ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยายรักของนายปลาหมึก

    ลำดับตอนที่ #3 : น้องลูกพรุน

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 50


     

     

    แสงไฟสว่างจากในห้องทำงานที่ตกแต่งด้วยเครื่องลายครามเก่าแก่ หยกประดับสลักเป็นรูปต่างๆ มีทั้งเทพธิดากำลังร่ายรำ  อาชาพวงพี  มังกรคาบมุก  สิงโตคู่ แต่ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นหยกขาวกวนอิมพันกรขนาดแปดนิ้วที่วางบนตู้กระจกไม้สักอย่างดี   

     

    ห้องที่กลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนแทรกอยู่ชัดเจนนี้  มีชายสูงวัยรูปร่างสมบูรณ์กำลังนั่งตรวจบัญชีที่วางเรียงรายบนโต๊ะมุกขัดเงา  ข้างๆ มีชาอูหลงเข้มๆ ควันกรุ่นวางอยู่  พร้อมลูกพลับอบแห้ง กับขนมโก๋ชิ้นเล็กพอดีคำสี่ห้าชิ้น

     

    เสียงเคาะประตูเบาๆ เป็นเชิงขออนุญาต  แต่ไม่รอให้คนข้างในตอบประตูก็เปิดออกพร้อมกับที่เสียงสดใสกังวานเอ่ยรายงาน  พ่อคะ โทรศัพท์จากลุงเม้งค่ะ

     

    เด็กสาวแก้มใสอมชมพูถักผมเปียคู่ เดินเข้ามาพร้อมส่งโทรศัพท์ไร้สายให้ผู้เป็นบิดา

     

    ขอบใจลูก  รับโทรศัพท์จากลูกสาวที่กำลังออกจากห้อง เห็นเธอหันมายิ้มให้จนเห็นลักยิ้มน้อยๆ ก่อนปิดประตูแผ่วเบา  เขาถึงเริ่มต้นเอ่ยสนทนากับคู่สาย  ว่าไงเฮียเม้ง  

     

    ศีรษะที่เกือบจะล้านเลี่ยนหากแต่มีเส้นผมแสนสำคัญหลงเหลืออยู่หย่อมหนึ่งพยักหน้าอือออ กับข้อความที่กำลังรับฟังก่อนจะเอ่ยตอบไป  เงินไม่ใช้น้อยนะเฮีย  แน่ใจว่าของแท้ 

     

    ปรึกษาเบาๆ อีกครู่หนึ่งก็วางสายพร้อมกับรีบนำกระเป๋านิรภัยใส่เงินสดที่นำออกมาจากตู้เซพ

     

    เด็กสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือนิตยสารอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นบิดากำลังเดินอย่างรีบร้อนออกไป

     

    ดึกแล้วพ่อจะออกไปไหนหรือคะ  เธอถามด้วยความเป็นห่วงบิดาผู้สูงวัย ด้วยกลัวว่าเขาจะคร่ำเคร่งกับงานหนักเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อน

     

    ไปธุระที่บ้านลุงเม้งของลูกน่ะสิ  เมื่อครู่เขาโทรฯ มาตาม เดี๋ยวพ่อก็กลับแล้วแต่หนูไม่ต้องอยู่รอนะลูก  เพราะพรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนแต่เช้า  ว่าแต่เฮียบอลกลับบ้านหรือยัง  ป่านนี้พ่อยังไม่เห็นหน้าเลย   เมื่อถามถึงลูกชายคนโต ก็เห็นว่าลูกสาวคนเล็กยิ้มประจบและเตรียมจะแก้ต่างให้พี่ชายของเธอ  แต่ถูกเขาดักไว้เสียก่อน

     

    ลูกพรุน หนูไม่ต้องพูดเข้าข้างอาเฮียเลย ถ้าพ่อไม่พูดไม่ตักเตือนลูกบ้างมันจะยิ่งได้ใจ  จากค่ำๆ อีกหน่อยมันจะไม่ยอมกลับมานอนบ้าน เอาแต่ขลุกอยู่บ้านเพื่อน

     

    โธ่ คุณพ่อขา  เฮียบอลเขาก็ไม่ได้เถรไถลที่ไหนนี่ค่ะ  เขาก็อยู่บ้านพี่ต๊ะ ทำกิจกรรมกลุ่มของเขาไป เพื่อนเฮียคนนี้คุณพ่อก็เห็นเขามาตั้งแต่อนุบาล  บ้านช่องอยู่ไหน พ่อแม่เป็นใครก็รู้จัก เห็นสนิทสนมกันดีออก   เมื่อเห็นว่าสีหน้าบึ้งๆ ของบิดาคลายลงเด็กสาวก็กล่าวเสริม  เอาไว้ถ้าเฮียกลับมาหนูจะบอกว่าเขาเองค่ะว่าคุณพ่อโกรธมาก  แต่ตอนนี้คุณพ่อต้องรีบไปพบกับลุงเม้งก่อนไม่ใช่หรือคะ ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวลุงเขาคงรอแย่

     

    อย่างนั้นพ่อรีบไปก่อน จะได้รีบกลับ เผลอๆ อาจถึงบ้านก่อนเฮียบอลเขาอีก  บ่นเบาๆ ก่อนจะเรียกคนขับรถ 

     

    ถ้าไม่เพราะวัยที่มากขึ้นทำให้มองทัศนวิสัยบนท้องถนนไม่ชัดเจนเหมือนหนุ่มๆ เขาคงไม่เรียกใช้บริการคนขับรถแน่  เจ้าหนุ่มนั่นขับรถช้าอย่างกับคลาน   แต่จะเปลี่ยนคนก็ไม่ได้เพราะภรรยากับลูกๆ ไม่ยอม  เพราะต่างก็เห็นพ้องกันว่าขับได้นุ่มนวลชวนให้รู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยแน่ถ้าหัวหน้าครอบครัวนั่งไปด้วย

     

    รถเคลื่อนที่ไปบนท้องถนนที่ยวดยานน้อยกว่าเวลากลางวันนิดหน่อย  ครู่ใหญ่ก็มาถึงบ้านของผู้เป็นพี่ชายต่างสายเลือด  แต่ให้ความนับถือไม่ต่างจากพี่ชายแท้ๆ ที่คอยช่วยเหลือในเวลาเดือดร้อน พร้อมกับมีคำแนะนำดีๆ มาสอนสั่งอยู่เสมอ  ในฐานะคนวงการธุรกิจเดียวกันอีกฝ่ายเรียกได้ว่ามือชั้นเซียนเลยทีเดียว ดังนั้นเฮียเม้ง  หรือที่คนอื่นๆ เรียกกันว่า เสี่ยเม้ง จึงเป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนสนิท และยังนับว่าเป็นครูของเขาด้วย

     

              ด้วยความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เขาเดินพาร่างอ้วนท้วนไปตามทางเดินตรงไปยังห้องทำงานของอีกฝ่ายทันที เพราะนัดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว  สิ้นเสียงเคาะประตู เสียงเฮียเม้งก็ดังจากในห้อง  เข้ามาสิ

     

              สวัสดีครับเฮีย   เขายกมือไหว้  อีกฝ่ายรับไหว้แล้วยิ้มทัก  แม้ทั้งสองคนจะเชื้อสายจีน แต่อยู่เมืองไทยมาตั้งแต่เกิด เติบโตมาอย่างรับธรรมเนียมทั้งสองเชื้อชาติไว้อย่างลงตัว  การไหว้ทักทายจึงดูไม่ขัดเขิน

     

              กำลังรออยู่เชียวอาเล้ง  นี่ไงอาหมึก   ชายสูงวัยร่างผอมไว้หนวดยาวสามแฉกสีขาวโพลนนั่งอยู่ที่นั่งหัวโต๊ะไม้ขัดเงาทรงแปดเหลี่ยม  ข้างซ้ายมือของเขานั่งไว้ด้วยเด็กหนุ่มคนหนึ่ง  ส่วนอีกคนยืนอยู่ด้านหลังเขายังมองไม่ออกว่าเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่

     

              ตอนคุยโทรศัพท์เฮียบอกว่าอาหมึกลูกชายของเพื่อนเก่าสินะ  เขามองเพ่งพิศใบหน้าของเด็กหนุ่มตาโตหวังจะค้นหาเค้าโครงที่คุ้นตาบ้าง แต่แล้วก็ต้องงุนงงเมื่อดวงตาสีดำคู่นั้นดูจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจละสายตาออกมาได้

     

              ในขณะที่รู้สึกราวกับต้องมนตร์สะกดนั้นเอง รูม่านตากลมๆ ได้แปรเปลี่ยนเป็นมุมเหลี่ยม!! 

     

    อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยอำนาจแห่งเนตรเผ่าพันธุ์เซฟาโลพ๊อด [ CEPHALOPODS ]  ที่ชวนพิศวง  ราวกับว่ามีเสียงลึกลับกำลังเอ่ยบงการความคิดดังกระทบข้างโสตประสาทเข้าครอบงำในทันที 

     

    เพียงอึดใจเดียวสีหน้าสงสัยงุนงงเปลี่ยนเป็นยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่นเฉกเช่นญาติผู้ใหญ่ใจดี    ปลาหมึกน่ะเอง  ไม่ได้เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะ  

     

    ครับ   เด็กหนุ่มร่างสูงผู้มีนามว่าปลาหมึกยิ้มรับ เมื่อการสะกดจิตเป็นไปด้วยดีดังคาด

     

    เสี่ยเม้งยกมือลูบเครายาวของตนอย่างพึงพอใจก่อนจะกล่าว  สำหรับเรื่องที่พูดไปทางโทรศัพท์คิดว่าคงอยากเห็นแล้วสินะ

     

    ใช่ครับ เรื่องไข่มุกที่เฮียตีราคาไว้ลูกละสิบห้าล้านบาท ผมชักอยากเห็นไวๆ เสียแล้ว 

     

    ราคานี้เป็นอาหมึกบอกต่างหาก ความจริงเฮียยังไม่กล้าจะให้ราคาเลย  เมื่อพ่อค้าอัญมณีรายใหญ่พยักหน้าให้สัญญาณ  บริวารคนหนึ่งเดินถือจานหยกเข้ามา 

     

    ไข่มุกกลมเกลี้ยงลูกโตเท่ากำปั้นเด็กวางนิ่งบนจนหยก  เสี่ยเล้งรับจานหยกนั้นมาเพ่งพินิจดูพลางถอดถอนใจชมเชยในความงามไร้ที่ติ  แต่กระนั้นราคาลูกละสิบห้าล้านบาทเขายังคิดว่าแพงไปนิด

     

    ดูเหมือนรุ่นพี่ในวงการจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายดี  บอกใบ้บริวารอีกครั้งก่อนจะเอ่ยเตือน  ประคองจานหยกดีๆ อย่าทำตกแตกละ ถึงราคามันจะไม่แพงเท่าไข่มุกแต่ก็เกือบล้านเชียวนะ  

     

    ยังไม่ทันที่เสี่ยเล้งจะเข้าใจในวาจาประโยคนั้น  คนสนิทของเสี่ยเม้งก็จัดแจงกดปิดสวิทไฟในห้อง

     

    ท่ามกลางความมืดมิดแสงสุกสกาวดั่งจันทร์คืนเพ็ญปรากฏอยู่ในอุ้งมือของเสี่ยเล้ง  มันคือไข่มุกลูกนั้น!   

     

    ไข่มุกประกายราตรี!!”  

     

    ความตื่นตระหนกที่มีเกือบๆ จะทำให้จานหยกหลุดมือ  เขาได้แต่กลั้นลมหายใจไว้อย่างยากลำบากประคับประคองภาชนะสูงค่าที่มีสิ่งสูงค่ายิ่งกว่าอยู่บนนั้น  ด้วยมือที่สั่นน้อยๆ วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล

     

    จับจ้องที่ไข่มุกแทบจะไม่กระพริบตาจวบจนไฟในห้องถูกเปิดสว่างขึ้นอีกครั้งเขาก็ยังไม่อาจละสายตาจากมันมาได้  

     

    ไม่อยากจะเชื่อ  ไม่คิดว่าในชีวิตจะได้มีโอกาสเห็นมันจริงๆ กับตาตัวเอง  เสี่ยเล้งบ่นพึมพำเบาๆ ด้วยความตื่นเต้นไม่หายกว่าจะรู้ว่าเสียกิริยาไปมากก็พักใหญ่

     

    เมื่อครู่เฮียว่าลูกละสิบห้าล้านหรือครับ    เมื่อเรียกสติกลับมาได้เขาก็เอ่ยอย่างรวดเร็ว   ราคานี้ไม่คิดว่ามันถูกเกินไปแล้วหรือครับ 

     

    ตอนแรกที่เห็นไข่มุกเขาคิดว่าแพงไปนิด   แต่บัดนี้พอทราบว่าตรงหน้าคือไข่มุกประกายราตรี  อัญมณีที่สามารถฉายแสงสว่างไสวในที่มืดมิด ซึ่งแทบจะได้ยินแค่เรื่องเล่าในตำนานปรากฏขึ้นเบื้องหน้า  เขาก็คิดว่าราคานี้มันโคตรรรร จะถูกเลย ต่อให้ตั้งราคาไว้ร้อยห้าสิบล้านเขาก็จะซื้อ  แม้จะมีชีวิตอยู่เชยชมมันได้ไม่กี่สิบปี แต่อย่างน้อยลูกหลานเขาจะได้เห็น ได้สัมผัสจับต้องในสิ่งที่บรรพบุรุษบางคนยังไม่มีโอกาสจะได้เห็น

     

    เสี่ยเม้งยิ้มกริ่ม  รู้สึกดีที่สหายรุ่นน้องคนนี้ไม่เอารัดเอาเปรียบเมื่อทราบว่าราคาจริงสูงขนาดไหนก็ไม่ถึงกับรีบตะครุบไว้  แสดงว่าเป็นพ่อค้าที่มีความยุติธรรม สมกับที่คบหาไว้ใจกันมานาน

     

    ว่าอย่างไร สนใจหรือเปล่าอาเล้ง  ความจริงเสี่ยเม้งรู้คำตอบอยู่แล้ว ไข่มุกโบราณหายาก ที่เรียกว่าอาจจะไม่มีอยู่ที่ไหนในโลกนี้อีกแล้ว มีหรือที่พ่อค้าอัญมณีจะปฏิเสธ  ถ้าไปขายต่อด้วยราคาแพงกว่านี้อีกสิบเท่าก็ยังมีคนแย่งกันซื้อเลย

     

    ครับ   เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าสหายรุ่นน้องจะไม่ทราบ  หากเสี่ยเม้งคิดจะฮุบไว้ทำการค้าครั้งนี้เพียงคนเดียวย่อมไม่ผิดอะไร  แต่ที่เรียกเสี่ยเล้งมาด้วยคาดว่าคงมีสาเหตุมาจากอะไรบางอย่าง 

     

    เป็นไปอย่างที่เสี่ยเล้งคาดการณ์  การซื้อขายครั้งนี้มีสัญญาที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรระบุไว้  ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ขายโดยตรง

     

    ไข่มุกพวกนี้ อาหมึกเขาขอร้องมาว่าคนที่จะซื้อจากเขาห้ามนำไปขายต่อ  เข้าใจใช่ไหมอาเล้ง    ดวงตาของชายชราที่นอกจากจะไม่ฝ้าฟางแล้วยังเป็นประกายข่มขวัญชนิดหนึ่งยามกล่าวอย่างจริงจัง

     

    เรื่องห้ามไปขายผมเข้าใจครับ  ความจริงผมเองก็คิดจะซื้อเก็บไว้ให้ลูกหลานมันดูว่าไข่มุกประกายราตรีมันเป็นยังไง  แต่. . เฮียบอกว่าไข่มุกพวกนี้?  หรือว่าอาหมึกมีมากกว่าหนึ่งลูก!?”    ทั้งตระหนกทั้งแปลกใจ 

     

    ผมมี  ไม่สิ  คุณพ่อของผมท่านเก็บไว้นิดหน่อย ให้ผมนำมาห้าลูกน่ะครับ   ความจริงไข่มุกที่ปลาหมึกพกมามากกว่านั้น  แต่หลังจากสังเกตจากท่าทางตะลึงพรึงเพริศของคนตรงหน้า  ปลาหมึกคิดว่าเขากั๊กๆ ไว้บ้างจะดีกว่า  เดี๋ยวคนแก่จะช๊อคตายก่อน

     

    แต่ห้าลูกที่ได้ยินกับสองหูก็ทำให้เสี่ยร่างท้วมแทบหัวใจหยุดเต้น   ของหายากที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงบนโลกกลับอยู่ในมือของชายหนุ่มตรงหน้าถึงห้าลูก!

     

    ลูกละสิบห้าล้านจ่ายเงินสด  เฮียว่าจะเก็บไว้เองสักสามลูกก็พอ  อาเล้งอีกสองลูกลื้อจะเอาไหม   เสี่ยร่างผอมรับน้ำชาจากบริวารมาจิบ ก่อนจะสั่งให้ไปเตรียมเงินสดตามจำนวนที่ต้องการไว้

     

    ครับ  สองลูกสามสิบล้าน  แต่เงินสดที่ผมพกมาไม่พอ อาหมึกรับมัดจำไว้สิบล้านก่อนได้ไหมที่เหลือตีเป็นเช็คเงินสดก่อน  แล้วถ้าตอนเช้าธนาคารเปิดแล้วจะเบิกมาให้   เสี่ยเล้งหันไปปรึกษาชายหนุ่ม ที่เชื่อว่าเป็นลูกชายของเพื่อนเก่า

     

              ยังไงก็ได้ครับ   ปลาหมึกเอ่ยตอบ  ความจริงเขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าจะตัดสินใจซื้อง่ายปานนี้  ถึงจะถูกสะกิดจิตเรื่อง ลูกชายของเพื่อนเก่า ก็เถอะ  แต่ไม่คิดว่าจะลงเอยอย่างรวดเร็ว

     

              ความจริงที่องค์ชายใหญ่ไม่รู้ก็คือ  คุณค่าของไข่มุกประกายราตรีบนดาวโลกดวงนี้ต่างหาก ที่ทำให้การเจรจาราบรื่นไม่มีสะดุด

     

              เมื่อการตกลงการค้ากันเสร็จ  เสี่ยเม้งผู้ที่มีอาวุโสที่สุดในนี้ก็เอ่ยถาม   แล้วจะขนเงินกลับยังไง  ตอนมาไม่เห็นมีรถมาด้วย   

     

    ก่อนหน้าจะมายังโลกปลาหมึกได้จัดเตรียมหาข้อมูลไว้แล้ว  จากการค้นหารายชื่อพ่อค้าอัญมณีรายใหญ่ในกรุงเทพ และเฉพาะเจาะจงเลือกคนที่มีที่อยู่ใกล้กับสถานที่เขาดิ่งพสุธาลงบนผืนโลกที่สุดด้วย   ซึ่งผลที่ได้ก็คือเสี่ยเม้งคนนี้เอง 

     

    แต่กว่าจะถึงด่านเสี่ยเม้ง ปลาหมึกก็ไล่สะกดจิตตั้งแต่สุนัขเฝ้าประตูยันมือปืนหน้าเข้มคนสนิทของพ่อค้าอัญมณี

     

    ทางด้านเสี่ยเม้ง นอกจากอาศัยวิชาสะกิดจิต ระบุว่าเป็นลูกชายเพื่อนเก่าแล้ว ปลาหมึกยังปั้นแต่งเรื่องเพิ่มเติม  จากที่มีบิดาอยู่ต่างดาว ก็เปลี่ยนเป็นอาศัยอยู่ในประเทศแทน   ส่วนตัวเขาคิดจะมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงแห่งนี้ โดยมีทุนติดตัวมาเป็นไข่มุกไม่กี่ลูก

     

    โดยไม่รู้ว่าราคาสิบห้าล้านต่อลูกที่ตั้งขึ้นอย่างเกรงว่าจะหาคนซื้อไม่ได้  นั้นความจริงถูกเหมือนให้เปล่า

     

    แต่  เช่นนั้นจึงสอดคล้องกับการเป็นบุตรชายของสหายเก่าไปโดยบังเอิญ   ในความเห็นของเสี่ยทั้งสองคน  คิดกันไปว่าสหายเก่า (ที่ไม่มีตัวตน) คนนั้นต้องการฝากฝังลูกชายให้ช่วยดูแล โดยกำนัลไข่มุกให้ แต่ของสูงค่าเกรงว่าคนรับจะตะขิดตะขวงใจจึงอ้างการขายไข่มุกบังหน้า   ยิ่งประจวบกับที่ปลาหมึกไม่อยากถูกซักถามมากความถึงการได้ไข่มุกพวกนี้มา  เขาจึงมีข้อแม้ว่าคนที่ซื้อไปห้ามนำไปขายต่อ  คนที่ซื้อได้แต่เก็บไว้เชยชมเอง  ดังนี้ทั้งเสี่ยเม้ง กับ เสี่ยเล้งยิ่งเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน

     

    เสี่ยเม้งถามไถ่ปลาหมึกด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทรของญาติผู้ใหญ่  เป็นห่วงทุกข์สุขของหลานชาย ที่สหายเก่าฝากฝังไว้  จึงเอ่ยถามถึงการเดินทาง  โดยเฉพาะเงินสดจำนวนมากเช่นนี้อย่าว่าแต่กลางค่ำกลางคืน  กระทั่งกลางวันแสกๆ ก็ยังน่ากลัวว่าจะถูกโจรจมูกดีมาปล้นชิง

     

    ปลาหมึกยังไม่ทันได้คิดหาคำตอบ  พีจี ยอดองครักษ์ที่ยืนอยู่เบื้องหลังก็ต้องหน้าแดงไปถึงใบหูเพราะกระเพาะอาหารส่งเสียงดังประทวง

     

    คงหิวแล้วสินะ ต้องขอโทษด้วยที่ทำหน้าที่เจ้าของบ้านบกพร่องไปหน่อย อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม  ว่าไงอาเล้งอยู่กินมื้อค่ำด้วยกันสิ  

     

    ผมคงต้องขอตัวครับ เพราะทานอาหารมาเรียบร้อยแล้ว   เสี่ยเล้งถือโอกาสลากลับ  ก่อนไปยังกำชับฝากฝังปลาหมึก  หลานชายคนใหม่เสียดิบดี มีอะไรเดือดร้อนให้ไปหาเขาได้อย่าเกรงใจ  หรือแม้จะไม่มีเรื่องอะไร ว่างๆ จะแวะไปเยี่ยมก็ได้

     

    ปลาหมึกรับคำ พลางให้พีจีนำไข่มุกสองลูกในถุงกำมะหยี่สีดำส่งให้ทันที  พร้อมกับรับเงินสดและเช็คเงินสดจากอีกฝ่าย

     

    คล้อยหลังเสี่ยเล้ง  พีจีที่ลอบกลืนน้ำลายอยู่นานก็สะกิดบอกเจ้านายให้รีบๆ สั่งอาหารเพราะบริวารเสี่ยเม้งกำลังยืนรออยู่

     

    ปลาหมึกชอบกินอะไร  แล้วเพื่อนที่มาด้วยกันชอบกินอะไร  เสี่ยเม้งเอ่ยถามซ้ำ  แต่พีจีรีบลนลานแก้ไขความเข้าใจผิด

     

    ผมไม่ได้เป็นเพื่อนคุณปลาหมึกนะครับ ผมเป็นองครักษ์. .โอ๊ย!”   ยังไม่ทันจะจบประโยค พีจีก็ถูกปลาหมึกเหยียบเท้าเข้าให้  โทษฐานเผยความลับออกมา 

     

    อ้อ  หมายถึงบอดี้การ์ดสินะ   ดูเหมือนเสี่ยเม้งจะหัวเราะขำโดยไม่ถือสา  หรือคิดแปลกใจอย่างใด  อย่าว่าแต่ตัวเสี่ยเองยังมีทั้งมือปืน ทั้งบอดี้การ์ดคนสนิทเป็นสิบ  นับประสาอะไรกับปลาหมึกที่มีบอดี้การ์ดเป็นองครักษ์คอยดูแล  คนระดับที่สามารถเดินถือไข่มุกประกายราตรี มาพบเขาถึงที่  ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดสิถึงแปลก

     

    ผมชอบปูครับ  ส่วนบอดี้การ์ดคนนี้ เขาชื่อพีจี  ชอบทานปลาน่ะครับ  ปลาหมึกได้แต่เออออไปตามน้ำ  จากองครักษ์ มาเป็น บอดี้การ์ดก็คงไม่ต่างกันนัก

     

    ปู กับ ปลา ได้สิ    สั่งบริวารแล้วเสี่ยเม้งก็หันมาคุยกับสองหนุ่มต่อ 

     

    ว่าแต่ปลาหมึกจะมาทำอะไรที่กรุงเทพ  มาทำธุรกิจหรือไง มีอะไรให้ลุงช่วยก็บอกนะ  เสี่ยเม้งนับตนเองเป็นญาติกับปลาหมึกไปเรียบร้อยแล้วเอ่ยอาสาอย่างเต็มใจ

     

    ผมมีเรื่องอยากทำหลายๆ อย่างครับ แต่ก่อนอื่นคงต้องศึกษาชีวิตในเมืองก่อน  คือ. .ก่อนหน้านี้พวกผมอยู่แต่บนเกาะน่ะครับ     นายปลาหมึกเล่าเรื่องที่แต่งขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ คุณพ่อเห็นว่าอากาศและสิ่งแวดล้อมบนเกาะดีต่อสุขภาพก็เลยให้ผมอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ผมโตพอแล้วก็อย่างจะมาใช้ชีวิตในเมือง เรียนรู้ว่าจะอยู่อย่างไร

     

    อยู่บนเกาะนี่เอง มิน่าถึงชอบกิน ปูกับปลา  เสี่ยเม้งพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อนจะถามต่อ  แล้วนี่มีที่พักกันหรือยัง  คืนนี้จะไปพักที่ไหน

     

    ผมคิดจะซื้อบ้านเล็กๆ สักหลังแถวๆ ถนนสุขฯ น่ะครับ ระหว่างนี้คงต้องพักโรงแรมไปพลางๆ ก่อน

     

    คำตอบของหลานชายคนใหม่ทำเอาเสี่ยเม้งเอ่ยปากห้ามเป็นการใหญ่  ความจริงอาหมึกอยู่ที่นี่ก็ได้  บ้านช่องห้องหับก็มีว่างเยอะแยะไป  แต่ถ้าจะหาซื้อบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ได้  เดี๋ยวลุงจะช่วยดูๆ ให้เอง   ระหว่างนี้ก็อยู่กับลุงไปก่อนดีกว่า  ที่นี่มีบริวารให้ความสะดวกทุกอย่าง  ไปพักโรงแรมยังไม่สะดวกเท่าบ้านของลุงหรอกเชื่อเถอะ

     

    เมื่ออีกฝ่ายอาสาช่วยอย่างแข็งขันปลาหมึกก็ไม่สะดวกกับการปฏิเสธนัก  บางทีอาจเป็นการดีด้วยซ้ำ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปสะกดจิตใครที่ไหนอีก  เพราะวิชานี้มันเปลืองพลังงานมากพอดู

     ...............................
    ....................................

     

    เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาในบ้านดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระถางต้นเฟื่องฟ้าที่วางอยู่ข้างโรงจอดรถแตกดัง เพล้ง  เป็นสัญญาณบอกว่าพี่ชายกลับมาถึงแล้ว  เด็กสาวละความสนใจจากคู่สนทนาทางโทรศัพท์ครู่หนึ่งเพี่อมองนาฬิกาแล้วเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าถอนใจ  แบบนี้จะไม่ให้ถูกคุณพ่อเอ็ดได้อย่างไรในเมื่อกลับบ้านห้าทุ่มครึ่งทั้งที่วันนี้เลิกเรียนบ่ายสามครึ่งแท้ๆ

     

    แค่นี้ก่อนนะไข่ตุ๋น  พี่ชายตัวแสบของลูกพรุนกลับมาแล้วเดี๋ยวคงโวยวายหาของกินอีกแน่ๆ เลย  ต้องไปอุ่นอาหารเตรียมให้เขาก่อนจะได้ทานร้อนๆ  ส่วนเรื่องที่เธอขอลูกพรุนรับปากว่าจะช่วยไม่ต้องกังวลนะ  แล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่โรงเรียนนะจ๊ะ    

     

    เพิ่งวางสายเสร็จประตูบ้านก็ถูกกระชากออกอย่างรวดเร็ว  ชายหนุ่มที่ถลาเข้ามามีสีหน้าซีดเซียว  เหงื่อผุดพรายที่ไรผมบ่งบอกถึงความรีบเร่ง และร้อนใจ  ทันทีที่สายตากวาดมองเห็นน้องสาว  คนเป็นพี่ชายก็ยิ้มหน้าชื่นขึ้นมาบ้าง

     

    ลูกพรุน  ยังไม่นอนอีกหรือ  ดีเลยถ้าอย่างนั้นช่วยทำอะไรให้กินหน่อยนะ  แล้วเอาไปให้เฮียที่ห้องนะ เฮียไปก่อนละ    บอกอย่างเร่งร้อนแล้วลนลานหนีขึ้นห้องชั้นบน  ก่อนก้าวขึ้นบันไดยังไม่วายกำชับ 

     

    เมื่อตะกี้เห็นรถของคุณเตี่ยตามหลังมา  แต่โชคดีที่ติดไฟแดงเสียก่อน  นี่ถ้าคุณเตี่ยถามถึงก็ช่วยแก้ตัวให้ด้วยนะน้องรัก   พูดพลางถอดถุงเท้า เข็มขัดกางเกงไปพลาง เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนให้ดูเหมือนกับว่าเขากลับมาได้พักใหญ่แล้ว  ลูกพรุนได้แต่ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับพฤติกรรมของพี่ชายแล้วไปเตรียมอาหารเบาๆ ให้อีกฝ่ายรับประทาน

     

    ถือถาดใส่ชามรากบัวตุ๋นควันกรุ่นเดินออกจากครัว เป็นเวลาเดียวกับที่บิดาเดินเข้ามาพอดี  กลับมาแล้วหรือคะคุณพ่อ จะทานรากบัวตุ๋นอีกสักชามไหมคะพุทราจีนก็ยังมีเดี๋ยวลูกพรุนจะยกมาให้

     

    ไม่ดีกว่าลูก มื้อเย็นพ่อกินจนอิ่มแล้ว ว่าแต่ชามนั้นจะยกไปให้ใคร ของเฮียบอลใช่ไหม   ไม่รอให้ลูกสาวตอบคนเป็นพ่อก็เดาได้   ลูกพรุนหนูอย่าไปทำให้เฮียเขาเสียนิสัย  มันจะกินก็ให้ลงมากินข้างล่างนี่ เรื่องอะไรจะต้องให้น้องนุ่งยกขึ้นไปให้ถึงข้างบนห้อง จะสบายเกินไปแล้วเจ้าลูกคนนี้ แค่โต๊ะอาหารจะเดินลงมาไม่เป็นเชียวหรือ

     

    เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าจะถูกตำหนิ ลูกชายคนโตที่รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินลงมาด้วยชุดนอนเรียบร้อยพร้อมกับยิ้มประจบบิดา 

     

    กำลังบ่นถึงอยู่พอดี เดี๋ยวนี้เห็นกลับดึกทุกวันเลยไปทำกิจกรรมอะไรนักหนา แล้วนี่ข้าวปลากินหรือยัง ระวังจะเป็นโรคกระเพาะนะอาบอล ตุ๋นรากบัวชามเดียวพอกินหรือเปล่า    แม้ปากจะตำหนิแต่ใจก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×