คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้นของสายน้ำ (นิมิตรความฝัน) รีไรท์แล้วจ้า....
ผมเป็นคนที่เชื่อในเรื่องของโชคชะตา แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ผมศรัทธามากที่สุด ยิ่งกว่าเรื่องใดใด คือ พรหมลิขิตแห่งรัก
คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหมครับ พรหมลิขิตที่ทำให้คนสองคนมาเจอกันและรักกัน ทั้งที่อยู่ไกลแสนไกล ผมฝันว่าเรือลำใหญ่มหึมากำลังจะจม แล้วไม่นานนักมันก็เกิดระเบิด แตกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนของเรือ กระจายไปทั่วผืนน้ำ เสียงผู้คนกรีดร้อง ขอความช่วยเหลือ จนค่อยๆ เงียบเสียงไป ผมเพิ่งรู้ว่าเสียงของคนที่ใกล้จมน้ำตายนั้น เป็นเสียงที่ฟังแล้วสยองหูที่สุด !
"เฮ้ย....เจอศพเจ้าบ่าวไหม ช่วยกันค้นหน่อย...." เสียงหัวหน้าหน่วยกู้ภัย ดังเอะอะ ส่งสัญญาณให้ลูกน้องเร่งระดมกำลัง
พวกเขากำลังเคร่งเครียด กับความเป็นความตายตรงหน้า เพื่อออกค้นหาผู้ที่อาจจะรอดชีวิต และผู้เสียชีวิตที่จมหายไปกับซากเรือ
"โห...สงสัยคืนนี้ จะค้นกันถึงสว่างว่ะ ตายเยอะเหลือเกิน"
"เจอแล้วก็เอาขึ้นมาเลยนะ จะได้เผา"
ศพเจ้าบ่าวถูกลากขึ้นมาจากน้ำ
"ตายสนิทเลยครับ....น่าสงสารเจ้าสาวจังเลย เพิ่งแต่งวันแรกก็หม้ายซะแล้ว"
"หาเจอตัวเจ้าสาวไหม..."
"ไม่เจอครับ เรายังไม่พบศพเจ้าสาวเลย คาดว่าเธอน่าจะตายไปแล้ว !!"
ทันใดนั้นผมก็สะดุ้งตื่นจากฝันร้าย รีบสลัดผ้าห่มออกจากตัวอย่างรวดเร็ว ฝันร้ายยังตรึงตราอยู่ เหงื่อผมแตกพลั่กๆ ผมรู้สึกร่วมไปกับเหตุการณ์นั้น มันน่ากลัว และวังเวงบอกไม่ถูก ภาพผู้เสียชีวิตศพแล้วศพเล่า ถูกทยอยยกขึ้นมาจากน้ำ บางศพก็ถูกเครน-ทับจน บุบบี้ น่าสยดสยอง ผืนน้ำในมหาสมุทร แดงฉานไปด้วยเลือด หลายร่างไร้วิญญาณ แหลกเหลว ลอยเหนือผิวน้ำ กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวล !!....
"เอาเถอะนะ คืนนี้ฝันไม่ดี คืนหน้าก็ต้องฝันดีบ้างละน่า"
ผมเอามือตบสะบักตัวเองเบาๆ แล้วรีบบิดขี้เกียจ เสียงนาฬิกาตีบอกเวลา 6 โมงเช้า ไก่ที่เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน มันขันปลุก มันคงเดาใจผมถูก ว่า ผมไม่อยากลุก เสียงแจ๋วๆเลยถี่ติดกันหลายครั้ง เจ้าไก่มันคงจะคิดว่า ถ้าไอ้หมอนี่ ไม่เดินออกมาแปรงฟันที่ชานบรรได ข้าก็จะขันปลุกกวนโสตประสาทเอ็งแบบนี้แหละ (อยากขี้เซาดีนัก)
ทำไมผมถึงอยากหลับต่อน่ะเหรอครับ อืม...มันเป็นความในใจที่ผมไม่เคยบอกใครเลยนะเนี่ย ใบหน้าสวยหวาน เกินห้ามใจ มีเสน่ห์ของสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ทำให้ผมอยากจะอยู่ในภวังค์ฝันหวานจนเกินงาม ผมคิดว่าการที่จะห้ามใจไม่ให้คิดถึงเธอ มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะในเวลาหลับ มันช่างเป็นเวลาสวรรค์ของผมเสียจริง มันทำให้ผมนึกถึงแต่หน้าเธอเท่านั้น โดยที่ไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางความคิด
สลัดจากฝันร้ายเมื่อคืน นึกถึงโปรแกรมสำคัญที่ใกล้จะมาถึงเร็วๆ นี้ คือ การออกทัวร์ท่องเที่ยว ไปชมทะเลสวยที่กระบี่
"แน่ใจเหรอ...ธารา ว่าแกจะลงไปที่ภาคใต้จริงๆ โบราณเขาว่า ถ้าฝันเห็นอุบัติเหตุ ห้ามเดินทางนะ มันเป็นลาง"
แม้เพื่อนรักจะพยายามเตือนผมด้วยความหวังดี แต่ใจผมมันไม่อยู่กับที่ซะแล้ว ยังไงเสียสิ้นปีนี้ ผมก็ต้องลงไปภาคใต้ให้ได้ ในหัวจิตหัวใจตอนนั้นไม่ได้มีลางสังหรณ์ใดใด นอกจากความอยากจะไปเที่ยวกับแฟน เป็นการพักผ่อนวันหยุดที่น่าจะคุ้มสำหรับเราสองคน เรามีตั๋วฟรี มีคนจัดเตรียมที่พักอย่างดีให้ และที่สำคัญ เราได้เงินก้อนพิเศษมาจำนวนหนึ่ง มันมากพอสำหรับใช้กินใช้เที่ยว ช้อปปิ้งไปได้ตลอดทาง อย่างไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังว่าเงินจะหมด !!
++++++++++++++++++++++++++++++++
นาย กิตติ ไทยขจร หรือ น้องนารีรัตน์ (ชื่อใหม่ที่ผมตั้งให้) คือ แฟนสาวของผมครับ และนั่นเอง คือ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ในใจ คนที่ผมบอกว่า อยากจะฝันถึงเธอไม่ยอมตื่น เพราะเธอสวย น่ารักจริงๆ เธอเป็นกะเทยที่เพียบพร้อมที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ เธอหวานละมุม อ่อนโยน ช่างเอาอกเอาใจ ช่วงนี้ผมต้องดูแล ประคบประหงมเธอเป็นพิเศษ เพราะเธอเพิ่งผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงมาได้เพียง 2 สัปดาห์ เท่านั้น !!
สาเหตุที่เธอยอมทำถึงเพียงนี้ก็เพื่อเอาใจผม เธอจึงยอมตัดอวัยวะเพศชายทิ้ง เพื่อชุบตัวใหม่ ให้กลายเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบ โดยพฤตินัยเพื่อคนรัก อย่างผม
"ธารา ไม่พอใจเหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละคะ"
เสียงเธออ้อนออด ปรารภอยู่บนเตียงนุ่ม กอดผมไว้แนบแน่น ศรีษะเธอนอนหนุนแขนผม แม้จะรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง เพราะไอ้ผมมันก็ทอมปกติ ที่อยากจะมีอะไรกับดี้แท้ๆ รู้ดีว่ารสชาติกามรมณ์ของหญิงแท้กับหญิงเทียม มันต่างกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลัวเธอน้อยใจ คิดมาก
"อ่อ...จ๊ะ ดีจ๊ะ คือว่า....พี่ก็คิดว่ามันเหมือนของจริงนะ อย่ากังวลไป"
ผมตอบ แล้วก้มจูบเบาๆ ที่เรือนผมสวยดำขลับนั้น เรื่องความสวยเรือนร่างอันอวบอิ่ม นารีรัตน์เธอมีทุกอย่างที่สู้ผู้หญิงแท้ระดับนางงามเวทีได้สบาย เพราะอดีตเธอคือสาวประเภท 2 ที่ชนะการประกวดความงามอันดับ 1 มาแล้ว หลายเวทีกะเทย จะว่าไปก็มีชื่อเสียงในแวดวงนี้อยู่ไม่น้อย.....
"ที่รัตน์ทำทุกอย่าง ก็แค่อยากให้ธารได้มีความสุขเหมือนทอมคนอื่นๆ ที่มีอะไรกับแฟนตัวเองได้"
"ตอนแรกรัตน์ทั้งกลัวทั้งเจ็บ แต่มีคุณคอยจับมือรัตย์อยู่ข้างๆ เตียง ก็เลยมีกำลังใจค่ะ"
นารีรัตน์เธอเล่าให้ผมฟัง ถึงขั้นตอนการผ่าตัดแปลงเพศอันน่าระทึก หวาดกลัว สติเธอเริ่มหวั่นไหว ตกประหม่า พลางซุกหน้าอยู่กับอกของผม เหมือนต้องการที่พึ่งพิงและปลอบประโลม
"ธาร... อย่าทิ้งรัตน์ไปหาผู้หญิงแท้ๆ นะคะ รัตย์ยอมสละทุกอย่างเพื่อคุณแล้ว เพราะรักมากรู้ตัวหรือเปล่า..." เธอเฝ้าจูบเบาๆ วนไปวนมา ที่หลังฝ่ามือของผม
"ทอมต้องคู่กับดี้เท่านั้นเหรอ แล้วถ้ากะเทยคนนี้เกิดรักทอมขึ้นมาจริงๆ จะมีสิทธิ์ไหมคะ รักอย่างจริงใจนะ" เสียงเธอสั่นเครือนิดๆ
"เอ่อ...คือว่า เป็นทอมมันก็ต้องชอบดี้เป็นธรรมดา แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านารีรัตน์ ที่รักแสนดีของพี่หรอกนะจ๊ะ" ผมตอบ
ดูเหมือนนารีรัตน์จะไม่มั่นใจในตัวผม เพราะก่อนจะมาคบกับเธอ ผมเคยเพียรเฝ้าจีบดี้ที่สวย น่ารัก คนหนึ่งมาก่อน น้องรัตน์เองก็รู้ แต่มันก็คืออากาศที่ว่างเปล่า ไร้แก่นสารเท่านั้น ไม่มีความประทับใจลึกซึ้งใดใดต่อกัน เพราะดี้สาวคนนั้นเธอเล่นตัว เธอตีค่าความรักของผมเป็นเกมส์และแก้วแหวนเงินทองเกินไป ผมจึงขอถอยห่างไปจากชีวิตเธอคนนั้น โดยไม่ต้องเอ่ยปากร้องขอด้วยซ้ำ
มาเจอกับนารีรัตน์ กะเทยที่มีเสน่ห์ไปทั้งตัว บ้านเราอยู่ซอยไม่ใกล้ไม่ไกลกัน พอเลิกงาน เดินกลับบ้าน ก็เจอกัน ส่งสายตายิ้มให้กันทุกวัน มีไมตรี แบ่งปันน้ำใจต่อกัน ผมช่วยซ่อมรถให้เธอ เธอก็มีน้ำใจทำขนมอร่อยๆ แบ่งมาให้ผมทาน นานวันเข้า ผมก็ตกหลุมรักเธอโดยปริยาย แม้จะโดนเพื่อนๆ ที่เป็นทอมด้วยกัน ดูถูก หัวเราะอย่างเป็นเรื่องตลก ขำขัน เฮฮา แต่ผมก็ไม่แคร์เสียงนินทาจากใคร ยังศรัทธาในรักของตัวเองต่อไป
บ่อยครั้งจะได้ยินเพื่อนๆ ปรารภให้ฟังว่า
"เฮ้อ ! ในโลกนี้มันหาดี้ไม่ได้แล้วเหรอวะ ต้องไปคว้ากะเทยมาทำเมีย ทุเรศที่สุด เสียชาติเกิดมาเป็นทอม เชื่อเหอะ ไม่นานหรอก สวรรค์ล่มแน่นอน นังรัตย์ผู้กะหายรัก อินี่มันต้องไปคว้าผู้ชายมากิน หรือไม่ไอ้ธารเองมันก็ต้องแอบไปหาผู้หญิงยิงเรือ ของมันเคยๆ กันอยู่"
วัวเคยค้า ม้าเคยขี่ กะเทยต้องชอบผู้ชาย ทอมต้องรักดี้ มันบอกผมอย่างนั้น แล้วก็ได้แต่เมินหน้าส่ายหัว เดินจากไปทุกคน ก็จริงอยู่นะครับ แต่ไม่มีใครเข้าใจผมดีไปกว่าตัวผมเข้าใจตัวเอง คุมใจให้เป็นปกติ เราจะนึกถึงแต่รักแท้เท่านั้น อย่าไปสนใจอะไร ต้องหนักแน่น ผมบอกตัวเองอย่างนั้น ที่สำคัญ คือ มีนารีรัตน์อยู่กลางใจผมทั้งคน จะกลัวอะไรอีก
ผมเป็นคนที่ไม่ถือเรื่องเพศเป็นใหญ่ ความรักของผมมันไม่มีข้อจำกัด คิดว่าสิ่งมีชีวิตทุกตนบนสามโลกนี้ ล้วนมีหัวใจรักกันได้อย่างอิสระเสรี ไม่ว่าจะมนุษย์รักกับภูติ เทวดารักกับคนเดินดิน ขอเพียงแค่เป็นรักที่บริสุทธิ์และจริงใจต่อกัน และไม่ทำร้ายผู้อื่นให้เจ็บปวด ก็ถือเป็นรักที่ดีได้ หัวใจผมเติบ เหมือนตะเข้รักวัง ปลารักน้ำ เสือรักถ้ำ ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็ขอตายอยู่กับคนที่ผมรักคนเดียวจริงๆ
ผมนับถือในความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวของเธอ จะมีกะเทยสักกี่คนที่ยอมทำถึงขั้นนี้เพื่อคนที่ตัวเองรัก แต่ผมต่างหากที่กลัวใจตัวเอง ว่าจะรักและเสียสละให้เธอไม่ได้มากเท่าที่เธอทำให้ผม !
"ตอนนี้รัตย์ ก็เหมือนผู้หญิงแท้ปกติคนนึงแล้ว มั่นใจเหอะ ยังไงธารก็รักมากอยู่ดี เหมือนเมื่อก่อน" ผมย้ำคำให้เธอมั่นใจ จุมพิตเบาๆ ที่นิ้วน้อยๆ ของเธออย่างเอ็นดู จับมืออีกข้างมาวางไว้ที่อกอันอบอุ่นของผม
"อืม...หน้าอกเต็ม สวยดีนะ คุณหมอที่ทำเก่งมากจ๊ะ" ผมก้มหน้าลงไปมองที่ใต้ผ้าห่ม กะหยอกเย้าเธอตามประสาคนรักกัน ให้เธอคลายวิตกกังวล จึงทำทะเล้นให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเราสดใส เบิกบาน
"ว้าย..อีตาธาร ลามก แอบดูนมเค้าด้วย ไม่ยอมหรอกย่ะ" เธอหัวเราะเสียงดังสดใส แล้ว รีบลุกจากเตียงนอน บอกผมว่าจะไปอาบน้ำให้สบายตัว
"เดี๋ยวสิ คนดี จะไปไหน ขอกอด ขอหอมให้ชื่นใจก่อน"
ผมรีบลุกตามขึ้นจากเตียง แล้ววิ่งไล่กอดจับเธอไว้ เธอวิ่งหนีผมไปทั่วๆ ห้อง หัวเราะสนุกสนาน เธอดูร่าเริงในความอ่อนหวานนุ่มนวล ความเป็นหญิงเริ่มส่องประกายชัดขึ้นทุกที !
"นี่ไง จับได้แล้ว คนสวย" ผมรวบเธอมากอดไว้กับอก จูบเบาๆ ที่ต้นคอขาวผ่องนั้นอย่างรักใคร่ใหลหลง เรายืนกอดกันที่หน้ากระจกบานใหญ่ ที่เห็นเงาของเราทั้งคู่ได้ถนัดตา
"ธารเอ๋ย...รูปหล่อนักนะ ปากก็หวานด้วย รัตย์ล่ะ กลัวใจจริงๆ คุณจะไปหาหญิงเข้าสักวัน ถ้าเป็นงั้น ตายแน่เชียวนารีรัตน์เอ๋ย...ไม่ใช่เพราะหึงหรอก" เธอเปรย
"ถ้างั้นเพราะอะไรเหรอจ๊ะ บอกธารได้ไหมล่ะ" ผมถามแล้วจูบเคี่ยวเค้นที่ปากแก้มคอ คิ้วคาง ไม้เว้น รักกำลังคลั่งอก รักกะเทยที่ไม่ใช่ดี้ แต่ก็น่ารักและมีเสน่ห์กว่าดี้แท้ๆ เป็นไหนๆ
"เพราะธารมีอะไรบางอย่างที่ทำให้รัตย์กลัวค่ะ ไม่ว่าคุณจะมีเมียใหม่ก็ดี ก็ได้วันไหน รัตย์คงอกแตกตาย เพราะไม่กล้าขัดใจ"
ผมก้มจะจูบที่ริมฝีปากบางสวยนั้นอีก แต่ถูกเธอยกนิ้วปิดห้ามไว้เบาๆ
"พอเหอะค่ะ เนื้อตัวรัตย์ช้ำไปหมดแล้ว ธารารักของคุณมีอิ่มบ้างไหม คุณก็..ทำยังกะ เพิ่งมีเมีย เราไม่ใช่ข้าวใหม่ปลามัน อยู่กันมาก็นานอยู่"
"ธาราไม่เคยอิ่มรัก เพราะให้รักแก่นารีรัตน์จนเต็ม กว้างใหญ่เหมือนธาราสายใหญ่ที่คาดคะเนไม่ได้เลยนะจ๊ะ" ผมตอบเอาใจ นารีรัตน์ ลูบคางของผมเบาๆ
"เอ้า...ไป ! พ่อตัวดี รีบลุกขึ้นไปล้างหน้า อาบน้ำ แปรงฟันซะค่ะ ตัวจะได้หอมๆ เดี๋ยวเราออกไปหาอะไรทานข้างนอกกัน รัตย์จะแวะไป บ. ทัวร์ ไปเอาตั๋วด้วยค่ะ"
เธอรีบดันหลังผมให้ไปเข้าไปในห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่ริมหน้าต่างห้องส่งให้ผมหนึ่งผืน พร้อมสบู่ก้อนใหม่เพิ่งแกะจากห่อ ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง น่าดอมดม ไม่แพ้ผิวสาวของเธอ
"เนี่ย.... ผืนใหม่เอี่ยมเลยนะ ลูกค้าเพิ่งให้รัตย์มา รัตย์อยากใช้แต่ให้ธารใช้ แล้วก็ เอ่อ...นี่สบู่จากฝรั่งเศสค่ะ หอมมากๆ ลูกค้าให้มาอีกเหมือนกัน"
น้องนารีรัตน์ ถูกอบรมให้เป็นไก๊ด์นำเที่ยวในครั้งนี้ เธอจึงอยากชวนผมไปเที่ยวทะเลที่ใต้ด้วย อันที่จริง บริษัททัวร์แห่งนี้ ก็เป็นบริษัทที่เธอเพิ่งเข้ามาสมัครทำงานได้ไม่เท่าไหร่นี่เองครับ
ความคิดเห็น