ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic naruto วิวาห์ปลดล็อคหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 100

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 59


    ฉันอยากจะกรีดร้องโวยวายใส่หน้าจอมมารร้ายอย่างเขาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเขาทำอย่างที่พูดจริงๆ กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเขาและกำลังเดินทางไปซึนะโดยที่ไม่ได้เอ่ยลาใครเลยสักคน แม้กระทั่งกับคนในครอบครัวยังไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆเลย

    “หิวรึเปล่า”เอ่ยถามทั้งที่ไม่ได้ก้มลงมอง ฉันเสมองไปรอบๆก่อนจะพบว่าเขากำลังอุ้มฉันและกระโดดไปตามต้นไม้ด้วย เงยหน้ามองอีกฝ่ายทันที เขาไม่เหนื่อยไม่หนักบ้างหรอ

    “มองแบบนี้ จะยั่วกันสินะ”ไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องตกใจเมื่อเขาหยุดการเคลื่อนไหวแล้วก้มหน้าหามา กำลังจะร้องบอกก็ถูกบิดปากด้วยปากเสียแล้ว กรี๊ดด นี่มัน เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉัน เขาที่จู่ๆก็ใจร้ายทำไมกลับกลายมาเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่แสนอ่อนโยนไปได้ล่ะ ฉันตามไม่ทันนะ ว่าแต่ ทำไมหัวใจของฉันต้องเต้นเร็วขนาดนี้ด้วย มือบางทุบอกหลายทีจนรู้สึกเจ็บแต่เขากลับไม่เห็นใจ

    “แฮ่มๆ”กระแอมไอของใครบางคนทำให้เขาชะงัก ถอนริมฝีปากออกจากฉันที่ใบหน้าแดงก่ำและไม่กล้าสบตาใคร ได้แต่ก้มหน้าแล้วซุกกับอกกว้างของเขา

    “น้อยๆหน่อยย่ะ เห็นแล้วหมั่นไส้”เสียงเทมาริพูดขึ้น แต่กาอาระไม่สนใจหันไปมองแล้วเอ่ยปากต่อ

    “ไปต่อเถอะ”ว่าแล้วทำท่าจะกระโดดต่อแต่คันคุโร่ขัดขึ้นเสียก่อน

    “นายอุ้มเธอมาครึ่งวันแล้ว เปลี่ยนให้ฉันช่วยไหม?”ครึ่งวัน? กำลังจะเงยหน้าไปมองแต่ก็กลัวเหมือนเมื่อกี้อีก เลยทำได้เพียงก้มหน้าฟังบทสนทนาของพวกเขาเงียบๆ

    “เมียฉัน ฉันดูแลได้”ทำไมหัวใจฉันถึงเต้นแรงขนาดนี้กันนะ ก็แค่คำที่หลุดจากปากบ่งบอกสถานะความสัมพันธ์ของเขาและฉันเท่านั้นเองนะทำไมต้องหวั่นไหวขนาดนี้ด้วย! ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะ

     

    กาอาระค่อยๆวางร่างบอบบางของหญิงสาวลงกับเตียงตัวเองอย่างแผ่วเบา มือหนาเอื้อมมือดึงผ้าห่มคลุมร่างน้อยๆของเธอด้วยเนื่องกลัวว่าสาวเจ้าจะเป็นไข้ได้เพราะอากาศในซึนะค่อนข้างเย็นแม้จะอยู่ท่ามกลางทรายจำนวนมาก แต่นั่นแหละ คือเรื่องประหลาดที่ทำให้เขาชอบใจนัก ก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน มือเลื้อยไปสัมผัสกับรอยรักสีกุหลาบที่ตนทิ้งไว้เมื่อคืน เธอคงเพลียมาก เพราะขนาดเขาเองก็ยังเพลียไม่น้อยกว่าเธอ แต่เพราะมีงานเร่งด่วนเลยต้องรีบเดินทาง เขาจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องใช้วิธีนี้กับเธอ แม้จะเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดแต่สิ่งที่ได้มามันคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม

    ตุบ!

    “นายว่ายังไงนะ ฉันเคยไว้ใจให้นายดูแลฮินาตะครั้งหนึ่งแต่นายก็ทำให้ผิดหวังจนเธอต้องเสียน้ำตา”นารูโตะพูดอย่างเดือดดาลเมื่อกาอาระมาขอทวงของของมันคืนทั้งๆที่มันควรเป็นของเขา ดูแล้วอาจจะเหมือนการเห็นแก่ตัว แต่นารูโตะเข้าใจ อุบัติเหตุมันเกิดไม่เคยบอกใคร เขาควรจะดีใจเพราะเป็นกาอาระ ถ้าเป็นโจรชั่วที่ไหนมาข่มเหงคนที่รัก เขาคงยอมไม่ได้ เพราะอย่างนั้นเลยจำใจต้องยอมให้อีกฝ่ายแต่งงานกับเธอเพื่อตัวทั้งสองฝ่าย

    “ฉันขอโอกาส ขอให้ฉันได้มีเวลาพิสูจน์ตัวเอง ว่าฉันเองก็ดูแลเธอ และจะไม่ทำให้ฮินาตะต้องร้องไห้ ฉันอยากชดใช้สิ่งที่ทำให้กับเธอ”กาอาระพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งเมื่อถูกอีกฝ่ายต่อยทั้งที่ยังไม่ทันอธิบาย

    “หึ โอกาสอย่างงั้นหรอ ฉันให้นายไปแล้วแต่นายโยนทิ้งมันไปเอง ฉันเสียใจ แต่ฉันคงยกเธอให้นายไม่ได้อีกแล้ว”

    “แต่เธอเป็นของฉัน ”นารูโตะหยุดกึก ก่อนจะหันมาซัดหมัดหนักๆลงที่ใบหน้าหล่อจนเลือดออกที่มุมปาก

    “แกเปลี่ยนไป กาอาระ แกยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่มั้นวะ รู้ทั้งรู้ว่าฉันรักฮินาตะแกก็ยังเลือกที่จะทำมัน”นารูโตะพูดอย่างเดือดดาล กาอาระเช็ดเลือดที่มุมปาก เงยหน้ามองเพื่อนด้วยสายตาที่จริงจัง

    “ขอโทษที่เห็นแก่ตัว แต่ฉันเองก็เจ็บปวดไม่แพ้นายหรือฮินาตะเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

    “...”

    “ฉันขอโทษนารูโตะ นายคือเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของฉัน นายที่ดึงฉันมาจากความมืด และเพราะเป็นนาย ฉันถึงแบกหน้ามาหาถึงที่นี่ เพราะอยากจะขอฮินาตะ ให้ฉันดูแลเธอ แม้จะเห็นแก่ตัว แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเธอเป็นภรรยาของฉันทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย ฉัน ขอโทษ ฉันเสียใจ แต่ฉัน...ไม่อยากให้พวกเราทั้งสามคนต้องเจ็บและจมอยู่กับความทุกข์แบบนี้ตลอดไป ”

    “แกก็เลยตัดสินใจเดินหน้าจีบฮินาตะ ว่างั้น”เขาพูดเสียงขมขื่นจนกาอาระรู้สึกผิดทั้งขั้วหัวใจ เขารู้ว่าเขามันเห็นแก่ตัว แต่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาแล้วจึงไม่มีทางเลือกนอกจากลองคบกับเธอไป ถ้าอยู่ได้ก็ถือว่าดีแต่ถ้าไม่ได้

    “แล้วมั่นใจแค่ไหนว่าฮินาตะจะรักนายล่ะ ถึงเดินหน้ามาหาฉันถึงที่นี่”นั่นสินะ คนที่ฮินาตะรักก็คือเพื่อนอย่างนารูโตะนี่ แล้วอย่างเขา คนที่เห็นแก่ตัว เห็นแต่ความสุขของตัวเองจนลืมเพื่อนแบบเขา เธอจะชอบหรอ หึ ไม่มีทางจะเป็นไปได้เลย

    “ฉันเองก็ไม่แน่ใจ”

    “หรือก็คือไม่แน่ใจเลย”นารูโตะตอบประโยคในใจเขา ทำให้กาอาระยิ้มสมเพชตัวเอง อยากจะสู้แต่ก็รู้ผลอยู่แล้ว ก็แปลกใจทำไมเขายังจะอยากสู้อีก หรือจะเพราะความรักที่มันเปลี่ยนคนเรากันแน่นะ

    “...”คราวนี้กาอาระเงียบเหมือนจมอยู่ในความคิดตัวเองเป็นนาน ก่อนที่เสียงนารูโตะจะดังขึ้น

    “ฉันให้โอกาสนาย แค่อีกครั้งเดียวเท่านั้น ถ้านายทำฮินาตะต้องเสียใจเสียน้ำตาอีก ฉันจะทวงเธอคืนว่าจะเกิดอะไรขึ้น”เพราะเธอเองก็ปฏิเสธที่จะกลับมาฉันเหมือนกัน นารูโตะต่อประโยคให้ตัวเองในใจ อาจจะเพราะ ความใกล้ชิดทำให้เธอสับสนหรือความจริงคือ เธอไม่ได้ชอบเขาเหมือนอย่างคนรักกันแน่ หัวใจเธอถึงได้หวั่นไหวง่ายดายเช่นนี้ นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นารูโตะต้องยอมให้โอกาสกาอาระ เพราะเขารับรู้ได้ถึงสายตาที่มองฮินาตะว่ามันเป็นแบบเดียวกับเขามานานก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวว่าชอบฮินาตะเสียอีก

    เข้าไปตบบ่าเพื่อนแรงๆทีนึง สบตากันเงียบๆก่อนที่นารูโตะจะพูดออกมา

    “โอกาสนี้ฉันให้นาย ทำมันให้เต็มกำลัง ให้คุ้มค่ากับการรอคอยที่นายต้องการเธอมาตลอด”กาอาระเบิกตากว้างมองแผ่นหลังเพื่อนที่เดินจากไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเผยยิ้มบางๆที่ริมฝีปาก นี่คือเหตุผลของมันสินะ เพิ่งรู้ว่าตัวเองแสดงออกจนถึงขนาดเพื่อนที่บ้าๆบ็องๆอย่างนารูโตะยังดูออก แต่แล้ว รอยยิ้มก็ค่อยๆเลือนหาย เมื่อนึกถึงใครอีกคน ถ้าเธอฉลาดเหมือนกับนารูโตะสักนิดบ้าง จะรับรู้ว่าเขานั้นก็คอยมองเธอเหมือนที่เธอเฝ้ามองนารูโตะเสมอมาตลอดหลายปี

    “ขอบใจนะ นารูโตะ”แม้ไม่มีใครได้ยิน แต่เขาอยากจะพูดมันออกมาในตอนนี้ ให้สมกับความรักเพื่อนของหมอนั่นที่ยอมยกเธอให้เขา หรือเพราะรักเธอถึงได้ยอมให้เธอเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน   

     

    กาอาระยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับเอาหินหนักๆที่ถ่วงความสุขเขาออกไป อยากจะพูดขอบใจสักหมื่นครั้งพันครั้งก็คงเทียบไม่ได้กับความเป็นเพื่อนอย่างนารูโตะ เขาโชคดีแค่ไหนที่ได้เกิดมามีเพื่อนเช่นนารูโตะและโชคดีแค่ไหนที่ได้เธอมาอยู่ในอ้อมแขนอย่างที่หวัง ก้มลงจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆแล้วยิ้มก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้องไป สัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดี ให้สมกับเพื่อนอย่างนารูโตะที่ไว้ใจให้โอกาสเขาอีกครั้ง แม้พรุ่งนี้จะต้องเจอพายุโหมหนักเท่าไหร่แต่ถ้ามีเธอเคียงข้างเขาก็พร้อมจะฝ่าฝันมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะร้ายแรงเสียเพียงใด หรือต่อให้ต้องลงนรก เขาก็ต้องยอม ขอแค่ มีดวงใจ เดินเคียงข้างขนาบข้างตลอดไป

     

    นารูโตะยิ้มขมขื่นในห้องทำงาน ใบหน้าที่เศร้าจับใจนั้นไม่บ่อยนักที่จะเห็นมัน เขาทำถูกแล้วใช่ไหม เอ่ยถามตัวเองเสียงพร่า ที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด คำว่ารักของเขามันสายเกินไปที่จะดึงรั้งเธอให้อยู่ข้างกาย เพราะเขารู้ตัวช้าเกินไป หัวใจตัวเองถึงได้เจ็บปวดเพียงนี้ ได้แต่ยอมปล่อยให้เธอไปกับใครอีกคนที่เขาไว้ใจและยอมให้ดูแลหัวใจตัวเอง และหวังว่าคนที่เขารักจะมีความสุข กับเส้นทางที่เขาคิดว่าถูกแล้ว กับพวกเขาทั้งสามคน

    “เพราะอย่างน้อย มันก็มีสิทธิ์ก่อนฉัน”


    ฉันค่อยๆปรือตาขึ้นเมื่อรับรู้ถึงบางอย่างที่กำลังขยับกายเข้ามาใกล้ก่อนจะแทนที่ด้วยความอึดอัดพร้อมกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านทั่วรอบกาย ก่อนจะสุดุดตากับแขนที่วางพาดกับเอวของตัวเอง หันไปมองเจ้าของแขนก็พบว่าบัดนี้พริ้มหลับด้วยความสบายใจจนกลับกลายเป็นฉันเสียเองที่หน้าร้อนผ่าว นี่ฉันตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเขาอีกแล้วหรอ! มันกี่ครั้งกันแล้วเนี่ยที่เผลอปล่อยตัวให้เขาทำราวกับของเล่นที่กำลังสวมบทเป็นภรรยาผู้น่ารักของสามี ให้ตาย แค่คิดก็ยากแล้ว แต่ก็ อดไม่ได้ที่จะใช้ดวงตาสีมุกของตัวเองกวาดมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรของเขาไม่ได้และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คงจะมีผู้หญิงนับร้อยที่รอให้เขาเลือกมาเป็นภรรยา และแน่นอนหนึ่งในนั้นไม่ใช่ฉัน

    มือบางเอื้อมมือไปจับแขนของอีกฝ่ายเพื่อยกขึ้น แต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่เมื่ออีกคนแม้ในยามหลับก็ยังรัดแน่น ถ้ากลัวฉันจะหนีไปขนาดนี้ก็เอาเชือกมาผูกกันเลยไหม บ้าจริง มีอย่างที่ไหนถูกเขารังแกทั้งคืน แถมยังคำยืนยันต่างๆนาๆที่บอกเสียงพร่าในคืนนั้นอีก คิดแล้วหัวใจก็ดันเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเฉยๆ เพราะไม่เคยเห็นมุมมองเขาในมุมนี้ มันเลยดูแปลกตาไปและให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด

    “นอนอีกหน่อย ง่วงมากเลย”ฉันตัวเกร็งขึ้นอย่างอัตโนมัติเมื่ออีกฝ่ายรวบตัวแน่นขึ้นไปอีก

    “ดะ เดี๋ยวสิ เช้าแล้ว”บอกเสียงเบา ว่าแต่ทำไมฉันต้องเกรงใจเขาขนาดนี้ด้วยเนี่ย

    “อีกหน่อย”บอกเสียงพึมพำก่อนจะหายใจสม่ำเสมอราวกับหลับไปแล้ว ฉันได้แต่กะพริบตาถี่ๆ เมื่ออีกคนที่เหมือนจะไปโหมงานหนักที่ไหนมาถึงได้หลับง่ายราวกับตายอย่างนี้ แถมหลับลึกและที่สำคัญ มือก็รัดแน่นไม่เคยเปลี่ยน แล้วแบบนี้ฉันจะออกไปจากอ้อมแขนของโดยได้อย่างไรล่ะ! แต่ในความใกล้ชิดมันสร้างความรู้ดีๆให้อย่างประหลาด อ้อมกอดที่โอบกอดราวกับจะคอยปกป้อง ดูแล กอดที่รัดแน่นแม้ในยามที่หลับ ราวกับ ว่า มันคือคำยืนยันว่าจะไม่ให้ฉันอยู่ห่างจากเขา เหมือนที่เขาพูดจริงๆอย่างนั้นแหละ

     

    “เฮ้อ~”ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อตัวเองใช้ความพยายามอย่างสูงที่สุดในการหลุดพ้นจากอ้อมแขนมือตุ๊กแตของอีกฝ่ายที่เกาะติดเหนียวแน่นเสียจนเล่นเอาเหงื่อตก ก่อนจะห่มผ้าให้แล้วเดินออกมาจากห้อง

    ตัวบ้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ที่ชั้นบนพบว่ามีห้องอยู่สามห้อง หนึ่งในนั้นคือห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำอยู่ในตัว ส่วนอีกห้องคาดว่าน่าจะเป็นห้องทำงานของเขา แต่อีกห้องน่ะคืออะไรล่ะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันที่จะต้องรู้นี่ เดินออกไปที่ตัวระเบียงก่อนจะเบิกตากว้างนิดๆเมื่อพบกับบรรยากาศธรรมชาติที่แสนรื่นรมย์ มีต้นไม้ใหญ่เป็นเสาหลักหนึ่งต้นตั้งอยู่ตรงกลาง รอบๆก็จะมีดอกไม้รายล้อมรอบ ราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์ที่คอบปกป้องนายตัวเอง ทางเดินเข้าถูกปูด้วยหินอ่อน มีน้ำตกจำลองน่ารักๆข้างๆต้นไม่ใหญ่ ฉันยิ้มก่อนจะสูดอากาศเข้าเต็มปอด รู้สึกสงบใจจัง

    ก่อนจะเดินลงบันไดไปชั้นล่าง พบห้องรับแขกที่มีโทรทัศน์ เครื่องโซฟา สีน้ำตาลตั้งตระหง่านอยู่อย่างเรียบร้อย เดินถัดไปทางซ้ายหน่อยก็จะพบห้องครัว ที่มีโต๊ะกินข้าวอยู่ในตัว เดินเข้าไปด้วยอาการหิว แน่สิ ก็ไม่มีอะไรถึงท้องตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อในตู้เย็นไม่มีวัตถุดิบอะไรเลยสักชิ้น มองไปรอบๆก็ไม่มีอะไรเลยที่จะกินได้สักอย่าง เห็นแต่หม้อ จาน ชาม ตั้งกระหง่านแต่ไร้การใช้งานจนน่าสงสัย คนบ้าอะไรไม่มีอะไรกินเลยหรอ??

    “ก็อกๆ”เสียงเคาะประตูหน้าบ้านเรียกความสนใจจากฉันอีกครั้ง เดินไปเปิดโดยไม่ทันคิดก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าเทมาริมาพร้อมกับคันคุโร่ ยืนหน้าตายิ้มแย้มกันทั้งสองคน เท่านั้นแหละ ราวกับมีใครเอาไฟมาลนอยู่ใกล้ ใบหน้าถึงได้ร้อนผ่าวขนาดนี้ เห็นสายตาล้อเลียนแล้วก็รู้สึกเขิน จะไม่ให้เขินได้อย่างไรในเมื่อกาอาระเล่นบทสวีตต่อหน้าแบบนั้นน่ะ ดีเท่าไหร่ที่ไม่ถูกล้อให้อายยิ่งกว่าเดิม

    “ว่าแต่ กาอาระยังไม่ตื่นใช่ไหม?”เทมาริเอ่ยถาม ขณะที่ดันตัวเข้ามาในตัวบ้าน ฉันเลยเลี่ยงให้ทั้งสองเข้ามา

    “ค่ะ ยังไม่ตื่นค่ะ”ฉันตอบก่อนจะตามเทมาริและคันคุโร่ไปที่ห้องรับรอง ก็นะ อยากจะบริการแขกอยู่หรอกแต่ติดตรงที่ไม่มีอะไรเลย ขนาดน้ำยังไม่มี

    “โทษทีนะ เธอคงหิวแล้ว ฉันเอาข้าวเช้ามาให้”ว่าแล้วก็ยื่นปิ่นโตสี่ชั้นมาให้

    “ขอบคุณมากค่ะ เทมาริ”ต้องมีคนมาส่งอาหารให้เขาทุกเช้าแบบนี้เสมอหรอ

    “เฮ้อ ปวดหัวชะมัด เมื่อวานประชุมเสร็จตั้งตีสาม ง่วงจังเลย อยากนอนบ้าง”คันคุโร่โอดครวญ ก่อนจะทิ้งตัวลงกับผนักของโซฟาแล้วหลับตาลง

    “อะ เอ่อ งั้นก็ไปนอนพักไม่ดีกว่าหรอคะ”เอ่ยถามไปแบบนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเทมาริ

    “หยุดเลยนะ พี่บ้า คอยดูเถอะ ถึงทีฉันเมื่อไหร่ จะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย”คันคุโร่เด้งตัวมาส่งสายตาดุให้พี่สาว

    “ฮ่าๆ น่าๆ นายก็ช่วยๆมันหน่อย ไม่เห็นหรอว่ามันเหนื่อยมาตั้งแต่มื่อวานน่ะ”เอ๋? แล้วทำไม ต้องเบนสายตามาทางฉันแล้วยิ้มแปลกๆแบบนี้ด้วยล่ะ

    “นั่นสินะ ยังไงก็ฝากหมอนั่นด้วยแล้วกันนะ ฮินาตะ เดี๋ยวสายๆจะมีคนเอาของสดมาให้ ไว้เผื่อทำอาหาร”ว่าแล้วก็ลุกเตรียมจะออก ฉันเลยรีบลุกตามโดยอัตโนมัติ ทั้งเทมาริและคันคุโร่หันมามองเป็นตาเดียวทันที

    “คะ คือว่า ทำไมถึงไม่มีของสดหรืออะไรสักอย่างที่กินได้เลยล่ะคะ”เอ่ยถามด้วยความสงสัย ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหันมายิ้มให้ฉันด้วยสายตาแปลกๆ

    “ก็เพราะ บ้านหลังนี้มันไม่เคยมาอยู่น่ะสิ สร้างบ้านไว้แต่ไม่เคยมาอยู่เพราะมันน่ะ มัวแต่ห่วงเรื่องงาน บ้านช่องก็เลยไม่เคยคิดจะกลับ จะมีก็แต่แม้บ้านที่เข้ามาดูแลความสะอาดให้เท่านั้นแหละ บางที ฉันก็แอบเสียดายที่สร้างบ้านไว้ซะสวยแต่ไม่อยู่นะ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะว่า มันคงรอให้คนสำคัญมาอยู่ด้วย”

     

    “มันคงรอให้คนสำคัญมาอยู่ด้วย”

    พวกเขาทั้งสองจากไปพร้อมกับทิ้งความรู้สึกปั่นป่วนในใจฉัน คนสำคัญ? มะ หมายความว่ายังไง ฉันน่ะหรอคนสำคัญของเขา เป็นไปไม่ได้ เราเพิ่งเจอกันไม่นานเองนะ ไม่สิๆ เรียกว่าแทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเชื่อเถอะ ฉันคงไม่รู้จักเขาแน่ๆ แต่เดียวนะ เหนื่อยมาทั้งวัน เลิกประชุมตีสาม ยะ อย่าบอกนะ!

    “มะ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้แน่ๆ”ต้องเป็นความคิดสิ้นคิดแน่ๆ เขาจะบ้าอะไรขนาดนั้นล่ะ

    “ท่านกาอาระนี่สุดยอดไปเลยเน้อ”เสียงแว่วๆดังจากหน้าบ้าน แถมยังได้ยินชื่อของเขาเลยทำให้เงี่ยหูฟังโดยไม่รู้ตัว ขอเลย ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย

    “ใช่ๆ ท่านหญิงเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกแล้ว”โชคดี? หมายความว่ายังไง

    “เน้อๆ ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ ถ้าจะมีใครสักคน ที่จะยอมอุ้มฉันไว้แอบอกตลอดการเดินทาง ส่งเข้านอนถึงเตียงนอน แล้วยังออกไปทำงานจนหามรุ่งหามค่ำแบบท่านกาอาระแบบนี้ ฉันรักตายเลยล่ะ”ราวกับถูกเวทมนตร์สาปให้เป็นหิน ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาจนเป็นความสงสัย ทำไม เขาต้องทำขนาดนี้ ทำไมกัน ทั้งๆที่เมื่ออาทิตย์ก่อนๆยังไม่ใส่ใจเลย แล้วนี่ จู่ๆทำไมถึง...ต้องลงทุนทำอะไรขนาดนี้ด้วย

    “อะ อ้าว ท่านหญิง ตื่นแล้วหรอคะ”ฉันได้สติ ส่งยิ้มทักเป็นมิตรให้สองสาวที่หอบเอาข้าวของสดมาให้

    “จ้า”เอ่ยตอบก่อนจะรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเมื่อเจอสายตาที่มองมาด้วยความชื่นชม  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเธอคงกำลังดีใจแทนเธอแน่ๆ และคงอิจฉาไม่แพ้กัน

    “พวกฉันเอาของสดมาให้น่ะคะ ขออนุญาตจัดของให้นะคะ”ดูท่าทางเหมือนชาวบ้านธรรมดาทั่วไป ด้วยการแต่งตัวลักษณะภายนอก แต่ฉันรู้ดีว่า พวกเธอคงถูกฝึกเพื่ออารักขาความปลอดภัยของผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้

    “ตามสบายจ่ะ”ก่อนที่พวกเธอจะเดินไปทางโซนห้องครัวอย่างชำนาญ คนสำคัญที่รอให้มาอยู่ด้วย แถมยังดูแลเธอจนถึงซึนะ โดยที่ไม่บ่นอะไรสักคำ ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็...ใช้แรงไปเยอะ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง บ้าจริง แล้วทำไม ต้องนึกถึงแต่เรื่องนั้นด้วยล่ะ ตื่นๆ ฮินาตะ หยุดบ้าเดียวนี้ เขาแค่ต้องการบางอย่างจากเธอ จะต้องคุยให้รู้เรื่อง จะได้กลับโคโนฮะ ไม่รู้ป่านนี้ทางโน้นจะเป็นยังไงบ้าง คิดแล้วก็เศร้า นารูโตะคุง จะเป็นยังไงบ้างนะ แล้วทำไม ฉันต้องรู้สึกผิดแบบนี้ด้วยล่ะ พอๆ ฮินาตะ หยุดเพ้อเจอสักที คนไร้หัวใจอย่างเขา จะรักใครเป็นจริงๆน่ะหรือ หรือเป็นเพราะฉันเองที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย ไม่ๆ หยุดเพ้อเจ้อ แค่รอให้เขาตื่น แล้วพูดให้รู้เรื่อง จะได้จบกันสักที ฉันจะได้ไปตามทางของตัวเองสักที

    “นายต้องการอะไรกันแน่ บอกมาตรงๆดีกว่า”ฉันเอ่ยถามพลางใช้สายตาตัวเองสบตากับดวงตาสีมรกตของอีกฝ่าย จ้องลึกเข้าไปราวกับต้องการหาคำตอบบางอย่างอยู่ แต่ ในความรู้สึกนึง มันก็กลัวที่จะต้องรู้ความจริงขึ้นมาเฉยๆ

    “ต้องการอะไร หมายความว่ายังไง”กาอาระพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน นั่งกินข้าวเช้าที่เทมาริเอามาเผื่อเขาด้วยท่าทีสงบๆจนฉันเริ่มร้อนรน แบบนี้หมายความว่ายังไง

    “ก็ที่นายทำดีกับฉัน นายต้องการอะไรกันแน่”โพลงถามอย่างอดไม่ไหว ก็เพราะเขาทุ่มเทกับมันมากเกินไป มากเกินกว่าที่คนอย่างฉันจะได้รับ

    กาอาระเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาสบตากับฉัน ด้วยสายตานิ่งๆ แต่หากสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีแววกรุ่นๆด้วย

    “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ คิดว่าที่ฉันทำดีกับเธอเพราะอะไรงั้นหรอ”ฉันสะอึกกับคำถามอีกฝ่าย แววตาที่จริงจังของเขาทำให้ฉันไปต่อไม่เป็น แต่ ฉันก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเพราะอะไร

    “นาย นายแค่ ต้องการแก้แค้นฉัน”เม้มปากแน่นเมื่อหลุดประโยคออกไปแบบนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะหึๆจากคนตรงข้าม

    “คิดว่าอย่างนั้นจริงๆหรอ”ถามพลางเท้าคางกับไหล่แล้ววางตรงโต๊ะกินข้าว ดวงตาสีเข้มจ้องมองมาทางฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จนฉันต้องขยับตัวอย่างอึดอัด

    “กะ ก็แล้วนายต้องการอะไรล่ะ”เงยหน้าสบตากับเขาด้วยอาการใจเต้นแรง เม้มปากแน่นเพื่อสะกดความตื่นเต้นของตัวเอง รอยยิ้มบางๆปรากฏให้เห็นบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนที่มืออีกข้างจะเอื้อมมาสัมผัสข้างแก้มเบาๆแต่สามารถเรียกไอร้อนได้อย่างดี

    “ไว้อยู่กับฉันนานๆก่อนนะ แล้วจะบอกให้”มะ หมายความว่ายังไง มองร่างสูงที่ลุกขึ้นเต็มความสูงบิดขี้เกียจก่อนจะเดินก้าวเข้ามาใกล้ที่ฉันนั่งอยู่

    “เป็นเด็กดี อย่าหนีเที่ยวนะ เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมา”ฉันกะพริบตาถี่เพื่อบอกว่านี่ไม่ใช่ฝัน น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับการมอบสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผากตัวเองนั้นเป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ดะ เดี๋ยวนะ แบบนี้มันเหมือนกันสามีที่ออกไปทำงานแล้วลาภรรยาเลยนี่ ตะ แต่เดี๋ยวนะ แล้วทำไม หัวใจต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วย แล้วนี่ ฉันคิดบ้าอะไรเนี่ย สามี ภรรยา บ้าที่สุด เขากำลังทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ใกล้เขา ระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้น



    * เอาใจช่วยท่านกาอาระพิชิตใจสาวกันด้วยนะ ใครมีวิธีจีบสาวดีๆมาแชร์กันได้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×