ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My wife ขอโทษที คนนี้เมียกู [END]

    ลำดับตอนที่ #13 : .....My wife.....{13}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.21K
      22
      1 ก.พ. 55

    .....My wife.....{13}

    [Saint]

            “ไอ้วิคเตอร์อยู่ไหน” ผมถึงกับอึ้งไปทันทีที่ไอ้ไนน์ถามคำถามนั้นมา อะไรเนี่ย ผมงงไปหมดแล้วนะ นี่ไอ้พาสต้ามันไปเกี่ยวข้องอะไรกับไอ้วิคเตอร์ล่ะเนี่ย ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่ามันไปรู้จักกันเมื่อไร อย่าบอกนะว่าคนที่ตามล่าไอ้วิคเตอร์คือไอ้พาสต้า รุ่นน้องไอ้ไนน์คนนี้น่ะ

    “ถามทำไม” ผมเลี่ยงการตอบคำถามเป็นถามคืนแทน

    “มึงไม่ต้องอ้อมค้อมตอบกูมาดีๆ” ไอ้ไนน์เหมือนจะไม่เล่นด้วยแฮะ

    “ได้ไงล่ะ ไอ้วิคเตอร์เพื่อนกูนะ ถ้าไอ้พาสต้าคิดจะทำร้ายเพื่อนกูล่ะ กูไว้ใจมันได้หรือไง” ผมบอกไอ้ไนน์ มันก็จริงอ่ะ ถ้าไอ้วิคเตอร์ระวังตัวตั้งขนาดนั้น  แปลว่าไอ้นี่มาไม่ดีแหงๆ

    “กูว่าไอ้พาสต้ามันน่าเชื่อถือมากกว่าเพื่อนมึงอีกนะ” ไอ้ไนน์ตอบผม

    “สัส นั่นเพื่อนกูทั้งคนนะ” นี่มันเอาอะไรมาตัดสินเนี่ย ว่าไอ้พาสต้าดีกว่าน่ะ 

    “เออ ก็เพราะเป็นเพื่อนมึงไง กูถึงบอกว่ามันไว้ใจไม่ได้” อ่าว มาลงที่กูอีกละ   

    “เชี่ย มึงเอาอะไรวัดเนี่ย” ผมเคืองจริงนะเนี่ย ทำไมมาตัดสินกันเอาเองแบบนี้ล่ะ

    “มึงไม่ต้องรู้ บอกกูมาแค่นั้นพอแล้ว” ไอ้ไนน์เหมือนมันจะคาดคั้นผมมากกว่านะเนี่ย ไอ้พาสต้าขอแค่นี้ทำไมมันต้องทำให้ด้วยเนี่ย มันเห็นผมเป็นตัวอะไรฟะ

    “กูไม่รู้” ถ้าผมอยากรู้ผมหามันเจอไม่ยากหรอก แต่นี่ในเมื่อผมไม่อยากบอกเองก็อย่าหวังว่าจะรู้เลย ชิ ผมไม่ใช่คนขายเพื่อนนะ ไม่มีทางเสียหรอก

    “เหอะ” ไอ้ไนน์ทำท่าเหมือนไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร      

    “ไม่ต้องเลย คนอย่างกูไม่ขายเพื่อนหรอกเว้ย” จบประโยคคำพูดผมไอ้ไนน์กลับยิ้มแบบน่ากลัวให้ผมแทน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าที่ยังคงรอยยิ้มนั่นเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ   

    “เป็นคนดีจริงนะ” น้ำเสียงประชดนั่นยิ่งทำให้ผมกลัว  นี่มันจะทำอะไรของมันเนี่ย ใบหน้าสวยที่ตอนนี้แทบจะชิดติดใบหน้าผมอยู่แล้วทำเอาผมต้องเอนหนีจนหลังติดกับประตูรถ แต่ไอ้ตัวร้ายยังไม่วาย ดึงเสื้อผมให้เข้าไปหามัน เฮ้ย เอาไอ้ไนน์คนเก่ากูกลับมานะ สายตาที่มนัมองผมตอนนี้เหมือนมันจะกินผมมากว่าเลยอ่ะ ไม่จริงงงง เมียกูเปลี่ยนไป

    “แน่ใจนะว่าจะไม่บอก” เสียงแผ่วเบาที่พูดอย่างช้าๆที่ดังขึ้นใกล้ใบหู พร้อมกับลมหายใจเบาๆที่กระทบกับด้านข้างของใบหน้ายิ่งทำให้ผมต้องใช้ความพยายามในการอดทนมากขึ้น  ไม่มีทาง ผมต้องไม่หลงกลนี้เด็ดขาด อย่ามายั่วกูนะเว้ย

    “กะ..กู มะ..ไม่รู้” ผมเค้นเสียงตอบออกมาอย่างลำบาก ผมเบนสายตาตัวเองหันหนีไปทางอื่น เวรเอ้ย ทำไมเวลาแบบนี้คนมันหายไปไหนหมดวะ ผมกำลังโดนต้อนจนมุมหรอเนี่ย

    “หืม จริงอ่ะ ถ้างั้นทำไมไม่มองหน้า”  มือที่ดึงเสื้อผมอยู่กลับกลายไปพาดบนบ่าของผมแทนในขณะที่มืออีกข้างกำลังจับแก้มของผมให้หันมาช้าๆ อย่านะเว้ย แม่ง เดี๋ยวกูใจอ่อนนะ

    “มะ...มึงเล่นเชี่ยไรเนี่ย”  ผมถามมันออกไป แต่มันกลับหัวเราะผมแทนซะงั้น

    “หึ ก็มึงไม่ยอมบอกกูดีๆนี่” มึงก็เลยมายั่วกูแทนเนี่ยนะ เชี่ย!

    “ก็กูไม่รู้จริงๆนี่” สายตาของมันที่มองมาที่ผมตอนนี้แทบจะฆ่าผมทั้งเป็นอยู่แล้วเนี่ย ผมว่าแล้วไง ไอ้ไนน์ไม่มีทางยอมผมง่ายๆหรอก เรื่องเมื่อคืนมันมีนัยแอบแฝงจริงๆด้วย ถ้าจะถามว่ามีอะไรแอบแฝงงั้นหรอ ก็การที่ผมโดนมันต้อนจนมุมง่ายๆที่ไงเล่า นอนกับผมคืนเดียวทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย  เมียกูชักจะแรงเกินไปแล้ว

    “หึหึ ถามครั้งสุดท้ายนะเซนท์ วิคเตอร์อยู่ไหน” มือที่จับอยู่ข้างแก้มเลื่อนมาอยู่ที่ข้าง ไอ้ไนน์ใช่นิ้วโป้งลูบที่ริมฝีปากผมไปมาอย่างแผ่วเบา

    “.......”  ถ้าตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้วจูบมันขึ้นมาแปลว่าผมแพ้ในเกมนี้ใช่ไหม แล้วคนอย่างไอ้ไนน์ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่ โอย ปวดหัวเว้ย คนหนึ่งก็เพื่อน คนหนึ่งก็เมีย

    “หืม  ว่าไง”  อย่ามายั่วกูนะเว้ย!! ผมไม่รู้ไอ้ไนน์ไปเอาความกล้าแบบนี้มาจากไหน แต่ที่แน่ๆ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะกลายเป็นผมเองเนี่ยแหละที่ต้องแพ้เต็มๆ

    “ไม่รู้” ไม่ได้ๆ ผมต้องใจแข็งเข้าไว้ ผมสัญญากับไอ้วิคเตอร์ไว้แล้วนี่

    “โกหกไม่ดีนะเซนท์” เสียงหวานที่กรอกหูผมอยู่นี่อย่างกับยาพิษเลยอ่ะ ผมจะทำยังไงดีเนี่ยในเวลาแบบนี้น่ะ  งือ ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!

    “ไปกับเพื่อน” ผมตอบออกมาเสียงเบาที่เรียกได้ว่าเบามากๆ ถ้าไม่อยู่ใกล้ผมขนาดไอ้ไนน์ตอนนี้ไม่มีทางได้ยินแน่ๆ  ไอ้ไนน์ยิ้มกล้างออกมาทันทีที่ผมตอบมัน

    “เพื่อน....ใคร แล้วไปที่ไหน” ไอ้ไนน์ถามผมต่อ  เห็นกูยอมทีนี่ถามซ้ำเลยนะมึง

    “อันนี้กูไม่รู้จริงๆ” เพื่อนมันมีตั้งหลายคนแล้วผมจะไปรู้ไหมว่ามันไปกับใครน่ะ ไอ้ไนน์ทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนจะยิ้มให้ผมอีกรอบ  สัส ยิ้มเยอะไปละมึง

    “หึ แค่นี้แหละ” มันบอกผมแล้วกลับเข้าที่เดิมโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ่าว เชี่ย หลอกกูนี่

    “เฮ้ย!!” ผมอุทานออกมาทันทีที่มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก 

    “อะไร คิดอะไรของมึงอยู่เนี่ย  ไอ้เด็กหื่น”  ไอ้ไนน์หันมายิ้มอย่างผู้ชนะให้ผม

    !!!!   อึ้งสิครับ นี่ผมกลายเป็นตัวอะไรเนี่ย โดนหลอกง่ายๆเลยหรอ ผมหันไปมองไอ้ไนน์อย่างแค้นๆ แล้วเอามือปิดหน้าตัวเองแล้วเอนหลังพิงกับเบาะรถไป น่าอายชะมัด

    ไอ้ไนน์ต่อสายถึงไอ้พาสต้าแน่ๆตอนนี้

    เออ กูเอง ไอ้เซนท์บอกไอ้วิคเตอร์ไปกับเพื่อนอ่ะง่ะ ไอ้วิคเตอร์ กูขอโทษ

    กูไม่รู้ ไอ้เซนท์ก็ไม่รู้.....เออ  มันไม่โกหกหรอกน่า

    เออๆ แค่นี้นะไอ้ไนน์วางสายจากไอ้พาสต้าแล้วหันมาหาผม

     “ทำไม ผิดหวังขนาดนั้นเลยหรือไง” ไอ้คนแก่นิสัยไม่ดี ไม่ต้องมาเยาะเย้ยเว้ย

    “หึ”  ผมเลือกที่จะไม่มองหน้ามัน ใครจะง่าผมง้องแง้งก็ช่าง แต่ตอนนี้เคืองจริงเว้ย

    “โด่ ไอ้เด็กน้อยเอ้ย” ไอ้ไนน์พูดแล้วอยู่ๆมันก็ดึงเสื้อผมเข้าไปหามันอย่างเร็วแล้วใช้ริมฝีปากของมันทาบลงบนริมฝีปากผมในทันที เหมือนเวลาจะเดินช้าเหลือเกิน ผมที่กำลังอึ้งเพราะตั้งตัวไม่ทันถึงกับนิ่งไป กว่ารู้ตัวอีกที ไอ้ไนน์ก็ผลักผมกลับที่เดิมแล้ว

    “พอใจยัง” แม้มันจะเป็นคนเริ่มก่อน แม้จะเป็นเวลาเพียงสั้นๆแต่ผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกแฮะ ยิ่งกว่าตอนที่ผมจูบมันเองเสียอีก แต่ทว่าเมื่อหันไปผมกลับเห็นมันหน้าแดงเองซะงั้น แปลว่าที่มึงทำๆไปนี่สรุปแล้วโคตรอายใช่ไหมเนี่ย กูก็นึกว่าแน่แค่ไหนกัน

    “หึ รอกลับถึงบ้านก่อนเถอะมึง”  ผมบอกกับมันอย่างคาดโทษ

    “เชี่ยไรมึงล่ะ” ไอ้ไนน์หันมาแว้ดใส่ผมทันที  ถึงตากูบ้างล่ะนะ

    “ยั่วกูดีนักนะ สงสัยวันนี้ต้องชุดใหญ่ว่ะ”  มึงเป็นคนเริ่มก่อนเองนะ หนอยแน่ เมื่อกี้ทำซะกูเสียฟอร์ม แม่ง กูก็นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็แค่แมวขู่ ยั่วกูอยู่ตั้งนาน

    “หุบปากไปเลย สัส” ไอ้ไนน์เลือกที่จะไม่ต่อความ รีบสตาร์ทรถแล้วขับออกไปทันที ยั่วคนอื่นก่อนแท้ๆ พอเขาจะตอบแทนคืนเสียหน่อยก็ทำมาเป็นเลี่ยงซะงั้น หึหึ

     

    [Pasta]

              เออๆ แค่นี้นะ

    ครับผม  ผมพึ่งวางสายจากพี่ไนน์หลังจากที่รอคอยคำตอบอยู่นาน เวลานี้ผมกำลังรอไอ้วิคเตอร์ตามนัดที่ผมให้มันไว้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่โหล่หน้ามาสักที ผมเลยเลือกที่จะโ ทรถามพี่ไนน์ เพราะผมคิดว่าไอ้เซนท์ต้องรู้เรื่องแน่ๆ แต่แล้วมันก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ ไอ้วิคเตอร์หนีนัดไปจริงๆด้วย ผมคิดว่าคนอย่างมันน่าเรียนรู้อะไรได้บ้างแล้วนะ แต่มันก็ยังดึงดันอยู่ดี ทั้งๆที่มันน่าจะรู้ว่าการหนีผมนั้นไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยแท้ๆ แค่ยื้อเวลาออกไปหน่อยเดียวเอง แต่สิ่งที่มันจะได้รับหลังจากที่ผมเจอตัวมันอล้วนั่นต่างหาก ที่มันควจะคิดถึงมากกว่าที่จะมาหนีผมไปแบบนี้   ช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักจำเลยจริงๆ

    “ถ้ามึงคิดว่าหนีได้ก็หนีไป แล้วอย่ามาหาว่ากูใจร้ายละกัน”    ผมพูดออกมาลอยแล้วหันหลังกลับขึ้นรถไป เอาเป็นว่าวันนี้ผมล้มเหลวในการตามหาเจ้าตัวแสบนั่นละกัน แต่คอยดูเถอะยังไงก็ไม่มีทางรอดหรอก ผมคงจะหวังมากเกินไปที่จะให้มันเดินมาหาผมเองเนี่ย ผมเลือกที่จะไม่สนใจสายตาของใครหลายๆคนที่กำลังมองมา แน่ล่ะ ตอนเรียนอยู่ผมออกจะดังนี่ แล้วขับรถจากไป ชิ วันนี้หมดอารมณ์จริงๆอ่ะ ว่าจะดีด้วยสัดหน่อย ไอ้เด็กบ้านี่ดันทำให้อารมณ์เสียซะได้

     

    ผมว่าผมคงไม่เจอมันง่ายๆหรอกถ้ามารอมันอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนเดิมอ่ะนะ วันต่อมาผมเลยเลือกที่จะใช้ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ เพื่อจัดการปราบพยศเจ้าเด็กแสบตัวดีนี่เสียหน่อย แต่คนอย่างผมไม่ทำอะไรที่มันซับซ้อนมากนักหรอก ในเมื่อมันไม่ออกทางประตูโรงเรียน ผมก็ดักรอมันซะที่จอดรถมันเลยเนี่ยแหละ ตอนนี้รถลูกรักของมันอยู่ในระดับสายตาที่ผมมองเห็นได้

    “เหอะ คิดว่าจะตามจับคนอย่างกูได้หรือไง” มาแล้วครับ เสียงที่คุ้นเคยดังแว่วมาเลย   

    “แล้วมึงก็ไปมีเรื่องอะไรกับไอ้พาสไว้เนี่ย มันถึงต้องมาตามหามึงอ่ะ” แต่อีกเสียงที่มาด้วยกันผมไม่คุ้นเลยแฮะ แต่พอสองคนนั้นเดินมาในระยะสายตาผมเท่านั้นแหละ ออ ไอ้เซนท์นี่เอง ผมต้องรู้จักมันอยู่แล้ว ก็ผมสนิทกับพี่ไนน์ออกตั้งขนาดนั้น 

    “มึงอย่ารู้เลย แค่เรื่องงี่เง่าน่ะ” ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเลยว่าผมจอดรถรออยู่ตรงนี้ มันก็น่าอยู่หรอก ไอ้วิคเตอร์เคยเห็นรถผมแบบจังๆเสียที่ไหนล่ะ ไม่แปลกที่มันจะไม่จำ 

    “งี่เง่าเลยหรอ ไอ้ตัวร้าย” ผมพูดออกมาเบาๆในรถ เพราะประโยคของมันเนี่ยแหละ 

    “แต่มึงทำไมบอกพี่ไนน์ไปวะว่ากูไปกับเพื่อนน่ะ” ไอ้วิคเตอร์กันมาคาดคั้นเพื่อนมัน 

    “ก็กูบอกแล้วไง มันผิดพลาดนิดหน่อยน่ะ กูเลี่ยงไม่ได้จริงๆ” จะว่าไปผมก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ว่าพี่ไนน์ทำยังไงไอ้เซนท์ถึงยอมบอกน่ะ ไอ้เซนท์ไม่ใช่ยอมฟังใครง่ายๆ  

    “เออ กูจะไม่เอาเรื่องมึงละกัน เพราะยังไงมันหากูไม่เจออยู่ดี”   

    “มึงแน่ใจเกินไปเปล่าเนี่ย ระวังหน่อยเหอะว่ะ” ไอ้เซนท์พูด 

    “โด่ กูนะเว้ย ไอ้วิคเตอร์ซะอย่าง เรื่องแค่นี้ สบาย” มันพูดแบบไม่ใส่ใจจนไอ้เซนท์ๆทำหน้าเอือม ใช่ว่าตัวเองจะเก่งขนาดป้องกันตัวเองได้แท้ๆนะ ยังจะประมาทอีก  

    “เออๆ เรื่องของมึงละกัน กูไปละ”   

    “เออ แล้วเจอกัน” ไอ้เซนท์ขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่ข้างๆแล้วขับออกไป ในขณะที่เป้าหมายของผมกำลังยุ่งกับโทรศัพท์ของตัวเองอยู่   

    “เอาละ กูอยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะทำยังไง” ผมลงจากรถแล้วเดินไปอย่างช้าๆแบบไม่ให้รู้ตัว ที่นี่ไม่ค่อยมีคนหรอก เพราะมันเป็นที่จอดรถที่ค่อนข้างเงียบและอยู่ไกล 

    “วันนี้ไปไหนดีวะ” ไอ้วิคเตอร์พูด ผมว่าตอนนี้มันต้องไล่หาเบอร์คนที่มันกำลังจะนัดออกไปด้วยแหงๆ ผมก้าวเข้าไปหามันช้าๆ 

    “อ่าว ไอ้เซนท์ มึงไปแล้วไม่ใช่หรอ” รู้ตัวด้วยแฮะ แต่ดูเหมือนจะผิดตัวไปหน่อย 

    “เปล่าว่ะ กูมาหามึงต่างหาก” ได้ผล ดสียงขอผมทำไอ้วิคเตอร์ หันขวับทันทีเลย

    “อะ...ไอ้พาสต้า” สีหน้าตกใจของมันนี่ได้ใจผมจริงๆอ่ะ อะไรมึงจะอึ้งขนาดนั้น   

    “ไง ดูสบายดีนะมึงน่ะ” มึงไม่ต้องทำหน้าเหมือนกูจะมาฆ่ามึงขนาดนั้นก็ได้ 

    “มึงมาที่นี่ได้ไง” เป็นคำถามคลาสสิกจริงๆเวลาคนที่ไม่อยากเจอมาฟาถึงที่เนี่ย   

    “แล้วมีป้ายห้ามกูเจ้าหรือไงล่ะ อีกอย่างนะ นี่ก็โรงเรียนกูว่ะ” ไอ้วิคเตอร์อ้าปากค้างพูดไม่ออก ผมว่ามันไม่รู้จริงๆหรือไม่ก็มันลืมอ่ะ แต่ที่แน่ๆ เป็นเรื่องที่มันคิดๆไม่ถึง 

    “สัส กูลืมได้ไงวะ” เสียงพึมพำเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่ผมจะได้ยินอ่ะนะ 

    “มึงมาคิดได้ตอนนี้คงไม่ทันแล้วว่ะ”   ผมพูดกับไอ้วิคเตอร์อย่างผู้ชนะ

    “มึงจะเอาอะไรว่ามา” ไอวิคเตอร์หันมาสู้ต่อรองกับผมแทน เพราะมันคงรู้อยาแหละว่าหนีตอนนี้ไม่ทันแน่ แถมยิ่งถ้าทำตัวมีปัญหาโทษของมันจะยิ่งหนักขึ้น 

    “ไม่ดีเลยน้า มึงคิดว่าตัวเองต่อรองอะไรกับกูได้หรือไง” ผมพูดกับมันอย่างเยาะเย้ย ก็แหงล่ะ ในเวลาแบบนี้มองยังไงไอ้วิคเตอร์ก็จนมุมชัดๆ แล้วมันจะเอาอะไรมาสู้ผมล่ะ 

    “มึงอย่าลีลา ต้องการอะไร” ไอ้วิคเตอร์พูดแล้วทำหน้าเครียด   

    “มึงก็รู้อยู่ กูแค่อยากได้คำตอบ” ผมพูดย้ำเตือนในสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว 

    “คำตอบคือไม่ พอใจมึงยัง” มันตอบผมมาอย่างรวดเร็ว ไอ้เวรนี่ไม่คิดเลยนี่หว่า 

    “ถ้าเป็นเมื่อวานกูคงรับฟังมึงอยู่แหละ แต่เสียใจด้วยว่ะ เวลามึงหมดแล้ว” ผมพูดด้วยสีหน้าที่ดูยังไงกู้ว่าเสแสร้งเสียใจ จนไอ้วิคเตอร์มองผมอย่างระแวง

    “หมายความว่าไง” มันถาม พร้อมกับขาที่เริ่มจะก้าวถอย 

    “ง่ายๆ ไม่ว่ามึงจะตอบว่าอะไร วันนี้มึงก็ต้องไปกับกูอยู่”

    หมับ !!   

    “เฮ้ย!!” ไอ้วิคเตอร์ร้องทันทีที่ผมคว้าแขนดึงตัวมันเข้ามา 

    “ปล่อยนะเว้ย กูไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ” มันร้อง ในขณะที่ผมกำลังลากมันไปที่รถของผม

    “หึ กูกับมึงมีเรื่องต้องคุยกันว่ะ” แล้วผลักมันติดกับประตูรถ 

    “ระ.. เรื่องเชี่ยไรมึง” มันพูดอย่างกลัวๆ ในขณะที่ผมยิ้ม  แล้วพูดกับมันด้วยเสียงเบา 

    “รำลึกความหลังของเราไงจ๊ะ ที่รัก”  ไอ้วิคเตอร์ทำท่าตกใจสุดขีดกับคำพูดนั้น

    “ว่าไงนะ ไม่เอานะเว้ย  เฮ้ย” ผมไม่ปล่อยให้มันได้เถียงอะไรต่อ จัดการเปิดประตูรถด้านหลังแล้วผลักมันเข้าไป  ผมจับกดไอ้ตัวร้ายลงกับเบาะรถ เนกไทชุดนักศึกษาผมกลายเป็นเชือกมัดมือไอ้วิคเตอร์แทน ขืนผมปล่อยมือมันเป็นอิสระ มีหวังมันหนีผมอีกแน่ๆ

    “อ่าวเฮ้ย เชี่ยพาส มัดกูทำไมเนี่ย” ไอ้วิคเตอร์พยายามดิ้นสุดแรงทำให้ผมต้องมัดแน่นกว่าเดิมจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีทางหลุดออกมาได้แน่ๆ   

     “หึ แล้วถ้ากูให้มึงไปกับกูดีๆ มึงจะไปไหมล่ะ” ผมพูดแล้วจ้องมันหน้าเครียด 

    “ไม่มีทาง!! กูไม่มีธุระอะไรกับมึง” ตัวเองโดนมัดอยู่แล้วยังจะปากดีได้อีกนะ 

    “มึงมีหรือไม่มี ยังไงก็ต้องไปกับกูอยู่ดี” ผมบอกมัน เรื่องอะไรผมต้องฟังมันด้วยล่ะ 

    “ไอ้เลวเอ้ย มึงคิดจะทำอะไรกันแน่” คนตัวเล็กกว่าพูดอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งๆที่ตัวเองเสียเปรียบอยู่เห็นๆ ทำเอาผมถึงกับยิ้มออกมา ฤทธิ์เยอะจริงนะมึง 

    “เดี๋ยวก็รู้” ผมก้มลงหอมแก้มไอ้วิคเตอร์อย่างเร็ว ทำเอาไอ้ตัวร้ายบิดหน้าหนีทันทีที่ผมโดนมัน เล่นตัวดีนัก ผมเลยจัดการหอมแก้มมันไปอีกข้าง มึงหันหลบก็กูหอมอีกข้างอ่ะ 

    “อื้อ ..ไอ้โรคจิต!!” ผมไม่สนใจกับคำด่านั้น แถมยังมองอีกคนอย่างล้อๆ   

    “ด่ากูไปเหอะ มึงจะปากเก่งได้ก็แค่เวลานี้ล่ะว่ะ” ผมพูดทิ้งท้ายแล้วเลื่อนตัวเองออกมาจากรถด้านหลัง แล้วรีบย้ายตัวเองไปที่นั่งคนขับทันทีพร้อมล็อคประตู มือมัดกันแบบนั้นคิดว่าจะทำอะไรได้เร็วนักหรือไง ผมหันไปมองไอ้ตัวเล็กด้านหลังรถที่กำลังพยายามเปิดประตู ผมเลยรีบสตาร์ทรถแล้วเร่งเครื่องออกไปทันที ทำเอาคนข้างหลังถึงกับล้มไม่เป็นท่าเพราะแรงเหวี่ยง 

    “ไอ้เชี่ยเอ้ย!!” ไอ้วิคเตอร์สบถด่าผมดังลั่น รถยังคงวิ่งต่อไป มันยังคงพยายมที่จะเปิดประตูให้ได้ แต่ก็โดนผมแกล้งขับรถแบบเลวร้าย จนมันล้มอยู่หลายตครั้งเลยทีเดียว มือสองข้างที่โดนมัดอยู่ทำเอามันเสียสมดุลร่างกายไปเยอะทีเดียว แถมไม่พอยังยึดเกาะอะไรไม่ได้อีก    

    “มึงจะพากูไปไหนเนี่ย” มันถามผมเสียงดัง หลังจากที่มันคงเริ่มสังเกตแล้วว่ามันช่างเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเอาซะเลย ทั้งไม่ใช่ทางบ้านมันหรือบ้านผม 

    “นั่งเงียบๆ ไปเหอะมึง พูดมากเดี๋ยวกูจอดรถข้างทางแล้วจัดการมึงในรถนี่เลยดีไหม” ผมพูดครับ ไอ้วิคเตอร์เงียบไปทันทีเลย หึ พอจะรู้ชะตากรมตัวเองแล้วใช่ไหม

    “อะ...ไอ้พาส  มะ...มึงคิดจะทำอะไร” มันถามผมเสียงติดขัด เริ่มไม่แน่แล้วนี่หว่า 

    “กูบอกแล้วให้มึงเชื่อฟังกูดี ดันเสือกหนีกูเองนะ”  เด็กดื้อก็ต้องโดนลงโทษสิ คิดไรมาก 

    “มะ...ไม่เกี่ยวกันเหอะว่ะ กูกับมึงไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมกูต้องฟังมึงด้วย” 

    “นั่นไงล่ะ คนอย่างมึงนี่ไม่สำนึกในสถานะตัวเองจริงๆด้วย” ผมพูดแบบไม่พอใจนิดๆ

    “หมายความว่าไง” ยังมีหน้ามาถามกูอีกเนาะ ไอ้ตัวร้ายเอ้ย

    “กูกำลังจะพามึงมารำลึกความหลังไงล่ะ จะได้ไม่ลืมง่ายๆอีก” รอยยิ้มชั่วร้ายถูกระบายออกมาบนใบหน้าของผม  วันนี้คงมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่ๆ

    “มึงจะทำอะไรกู!!” ไอ้วิคเตอร์ถามผมเสียงดัง แต่ผมเลือกเงียบไม่ตอบมัน มันเลย

    “เฮ้ย!! ทำเชี่ยไรมึงเนี่ย ปล่อยนะเว้ย” ไอ้วิคเตอร์กระโจนตัวจากข้างหลังเข้ามาจับพวงมาลัยรถไว้ ทำเอาผมเสียการควบคุม รถถึงกับปัดป่ายไปมาอย่างน่ากลัว 

    “จอดรถเลยนะมึง” เสียงมันขู่ผมในขณะที่ยื้อแย่งกันอยู่ ผมเลยตัดสินใจเหยียบเบรกทันที ด้วยแรงเบรกทำให้ไอ้วิคเตอร์ที่ยังอยู่ในท่าที่กระโจนจากข้างหลังเสียหลักหลุดออกจากการแย่งพวงมาลัยทันที มันร้องโอดครวญออกมาเพราะโดนแรงกระแทกไปเยอะเหมือนกัน

    “สมน้ำหน้า กูบอกให้อยู่เฉยๆ เสือกไม่ฟังเอง” ผมหันไปเยาะเย้ยมันที่ล้มไม่เป็นท่าอยู่

    “โอ๊ย...เจ็บ” ไอ้วิคเตอร์เอามือจับส่วนที่โดนกระแทกเพราะแรงเบรกแล้วร้องออกมา  สภาพของมันตอนนี้จะใก้อธิบายว่างยังไงดีล่ะเหมือนกับมันกำลังนอนพาดรถตามยาวยังไงอย่างงั้นเลย ตัวมันลงไปกองที่เบาะหน้าข้างคนขับเรียบร้อย แต่ขามันยังอยู่ข้างหลังอยู่เลยอ่ะ

    “หึ ดื้อนักใช่ไหม” ผมเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทาง แล้วหันยไปจัดการกับขาของไอ่ตัววุ่นวายโดยการใช่เข็มขัดมันนั่นแหละ ไอ้วิคเตอร์ถึงกับร้องห้ามลั่นเลยตอนที่ผมถอดเข็มขัดมันออกมา

    “ไอ้เชี่ย มึงจะทำอะไรเนี่ย ถอดเข็มขัดกูทำไม!!” ผมทำหน้าโหดใส่มันก่อนจะบอก 

    “แล้วใครใช้ให้มึงอยู่ไม่นิ่งเองล่ะวะ” พันธนาการที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ไอ้ตัวร้ายเริ่มดิ้นอีกครั้ง นี่มึงจะแรงเยอะไปไหนวะเนี่ย ไม่เหนื่อยหรอไง ดิ้นอยู่ได้ 

    “เฮ้ย ปล่อยกูเลยนะเว้ย เล่นโง่ไรมึงเนี่ย” แหงล่ะครับ ผมไม่เอามันคืนที่เดิมมพอแถมยังมัดมันเพิ่มอีก มึงนอนพาดอยู่แบบนี้กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะซ่าส์อะไรได้อีกไหม 

    “หุบปากแล้วอยู่เฉยๆซะ” พอมัดเสร็จผมก็ขับรถต่อไปจนถึงจุดหมาย โดยที่ไอ้วิคเตอร์พยายามขยับตัว แต่เพราะที่แคบขนาดนั้นทำให้มันยิ่งเจ็บตัวเองมากกว่า เมื่อรถเริ่มเลี้ยว มันก็ทำตาตื่นตกใจทันทีที่เห็นป้ายแล้วผมเลี้ยวเข้ามาจริงๆ เพราะที่ๆผมพามันมาน่ะหรอ หึหึ 

    “ไอ้ชั่ว มึงพากูกลับไปเดี๋ยวนี้นะ” คอนโดของผมเองแหละแค่มาคนละทางกันกับที่มันเคยมา คนเคยมาแค่ครั้งเดียว มันจะไปรู้ทางเยอะเท่าเจ้าของได้ยังไงล่ะ แม้มันขยับตัวไม่ได้แต่ปากนี่ไม่ลดละเลยจริงๆ  ผมขับเข้าไปยังช่องที่ว่างอยู่ พร้อมกับตอบคืนมันไปด้วย

    “หึ กูทำแบบนั้นก็โง่ดิวะ” ผมเปิดประตูแล้วลงรถ ไปเปิดประตูอีกฝั่ง เอนเบาะที่นั่งข้างคนขับ เพื่อเอาไอ้คนตัวเล็กออกมาได้สะดวก แต่ไอ้วายร้ายดันพยายามจะกลิ้งหนีซะนี่

    “เล่นเชี่ยไรมึงน่ะ ที่ไม่ใช่จะเยอะนะสัส ลงมาได้แล้ว” ผมฉุดกระชากลากถูไอ้วิคเตอร์ลงจากรถอย่างลำบาก มึงจะดิ้นทำห่าไรมึงวะ ทำตัวแม่งวุ่นวายจริงโว้ย 

    “ปล่อยกูลงนะเฮ้ย ไม่เอานะเว้ยไอ้เชี่ยพาส” มันโวยวายดังลั่นทันทีที่ผมแบกมันขึ้นบ่า   

    “เรียกกูเพราะเหลือเกินนะ แบบนี้มันน่าปล่อยหรือไง” ผมปิดประตูรถแล้วเดินแบกมันขึ้นไปทั้งอย่างนั้นอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของอีกคน ผมแบกมันได้สบายๆ ตัวมึงนี่จะเบาไปไหนวะ แม้มันจะโวยวายมาตลอดทางแต่ผมก็ไม่ปล่อยมันหรอก และไม่มีใครสนใจมันด้วย ทำไมน่ะหรือ ก็ที่นี่มันถิ่นผมนี่ ผมแบกมันมาจนถึงที่ห้องของผม

    ตุบ !!

    “โอ๊ย” ผมโยนมันลงบนเตียง ไงล่ะ สุดท้ายก็ต้องเจ็บตัวอีกตามเคย  ผมตามขึ้นไปคร่อมไอ้วิคเตอร์ทันที แล้วจับมือของมันที่โดนมันกดไว้เหนือหัวมัน

    “ไอ้พาส!!  อื้อ” ไอ้วิคเตอร์เรียกชื่อผม ไม่รุ้เหมือนกันว่ามันจะพูดอะไร จะด่าผมหรือขอร้อง แต่ผมไม่อยากได้ยินเลยจัดการปิดปากมันอย่างหนักหน่วง ลิ้มร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากแล้วกระหวัดเล่นอย่างโหยหา ยิ่งวันนี้มันมาในชุดนักเรียนอีกด้วย น่ารักชะมัด ใครอดใจอยู่นี่แม่งก็ตายด้านแล้ว มืออีกข้างที่ว่างของผมเริ่มจัดการปลดกระดุมเม็ดแรกของเสื้อนักเรียนสีขาว ทำให้คนข้างใต้ดิ้นสุดแรง แต่เพราะโดนมัดอยู่ เลยทำให้แรงนั้นไม่เป็นผลอะไรเลย 

    “อื้อ...อะ..ไอ้ โรคจิต ยะ..หยุดเลยนะ!!” คนตัวเล็กกว่าร้องห้ามผมด้วยแรงหอบ ทันทีที่ผมถอนจูบออกมา ใบหน้าที่เริ่มแดงซ่าน เพราะการออกแรงยิ่งทำให้มันกดูน่ารักเข้าไปอีก   

    “หึ พูดเหมือนมึงไม่เคยโดนงั้นแหละ” ผมพูดเตือนมัน แต่ดูจะเป็นการตอกย้ำมากกว่า 

    “มะ...มึง  ไอ้เลว!! ....อื้อ...” ปากเล็กที่เริ่มจะด่าผมอีกแล้วนั่นโดนปิดไปอีกรอบ ด้วยริมฝีปากของผม ซึ่งรุนแรงกว่าเดิม และเนิ่นนานกว่าเดิม ยิ่งปากเก่งแบบนี้ต้องยิ่งสั่งสอนให้มาก  จนมันหยุดดิ้น ผมจึงถอนริมฝีปากออกมาแล้วจ้องมองมันที่นอนหอบแฮกอยู่ใต้ร่างผม

    “มึงด่าดูมึงก็โดน” ผมบอกมันอย่างเหนือกว่า พอผมเห็นมันเริ่มจะปากอีกรอบก็ไม่รอช้า

    “ยะ..อย่านะเว้ย อะ..อื้อ” ผมซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวของมัน กลิ่นหอมจางๆจากตัวไอ้วิคเตอร์ยิ่งทำให้ผมเริ่มจะหยุดๆไม่อยู่  ริมฝีปากของผมกดลงบนลำคอขาว จนเป็นรอย 

    “อ๊ะ...มะ..ไม่นะ อ๊า..” มือของผมลูบไล้ไปตามร่างบางโดยมีเพียงเสื้อนักเรียนสีขาวกั้นอยู่ระหว่างมือผมกับผิวหนังของมัน   แล้วเลื่อนลงต่ำมาเกาะเกี่ยวอยู่ที่ขอบกางเกง

    “ไอ้พาส!! ปะ..ปล่อยกูไปเถอะนะ” เสียงมันเริ่มอ่อนลงจนสังเกตได้ ผมเลยเงยหน้าขึ้นมามองมัน ใบหน้าที่ขึ้นสีอย่างน่ารัก กับปากที่เผยอออกนิดๆเพราะต้องการอากาศ ยิ่งได้ใจผมไปอีก แต่ทว่านัยน์ตาสวยที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำนองมาแล้ว และคงจะหยดลงมาในอีกไม่ช้า   

    “มึงจะร้องไห้ทำไมเนี่ย สัส ไม่ใช่ครั้งแรกของมึงสักหน่อย”  ผมบอกไอ้วิคเตอร์ แต่ไอ้คนตัวเล็กกลับหันหน้าหนีผม แล้วก็เป็นจริงด้วย น้ำตาหยดลงมาทันที  

    “กูขอร้อง อย่าทำอะไรกูอีกเลยนะ” มันหันหน้ากลับมาเผชิญหน้าผมแล้วพูด 

    “ขอร้องกูงั้นหรอ แล้วทำไมทีกูขอมึงดีๆมึงไม่ฟังกูบ้างล่ะ” ผมเริ่มทวงสิทธิของตัวเองบ้าง ผมก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่ในเมื่อมันเป็นคนดื้อกับผมก่อนเอง  ผมก็เลยต้องทำ

    “แล้วมีไหมที่มึงจะไม่คิดเอาเปรียบกูอ่ะ” ไอ้วิคเตอร์ย้อนถามผม เล่นเอาผมสะอึก มันก็จริง เพราะเจอหน้ากันทีไรมันต้องโดนผมเอาเปรียบไปทุกครั้งเลย

    “มึงก็แก้แค้นกูไปสมใจมึงแล้วนี่ จะเอาอะไรจากกูนักหนา” ร่างเล็กเริ่มพูดด้วยเสียงสะอื้น โอย ผมไม่น่าเงยหน้ามามองหน้ามันเลยเนี่ย เพราะมันทำให้ผมเห็นน้ำตาของมัน ไม่รู้เพราะอะไรแต่หลังๆมาผมกลับไม่กล้าทำกับมันแบบที่ผมทำครั้งแรกอีกแล้ว เหมือนผมจะสงสารมันเพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำความทรงจำที่ทำร้ายมันมากๆ

    “........” ไม่มีเสียงอะไรอีกจากปากของมัน เหมือนไอ้วิคเตอร์จะรอคำตอบผมมากกว่า 

    “กูต้องการมึง!!




    **********************************************************
    จบตอนแล้วครับผม เหอๆ มาต่อจนได้นะเนี่ย 5555+

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×