ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic naruto วิวาห์ปลดล็อคหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 58


    “เธอ...แต่งงานกับกาอาระเถอะนะ”

    แหมะๆ

    น้ำตาล่วงลงพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยมีใครเห็นใจฉันบ้างเลย ไม่มี ไม่มีเลย แม้แต่ นารูโตะคุงที่ยังผลักไสฉันไปให้คนอื่น เขาเกลียดฉันแล้วใช่ไหม เขาไม่รักฉันแล้วใช่ไหม เขา...ไม่ต้องการฉันคนนี้ที่มีมลทินแล้วใช่ไหม??

    “ทุกคนก็เอาแต่เข้าข้างเขา ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของฉันบ้างเลย”ฉันพูดพลางชี้หน้าคาเซะคาเงะอย่างถือกล้า สบตากับเขาอย่างตั้งใจหาเรื่อง แต่อีกฝ่ายก็ยังสงบไม่ปริปากพูดใดๆ และนั่น ยิ่งทำให้ฉันโกรธ

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฮินาตะ”

    “หนูไม่หยุดค่ะ คนที่ควรหยุดคือพ่อ แล้วฟังหนูบ้าง มีใครเคยถามบ้างไหมว่าหนูต้องการแต่งงานกับคนไร้ชีวิตอย่างเขา”ฉันหันไปสบตาบิดาก่อนจะเลื่อนมาสบตาคนที่ด่าที่ยังคงเงียบเช่นเดิม เขามัน ไร้ความรู้สึกที่สุด เลว!

    “หยุดต่อว่าท่านซะ”

    “หนูไม่หยุด ทำไมท่านพ่อถึงเข้าข้างแต่เขา แล้วหนูล่ะ หนูที่เป็นลูกแท้ๆของท่านพ่อทำไมถึงไม่ฟังหนูบ้าง!

    เพี้ยะ!

    ใบหน้างามหันไปตามแรงตบ ความเจ็บที่ใบหน้ายังเทียบไม่ได้กับหัวใจที่สลายตรงนี้เลย  คนที่เหลือก็ตกใจไม่แพ้กัน

    “ก็เพราะแกเป็นลูกของฉันไง ถึงต้องรักษาชื่อเสียงแก ไม่ให้ป่นปี่!”ฉันสะอึกและก็นิ่งค้างแบบนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อตบหน้าฉัน และมันก็ทำให้ฉันเสียความรู้สึกมากๆ เพราะท่านลงทุนยอมตบฉันเพื่อคนนอกที่ช่วงชิงเอาของสำคัญฉันไปและไม่เอ่ยปากขอโทษใดๆแต่กลับสร้างความร้าวฉานใบครอบครัวฉัน

    “ท่านฮิอาชิ ใจเย็นๆเถอะครับ ค่อยๆพูดเถอะ”พี่เนจิที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันนิ่งแบบนี้

    “ผมว่าพอแค่นี้ก่อนเถอะครับ คงต้องให้เวลาเธอ”กาอาระพูดในที่สุด เขาเองก็รู้สึกเห็นใจหญิงสาวอยู่ไม่ใช่น้อยที่ต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้

    “ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะครับ”ฮิอาชิพูด

    “เดี๋ยวผมพาเธอไปพักเอง”นารูโตะเอ่ยก่อนจะเข้ามาหาฉันที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นสาย

    เขาเข้ามาใกล้และพาฉันเข้าห้องไป ฉันนั่งลงที่เตียงส่วนเขาลงไปคุกเข่าที่พื้นแทน สาบตาของเราประสานกันอีกครั้ง

    “นารูโตะคุง...”เขาเอื้อมมือมาจับมือฉันที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ พร้อมกับส่งยิ้มฝืนๆมาให้

    “ทำไมเธอไม่รอฉัน”เขาถามเขาทำให้ฉันสะอึก พูดไม่ออกทันที ฉันรอ รอเขาเสมอ เพียงแต่มีเหตุทำให้เราพลาดจากกัน

    “ไม่เอาสิ อย่าห้องไห้”เขาว่าก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน แต่เขาคงไม่รู้ว่ายิ่งอ่อนโยน ยิ่งปลอบมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งเกลียดตัวเองเท่านั้น เกลียดที่ทำตามสัญญาว่าจะรอของเขาไม่สำเร็จ

    “ความจริง เมื่อวานที่อยากจะพูดน่ะ ยังไงก็อยากให้เธอได้ฟัง”

    “...”

    “แต่งงาน...กับฉันนะ”ดวงตาเบิกโพรง หัวใจดวงเล็กเต้นระรัวด้วยความเจ็บปวด ถ้าฉันไม่เผลอหลับหรือถ้าไม่มีคนเข้ามาขัดจังหวะ.... ทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้

    “แต่พูดตอนนี้ดูเหมือนจะสายไปซะแล้ว”ยิ่งเขาพูดฉันยิ่งเจ็บ

    “นารูโตะคุง...”

    “งั้น ฉันเปลี่ยนคำพูดใหม่นะ ตั้งใจฟังดีๆนะ”เพราะแววตาที่แน่วแน่และเจ็บปวดของเขาทำให้ฉันพยักหน้าอย่างช้าๆ ฉันรอฟังเสมอ

    “ฉันขอ ให้ฮินาตะ แต่งงานกับกาอาระ ฉันไม่อยากให้คนที่ฉันรักต้องถูกคนอื่นประณาม ให้ฉันได้รึเปล่า หือ?”ฉันสะอื้นจนตัวโยน โผล่เข้ากอดเขาจนเกือบหงายหลังแต่ดีที่เขาเอาแขนยันพื้นไว้ทำให้ฉันล้มไปทับตัวเขา เขาค่อยๆทิ้งตัวลงนอนกับพื้น แขนแข็งแรงโอบกอดฉันไว้ในอ้อมกอดแน่นเหมือนที่ฉันกอดเขาเช่นกัน ทำไม เขาช่างมาสารภาพความรู้สึกตัวเองช้าแบบนี้ มาพูดในวันที่สายเกินไป...

    “ให้ฉัน ได้รึเปล่า”เขาเอ่ยถามเสียงเครือ นารูโตะคุงเองก็คงเจ็บไม่ต่างจากฉัน เพราะเขาเข้มแข็ง เขาเป็นแบบอย่างที่ดีให้ฉันเสมอ ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ ฉันดึงตัวเองจากซอกคอที่อิงซบเมื่อกี้มาสบตากับเขา แววตาสีน้ำตะเทสั่นไหวจนหัวใจฉันปวดร้าว

    “ถ้าเป็นคำขอของนารูโตะคุง.... ฉันจะยอมให้”เสียงหวานสั่นเครือจนหัวใจคนฟังร้าว เพียงชั่วพริบตา ใบหน้างามก็ก้มลงมอบจูบเบาๆทีริมฝีปาก ราวกับกำลังเอ่ยอำลาความรักครั้งนี้ และเขาเองก็ไม่อยากปล่อยเธอไปทั้งแบบนี้ จึงตอบรับจูบและมอบสัมผัสหวาบหวามให้จนร่างเล็กสั่นเทิ่ม

    แววตาที่อ่านยากของเขายังโฟกัสที่ชายหนุ่มสาวคู่หนึ่งไม่วางตา เขาควรจะเดินออกจากตรงนี้ตั้งแต่ที่เธอเข้าห้องไปแล้ว ควรจะเดินไปพร้อมกับฮิอาชิและเนจิ แต่น่าแปลก ตรงที่สองขาของเขาตรึงร่างกายเอาไว้ พร้อมกับสายตาที่หันไปจับจ้องมองเพื่อนของตัวเองกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเมียเขาอยู่แบบนั้น และอยู่แบบนั้นจนรู้เรื่องราวหมด เขาเป็นส่วนเกินที่ทำลายความรักของเธอสินะ!

     

    ผ่านไป 1 อาทิตย์เต็มๆกับก็ผ่านไป 1 อาทิตย์เต็มๆกับการเตรียมงานแต่ง จวบจน วันนี้ซึ่งเป็นงานแต่งของฉัน...กับคนไร้หัวใจ

    ฉันมองดูตัวเองในกระจกที่ถูกเติมแต้มด้วยเครื่องสีอย่างสวยงาม ผมยาวที่ชอบปล่อยถูกมวยเกล้าไว้บนหัว มีดอกไม้ติด ใส่ชุดกิโมโนะสีขาว ช่างแตกต่างจากข้างในเสียจริงๆ

    “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ”เสียงพี่เนจิเรียกสติอีกครั้ง ฉันมองมือพี่เขาที่แบมาไว้ตรงหน้า

    “ไปกันเถอะนะ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี”ฉันเงยหน้ามองพี่เนจิแล้วน้ำตาซึม ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหา

    “ฉันกลัว”กลัวความรู้สึกตัวเองว่าจะเผลอทำลายงานแต่งและก็จะทำให้ท่านพ่อเสียหน้า

    “ท่านคาเซะคาเงะไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกนะครับ ดูท่านก็เอ็นดูท่านฮินาตะมาก”

    “เขาแค่แสร้งทำ”

    “ท่านฮินาตะครับ เชื่อผมนะ ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาอาจไม่ใช่ทุกสิ่งที่อยู่ในใจของเขา”พี่เนจิพูดจริงจังพลางฉุดฉันให้ลุกขึ้น

    “วันนี้ท่านสวยยิ่งกว่าวันไหนๆ ไปเถอะครับ เรียกความกล้าให้ตัวเอง ดึงความกล้าหาญกลับมานะ”พี่เนจิ...

    “ขอบคุณนะคะ”

     

    ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมายที่มองมายังทำให้ฉันไม่ปวดใจเท่ากับดวงตาสีน้ำทะเลที่สดใสแต่บัดนี้กลับดูหม่นหมอง  พี่เนจิส่งมือฉันให้กาอาระ ฉันเองก็ว่าง่ายเพราะรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องต่อสู้กับตัวเอง 1อาทิตย์ที่ผ่านมาเขาก็ทำให้ฉันได้เห็นถึงหลายๆสิ่งที่ยังไม่รู้ในตัวเขา บางครั้งที่ดูจริงจังเขาก็จริงจังและไม่พูดคุยกับใคร ตั้งใจทำงานจนงานวันนี้ก็ไม่ทำให้ท่านพ่อต้องเสียหน้าให้กับแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้

    “แต่งงานกับผมนะ”คำพูดของเขาดึงสติฉันกลับมาอีกครั้ง มองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วค่อยๆสวมแหวนสีมีรูปกลมๆให้ ภายในลูกกลมๆมีจุดมากมานในนั้นซึ้งฉันไม่เข้าใจ สบตากับเขาเงียบๆท่ามกลางเสียงโห่ร้องของแขก

    ราวชีวิตที่สงบสุขและสวยงามของฉันกำลังหายไปแล้ว...

     

    ในที่สุดพิธีแต่งงานก็ผ่านไปด้วยดี จนถึงพิธีช่วงค่ำ กาอาระลากฉันที่เปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนธรรมดามาจิบสาเกกับบรรดาญาติผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน จนฉันเหนื่อยและล้า เลยขอกลับห้องก่อน แต่ระหว่างทางที่ขึ้นไปบนห้องกลับพบกับบุคคลที่ฉันเฝ้ารอมาทั้งวัน

    “นารูโตะคุง”ฉันเอ่ยเสียงเครือ พลางร่างบางก็เท้าสาวเข้าไปใกล้อย่างไม่ยั้งคิด

    “วันนี้เธอสวยมาก”ยิ่งเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของเขายิ่งทำให้ฉันหายใจไม่ออก มันแน่นจนปวดร้าวไปหมด

    “นารูโตะคุง”ฉันเอื้อมมือบางสัมผัสใบหน้างามของเขาที่บัดนี้เต็มไปด้วยความหม่นหมอง

    มือหนาค่อยๆเอื้อมมือมาสัมผัสมือฉันที่แตะบนหน้าเขา ริมฝีปากหนาค่อยๆคลี่ยิ้มบางๆ

    “จากนี้ไป เราก็เหมือนอยู่กันคนละโลกแล้วสินะ”ฉันกัดริมฝีปากแน่น พยายามที่จะไม่ให้น้ำตาไหลอาบแก้มตอนนี้ เวลาของเรา เหลือน้อยลงไปทุกที เพราะนับจากพรุ่งนี้ไป ฮิวงะ ฮินาตะคนนี้ก็จะกลายเป็นสมบัติของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกแล้ว จะกลายเป็นผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว

    “ฉันขอโทษ”พูดไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดเรื่องอะไร แต่ข้างในมันร้องเรียกให้พูดแบบนั้น

    “เธอไม่ผิดหรอก อย่าขอโทษเลย ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ขอโทษที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว ขอโทษนะที่ไม่ดูแลเธอให้ดี ขอโทษนะที่ฉันบอกความรู้สึกตัวเองช้าไป”

    “ฮึก นารูโตะคุง”สุดท้ายสิ่งที่พยายามกลั้นมาตลอดก็พังทลายลง โผล่เข้ากอดนารูโตะคุงอย่างห้ามไม่อยู่

    “ขอบคุณนะ ขอบคุณที่รักฉัน ขอบคุณจริงๆ”แม้วันพรุ่งนี้ต้องอยู่กันคนละโลกอย่างน้อย ฉันก็ยังได้เห็นหน้าเขา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

     

    ฉันทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างอ่อนแรง ดวงตาบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา ฉันค่อยๆปิดดวงตาลงอย่างหมดแรงแต่ไม่ทันได้หลับเสียงเลื่อนประตูก็เสียงดังขึ้นจนฉันสะดุ้ง ลุกขึ้นนั่งมองอีกฝ่ายทันที

    “นายจะเข้ามาทำไม”ฉันถามเสียงห้วน ฉันเกลียดเขา เกลียดที่สุด

    “หึ มีความสุขมากไหมล่ะ ห๊ะ”ไม่พูดเปล่าแต่ยังเดินเข้ามากระชากแขนจนฉันลุกขึ้นตามแรงกระชาก

    “ปล่อยนะ พูดบ้าอะไรของนาย”พูดไปก็พยายามแกะมือที่เข้าจับแขนอยู่ด้วย

    “อย่าคิดว่าทำอะไรแล้วไม่มีใครรู้นะ ให้เกียรติกันบ้างอย่างน้อยที่นี่มันก็บ้านเธอ จะกอดจะพลอดรักกันก็ให้มันเบาๆหน่อยก็ได้ คนอื่นเห็นจะเอาไปนินทาได้”เขาพูดเสียงดังครั้งแรกจนฉันเริ่มรู้สึกกลัว เขาไม่เหมือนคนเมื่อหลายวันก่อนเลยราวกับเป็นคนละคน

    “พูดอะไรของนาย ปล่อยฉัน!”แม้จะรู้สึกกลัวแต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้ที่จะต่อสู้

    “ริมฝีปากนี้ใช่ไหมที่มอบจูบให้ชู้”ฉันเบิกโพรงตากว้าง เอื้อมมือตบใบหน้าหล่อของเขาแต่อีกฝ่ายรู้ทันจับมันไว้

    “นายต่างหากที่เป็นส่วนเกิน! ถ้านายไม่ขืนใจฉันเรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนี้!”ฉันโพลงอย่างโมโห เขามีสิทธิ์อะไรจะมาเรียกนารูโตะคุงว่าชู้ เขาต่างหากที่ควรจะได้รับคำนั้น

    “มั่นใจได้ยังไงว่าฉันข่มขืนเธอ บ้างทีเธออาจสมยอมเองก็ได้ อยากเป็นเมียโฮคาเงะจนเผลอผิดคนน่ะสิ”

    “เพี้ยะ!

    ฉันหอบหายใจพลางมองอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ กวาดมือกระทบบนใบหน้าหล่อของฝ่ายอย่างไม่รั้งแรง กล้าพูดได้ยังไงว่าฉันสมยอม ถ้าเขาจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้อย่าพูดเหมือนรู้ดีเลยจะดีกว่า

    “ออกไป ไปให้พ้น ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีก จะไปตายที่ไหนก็ไป ออกไป ไป!”ฉันไล่อีกฝ่ายราวกับหมูกับหมา พร้อมกับทุบตีแผงอกอย่างระบายความโกรธแค้น ก่อนจะผลักเขาออกจากห้องได้ก็ล็อคประตูทันที พร้อมกับทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง มือบางยันกับพื้น ก้มหน้าร้องไห้อย่างเวทนา

    “ฉันเกลียดนาย เกลียดที่สุด!

     

    กาอาระยืนนิ่งที่บานประตู เสียงสะอื้นของหญิงสาวยังดังต่อเรื่อยๆ แต่เพียงไม่นานเท้าหนาก็สาวเท้าจากไป นึกย้อนไปก่อนจะมาถึงห้อง

    ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งใจจะมาดูภรรยาสาวเสียหน่อยแต่ก็ต้องหยุดชะงักกึกเมื่อได้ยินบทสนทนาของแขกที่มาร่วมงาน

    “โหย แม่นี่ร้ายจริงๆ ขนาดวันแต่งงานตัวเองยังไปกอดพลอดรักกับท่านโฮคาเงะอีก”

    “ใช่ๆ ไม่รู้ท่านคาเซะงาเงะไปพลาดท่าไหนถึงได้จับมาทำเมียเน้อ”

    “ใช่ ไม่ให้เกียรติท่านคาเซะคาเงะ ถ้ามีคนมาเห็นต้องมองว่าท่านเป็นมือที่สามไปพรากความรักของพวกเขาแน่ๆเลย”

    “น่าสงสารท่านคาเซะคาเงะอ่ะ”

    “ทำไมอ่ะ”

    “อาจโดนสวมเขาก็ได้น่ะสิ อาจจะแต่งงานออกหน้าแต่พอลับหลังอาจไปหาท่านโฮคาเงะก็ได้ ผู้หญิงอะไร สองใจจริงๆ”

    คาเซะคาเงะหนุ่มกำหมัดแน่น  แววตาที่เคยเงียบนิ่งบัดนี้ถูกความโกรธบดบังเสียจนน่ากลัว เธอแต่งงานเป็นภรรยาของเขาแล้วควรให้เกียรติกันบ้าง ไม่ใช่ให้ความรู้สึกตัวเองอยู่เหนือสิ่งที่ถูกต้อง

     

    “อือ~”ฉันร้องครางเสียงแผ่ว เมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่กำลังขยับกายอยู่บนตัว หันข้างหนีอย่างรู้สึกรำคาญ แต่มันก็มิวายจะหยุด ตามมาก่อกวนเรื่อยๆ แถมยังหนักขึ้นเรื่อยๆจนฉันเริ่มตื่นจากการพักผ่อน ความทรงจำในคืนที่เลวร้ายย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งจนร่างกายตื่นตัว ดวงตาเบิกโพรงพลางจับมือที่กำลังสำรวจเรือนร่างทันที

    หัวใจของฉันเต้นรัวอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง เหมือนกับคืนนั้นไม่มีผิด ก่อนจะสะดุ้งเมื่อริมฝีปากประทับจูบที่ซอกคอขาวพร้อมกับขบเม้มแรงๆ

    “ยะ อย่านะ”ฉันขยับกายลุกหนีแต่อีกฝ่ายไม่ยอมดึงฉันนอนราบลงกับเตียงพร้อมขึ้นมาคร่อม

    ฉันจ้องมองใบหน้าหล่อที่บัดนี้ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงานจนใบหน้าแดงเรื่อ ทุกอย่างเหมือนในคืนนั้นไม่มีผิด

    “ปล่อยนะ นายจะทำบ้าๆกับฉันอีกไม่ได้นะ”ฉันดิ้นรน พยายามครองสติไม่ให้ถูกเขาเมามวยเหมือนคืนนั้น หากแต่สวรรค์ไม่นำพาในสิ่งที่ฉันต้องการ เพียงแค่เขาเข้ามามอบสัมผัสดุดันให้อีกครั้ง หัวใจดวงเล็กก็พร้อมที่จะเต้นระรัวราวกับกลองศึก มือบางบัดบ่ายไปทั่วอย่างหาที่พึ่งไม่ได้ รสเหล้าที่ปลายลิ้นส่งมอบมาให้ทำให้สติของฉันเลือนรางอีกครั้ง ยากที่จะควบคุมมัน อีกฝ่ายยอมถอนจูบก่อนจะก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างโหยหาจนเป็นฉันเองที่ต้องผวาทุกครั้งไปเมื่อเคี้ยวคมๆเฉียดกับผิวเนื้อจนเจ็บแสบ

    “ยะ อย่า ได้โปรด...”ราวกับพึมพำกับตัวเอง และฉันก็ทำได้เพียงเท่านี้ แค่พึมพำบอกให้เขาหยุดเพราะเรี่ยวแรงที่มีเหมือนจะเหือดหายไปพร้อมกับสติที่เหลืออยู่น้อยนิด เขามอบจูบให้อีกครั้ง อีกครั้ง จนสติเริ่มเลือนห่างออกไป ทำได้เพียงพยายามปรือตาขึ้นมองหน้าเขาเหมือนคืนนั้น ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีอย่างยอมจำนน ทั้งๆที่มันไม่ควรเกิดขึ้นอีก แต่...ฉันก็ปกป้องตัวเองไม่ได้

    Nc


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ทำไมฮินะกับนารูน่าสงสารจัง แต่กาอาก็น่าสงสาร ฮือออ


    -------------------------------------------------------------------------------------------
    คิดถึงไรท์ไหมมม  555  หายไปนานลืมกันรึยัง??
    ตอนนี้มาแบบฟินๆเลยค่าา ชดเฉยที่หายไปนาน 
    เหมือนเดิมค่ะ NC ทิ้งเมลล์ไว้นะคะ ไรท์จะพยายามส่งให้เร็วสุดค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×