีความอันตรายมากกว่าเนื่องจากมาจากทิศทางตรงกันข้าม แต่ศัตรูของเขานั้นก็สามารถที่จะหลบทั้งสองท่าได้ เป็นผลให้ Weed ทำการโจมตีด้วยความรุนแรกจากด้านล่างสู่ด้านบนของตัวมัน

    จากการที่มันเหวี่ยงขวานขึ้นไปในอากาศและขวานของมันพุ่งกลับมาเหมือนมูนเมอร์แรงเข้ามาสู่มือของมันทำให้มันสามารถรับการโจมตีครั้งที่สามของ Weed ได้ ในทันใดนั้น ดาบของ Weed ได้ตัดผ่านหน้าอกของ Dullahan จนเกิดการโจมตีติดต่อการห้าครั้ง (-,- สี่ไม่ใช่เหรอ แต่ก็นะมันอาจตวัดขึ้นลงก็ได้มั้ง) Triple สกิลของ Weed จึงมีการพัฒนา mastery เพิ่มขึ้นไปอีก

    Dullahan นั้นามารถรับการโจมตีครั้งแรกได้ แต่สองครั้งถัดไปนั้นทำให้มันมี hp ลดลงไปกว่า 20% มันตกอยู่ในความบ้าคลั่งที่จะพลักดันWeedกลับโดยใช้สกิล bash ซ้ำอีกครั้ง แต่ตอนนี้นั้นWeed ก็รอจังหวะสกิลของมันอยู่ และฟันสวนกลับไปเป็นทางที่ด้านข้างของ Dullahan อย่างรวดเร็ว

    "แม้งยังไม่ตายอีกเหรอ Sculpting Blade!" แสงสีขาวเหิดขึ้นล้อมรอบดาบของ Weed แล้วกลายมาเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง เลือดของDullahan ลดลงฮวบฮาบกลับการโจมตีครั้งนี้ มันพยายามที่จะสวนกลับแต่Weedสามารถหลบได้ทุกอย่าง

    Weed สามรถดู footstep ของมันและรู้ได้ว่ามันจะใช้ท่าไหนโจมตีมาดังนั้น Weedจึงสามารถที่จะหลบการโจมตีของมันได้ ในท้ายที่สุดแล้ว Dullahan ก็ไม่เป็นศัตรูที่น่ากลัวอีกต่อไปสำหรับ Weed แม้ว่าช่องว่างระหว่างเลเวลจะมากแต่เขาก็สามารถทนแทนได้ด้วยอาชีพและการฝึกฝนต่างๆ หากดูจาก stat แล้วจะพบได้ว่า Weedอยู่เหนือกว่า Dullahan โดยเฉพาะพละกำลังนั้น Weedอยู่ในเลเวลเดียวกันกับ Dullahan ขอบคุณสำหรับนั่น skeleton mage เวล 180 ยังน่าลำคาญกว่านี้เลย

    พวก mage กลับเป็นปัญหาสำหรับการต่อสู้เป็นอย่างมากเนื่องจากพวกมันมีเวทย์จำพวก curses หากเมื่อมี Irene ที่เป็น Priest อยู่ก็เป็นเรื่องจากดายในการปลดคำสาปหเล่านั้น แต่ตอนนี้ Weed สามารถที่จะแก้คำสาปเหล่านั้นได้โดยการใช้ยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นหลังจากจบการต่อสู้ ราคาของยาแก้คำสาปนั้นขวดละ 3 silvers มันเป็นส่วนที่ทำให้การลดรายได้ของ Weed ดังนั้น Weed จึงเกลียดพวก skeleton mage

    “Uwwagggh...” เวลาผ่านไปสักพักร่างกายของมันก็กลายเป็นแสงสีเทาหายไปพร้อมๆกับม้าของมัน

    “Phew... ง่ายกว่าที่คาดไว้นะเนี่ย แต่แค่เพียงตัวเดียวก็สามารถทำให้เราเลือดลดไปกว่า 40% ได้ มันจะเป็นการเสี่ยงมากถ้าเราเจอมันพร้อมกันถึงสองตัว" Weed มุ่งตัวไปยังที่หลบหลังจากเก็บของทั้งหมดที่ดรอปมาจาก Dullahan แล้ว

    "มาเกะสลัก Dullahan ดีกว่า" ทักษะการเกะสลักของ Weed จะเพิ่มขึ้นน้อยมากเมื่อเขาเกะสลักรูปที่เขาเคยเกะสลักมาก่อน แต่หากเป็นการเกะครั้งแรกนั้นค่าของการเกะสลักและศิลปะ Weed หยิบ มีดZahabขึ้นมาพร้อมกับเศษไม้แล้วเริ่มเกะสลักออกมาเป็นรูป Dullahan ที่เขาเพิ่งได้เห็นไป

    "มันเจ๋งเลยทีเดียว ถ้าเลเวลของทักษะการเกะสลักจะเพิ่มขึ้นไปถึงขั้นกลาง" Weed คิดตอนนี้ทักษะของเขามาหยุดอยู่ที่ 99% จะขึ้นไปเลเวล 10 แล้ว เขาได้เกะรูปปั้น 5 ชิ้นของพวกตัวมีปีกทั้งหลาย ดังนั้นเขาคิดว่าตอนนี้มีโอกาสเป็นไปได้เลยทีเดียวที่เขาจะเลเวลอัพ "โปรดช่วยให้ฉันเวลอัพถึงขั้นกลางทีเถอะ" Weed ขอหลังจากที่เขาเกะรูปของDulahan เสร็จกับอัศวินที่ตัวสีคล้ำดวงตาอันหน้ากลัวพร้อมกับดาบใหญ่

    *Ding!*

    //////////////////////////////////////////
     Your Sculpting Skill has reached level 10, Intermediate.
    You can now craft using special metals and gemstones (Pearl, diamond, ruby, etc.).

    For your class, Moonlight Sculptor, the current skills and stats will be affected:
    ?         Effect of Sculpting Blade has increased by +50%.
    ?         Additional effects have been added to Sculpting blade’s skill.
    ?         Mana cost for Sculpting Blade has been halved.
    ?         All stats have increased by 10.
    ?         Your Fame has increased by 20.
    ?         Art Stat has increased by 20.
    ?         You have learned Skill: Power Break.
    //////////////////////////////////////////////

    Weedขับไล่ความดีใจของเขา ไม่มีคำใดเลยที่จะสามารถบรรยายความรู้สึกของ Weed ในตอนนี้ได้ ความเสียใจและความโดดเดี่ยวที่เชามีอาชีพนักเกะสลัก ความอัปยศอดสูและดูถูกที่เขาได้รับจากการที่เขามีอาชัพช่างเกะสลัก ตอนนี้ความรู้สึกโกรธของได้ได้จากหายไปในอากาศ (เห็นเงินลอยมาเลยนะ 55)

    ตอนนี้เขาได้เลื่อนสกิลการเกะสลักขั้นกลางมาแล้ว อาชีพของเขาคือช่างเกะสลักซึ่งตอนแลกนั้นเขาอยากจะทิ้งมันในตอนแรก ตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นโชคชะตา ทักษะSculpting Bladeนั้นนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม ทุกครั้งที่ Weed ได้ใช้สกิลนี้ สกิลของการเกะสลักนั้นเพิ่มขึ้นทีละนิดหลังจากที่เขาใกล้จะเบื่องานเกะสลัก สลิลที่อัพขึ้นมาถึงขั้นกลางนี้ทำให้ Sculpting Blade ขึ้นมาสู่ขั้นกลางเช่นเดียวกัน

    “Hmm,มี ability เพิ่มเข้ามา Information. Skill. Sculpting Blade!” <<<<< ใช้คำสั่งแสดงข้อมูลในเกมส์ครับ

    ///////////////////////////////////////
     Sculpting Blade Level 7 (50%): Zahab’s visionary sword skill, carried on by those destined to carve the invisible or intangible.
    Defends against magic of lower mastery than Sculpting Blade. When spells are absorbed, the caster only incurs 50% of original mana cost.
    Cost: Sustained - 25 mana per second.
    //////////////////////////////////////

    Weedได้แต่หัวเราะ สำหรับอัศวินแล้ว เมจเป็นคู่ต่อสู้ที่สู้ยากที่สุด เนื่องจากสกิลที่ระยะไกลนั้นเป็นสิ่งที่หลบได้ยากมาก แต่ตอนนี้นั้น Sculpting Blade สามารถที่จะดูดซับเวทย์เหล่านั้นได้ แม้ฝ่ายตรงข้ามจะใช้มานาครึ่งหนึ่งของเขา มันก็ดีเป็นร้อยๆเท่ากว่าโดนโจมตี

    "ตั้งแต่มานาในการใช้สกิล Sculpting ลดลง บางทีฉันสามารถที่จะใช้ Triple หรือ Backstab อย่างต่อเนื่อง" Sculpting Blade ถูกใช้เป็น บัฟ มากกว่าการโจมตี การผสมผสานระหว่างSculpting Blade กับ the Imperial Formless Sword Technique เป็นการใช้มานาอย่างมหาศาล แต่ Weed คาดไว้ว่าผลลัพธ์คงออกมาอย่างน่าทึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ยักมีทักษะ Sculpture Destruction(ทำลายปติมากรรม)

    “Information: Sculpture Destruction!” <<<< เรียกดูหน้าต่างสกิล

    //////////////////////////////////////
    Sculpture Destruction: Sculptor’s skill
    The anger involved in destroying a self-made sculpture is converted to strength for one day. Art stat will temporarily serve as a battle related stat.

    Warning: Fame will drop and the corresponding points will be deducted from Art stat.
    Destruction of ordinary statue: Art stat x2 and conversion to STR. Art stat -1, Fame -20.
    Destruction of fine statue: Art stat x4 and conversion to STR. Art stat - 5, Fame -100.
    Destruction of great statue: Art stat x6 and conversion to STR. Art stat -10, Fame -200
    Destruction of masterpiece: Art stat x20 and conversion to STR. Art stat -30, Fame -1000.
    /////////////////////////////////////

    ค่าstat ของart นั้นจะถูกนำไปคำนวน str ซึ่งขึ้นกับประสิทธิภาพของsculpture destroyed

    การลำลายปติมากรรมธรรมดานั้นจะแปลงครึ่งหนึ่งของค่าศิลปะไปเป็น strength หรือ dexterity สำหรับหนึ่งวัน ในขณะที่การทำลายรูปปั้นที่ดีนั้นจะได้ผลสี่หรือหกเท่าของArt ซึ่งเปลี่ยนไปเป็น strength หรือ dexterity

    มันเป็นเรื่องปกติทั่วของสกิลของอาชีพนี้เพราะมีค่า str ที่ต่ำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วช่างเกะสลักทั่วไปจะมีค่าของ Art สูงอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพวกเขาเมื่อเขาออกไปเก็บเลเวลเนื่องจากพวกเขามี stat ที่ใช้ในการต่อสู้ต่ำมาก แต่สกิลนี้สามารถทำให้พวกเขาออกไปต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก แต่ปัญหาใหญ่ก็คือต่า Fame และ Art จะลดลงเมื่อใช้อย่างถาวร

    ค่า Art นั้นเพิ่มขึ้นยากมาก นั่นหมายความว่าจะใช้สกิลนี้ก็ต่อเมื่อถึงคลาวจำเป็นจริงๆเท่านั้น มันมีการลงโทษอย่างรุนแรงสำหรับการทำลายปติมากรรมดังนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะตัดสินใจใช้สกิลนี้

    สกิลอย่างอื่นใดก็คือ double-edged sword ที่ Weed เลือกที่จะเก็บมันไว้และจะไม่ใช้ str ที่เพิ่มขึ้นชั่วคลาวนั้นไม่ใช่พลังที่แท้จริง โดยแท้จริงแล้วเมื่อไม่มีSculpting Destruction Weed ก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่เมื่อมีสกิล Sculpting ที่เพิ่มขึ้นไปถึงขั้นกลาง ค่าแสตดทุกอย่างของเขาเพิ่มขึ้น 10 และ พลังของ Sculpting Blade’s เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

    Weed ไม่ได้ดีใจกับสิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียว เนื่องจากสกิลจำพวกtrade skill เช่นcooking, tailoring, smithing, fishing, farming นำมาซึ่งประโยชน์เช่นเดียวกับค่าแสตด สกิล หรือ ค่าFame เมื่อความชำนาญเพิ่มมากขึ้น เมื่อมาถึงขั้นกลางแล้ว ทุกแสตดของสกิลพวกนี้ได้เพิ่มขึ้นมา 5 พ้อย หากว่าถึงขั้นสูงแล้วจะเพิ่มขึ้นมาถึง 10 พ้อยเลยทีเดียว

    ยังไม่สามารถทราบได้ว่าตอนนี้มีกี่พ้อยแล้วที่สามารถได้รับสูงที่สุดสำหรับ Mastery ของแต่ละคน ในกรณีของ Weed เขาได้รับ 10 แสตดพ้อยถึงสองครั้งในระหว่างที่คนปกติได้เท่าเดิม เนื่องมาจากอาชีพลับ Moonlight Sculptor และต้องขอบคุณเควสของเขาที่มีความสัมพันธ์ Zahab โดย Sculpting Blade (มีดเกะสลักได้มาตอนเล่มหนึ่งจากหญิงรับใช้ของเจ้าหญิง) สามารถเพิ่มความชำนาญได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

    ยังไม่มีใครสามารถไปถึงจุดสูงสุดของแต่ละสายความชำนาญได้เนื่องจากหนทางที่จะไปสู่นั้นยากลำบากมาก เช่นเดียวกับ Weed ที่กว่าจะสามารถเลื่อนมาถึงระดับกลางได้ มันจะยากยิ่งกว่าสุดๆหากจะเพิ่มระดับจากขั้นกลางไปสู่ขั้นสูงได้ อย่างไรก็ตามแต่ในตอนนี้ Weed ได้เลื่อนขั้นสกิลจำพวก trade skill ได้มาสู่ขั้นสูงสุดหมดแล้ว

    ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและเปลวเพลิงแห่งกิเลศสำหรับค่า artมีผลเพียงเล็กน้อยสำหรับ Weed แต่เขามีความสามารถที่คนอื่นไม่สามารถมีได้ ก็คือ ความอดทนต่อการทำงานหนัก (ความสามารถพิเศษเล่นเกมส์ติดต่อกัน3 วันไม่กินไม่หลับ ที่ได้สามวันเนื่องจาก sever ตัด 555)

    The Cave of Dead Warriors เป็นดันเจี้ยนสำหรับเก็บเลเวล ซึ่งมี  Dullahan และ Skeleton Mercenaries ที่มีเลเวลกว่า 120 อยู่รอบๆ และมี Ghouls ที่เลเวล 110 ถึงแม้ว่า Ghouls จะมีเลเวลที่ต่ำแต่มันนั้นกลับอยู่รวมกันถึงสี่ถึงห้าตัวเลยทีเดียว และยังมีความหลากหลายของชนิดของ Ghouls อีกด้วย Upgraded หรือ Named Ghouls อาจมีเลเวลถึง 130 เลย

    Dullahans และ Skeleton Mercenaries มีความสามารถของดักดาบที่เยี่ยมยอด ดังนั้นแล้วการต่อสู้กับพวกมันจึงหน้าตื่นเต้นมาก แต่สำหรับ  Ghouls นั้นต่างออกไปพวกมันมีแค่ความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น

    Weedได้เรียนที่จะโจมตีในขณะที่หลบการโจมตีที่หนักหน่วง

    "เยี่ยมยอด ที่นี่perfectมาก" Weedได้เลือก ดันเจี้ยนCave of Dead Warriors เป็นสถานที่เก็บเลเวลใหม่ ซึ่งมีมอนเตอร์ที่อยู่ภายในคือ Dullahan, Skeleton Mercenaries, หรือ Ghouls ซึ่งมีอันตรายเล็กน้อย แต่การต่อสู้กับพวกมันนั้นได้รับประโยชน์มากมาย มันยอดเยี่ยมสำหรับ Weed ผู้ซึ่งใฝ่หาความเป็นเลิศในการใช้ดาบ

    ที่แปลกก็คือมี Skeleton Mage เพิ่มเข้ามาในสถานที่นี้ แต่ผลของเวทย์มนต์ไม่ค่อยมีมากนัก เนื่องจากสามารถ block ได้ด้วยSculpting Blade ที่สามารถดูดซับเวทย์มนต์ได้ ในบางครั้งนั้นเวทย์มนต์ถึงกลับสะท้อนกลับทำให้ mage นั้นตกอยู่ในความลำบาก

    มันดูเหมือนว่าอัตราของการสะท้อนเวทย์กลับนั้นขึ้นอยู่กับmastery of Sculpting Blade เขาต้องฝึกฝนทักษะนี้ให้มากเพื่อเพิ่มมัน เพราะเวเวลของทักษะนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มพูนค่าประสบการณ์และเลเวล

    Weed ที่ผ่านทุกอย่างมาได้อย่างราบรื่นมาโดยตลอด แต่นังคงต้องระมันระวังมอนเตอร์ตัวหนึ่ง คือ Death Knight มันมีเลเวลถึง 200 และสามารถพบได้บ่อยใน Cave of Dead Warriors พวกมันเดินไปรอบๆ ไม่ได้อยู่เฉพาะกับที่ใดที่หนึ่ง Weed ต้องกลั้นหายใจและเดินอย่างเงียบเพื่อหลบเลี่ยงจากพวกมัน พวกมันนั้นมีดวงตาที่ไม่ค่อยดี ดังนั้น weedสามารถที่จะผ่อนคลายได้ในมุมมืด เขาได้ขุดหลุมไว้เพื่อที่จะหลบพวกมันเมื่อเวลามันเข้ามาใกล้

    "เมื่อฉันกลายเป็นแบบนี้ ...." เมื่อตอนเขาเล่นเกมส์ Continent of Magick (เกมส์ที่มันขายได้ตัวละครได้เงินเยอะๆ) มอนเตอร์ทุกๆตัวนั้นดูอ่อนแอไปเสียหมดสำหรับ Weed ที่เลเวลตัน แต่ตอนนี้ Weed กลับต้องมาหลบ Death Knight

    อย่างไรก็ตามแต่ Weedรู้สึกพอใจเมื่อเขามีอัตราการฟื้นมานาและทักษะการปฐมพยาบาลที่มาก เลเวลที่เขาต้องนั่งพักเพื่อฟื้นมานานั้นสั้นลง ต้องขอบคุณทักษะพวกนี้ Weedจึงสามารถที่จะเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็วขึ้น บวกกับที่มีไอเทมที่มีค่ามากขึ้นกว่าดันเจี้ยนชั้นแรก ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะทำตัวอ่อนแอ weed พร้อมเสมอสำหรับไอเทมอันมีค่าและเลเวลของเขา

    "Dullahan นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สำหรับการล่า แต่อะไรที่ดีกว่านี้ก็คือ สิ่งที่อ่อนแอกว่า Death knight แต่ให้ประสบการณ์ที่มาก..." Weed เคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวังและไม่ลืมที่จะทำที่ซ่อนตัวเองที่จุดสำคัญต่างๆ เขาไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสอนสิ่งเหล่านี้ เขาก็ยังคงยืนอยู่และพัฒนาตัวเองได้เหมือนแมลงสาบ (มันเขียนอย่างนี้จริงๆนะ ^ ^)

    หลังจากที่เขาล่าพวกGhouls และ Skeleton Mercenaries จำนวกมากแล้วนั้น Weedก็ได้มาถึงถ้ำกว้าง ที่ซึ่งมีทางน้ำใต้ดินไหลผ่าน ดอกไม้และสมุนไพรบางชนิดเบ่งบานที่นี่ ถึงเวลาแล้วที่จะพักผ่อนหลังจากผ่านการต่อสู้และฝึกฝนอันยาวนานกับพวก Skeleton Mercenaries Weedเติมเต็มน้ำในขวดและนั่งลงเสร็จเขาได้เห็นภาพเงา เมื่อตรวจสอบไป เขาพบผู้หญิงนอนอยู่ตรงกลางของถ้ำนี้ ที่ไม่มีใครอยู่รอบๆเลย

    "คุณเป็นใคร" เธอถาม Weedที่กำลังนั่งรอเธอตื่นอยู่อย่างตกใจ

    "ผมชื่อweed แล้วเธอหละครับ" มันเหมือนเป็นคำพูดตามแบบแผน ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ Weed ไม่เคยนึกเลยว่าจะมีใครคนอื่นมาอยู่ในที่แห่งนี้นอกจากเขาอีก เมื่อมองดูดวงตาของเธอนั้นที่กำลังตื่นนั้น  สเป็คตรงกับที่Weedชอบเลยทีเดียว (555 หม้อออกเลยครับผม)

    images by free.in.th


    "ฉันชื่อ ดาอิน" เธอพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง


    Hyun ไม่ค่อยได้พูดคุยกับผู้หญิงบ่อยนัก ถึงแม้ว่าในชั้นเรียนของเขานั้นมีผู้หญิงอยู่แต่เขานั้นไม่เคยที่จะเสียเวลาเหล่านั้นไปกับพวกเธอ แต่มันก็ไม่ใช่ว่า hyun นั้นไม่ได้ป๊อบ มีสาวๆบางส่วนที่ชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆ Hyun และบอกว่าความสันโดษของเขานั้นดูมีเสน่ แต่Hyun นั้นคิดว่าพวกเธอเหล่านั้นล้วนโง่เขลา "คุณคิดว่าเป็นแบบผมมันดีเหรอ คุณต้องลองมาประสบด้วยตัวเองแล้วคุณจะต้องเปลี่ยนใจ"

    เขาไม่เคยที่จะออกเดธกับพวกสาวๆเลยกับการออกไปข้างนอกเพื่อกาแฟแค่แก้วเดียวเท่านั้น Hyunกลับชอบราคาอาหารธรรมดาของร้านขายของชำหรือชุดhome-cooked นั้นราคาประหยัดกว่ามาก เขาไม่สามารถเขาใจได้เลยว่าทำไมเวลาออกเดธกับสาวๆนั้นต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมากในทุกๆครั้งของการครบรอบหลายๆอย่าง (วันเกิด, วันคบกัน, วันคริสมาส)

    รวมไปถึง เมื่อต้องการไปดูหนังนั้นเขาก็จะปีนขึ้นไปใกล้ๆกับเสาโทรศัพท์(อันนี้ผมก็งง -,-) เวลาที่เขาจะดู TV นั้นคนอื่นๆจะต้องดูด้วย ใช่แล้ว เขาได้เก็บTV เก่าๆจากบางคนที่ทิ้ง แต่เขาก็จะไม่ได้ดูมันเพราะมันจะเสียค่าไฟ ดังนั้นแล้วเวลาที่เขาจะดู TV ก็คือประมาณเที่ยงคืนที่ ค่าไฟจะถูกกว่ามาก ดงันั้นแล้ว Hyun จึงไม่มีประสบการณ์กับสาวๆมาก่อนเลย

    ดาอิน ชื่อนี้ได้ฝังเข้าไปในจิตใจของ Weed ผู้ชายทุกๆคนฝันถึงแต่สาวๆ แต่Weedนั้นเป็นข้อยกเว้น สาวๆที่Weedฝันถึงนั้นจะต้องมีผมยาวเป็นธรรมชาติ ยังสาว มีใบหน้าที่ดูชาญฉลาด ต้องจิตใจดี และต้องมียิ้มที่ทรงเสน่ห์ แต่ยังคงไม่ภาพอะไรนอกจากรายละเอียด ถ้าสาวๆสามารถทำให้เขาตกหลุมรักเธอได้ตั้งแต่การพบหน้าครั้งแรก นั่นเหละคือสาวในฝันของ Weed

    ฉันไม่สามารถเชื่อใจใครได้ เขาไม่สามารถจะเชื่อใจได้ 100% กับPale หรือ Surkaทั้งคู่ ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมส์มาด้วยกัน มนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยนได้เสมอ ตอนนี้เขาอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อเราแต่อย่างได้สงสัยเลยถ้าวันหนึ่งเขาจะให้กระสุนแก่เรา 'ให้เท่าที่คุณรับมา ไม่มากกว่าหรือน้อยกว่า'นั่นคือปรัชญาของ Weed เขาไม่เคยเชื่อใจใครเลยนอกจากครอบครัวของเขา

    การจ้องมองนั้นรุนแรงขึ้น "ดาอิน คุณมาที่นี่ได้อย่างไร" มีแต่พวกตัวมีปีกเท่านั้นที่อยู่บน City of Heaven มนุษย์คงไม่สามารถที่จะปีนขึ้นมาบนนี้ได้และดูจากชุดของเธอแล้วเธอต้องเป็นนักผจญภัยแน่นอน

    "ที่นี่นะหรือ ฉันมาที่นี่ตั่งแต่เมื่อสามเดือนที่แล้ว"

    สามเดือน เหมือนอะไรบางอย่างพุ่งวาบมาในหัวของเขา "นั่นก็คือ คุณคือนักผจญภัยที่ค้นพบเมืองแห่งนี้เป็นคนแรก"

    "ใช่แล้ว ฉันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม แต่ฉันไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนั้น"

    "คุณหมายความว่าอย่างไร"

    "ฉันคือคนเดียวที่เหลืออยู่ที่นี่"

    "อืม"

    ดาอินอ้าปากหาวอย่างงดงาม "ฉันเลเวล 134 เป็น shaman"

    เธอเลเวลต่ำกว่าที่เขาคาดคิดไว้ เขานึกว่าเลเวลของเธอนั้นอย่างต่ำน่าจะ 170 ขึ้นไปเนื่องจากเธออยู่ในดันเจี้ยนนี้เพียงคนเดียวในCave of Dead Warriors แต่Weed มาที่นี่ตอนเขาเลเวล 109 แต่นั่นเหละweedนั้นไม่ค้อยปกติเหมือนชาวบ้าน ปกติคนทั่วไปเลเวลเท่านี้คงไม่กล้าเข้ามายังดันเจี้ยนนี้แน่นอน

    "คุณพยายามจะบอกอะไรหรือ"

    "ฉันหมายความว่า ตอนนี้คุณก็อยู่คนเดียวก็มาป้าตี้ด้วยกันสิ หรือคุณไม่อยาก"

    "ไม่ นั่นดีเลยครับ" Weed ตอบรับ ด้วยไม่ใช่แค่เหตุผลที่ว่าดาอินนั้นคือสาวในฝันของWeed หรือเพียงแค่ว่าWeedเชื่อใจเธอ


    หญิงสาวคนนี้มีพิรุธ นอกจากนี้ weed ได้จัดเตรียมไอเทมต่างๆไว้ภายในดันเจี้ยนแห่งนี้ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้ดาอินอยู่ลำพังได้

    Shaman นั้นมีเวทที่สามารถบัฟ Strength, Agility และ Speed ให้แก่เพื่อนๆในทีม และมีแบลคเมจิคที่ลดสถานะของศัตรูได้ และสามารถใช้สกิลก่อนกวนและสกิลเสริมจำพวกฮีล ต้านพิษ ดิสเปล และพวกเขายังสามารถใช้ดาบหรือกระบองได้นั่นหมายความว่าเขามีทักษะด้านการต่อสู่กายภาพด้วย

    โดยแท้จริงแล้วนั้น นั่นคือชาแมนนั้นมีความสามารถของแทบทุกสายอยู่ในตัว แต่ชาแมนไม่ค่อยที่จะเป็นที่นิยมสักเท่าไหร่เนื่องจากถึงแม้ว่าเขาจะมีทุกทักษะแต่ไม่ได้โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเลย สกิลฮีลนั่นแย่กว่าพระแล้วก็คำสาปก็ยังเบากว่า Black' mage การต่อสู้ระยะใกล้นั่นเปรียบเหมือนเอานักธนูมาถือดาบเลยบางสุดๆ

    เลือดน้อยแถมยังมีค่า vit ที่น้อยกว่าเมจเสียอีก เพราะค่าแสตดของมันนั้นถูกกระจายออกไป ดังนั้นแล้วคลาสนี้จึงไม่เป็นที่นิยม weed ไม่ได้คาดหวังกับดาอิน แค่หวังว่าเธอจะไม่แทงข้างหลัง (ไอ้ยะ ^ ^ ) บางทีเขาควรจะทิ้งเธอหลังจากเอาไอเทมทั้งหมดออกจากที่ซ่อน

    “Grr!” Skeleton Mercenarie ปรากฎตัวขึ้นและWeedได้ลดความเครียดของเขาลง ช่วงนี้Weedสามารถต่อสู้กับพวกมันได้ถึงสามตัวในครั้งเดียว ไม่ว่าWeedจะมีทักษะที่ดีแค่ไหนแต่การต่อสู้กับห้าตัวนั้นเป็นเรื่องยากมาทีเดียว เพียงแค่หันกลับไปมองอีกตัวด้านหลังก็จะมีถึงสองตัวด้านหน้าคอยสร้างดาเมจใส่เขามากมาย และเขาก็ไม่สามารถใช้ทักษะปฐมพยาบาลได้จนกว่าจะจบการต่อสู้

    ในเวลานี้เองดาอินยกมือขวาขึ้นพร้อมกับร่ายคาถา "light of courage descended from the ancients; give this hero the power to fight his enemy! Power up!(ไม่อยากแปลพวกนี้แปลแล้วตลกดี)" ร่างกายของWeedเรืองแสงขึ้นแล้วค่า str ของเขาเพิ่มขึ้นมาเกือบ 100 แล้วดาอินก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาราวกับเธอกำลังรออ้อมกอด

    “A breeze drifts past. Fight the enemy with a light heart. Light will be your steps. Up, spirit, Wolf” Speed และ Agi ของเขาเพิ่มขึ้นมาพอสมควร เขาแค่ก้าวๆเดียวเท่านั้นก็มาอยู่เบื้องหน้าศัตรูแล้ว ถ้าหากเขาวิ่งหละจะเป็ฯอย่างไร

    “You, fated to bring death, blood and carnage, the battlefield shall be your home! Bloodlust!”(คาถาเริ่มเยอะ หรือใครอยากให้แปล - -)

    ดาอินร่ายดีบัฟออกไป ตอนนี้หลังจากที่เขาได้ฟจากดาอินเขาสามารถต่อสู้ได้ง่ายดายกับ Skeleton Mercenarie ถึงห้าตัวเลยทีเดียว แล้วตอนนี้ดาอินยังร่ายดีบัฟใส่พวกมันทำให้ความเร็วลดลงและไม่สามารถที่จะพื้นฟูตัวเองได้ นี่เท่ากับการปิดประตูชนะของพวกมันไปเลยทีเดียว

    'เห้ย เป็นไปไม่ได้ shaman ไม่มีทางที่จะสามารถร่ายเวทธ์ที่มีประสิทธิภาพขนาดนี้ได้' Weedอดสงสัยไม่ได้ที่จะถามดาอินขณะต่อสู้กับพวกมันทั้ง 5 ตัวโดยไม่เสียเปรียบ

    "เวทย์ของคุณไม่น่าเชื่อเลยที่ระดับ 134 จะใช้ได้ขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไร ถ้าผมไม่ได้รู้เหตุผล ผมของให้คุณเข้าตี้ไม่ได้" เขาได้วิ่งเข้าไปหาความเสี่ยงกับความรู้สึกของเธอ แต่เธอกลับไม่ว่าอะไรพร้อมยิ้มแย้มออกมา

    "เพราะว่าเป็นเพราะงานอดิเรกของฉันเอง"

    "งานอดิเรก?"

    "ใช่แล้ว ได้โปรดอย่าคิดว่าฉันเอิ่ม ค่อยค้างจะบ้า ฉันไม่อยากฆ่ามอนเตอร์ ฉันแค่ ..." เธอพูดด้วยความเขิลอาย

    "ฉันแค่โจมตีพวกมันด้วยเวทย์ระยะไกลหลังจากที่มันเลือดลดไปกว่าครึ่ง  แล้วร่ายฮีลใส่พวกมัน "

    "ใส่มอนเตอร์?"

    "ใช่แล้วฉันเพียงแค่อยากเล่นกับมันเท่านั้นอะ"

    สิ่งที่เธอพูดทำให้เขาshock เธอเลเวล 134 ในขณะที่ระดับเวทย์ของเธอนั้นสุดยอด ดังนั้นแล้วดาอินก็เลือกที่จะเล่นกับพวกมันด้วยเคิร์ก แล้วค่อยฮีลพกมันกับพวกSkeleton Mercenaries, Dullahan และ Ghouls ในดันเจี้ยงแห่งนี้ ..... -,-

    (ใครอยากจะเสนอแนะอะไรก็บอกได้ครับผม so sorry ที่หายไปน้านนาน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×