ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 3
"อะไรกันเนี่ยะ เกิดอะไรขึ้นกับฉัน"
อาชิในร่างร็อคกี้หมุนตัวติ้วๆ เป็นลูกข่าง ไม่ยอมหยุดเหตุเพราะความวิตกกังวล สติเขาแทบไม่มีอยู่กับตัวแล้วเขาพยายามจะตรวจสอบตัวเองเหตุเพราะรู้สึกได้ถึงร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป
"ขา แขน ตัวฉัน หายไปไหน ทำไมรู้สึกตัวเบาหวิว บอกไม่ถูกแบบนี้ มีขนด้วย เกิดอะไรขึ้นกับฉัน"
"ร็อคกี้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวแม่พาไปโรงพยาบาลนะลูก"
น้ำอิงลูบไปที่หัวของอาชิ เขารู้สึกได้ว่ามือนั้นลูบเขาด้วยความรักและเอ็นดู "ร็อคกี้อย่างนั้นหรอ ผมชื่ออาชินะคุณ จำผมได้ไหม วันนี้ผมเห็นคุณที่สวนสาธารณะและตั้งใจจะเข้าไปหาคุณ เฮ้ย...นี่ผมอยู่บนเตียงสัตว์นี่"
เขาสังเกตสิ่งของที่อยู่รอบตัว ก่อนที่จะถูกน้ำอิงอุ้มเข้าแนบลำตัวเหมือนดั่งเด็กน้อย
อาชิรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสังเกตได้ชัด หัวน้อยๆ ของสุนัขพันธุ์ปอมซบอยู่ตรงเนินอกนุ่มของหญิงสาว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในร่างของชายหนุ่ม แต่ความรู้สึกในความเป็นชายยังคงกระตุ้นให้เขาคิดถึงเรื่องอย่างว่า
"อะจึ๋ย นิ่มจังเลยอุ่นด้วย"
เขาจึงเน้นใช้หัวถูๆไถๆ ไปยังบริเวณนั้นอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งน้ำอิงอุ้มเขาเดินมายังรถ อาชิมองเห็นเงาสะท้อนของหมาในกระจก เขาบึ่งตากว้าง
"เฮ้ย อะไรวะน่ะ"
เขาดิ้นอย่างสุดฤทธิ์ แลบลิ้นเลียไปทางซ้ายทีและทางขวาที ยิ่งดิ้นยิ่งสังเกตเห็นพฤติกรรมเหมือนของตัวเอง สักพักจึงรู้ตัวว่า นี่คือตัวเขา เขาตกใจมากจนกระโจนตัวเองตกลงมาจากอ้อมกอดของน้ำอิง แล้วนั่งตัวสั้นอยู่ที่พื้น
"ไม่นะ ไม่จริง มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว ตัวฉันๆ ทำไมกลายเป็นหมาไปได้"
น้ำอิงตกใจที่ลูกชายสุดที่รักทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เธอหันไปอุ้มเขาขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง แล้วเดินขึ้นรถไป
"ร็อคกี้ทำไมมองแม่แล้วตัวสั่นอย่างนั้นลูก เป็นอะไรหรือป่าว" น้ำอิงมีสีหน้าที่กังวลเธอลูบไปที่หัวของเขาอย่างเป็นห่วง
"จะไม่ให้ผมไม่ตกใจได้ไงล่ะคุณ เป็นคนอยู่ดีๆ ดันมากลายเป็นหมาซะงั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่"
อาชินั่งอยู่ข้างคนขับเขานั่งมองเธอตาปริบๆ เขาพยายามสื่อสารกับเธอ แต่ดูเหมือนว่า จะไม่เป็นผลสำเร็จ "ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้สึกสิ่นะ ว่าผมกำลังสื่อสารกับคุณอยู่ เฮ้อ..ชั่งเถอะ"
อาชิในร่างร็อคกี้ทำท่าเซ็ง นั่งหัวตก น้ำอิงหันมามองเขาแล้วยิ้ม เพราะเธอเข้าใจภาษากายของเจ้าร็อคกี้ดี จนกระทั่งไปถึงโรงพยาบาล น้ำอิง อุ้มหมาน้อยส่งต่อให้ หมอสุนิสา เพื่อนสนิทของเธอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
"สุ ช่วยเอ็กสเรย์ ร็อคกี้ให้ทีนะ ฉันกลัวว่าสมองของเขาจะมีปัญหาน่ะ"
หมอสุรับตัวร็อคกี้จากอ้อมกอดของน้ำอิงมา แล้วสังเกตอาการภายนอก ตาใสๆ ของหมาน้อย ส่ายไปส่ายมา ด้วยความฉงน
"เอ...เท่าที่ดู เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่เซื่องซึมเหมือนสัตว์ป่วย แต่ตัวสั่น ซึ่งก็เป็นธรรมดาของสุนัขที่ตกใจหรือตื่นเต้น"
น้ำอิง มีสีหน้าที่วิตกกังวล เธอลูบไปที่หัวของร็อคกี้
"ร็อคกี้มีท่าทางแปลกๆ นิสัยของเขาเปลี่ยนไป ที่สำคัญเหมือนกับว่าเขาจำฉันไม่ได้ด้วย"
"ยังไงเดี๋ยวฉันพาไปเอ็กซเรย์ดูก่อนนละกันนะ"
น้ำอิง จดจ่อมองร็อคกี้ด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เอ็กซเรย์เสร็จ หมอสุจึงแจ้งอาการเจ้าร็อคกี้ให้ฟังว่า มันไม่ได้เป็นอะไรเลย มีแต่รอยฟกซ้ำนิดหน่อยบริเวณผิวหนังด้านนอก แต่ภายในปกติดีทุกอย่าง และสาเหตุที่พฤติกรรมของเจ้าร็อคกี้เปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะอาการตกใจ จนเสียขวัญ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
"ฉันคิดว่า มันคงจะตกใจมากไปเท่านั้น รอดูอาการไปอีกสักพักมันน่าจะดีขึ้นเองนะ....แล้วอาการของผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง"
หมอสุนิสา ไถ่ถามถึงอาการของอาชิ เธอรู้เรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เพราะก่อนที่น้ำอิงจะนำตัวร็อคกี้มา เธอได้โทรศัพท์เล่าเหตุการที่เกิดขึ้นให้กับสุนิสาฟัง
"ตอนนี้ฉันฝากให้พี่นัดเป็นธุระให้อยู่ เห็นบอกว่ายังไม่ออกจากห้องไอซียูเลย ฉันฝากเจ้าร็อคกี้ไว้กับเธอก่อนนะสุ จะรีบไปโรงพยาบาล เมื่อเสร็จธุรแล้วจะกลับมารับ"
"ได้สิ่ เธอรีบไปเถอะ ถ้ามีข่าวอะไรคืบหน้า ก็ส่งข่าวมาบอกด้วยละกัน"
"นี่คุณ จะไปหาใครหรอ ให้ผมไปด้วยคนสิ่ อย่าทิ้งกัน" อาชิ ไม่อยากอยู่ห่างเธอ เขาจึงพยายามขอไปด้วย โดยการใช้ภาษากายบ่งบอก เขาพยายามดิ้นและตะกายสุนิสา เพื่อที่จะกลับมาหาน้ำอิง
"ไม่เอาน่าร็อคกี้ อย่าดื้อกับหมอสุนะ แม่บอกแล้วไงว่าหากเสร็จธุรแล้วจะกลับมารับนะ"
น้ำอิงลูบหัวร็อคกี้ ก่อนที่จะรีบรุดหน้าไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการบาดเจ็บของอาชิ ในขณะนั้นอาชิในร่างร็อคกี้ ยังไม่สามารถจำเหตุการที่เกิดขึ้นได้ เขาจึงไม่รู้ว่า น้ำอิงนั้นกำลังไปหาร่างของเขาอยู่
อาชิในร่างร็อคกี้หมุนตัวติ้วๆ เป็นลูกข่าง ไม่ยอมหยุดเหตุเพราะความวิตกกังวล สติเขาแทบไม่มีอยู่กับตัวแล้วเขาพยายามจะตรวจสอบตัวเองเหตุเพราะรู้สึกได้ถึงร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป
"ขา แขน ตัวฉัน หายไปไหน ทำไมรู้สึกตัวเบาหวิว บอกไม่ถูกแบบนี้ มีขนด้วย เกิดอะไรขึ้นกับฉัน"
"ร็อคกี้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวแม่พาไปโรงพยาบาลนะลูก"
น้ำอิงลูบไปที่หัวของอาชิ เขารู้สึกได้ว่ามือนั้นลูบเขาด้วยความรักและเอ็นดู "ร็อคกี้อย่างนั้นหรอ ผมชื่ออาชินะคุณ จำผมได้ไหม วันนี้ผมเห็นคุณที่สวนสาธารณะและตั้งใจจะเข้าไปหาคุณ เฮ้ย...นี่ผมอยู่บนเตียงสัตว์นี่"
เขาสังเกตสิ่งของที่อยู่รอบตัว ก่อนที่จะถูกน้ำอิงอุ้มเข้าแนบลำตัวเหมือนดั่งเด็กน้อย
อาชิรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสังเกตได้ชัด หัวน้อยๆ ของสุนัขพันธุ์ปอมซบอยู่ตรงเนินอกนุ่มของหญิงสาว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในร่างของชายหนุ่ม แต่ความรู้สึกในความเป็นชายยังคงกระตุ้นให้เขาคิดถึงเรื่องอย่างว่า
"อะจึ๋ย นิ่มจังเลยอุ่นด้วย"
เขาจึงเน้นใช้หัวถูๆไถๆ ไปยังบริเวณนั้นอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งน้ำอิงอุ้มเขาเดินมายังรถ อาชิมองเห็นเงาสะท้อนของหมาในกระจก เขาบึ่งตากว้าง
"เฮ้ย อะไรวะน่ะ"
เขาดิ้นอย่างสุดฤทธิ์ แลบลิ้นเลียไปทางซ้ายทีและทางขวาที ยิ่งดิ้นยิ่งสังเกตเห็นพฤติกรรมเหมือนของตัวเอง สักพักจึงรู้ตัวว่า นี่คือตัวเขา เขาตกใจมากจนกระโจนตัวเองตกลงมาจากอ้อมกอดของน้ำอิง แล้วนั่งตัวสั้นอยู่ที่พื้น
"ไม่นะ ไม่จริง มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว ตัวฉันๆ ทำไมกลายเป็นหมาไปได้"
น้ำอิงตกใจที่ลูกชายสุดที่รักทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เธอหันไปอุ้มเขาขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง แล้วเดินขึ้นรถไป
"ร็อคกี้ทำไมมองแม่แล้วตัวสั่นอย่างนั้นลูก เป็นอะไรหรือป่าว" น้ำอิงมีสีหน้าที่กังวลเธอลูบไปที่หัวของเขาอย่างเป็นห่วง
"จะไม่ให้ผมไม่ตกใจได้ไงล่ะคุณ เป็นคนอยู่ดีๆ ดันมากลายเป็นหมาซะงั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่"
อาชินั่งอยู่ข้างคนขับเขานั่งมองเธอตาปริบๆ เขาพยายามสื่อสารกับเธอ แต่ดูเหมือนว่า จะไม่เป็นผลสำเร็จ "ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้สึกสิ่นะ ว่าผมกำลังสื่อสารกับคุณอยู่ เฮ้อ..ชั่งเถอะ"
อาชิในร่างร็อคกี้ทำท่าเซ็ง นั่งหัวตก น้ำอิงหันมามองเขาแล้วยิ้ม เพราะเธอเข้าใจภาษากายของเจ้าร็อคกี้ดี จนกระทั่งไปถึงโรงพยาบาล น้ำอิง อุ้มหมาน้อยส่งต่อให้ หมอสุนิสา เพื่อนสนิทของเธอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
"สุ ช่วยเอ็กสเรย์ ร็อคกี้ให้ทีนะ ฉันกลัวว่าสมองของเขาจะมีปัญหาน่ะ"
หมอสุรับตัวร็อคกี้จากอ้อมกอดของน้ำอิงมา แล้วสังเกตอาการภายนอก ตาใสๆ ของหมาน้อย ส่ายไปส่ายมา ด้วยความฉงน
"เอ...เท่าที่ดู เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่เซื่องซึมเหมือนสัตว์ป่วย แต่ตัวสั่น ซึ่งก็เป็นธรรมดาของสุนัขที่ตกใจหรือตื่นเต้น"
น้ำอิง มีสีหน้าที่วิตกกังวล เธอลูบไปที่หัวของร็อคกี้
"ร็อคกี้มีท่าทางแปลกๆ นิสัยของเขาเปลี่ยนไป ที่สำคัญเหมือนกับว่าเขาจำฉันไม่ได้ด้วย"
"ยังไงเดี๋ยวฉันพาไปเอ็กซเรย์ดูก่อนนละกันนะ"
น้ำอิง จดจ่อมองร็อคกี้ด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่เอ็กซเรย์เสร็จ หมอสุจึงแจ้งอาการเจ้าร็อคกี้ให้ฟังว่า มันไม่ได้เป็นอะไรเลย มีแต่รอยฟกซ้ำนิดหน่อยบริเวณผิวหนังด้านนอก แต่ภายในปกติดีทุกอย่าง และสาเหตุที่พฤติกรรมของเจ้าร็อคกี้เปลี่ยนไป อาจจะเป็นเพราะอาการตกใจ จนเสียขวัญ จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
"ฉันคิดว่า มันคงจะตกใจมากไปเท่านั้น รอดูอาการไปอีกสักพักมันน่าจะดีขึ้นเองนะ....แล้วอาการของผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง"
หมอสุนิสา ไถ่ถามถึงอาการของอาชิ เธอรู้เรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เพราะก่อนที่น้ำอิงจะนำตัวร็อคกี้มา เธอได้โทรศัพท์เล่าเหตุการที่เกิดขึ้นให้กับสุนิสาฟัง
"ตอนนี้ฉันฝากให้พี่นัดเป็นธุระให้อยู่ เห็นบอกว่ายังไม่ออกจากห้องไอซียูเลย ฉันฝากเจ้าร็อคกี้ไว้กับเธอก่อนนะสุ จะรีบไปโรงพยาบาล เมื่อเสร็จธุรแล้วจะกลับมารับ"
"ได้สิ่ เธอรีบไปเถอะ ถ้ามีข่าวอะไรคืบหน้า ก็ส่งข่าวมาบอกด้วยละกัน"
"นี่คุณ จะไปหาใครหรอ ให้ผมไปด้วยคนสิ่ อย่าทิ้งกัน" อาชิ ไม่อยากอยู่ห่างเธอ เขาจึงพยายามขอไปด้วย โดยการใช้ภาษากายบ่งบอก เขาพยายามดิ้นและตะกายสุนิสา เพื่อที่จะกลับมาหาน้ำอิง
"ไม่เอาน่าร็อคกี้ อย่าดื้อกับหมอสุนะ แม่บอกแล้วไงว่าหากเสร็จธุรแล้วจะกลับมารับนะ"
น้ำอิงลูบหัวร็อคกี้ ก่อนที่จะรีบรุดหน้าไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการบาดเจ็บของอาชิ ในขณะนั้นอาชิในร่างร็อคกี้ ยังไม่สามารถจำเหตุการที่เกิดขึ้นได้ เขาจึงไม่รู้ว่า น้ำอิงนั้นกำลังไปหาร่างของเขาอยู่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น