ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : News5
คฤหาสน์ใหญ่ มีการคุ้มกันแน่นหนา
ชายหนุ่มร่างสมส่วนในชุดดำรีบหลบไปข้างพุ่มไม้เมื่อรถเบนซ์สีดำมืดสนิททั้งคันเลี้ยวเข้ามา ในมือเขายกกล้องขึ้นซูมเข้าไปข้างในกดชัทเตอร์รัวๆ พลันด้านหลังมีมือหนามาตบบ่าเขา ชายหนุ่มตกใจจะร้องขึ้น อีกมือหนึ่งก็มาปิดปากเขาไว้
"คุณกั้ง นี่พี่ตั้มเองครับ จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป"
"ห๊ะ พี่ตั้ม ... พี่ตั้มมาได้ไงฮะ"
"คุณเต้เขาไม่ไว้ใจคุณกั้งน่ะสิ เลยให้พี่ตามดูว่าดื้อมาหรือเปล่า แล้วไม่ไปประชุมอย่างนี้ไม่กลัวโดนดุหรอครับ"
"ก็กลัวฮะ ...แต่กั้งอยากรู้นี่ว่าเขาจะตกลงซื้อขายกันมั้ยแล้วจะนัดลำเลียงไม้เถื่อนพวกนั้นเมื่อไหร่ มันมองไม่ค่อยเห็นเลยอ่ะฮะ กั้งว่า กั้งเข้าไปดูเลยดีกว่านะไหนๆเขาก็นัดกั้งด้วยแล้วนี่ "
"เฮ้ย คุณกั้งครับ อันตรายนะครับเนี่ย รอเดี๋ยวก่อนนะ เอ้านั่นไงหมวดดิวมาแล้ว"
ชายหนุ่มหันไปหาตำรวจนอกเครื่องแบบที่ชื่อดิว พากำลังมาล้อมคฤหาสน์นี้ไว้ กับช่างกล้องของสถานีคนหนึ่งที่เขาเคยพบ
"นี่ละซินะ คุณวรกรของเจ้าธีระมันเนี่ย เฮ้อ กล้าจริงๆนะหนุ่มน้อย"
ชายหนุ่มยกมือไหว้เขา แล้วทำตาเป็นประกาย
"หวัดดีฮะ เรียกกั้งก็ได้ครับ ...ผู้หมวดให้ผมเข้าไปเถอะนะฮะ เมื่อวาน เอ่อ คุณเต้ ให้ผมไปแนะนำตัวกับพวกเขาแล้ว เขานัดให้ผมมาด้วยนะ เขาว่าอยากได้ล่ามญี่ปุ่นพอดี นะๆๆ ไม่มีอันตรายอะไรหรอกครับ พอรู้วันนัดหมายกับสถานที่ ก็จะรีบออกมานะครับ "
"น้องกั้งครับ นั่นมันหน้าที่ตำรวจไม่ใช่นักข่าวถ้าน้องกั้งอยากทำอย่างนั้นแนะนำให้ลาออกมาเป็นสายสืบนะ พี่จะรับเข้ากรมทันทีเลย ... "
"โห มามุมเดียวกันเลยแฮะ" เด็กหนุ่มบ่น หมวดดิวยิ้มเอามือไปเคาะหัวเขา พลางคุยกับสายสืบในหูฟัง
"อ้าว ทำไมล่ะ ซวยล่ะ รีบออกมาเลยเดี๋ยวไก่ตื่นหมด"ผู้หมวดทำหน้าเครียด
"มีอะไรฮะหมวด " ชายหนุ่มถามขึ้น
"พวกมันไหวตัวทัน สายสืบเลยต้องล่าถอยออกมาน่ะครับ เอาไงดี คิดๆๆ ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็เอาผิดยาก "
เด็กหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆให้เขา พลางชี้มาที่ตัวเองทำมือ โอเค?
...................................................................................................
แปดโมงเช้าในห้องประชุมทีมข่าวหลัก ทุกคนมาประชุมพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดก็แต่เจ้าเด็กแว่นจอมดื้อ ที่ผมก็รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน
"เอาหล่ะ ทุกกลุ่มมากันพร้อมเพรียงแล้ว ยกเว้นกลุ่มของพวกคุณสินะ เขาหายไปไหน"
"เอ่อ คือว่าเขาออกมาตั้งแต่เช้าเลยครับ แต่ว่า....." หนุ่มอาเมนตะกุกตะกัก
"แต่อะไรครับ ...ถ้าพวกคุณมากันไม่พร้อมเนี่ย ผมจะต้องมีบทลงโทษยกกลุ่มนะ "
" ผม .... มาแล้ว ครับ " ชายหนุ่มร่างสูงกระหืดกระหอบวิ่งมายังห้องประชุม เหงื่อโทรมกายเดินเลี่ยงๆมานั่งลงข้างๆอาเมน
"เรานัดกันกี่โมงคุณวรกร " ผมยกนาฬิกาขึ้นชี้ให้เขาดู
"เอ้อผมก็มาแล้วนะแต่ โอ๊ยยย ...พอดีผมท้องเสียฮะ อูย ยังเพลียอยู่เลยเนี่ย หรือว่าที่นี่มีกฎห้ามนักข่าวท้องเสียครับ " เขากระพริบตาปริบๆทำหน้าป่วยๆมองผมอ้อนๆ
"วรกร นายนี่มัน .... เฮ้อ เอาล่ะมาเริ่มประชุมได้" ผมนั่งลงพร้อมทีมข่าวเริ่มให้ทุกกลุ่มรายงานการหาประเด็นข่าวสำหรับเย็นวันนี้
"เมื่อคืนนี้มีการขู่ยกพวกตีกันของสองสถาบันครับ "
"มันเฝือไปล่ะครับ ยิ่งเราไปออกข่าวมากๆพวกวัยรุ่นจะยิ่งได้ใจ มีข่าวอื่นไหม" ผมค้าน
"พวกเราตามข่าวแม่ป่วย ลูกสาวต้องดูแลแล้วเลยต้องไปขายยาเสพติดค่ะ "
" เอ้อ เดี๋ยวนะ ข่าวนี้เอาไปคุยกับฝั่งข่าวสังคมนะครับ เอ้อ น้องๆทั้งกลุ่มเลยไปหาพี่กวางนะครับ ตรงนี้เรามาหาข่าวหลักกันต่อ " กลุ่มน้องสาวๆก็สวยๆดีแต่ข่าวหน่อมแน้มไปมั้ย ผมต้องการอะไรที่มันท้าทาย ยิ่งช่อง Newstimeคู่แข่งกำลังมาแรงอยู่ด้วย
"พวกเราทำข่าวรถดับเพลิงชนกับรถประปาเมื่อคืนนี้ครับ คือ ..."
"ห๊ะ พวกคุณล้อผมเล่นหรือเปล่าเนี่ย นักข่าวเราทำกันได้แค่นี่หรอ น้องๆกลุ่มนี้กับกลุ่มแรก ตามพี่สนไปดูการทำงานของนักข่าวใหม่นะครับ ... กลุ่มสุดท้าย มีอะไรมาเสนอบ้าง" ผมหันไปหากลุ่มเด็กดื้อ เป็นหนุ่มอาเมนพูดขึ้น ...
"พวกเรามีสองข่าวครับผม เรื่องแฮกเกอร์ กับเรื่องโรคระบาด เรื่องแรกมีข่าวมาว่าวันนี้แฮกเกอร์จะแฮ๊กสถานีข่าวทั้งหมดของไทยครับ อีกยี่สิบนาทีนี้แหละครับ ผมแนะนำให้ปิดช่องทางเน็ตให้หมดก่อนครับ"
"ห๊ะ พี่ตูมตาม เชื่อถือได้ไหมครับ " ผมฟังเด็กหนุ่มชื่ออาเมนอธิบายอย่างขึงขังเลยต้องไปถามฝ่ายไอที
"ได้ว่ะเต้ สำนักงานไอซีทีก็บอกมาตรงกัน แต่เขาบอกว่าอีกชั่วโมง น่ะ "
"ยี่สิบนาทีนี้แน่นอนครับผม ปิดเมนเฟรมเลยครับ " เขายังยืนยันหนักแน่น ผมหันไปมองวรกร
"ถ้าเป็นผมจะเชื่อเขาฮะ อาเมนไม่เคยพลาดเรื่องไอทีครับ เพราะว่า เอ่อ คุณพ่อเขาเป็น CIA อ่ะนะฮะ " เด็กหนุ่มหน้าใสเอามือเท้าคางพูดไปเรื่อยๆ ว่าแล้วเชียวว่าผมคุ้นๆนามสกุลเขาที่ไหน
" เอ้าพี่รออะไรครับ ดำเนินการ แล้วทำสกู๊ปข่าวด่วนด้วย อาเมนคุณไปช่วยพี่ตูมตามเลยครับ " หนุ่มอาเมนยิ้มดีใจหันไปหาวรกรแล้วหอบโน๊ตบุ๊ควิ่งออกไปกับเพื่อนอีกคน
" เฮ้อ แล้วอีกเรื่องล่ะ " ผมหันไปหาวรกร เขาชี้สาวน้อยใส่แว่นข้างๆที่ยกมือขึ้นอย่างกลัวๆ
"บิวตามเรื่องโรคระบาดจากอเมริกากำลังเข้าเอเชียค่ะ เกาหลีใต้ประกาศงดนำเข้าไก่แล้วแต่ของเรายังรออยู่เลย หนูเลยโทรไปหากรมควบคุมโรค เขาเพิ่งประชุมเสร็จเมื่อกี้นี้ก็เลยจะให้เราช่วยประกาศให้ค่ะ " ยัยหนูบิวทำหน้าเกรงๆหลบหลังวรกร
"ดีมากครับ งั้นน้องบิวช่วยไปกับพี่โดมเลยนะครับเราจะเอาเข้าข่าวสิบโมงนี้พร้อมกับเรื่องไวรัสของอาเมน " ผมสั่งเสร็จหญิงสาวสองคนก็ลุกออกไป
.
.
.
ผมนั่งถอนหายใจ พลางนึกได้ว่า งั้น ในห้องนี้มีแค่ผมกับเด็กวรกรสองคนสินะ
แต่...ทำไมเงียบจัง
เขานั่งฟุบลงไปกับโต๊ะ !!!
"วรกร คุณวรกร ตกลงคุณจะมานอนต่อที่นี่หรือไง .... คุณ ห๊ะ "
ผมเดินไปหาเขย่าหัวไหล่เขา พลันมือผมติดเลือดสีแดงสดจากตัวเขา
"วรกร วรกร...ว.. น้องกั้ง น้องกั้ง ใครอยู่ข้างนอก ไปตามหมอมาให้หน่อย มีคนป่วย "
ผมสำรวจดูแผลเขา น่าจะเป็นการถูกยิง! ผมช้อนตัวชายหนุ่มอุ้มเขาแล้วรีบเดินพาลงไปที่ห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว ทีมข่าวด้านนอกโกลาหลตกใจกับสภาพชายหนุ่มที่ตอนนี้หมดสติ เลือดของเขาท่วมเสื้อเชิ๊ตสีขาวของผม
"พี่ตั้ม เอารถออกด่วนผมจะพาเขาไปโรงพยาบาลเอง คุณพยาบาลไปช่วยผมห้ามเลือดเขาบนรถนะครับ เร็วๆเข้า"
ผมนั่งอยู่ในรถช่วยถอดเสื้อเขาออกจับตัวเขามานั่งพิงอกไว้ให้พยาบาลจัดการห้ามเลือดที่หัวไหล่และพันแผลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เด็กหนุ่ม
"ใจดีๆไว้นะวรกร น้องกั้ง " ผมมองเด็กหนุ่มอย่างสงสารปนโกรธที่เขาไปหาเรื่องจนเจ็บตัว
.
.
.
หน้าห้องฉุกเฉิน ผมเดินไปเดินมารอการผ่าตัดเอากระสุนออกแม้จะไม่รุนแรงเพราะไม่โดนจุดสำคัญแต่ผมก็ห่วงเขาอยู่ดี มันเป็นความผิดของผมที่ให้เขาไปช่วยงานทั้งๆที่เขายังเด็กอยู่
พี่ตั้มเล่าให้ฟังว่าเจอวรกรตอนหกโมงเช้า... พอเขาอ้อนขอเข้าไปสืบให้สักพักก็ได้ความเขาก็จะกลับออกมา แต่บังเอิญพวกมันเกิดเขม่นกันเองคว้าปืนมาไล่ยิงกัน ชายหนุ่มรีบหลบออกมาได้วิ่งมาขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ที่ผมให้พี่ตั้มขับไปคอยดูเขา พี่ตั้มรีบขับพาเขามาส่งที่สถานีโดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มโดนลูกหลง
ไฟห้องฉุกเฉินดับลงแล้ว คุณหมอเดินออกมาบอกผลว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว พยาบาลพาเขาไปยังห้องคนไข้รอพักฟื้นดูอาการสักสองสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ต้องพยาบาลให้ดีอย่าให้แผลติดเชื้อ
"ขอบคุณครับคุณหมอ ผมเข้าไปเยี่ยมเขาได้มั้ยครับ "
"ได้สิครับ ดีเลยครับคุณเต้ เพราะเขาเพ้อเรียกชื่อคุณน่ะครับ "
"เรียกชื่อผม ?"
"ครับ เขาบอกว่าพี่เต้อย่าดุกั้งนะ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ"
"อ่อ ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวไปดูเขานะครับ "
ผมทำหน้าเจื่อนๆ เดินเลี่ยงไปเข้าห้องเจ้าเด็กดื้อจอมแสบ
.
.
.
ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองใบหน้าคมคายตายังหลับอยู่ จมูกเขาโด่งเป็นสันขนาดนั้นไม่ดื้อก็แปลกแล้ว ปากบางขยับอีกละ
ผมเดินเข้าไปใกล้ เขาเรียกชื่อผม
"พี่เต้ ... พี่เต้ฮะ อย่าดุกั้งนะ/// "
"คุณวรกร วรกร... น้องกั้ง ผม เอ่อ พี่เต้อยู่นี่นะ ไม่ดุครับไม่ดุ "เฮ้อ เด็กอะไรจะมากลัวผมจนเพ้ออย่างนี้เนี่ย ผมยิ้มส่ายหน้านั่งลงข้างๆลูบผมเด็กน้อย
เขาปรือตาขึ้นมามอง ผมเอียงคอมองเขาตอบ
"ไงครับคุณน้องกั้งคนเก่ง ฟื้นแล้วหรอเป็นยังไงบ้างล่ะ" ผมยิ้มๆถามอาการเขา
"คุณ โอ๊ะ โอ๊ยยย " เขาขยับจะลุกขึ้น ผมต้องเข้าไปประคอง
"อย่าขยับซิครับน้องกั้ง เอาอะไรให้พี่เต้ทำให้นะครับ "
"พี่เต้ หรอฮะ "
"อ้าว ก็น้องกั้งเพ้อเรียกแต่พี่เต้ๆ อยากให้เป็นพี่เต้ ก็ได้ครับ แต่น้องกั้งต้องเชื่อฟังพี่เต้นะ ตอนนี้นอนก่อนครับ แผลยังไม่หายดี "
"เอ๊ะ แล้วกั้ง เป็นอะไรฮะ คุณ เอ่อ พี่เต้"
"คุณน้องกั้งครับ คุณน้องกั้งเนี่ย โดนยิงนะครับ อะไรจะไม่รู้ตัวขนาดนี้"
"ก็ กั้งรีบมานี่ฮะ กั้งกลัว คุณ เอ่อ พี่เต้ ดุเอา "
ผมส่ายหน้าเพลียๆ กับอาการกลัวเกินเหตุของเขา นี่ผมน่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนปืนอีกหรอเนี่ย
"เอาล่ะ พี่เต้ไม่ดุนะ น้องกั้งช่วยนอนลงอย่าขยับ แผลปริขึ้นมาเลือดออกล่ะโดนเย็บใหม่แน่น่ากลัวกว่านะครับ" ผมประคองเขานอนลง
"พี่เต้ครับ กั้งชอบเรียกแบบนี้นะดีกว่าคุณเยอะเลยฮะ " เด็กหนุ่มยิ้มให้ผม
"ครับคุณน้องกั้ง เฮ้อ ก็ฟังดูดื้อน้อยกว่าวรกรเยอะนะ เอ้านอนซะ เดี๋ยววันนี้พี่เต้เฝ้าให้เองนะครับเพราะน้องกั้งต้องมาเจ็บเพราะพี่ ..." ผมมองเขายิ้มตอบ
"ขอบคุณฮะ แล้วพี่เต้ไม่ไปอ่านข่าวหรอครับ "
"ฮึๆ อ่านไม่ได้ครับวันนี้ ระบบถูกปิดหมด แฮกเกอร์มันแฮกจริงๆอย่างที่อาเมนว่า กว่าจะเปิดให้เราทำงานได้อีกทีก็พรุ่งนี้ ตอนนี้เลยต้องออกอากาศแห้งไปก่อนน่ะ "
ผมลุกขึ้นมาดึงผ้าห่มคลุ่มตัวลูบผมหนุ่มน้อยเบาๆนั่งมองเขาไม่ช้าเขาก็หลับไป
ผมมองมือถือที่มี missed call จาก หมวดดิว เพื่อนซี้ผมเป็นร้อยๆ จนมันส่งเป็นข้อความมาบอกว่าจับกุมเหล่าร้ายได้แล้วอยากจะขอบคุณน้องกั้งของผม ห๊ะ ของผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
มันยังไม่รู้เล้ยว่าน้องเขาถูกยิง ผมเลยขี้เกียจบอกอะไร ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรหาละกัน
ผมจับมือเด็กน้อยขึ้นมากุมไว้ นึกถึงตอนที่ผมเป็นนักข่าวใหม่ไฟแรงก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันแต่ของผมเป็นพวกอันธพาลมันตามมารุม ผมข้อเท้าแพลงแต่ต้องซ่อนตัวไว้ทั้งคืน ทั้งหนาวทั้งกลัวต้องสะกดใจอยู่คนเดียวจนเช้ารอรุ่นพี่มาช่วย ผมคิดไปว่าถ้าพวกรุ่นพี่เอาใจใส่กว่านี้ผมคงไม่ต้องร้องไห้เพราะความกลัวขนาดนั้น ...เขาก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผมแต่ตอนนี้เขามีผมอยู่ด้วยไม่ได้อยู่ลำพังนะ น้องกั้ง
.........................................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น