คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14
คันคุโร่และเทมาริพากันถอนหายใจเมื่อเรื่องวุ่นวายที่แสนปวดหัวจบลงได้อย่างสวยงาม
เอ่อ จะเรียกว่าจบเลยคงไม่ถูก เพราะร่างกายของฮินาตะอ่อนแอ
รวมทั้งยังมีความเครียดสะสมมาหลายวันจนทำให้ร่างกายอ่อนล้าเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
และวันนี้ยังออกไปรับลมพายุทะเลทรายร้อนนั่นอีก
ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อย
ส่วนอาการไอเป็นเลือดเนื่องจากสูดดมฝุ่นทรายจำนวนมาก ทำให้ทางเดินหายใจเสียหายเพียงเล็กน้อย ซึ่งหมอได้ให้ยามาแล้ว และตอนนี้หวังว่าเจ้าตัวจะตื่นสักที
ก่อนที่อีกคนที่เป็นสาเหตุให้เธออาการหนักขนาดนี้จะบ้าคลั่งอีกครั้ง
กาอาระเฝ้าดูแลเธอไม่ห่างกายด้วยตนเอง
เพราะตนนั้นเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องมีอาการหนักขนาดนี้ ไม่คิดว่า พายุอารมณ์ของเขาจะรุนแรงจนทำร้ายเธอถึงเพียงนี้
กาอาระไล้มือลูบผิวแก้มเบาๆ ยิ้มน้อยๆ
ยามนึกถึงคำพูดที่ทำให้หัวใจเขาอบอุ่นทุกครั้งที่นึกถึง
ครั้งนั้นเธอบอกว่าเป็นปีศาจเป็นเพื่อนฉัน
พอมาครั้งนี้ เธอบอกจะรับความเจ็บปวดแทนฉัน ทำไมเธอโง่แบบนี้นะ ฮินาตะ
และโง่กว่าคือเขาที่ทำร้ายเธอได้ลง
ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอนั้นสำคัญกับตนเองมากเพียงใด
“ฉันขอโทษ
ฮินาตะ”
ฮินาตะขยับร่างกายอย่างอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อรับรู้ว่ามีบางอย่างวางไว้ตรงเอวและมันหนักพอที่จะทำให้เธอขยับตัวไม่ได้นัก
คิ้วบางขมวดเข้าหากันทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา
และเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆเป่ารดที่ข้างท้องแบนราบ
ร่างบางจึงค่อยๆกะพริบตาขึ้นมามองอย่างสงสัย แล้วฮินาตะก็ทำตัวไม่ถูก
ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นกาอาระกำลังนอนกอดเธอไว้ ใบหน้าคมซุกเข้ามาข้างๆท้องเธอจนแทบจะไม่เหลือช่องว่าง
มือหนาก่ายเอวราวกับเป็นหมอนข้าง ฮินาตะเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว มือบางยกแขนหนาที่พาดตรงเอวออกอย่างแผ่วเบาแต่มันก็สามารถทำให้อีกคนรู้สึกตัว
กาอาระเงยหน้ามามองหญิงสาวที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจนั่น
“ตื่นแล้วหรอ
ฮินาตะ”กาอาระทักทายพร้อมยิ้มบางๆไปให้
ฮินาตะเลยหลบสายตาคมมามองที่มือของตนที่จับแขนเขาไว้เพื่อจะยกออกจากเอวบางนั่นเอง
“เธอหลับไปสองวันเต็มๆ
ฉันเป็นห่วงแทบแย่”กาอาระพูดแล้วแนบใบหน้าลงกับท้องแบนราบของเธอพร้อมกับกอดแน่นขึ้นจนร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจ
มือบางดันไหล่หนาทั้งสองไว้อย่างหวาดหวั่น
“ปะ
ปล่อยฉันก่อนได้ไหม มันอึดอัดนะ”ฮินาตะประท้วงเบาๆ
“หึๆ
อึดอัดหรือกลัวอย่างอื่นกันแน่”กาอาระยอมผละออกห่างจากความอบอุ่นและกลิ่นหอมของเธอมาสบตา
“ปะ
เปล่าสักหน่อย”ฮินาตะดันไหล่เขาออกห่าง กาอาระเลยยอมผละออกอย่างว่าง่าย
แล้วมานั่งข้างๆหญิงสาว เอามืออังหน้าผากมน
“ไข้ลดแล้วสินะ
ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”กาอาระพูดอย่างใส่ใจมองใบหน้างามด้วยความห่วงใยใบหน้าคมอ่อนลง
เขากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
“ไม่เจ็บแล้วล่ะ”ฮินาตะตอบแล้วเอียงหน้าหลบมือหนาที่ไม่ยอมผละออกจากหน้าผากเธอ
กาอาระมองท่าทางนั้นยิ้มๆ
“ยังเจ็บคออยู่รึเปล่า”ไม่พูดเปล่าแต่ยังขยับเข้ามาใกล้จนฮินาตะตกใจ
“มะ
ไม่ ไม่แล้วล่ะ”มือบางดันอกแกร่งของอีกคนไว้ด้วยใบหน้าตื่นๆ นั่นทำให้กาอาระหัวเราะน้อยๆยอมถอยออกมา
“ฉันจะให้คนทำข้าวต้มให้
หิวหรือเปล่า”ทอดมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนจนทำให้อีกคนไม่กล้าสบตาคมกล้าของเขานาน
“หิวค่ะ”ฮินาตะตอบไปตามจริง
ร่างกายเธอรู้สึกอ่อนล้าไปหมด
“งั้นรอเดี๋ยว
แล้วจะรีบกลับมา”พูดจบก็ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่ตั้งตัวขโมยจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
ขณะที่อีกคนนิ่งค้างไป กว่าจะรู้ตัวคนเอาแต่ใจก็เดินลิ่วออกไปแล้ว
“คะ
คนบ้า”
กาอาระมองหญิงสาวที่ครอบครองหัวใจตนด้วยแววตาแสนรัก
นานวันเขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองขาดเธอไปไม่ได้ เธอสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง
“ฮินาตะ
ขอโทษที่ทำให้เจ็บตัวแบบนี้นะ”หลังจากเธอกินข้าวเสร็จกาอาระจึงพูดขึ้นมา
ฮินาตะที่กินข้าวเรียบร้อยแล้วหันมามอง ปากบางเม้มแน่น
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ”เพราะความโกรธทำให้เธอพูดออกไปโดยไม่คิด
เลยทำร้ายจิตใจของเขาแบบนั้น
“ขอโทษอะไรกัน
ฉันต่างหากที่ทำร้ายเธอ”กาอาระระบายยิ้มเล็กน้อย มองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาอบอุ่น
และทำให้อีกคนไม่กล้ามองนาน กลัวว่าจะตกหลุมพรางนั่น
“งั้นก็หายกันแล้วกัน
จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกัน”ฮินาตะสรุปเองซะเลย
ขืนยังรอเขาเธอคงไม่ต้องทำอะไรเพราะคงพะวงอยู่แต่กับเขานั่นแหละ
“อืม”กาอาระตอบสั้นๆ
หยิบยาและน้ำมาให้ ฮินาตะรับมากินอย่างว่าง่าย และเมื่อกินเสร็จ
ร่างสูงก็ดันให้เธอนอนราบบนเตียง
“พักผ่อนเถอะ”
“แต่ว่า”
“ร่างกายยังไม่แข็งแรงนะ
ห้ามเถียงห้ามดื้อ”ฮินาตะหน้ายู่มองคนบงการชีวิตแล้วก็ไม่ชอบใจ
“ไม่ได้ดื้อ”เสียงเล็กๆบ่นอย่างขัดใจแล้วก็หันหลังให้อีกฝ่ายราวกับรำคาญเสียแบบนั้น
แต่นั่นก็ทำให้อีกคนที่เห็นท่าทางน่ารักยิ้มโดยไม่รู้ตัว
“ดื้ออยู่เห็นๆ”กาอาระต่อประโยคให้ตัวเองในใจ
ไม่อยากทำให้คนที่เพิ่งฟื้นต้องอารมณ์เสียอีก จัดการดึงผ้าห่มมาให้ร่างบาง
แล้วจึงกดจูบแผ่วเบาที่กลุ่มผมนุ่มหอม
“มีอะไรก็เรียกนะ
ฉันอยู่ข้างนอก”พูดจบแล้วก็ผละตัวออกห่าง
ขณะที่คนแกล้งหลับลืมตามามองประตูที่ปิดลงด้วยมือของชายหนุ่ม
ก่อนจะกวาดสายตามองรอบๆแล้วก็พบว่าตนยังนอนอยู่ที่ห้องพักที่ห้องทำงานของเขาอยู่
แปลว่าไม่ได้กลับบ้านหรอกหรอ? ฮินาตะคิดแล้วก็เผลอหลับไปด้วยฤทธิ์ยา
ตื่นมาอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงโวยวายข้างนอกนั่น คิ้วบางขมวดเข้ากัน
ก่อนจะขยับกายลุกตรงไปทางประตู มือบางกำลังจะเปิดออก แต่กลับได้ยินชื่อตัวเองจนมือชะชัก
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับฮินาตะเด็ดขาด”เสียงเข้มติดดุพูดด้วยน้ำเสียงห้วนจัด
อะไรกัน มีเรื่องงั้นหรอ?
“แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับเธอโดยตรงเลยนะ
ถ้าบอกเธอ”เสียงเทมาริดังขึ้นมา
“ก็บอกว่าไม่
ห้ามบอก นี่คือคำสั่ง”ฮินาตะชักทนไม่ไหว มีความลับอะไรกัน ร่างบางกระชากประตูเปิดออก
นั่นทำให้คนที่เถียงกันนั้นหันมามอง
กาอาระสะอึกและปรับสีหน้าเข้มก่อนจะเดินเข้าไปหา
ส่วนคันคุโร่กับเทมาริหันมาสบตากัน
“ตื่นแล้วหรอ ออกมาทำไม ร่างกายยังไม่แข็งแรงเลย”เสียงนุ่มน่าฟังของน้องชายทำให้พี่ทั้งสองหันไปมองแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือกาอาระที่พวกเขารู้จัก เปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลย
“มีเรื่องอะไรกัน”ฮินาตะมองคนเข้ามาหาแล้วร้องถามสิ่งที่คาใจ
“ไม่มีอะไรนี่
มาเถอะ ไปพักดีกว่า”กาอาระไม่สนใจสายตาตั้งคำถามของเธอ
ประคองร่างบางเพื่อกลับเข้าห้องแต่อีกคนฝืนไว้
“ฮินาตะ”
“ถ้าไม่บอก
ฉันก็จะไม่พัก”เห็นแววตาดื้อดึงของเธอแล้วกาอาระก็ถอนหายใจเบาๆ
ทำไมเด็กดื้อของเขาต้องดื้อขนาดนี้นะ
“ไม่มีอะไรจริงๆ”กาอาระยังยืนยันคำเดิม
ท่าทางชวนโมโหนั่นทำให้ฮินาตะหน้ามุ่ยไม่ชอบใจ
ผละออกห่างจากร่างสูงแล้วเดินเข้าไปหาเทมาริและคันคุโร่
*มาต่อแล้วนะคะ อิอิ
ความคิดเห็น