คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นายปลาหมึกมาแล้ว
บนพื้นผิวของดวงจันทร์อันเป็นดาวบริวารของดาวเคราะห์สีฟ้างดงามที่มีชื่อว่า “โลก” บัดนี้ยานอวกาศรูปร่างเหมือนปลาหมึกได้ทำการลงจอดและตรวจเช็คความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย
ดวงตาสีดำกลมโตของบุรุษร่างสูงกำลังเหม่อมองผ่านกระจกยานชมความงามของดาวเบื้องหน้าอย่างหลงใหล หลังการเดินทางหลายปีแสงในที่สุดเขาก็มาถึงจนได้
ขณะกำลังจินตนาการถึงใครบางคนบนพื้นโลก เสียงรายงานขององครักษ์ก็ดังมาเข้าหู
“กิ๊บ. .กิ๊บกิ๊บกิ๊บ-กิ๊บกิ๊บ.กิ๊บ”
องค์ชายใหญ่แห่งดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบจุดห้าเบือนหน้ามองคู่สนทนาด้วยสีหน้าบึ้งตึง พลางใช้สายตากวาดมองรูปร่างที่บอกยี่ห้อมนุษย์ต่างดาวในสายตาชนชาวโลกของอีกฝ่ายแล้วส่งเสียงตำหนิด้วยภาษาไทยชัดเจน
“อย่ามาใช้สำเนียงเห่ยๆ ของเผ่านายพูดกับฉันนะ พีจี” องค์ชายใหญ่หมายถึงภาษาเฉพาะเผ่าพันธุ์ ซึ่งบนดาวรูปร่างปลาหมึกที่พวกเขาจากมานั้นมีหลายสปีชีย์และภาษามากมายใช้สื่อสารกัน แต่ภาษาราชการหรือที่เรียกว่าภาษาหลักของดาวคือภาษาปลาหมึกนั่นเอง
“แล้วก็เริ่มพูดภาษาไทยของดาวโลกได้แล้ว อีกไม่นานพวกเราจะลงไปที่นั่น นายต้องหัดพูดให้ชินตั้งแต่ตอนนี้”
“ขออภัยขอรับ กระหม่อมแค่อยากแจ้งให้องค์ชายทราบว่าเครื่องพลางตัวทำงานสมบูรณ์ดีแล้วเท่านั้นเอง. กิ๊บ” องค์รักษ์รายงานอีกครั้ง แต่ถึงจะใช้ภาษาไทยแล้วก็ยังไม่ถูกใจผู้เป็นเจ้านายอยู่นั่นเอง มิหนำซ้ำยังเผลอใช้คำลงท้ายด้วยสำเนียงเผ่าพันธุ์ตัวเองอีกต่างหาก
“ใช้ไม่ได้ ขืนนายพูดแบบนี้ต้องมีคนสงสัยแน่ บนดาวโลกฉันไม่ใช่องค์ชายใหญ่ เป็นแค่มนุษย์โลกธรรมดาๆ คนหนึ่ง ดังนั้นนายต้องจำเอาไว้ให้ดีถ้าลืมละก็จะจับถอนขนให้หมดตัวเลย” องค์ชายขู่
“ถ้าเช่นนั้นกระหม่อม เอ้ย! ผม ควรเรียกพระองค์. . .คุณว่าอย่างไรดีขอรับ. .ครับ” พูดจบยอดองครักษ์ก็ยิ้มเป็นเชิงขออภัยในความไม่เคยชิน
“ปลาหมึก นับจากนี้ไปฉันมีชื่อว่า นายปลาหมึก” หนุ่มร่างสูงประกาศชัดเจน
“และนาย” องค์ชายใหญ่ผู้ตั้งชื่อตนเองว่านายปลาหมึกชี้นิ้วออกคำสั่งด้วยความเคยชิน “ชื่อพีจีเหมือนเดิมดีแล้ว แต่ต้องเปลี่ยนรูปร่างให้เหมือนมนุษย์อย่างฉันด้วย”
ด้วยความไม่สันทัดในการแปลงร่างเป็นมนุษย์องค์รักษ์จำต้องอาศัยคำอธิบายจากเจ้านายหนุ่ม
วุ่นวายกับการสอน พีจี แปลงร่างและแต่งตัวครู่หนึ่ง เบื้องหน้าชายหนุ่มร่างสูง ก็คือหนุ่มน้อยหน้ามน มีผิวขาวระเรื่ออมแดง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนและผมเส้นเล็กสีดำที่ดูนุ่มนิ่มบวกกับร่างอ้อนแอ้นอรชร ไม่เหมือนยอดองครักษ์ฝีมือดีคนเดิมเมื่อครู่สักนิด
“รู้สึกเย็นๆ ชอบกล. กิ๊บ” หนุ่มน้อยรูปร่างเล็กพยายามดึงชายเสื้อด้วยความขัดเขิน ไม่เคยชินกับการอยู่ในร่าง และอาภรณ์เช่นมนุษย์โลก
“เดี๋ยวก็ชินน่า” ปลาหมึกกล่าวพลางระบุเป้าหมายที่จะลงไปบนโลก
เครื่องส่งสสารทำงานตามโปรแกรมที่ถูกสั่งการ ทันทีที่กดปุ่มยืนยันช่องเก็บของตรงหน้าก็ถูกเปิดออก และสิ่งที่ปรากฏออกมาคือวัตถุที่มีรูปร่างคล้ายนาฬิกาข้อมือสองเรือน
“ใส่ ‘ลุค’ ติดตัวเอาไว้นะ มันเป็นเครื่องควบคุมยานอวกาศระยะไกล สามารถสั่งการได้จากพื้นโลกมาถึงดวงจันทร์นี้ รวมถึงส่งข้อมูลผ่านจากยานไปยังดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบจุดห้าได้ด้วย”
หนุ่มน้อยร่างบางรับนาฬิกาข้อมือมาอย่างงงๆ ถึงแม้จะได้ชื่อว่ายอดองครักษ์ผู้มีฝีมือในการรบเก่งกาจแต่ความรู้เรื่องเทคโนโลยีมีติดสมองเขาน้อยนิด ที่ขับยานมาถึงดวงจันทร์ของดาวโลกได้ก็เพราะองค์ชายใหญ่หรอก ขืนพีจีขับเองคงชนดาวลูกไก่ ไม่ก็หลงทางอยู่ในกลุ่มสะเก็ดดาวออกมาไม่ได้แน่
“แล้วก็ใส่หมวกนี่เสียด้วย”
ยังไม่ทันที่พีจีจะทำความเข้าใจกับอุปกรณ์ตัวแรก หมวกสีฟ้าใบหนึ่งก็ถูกโยนมาให้
“เดี๋ยวพวกเราต้องออกไปใช้เครื่องส่งสสารที่ด้านนอกตัวยาน แต่ในร่างของมนุษย์ธรรมดาอยู่ในห้วงอวกาศไม่ได้หรอกนะ ดังนั้นหมวกนั่นถูกดัดแปลงมาให้คนใส่ไม่ขาดอากาศหายใจตายก่อนจะเหยียบพื้นโลก เหมือนกับชุดที่ใส่ตอนนี้ สร้างมาจากวัสดุชั้นดีของดาวเรา แม้ภายนอกจะดูไม่ต่างจากมนุษย์อื่นๆ แต่มีความยืดหยุ่นและทดทานรับแรงเสียดทานรวมถึงทนความร้อนสูง” ปลาหมึกพูดพลางหยิบหมวกอีกใบที่มีสีเดียวกันสวมไว้เอง
“ที่จริงยังมีคุณสมบัติอีกเยอะ แต่นายอ่านจากคู่มือเอาก็แล้วกัน ฉันขี้เกียจอธิบาย”
สองหนุ่มผู้เตรียมไปเยือนโลกเดินออกมาเพื่อไปที่เครื่องส่งสสารซึ่งติดตั้งอยู่นอกตัวยาน ลักษณะเป็นรูปตัว V มีแถบคาดอยู่ตรงกลางได้ผูกไว้กับปลายของสองข้าง ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนหนังสติ๊กของเด็กชาวโลกยังไงยังงั้น
ทันทีที่ พีจี เห็นอุปกรณ์พิเศษตัวนี้ถึงกับยืนตัวแข็งเบิกตาโพลงโตด้วยความคาดไม่ถึง “เราจะลงสู่พื้นโลกด้วยสิ่งนี้หรือ. กิ๊บ”
“ใช่ เพื่อหลีกเลี่ยงจากเรดาร์ตรวจจับของชาวโลก” ปลาหมึกหันมองหน้าซีดๆ ขององครักษ์ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้านายกลัวไม่ต้องตามไปก็ได้นะ อยู่เฝ้ายานบนดวงจันทร์นี่แหละ”
แม้จะกังวลกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ตัวนี้ใจจะขาด แต่ยอดองครักษ์เช่น พีจี จะทิ้งนายได้อย่างไร ยิ่งก่อนมาองค์ราชาได้สั่งย้ำหนักย้ำหนาให้คอยติดตามองค์ชายใหญ่ทุกฝีก้าว ดังนั้นเมื่อกลืนน้ำลายลงคอไปสามอึก หนุ่มร่างบางก็กัดฟันสู้ตาย “ผมไปด้วย. กิ๊บ”
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็รีบมาเตรียมตัวเร็วๆ เข้า อย่าลืมกระเป๋าสัมภาระกับล๊อคยานอวกาศให้เรียบร้อยด้วยนะ อ้อ อีกอย่างเลิก ‘กิ๊บ’ ได้แล้ว”
เมื่อระบุพิกัดการยิงเรียบร้อย เครื่องส่งสสารที่ดูมุมไหนก็ไม่ต่างจากเครื่องยิงหนังสติ๊ก ได้ฤกษ์ทำงานทันทีที่ปลาหมึกกดปุ่มคำสั่งบนหน้าปัด ลุค ที่เป็นนาฬิกาข้อมือ
ยางชนิดพิเศษถูกดึงไปด้านหลังเรื่อยๆ โดยมีบุรุษหนุ่มทั้งสองเกาะอยู่ ทันทีที่ยางถูกดึงจนสุด ปลาหมึกก็มองไปด้านหน้า โลก ดาวที่เธอคนนั้นอยู่ ดาวที่เขากำลังจะได้ลงไปเหยียบย่างคู่กับเธอ
องค์ชายใหญ่ผู้เดินทางจากดาวบ้านเกิดมาเพื่อยึดครองโลกแต่มีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่นพ่วงด้วย ไม่ลังเลใจสักนิดที่จะกดหน้าปัด ลุค ออกคำสั่งดีดตัว
“ไปกันเลย . . . โลกจ๋า ปลาหมึกมาแล้วววว”
แล้วสองหนุ่มก็ลอยละลิ่วจากดวงจันทร์ พร้อมกับมีเสียงโห่ร้องของปลาหมึก กับเสียงโหยหวนของพีจี ประกอบการเดินทาง
...............................................................
......................................................................................
ท้องฟ้าเหนือเมืองกรุงยามรัตติกาลมาเยือน แม้จะเป็นคืนเดือนแรมที่แสงนวลตาจากดวงจันทร์ไม่ส่องสว่างกระจ่างเท่าเดือนเพ็ญเต็มดวง แต่ด้วยแสงจากหลอดไฟบนท้องถนน ไฟจากรถยนต์และอาคารบ้านเรือนทดแทน ได้ขับไล่ความมืดมิด และก็ช่วยส่องสว่างให้พอได้เห็นเงาดำๆ สองจุดจากดวงจันทร์ตรงมายังพื้นโลกได้ไม่ยากนัก
แต่อาจเพราะเวลานี้เป็นวสันตฤดูที่มีเมฆปกคลุมอยู่บางเบาประกอบกับสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้าไร้ดาวในคืนนี้จึงไม่มีคนยืนยล ชมดูภาพมนุษย์ต่างดาวลอยมาบุกโลก
ฟิ้ววววว . . .
“แอ๊ก!!”
แม้จะอยู่ในชุดสุดยอดนวัตกรรมแห่งดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบจุดห้า แต่ความจุกยามร่างกระแทกพื้นก็ไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว
“ปลอดภัยดีใช่ไหม. . .ครับ” บุรุษร่างเล็กบอบบางพยุงกายลุกขึ้นจากพื้นที่เป็นหลุมแอ่งไม่ใหญ่นัก แม้รูปร่างภายนอกจะดูเหมือนคนอ่อนแอน่ารังแก แต่ภายในก็ยังเป็นยอดฝีมือในการรบอยู่ดี ดังนั้นพลังในการฟื้นตัวจึงมีมากกว่าหนุ่มร่างสูงที่ยังนอนแนบหน้ากับพื้นพสุธา
พีจี รีบเข้าไปช่วยพยุงเจ้านายขึ้นมา สำรวจดูว่าไส้ยังไม่ทะลักออกนอกพุงก็เบาใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง
“ยังดีอยู่” ปลาหมึกนั่งสูดหายใจเข้าปอดช้าๆ เมื่อคลายความจุกเสียดได้ก็เอ่ยต่อ “โชคดีที่ก่อนจะถึงพื้นผิวโลกฉันได้ยิงระบบซุปเปอร์เซพล่วงหน้ามาแล้ว นอกจากจะช่วยให้ไม่ดับอนาถ ยังไม่สร้างร่องรอยผิดสังเกตบนพื้นผิวโลกมากจนน่าสงสัยอีกด้วย”
ชายหนุ่มร่างสูงมองดูหลุมที่เกิดขึ้นแล้วใช้ให้หนุ่มร่างเล็กกว่าทำการกลบดินปิดตามเดิม ส่วนตัวเขาเองก็ใช้ลุคตรวจสอบสถานที่เพื่อให้แน่ใจว่าลงมาถูกต้อง และปลอดจากสายตาบุคคลภายนอก
“ไม่คลาดเคลื่อนสักนิด ยอดมาก!” ปลาหมึกมองรอบๆ ตัวอีกครั้ง ก่อนจะหันไปบอกกับองครักษ์ที่กำลังเกลี่ยดินอยู่ “พวกเราลงมาบนพื้นที่สำหรับเตรียมสร้างเป็นสวนหย่อม และสวนสุขภาพ ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ยังสร้างไม่เสร็จ แถมยังมีปัญหาเรื่องงบประมาณด้วยทำให้ไม่มีลูกจ้างคอยดูแลเข้มงวดนัก ดังนั้นตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้ว”
แม้ตอนแรกหวั่นๆ ว่าจะถูกมนุษย์โลกจับไปเชือดทิ้งทันทีที่ถึงพื้น แต่ในที่สุดการมาครั้งนี้ก็ไม่เอิกเกริก และไม่มีใครรู้ ถึง พีจี จะดีใจแต่ก็สงสัยว่าทำไมองค์ชายใหญ่ผู้ที่เอาแต่เก็บตัวในหอส่งสัญญาณกำลังสูงถึงได้รู้เรื่องบนโลกละเอียดนัก
“เอาเถอะ ในเมื่อองค์ชายใหญ่ขึ้นชื่อว่ามีนิสัยประหลาดที่สุดบนดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบจุดห้า อยู่แล้ว จะมีความสามารถพิลึกๆ ติดตัวอยู่บ้างก็คงไม่แปลก” พีจี พึมพำเบาๆ กับตัวเองแล้วก้มหน้าลงมือทำงานต่อ ไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มกว้างขององค์ชายใหญ่ หรือ นายปลาหมึก ที่แอบมองดูกระดาษแผ่นหนึ่งในมือ
..................................................
...........................................................................
เสร็จงานพีจีตรวจความเรียบร้อยแล้วเดินไปสมทบกับเจ้านาย เมื่อเห็นท่าทางคล้ายกับตัดสินใจอะไรบ้างอย่างได้แล้วของนายปลาหมึก พีจีก็รีบถามตามประสายอดองครักษ์ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจ “ต้องทำอะไรต่อไปครับ หรือว่าพวกเราจะเริ่มการยึดครองโลกเลยดีไหม”
“เพิ่งจะมาหายใจบนดาวโลกไม่ถึงชั่วโมงนายก็จะยึดดาวคนอื่นเขาแล้วเรอะ บ้าหรือเปล่า” จากที่อารมณ์ดีด้วยความครึ้มอกครึ้มใจก็ต้องมาหงุดหงิดกับ องครักษ์บ้าพลัง
คนถูกเอ็ดหน้าม้านนิดๆ แต่ไม่ละความพยายาม “หรือว่าคุณปลาหมึกมีแผนการเตรียมไว้แล้ว”
แผนยึดโลกยังไม่มี แต่องค์ชายใหญ่ผู้มีแผนงานอื่นพยักหน้ารับก่อนจะอธิบาย “ก่อนอื่นต้องแลกไข่มุกที่เอามาจากดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบจุดห้าไปแลกเป็นเงินสกุลที่ใช้ในประเทศนี้ จากนั้นก็หาซื้อบ้านเล็กๆ สักหลังแถวๆ ถนนสุขฯ” พูดถึงตอนนี้นายปลาหมึกก็ยิ้มหน้าบานอย่างไม่รู้ตัว
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าบ้านน้องลูกพรุนอยู่หลังไหน แต่แค่รู้ชื่อถนน และได้อยู่บนถนนสายเดียวกันก็ยังดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องอยู่ห่างไกลหลายปีแสงเหมือนอย่างแต่ก่อน
ตาสีดำเคลิ้มฝันของนายปลาหมึกดูจะต่างจากดวงตาสีน้ำตาลของพีจีซึ่งกำลังเบิกกว้างกลมโตกว่าเดิมในขณะที่เจ้าตัวอุทาน “จะเอาไข่มุกไปแลกเพื่อซื้อบ้าน!”
“ใช่ ถ้าไม่เอาไข่มุกไปแลกแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อละ อย่าบอกนะว่าจะชวนกันปล้น” ประโยคหลังของปลาหมึกเบรกจนพีจีที่อ้าปากค้างอยู่ต้องกลืนคำที่คิดจะพูดลงคอ
“ถ้าไม่ปล้น แล้วการนำเอาไข่มุกมูลค่ามหาศาลแบบนั้นไปแลกเป็นเงินตรา ในยามวิกาลเช่นนี้มีที่ไหนเขารับแลกครับ แบบนั้นชาวโลกเขาจะไม่สงสัยเอาหรือ แล้วเกิดมีคนถาม หรือต้องการสอบถึงประวัติความเป็นมาของไข่มุก พวกเราจะตอบเขาว่ายังไงกัน. . พกมาจากต่างดาวหรือครับ”
“พีจีนายลืมไปแล้วหรือว่ามากับใคร ตอนนี้ฉันคือนายปลาหมึกก็จริง แต่ความสามารถขององค์ชายใหญ่แห่งดาวเอ็นเอ็นร้อยห้าสิบก็ยังมีอยู่ครบถ้วนนะ”
พีจีนึกถึงความสามารถขององค์ชายใหญ่ที่เคยได้ยินมาหนาหู นอกจากจะขยันสร้างเรื่องเดือดร้อนเก่งเป็นพิเศษแล้ว ก็มักจะนำเอาหัวข้อแปลกๆ มาสนทนา หรือที่ท่านหมายถึงจะเป็นเรื่องที่ปฏิเสธรักของสาวๆ ราชนิกุลชั้นสูงให้อกหักเป็นว่าเล่น
ราวกับปลาหมึกรู้ว่านายยอดองครักษ์กำลังคิดเหลวไหลอะไรอยู่ “นายสอบข้อเขียนผ่านจนมาเป็นองครักษ์ในวังได้ยังไงนะ หรือว่าผ่านเพราะสอบปฏิบัติได้เต็มเขาเลยอนุโลมให้” บ่นแล้วเจ้านายก็มานั่งอธิบาย “ความสามารถในการสะกดจิต เป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีเฉพาะในสายเลือดของพระราชาและเหล่าทายาท แม้ฉันเองจะเป็นลูกนอกคอกของเสด็จพ่อแต่ไอ้ความสามารถนี้มันก็ยังถ่ายทอดมาถึงฉันอยู่ดี ดังนั้นนายวางใจได้ เดี๋ยวฉันจะไปสะกดจิตใครสักคนเพื่อแลกไข่มุกพวกนั้นเอง”
ที่จริงเรื่องนี้พีจีก็พอจะรู้มาบ้าง แต่ไม่คิดว่าองค์ชายใหญ่ผู้สนใจแต่เรื่องพิลึก จะมีความช่ำชองชำนาญในการสะกดจิตด้วย
“ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมเราไม่ไปยึดบ้านของชาวโลกสักหลังละครับ ถ้าคุณปลาหมึกชอบบ้านหลังใหญ่เท่าปราสาทอย่างแต่ก่อน เราก็เอาแค่หลังย่อมๆ ขนาดตึกสูงสิบสามชั้นก็ได้”
“นายจะเอาบ้านสิบสามชั้นไปทำไม” นายปลาหมึกต้องแอบถอนหายใจจะพยายามหาข้ออ้างมาชี้แจง “บ้านที่ว่าพวกเราจะต้องใช้เป็นฐานลับในการปฏิบัติงานนะ ถ้ามันเด่นสะดุดตาเกินไปจะมีคนสงสัย เอาบ้านชั้นเดียวเนื้อที่พอเหมาะก็พอแล้ว และที่สำคัญ” ดวงตาสีนิลจริงจังเมื่อสบตาองครักษ์ร่างบาง
“ก่อนจะยึดครองโลกสำเร็จ พวกเราจะไม่ทำร้ายชาวโลกหากไม่จำเป็น และการนำเอาพลังสะกดจิตไปยึดครองบ้านมนุษย์ชาวโลกแบบนั้นมันก็เป็นการทำร้ายพวกเขาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นฉันถึงคิดจะเอาไข่มุกไปแลกเป็นเงินอย่างยุติธรรม”
พูดจบนายปลาหมึกก็เดินออกจากสวนที่ยังสร้างไม่เสร็จแห่งนี้ แผ่นหลังเหยียดตรงองอาจแบบมนุษย์โลกที่ทำให้พีจีฉงนใจไม่น้อยกับการตัดสินใจของเจ้านาย
“เอาเถอะ ไหนๆ คุณปู่กับคุณทวดก็เคยบอกไว้. . .เดินตามหลังปลาหมึกไปย่อมดีเอง”
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * สวัสดีครับ ในที่สุดก็อัพตอน 2 จบ รอพบกับตอน 3 "น้องลูกพรุน" นะครับผม ^^ ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับทุกท่าน
ความคิดเห็น