ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic naruto วิวาห์ปลดล็อคหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 62


    คันคุโร่และเทมาริพากันถอนหายใจเมื่อเรื่องวุ่นวายที่แสนปวดหัวจบลงได้อย่างสวยงาม เอ่อ จะเรียกว่าจบเลยคงไม่ถูก เพราะร่างกายของฮินาตะอ่อนแอ รวมทั้งยังมีความเครียดสะสมมาหลายวันจนทำให้ร่างกายอ่อนล้าเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ และวันนี้ยังออกไปรับลมพายุทะเลทรายร้อนนั่นอีก ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนอาการไอเป็นเลือดเนื่องจากสูดดมฝุ่นทรายจำนวนมาก ทำให้ทางเดินหายใจเสียหายเพียงเล็กน้อย ซึ่งหมอได้ให้ยามาแล้ว และตอนนี้หวังว่าเจ้าตัวจะตื่นสักที ก่อนที่อีกคนที่เป็นสาเหตุให้เธออาการหนักขนาดนี้จะบ้าคลั่งอีกครั้ง


    กาอาระเฝ้าดูแลเธอไม่ห่างกายด้วยตนเอง เพราะตนนั้นเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมีอาการหนักขนาดนี้ ไม่คิดว่า พายุอารมณ์ของเขาจะรุนแรงจนทำร้ายเธอถึงเพียงนี้ กาอาระไล้มือลูบผิวแก้มเบาๆ ยิ้มน้อยๆ ยามนึกถึงคำพูดที่ทำให้หัวใจเขาอบอุ่นทุกครั้งที่นึกถึง


    ครั้งนั้นเธอบอกว่าเป็นปีศาจเป็นเพื่อนฉัน พอมาครั้งนี้ เธอบอกจะรับความเจ็บปวดแทนฉัน ทำไมเธอโง่แบบนี้นะ ฮินาตะ


    และโง่กว่าคือเขาที่ทำร้ายเธอได้ลง ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอนั้นสำคัญกับตนเองมากเพียงใด


    “ฉันขอโทษ ฮินาตะ”


     

    ฮินาตะขยับร่างกายอย่างอึดอัดเล็กน้อย เมื่อรับรู้ว่ามีบางอย่างวางไว้ตรงเอวและมันหนักพอที่จะทำให้เธอขยับตัวไม่ได้นัก คิ้วบางขมวดเข้าหากันทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา และเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆเป่ารดที่ข้างท้องแบนราบ ร่างบางจึงค่อยๆกะพริบตาขึ้นมามองอย่างสงสัย แล้วฮินาตะก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นกาอาระกำลังนอนกอดเธอไว้ ใบหน้าคมซุกเข้ามาข้างๆท้องเธอจนแทบจะไม่เหลือช่องว่าง มือหนาก่ายเอวราวกับเป็นหมอนข้าง ฮินาตะเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว มือบางยกแขนหนาที่พาดตรงเอวออกอย่างแผ่วเบาแต่มันก็สามารถทำให้อีกคนรู้สึกตัว กาอาระเงยหน้ามามองหญิงสาวที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจนั่น


    “ตื่นแล้วหรอ ฮินาตะ”กาอาระทักทายพร้อมยิ้มบางๆไปให้ ฮินาตะเลยหลบสายตาคมมามองที่มือของตนที่จับแขนเขาไว้เพื่อจะยกออกจากเอวบางนั่นเอง


    “เธอหลับไปสองวันเต็มๆ ฉันเป็นห่วงแทบแย่”กาอาระพูดแล้วแนบใบหน้าลงกับท้องแบนราบของเธอพร้อมกับกอดแน่นขึ้นจนร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจ มือบางดันไหล่หนาทั้งสองไว้อย่างหวาดหวั่น


    “ปะ ปล่อยฉันก่อนได้ไหม มันอึดอัดนะ”ฮินาตะประท้วงเบาๆ


    “หึๆ อึดอัดหรือกลัวอย่างอื่นกันแน่”กาอาระยอมผละออกห่างจากความอบอุ่นและกลิ่นหอมของเธอมาสบตา


    “ปะ เปล่าสักหน่อย”ฮินาตะดันไหล่เขาออกห่าง กาอาระเลยยอมผละออกอย่างว่าง่าย แล้วมานั่งข้างๆหญิงสาว เอามืออังหน้าผากมน


    “ไข้ลดแล้วสินะ ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”กาอาระพูดอย่างใส่ใจมองใบหน้างามด้วยความห่วงใยใบหน้าคมอ่อนลง เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว


    “ไม่เจ็บแล้วล่ะ”ฮินาตะตอบแล้วเอียงหน้าหลบมือหนาที่ไม่ยอมผละออกจากหน้าผากเธอ กาอาระมองท่าทางนั้นยิ้มๆ


    “ยังเจ็บคออยู่รึเปล่า”ไม่พูดเปล่าแต่ยังขยับเข้ามาใกล้จนฮินาตะตกใจ


    “มะ ไม่ ไม่แล้วล่ะ”มือบางดันอกแกร่งของอีกคนไว้ด้วยใบหน้าตื่นๆ นั่นทำให้กาอาระหัวเราะน้อยๆยอมถอยออกมา


    “ฉันจะให้คนทำข้าวต้มให้ หิวหรือเปล่า”ทอดมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนจนทำให้อีกคนไม่กล้าสบตาคมกล้าของเขานาน


    “หิวค่ะ”ฮินาตะตอบไปตามจริง ร่างกายเธอรู้สึกอ่อนล้าไปหมด


    “งั้นรอเดี๋ยว แล้วจะรีบกลับมา”พูดจบก็ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่ตั้งตัวขโมยจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อีกคนนิ่งค้างไป กว่าจะรู้ตัวคนเอาแต่ใจก็เดินลิ่วออกไปแล้ว


    “คะ คนบ้า”

     


    กาอาระมองหญิงสาวที่ครอบครองหัวใจตนด้วยแววตาแสนรัก นานวันเขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองขาดเธอไปไม่ได้ เธอสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง


    “ฮินาตะ ขอโทษที่ทำให้เจ็บตัวแบบนี้นะ”หลังจากเธอกินข้าวเสร็จกาอาระจึงพูดขึ้นมา ฮินาตะที่กินข้าวเรียบร้อยแล้วหันมามอง ปากบางเม้มแน่น


    “ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ”เพราะความโกรธทำให้เธอพูดออกไปโดยไม่คิด เลยทำร้ายจิตใจของเขาแบบนั้น


    “ขอโทษอะไรกัน ฉันต่างหากที่ทำร้ายเธอ”กาอาระระบายยิ้มเล็กน้อย มองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาอบอุ่น และทำให้อีกคนไม่กล้ามองนาน กลัวว่าจะตกหลุมพรางนั่น


    “งั้นก็หายกันแล้วกัน จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกัน”ฮินาตะสรุปเองซะเลย ขืนยังรอเขาเธอคงไม่ต้องทำอะไรเพราะคงพะวงอยู่แต่กับเขานั่นแหละ


    “อืม”กาอาระตอบสั้นๆ หยิบยาและน้ำมาให้ ฮินาตะรับมากินอย่างว่าง่าย และเมื่อกินเสร็จ ร่างสูงก็ดันให้เธอนอนราบบนเตียง


    “พักผ่อนเถอะ”


    “แต่ว่า”


    “ร่างกายยังไม่แข็งแรงนะ ห้ามเถียงห้ามดื้อ”ฮินาตะหน้ายู่มองคนบงการชีวิตแล้วก็ไม่ชอบใจ


    “ไม่ได้ดื้อ”เสียงเล็กๆบ่นอย่างขัดใจแล้วก็หันหลังให้อีกฝ่ายราวกับรำคาญเสียแบบนั้น แต่นั่นก็ทำให้อีกคนที่เห็นท่าทางน่ารักยิ้มโดยไม่รู้ตัว


    “ดื้ออยู่เห็นๆ”กาอาระต่อประโยคให้ตัวเองในใจ ไม่อยากทำให้คนที่เพิ่งฟื้นต้องอารมณ์เสียอีก จัดการดึงผ้าห่มมาให้ร่างบาง แล้วจึงกดจูบแผ่วเบาที่กลุ่มผมนุ่มหอม


    “มีอะไรก็เรียกนะ ฉันอยู่ข้างนอก”พูดจบแล้วก็ผละตัวออกห่าง ขณะที่คนแกล้งหลับลืมตามามองประตูที่ปิดลงด้วยมือของชายหนุ่ม ก่อนจะกวาดสายตามองรอบๆแล้วก็พบว่าตนยังนอนอยู่ที่ห้องพักที่ห้องทำงานของเขาอยู่ แปลว่าไม่ได้กลับบ้านหรอกหรอ? ฮินาตะคิดแล้วก็เผลอหลับไปด้วยฤทธิ์ยา ตื่นมาอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงโวยวายข้างนอกนั่น คิ้วบางขมวดเข้ากัน ก่อนจะขยับกายลุกตรงไปทางประตู มือบางกำลังจะเปิดออก แต่กลับได้ยินชื่อตัวเองจนมือชะชัก


    “ห้ามบอกเรื่องนี้กับฮินาตะเด็ดขาด”เสียงเข้มติดดุพูดด้วยน้ำเสียงห้วนจัด อะไรกัน มีเรื่องงั้นหรอ?


    “แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับเธอโดยตรงเลยนะ ถ้าบอกเธอ”เสียงเทมาริดังขึ้นมา


    “ก็บอกว่าไม่ ห้ามบอก นี่คือคำสั่ง”ฮินาตะชักทนไม่ไหว มีความลับอะไรกัน ร่างบางกระชากประตูเปิดออก นั่นทำให้คนที่เถียงกันนั้นหันมามอง กาอาระสะอึกและปรับสีหน้าเข้มก่อนจะเดินเข้าไปหา ส่วนคันคุโร่กับเทมาริหันมาสบตากัน


    “ตื่นแล้วหรอ ออกมาทำไม ร่างกายยังไม่แข็งแรงเลย”เสียงนุ่มน่าฟังของน้องชายทำให้พี่ทั้งสองหันไปมองแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือกาอาระที่พวกเขารู้จัก เปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลย


    “มีเรื่องอะไรกัน”ฮินาตะมองคนเข้ามาหาแล้วร้องถามสิ่งที่คาใจ


    “ไม่มีอะไรนี่ มาเถอะ ไปพักดีกว่า”กาอาระไม่สนใจสายตาตั้งคำถามของเธอ ประคองร่างบางเพื่อกลับเข้าห้องแต่อีกคนฝืนไว้


    “ฮินาตะ”


    “ถ้าไม่บอก ฉันก็จะไม่พัก”เห็นแววตาดื้อดึงของเธอแล้วกาอาระก็ถอนหายใจเบาๆ ทำไมเด็กดื้อของเขาต้องดื้อขนาดนี้นะ


    “ไม่มีอะไรจริงๆ”กาอาระยังยืนยันคำเดิม ท่าทางชวนโมโหนั่นทำให้ฮินาตะหน้ามุ่ยไม่ชอบใจ ผละออกห่างจากร่างสูงแล้วเดินเข้าไปหาเทมาริและคันคุโร่


    *มาต่อแล้วนะคะ อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×