ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : chapter 12 80%
เพชรพราว ยังคงนั่งแปลกใจถึงโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ภายในคลิดนิก ทำให้เธอนึกสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าน้ำอิงจะเป็นผู้หญิงที่พี่ชายของเธอ เฝ้าทุ่มเท ทุกสิ่งอย่างให้หรือไม่ เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาค้างคาใจเธออยู่ ถึงเวลาที่เพชรพราวจะต้องซุ่มหาความจริง ที่จะเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าใช่น้ำอิงแน่หรือไม่ เพราะระบบที่เธอกำลังใช้งานอยู่นี้ พี่ชายเคยบอกว่าทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นสัตวแพทย์ และเป็นคนที่พี่ชายของเธออยากจะมีความสัมพันอันลึกซึ้ง และเพชรพราว จะยังคงหาคำตอบให้ได้ด้วยตัวเองต่อไป
ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาหาน้ำอิง ติดต่อเรื่องผู้ป่วย ที่เธอทิ้งเบอร์ไว้ให้กับโรงพยาบาลว่าถ้าหากมีเรื่องคืบหน้าเกี่ยวกับคนป่วยให้ติดต่อเธอได้ทันที ทางโรงพยาบาลต้องการย้ายผู้ป่วยออกจากห้องไอซียู น้ำอิงจึงต้องเข้าไปจัดการที่โรงพยาบาล อาชิยังไม่รู้ตัวว่าคนป่วยที่เธอพูดถึงคือตัวเขา จนกระทั่งน้ำอิง เดินไปตามเพชรพราว ให้ไปเยี่ยมพี่ชายด้วยกัน เพียงเท่านั้นทำให้อาชิไม่ต้องสงสัยอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดที่น้ำอิงคุยกับทางโรงพยาบาล
"เฮ้ย...นี่เรานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเจ้าชายนิทราอยู่หรือเนี่ยะ ไม่ได้กาลแล้ว ฉันต้องเร่งหาวิธีกลับเข้าร่างให้ได้โดยเร็วที่สุด ว่าแต่จะทำอย่างไรดี"
อาชิ บ่นพรึมพรำในใจ แต่ท่าทางภาษากายของเขา ที่หมุนตัวติ้วๆ เป็นลูกข่าง เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาเริ่มที่จะไม่มั่นคง มีความกังวลใจ แต่น้ำอิงเข้าใจว่า เจ้าร็อคกี้กำลังเรียกร้องความสนใจ เพราะรู้ว่าน้ำอิงจะออกไปข้างนอก และไม่ยอมพาร็อคกี้ออกไปด้วย เธอจึงอุ้มเขาขึ้นมาแล้วลูบหัว
"ร็อคกี้อยู่นี่ก่อนนะลูก แม่ออกไปธุรไม่นานเดี๋ยวจะซื้อขนมอร่อยๆ กลับมาฝากนะ"
"รีบไปกันเถอะค่ะ" เพชรพราว ชวนน้ำอิงให้รีบไป ตามภาษาคนใจร้อนอย่างเธอที่ไม่ชอบรออะไรนานๆ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทั้งสองสาว ก็เห็นหมอนัดกับหมอสุ ยืนรออยู่ หน้าห้องพักผู้ป่วย เพชรพราว ยกมือสวัสดีทั้งสองคนตามมารยาท ถึงแม้ว่าสายตาของเธอจะมองหมอนัดไม่เต็มตาสักเท่าไหร่
"แหม่ ยกขโยงกันมาทั้งโรงพยาบาลเลยนะ แล้วแบบนี้ใครจะอยู่เฝ้าโรงพยาบาลเนี่ยะ" น้ำอิงพูดแซวทั้งสองคน จากนั้นหมอสุจึงรีบแก้ตัวขึ้น
"อีกชั่วโมงนึงก็พักเที่ยงพอดี ฉันก็เลยออกมาพร้อมกับพี่นัดซะเลย จะได้ทานข้าวกลางวันกันด้วย"
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้อง เพชรพราวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอรีบเปิดประตูเข้าไปหาพี่ชายทันที ทุกคนจึงได้แต่ยืนเงียบกันไป เพราะความใจร้อนรุกรี้รุกรน ของเธอ เมื่อเห็นหน้าพี่ชายที่นอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา สีหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไป ในตาแดงกล่ำ แต่คงยังสามารถประคับประครองจิตใจไม่ให้อ่อนแอ ให้ใครเห็นได้
"หมอบอกว่า อาการของเขาทรงตัว ไม่มีโรคแทรกซ้อนหรืออะไรที่น่าเป็นห่วงอีกต่อไป มีเพียงสมองเท่านั้นที่ยังไม่สามารถตอบสนองใดๆ ได้"
น้ำอิงได้กล่าวขึ้นหลังจากที่เธอได้คุยกับหมอแล้วก่อนหน้านี้ เธอจับไปที่ไหล่ของเพชรพราวที่กำลังกุมมือพี่ชายไว้อย่างแนบแน่น และเอ่ยขึ้นอีกประโยคว่า "พี่จ้างพยาบาลพิเศษและนักกายภาพบำบัด ไว้คอยดูแล พี่ชายเราอย่างใกล้ชิดแล้วนะ เพชรพราวไม่ต้องเป็นห่วง"
"วันนี้พราวขออยู่เฝ้าพี่อาชิ ทั้งวันได้ไหมคะ เผื่อว่าพี่อาชิได้ยินเสียงพราวแล้วเขาจะฟื้นขึ้นมา"
"ได้สิ่จ๊ะ ถ้าพราวอยากจะกลับเมื่อไหร่ ก็โทรหาพี่ละกัน เดี๋ยวพี่มารับ"
น้ำอิงอนุญาตพราวโดยทันทีทันใด เพราะเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนดีนี้ว่าเป็นเช่นไร รวมถึงหมอนัดและหมอสุ ที่ยืนมองเพชรพราวด้วยความสงสารอย่างจับใจ ทุกคนยืนมองอาชิเพื่อเฝ้ารอการฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง น้ำอิงเดินไปข้างเตียงที่อยู่ตรงข้ามกับเพชรพราว เธอยกมืออาชิขึ้นมาและกุมเอาไว โน้มตัวลงไปใกล้ๆ กับหูของเขา แล้วพูดกับเขาว่า
"คุณอาชิ คุณต้องตื่นขึ้นมาเร็วๆ นะ น้องสาวและทุกๆ คนกำลังรอคุณอยู่"
จากนั้นน้ำอิง หมอนัด และหมอสุ ได้นัดเจอกันที่ร้านอาหารเจ้าประจำเพื่อทานมื้อเที่ยงก่อนกลับเข้าไปทำงานกันต่อ "ยัยสุ นักโปรแกรมเมอร์คนนั้นเขาตอบกลับมาแล้วล่ะ รู้ยัง"
"จริงหรอ แล้วเขาหายไปไหนมาตั้งหลายวัน"
"เขาบอกว่างานยุ่งมากหน่ะ เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ก็เลยลดการติดต่อน้อยลง ทีนี้ก็มั่นใจได้แล้วสิ่นะ ว่าพี่ชายของเพชรพราว กับ นายคนนั้น เป็นคนละคนกัน"
"น้ำอิง เธอมั่นใจผู้ชายคนนี้หรอว่าเขาจะจริงจังกับเธอ กะแค่เขาสามารถเป็นที่ปรึกษาและหาคำแนะนำดีๆ ให้กับเธอได้เนี่ยะ ไม่น่าชื่อเลยว่าจะทำให้เธอผูกพันกับเขาได้"
หมอสุ พูดด้วยน้ำเสียงแห่งการแสดงความเป็นห่วงเพื่อน
"ฉันก็ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่บางครั้ง ฉันก็ไม่ได้ต้องการที่ปรึกษาที่ดีเสมอไป เพียงแค่ต้องการกำลังใจดีๆ กลับมา แล้วเขาเพียงคนเดียวที่เข้าใจฉันว่า ในขณะนั้นฉันต้องการคำแนะนำ หรือต้องการกำลังใจ"
น้ำอิงเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟังด้วยความสบายใจ ในขณะอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่ทั้งสองสาวก็ได้สังเกตหมอนัด ที่มีอาการเงียบจนผิดปกติ จนกระทั่งหมอสุ ต้องโบกมือไปมาบริเวณตาของเขา "พี่นัดคะ เป็นอะไร เหม่อเชียว" หมอสุทักเขา
"ป่าว นี่ ทำไม พี่เป็นอะไรหรอ"
"หรือจะเป็นห่วงเพชรพราว" น้ำอิงแซวขึ้น
"อืม พี่ว่า เพชรพราวเขาดูน่าสงสารนะ ตอนนี้เหลือตัวคนเดียว คงจะกำลังแย่น่าดู"
สองสาวจ้องหน้าหมอนัดเป็นตาเดียวกันเมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนั้น จากนั้นสองสาวก็หันมามองหน้ากัน น้ำอิงเอ่ยขึ้นกับหมอสุ "ยัยสุ เธอคิดเหมือนอย่างที่ฉันคิดไหม" "อื่ม..ฉันกำลังคิดอยู่นะน้ำอิง ว่าเพชรพราว
หน้าคล้ายๆ กับรุ่นพี่เราที่ชื่อ ชนิศา ใช่ไหม"
"นี่ๆ หยุดเลยสองคน เลิกเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ให้พี่ได้ยินอีก พี่เห็นใจแล้วก็สงสารเพชรพราวเขาจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวเลยว่าหน้าจะไปเหมือนใคร"
หมอนัดรีบเอ่ยตัดความสองสาว ที่ชอบพูดชื่อแฟนเก่าของหมอนัดที่เคยหักอกเขาไปในขณะกำลังจะเรียนจบ เมื่อหลายปีก่อน
สองสาวมองหน้ายิ้มเยอะหมอนัดจน หน้าและใบหูที่ใสซีดแดงกล่ำ แต่ใบหน้าดูคมเข้มด้วยคิ้วหนาจนแทบจะติดกับตา และหนวดเคลาที่ขึ้นประปราย จึงทำให้หน้าใสดูมีเสน่ห์ ไม่จืดชืด
ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาหาน้ำอิง ติดต่อเรื่องผู้ป่วย ที่เธอทิ้งเบอร์ไว้ให้กับโรงพยาบาลว่าถ้าหากมีเรื่องคืบหน้าเกี่ยวกับคนป่วยให้ติดต่อเธอได้ทันที ทางโรงพยาบาลต้องการย้ายผู้ป่วยออกจากห้องไอซียู น้ำอิงจึงต้องเข้าไปจัดการที่โรงพยาบาล อาชิยังไม่รู้ตัวว่าคนป่วยที่เธอพูดถึงคือตัวเขา จนกระทั่งน้ำอิง เดินไปตามเพชรพราว ให้ไปเยี่ยมพี่ชายด้วยกัน เพียงเท่านั้นทำให้อาชิไม่ต้องสงสัยอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดที่น้ำอิงคุยกับทางโรงพยาบาล
"เฮ้ย...นี่เรานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเจ้าชายนิทราอยู่หรือเนี่ยะ ไม่ได้กาลแล้ว ฉันต้องเร่งหาวิธีกลับเข้าร่างให้ได้โดยเร็วที่สุด ว่าแต่จะทำอย่างไรดี"
อาชิ บ่นพรึมพรำในใจ แต่ท่าทางภาษากายของเขา ที่หมุนตัวติ้วๆ เป็นลูกข่าง เพราะตอนนี้อารมณ์ของเขาเริ่มที่จะไม่มั่นคง มีความกังวลใจ แต่น้ำอิงเข้าใจว่า เจ้าร็อคกี้กำลังเรียกร้องความสนใจ เพราะรู้ว่าน้ำอิงจะออกไปข้างนอก และไม่ยอมพาร็อคกี้ออกไปด้วย เธอจึงอุ้มเขาขึ้นมาแล้วลูบหัว
"ร็อคกี้อยู่นี่ก่อนนะลูก แม่ออกไปธุรไม่นานเดี๋ยวจะซื้อขนมอร่อยๆ กลับมาฝากนะ"
"รีบไปกันเถอะค่ะ" เพชรพราว ชวนน้ำอิงให้รีบไป ตามภาษาคนใจร้อนอย่างเธอที่ไม่ชอบรออะไรนานๆ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทั้งสองสาว ก็เห็นหมอนัดกับหมอสุ ยืนรออยู่ หน้าห้องพักผู้ป่วย เพชรพราว ยกมือสวัสดีทั้งสองคนตามมารยาท ถึงแม้ว่าสายตาของเธอจะมองหมอนัดไม่เต็มตาสักเท่าไหร่
"แหม่ ยกขโยงกันมาทั้งโรงพยาบาลเลยนะ แล้วแบบนี้ใครจะอยู่เฝ้าโรงพยาบาลเนี่ยะ" น้ำอิงพูดแซวทั้งสองคน จากนั้นหมอสุจึงรีบแก้ตัวขึ้น
"อีกชั่วโมงนึงก็พักเที่ยงพอดี ฉันก็เลยออกมาพร้อมกับพี่นัดซะเลย จะได้ทานข้าวกลางวันกันด้วย"
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้อง เพชรพราวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอรีบเปิดประตูเข้าไปหาพี่ชายทันที ทุกคนจึงได้แต่ยืนเงียบกันไป เพราะความใจร้อนรุกรี้รุกรน ของเธอ เมื่อเห็นหน้าพี่ชายที่นอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา สีหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไป ในตาแดงกล่ำ แต่คงยังสามารถประคับประครองจิตใจไม่ให้อ่อนแอ ให้ใครเห็นได้
"หมอบอกว่า อาการของเขาทรงตัว ไม่มีโรคแทรกซ้อนหรืออะไรที่น่าเป็นห่วงอีกต่อไป มีเพียงสมองเท่านั้นที่ยังไม่สามารถตอบสนองใดๆ ได้"
น้ำอิงได้กล่าวขึ้นหลังจากที่เธอได้คุยกับหมอแล้วก่อนหน้านี้ เธอจับไปที่ไหล่ของเพชรพราวที่กำลังกุมมือพี่ชายไว้อย่างแนบแน่น และเอ่ยขึ้นอีกประโยคว่า "พี่จ้างพยาบาลพิเศษและนักกายภาพบำบัด ไว้คอยดูแล พี่ชายเราอย่างใกล้ชิดแล้วนะ เพชรพราวไม่ต้องเป็นห่วง"
"วันนี้พราวขออยู่เฝ้าพี่อาชิ ทั้งวันได้ไหมคะ เผื่อว่าพี่อาชิได้ยินเสียงพราวแล้วเขาจะฟื้นขึ้นมา"
"ได้สิ่จ๊ะ ถ้าพราวอยากจะกลับเมื่อไหร่ ก็โทรหาพี่ละกัน เดี๋ยวพี่มารับ"
น้ำอิงอนุญาตพราวโดยทันทีทันใด เพราะเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนดีนี้ว่าเป็นเช่นไร รวมถึงหมอนัดและหมอสุ ที่ยืนมองเพชรพราวด้วยความสงสารอย่างจับใจ ทุกคนยืนมองอาชิเพื่อเฝ้ารอการฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง น้ำอิงเดินไปข้างเตียงที่อยู่ตรงข้ามกับเพชรพราว เธอยกมืออาชิขึ้นมาและกุมเอาไว โน้มตัวลงไปใกล้ๆ กับหูของเขา แล้วพูดกับเขาว่า
"คุณอาชิ คุณต้องตื่นขึ้นมาเร็วๆ นะ น้องสาวและทุกๆ คนกำลังรอคุณอยู่"
จากนั้นน้ำอิง หมอนัด และหมอสุ ได้นัดเจอกันที่ร้านอาหารเจ้าประจำเพื่อทานมื้อเที่ยงก่อนกลับเข้าไปทำงานกันต่อ "ยัยสุ นักโปรแกรมเมอร์คนนั้นเขาตอบกลับมาแล้วล่ะ รู้ยัง"
"จริงหรอ แล้วเขาหายไปไหนมาตั้งหลายวัน"
"เขาบอกว่างานยุ่งมากหน่ะ เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ก็เลยลดการติดต่อน้อยลง ทีนี้ก็มั่นใจได้แล้วสิ่นะ ว่าพี่ชายของเพชรพราว กับ นายคนนั้น เป็นคนละคนกัน"
"น้ำอิง เธอมั่นใจผู้ชายคนนี้หรอว่าเขาจะจริงจังกับเธอ กะแค่เขาสามารถเป็นที่ปรึกษาและหาคำแนะนำดีๆ ให้กับเธอได้เนี่ยะ ไม่น่าชื่อเลยว่าจะทำให้เธอผูกพันกับเขาได้"
หมอสุ พูดด้วยน้ำเสียงแห่งการแสดงความเป็นห่วงเพื่อน
"ฉันก็ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่บางครั้ง ฉันก็ไม่ได้ต้องการที่ปรึกษาที่ดีเสมอไป เพียงแค่ต้องการกำลังใจดีๆ กลับมา แล้วเขาเพียงคนเดียวที่เข้าใจฉันว่า ในขณะนั้นฉันต้องการคำแนะนำ หรือต้องการกำลังใจ"
น้ำอิงเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟังด้วยความสบายใจ ในขณะอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่ทั้งสองสาวก็ได้สังเกตหมอนัด ที่มีอาการเงียบจนผิดปกติ จนกระทั่งหมอสุ ต้องโบกมือไปมาบริเวณตาของเขา "พี่นัดคะ เป็นอะไร เหม่อเชียว" หมอสุทักเขา
"ป่าว นี่ ทำไม พี่เป็นอะไรหรอ"
"หรือจะเป็นห่วงเพชรพราว" น้ำอิงแซวขึ้น
"อืม พี่ว่า เพชรพราวเขาดูน่าสงสารนะ ตอนนี้เหลือตัวคนเดียว คงจะกำลังแย่น่าดู"
สองสาวจ้องหน้าหมอนัดเป็นตาเดียวกันเมื่อได้ยินเขากล่าวเช่นนั้น จากนั้นสองสาวก็หันมามองหน้ากัน น้ำอิงเอ่ยขึ้นกับหมอสุ "ยัยสุ เธอคิดเหมือนอย่างที่ฉันคิดไหม" "อื่ม..ฉันกำลังคิดอยู่นะน้ำอิง ว่าเพชรพราว
หน้าคล้ายๆ กับรุ่นพี่เราที่ชื่อ ชนิศา ใช่ไหม"
"นี่ๆ หยุดเลยสองคน เลิกเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ให้พี่ได้ยินอีก พี่เห็นใจแล้วก็สงสารเพชรพราวเขาจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวเลยว่าหน้าจะไปเหมือนใคร"
หมอนัดรีบเอ่ยตัดความสองสาว ที่ชอบพูดชื่อแฟนเก่าของหมอนัดที่เคยหักอกเขาไปในขณะกำลังจะเรียนจบ เมื่อหลายปีก่อน
สองสาวมองหน้ายิ้มเยอะหมอนัดจน หน้าและใบหูที่ใสซีดแดงกล่ำ แต่ใบหน้าดูคมเข้มด้วยคิ้วหนาจนแทบจะติดกับตา และหนวดเคลาที่ขึ้นประปราย จึงทำให้หน้าใสดูมีเสน่ห์ ไม่จืดชืด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น