TENSHINAI เจ้าหญิงแห่งความตาย
ภายนอกบ้านหลังน้อยคือเหล่านักล่าฆ่าหัวเลือดเย็น ฆ่าได้แม้กระทั่งคนได้โดยไม่ลังเล - - ภายในบ้านคือภูตมรณะน้อยๆ ที่กินได้แม้กระทั่งหัวคน!! (โดยไม่ลังเลด้วย)
ผู้เข้าชมรวม
2,278
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ wattermelon ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ wattermelon
"company criticizes for develop บริษัทวิจารณ์เพื่อพัฒนาจำกัด"
(แจ้งลบ)โครง เรื่อง [9/10] ผมให้โครงเรื่อง เกือบเต็ม เพราะความสามารถในการขยายขอบเขตที่กว้างไกล เรื่องในบทนำนั้นทำให้ชวนติดตามแต่ยังไม่เปิดเผยในบทแรกๆ ของตอนหลัก อย่างไรก็ดีแนวทางของนักฆ่าวัยเยาว์ที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อหนีการตามล่า จากนักล่าค่าหัวมันก็แปลกและน่าติดตาม ตัวละคร [9.5/10] อันนี้ อยากให้เต็มมาก ๆ ครับ ผมชอบการออกแบบ "ไน" มากเลย ไนเป็นมือสั ... อ่านเพิ่มเติม
โครง เรื่อง [9/10] ผมให้โครงเรื่อง เกือบเต็ม เพราะความสามารถในการขยายขอบเขตที่กว้างไกล เรื่องในบทนำนั้นทำให้ชวนติดตามแต่ยังไม่เปิดเผยในบทแรกๆ ของตอนหลัก อย่างไรก็ดีแนวทางของนักฆ่าวัยเยาว์ที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อหนีการตามล่า จากนักล่าค่าหัวมันก็แปลกและน่าติดตาม ตัวละคร [9.5/10] อันนี้ อยากให้เต็มมาก ๆ ครับ ผมชอบการออกแบบ "ไน" มากเลย ไนเป็นมือสังหารเด็กที่มีฝีมือแต่ไม่ได้ไร้เทียมทาน สิ่งนี้ทำให้ "เพื่อนตัวเอก" มีบทบาทขึ้นมากและไม่เป็นเพียงตัวประกอบ จุดบกพร่องของเธอเช่น...อาหารทรมานใจนั่น ก็เป็นอะไรที่น่ารักมาก เรียกว่า โมเอ้แฟกเตอร์ครบครัน มีความลึก มีข้อดี มีข้อด้อย มีความรู้สึกในแบบของตัวเองราวกับมีชีวิต เป็นการออกแบบตัวเอกที่เกือบจะสมบูรณ์ ที่ผมบอกว่าเกือบจะสมบูรณ์เพราะยังมีช่องว่างให้เสริมแต่งได้เมื่อเรื่อง ดำเนินต่อไปซึ่งนับว่าดีขึ้นไปอีก! แต่ด้วยความสมบูรณ์ของไนนั้นเอง ทำให้เหล่าตัวละครอื่นดูจืดลงไปสิ้น แม้แต่เรนผู้เป็นพี่ อันนี้น่าเศร้า ผมจึงต้องขอตัดไป 0.5 คะแนน เพราะตอนที่วิจารย์เพิ่งจะถึงบทที่ 5 ดังนั้นรสชาติของตัวละครอื่นอาจจะแสดงออกภายหลัง อันนี้เป็นอนาคตที่เปิดกว้างของพล๊อตที่วางเอาไว้ ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] อันนี้เป็นอะไรที่ บอกยาก ผมอ่านมาจนถึงบทที่ 5 รู้สึกอิมเมจมันแปลก ๆ เริ่มจากบทนำที่เป็นยุคหนึ่งแล้วบทหลักเป็นเหมือนอีกยุคหนึ่งเลย รังสีแฟนตาซีอบอวล อาวุธหลักเป็น Melee ตามแบบฉบับอัศวินและนักรบ ตามด้วยเวทมนต์ จิต ทำให้ดูเป็นอะไรที่ค่อนข้างโบราณแฟนตาซี แต่มีครีมกันแดด ผมเลยรู้สึกว่าอิมเมจมันขัดกัน อันนี้ไม่ใช่เรื่องไม่ดีเพราะมันเป็นบรรยากาศร่วมสมัยได้ อย่างพ่อมดใช้มือถือหรือแฮรี่นักรถไฟใต้ดิน ก็เป็นฉากที่เข้าท่า แต่ยังไม่สามารถคัดกรองให้เกิดความ "กลมกลืน" ไปด้วยกันได้ทั้งหมด ผม อยากยกตัวอย่างเกม Bioshock ให้เป็นตัวอย่าง ลองเข้าไปดูภาพฉากของเกมแล้วพิจารณาจะเห็นว่าศิลปะ โครงสร้างอาคาร ผลิตภัณฑ์ อาหาร เพลง ทุกอย่างเป็นของสมัยเดียวกันหมด แต่พอกลับขึ้นมาบนบกนั้นทุกอย่างกลายเป็นของอีกสมัยหนึ่งทันที อันนี้คือสิ่งที่อยากเห็นครับ ในรั้วโรงเรียนถ้าเป็นนักรบพลังจิตและเผ่าพันธ์เหนือมนุษย์ก็อยากให้มันกลม กลืนกันไปหมด ครีมกันแดดน่าจะเป็นร่มหรือเวทย์อะไรสักอย่างแทน การ ดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] การดำเนินเรื่องค่อน ข้างจะช้าและเร็วเป็นจังหวะ ไม่สม่ำเสมอ บางช่วงที่เร็วก็เร็วมาก โดยเฉพาะฉากต่อสู้ จริงอยู่ที่การต่อสู้ต้องเร็วแต่ไม่น่าจะจบในไม่กี่บรรทัดอย่างนั้น และที่สำคัญผมว่าระหว่างตอนนั้น ยกเว้นตอนที่ 1 -> 2 มีระยะเวลาห่างกันมากครับ อย่างตอนที่ 2 -> 3 นั้น ตอน 2 จบด้วยการเดินดูที่พักแต่ตอน 3 ข้ามการดูที่พักไปเลย กลายเป็นฉากลอบสังหาร อยากให้อารมณ์ค่อยๆ บิวท์ขึ้นไปครับ ความสมเหตุสมผล [8/10] เรื่อง นี้ผมยังรู้สึกขัดอยู่บ้าง มันตั้งแต่การหนีการตามล่าเข้าโรงเรียนแล้วไม่มีใครแตะต้องได้เลยขนาดค่าหัว เยอะปานนั้น อีกอย่างยังเป็นเรื่องของบรรยากาศในโรงเรียนที่เป็นมิตรเกินไป โรงเรียนแบบนี้มันให้ความรู้สึกแบบแบทเทิลรอยัลมากกว่านี้นะครับ เช่น ในตอนที่ได้รับสัญญาณให้สังหารนักเรียนปี 1 นั้น ถ้าให้สมเหตุสมผลมันต้องบ่มเพาะความรู้สึกแตกแยกในหมู่สหายด้วย แต่เรื่องกลับไม่เป็นอย่างนั้น ดูพวกเขาแต่ละคนก็รักกันดี บทสนทนา [9/10] อันนี้ขอหักไป 1 คะแนน บทสนทนามีคุณภาพแล้วครับ คะแนนที่หักมาจากส่วนที่ไม่ใช่บทสนทนาแต่ถูกเสนอเหมือนบทสนทนา เช่น กฎของผู้ใช้ศาสตร์มืดข้อ 3 ที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูด อยากให้เสนอแบบกฎข้อ 1 มากกว่า หรือเน้นด้วยเครื่องหมายบางอย่างที่ต่างออกไป ถ้าเครื่องหมายคำพูดล้อมรอบ วลี หรือ คำ อาจจะเป็นการเน้นครับ แต่ถ้าล้อมประโยคขึ้นมามันทำให้รู้สึกว่ามีใครสักคนพูดอยู่ ตอนที่อ่านรู้สึกเหมือนคนเขียนคอยยืนอยู่ข้างหลังแล้วชี้มาบนจอ บอกว่า "นี่ไง ตรงนี้มัน..." ทำให้เสียอารมณ์พอดูครับ ภาษาสำนวน - การบรรยาย [13/20] การบรรยายบรรยากาศดีครับ ดีทีเดียว แต่อยากให้เติมสัมผัสอื่น ๆ นอกจากที่เห็นด้วยตา เช่น กลิ่น เสียง และผิวสัมผัสเข้าไปอีก ตรงนี้ผมไม่ได้หักคะแนน แต่ที่โดนหนักเลยผมให้ฉากต่อสู้ คือว่าผมรู้สึกขัดทุกครั้งที่ต่อสู้กัน การบรรยายมันไม่เห็นภาพเคลื่อนไหวเลยครับ มันมานิ่ง ๆ เช่น "การต่อสู้ที่ดุเดือด" ที่บรรยายซ้ำสองรอบในตอนที่ ฟอกส์สู้กับวินเซนต์ มันไม่ได้แสดงภาพความดุเดือดอย่างที่ว่ามากนักครับ ถ้าจะ "ดุเดือด" มันต้องมากลับเลือดพล่าน เราต้องบรรยายความ "ตื่นเต้น" ในการต่อสู้ ความกดดันของตัวละคร ลมหายใจที่แทบจะควบแน่นเป็นเมฆ เหงื่อที่ไหลจากคอจนหยดจากปลายนิ้วที่จับดาบ พอทั้งสองเข้าโรมรันนั้นต้องสื่อแรงปะทะและเสียงโลหะกระทบเมื่อทั้งสองฟาด ฟัน เศษหินกระเด็นใส่หน้าคนดูเวลาทั้งสองพุ่งตัว ให้มีแผลกันบ้างพองามจะสมกับความดุเดือดครับ เรื่องนี้โดนไป 5 คะแนน ถ้าท่านผู้แต่งไม่สามารถเห็นภาพการต่อสู้ที่เข้าถึงจากในหัว ลองไปนั่งดูมวยหรือเข้าซ้อมกีฬาที่มีการชนกันเยอะ ๆ ดูครับ (ตอนนี้ถ้าใจกล้า ไปสมทบกับผมใน กทม. ก็ได้ แต่ต้องระวังตัวมาก ๆ) จะได้มีประสบการณ์ เอาอีกเรื่องคือเสียงทั้งหลายครับ เคร้ง! ปัง! มันขัดหูขัดตามากเลยครับ มันมาจากความไม่เห็นภาพในการต่อสู้แล้วก็เจอกับเสียงดังขัดจังหวะมันทำให้ เสียอรรถรสครับ อันนี้หัก 3 คะแนน เพราะใช้เยอะมาก - คำผิด คำซ้ำ การใช้คำ [7/10] คำว่า บาง หนา สูง ที่ใช้อธิบายตัวละครนั้นซ้ำมากครับ ลองหาคำอื่นดูดีกว่า แนะนำให้ใช้ชื่อไปเลยก็ได้ เนื่องจากใช้บ่อยมากโดยเฉพาะในบทที่ 3 ดังนั้นขอหัก 3 คะแนน คำผิดผมอ่านแล้วไม่มีแบบที่ทำให้เสียอรรถรส ดังนั้นไม่หักนะครับ การใช้คำมันช่างดูแปลก แต่เนื่องจากบรรยากาศมันสลับไปมาระหว่างนักรักน่าหยิกกับนักฆ่าพ่อสั่งลุย ผมเลยคิดว่ามันก็พอกล้อมแกล้ม ไม่มีอะไรเสียหาย ปล่อยไปตามสไตล์ครับ ความ น่าติดตาม [9/10] อันนี้อยากให้เต็มอีกแล้ว มันผสมผสานระหว่างโหด มัน ฮา ได้อย่างลงตัวแฝงความน่ารักของตัวละคร แต่มีหัก 1 คะแนนตรงการบรรยายเพราะมันทำให้ไม่น่าติดตาม ประกอบกับการดำเนินเรื่องที่ตอนนี้มันแค่เสนอบรรยากาศโรงเรียน ดังนั้นจึงไม่ฉุดลากคนอ่านให้ติดตามอย่างถึงที่สุด มีเสนอว่าจุดจบของแต่ละตอนครับ มันไม่น่าติดตามตอนต่อไปน่ะครับ ผมคิดว่าตอนหลัง ๆ จากนี้ให้ลองนึกถึงเวลาเราดูหนังดีกลางดึกของช่อง 7 ที่เวลาเข้าด้ายเข้าเข็มมันต้องตัดโฆษณา อันนี้อาจจะทำให้อารมณ์ค้างแต่เราก็ทนปวดท้องไม่เข้าห้องน้ำเพื่อดูหลัง โฆษณาจบน่าจะช่วยให้น่าติดตามได้มากขึ้นครับ รวม 79.5 /100 อ่านน้อยลง
ranna | 21 พ.ค. 53
9
0
"company criticizes for develop บริษัทวิจารณ์เพื่อพัฒนาจำกัด"
(แจ้งลบ)โครง เรื่อง [9/10] ผมให้โครงเรื่อง เกือบเต็ม เพราะความสามารถในการขยายขอบเขตที่กว้างไกล เรื่องในบทนำนั้นทำให้ชวนติดตามแต่ยังไม่เปิดเผยในบทแรกๆ ของตอนหลัก อย่างไรก็ดีแนวทางของนักฆ่าวัยเยาว์ที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อหนีการตามล่า จากนักล่าค่าหัวมันก็แปลกและน่าติดตาม ตัวละคร [9.5/10] อันนี้ อยากให้เต็มมาก ๆ ครับ ผมชอบการออกแบบ "ไน" มากเลย ไนเป็นมือสั ... อ่านเพิ่มเติม
โครง เรื่อง [9/10] ผมให้โครงเรื่อง เกือบเต็ม เพราะความสามารถในการขยายขอบเขตที่กว้างไกล เรื่องในบทนำนั้นทำให้ชวนติดตามแต่ยังไม่เปิดเผยในบทแรกๆ ของตอนหลัก อย่างไรก็ดีแนวทางของนักฆ่าวัยเยาว์ที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อหนีการตามล่า จากนักล่าค่าหัวมันก็แปลกและน่าติดตาม ตัวละคร [9.5/10] อันนี้ อยากให้เต็มมาก ๆ ครับ ผมชอบการออกแบบ "ไน" มากเลย ไนเป็นมือสังหารเด็กที่มีฝีมือแต่ไม่ได้ไร้เทียมทาน สิ่งนี้ทำให้ "เพื่อนตัวเอก" มีบทบาทขึ้นมากและไม่เป็นเพียงตัวประกอบ จุดบกพร่องของเธอเช่น...อาหารทรมานใจนั่น ก็เป็นอะไรที่น่ารักมาก เรียกว่า โมเอ้แฟกเตอร์ครบครัน มีความลึก มีข้อดี มีข้อด้อย มีความรู้สึกในแบบของตัวเองราวกับมีชีวิต เป็นการออกแบบตัวเอกที่เกือบจะสมบูรณ์ ที่ผมบอกว่าเกือบจะสมบูรณ์เพราะยังมีช่องว่างให้เสริมแต่งได้เมื่อเรื่อง ดำเนินต่อไปซึ่งนับว่าดีขึ้นไปอีก! แต่ด้วยความสมบูรณ์ของไนนั้นเอง ทำให้เหล่าตัวละครอื่นดูจืดลงไปสิ้น แม้แต่เรนผู้เป็นพี่ อันนี้น่าเศร้า ผมจึงต้องขอตัดไป 0.5 คะแนน เพราะตอนที่วิจารย์เพิ่งจะถึงบทที่ 5 ดังนั้นรสชาติของตัวละครอื่นอาจจะแสดงออกภายหลัง อันนี้เป็นอนาคตที่เปิดกว้างของพล๊อตที่วางเอาไว้ ฉาก สถานที่ เวลา [7/10] อันนี้เป็นอะไรที่ บอกยาก ผมอ่านมาจนถึงบทที่ 5 รู้สึกอิมเมจมันแปลก ๆ เริ่มจากบทนำที่เป็นยุคหนึ่งแล้วบทหลักเป็นเหมือนอีกยุคหนึ่งเลย รังสีแฟนตาซีอบอวล อาวุธหลักเป็น Melee ตามแบบฉบับอัศวินและนักรบ ตามด้วยเวทมนต์ จิต ทำให้ดูเป็นอะไรที่ค่อนข้างโบราณแฟนตาซี แต่มีครีมกันแดด ผมเลยรู้สึกว่าอิมเมจมันขัดกัน อันนี้ไม่ใช่เรื่องไม่ดีเพราะมันเป็นบรรยากาศร่วมสมัยได้ อย่างพ่อมดใช้มือถือหรือแฮรี่นักรถไฟใต้ดิน ก็เป็นฉากที่เข้าท่า แต่ยังไม่สามารถคัดกรองให้เกิดความ "กลมกลืน" ไปด้วยกันได้ทั้งหมด ผม อยากยกตัวอย่างเกม Bioshock ให้เป็นตัวอย่าง ลองเข้าไปดูภาพฉากของเกมแล้วพิจารณาจะเห็นว่าศิลปะ โครงสร้างอาคาร ผลิตภัณฑ์ อาหาร เพลง ทุกอย่างเป็นของสมัยเดียวกันหมด แต่พอกลับขึ้นมาบนบกนั้นทุกอย่างกลายเป็นของอีกสมัยหนึ่งทันที อันนี้คือสิ่งที่อยากเห็นครับ ในรั้วโรงเรียนถ้าเป็นนักรบพลังจิตและเผ่าพันธ์เหนือมนุษย์ก็อยากให้มันกลม กลืนกันไปหมด ครีมกันแดดน่าจะเป็นร่มหรือเวทย์อะไรสักอย่างแทน การ ดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] การดำเนินเรื่องค่อน ข้างจะช้าและเร็วเป็นจังหวะ ไม่สม่ำเสมอ บางช่วงที่เร็วก็เร็วมาก โดยเฉพาะฉากต่อสู้ จริงอยู่ที่การต่อสู้ต้องเร็วแต่ไม่น่าจะจบในไม่กี่บรรทัดอย่างนั้น และที่สำคัญผมว่าระหว่างตอนนั้น ยกเว้นตอนที่ 1 -> 2 มีระยะเวลาห่างกันมากครับ อย่างตอนที่ 2 -> 3 นั้น ตอน 2 จบด้วยการเดินดูที่พักแต่ตอน 3 ข้ามการดูที่พักไปเลย กลายเป็นฉากลอบสังหาร อยากให้อารมณ์ค่อยๆ บิวท์ขึ้นไปครับ ความสมเหตุสมผล [8/10] เรื่อง นี้ผมยังรู้สึกขัดอยู่บ้าง มันตั้งแต่การหนีการตามล่าเข้าโรงเรียนแล้วไม่มีใครแตะต้องได้เลยขนาดค่าหัว เยอะปานนั้น อีกอย่างยังเป็นเรื่องของบรรยากาศในโรงเรียนที่เป็นมิตรเกินไป โรงเรียนแบบนี้มันให้ความรู้สึกแบบแบทเทิลรอยัลมากกว่านี้นะครับ เช่น ในตอนที่ได้รับสัญญาณให้สังหารนักเรียนปี 1 นั้น ถ้าให้สมเหตุสมผลมันต้องบ่มเพาะความรู้สึกแตกแยกในหมู่สหายด้วย แต่เรื่องกลับไม่เป็นอย่างนั้น ดูพวกเขาแต่ละคนก็รักกันดี บทสนทนา [9/10] อันนี้ขอหักไป 1 คะแนน บทสนทนามีคุณภาพแล้วครับ คะแนนที่หักมาจากส่วนที่ไม่ใช่บทสนทนาแต่ถูกเสนอเหมือนบทสนทนา เช่น กฎของผู้ใช้ศาสตร์มืดข้อ 3 ที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูด อยากให้เสนอแบบกฎข้อ 1 มากกว่า หรือเน้นด้วยเครื่องหมายบางอย่างที่ต่างออกไป ถ้าเครื่องหมายคำพูดล้อมรอบ วลี หรือ คำ อาจจะเป็นการเน้นครับ แต่ถ้าล้อมประโยคขึ้นมามันทำให้รู้สึกว่ามีใครสักคนพูดอยู่ ตอนที่อ่านรู้สึกเหมือนคนเขียนคอยยืนอยู่ข้างหลังแล้วชี้มาบนจอ บอกว่า "นี่ไง ตรงนี้มัน..." ทำให้เสียอารมณ์พอดูครับ ภาษาสำนวน - การบรรยาย [13/20] การบรรยายบรรยากาศดีครับ ดีทีเดียว แต่อยากให้เติมสัมผัสอื่น ๆ นอกจากที่เห็นด้วยตา เช่น กลิ่น เสียง และผิวสัมผัสเข้าไปอีก ตรงนี้ผมไม่ได้หักคะแนน แต่ที่โดนหนักเลยผมให้ฉากต่อสู้ คือว่าผมรู้สึกขัดทุกครั้งที่ต่อสู้กัน การบรรยายมันไม่เห็นภาพเคลื่อนไหวเลยครับ มันมานิ่ง ๆ เช่น "การต่อสู้ที่ดุเดือด" ที่บรรยายซ้ำสองรอบในตอนที่ ฟอกส์สู้กับวินเซนต์ มันไม่ได้แสดงภาพความดุเดือดอย่างที่ว่ามากนักครับ ถ้าจะ "ดุเดือด" มันต้องมากลับเลือดพล่าน เราต้องบรรยายความ "ตื่นเต้น" ในการต่อสู้ ความกดดันของตัวละคร ลมหายใจที่แทบจะควบแน่นเป็นเมฆ เหงื่อที่ไหลจากคอจนหยดจากปลายนิ้วที่จับดาบ พอทั้งสองเข้าโรมรันนั้นต้องสื่อแรงปะทะและเสียงโลหะกระทบเมื่อทั้งสองฟาด ฟัน เศษหินกระเด็นใส่หน้าคนดูเวลาทั้งสองพุ่งตัว ให้มีแผลกันบ้างพองามจะสมกับความดุเดือดครับ เรื่องนี้โดนไป 5 คะแนน ถ้าท่านผู้แต่งไม่สามารถเห็นภาพการต่อสู้ที่เข้าถึงจากในหัว ลองไปนั่งดูมวยหรือเข้าซ้อมกีฬาที่มีการชนกันเยอะ ๆ ดูครับ (ตอนนี้ถ้าใจกล้า ไปสมทบกับผมใน กทม. ก็ได้ แต่ต้องระวังตัวมาก ๆ) จะได้มีประสบการณ์ เอาอีกเรื่องคือเสียงทั้งหลายครับ เคร้ง! ปัง! มันขัดหูขัดตามากเลยครับ มันมาจากความไม่เห็นภาพในการต่อสู้แล้วก็เจอกับเสียงดังขัดจังหวะมันทำให้ เสียอรรถรสครับ อันนี้หัก 3 คะแนน เพราะใช้เยอะมาก - คำผิด คำซ้ำ การใช้คำ [7/10] คำว่า บาง หนา สูง ที่ใช้อธิบายตัวละครนั้นซ้ำมากครับ ลองหาคำอื่นดูดีกว่า แนะนำให้ใช้ชื่อไปเลยก็ได้ เนื่องจากใช้บ่อยมากโดยเฉพาะในบทที่ 3 ดังนั้นขอหัก 3 คะแนน คำผิดผมอ่านแล้วไม่มีแบบที่ทำให้เสียอรรถรส ดังนั้นไม่หักนะครับ การใช้คำมันช่างดูแปลก แต่เนื่องจากบรรยากาศมันสลับไปมาระหว่างนักรักน่าหยิกกับนักฆ่าพ่อสั่งลุย ผมเลยคิดว่ามันก็พอกล้อมแกล้ม ไม่มีอะไรเสียหาย ปล่อยไปตามสไตล์ครับ ความ น่าติดตาม [9/10] อันนี้อยากให้เต็มอีกแล้ว มันผสมผสานระหว่างโหด มัน ฮา ได้อย่างลงตัวแฝงความน่ารักของตัวละคร แต่มีหัก 1 คะแนนตรงการบรรยายเพราะมันทำให้ไม่น่าติดตาม ประกอบกับการดำเนินเรื่องที่ตอนนี้มันแค่เสนอบรรยากาศโรงเรียน ดังนั้นจึงไม่ฉุดลากคนอ่านให้ติดตามอย่างถึงที่สุด มีเสนอว่าจุดจบของแต่ละตอนครับ มันไม่น่าติดตามตอนต่อไปน่ะครับ ผมคิดว่าตอนหลัง ๆ จากนี้ให้ลองนึกถึงเวลาเราดูหนังดีกลางดึกของช่อง 7 ที่เวลาเข้าด้ายเข้าเข็มมันต้องตัดโฆษณา อันนี้อาจจะทำให้อารมณ์ค้างแต่เราก็ทนปวดท้องไม่เข้าห้องน้ำเพื่อดูหลัง โฆษณาจบน่าจะช่วยให้น่าติดตามได้มากขึ้นครับ รวม 79.5 /100 อ่านน้อยลง
ranna | 21 พ.ค. 53
9
0
ความคิดเห็น