ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยายรักของนายปลาหมึก

    ลำดับตอนที่ #5 : โจร กับ คนบ้า

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 51


     

    ในห้องนอนเย็นเยียบด้วยอุณหภูมิไม่ถึงสิบองศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศที่เคยทำงานเงียบกริบเริ่มส่งเสียงประท้วงเบาๆ ด้วยความไม่เคยชินกับงานหนักเยี่ยงนี้มาก่อน  เนื่องจากผู้ใช้ห้องที่ผ่านๆ มามักปรับอุณหภูมิประมาณยี่สิบสอง ถึง ยี่สิบห้า แต่สำหรับผู้ใช้ห้องคนใหม่ที่มาจากต่างดาว ดูเหมือนจะยังไม่พอใจกับความเย็นระดับนี้ด้วยซ้ำ  เพราะเจ้าตัวถึงกับนอนแผ่บนที่นอนด้วยเสื้อนอนผ้าเนื้อบาง

     

    ก่อนมิเตอร์ไฟที่หมุนด้วยความเร็วสูงจะทำงานหนักไปกว่านี้  เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองครั้งพอเป็นพิธีก่อนจะถูกชายหนุ่มร่างสูงเปิดออก

     

    ปลาหมึกมององครักษ์ที่ยังไม่ตื่นนอนแล้วย่นคิ้ว  สายป่านนี้ยังไม่ตื่นอีก  บ่นแล้วก็เดินไปปลุกคนส่งเสียงกรนดัง  กิ้บ. .ฟี่  

     

    พีจีเลยตื่นขึ้นมาเพราะการปลุกแบบไม่มีปรานีของเจ้านาย แล้วมานั่งฟังเสียงตำหนิตั้งแต่เรื่องตื่นสาย  ไล่ไปเรื่องเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด  เรื่องสิ้นเปลืองพลังงาน  เรื่องปล่อยให้เขากับเจ้าของบ้านรอรับประทานอาหารเช้าอยู่นาน  จนกระทั่งเรื่องเสียงกรนสำเนียงขัดหู 

     

    ท่ามกลางม่านขี้ตาและความง่วงงัวเงียพีจีได้แต่พึมพำยกเหตุผลขึ้นสู้ ว่าเขานอนไม่หลับเพราะอากาศร้อนทำให้ตื่นสายกว่าปกติ  แม้ว่ายอดองครักษ์จะรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่จะให้เขาทำเช่นไร  ในเมื่อเคยชินกับการนอนในที่เย็นจัด

     

    ตอนนี้พวกเราอยู่บนดาวโลกจะทำตามความเคยชินไม่ได้  ขนาดฉันอยากจะนอนแช่น้ำในอ่างทั้งคืนยังต้องหักห้ามใจเอาไว้เพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเข้า  พูดจบปลาหมึกก็เอามือจุ่มเหยือกน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยใกล้เตียงนอนของพีจี   มือที่มีนิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มกลายเป็นหนวดปลาหมึกในทันทีที่สัมผัสถูกน้ำ แต่พอเช็ดมือให้แห้งหนวดปลาหมึกก็กลับกลายเป็นมือที่มีห้านิ้วแต่ไม่เท่ากันเหมือนเดิม

     

    เห็นแล้วก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าหากมีคนมาเห็นตอนฉันอาบน้ำหรือนอนแช่น้ำเล่นจะเป็นยังไง 

     

    จากที่อยู่ในอาการเบลอ เมื่อมองดูเจ้านายสาธิตก็หายง่วงทันที  องครักษ์หนุ่มลองเอามือตัวเองจุ่มน้ำในเหยือกบ้างเผื่อว่าจะเห็นมือรูปร่างเก่าๆ ที่แสนจะคุ้นเคยของตัวเอง  แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

     

    การแปลงร่างตามวิธีของฉันมีกฏการคืนสภาพต่างกันตาม  บางครั้งก็เพราะน้ำ   พูดค้างไว้ในขณะที่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบไม้ขีดไฟที่ยืมมาจากเสี่ยเม้งเมื่อครู่ มาจัดการจุดแล้วจ่อเปลวไฟใกล้มือของพีจี  จนยอดองครักษ์เห็นความเปลี่ยนแปลง. . .มือของมนุษย์โลกกลายกลับมาเป็นมือรูปร่างดั้งเดิมของเขา

     

    บางครั้งก็จะคืนสภาพเพราะไฟ  ปลาหมึกพูดต่อให้จบ  

     

    แต่พีจีก็ไม่สามารถชื่นชมมันได้นานนักเพราะความร้อนจากไฟมันจะทำให้มือเขาไหม้เสียก่อน  อีกทั้งไม้ขีดก้านเล็กก็ดับลงในเวลานั้นพอดี

     

    แล้วถ้าผมคิดอยากจะคืนร่างเดิมมิต้องลงไปเกลือกกลิ้งบนกองไฟร้อนๆ หรอกหรือครับ  พีจีถามด้วยเสียงพรั่นพรึง  ด้วยกลัวว่าก่อนจะได้ร่างคืนเขาคงถูกเผาตายไปเสียก่อน

     

    ปลาหมึกชี้ที่นาฬิกาข้อมือของพีจี ซึ่งเหมือนกับของเขาไม่มีผิดเพี้ยน  แค่กดปุ่มคำสั่งที่อยู่ในเมนูเปลี่ยนร่างบน  ลุค  ก็ใช่ได้แล้วไม่ถึงกับต้องลงทุนลุยไฟก็ได้แต่ถ้านายชอบแบบนั้นก็ไม่ห้ามหรอกนะ   แต่ก่อนจะเปิดโอกาสให้องครักษ์ลงมือทดสอบการใช้งานเจ้าเครื่องลุค  ปลาหมึกก็ไล่ให้พีจีไปเตรียมตัว  เดี๋ยวพวกเราต้องออกไปซื้อของ ไปช้าจะยิ่งเสียเวลา  เผลอๆ ตอนนี้คนของเสี่ยเม้งที่จะพาไปส่งอาจรออยู่ที่ด้านหน้าแล้วก็ได้

     

    .....................................................................................

     

    เวลาใกล้เที่ยงบริเวณลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้ามีผู้คนเดินกันน้อยกว่าช่วงวันหยุด  ในจำนวนนั้นมีผู้หญิงร่างใหญ่เอวกลมเดินสะบัดสะโพกพลิ้วอย่างอารมณ์ดี  สังเกตได้จากรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้า  แต่เสียดายที่รอยยิ้มนั้นคงอยู่ไม่นาน  เมื่อเธอถูกจู่โจมด้วยโจรวิ่งราว  กระเป๋าถือหนังปลากระเบนใบย่อมถูกฉกไปต่อหน้าต่อตา

     

    ระล้าระลังพักหนึ่งด้วยความตกใจและทำอะไรไม่ถูก จะวิ่งตามก็คงไม่ทันฝีเท้าโจรลมกรด  สาวใหญ่จึงได้แต่อาศัยพลังเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ  แต่เมื่อมองไปเห็นโจรวิ่งราวตรงไปบริเวณหน้าห้างฯ ที่มีรถจักรยานยนต์ติดเครื่องจอดรออยู่พร้อมคนขับเธอก็เริ่มใจหาย  หวั่นว่าจะสูญทรัพย์ส่วนตัวไปแน่แล้ว

     

    หยุดนะ!”    เสียงตวาดดังมาจากรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ถัดไป ห่างจากรถจักรยานยนต์ของนักวิ่งฝีเท้าฉกาจไม่ไกล

     

    สายตาประดุจพญาเหยี่ยวติดเรดาห์พิเศษคู่หนึ่งจับตาดูเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว  เขาเสียเวลาเตรียมตัวนิดหน่อยก็พร้อมจะปรากฏอวดโฉมมาปราบคนร้าย

     

    ร่างในชุดรัดรูปสีแดงฉานบาดตากระโจนมาจากรถยนต์  เจ้าของเสียงตวาดเมื่อครู่ยืนจังก้าชี้นิ้วด้วยท่าทางคุกคามคน

     

    โจรวิ่งราวไม่คิดว่าในชีวิตจะถูกคนบ้าระรานทำเอางุนงงไปวูบหนึ่งก่อนจะตั้งสติได้แล้ววิ่งต่อไป

     

    บอกให้หยุด ฟังไม่รู้เรื่องเรอะ   เมื่อถูกเมินเอาดื้อๆ คนในชุดแดงแถมใช้ผ้าเช็ดหน้าสีเดียวกันผูกปิดไว้ครึ่งหน้าก็ออกอาการฉุนโกรธ แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร ประตูรถยนต์คันเดิมก็ถูกกระชากเปิดออกอีกครั้ง  คราวนี้เป็นชุดรัดรูปสีเขียวสดใสก้าวลงมา ในมือถือของสิ่งหนึ่งลักษณะคล้ายหน้าไม้   เมื่อเจ้าคนชุดเขียวกดปุ่มเชือกที่ผูกปลายด้วยลูกตุ้มสองข้างก็ถูกปล่อยออกมาทันใด

     

    เชือกปลายตุ้มพุ่งตรงไปเกี่ยวขาที่กำลังจะตวัดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์

    โจรวิ่งราวเสียหลักหงายหลังล้มลงบนพื้น  ในขณะที่เพื่อนเห็นท่าไม่ดีเตรียมจะขี่รถชิงหนีไปก่อนตำรวจจะมารวบตัว   แต่มือที่บิดคันเร่งอ่อนแรงลงกะทันหันเมื่อถูกเข็มฉีดยาลึกลับบินมาปักที่ต้นแขน  นัยน์ตาคนร้ายวูบวาบเหมือนมีกระจกสีระยิบระยับลอยอยู่เบื้องหน้า

     

    คนในชุดรัดรูปสีแดงกับสีเขียวหันไปมองด้านหลัง พบเครื่องยิงคล้ายหน้าไม้แต่ที่อยู่บนแท่นยิงคือเข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีเปลือกมังคุด  ซึ่งอยู่ในมือของผู้ที่ก้าวลงจากรถยนต์เป็นคนสุดท้าย

     

    จากทรวดทรงที่เห็นส่วนโค้งเว้าชัดเจนภายใต้ชุดรัดรูปสีขาวคือหญิงสาวหุ่นเล็กขนาดกะทัดรัดทุกสัดส่วน

     

    กว่าจะเปลี่ยนชุด เอ๊ย! ไม่สิ  กว่าจะแปลงร่างเสร็จช้าจริงนะแม่คุณ   คนในชุดรัดรูปสีแดงบ่น

     

    ก็รองเท้ามันใส่ยากนี่พี่    เสียงเล็กๆ ของสาวน้อยโอดครวญ 

     

    อย่ามาเรียกพี่ว่าพี่สิ  ต้องเรียกชื่อที่ใช้ในตอนออกปฏิบัติไง   กระซิบเสียงเบาเตือนก่อนจะเหลือบไปเห็นโจรวิ่งราวที่สลัดเชือกปลายลูกตุ้มหลุดแล้วเตรียมจะหนี

     

    อย่าหนีนะเจ้าปีศาจ ไม่รู้หรือไงว่าพวกเราเป็นใคร   ชายชุดแดงกระโจนไปดักขวางหน้าไว้   แน่นอนว่าโจรย่อมไม่ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่รู้จักคนประหลาดพวกนี้ 

     

    ใช่ๆ อย่าเพิ่งไปสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย   สาวน้อยตัดพ้อ  ก็อุตส่าห์ซ้อมมาตั้งนานไม่มีคนดูก็เศร้าแย่สิ

     

    ไม่ทำให้น้องผิดหวัง  ชายในชุดรัดรูปสีแดงยืนกางขานิดๆ พอดูเท่ แล้วชูมือขวาสามสิบองศาปากก็ร้องตะโกนอย่างไม่สนใจสายตาฉงนปนตะลึงของคนมุงดู 

     

     

    สีแดงตะขบแมน

     

     

    ชายในชุดรัดรูปสีเขียวกระโดดมายืนข้างๆ กางขาเล็กน้อยชูมือซ้ายร้อยยี่สิบองศาปากร้องตะโกนเสียงดังตามเป็นลำดับต่อมา   

     

     

    สีเขียวมะยมแมน

     

     

    อย่างกระชั้นชิด สาวน้อยในชุดรัดรูปสีขาวนั่งชันเข่าเล็กน้อยเบื้องหน้าสองคนแรกพร้อมกับชูสองมือขึ้นเป็นตัววีแล้วร้องว่า

     

     

    สีขาวเลดี้มะพร้าวอ่อน

     

     

    ร้องประสานเสียง

     

    พวกเราคือขบวนการสามผู้พิทักษ์!”

     

     

     

    . . . . . .

     

     

    เกิดความเงียบปกคลุมทั่วบริเวณอยู่อึดใจใหญ่  โจรวิ่งราวที่นั่งอ้าปากค้างรวบรวมสติ  สะบัดหน้าสองสามทีก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ 

     

    คือ. . ผมคิดว่าเดี๋ยวให้เจ้าทุกข์พาไปส่งโรงพักก็ได้ครับ เผื่อพวกคุณมีธุระจะได้รีบไปที่อื่น   ที่อื่น เขาหมายถึงโรงพยาบาลบ้านั่นเอง  

     

    อย่ามาทำเฉไฉ เจ้าปีศาจต่างดาว    ชายในชุดรัดรูปสีแดง หรือ ตะขบแมนชี้นิ้วตวาด

     

    ง่า. . ผมไม่ได้เฉไฉ แล้วก็ไม่ได้เป็นปีศาจต่างดาวอ่ะครับ

     

    โกหก  แกมีแผนร้ายคิดจะครองโลกใช่ไหม   ว่าพลางมือก็เลือนไปหยิบกระบอกไฟฉายที่เสียบอยู่กับเข็มขัด  จับกระชับในมือแล้วกดปุ่ม  แต่แทนที่จะมีแสงไฟส่องสว่างมันกลับกลายเป็นแสงเลเซอร์สีม่วง

     

    เลียนแบบดาบเจไดมาได้ยังไงละเนี่ยไม่กลัวปัญหาลิขสิทธิ์เรอะ!!??

     

    ยอมสารภาพมาเสียดีๆ  ตะขบแมน กดปุ่มเดิมอีกครั้ง แสงไฟเปลี่ยนรูปเป็นค้อนยักษ์  แม้จะเห็นเป็นแค่ลำแสงก็เถอะ แต่ดูท่าทางแล้วจะมีน้ำหนักไม่เบา  ทำเอาโจรวิ่งราวขยับหนีถอยร่นไปชนเสา เมื่อจนมุมก็โบกมือปฏิเสธ

     

    ไม่มีอะไรเลยจ้า!!  แค่ตกงานมาลักกระเป๋าเพราะพิษเศรษฐกิจ หลงผิดกินยาบ้าครึ่งเม็ด เหม็นหน้าแม่ยายเลยเป็นหม้ายเมียหย่า ลูกชายหนีไปเข้าโรงเรียนทหาร หมาที่บ้านออกลูกสองตัวเท่านั้นเอง  ชีวิตนี้ไม่เกี่ยวกับการครองโลกเลยจ้า

    หึ หึ อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย อุบายตื้นๆ แบบนี้คนอย่าตะขบแมนไม่หลงกลหรอกน่า จงเตรียมรับโทษทัณฑ์ของการรุกรานความสงบของดาวโลกเสียเถอะ   ตะขบแมนง้างค้อนเลเซอร์เตรียมฟาดลงสุดแรง แต่กลับไม่เร็วเท่ากับเข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีชมพูที่พุงมาแซงหน้าค้อนไปเสียก่อน

     

    ทันทีที่เข็มปักฉึกเข้าที่ต้นขาทะลุกางเกงยืนส์สีซีด สปริงก็ดันปลายกระบอกให้ของเหลวสีชมพูไหลเข้าสู่ร่างกาย  แต่แทนที่เขาจะคอพับคออ่อนล้มระทวยเหมือนสหายที่นั่งซบคารถจักรยานยนต์ โจรนักวิ่งกลับกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน  มือขวาจับจีบปลายนิ้วหัวแม่มือจรดปลายนิ้วชี้ อีกสามนิ้วแผ่กางออก  ส่วนมือซ้ายตั้งวง ย่อขาเชิดตูดเล็กน้อยพองาม แล้วเริ่มต้นรำด้วยท่าสอดสร้อยมาลา

     

    เธอทำอะไรน่ะ เลดี้มะพร้าวอ่อน   มะยมแมน สะกิดถาม

     

    ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ชอบสีชมพูก็เลยคิดเปลี่ยนตัวเข็มฉีดยาเท่านั้นเองแต่มือไปพลาดถูกปุ่มกดเข้า

     

    แล้วยาแก้มีหรือเปล่า 

     

    ไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวเดียวก็จะหายเอง รอแค่หกหรือเจ็ดชั่วโมงนี่แหละ

     

    หกหรือเจ็ดชั่วโมง!. . นี่มันไม่เรียกว่าเดี๋ยวเดียวแล้วละน้องเอ๊ย!. . . . เหล่าไทยมุงโดยรอบที่ได้ยินพร้อมใจกันถอยหลังด้วยความผวา  กลัวว่าแม่สาวมะพร้าวอ่อนจะเผลอพลาดไปกดถูกปุ่มยิงเข็มฉีดยาพุงมาถูกตัวเองเข้าอีกคน

     

    ขณะที่คนอื่นๆ พร้อมใจกันก้าวถอยหลัง ปรากฏว่ามีนายตำรวจสองคนก้าวออกมาข้างหน้าอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะทราบเฉพาะในส่วนที่มีการแจ้งว่าเกิดการวิ่งราวขึ้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

     

    แต่จากที่มอง ดูเหมือนจะมีแต่กลุ่มคนบ้า แล้วไหนละโจร?

     

    นายตำรวจมองหน้ากันเองก่อนตัดสินใจเล็งไปยังเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน

     

    หยุดนะอย่าขยับ  วางอาวุธในมือลงแล้วมอบตัวเสียโดยดี

     

    ตะขบแมนกระพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นปลายกระบอกปืนของคุณตำรวจชี้มาทางเขา

     

    หมายถึงผมหรือครับ   ยอดมนุษย์สีแดงชี้นิ้วมาที่อกตัวเองพลางถามเพื่อความแน่ใจ

     

    คุณนั่นแหละจะมีใคร  รีบวาง  มองดูอาวุธประหลาดแล้วกล่าวต่อ  วางค้อนนั่นลงพื้น ช้าๆ นะ  สองนายตำรวจวิเคราะห์ว่าคนประหลาดสามคนในชุดรัดรูปมีอาวุธ (หน้าไม้ 2 กับค้อน 1) มีความน่าจะเป็นโจร  ส่วนผู้เสียหายคงจะเป็นคนบ้าที่กำลังดัดแขนรำอย่างอ่อนช้อย

     

    อย่าด่วนสรุปสิครับ ผมเป็นพวกพระเอกนะ ส่วนตัวร้ายคือสองคนนี่    มะยมแมนอธิบายแทนเพื่อนที่ยืนเป็นตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ  เขาชี้คนร้ายตัวจริงที่ดูหมดสภาพทั้งสองคน 

     

    ขณะที่คุณตำรวจเริ่มลังเล  พลเมืองดีที่มุงดูเหตุการณ์มาโดยตลอด รวมถึงหญิงร่างสมบูรณ์ผู้เป็นเจ้าทุกข์ก็ช่วยอธิบายเรื่องราวเมื่อครู่ให้ผู้พิทักษ์สันติราชฟังโดยละเอียด

     

    อาศัยจังหวะที่คุณตำรวจกำลังสนใจฟังเหตุการณ์ สามยอดมนุษย์ฉวยโอกาสปลีกตัวหลบ  ตามหลักสูตรที่ศึกษามา  กฎของแรกของขบวนการยอดมนุษย์คือการปกปิดตัวตนที่แท้จริง  และรีบเผ่นเมื่อตำรวจมา  ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคุณตำรวจซักประวัติ  ดังนั้นขบวนการสามผู้พิทักษ์จึงพร้อมใจกันใช้ระเบิดควันอำพราง

     

    ด้วยความคาดไม่ถึงว่าอยู่ดีๆ จะมีควันสีแดง สีเขียว กับควันขาวหนาทึบ ทั้งตำรวจและผู้คนบริเวณนั้นต่างสำลักควัน ส่งเสียงไอ เสียงจาม ราวกับถูกรมด้วยแก๊สน้ำตาหรือแก๊สพิษ  แถมเหตุยังลุกลามไปถึงผู้ใช้ท้องถนนสันจร เพราะควันเจ้ากรรมดันถูกลมพัดโชยจากหน้าห้างสรรพสินค้าเลยไปยังถนนใหญ่   ทั้งรถยนต์รถจักรยานยนต์ต่างเบรกกันให้วุ่นวายดีว่ายังไม่ถึงกับมีการชนปะทะให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินหรือบาดเจ็บล้มตาย     กว่าความโกลาหลจะยุติเพราะควันจาง เจ้าตัวตนเหตุทั้งสามคนก็หายตัวไปนานแล้ว  แต่การจราจรก็ติดขัดอยู่พักใหญ่  ต้องอาศัยนายตำรวจที่มาทำคดีฉกชิงวิ่งราวช่วยโบกรถเคลียทางให้    

     

    เมื่อเหตุการณ์สงบเหล่าคนมุงก็เริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา  บ้างก็สงสารที่สภาพสังคมมันย่ำแย่ เศรษฐกิจตกต่ำ มีความกดดันและแข็งขันกันสูง ทำให้เด็กวัยรุ่นเครียดหาทางออกไม่ได้  จนกลายเป็นอย่างที่เห็นเมื่อครู่   แต่บ้างก็ว่าเป็นที่ตัวเด็กเองมากกว่าที่เพี้ยน ไม่ควรเอาการกระทำของคนกลุ่มหนึ่งไปโทษสภาวะแวดล้อมอย่างอื่น  แต่ก็มีอีกหลายเสียงที่ชื่นชอบความใจกล้าของยอดมนุษย์สามคนนี้ เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีไม่มีพิษมีภัย ดีกว่าเอาเวลาไปทำเรื่องเลวร้ายอย่างอื่น

     

    แม้ว่าความเห็นของแต่ละคนจะหลากหลายต่างกันอย่างไร  แต่คงไม่มีใครในที่นี้ตื่นตระหนกตกใจต่อการปรากฏตัวของ ขบวนการสามผู้พิทักษ์เท่ากับชายหนุ่มร่างบางที่ยืนเบิกตาโตด้วยความตะลึงอยู่ตรงประตูทางเข้าออก

     

    อาจเป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้ต้องถูกมนุษย์โลกกลุ่มนี้กำจัดทิ้ง   มือที่ทาบกระจกสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่นขวัญผวา  จนตัวประตูทั้งบานแทบจะสั่นตามไปด้วย 

     

    คุณพีจีมาอยู่ที่นี่เอง   เสียงทักจากด้านหลังอย่างกะทันหันทำเอาชายหนุ่มสะดุ้ง รีบหันขวับกลับมาก็เห็นคนของเสี่ยเม้งที่มาเป็นเพื่อนซื้อของยืนอยู่  

     

    ดีที่คนคนนี้ส่งเสียงเรียกชื่อของพีจีด้วย ไม่อย่างนั้นด้วยจังหวะที่เส้นประสาทเครียดเขม็งนี้  ยอดองครักษ์อาจปามีดปักใส่คนที่เดินมายืนเบื้องหลังเขาก่อนจะมองดูหน้าคู่กรณีก็เป็นได้

     

    พีจีตบอกปุๆ ด้วยความโล่งใจที่ตัวเองไม่พลั้งมือไปสังหารใครโดยพลการ  เพราะขืนฆ่ามนุษย์ชาวโลกไปแบบไม่มีเหตุผลที่ดีพอองค์ชายใหญ่คงไม่อภัยให้เขาแน่      พอนึกถึงตรงนี้องครักษ์ในคราบหนุ่มหน้าใสก็สะดุ้งจนตัวลอย  แย่แล้ว คุณปลาหมึกไปไหนละ?!”   

     

    เพราะมัวแต่สนใจเหตุการณ์วิ่งราวหน้าห้างสรรพสินค้าเพลินจนลืมคนที่เดินมาด้วยกัน  พีจีหน้าซีดเผือดกลัวว่าขบวนการสามผู้พิทักษ์เมื่อครู่อาจปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเจ้านายที่ไร้ทางสู้ของเขา แล้วใช้เครื่องมือทรมานยิงจนคุณปลาหมึกเต้นท่าแปลกๆ  หรือร้ายกว่านั้นอาจทุบคุณปลาหมึกด้วยค้อนเลเซอร์จนแบนเป็นปลาหมึกบด!

     

    ไม่นะ!”   ชายหนุ่มเข่าอ่อนระทวยทรุดลงกับพื้น เพราะยิ่งคิดยิ่งจินตนาการเลยเถิด เจ้าตัวแทบจะร้องไห้เสียใจกับการสูญเสียองค์ชายใหญ่ไปอย่างไม่มีวันกลับ  ก็. .พอดีเห็นร่างสูงๆ อุ้มตุ๊กตาปลาหมึกตัวโตสีชมพูหวานแหวว  ส่งยิ้มร่าเริงเดินเข้ามาหา

     

    คุณปลาหมึก  พีจีถลาเข้าไปกอดด้วยความโล่งใจที่เจ้านายของตนปลอดภัย 

     

    แต่ภาพที่เด็กหนุ่มร่างบางหน้าหวานที่ดวงตาปริ่มประกาย เอ่อคลอด้วยน้ำตาใสๆ ตรงดิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอุ้มตุ๊กตาอยู่นั้น  ชวนให้คนของเสี่ยเม้งสงสัยถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแขกพิเศษของเจ้านายเขา  คนของเสี่ยเม้งจึงให้เกียรติด้วยการแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเฉไฉไปดูเพดานเพ่งพิศราวกับจะหาจิ้งจกสักตัวในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้  

     

    ก็เพราะมัวแต่มองหาจิ้งจก คนของเสี่ยเม้งเลยไม่เห็นว่าปลาหมึกแทบจะยันองครักษ์กระเด็นเมื่อเจออ้อมกอดนรกเข้าไปจังๆ     แม้พีจีจะตัวเล็ก แต่พลังและความแข็งแกร่งที่ซุกซ่อนอยู่เกือบทำให้เจ้านายซีโครงหัก

     

    เป็นอะไรพีจี  จะฆ่ากันหรือยังไงอยู่ดีๆ กอดเข้ามา   ตำหนิพลางนวดเอวคลายเคล็ด ก่อนจะรีบปัดฝุ่นที่อาจปลิวมาเกาะตุ๊กตาตัวสำคัญที่ปลาหมึกยืนเลือกเองอยู่พักใหญ่ๆ  เป็นของขวัญแรกพบหน้าที่จะให้น้องลูกพรุนนั่นเอง

     

    ............................... 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×