Yes, it’s you - นิยาย Yes, it’s you : Dek-D.com - Writer
×

    Yes, it’s you

    ผู้เข้าชมรวม

    157

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    157

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  3 ส.ค. 62 / 20:47 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






    Yes, it’s you


     



    “...มึงมันก็แค่…”  มันคว้าคอเสื้อผมกระชากเข้าไปอย่างแรงจนผมเซไม่เป็นท่า มืออีกข้างง้างหมัดพร้อมที่จะซัดใส่หน้าผมได้ตลอดเวลา


    “แค่อะไร กูมันแค่อะไร พูดมาให้จบ”


    “เหี้ย! มึงมันเหี้ย ไอ้สารเลว”  ผมด่ามันพร้อมกับน้ำตาที่กลั้นมันไว้ไม่ได้ แต่แทนที่มันจะจ้วงหมัดซัดหน้าผม มันกลับปล่อยมือออกกลายเป็นผมเองที่สาวหมัดซัดไปที่หน้ามันจนมันหงายลงไปกองอยู่ที่พื้น ผมตามลงไปคร่อมบนตัวมันแล้วรัวหมัดใส่มันไม่ยั้ง กี่ครั้ง...ไม่รู้เลยครับ จำได้ว่ารัวไม่ยั้งจริงๆ มันไม่แม้แต่จะหลบหรือปัดป้องใดๆ สุดท้ายผมกระชากคอเสื้อมันขึ้นมา แล้วง้างหมัดเตรียมจะซัดไปที่หน้ามันอีกครั้ง


    “กูขอโทษ กูรักมึงคนเดียว…..”  เสียงของมันแผ่วและเบามาก แต่ผมกลับได้ยินชัดเจน มันบีบหัวใจ บีบความรู้สึกจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่นิ่งอยู่อย่างนั้น น้ำตาของมันไหลออกมาผมเห็นอย่างชัดเจน มันผู้ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น วันนี้มันกลับร้องไห้ ผมเกือบจะใจอ่อน แต่ภาพเหตุการณ์วันนั้นย้อนมาย้ำเตือนผมว่ามันสารเลวแค่ไหน ผมพลักมันกระแทกลงไปที่พื้นและลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยมันนอนอยู่อย่างนั้น ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง...

     

    *********



                ผมชื่อพีครับ  ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงหน้าไทยค่อนไปทางแขกนิด ๆ จนบางทีคนทั่วไปที่เห็นมักเข้าใจผิดและจะถามผมเสมอๆ ว่าหนูเป็นลูกครึ่งใช่ไหมลูก...(หึ...ไม่ใช่ครับผมนี่คนไทยแท้ๆเลยครับ เอ๊ะหรือมีเชื้อทางแขก แต่แม่ไม่เคยบอกนี่นา...ช่างมันเถอะครับ) หน้าคม ดั้งโด่งเป็นสัน ผิวไม่ขาวมาก ผมหยักศก ตัวบางนิดๆแต่สมส่วน เรียนอยู่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งแถวชานเมือง ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งครับ ทุกวันผมจะมาถึงโรงเรียนเกือบสายตลอด และก็ทุกวันอีกเช่นกันที่พอผมเดินเข้ามาจะต้องเจอกับ "ไอ้อาร์ต" เพื่อนสนิทของผมที่มันจะมาแต่เช้าทุกวันเพื่อเล่นบาส


    “เชี่ย...”  เสียงอาร์ตตะโกนด่าผมพร้อมกับวิ่งข้ามสนามบาสตรงมาที่ผม พอเข้ามาใกล้มันก็ขว้างลูกบาสมาใส่ตัว จนผมตัองรีบยื่นมือออกมารับไว้ไม้งั้นกระแทกหน้าเต็มๆ

    นั่นแหละครับอาร์ต ผู้ไม่เคยพูดดีกับผมซักเท่าไหร่ คงเพราะเราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่ถืออะไรพวกนี้  


    “มึงมาด่ากูทำเชี่ยไร?” 


    “มึงชอบกูใช่ม๊าาาา..”


    "เดี๋ยวๆ ชอบเชิบเชี่ยไรของมึง"


    "ก็ไอ้นิกมันบอกกูว่ามึงชอบกู"


    "มึงก็เชื่อมันงี้"


    "ก็เออดิวะ"


    "ควาย ไปเชื่ออะไรกับไอ้นิกขี้มโน"


    "แต่กูเชื่อ"


    "เรื่องของมึง!!!"  ผมโยนลูกบาสคืนกลับไปให้อาร์ต 


    "แล้วทำไมมึงต้องหูแดง"


    "แดงเชี่ยไร"  ผมรีบเอามือจับที่หูตัวเอง ไม่รู้หรอกครับว่าแดงจริงเหมือนที่มันบอกไหม แต่ก็คงจะแดงจริงเพราะผมรู้สึกร้อนผ่าวๆที่หูอย่างบอกไม่ถูก


    "แล้วทำไมกูต้องชอบมึง"  ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง


    “กูหล่อไง”  อาร์ตตอบ  


    “หล่อพ่อมึงดิ”  ผมเบะปากแล้วรีบเดินหนีมันออกมาจากสนามบาสทันที ตามมาด้วยเสียงของมันที่ตะโกนล้อเลียนผมมาเรื่อยๆจนผมต้องเดินเลี้ยวเข้าไปที่มุมตึกเพื่อหลบสายตาของมัน



                อาร์ต เป็นนักบาสของโรงเรียน หน้าตาดี (หล่อเลยแหละครับ) ปากสีชมพู ดัดฟัน ผิวขาว ตัวสูง หุ่นล่ำๆแบบนักกีฬา มีดีกรีเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน แถมเรียนเก่งกว่าผมอีกทั้งๆที่มันก็หลับในห้องเรียนตลอด แต่คะแนนสอบออกมาแม่งท็อปทุกที ส่วนผมอ่ะนะ รองบ๊วยทุกทีเหมือนกัน ด้วยความที่มันทั้งหล่อ เป็นนักกีฬา เป็นดรัมเมเยอร์ แถมเรียนเก่ง ทำให้ทั้งสาวแท้สาวเทียมตามกรี๊ดมันอยู่ตลอด บางทีก็มีขนมมาให้ เอาของมาฝาก ตามสไตล์หนุ่มฮอตแหละครับ แต่สำหรับผมหรอ แม่งกวนตีนที่สุด หาเรื่องมาแกล้งผมได้ตลอดเวลา ดึงหูเล่นบ้าง ตบหัวบ้าง จี้เอวบ้าง เอาก้อนน้ำแข็งเย็นๆมาใส่หลังบ้าง  และด้วยความสนิทกันนี่แหละครับมันเลยทำให้เกิดเรื่องราวมากมายระหว่างผม กับ อาร์ต และเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่เกี่ยวข้องกับผม


    “ไอ้เชี่ยอาร์ตมึงทำไรเนี่ย กูเย็นหลังนะเว่ย”  ผมด่าออกไปด้วยความตกใจที่อาร์ตเอาน้ำแข็งที่มันกินเสร็จแล้วมาใส่หลังผมจากทางคอเสื้อด้านหลัง


    “กูเห็นมึงร้อนไง ให้กูเอาน้ำแข็งถูหลังให้ไหม แบบจันดาราอ่ะ "จัน..เอาน้ำแข็งมาถูหลังชั้นซิ" เอาปะ ๆ”  อาร์ตตอบอย่างกวน ๆ และทำหน้าตากวนตีนใส่ผมอีกเช่นเดิม


    “พอเลยมึง เยอะละๆ กูจะทำงาน ร้อนเชี่ยไรหนาวจะตายนี่ห้องแอร์นะมึง ควายมั้ย!!”  ผมรีบปัดเรื่องไปทางอื่นเพราะจะทำงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ

     

                อาร์ตมันชอบแกล้งเพื่อนครับ และมันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผม แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ผมเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายไปแกล้งมันบ้าง เพราะผมรู้จุดอ่อนที่สุดของมัน

    ผมรู้ว่ามันกลัว "จิ้งจก"  ผู้ชายมาดแมน แฮนด์ซ่ำ หล่อล่ำขนาดนี้เสือกกลัวจิ้งจก ดูไม่เข้ากันอย่างที่สุดเลยครับ แต่มันก็ดันกลัวจริงๆ แถมกลัวเอามากซะด้วย ผมก็เลยอาศัยความกลัวของมันนี่แหละครับจับจิ้งจกตัวน้อยมาแกล้งมันอยู่บ่อยๆ และก็โดนมันไล่ถีบทุกทีไป 


                ผมกับอาร์ตเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.1  แต่ความจริงเรารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ เนิร์สเซอร์รี่ที่เดียวกัน อนุบาลก็ที่เดียวกัน จนตอนนี้ ม.5 แล้วก็ยังเรียนห้องเดียวกัน บางทีผมก็เริ่มจะเบื่อขี้หน้ามันแล้วล่ะครับ แต่ก็อีกนั่นแหละครับพอห่างกันก็อดนึกถึงไม่ได้ และที่สำคัญเลยตลอดเวลาที่เป็นเพื่อนกันมาไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะไม่โดนมันแกล้ง 


    “เชี่ยอาร์ตกูถามจริงๆนะจะมีวันไหนไหมที่มึงจะไม่แกล้งกูอ่ะ”  ผมถามหลังจากที่โดนมันแกล้งบ่อยจนรำคาญ


    “ก็วันที่กูไม่ได้อยู่ใกล้ๆมึงไง...” 


    อาร์ตตอบออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไร หรือว่ามันคิดก็ไม่รู้นะครับ แต่สำหรับตอนนั้น คำตอบของมันทำให้ตัวผมชาไปหมด จะขยับปากพูดก็พูดไม่ได้ เหมือนโดนอะไรแข็งๆฟาดเข้ามาที่หน้าอย่างแรง หน้าผมเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ จนไอ้อาร์ตเดินเข้ามาใกล้ๆตัวผม มือหนาๆทั้งสองข้างของมันแตะลงมาที่แก้มทั้งสองข้างของผมแล้วจับหน้าผมเอียงไปมา วินาทีนั้นเหมือนเวลาทั้งหมดหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ท่ามกลางนักเรียนมากมายที่เดินไปเดินมามันเหมือนกับว่าตรงนั้นมีแค่เพียงผมกับอาร์ตสองคนเท่านั้นที่ยืนอยู่ ความรู้สึกแปลกๆพุ่งพล่านเต็มไปหมดจนผมรู้สึกสับสนจัดการกับความรู้สึกในใจตัวเองตอนนี้ไม่ได้และไม่รู้ว่าที่รู้สึกอยู่ตอนนี้มันคืออะไร


    “พี...พี...เชี่ย! เป็นไรวะเนี่ย ช๊อคเลยหรอวะ”  อาร์ตร้องเรียกมันเอามือตบที่หน้าผม พร้อมกับเลื่อนมือลงมาที่ไหล่ของผมแล้วเขย่าเบาๆ  จนผมสะดุ้งขึ้นมา


    “เปล่าๆ กูแกล้งมึงไง ถามดีๆเสือกดึงดราม่าซะงั้น "ก็วันที่กูไม่ได้อยู่ใกล้ๆมึงไง" ”  ผมรีบตอบมันออกไปเพื่อแก้เก้อที่เหม่อลอยแถมยังเลียนเสียงและทำหน้าล้อเลียมันด้วย


    “กูพูดจริงนะโว่ย ที่กูแกล้งมึงทุกวัน กูก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆมึงอ่ะ”  อาร์ตทำน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง 


     “พอเลยๆ แล้วทำไมมึงต้องอยากอยู่ใกล้ๆกูด้วย ก็เจอกันทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่อ่อวะ”  ผมเถียง


    “มันไม่เหมือนกันเว่ย”  อาร์ตเถียงกลับ


    “ไม่เหมือนยังไงของมึง? กูชักจะงงละ”  ผมถามต่ออย่างสงสัย


    “กูว่ากู.......”



    “เชี่ยอาร์ตทำไรอยู่วะ เพื่อนรอซ้อมอยู่เร็วๆเลย”  ไอ้นิกวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาขัดจังหวะการคุยของผมกับอาร์ตซะก่อน ผมเลยไม่รู้เลยว่ามันจะบอกอะไรต่อ  อาร์ตหันหน้ามามองผม มือขวาหนาๆของมันบีบที่ไหล่ผมเบาๆแล้วมันก็วิ่งตามไอ้นิกไป


                เย็นวันนั้นหลังจากเลิกเรียนผมก็รีบกลับบ้าน เพราะเมฆฝนตั้งเค้ามาดูท่าทางจะตกหนักแน่ ระหว่างที่จะออกจากโรงเรียนก็เดินผ่านไปที่สนามบาสเห็นไอ้อาร์ตยังซ้อมอยู่ มันหันมาเห็นผมที่กำลังยกมือจะบ๊ายบาย มันรีบหันหน้ากลับไปซ้อมต่อทันที ผมเลยยกมือขึ้นมาเก้อเลย นึกในใจ "ไอ้เชี่ย ทำเป็นไม่เห็นกู ยกมือเก้อเลย อายนะโว่ย" แล้วผมก็รีบเดินออกไปจากโรงเรียน ขึ้นรถกลับบ้านอย่างเร็ว พอก้าวขาขึ้นรถเมล์ปุ๊บฝนก็เทลงมาปั๊บจังหวะเป๊ะซะไม่มี จนถึงหน้าปากซอยบ้านผมฝนแม่งก็ยังไม่หยุดตก ทีนี้ก็เปียกสิครับร่มก็ไม่มี ผมรีบเดินไปที่วินมอไซค์รับจ้าง เชี่ยละ! ไม่มีซักคัน แม่งหายไปไหนกันหมดวะ ทีไม่ต้องการจอดกันให้พรึบ พอโคตรต้องการแม่งไม่มีซักคันซวยชิบ ผมเลยรีบเดินเข้าไปหลบในตู้โทรศัพท์กะว่าจะรอให้ฝนหยุดตกแล้วค่อยเดินเข้าบ้าน



                บ้านของผมอยู่ในซอยค่อนข้างลึก ปกติแล้วจะมีวินมอไซค์รับจ้างจอดเต็มไปหมด แต่วันนี้ดันไม่มีเลยซักคัน ผมนั่งกดมือถือเล่นอยู่ในตู้โทรศัพท์ที่ใช้ไม่ได้แล้วแต่ก็ยังดีที่มีผมเลยได้อาศัยหลบฝนไปก่อน ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก แถมดูเหมือนจะตกหนักกว่าเดิม ซักพักนึงก็มีไลน์เข้ามา

    “มึงอยู่ไหนเนี่ย”


    “ถึงบ้านยัง”


    “ฝนตกโคตรหนัก”


    “มึงเปียกปะเนี่ย”


    “มึงมีร่มปะวะ”


    “ให้กูไปส่งไหม”


    “มึงตอบกูดิวะ”


    “มึงเงียบไมเนี่ย”



    “เชี่ย!”  ผมด่าตอบกลับไป


    “มึงหยุดพิมพ์ดิ๊” 


    “กูตอบไม่ทันโว่ย”


    “เออ โทดๆ”  อาร์ตตอบกลับมา


    “ตอบมาๆ”  อาร์ตทวงคำตอบที่มันถามไว้เยอะมาก


    “กูหลบฝนอยู่ในตู้โทสับหน้าปากซอยบ้านเนี่ย”


    “วินมอไซค์ไม่มี” 


    “ยังเข้าบ้านไม่ได้เลย”  ผมพิมพ์ไปหงุดหงิดไป


    “รอกูอยู่ตรงนั้นเลย”  


    “รอไมวะ”  ผมรีบถามกลีบ


    “.............”  แต่อาร์ตก็ไม่ได้อ่านและไม่ตอบอะไรกลับมา

     


    ***********************************************************************


    ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน Yes, It's you. นะครับ
    ฝากแสดงความคิดเห็น แนะนำ ติชม และให้กำลังใจด้วยนะครับ
    นิยายเรื่องแรกจะทำให้ดีที่สุดครับ 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น