ผู้กล้ากับจอมมาร - ผู้กล้ากับจอมมาร นิยาย ผู้กล้ากับจอมมาร : Dek-D.com - Writer

    ผู้กล้ากับจอมมาร

    พบกับอีกด้านหนึ่งของตำนาน ผู้กล้า กับ จอมมาร

    ผู้เข้าชมรวม

    3,094

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    3.09K

    ความคิดเห็น


    43

    คนติดตาม


    9
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ย. 49 / 13:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้กล้า กับ จอมมาร

      ณ ยอดเขาสูงเสียดฟ้า  การต่อสู้อันเร้าร้อนระหว่าง ผู้กล้า กับจอมมาร กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดถึงขีดสุด

      ผู้กล้าที่พกพาดาบคู่มือฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ ผจญกับเหล่ามารและขวากหนามที่จอมมารสร้างขึ้นจนในที่สุดก็ถึง คราแตกหัก ขั้นสุดท้าย การปะทะกันตัวต่อตัว

      จอมมารผู้ปกครองอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ภายใต้เกราะสีดำทมึน และหน้ากากเหล็กดำที่สามารถเห็นเพียงดวงตาสีแดงกล่ำ และความคิดหาหนทางกำจัดผู้กล้า ที่บัดนี้อยู่ตรงหน้าฟาดฟันดาบต่อสู้อย่างกล้าหาญ

      ผู้คนด้านล่างมิอาจเห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่นี้ มีบ้างบางคนคิดชมดู จึงปีนป่ายขึ้นเขา มีบ้างคิดไปช่วยเหลือ แต่กระนั้นก่อนที่จะไปถึงการต่อสู้ก็มีผลยุติลง

      ร่างๆ หนึ่งนอนทอดยาวกับพื้นหายใจรวยริน มีโลหิตหลั่งไหล ดาบเหล็กคู่มือยังอยู่ข้างกาย แต่บัดนี้เจ้าของมิอาจใช้ได้อีก

      ร่างในเกราะดำทมึนยังยืนหยัดอยู่ แต่ ความคิดฆ่าฟันของมันกลับไม่มีหลงเหลือ ดวงตาสีแดงภายใต้หน้ากากเหล็กดำ ดูไปช่างอ้างว้าง เศร้าสร้อย แม้แต่ตัวมันเองยังแปลกใจ มันก้มลงช้อนประคองร่างผู้กล้าขึ้น

      "เจ้า...เหตุใด.?."

      มันที่จริงคิดถามไถ่ การลงมือครั้งสุดท้ายชั่วเสี้ยววินาทีนั้น ผู้กล้าหยุดมือกลางคัน คล้ายลังเล คล้ายมีความในใจ

      ทั้งที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ แต่มันยังไม่ทันได้ถามก็ต้องแปลกใจอีก เพราะดวงตาคู่นั้น ดวงตาของผู้กล้าที่จับจ้องมองมันอยู่ มิได้มีความแค้น อาฆาต ไม่ได้ฉายแววแห่งความเป็นศัตรู แต่ฉายแววแห่งมิตร ราวกับจ้องมองดูสหายร่วมตาย ริมฝีปากขาวซีดคลี่ยิ้มก่อนเอ่ยคำแผ่วล้า

      "ข้า..ข้าคิดในตอนนั้น..หากว่าดาบนี้ฟาดฟันลง ผลจะเป็นเช่นไร เป็นท่านหรือข้า หากเป็นข้า..หากข้าเป็นผู้ มีชัย ข้าจักเหลือสิ่งใด หากข้าไร้คู่มือเช่นท่าน คงว้าเหว่นัก ชีวิตยังมีสิ่งใดเหลืออยู่บ้าง..ข้าคิดแล้วก็ตัดใจไม่ได้ ศัตรูไยมิต่างจากสหายผู้รู้ใจ"

      ดวงตาแดงก่ำของจอมมารเป็นประกาย แต่เพียงวูบเดียว เพราะตอนนี้มันสูญเสียศัตรูสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของมันไป

      ใช่ เหตุใด ศัตรูมิได้ต่างจากสหาย การศึกที่ต้องศึกษาศัตรูอยู่ตลอดเวลา

      บางครั้งท่านอาจจะรู้จักศัตรูของท่านได้ดีกว่าสหายของท่านเอง หรือแม้แต่ตัวท่านเอง ในโลกนี้มีผู้ใดรู้ใจท่าน เหมือนกับศัตรูของท่าน แล้วเช่นนั้นศัตรูจะแตกต่างอันใดกับสหาย

      "ข้าจะไปก่อน ... รอท่านอยู่เบื้องหน้า"

      นี่เป็นคำพูดสุดท้ายของผู้กล้า

      จอมมารหัวเราะแล้ว เสียงหัวเราะของมันโหยหวนยิ่งนัก โหยหวนกว่าเสียงร่ำไห้

      มันชนะหรือ ?

      มันได้สิ่งใดมา ?

      มันสูญเสียสิ่งใด ?

      ที่จริงมันชนะหรือพ่ายแพ้ ?

      ภายใต้หน้ากากเหล็กดำ ที่มันปลดลงมามิใช้รอยยิ้มแต่เป็นน้ำตา น้ำตาสีเดียวกับดวงตาของมัน

      "ท่านพ่อ"

      เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นปลุกมันจากภวังค์ พร้อมกับร่างเล็กๆ ของเด็กน้อยวิ่งเข้ามาโอบกอดร่างผู้กล้าที่เย็นเฉียบ

      เด็กน้อยบุตรของผู้กล้า กอดศพผู้เป็นพ่อร่ำไห้ ครั้นแล้วดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตาก็ช้อนขึ้นมา ดวงตาคู่นั้นจับจ้องจอมมาร

      จอมมารจำดวงตาคู่นี้ได้และมันจะจดจำไว้ รอคอย มันกลับไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แตกต่างจากเมื่อครู่ เพราะมันรู้แล้วว่ามันมีศัตรูคนใหม่แล้ว เด็กน้อยนี้จะต้องเติบโตเป็นผู้กล้า และล้างแค้นให้กับพ่อของมัน มันจะรอคอย หวังว่าคงไม่นานนัก เพราะที่ๆ นั้นมีใครบางคนรอมันอยู่

      "รอก่อนนะแล้วข้าจะตามไป"

      เสียงกระซิบแผ่วเบาของจอมมารที่ไม่มีใครได้ยิน.

      .........................................
      ...................................................................

      กาลเวลาผ่านไป เปลี่ยนแปลงจากเด็กน้อยให้เติบใหญ่กลายเป็นผู้กล้าคนใหม่ คนเปลี่ยนสถานที่ยังไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นยอดเขาสูงเสียดฟ้า

      "ข้ารอเจ้าอยู่"

      จอมมารกล่าวขึ้นหลังจากเห็นผู้กล้าหาญหนุ่ม ใช่มันรอมานานหลายปี กาลเวลาบ่มเพาะเด็กน้อยให้กล้าหาญ บุกบั่นฟันฝ่าจนมาถึงที่นี่

      ผู้กล้าหนุ่มเดินตรงเข้ามาอย่างผึ่งผาย เผชิญหน้ากับศัตรูอย่างไม่สะทกสะท้อน ผู้กล้าหนุ่มทิ้งดาบเหล็กในมือลงกับพื้น ท่ามกลางความแปลกใจของจอมมาร

      "ข้ามาแล้วบัดนี้ ท่านว่าข้าคู่ควรเป็นผู้กล้าหรือไม่ ? ..."

      จอมมารยอมรับอย่างแปลกใจในการกระทำและคำถามของผู้กล้า

      "ข้าเป็นศัตรูท่าน บัดนี้ข้าคู่ควรเป็นสหายของท่านหรือยัง"

      จอมมารไม่ได้ตอบแต่ดวงตาสีแดงก่ำคู่เดิมเปลี่ยนแปลงไป มันฉายแววแห่งความยินดี ฉายแววตาแห่งรอยยิ้ม

      ที่จริงผู้กล้าหนุ่มจำวัยเด็กได้ดี ยังจำได้ถึงบทสนทนาก่อนตายของผู้เป็นพ่อ เด็กน้อยครานั้นยังไม่รู้ความ ยังโกรธ ยังเสียใจ บัดนี้เขาเติบโตแล้ว รู้ความแล้ว และเป็นเช่นพ่อของเขา

      เช่นเดียวกับกาลเวลาที่ผ่านไปผู้คนมิทราบว่าผลการต่อสู้ของผู้กล้าและจอมมารเป็นเช่นไร

      พวกเขาเพียงแต่พบเห็นบนยอดเขาสูงเสียดฟ้าไร้ผู้คน มีเพียงดาบของผู้กล้า และหน้ากากเหล็กดำของจอมมารหลงเหลืออยู่....................

      บนถนนเส้นทางที่ทอดยาวมีสหายสองคนเดินเคียงข้างกัน......สหายผู้รู้ใจ.....

      (เพราะ..ในโลกนี้อาจมีมิตรที่แท้จริง......แต่..ไม่มีศัตรูตลอดกาล )

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×