ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TaeKang : ที่นี่คือรัก (เต้กั้ง)

    ลำดับตอนที่ #3 : ที่นี่3

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 58





    .
    .

    ["ฮัลโหลๆ น้องกั้ง โหยยย นี่อาโทรหาตั้งไม่รู้กี่ครั้งติดต่อเราไม่ได้เลยทางบ้านเป็นห่วงมากรู้มั้ย"]

    "กั้งไม่เป็นไรฮะอากิ่ง ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยครับ"

    ["อาเห็นข่าวแล้วตกใจเห็นว่ามีดินถล่มน้ำหลากด้วย ถ้าไงรับสายพ่อกับแม่เราด้วยล่ะ เดี๋ยวพอลงเครื่องที่บราซิลแล้วคงจะโทรหาล่ะนะ แม่เราน่ะแทบจะยกเลิกกำหนดเลย"]


    "ขอโทษฮะ เอ่อ พอดีกั้งไม่สบาย ...."

    ["อร๊ายยย... ห๊ะ น้องกั้งไม่สบาย! ไหนเป็นอะไร ยังไง ทำไมอีตาเกรทไม่รู้จักดูแลหลานอา อย่างงี้ต้องต่อว่า..."]


    ผมต้องดึงโทรศัพท์ออกเพราะแกวี๊ดใส่หูผม ก็ถึงไม่อยากบอกอะไรมาก...
    .
    .
    ผม กั้ง วรกร จบวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาหมาดๆ อยากมาหาประสบการณ์ตรงกับคณะสำรวจพืชต้นน้ำกับทีมรุ่นพี่ที่ AIT ตอนนี้เลยมาอยู่ที่อำเภอเชียงของติดชายแดนลาวที่ยังมีป่าสมบูรณ์มากๆ นั่นเป็นเหตุผลแรก...

    "กั้งหายแล้วครับอากิ่ง พี่เกรทกับคนที่อุทยานดูแลกั้งดีมากๆไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ไว้เดี๋ยวกั้งจะบอกคุณพ่อคุณแม่อีกทีจะได้สบายใจ" 

    ["เฮ้อ ก็โล่งอก แต่น้องกั้งอย่าหักโหมนะ เราน่ะไม่ได้ถูกเลี้ยงมาสมบุกสมบัน ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านพวกสาวๆที่ออฟฟิศก็ถามอาทู๊กวัน "]

    "กั้งต้องทำงานให้จบสิครับ จะได้สมกับที่เป็นหลานอากิ่งสุดสวยคนเก่ง"

    ["จ้า เข้าใจยอคนนะเรา ไม่รู้ล่ะ ถ้าหายไปหรือไม่สบายอีกอาจะเอาเรื่องหัวหน้าเธอ"]

    "ครับๆ กั้งจะส่งไลน์ตลอดๆ ถ้ามีสัญญาณนะครับ โอเคมั้ย "

    ["โอเคคับ งั้นพักผ่อนนะ ฝันดีจ๊ะหลานกั้ง จุ๊บๆ"]

    "ครับ ฝันดีฮะอากิ่ง"


    .
    .
    .


    ผมส่ายหน้ายิ้มๆ วางสายจากอากิ่งน้องสาวแท้ๆของคุณพ่อ รับหน้าที่ดูแลทั้งธุรกิจและตัวผมเวลาคุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่เมืองไทย 

    ธุรกิจบ้านผมเป็นบริษัทมหาชนที่พัฒนาพลังแสงอาทิตย์มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม และมีนโยบายปกป้องสิ่งแวดล้อม ผมจึงเรียนมาทางด้านนี้


    "กั้ง คุยกับใครล่ะยังไม่นอนอีก"

    "อ๋อ อากิ่งน่ะครับแกเป็นห่วง"

    "นั่นน่ะสิ โทรหาพี่ตั้งหลายรอบขี้เกียจรับสายกลัวโดนบ่น ฮ่ะๆ"

    "อิๆ ครับๆ กั้งเคลียร์ไปแล้ว ข้างนอกเป็นไงบ้างครับ"

    "พี่คุยกับเต้เขาน่ะ พรุ่งนี้ชาวบ้านขอให้พวกเราไปช่วยให้ความรู้เรื่องการปลูกพืชคลุมดินและการกักน้ำ จะได้ชะลอการหลากเวลาฝนตกหนักๆ "

    "กั้งไปด้วยนะครับ"

    "ได้สิ พี่ก็กำลังจะมาบอกกั้งให้เตรียมตัว "

    "ครับ ดีจัง ... เอ้อ พี่เกรทสนิทกับพี่เต้มากหรอครับ"

    "ใช่ เมื่อก่อนเคยทำสำรวจด้วยกัน เต้มันจบมาทางเรื่องดิน ไปกันมาทุกภูเขาเลยเชียวล่ะ"

    "อ๋อ ครับ แล้วทำไมพี่เขาถึงมาหยุดอยู่ที่นี่ล่ะครับ"

    "อืมม์ ก็มีปัญหาส่วนตัว อันนี้พี่ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวเป็นยังไงแต่ตอนที่เราสำรวจที่เมืองกาญจน์จู่ๆมันก็ขอลาออกบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องไปตามน้องชายที่เชียงของนี่แหละ " ชายหนุ่มมีสีหน้าเศร้าลง

    "น้องชายพี่เต้!"

    "อือ เขาหายไปเมื่อสี่ปีที่แล้วจนป่านนี้ยังไม่เจอ เต้เสียใจมากและไม่ยอมรับสรุปของตำรวจว่าเขาคงไม่รอดเลยมาเฝ้าอยู่ที่นี่และได้มาเป็นหัวหน้าอุทยาน" 

    "น่าสงสารจังครับ"

    "อืมม์ ตอนหายไปอายุแค่สิบกว่าขวบเอง"

    ผมรู้สึกเศร้าตามไปด้วย มิน่าล่ะพี่เต้ถึงได้ดูไม่ร่าเริงเหมือนมีความทุกข์ลึกๆตลอดเวลา

    "แล้วพี่เกรทคิดว่าเขายังอยู่มั้ยครับ"

    "พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่เต้มันไม่ยอมแพ้เราก็ต้องให้กำลังใจมันล่ะนะ"

    พี่เกรทเดินมากอดคอผมพามานั่งที่โซฟา

    "ว่าแต่ กั้งมาทำงานที่นี่แล้วเป็นไง ชอบมั้ย เหนื่อยมั้ย"

    "ชอบครับ ไม่เหนื่อยเลย แต่กั้งไม่ค่อยคุ้นเคยกับสภาพอากาศอาจมีป่วยบ้าง"

    "อือ ถ้าไม่ไหวต้องบอกนะอย่าฝืน พี่ไม่อยากให้เราเป็นอะไร .... เพราะว่าพี่.."

    ดวงตาอ่อนโยนที่มองมาทำให้รู้สึกอบอุ่น 

    "...... "

    "เอ่อ ... ก็ ไม่อยากให้ยัยกิ่งมาบ่นเอาไง เหอๆ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ กั้งนอนซะ "

    จู่ๆพี่เกรทก็ผุดลุกขึ้นเดินไปทำเอาผมงง นี่แกกลัวอากิ่งของผมขนาดนั้นเลยเหรอ

    "ครับพี่เกรท"

    ผมรับคำมองตามแกที่คว้าผ้าขาวม้าพาดบ่าเดินออกไปจากห้อง ผมจึงได้ล้มตัวลงนอนสมองยังคิดถึงเรื่องราวที่ได้รับฟัง

    "พี่เต้... คงเสียใจน่าดู"

    ตึ๊ดๆๆ


    ผมกำลังเข้าภวังค์ก็ต้องรีบคว้าโทรศัพท์สายเรียกเข้าจากต่างประเทศ

    "ครับคุณพ่อ กั้งสบายดีฮะไม่ต้องห่วง ได้ครับพรุ่งนี้จะลองสอบถามพวกชาวบ้านดูอีกทีอาจจะพอได้เรื่องอะไรบ้าง .... ฝากความคิดถึงถึงคุณแม่ด้วยนะครับ รักนะครับ"

    ผมรับสายสั้นๆจากคุณพ่อที่งานประชุมสิ่งแวดล้อมโลกในบราซิล 

    อันที่จริง ผมเองก็มีงานอื่นที่ต้องทำนอกเหนือจากการสำรวจทางวิทยาศาสตร์

    แต่ตอนนี้ง่วงจุง ขอนอนก่อนดีกว่า

    .
    .
    .



    ................................................................

    เช้าวันใหม่


    ยามสายๆ คณะวิจัยและเจ้าหน้าที่อุทยานกำลังให้ความรู้ชาวบ้านเกี่ยวกับการเกิดของภัยธรรมชาติและการป้องกันด้วยวิธีธรรมชาติ

    "พี่ใหญ่ พวกเราทำได้ด้วยตัวเองได้จริงๆหรอ"

    พวกชาวบ้านเรียกผมว่า พี่ใหญ่ ตามสรรพนามที่น้องชายของผมเคยเรียก น้องชายที่หายสาบสูญไป และผมก็อยากให้ทุกคนเรียกแบบนี้เพื่อนเตือนตัวเอง

    "แน่นอน ถ้าเรารู้จักรักษาป่าต้นน้ำและป้องกันให้ถูกวิธี"

    "แล้วพวกนายทุนที่มันจะเข้ามา เราจะป้องกันมันได้ด้วยหรือเปล่าพี่ใหญ่"

    "เรื่องนั้นปล่อยเป็นหน้าที่ของพี่เอง พวกนายไม่ต้องเป็นห่วง"

    ผมวางแผนกับท่านนายพลพ่อของโตโน่ไว้แล้ว รับรองว่าพวกมันไม่ได้ทำตามอำเภอใจง่ายๆ

    "เอาล่ะ ตอนนี้กลุ่มแรกตามพี่เกรท เอก หญิงไปดูเรื่องน้ำ ส่วนกลุ่มสองพี่กับกั้งจะพาไปดูเรื่องดินกับพืช แล้วเรากลับมาเจอกันที่นี่" 

    พวกเราแยกย้ายกันพาชาวบ้านไปดูวิธีดูแลทรัพยากรต่างๆ พี่เกรทพาไปดูการบำบัดน้ำ กักน้ำที่บ่อจำลอง ส่วนผมกับกั้งไปที่แปลงพืชต้นน้ำ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มคนนี้บรรยายได้คล่องแคล่วด้วยภาษาง่ายๆ ฟังเพลินดีทีเดียว

    "..... ส่วนสุดท้ายคือหลังจาก 60 วันเจ้าต้นธูปจีนก็จะจัดการกับของเสียที่มันดูดไว้จนหมด พอมันเริ่มแก่เราก็ต้องตัดมันเอาไปทำเครื่องจักรสานได้นะครับ ... ถึงตรงนี้พี่ๆมีอะไรสงสัยถามกั้งได้นะฮะ"

    "เอ่อ พี่อยากรู้จังค่ะ ว่าน้องกั้งกินอะไรถึงได้รูปหล่อขนาดนี้จะได้ไปบอกคนที่บ้านมั่ง อุๆ" บรรดาสาวและไม่สาวทั้งหลายพากันหัวเราะลั่น นั่นแหละตอนนี้พวกเธอเทใจให้หนุ่มน้อยไปจนหมด ไม่รู้ว่าฟังรู้เรื่องกันบ้างมั้ย

    ">/////////<"

    "หึๆไม่ทันแล้วล่ะเจ๊"

    "แกก็ลองปลูกธูปจีนให้เยอะๆเผื่อจะช่วยได้ ฮ่ะๆ"

    "แต่มันแก่เร็วกว่าต้นธูปอีกนะคนที่บ้านเจ๊เนี่ย ชาติหน้าโน่นกว่าจะได้อย่างน้องกั้ง อิๆ"

    ทุกคนเลยกลายเป็นหยอกล้อกั้งกันสนุก หนุ่มน้อยก็อายหน้าแดงม้วนไปมา ผมเอามือล้วงกระเป๋ายิ้มให้กับบรรยากาศเป็นกันเอง ความจริงเรื่องความรู้ไม่จำเป็นเท่าความร่วมมือ ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์หนุ่มได้ใจไปเต็มๆโดยไม่ต้องออกแรง

    .
    .
    "เป็นไง ร้อนมั้ยกั้ง"

    "ไม่เลยครับ"

    "แต่กั้งเหงื่อเยอะมาก ไปล้างหน้าล้างตาซะแล้วมากินข้าวกัน"

    ผมเดินไปตบบ่าเขาเมื่อเรามาถึงจุดนัดพบ

    "ครับพี่เต้ เอ่อ พี่ใหญ่"


    .
    .

    ผมนิ่งไป ทำไมใครๆเรียกผมแบบนี้ผมก็เฉยๆ แต่พอเป็นเขา...


    "กั้งเห็นคนอื่นเรียกพี่เต้แบบนี้ฮะ ก็เลย...แต่ถ้าพี่เต้ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะครับ"

    "พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะกั้ง ตามใจเถอะ พี่ใหญ่ก็ดีเหมือนกัน" ผมยิ้มให้เขาที่มองมาแบบรู้สึกผิด

    "ครับพี่ใหญ่ งั้นเดี๋ยวกั้งมานะขอไปล้างตัวแป๊ป หิวจุง.."

    หนุ่มคนนี้เปลี่ยนโหมดได้รวดเร็ว เขาวิ่งปรื๋อไปโบกมือไป 


    พี่ใหญ่ ...

    คำนี้จากปากเขาทำให้ผมรู้สึกดี

    คงเป็นเพราะเขารุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของผม


    นั่นสินะ


    ..................................................





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×