ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยายรักของนายปลาหมึก

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 องค์ชายใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 50



     

     

     

    บนท้องฟ้า   ในห้วงอวกาศเวิ้งว้างที่กว้างใหญ่ไพศาล  ยังมีกาแลกซี่นอกสำรวจซึ่งอยู่ห่างไกลจากโลกมนุษย์มากนัก  ณ ที่แห่งนั้นมีดาวประหลาดดวงหนึ่งซึ่งมีรูปร่างลักษณะคล้ายปลาหมึก  แม้ดาวดวงนี้จะมีขนาดเล็กแต่จำนวนประชากรบนดาวกลับมีไม่น้อย  พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่เรียกกันว่ามนุษย์ต่างดาว  และเรื่องราวต่างๆ ก็เริ่มต้นจากที่แห่งนี้

     

    (ต่อไปนี้ข้อความภาษาต่างดาวได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยเพื่อสะดวกแก่การอ่าน)

     

    ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ เสียงจากสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายนกฮูกเอ่ยห้ามปรามบรรดาสมาชิกสภาสูงแห่งดวงดาวที่กำลังถกเถียงอยู่กับประเด็นสำคัญในการประชุม

     

              ในห้องกว้างประดับด้วยไข่มุกสีนวลตาและอัญมณีมีค่า บนเพดานมีกระจกสีลายน้ำ ตกแต่งจนดูคล้ายห้วงสมุทร  ที่แห่งนี้คือห้องโถงกลางในปราสาทหลังงาม อันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งอำนาจปกครองสูงสุดแห่งดาวดวงนี้

     

              บังลังก์สีน้ำเงินสดประดับมุกสีเงินบริสุทธิ์ตั้งอยู่บนแท่นสูงของห้องโถง  ที่ประทับอยู่คือพระราชาแห่งดาวเอ็นเอ็น-ร้อยห้าสิบจุดห้า

     

              ดาวเคราะห์ที่นอกจากจะมีรูปร่างดูแล้วคลายปลาหมึกแล้ว ยังมีพระราชาปกครองเป็นปลาหมึกอีกด้วย  หรือจะพูดให้ถูกก็คือมนุษย์ปลาหมึก  ซึ่งในที่แห่งนี้ถือว่าเป็นเชื้อสายที่ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ มีอยู่แต่ในวงศ์แห่งราชาเท่านั้น  ส่วนประชากรอื่นๆ ก็เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างต่างๆ กันออกไปตามแต่ต้นตระกูลของตน หลายพวกที่ปนเปกันจนภายหลังแยกแยะเผ่าพันธุ์กันไม่ค่อยจะออกแล้วก็มี

     

              คณะสภาที่นั่งอยู่ในห้องโถงล้วนสงบเสียงเมื่อองค์ราชาลุกขึ้นเอ่ยถึงข้อวิกฤตอันเป็นปัญหาใหญ่ขณะนี้ 

     

              จากที่ทุกท่านในที่นี้ทราบกันดีว่าทรัพยากรบนดาวเราลดลงในอัตราที่น่าใจหาย  ในขณะที่ประชาชนเพิ่มมากขึ้นทุกปี  ในอนาคตอันใกล้พวกเราจะประสบปัญหาความขาดแคลน  จากนั้นการแก่งแย่งช่วงชิง การต่อสู้เพื่อการดำรงชีพจะตามมา  พระองค์กล่าวด้วยพระพักตร์เคร่งขรึม ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ทรงหนักพระทัยมานาน

     

              ในอดีตบรรพบุรุษของชาวเราต่างเดินทางไปทั่วทุกกาแลกซี่เพื่อเสาะหาแหล่งที่อยู่อาศัยบนดาวดวงอื่น เพื่อสร้างเป็นดาวอาณานิคม   แต่ในดาวมากมายที่ค้นพบส่วนมากไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอ    จนกระทั่งค้นพบดาวที่เหมาะสมดวงหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในระบบสุริยะจักรวาล  ดาวนั้นมีชื่อว่า โลก  แต่ที่น่าเศร้าก็คือทุกครั้งที่ส่งหน่วยสำรวจลงไป  กลับไม่เคยมีใครรอดกลับมา 

     

              ชาวดาวโลกช่างโหดร้ายนัก  อย่าว่าแต่พวกเราเลย กระทั่งพวกเดียวกันก็ยังเข่นฆ่าอย่าเหี้ยมโหด   เสียงของหนึ่งในคณะสภาสูงที่เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายปูออกความเห็น  เนื่องจากบรรพบุรุษของตนคนหนึ่งเคยร่วมในทีมวิจัยไปสำรวจดาวโลก  และไม่มีโอกาสกลับออกมาเช่นกัน

     

              ก่อนจะมีอีกหลายเสียงช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์  สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายนกฮูกซึ่งเป็นหัวหน้าคณะสภาต้องขอร้องให้สมาชิกเงียบเสียงลงอีกครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

     

              พระราชาทรงทอดพระเนตรดูเหล่าผู้ทรงคุณวุฒิในสภา หลายเสียงต้องการให้ส่งกำลังเข้ายึดครองดาวโลก  แต่ก็มีอีกหลายเสียงคัดค้านเนื่องจากดาวเอ็นเอ็น-ร้อยห้าสิบจุดห้านี้มีความสงบสุขมาช้านาน การทำสงครามจะสร้างความระส่ำระส่ายให้กับประชาชน  อันเป็นผลให้เกิดความไม่สงบและความเดือดร้อนตามมา

     

              เพราะสองฝ่ายต่างชี้แจงเหตุผลกันอย่างดุเดือดมาหลายครั้งทำให้การประชุมไม่คืบหน้าไปไหน  แม้วันนี้หัวหน้าสภาสูงจะทูลเชิญพระราชามาประทับเพื่อเป็นสักขีพยานและผู้ออกความเห็น  แต่จนแล้วจนรอดการถกเถียงก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นทุกครั้ง

     

              ด้วยความกลัวพระองค์จะทรงกริ้ว และเกรงพระอาญาหัวหน้าคณะสภาตัดสินใจใช้ไม้ตาย     ท่าพิฆาตขนนกร้อยทิศ

     

              เสียงดังฉึกๆ ต่อเนื่องไม่ขาดสายเมื่ออาวุธลักษณะคล้ายขนนกฮูกแต่ความแข็งแกร่งและแหลมคมประดุจสร้างขึ้นจากเพชร ปักลงบนโต๊ะตรงหน้าคณะสภาแต่ละคน

     

              เหลือเพียงเสียงกลืนน้ำลาย จากนั้นความเงียบเกิดขึ้นฉับพลันทันใด  ยิ่งเมื่อเห็นสายตาหลังแว่นทรงกลมของท่านหัวหน้าคณะสภามองกราดตำหนิ  พอรู้ตัวแต่ละคนยิ่งรู้สึกผิดที่แสดงกิริยาอันไม่สมควรต่อหน้าพระพักตร์

     

    หลังจากเอ่ยขอพระราชทานอภัยโทษที่กระทำการโดยอุกอาจแล้วหัวหน้าคณะสภาจึงกล่าว  เพราะเหตุนี้เองกระหม่อมจึงหวังให้พระองค์ทรงตัดสินพระทัย ชี้ทางอนาคตของพวกเราทั้งหมดเพื่อไม่ให้เรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไปอีกจนสายเกินกาล  

     

    ในขณะที่องค์ราชาทรงขบคิดใคร่ครวญอยู่นั้น มหาดเล็กก้าวเข้ามากระซิบรายงานด่วน เป็นเหตุให้ถึงกับสีพระพักตร์เปลี่ยน

     

    มีมนุษย์โลกบุกเข้ามาเป็นสายลับบนดาวเราหรือ!?”   ทั้งตระหนกทั้งแปลกใจจนอุทานออกมา

     

    ขอรับ  พวกทหารองครักษ์จับตัวได้ที่หอส่งสัญญาณกำลังสูง   มหาดเล็กประจำพระองค์ยืนยันด้วยน้ำเสียงทุกข์ร้อนเพราะสถานที่ที่ว่านั้นอยู่ในเขตพระราชฐาน การมีคนบุกรุกเข้ามาได้นับเป็นความผิดของเหล่าทหารองครักษ์ และความบกพร่องของเหล่ามหาดเล็กที่ไม่ตรวจตราช่วยกันดูให้ดี   

     

    คณะสภาที่เปิดเรดาร์หูฟังต่างพากันตกใจไปตามๆ กัน ไม่คิดว่ายังไม่ทันบุกไปโลก ดาวรูปร่างเหมือนปลาหมึกดวงนี้ก็ถูกบุกก่อนเสียเอง

     

    เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การประชุมสำคัญจึงต้องระงับไว้ชั่วคราวเหตุที่มีเรื่องสำคัญกว่าเข้ามาแทรก

     

    พาตัวผู้บุกรุกเข้ามา  ข้าอยากดูหน้ามนุษย์โลกผู้บังอาจคนนั้นเสียจริง  สิ้นกระแสเสียงคำสั่ง   มหาดเล็กประจำพระองค์ออกไปสั่งการต่อทหารองครักษ์ผู้ควบคุมเชลยให้ตามเข้ามาในห้องโถงกลางแห่งนี้

     

    ร่างสูงของมนุษย์หนุ่มถูกมัดจนแน่นหนา  ดวงตากลมโตสีดำดุจนิลมีเกศาสีดำดุจเดียวกัน ทั่วเรือนร่างปกคลุมด้วยอาภรณ์ประหลาดตามแบบฉบับมนุษย์บนโลกทั่วไป  จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าที่เรียกว่าชวนมองในสายตาสาวๆ ชาวโลก แต่ในสายตาของชาวดาวปลาหมึกนี้  เห็นจะมองไม่ออกว่าหน้าแบบนี้น่าดูตรงไหน    

     

    แขนกับขาต่างมีแค่สองข้างเท่านั้นแต่กลับขัดขืนดิ้นรนจนทหารองครักษ์รูปร่างคล้ายแมงกะพรุนที่มีแขนมากกว่าหลายเท่ายังจับแทบไม่อยู่    ส่วนปากนั้นได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ตลอดเวลาเพราะถูกผ้าผูกเอาไว้จึงไม่อาจหลุดคำประท้วงขออิสรภาพ  หรือคำก่นด่าสาปแช่งออกมาได้

     

    องค์ราชามีรับสั่งให้เอาผ้าผูกปากออกเพราะมีเรื่องอยากสอบถามเชลยชาวโลกผู้นี้

     

    เมื่อปากมีอิสระเชลยหนุ่มก็ส่งเสียงระบายลมหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก ก่อนจะช้อนตาขึ้นสบเนตรผู้เป็นเจ้าแห่งดาวดวงนี้แล้วเอ่ยออกมาคำแรกด้วยเสียงอ่อยๆ ว่า  

     

    เสด็จพ่อ  กระหม่อมชายใหญ่เองพะยะค่ะ

     

    ชายใหญ่!”

     

    องค์ชายใหญ่!”

     

    เสียงอุทานแทบจะดังพร้อมกันขึ้นทั้งห้องโถงกลาง ไม่เว้นแม้แต่ทหารองครักษ์และมหาดเล็กประจำพระองค์ที่ยืนคุมเชลย

     

    ผู้เป็นบิดาแทบเป็นลมเมื่อเห็นสารรูปของบุตรชายคนโต  พระราชาทรงให้กำเนิดราชบุตรสิบเก้าพระองค์  ราชธิดายี่สิบเอ็ดพระองค์  ในบรรดาบุตรธิดาทั้งหมดทรงเป็นห่วงชายใหญ่ บุตรชายคนโตที่สุด 

     

    เพราะมีนิสัยประหลาดและชอบแสดงความคิดเห็นพิลึกพิลั่นอยู่บ่อยๆ ทำให้เข้ากับพี่น้องคนอื่นไม่ค่อยได้ แต่ชายใหญ่ก็ดูจะไม่สนใจใครอื่นนักเช่นกันเพราะเขาเอาแต่หมกมุ่นวุ่นวาย ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในหอส่งสัญญาณกำลังสูง

     

    เมื่อครู่ที่ได้รับรายงานว่ามีศัตรูบุกรุกที่นั่น  ในใจนึกห่วงบุตรคนโตยิ่งนัก เพราะเขามักจะอยู่แต่ในนั้น   ที่เรียกเชลยมาสอบถามด้วยตนเองก็หวังจะทราบความเป็นตายร้ายดีของชายใหญ่ด้วย

     

    แต่ไม่นึกเลยว่าเชลยตรงหน้ากลับเป็นเจ้าตัวร้ายของพระองค์เอง ไปทำอะไรมาถึงได้มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้  ด้วยความเหลืออดพระองค์ทรงเอ็ดด้วยความกริ้ว

     

    หลังจากทหารองครักษ์ช่วยกันแก้เชือกที่มัดร่างกายองค์ชายใหญ่ให้แล้ว  ชายหนุ่มรูปร่างมนุษย์ก็ยืนยืดเส้นยืดสาย  เมื่อได้ยินเสียงดุของพระบิดาก็รีบยิ้มประจบแล้วกล่าว

     

    กระหม่อมกำลังหัดแปลงร่างเป็นมนุษย์ชาวโลกพะยะค่ะ

     

    เหลวไหล   ดูเหมือนยิ้มหวานแบบชาวโลกไม่ได้ทำให้พระบิดาหายกริ้วสักนิด  วันๆ เจ้าเอาแต่เล่นสนุก  งานการราชกิจไม่เคยสนใจจะเรียนรู้  นี่ขนาดข้าใช้มหาดเล็กไปแจ้งล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้จะประชุมใหญ่ แทนที่เจ้าจะเข้ามาร่วมรับฟัง ช่วยออกความคิดแก้ไขปัญหา นี่อะไร  กลับทำแต่เรื่อง สร้างแต่ปัญหา

     

    บุตรชายได้แต่ก้มหน้ายอมรับคำตำหนิของบิดา  แต่ครั้นฟังถึงเรื่องการประชุมใหญ่  องค์ชายผู้มีนิสัยผิดแปลกจากพี่น้องก็นึกแผนการขึ้นมาได้ทันที

     

    กระหม่อมผิดไปแล้ว  แต่ความจริงที่หัดแปลงร่างเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว  แต่ทำเพื่อเสด็จพ่อด้วย  

     

    เพื่อข้า?”

     

    องค์ชายใหญ่กรอกตาไปมานึกทบทวนข้อแก้ตัวดีๆ แล้วค่อยกล่าวด้วยท่าทางจริงจังเสียยกใหญ่   เพราะข้ารู้มาว่าขณะนี้พวกเรากำลังมีปัญหาเรื่องขาดแคลนทรัพยากร  และเสด็จพ่อกำลังต้องการตัดสินใจว่าจะบุกรุกดาวโลกดีหรือไม่ ใช่ไหมพะยะค่ะ   

     

    เว้นช่วงให้ผู้เป็นบิดาพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยต่อโดยซ่อนความกระหยิ่มยินดีของตนไว้อย่างมิดชิด

     

    เพราะไม่ว่าจะส่งใครไปก็ไม่เคยมีคนกลับออกมาได้เลยสักครั้ง  ดังนั้นความจริงแล้วพวกเรารับรู้เรื่องราวบนดาวโลกไม่มากนัก  ไม่รู้ว่าพวกเขาสังหารพวกเราเพราะอะไร  มีอาวุธน่ากลัวอะไรบ้าง  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบนดาวนั้นเหมาะสมที่จะใช้สร้างเป็นดาวอาณานิคมจริงๆ หรือเปล่า   ดังนั้นด้วยเหตุผลทั้งปวงข้าจึงคิดจะเสียสละตนเองลงไปสำรวจดาวโลก

     

    อะไรนะ!!”   ขนาดพระราชาแทบไม่เชื่อหูองค์เอง อย่าว่าแต่เหล่าคณะสภาสูงที่พากันแปลกใจ  ร้อยวันพันปีองค์ชายใหญ่ไม่เคยพูดจาชวนฟัง ดูมีหลักการเท่านี้มาก่อน ประกอบกับท่าทางเหม่อลอย ใจลอยที่ใครเห็นบ่อยครั้งจนชินตายิ่งทำให้ไม่คิดว่าจะกลายเป็นองค์ชายที่กล้าหาญชาญชัยขึ้นมาได้

     

    ตามที่กระหม่อมรู้มาทุกครั้งทีมสำรวจมักจะปรากฏกายให้ชาวโลกเห็นซึ่งๆ หน้า   ไม่ได้เป็นไปในลักษณะสอดแนมหรือซุกซ่อนกาย การกระทำเช่นนี้แม้จะเปิดเผยองอาจ แต่โง่ไปหน่อย    องค์ชายใหญ่กล่าวโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าปุเลี่ยนๆ ของคณะในสภาสูงหลายคนที่บรรพบุรุษถูกส่งไปเสียค่าโง่บนโลก 

     

    ชายหนุ่มในร่างมนุษย์กล่าวต่อ   แน่นอนว่าเป็นใครก็ต้องระแวงสงสัยเป็นธรรมดา  อย่าว่าแต่เขาเลย กระทั่งกระหม่อมหัดแปลงร่างเป็นมนุษย์ชาวโลกยังถูกจับมัดเสียแน่นหนา   เช่นนี้กระหม่อมจึงมีความเห็นว่าควรส่งตัวแทนไปสอดส่องดาวโลกเป็นการลับ  นำข้อมูลที่ได้ส่งกลับมาประกอบการวินิจฉัยก่อนจะทำการตัดสินใจเลือกว่าดาวดวงนั้นเหมาะสมแก่การสร้างเป็นอาณานิคมหรือไม่

     

    เหตุผลขององค์ชายใหญ่ที่กล่าวมาทำให้เกิดเสียงปรึกษากันเบาๆ จากนั้นเสียงสนับสนุนก็ตามมา   แม้แต่องค์ราชาก็เห็นชอบด้วย  เพียงแต่กังวลในความปลอดภัยของบุตรชาย

     

    แม้จะเป็นเจ้าวายร้ายที่ชอบสร้างเรื่องปวดหัวให้พระองค์  แต่องค์ชายใหญ่ก็ยังเป็นบุตรที่พระองค์ให้ความรักใคร่ไม่ต่างจากบุตรธิดาองค์อื่น  การที่เขาอาสาไปดาวโลกเองเพราะมีความมั่นใจในการแปลงร่าง  และยืนยันเสียงแข็งว่าตนเองได้ศึกษาพื้นฐานการดำรงชีวิตบนโลกมาบ้างแล้วก็ตาม  แต่จะปล่อยให้ไปคนเดียวคงไม่ดีแน่

     

    เจ้าพาพีจี ไปด้วยก็แล้วกัน   องค์ราชาหมายถึงผู้ติดตามที่จะไปยังดาวโลกพร้อมองค์ชายใหญ่  ซึ่งบุคคลที่เอ่ยมีตำแหน่งเป็นราชองครักษ์ที่มีพลังฝีมือดีเยี่ยม

     

    เป็นองครักษ์อื่นไม่ได้หรือพะยะค่ะ  องค์ชายใหญ่ค้าน  รู้ดีว่าพีจีนั้นมีฝีมือดีที่สุดในรุ่นเดียวกัน  แถมอายุก็ไม่ห่างจากตนนัก  แต่องครักษ์คนนี้ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน 

     

    ไม่เลือกพีจีก็ได้  แต่ข้าจะให้ทหารองครักษ์ติดตามไปด้วยร้อยนาย ไม่สิ  ร้อยห้าสิบนายจะดีกว่า    องค์ราชายิ้มกริ่มเมื่อเห็นสีหน้าเจื่อนสนิทของบุตรชาย  นานๆ ทีมีหนที่พระองค์จะทำให้เจ้าวายร้ายจนมุมได้

     

    เช่นนั้นพีจีก็ได้พะยะค่ะ   องค์ชายใหญ่กัดฟันเลือก  เอาเถอะไปคนเดียวอย่างน้อยก็คุมง่ายกว่าตามไปเป็นร้อย   โอกาสที่เขาจะหาทางปลีกตัวจากองครักษ์ชื่อพีจี ไปทำเรื่องที่อยากจะทำ และพบคนๆ หนึ่งที่อยากพบมานานคงไม่ยากจนเกินไป

     

    เมื่อที่ประชุมมีข้อยุติ การอนุมัติเดินทางไปยังดาวโลกขององค์ชายใหญ่ และองครักษ์ยอดฝีมืออีกหนึ่งนายจึงผ่านฉลุ่ย 

     

    หลังผ่านการอบรม ฝากฝังและสั่งเสียเรื่องราวต่างๆ นานเป็นอาทิตย์  ก็ถึงวันเดินทาง 

     

    ดาวโลกเอ๋ย  รอก่อนนะ  องค์ชายใหญ่แห่งดาวเอ็นเอ็น-ร้อยห้าสิบจุดห้า  มองไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ก่อนออกเดินทาง 

     

    แม้จะกล่าวประกาศออกมาเช่นนั้น แต่ในใจกลับกระซิบว่า  น้องลูกพรุนรอก่อนนะ พี่ปลาหมึกกำลังจะไปหาแล้ว

     

     

     

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×