ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : News3
ห้องประชุมทีมข่าวหลัก
เด็กใหม่ทั้งหมดได้เข้ามานั่งในห้องประชุมใหญ่ของทีมข่าว สถานที่ที่ใช้เพื่อการถกประเด็นข่าวในแต่ละวัน ประตูเปิดออกชายหนุ่มคนดังเดินก้าวยาวๆเข้ามานั่งยังหัวโต๊ะ รุ่นพี่ที่เป็นคนนำทัวร์นั่งลงข้างๆเขา
"คงไม่ต้องแนะนำกันมากนะครับน้องๆ นี่พี่เต้ ธีระ หัวหน้าทีมข่าวหลักของเรา..." ผมรับไหว้เด็กใหม่ทั้งหมดพลางกวาดสายตาไปหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มใส่แว่นตากลมๆเห็นเขายักคิ้วให้ผม ห๊ะ ไอ้เด็กนั่น ผมพอจะจำเขาได้ล่ะ เลยชะงักไปเล็กน้อย เสียงปรบมือดังขึ้นแปลว่าผมต้องพูดแล้วสินะ
"..ยินดีกับพวกคุณที่ผ่านด่านเข้ามาได้จนถึงวันนี้ แต่เราไม่ได้มีเวลามากนักสำหรับมือใหม่นะครับ เพราะพวกเราต้องทำงานแบบมืออาชีพ ทุ่มเทจริงจังและตื่นตัวตลอดเวลา งานข่าวคือการนำเสนอความจริงให้สาธารณะชน ถ้าใครต้องการเพื่อจะมาอยู่หน้าจอ หรืออยากมีชื่อเสียงให้ย้ายไปช่องละครนะครับ เพราะที่นี่คือช่องข่าว แต่ถ้าคุณแน่ใจแล้วเราก็จะได้มาเป็นทีมเดียวกัน...." ผมเสียสมาธิเล็กน้อยเพราะเจ้าหนุ่มแว่นตากลมมองไปนอกหน้าต่างแทนที่จะตั้งใจฟังผมเหมือนคนอื่นๆ
"และโดยเฉพาะเรื่องมารยาทการเคารพเชื่อฟังรุ่นพี่ เอ่อ ... คุณวรกร ไม่ทราบว่ามีอะไรข้างนอกนั่นที่ดูน่าสนใจหรือครับ" ผมมุ่งประเด็นไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น ต้องปรามๆไว้ซะหน่อย
"เฮ้ย เอาแล้วหัวหน้าสงสัยจะของขึ้น" รุ่นพี่ทีมข่าวสองคนซุบซิบกัน
"ครับ ก็ดูน่าสนใจกว่าในห้องนี้" เสียงทุ้มๆเอ่ยขึ้นตาคมหลังกรอบแว่นยังมองออกไปที่นอกหน้าต่าง
"เฮ้ยกั้ง ใจเย็นๆซิวะเดี๋ยวก็ซวยหรอก" อาเมนกระซิบเพื่อนหนุ่ม
"ถ้าอย่างงั้นช่วยอธิบายให้พวกเราฟังหน่อยดีมั้ยครับ คุณวรกร" ผมยังยิงตรงไปที่เขาพลางหยิบมือถือขึ้นมากดอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มลุกขึ้นเดินออกไปที่หน้าต่างพลางมองลงไป
"หนึ่งคือผมเห็นเด็กชายอายุ 7-8 ขวบปีนขึ้นมาบนต้นไม้นั่นพยายามจะเก็บลูกขนไก่ สองลูกขนไก่ยังอยู่แต่เด็กนั่นหายไป สามเพราะคุณทักผมขึ้นมาผมเลยไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ไหนจนต้องเดินมาดู และตอนนี้เขาก็ตกลงไปค้างอยู่กิ่งข้างล่างนั่น " ชายหนุ่มหันมามองผม ทุกคนลุกออกไปมุงดูหน้าต่างที่เขาบอก ผมยิ้มเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเขา
ก็ผมรู้จักเด็กน้อยตัวแสบคนนั้นดี เขาชื่อคอปเตอร์เป็นลูกเจ้านายผมที่ซนสุดๆ ผมกดเบอร์ฉุกเฉินกดไปเรียก รปภ ตั้งแต่ชายหนุ่มนับหนึ่งแล้ว ตอนนี้จึงได้นำตัวเด็กน้อยลงไปจากกิ่งไม้นั่น
ผมมองลงไปที่ด้านล่างโบกมือให้ รปภ ก็ทำท่าตะเบ๊ะผมขึ้นมา พาตัวคอปเตอร์เข้าไปด้านใน ผมเลยพูดขึ้นต่อจากเขา...
"และสี่ คือคุณไม่ได้ทำความเข้าใจกับแวดล้อมให้ดีจึงได้รายงานข่าวผิดๆและตอนนี้ก็ทำให้ทุกคนในห้องนี้ตกใจเสียสมาธิเพราะความอ่อนหัดของนักข่าวหน้าใหม่ " สายตาหลังกรอบแว่นมองค้อนผม ห๊ะ ผู้ชายอะไรค้อนเป็นด้วย ...
"เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้วน้องๆมานั่งที่ได้ " ผู้ช่วยผมเรียกเด็กใหม่ทั้งหมดให้ไปนั่งที่ ทุกคนทำตามเว้นแต่หนุ่มคนเดิมที่ยังยืนอยู่สักพักก็เดินช้าๆมานั่งข้างเพื่อนของเขา
"เรามีภารกิจให้ทุกคนทำโดยแบ่งพวกคุณเป็น 4 ทีม ทีมละ 5 คน และในวันจันทร์นี้ทุกทีมจะต้องมีข่าวมาแชร์ในห้องประชุมแห่งนี้เพื่อให้ทีมคัดเลือกไปออกอากาศ น้องๆมีเวลากันแค่หนึ่งวันนะครับ" ผู้ช่วยผมแจงรายละเอียดพลางยื่นเอกสารรายชื่อคนในกลุ่มต่างๆและเบอร์ติดต่อรุ่นพี่ที่ดูแลทีม
"อ้อ แล้วทุกคนต้องรู้จักรักษาเวลาด้วยนะครับ แปดโมงเช้าวันจันทร์เราจะมาประชุมกันที่นี่ ปิดประชุมได้ " ผมสั่งปิดประชุมแต่ยังสัมทับเรื่องเวลา ผมเกลียดคนมาสายที่สุด
ผู้ช่วยพาน้องๆเดินออกจากห้องประชุมไป
"คุณวรกร ... อย่าเพิ่งไป ผมขอคุยกับคุณหน่อยครับ" ผมรั้งตัวเด็กหนุ่มคนนั้นไว้ ...ไม่ได้หรอก ผมต้องเข้มๆไว้ก่อนเดี๋ยวจะเสียการปกครอง
"คุณมีอะไรจะแนะนำผมอีกหรือฮะ" เขาเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู ผมเดินตามไปขวางหน้าเขาไว้ ดวงตากลมโตหลังกรอบแว่นมองมาที่ผม ผมถอนหายใจพลางพูดขึ้น
"ผมน่ะไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะทำคะแนนได้เต็ม หรือว่าจะจบมาอลังการขนาดไหน แต่ผมเป็นหัวหน้าทีมที่คุณคงต้องปรับทัศนคติใหม่ เพราะว่า ... " ผมพูดได้แค่นั้นก็มีเสียงเด็กร้องดังมาจากด้านล่าง ชายหนุ่มผลักผมออกจากทางของเขารีบวิ่งลงไปยังต้นเสียงนั่น ผมจำเสียงนั้นได้แม่นว่าเป็นของเด็กคอปเตอร์ ใจหายวาบรีบรุดตามเขาลงไป
"เอ่อ คุณเต้ครับ ขอโทษด้วยครับพอพวกเราเผลอ คุณคอปเตอร์ก็หนีออกไปปีนต้นไม้นั่นอีกแล้ว เลยตกลงมาครับ" ผมมองไปเห็นน้องคอปเตอร์มีบาดแผลที่หัวเข่าร้องไห้กอดชายหนุ่มที่ชื่อวรกรไว้แน่น
"เอาล่ะไม่เป็นไรแล้ว พวกคุณไปทำงานกันเถอะ ทางนี้ผมจัดการเอง " ผมสั่งพวกเขาตายังมองไปที่คอปเตอร์กับวรกร
"นิ่งซะนะครับ ไม่เป็นอะไรแล้วทายาสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย เป็นผู้ชายน่ะเค้าไม่งอแงกันหรอก " ชายหนุ่มปลอบเด็กน้อยในอ้อมกอดขณะที่พยาบาลพากันออกมาทำแผลให้เขา ผมหันไปหาเขากำลังจะพูดอะไร หนุ่มวรกรนั่นก็หันมาโวยใส่ซะก่อน
"อย่าดุเขาเชียวนะผมบอกซะก่อน คุณนั่นแหละไม่เข้าใจแวดล้อม เด็กตัวแค่นี้เขาจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำให้ตัวเองเจ็บล่ะ " ตาคมนั่นค้อนผมอีกแล้ว อะไรกันเนี่ย ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยกลายเป็นผิดซะงั้น
"เอ่อ ขอบคุณนะคุณวรกร ผมผิดก็ได้ ... เอ่อ คอปเตอร์ไปๆเดี๋ยวอาเต้ไปส่งที่บ้านเรานะ " ผมจะเข้าไปหาหลานชายแต่เขาสั่นหน้าไม่ยอมปล่อยมือจากหนุ่มนั่น ยังซุกหน้ากับอกเขา
"ถ้าคุณสำนึกแล้วก็ช่วยปีนขึ้นไปเอาลูกขนไก่บนต้นไม้นั่นมาให้เขาทีก็แล้วกัน ผมจะพาเขาไปรอในห้องพยาบาลนะครับ ขอบคุณ..." ชายหนุ่มไม่รอฟังผมตอบเลย เขาอุ้มเด็กน้อยเดินหายเข้าไปในตึก
"ห๊ะ แล้วเราต้องปีนต้นไม้แทนหรอเนี่ย "
.................................
ในรถของผม
คอปเตอร์ยิ้มได้ที่ผมเอาลูกขนไก่มาคืนให้ แต่ก็ยังเกาะหนุ่มนั่นแจออดอ้อนให้เขาไปส่งด้วย
ตอนนี้ผมจึงต้องมานั่งอยู่กับเขาอย่างอึดอัดสุดๆ
คอปเตอร์เป็นลูกชายเจ้านายของผมที่เดินทางไปทำข่าวต่างจังหวัดเลยฝากผมดูไว้เวลาเขาตามมาอยู่ที่สถานี ปกติเขาก็เชื่อฟังผมดี แต่ทำไมวันนี้ถึงได้เอาใจออกห่างก็ไม่รู้
ผมพาตัวหลานชายสุดแสบมาส่งให้ตากับยายของเขาแล้วขอตัวกลับ
ดึกแล้ว หนุ่มวรกรขอแยกตัวลากลับแต่โดนพี่ตั้มและตายายของคอปเตอร์ยกแม่น้ำทั้งห้าทั้งหกมาพยายามให้เขายอมให้ผมไปส่งเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ
จนสุดท้ายเขาก็ยอมแต่โดยดี เดินไปนั่งข้างคนขับพูดคุยถูกคอกับพี่ตั้มไปตลอดทาง สองคนทำเหมือนผมไม่มีตัวตนซะงั้น ผมก็นั่งเซ็งๆไปกดดูมือถือเล่นไป
ถึงคอนโดของเด็กหนุ่มแล้วเขายกมือไหว้พี่ตั้มหันมาโค้งน้อยๆให้ผม แล้ววิ่งหายเข้าไปในอาคาร ห๊ะ คืออะไร ทำไมเจ้าเด็กนั่นไม่ไหว้ผม ม้นจะมากไปแล้วนะเนี่ย
"เด็กอะไรไม่มีมารยาท " ผมบ่นพึมพัม
"อะไรนะครับคุณเต้ อ๋อ คุณกั้งน่ะหรอ ผมว่าเขาน่ารักดีนะครับสุภาพนอบน้อม" พี่ต้้มออกความเห็นเป็น
"โอ๊ย ทำไมใครๆก็เข้าข้างเขานะ ไปๆออกรถเถอะ พี่ตั้มผมละเซ็ง" ผมเหวี่ยงใส่เพราะวันนี้มันช่างเป็นวันซวยของผม ภาพหน้ากวนๆตาโตๆหลังแว่นนั่นยังหลอนผมอยู่เลย ไหนผมว่าจะจัดการเขาไงทำไมกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ... ธีระ ไม่เข้าใจจริงๆ
.........................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น