ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark rain : สาปสายฝน (ภาค 1-4)

    ลำดับตอนที่ #34 : เลือด&น้ำตา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 147
      9
      29 เม.ย. 63

    แค๊ก แค๊ก แค๊ก!”  ฉันค้อมตัวไอโขลกๆ น้ำตาเล็ด พลางเอามือทั้งสองข้างยันเข่าก่อนจะรีบสูดเอาอากาศตักตวงเข้าปอด ยกมือขวาขึ้นปาดเหงื่อบริเวณหน้าผากหายใจหอบด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ยื้อชีวิตจนแทบจะล้มทั้งยืน

    ปล่อยนะ ปล่อยนะคุณ ปล่อยน้าสายทิพย์ที่นอนกองอยู่บนพื้นตะคอกเสียงแหบห้าวและพยายามผลักไสร่างผอมซูบเซียวจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกของพ่อที่โถมทับบนกายเธออยู่ให้ออกไปพ้นตัวด้วยความขยะแขยง 

    ไม่…!” เขาตวาดกลับพร้อมกับใช้ขาตนเองเกี่ยวขาเธอเอาไว้แล้วยื่นสองมือไปจับยึดต้นแขนอันบอบบางนั้นไม่ให้ลุกหนี ไหนคุณบอกว่ารักผมไงที่รัก แค่ผมป่วยแค่นี้ก็รังเกียจเดียดฉันท์กันเลยรึ พ่อตัดพ้อพลางแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย

    ริณหนีไปไม่ต้องห่วงพ่อ เร็วเข้า ท่านผินหน้ามาบอกพวกเราที่กำลังยืนตะลึงงันแว้บหนึ่ง ก่อนจะไอระรัวออกมาอย่างระงับไว้ไม่อยู่ทำให้น้ำลายกระเซ็นกระซ่านใส่เจ้าของใบหน้าสวยแต่จิตใจกลับมืดดำอำมหิตนั้นเต็มๆ จนเธอกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งดวงตากลิ้งกลอกเหลือกลานด้วยความหวาดผวา

    กรี๊ดดด ป้อม ช่วยฉันด้วย!”  

    ป้อม ช่วยทิพย์ด้วย เอาเค้าออกไป ออกไป!”

    เอกกับแก้วมองหน้ากันไปมาเลิกลั่กราวกับกำลังแลหาเจ้าของชื่อแปลกๆ คนนั้นอยู่ จนเห็นผู้ใหญ่บ้านปรี่เข้าไปดึงตัวคุณพ่อออกมาถึงได้รู้ความกัน

    กร พอได้แล้วอย่าทำแบบนี้

    ร่างผอมแห้งไร้เรี่ยวแรงของเขาแทบจะปลิวติดมือคุณอาขึ้นมาในทันทีที่อีกฝ่ายออกแรงกระชาก ทว่าพ่อกลับขืนตัวไว้ไม่ยอมลุกตาม

    หะหะหะ ฮ่า ฮ่า ฮ่าท่านซึ่งกำลังยงโย่ยงหยกโดยที่แขนข้างหนึ่งคล้องเกี่ยวกับแขนของอาสุบรรณไว้อยู่หัวเราะร่วนออกมาอย่างซะใจที่แกล้งให้อีกผ่ายหนึ่งอกสั่นขวัญแขวนได้สำเร็จ

    ทิพย์ คนต่อไปก็คือคุณ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณจะต้องตกนรกหมกไหม้ 

    แค่เพียงถ้อยคำสั้นๆ ของท่านที่ตะคอกใส่หน้าแม่เลี้ยง ก็รุนแรงพอที่จะกระตุกกระตุ้นให้คุณน้าสติแตกขึ้นมาอีกหน

    กรี๊ดดด ไม่นะ ไม่ใช่ฉัน ไม่ กรี๊ดดด!” เธอร้องแล้วดิ้นพราดๆ กับพื้นราวกับว่าวาจานั้นเป็นดังคำสาปร้ายที่เธอเกลียดกลัวที่สุดในชีวิต

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  พ่อหัวเราะออกมาหลายต่อหลายครั้งและยิ่งดังขึ้นเมื่อได้เห็นภาพหวาดผวาจนแทบคุ้มคลั่งของผู้ที่เป็นแม่เลี้ยงของฉันอย่างปีติยินดีราวกับได้รอคอยโอกาสนี้มานานแสนนานแล้ว

    นับเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นว่าพ่อที่แสนสุขุมและใจดีเองก็มีมุมร้ายกาจเลือดเย็นอยู่บ้างเช่นกัน

    แต่ทว่าในขณะที่พ่อกำลังลุกยืนขึ้นนั้นเอง ท่านก็เลื่อนมือขวาอันเหี่ยวย่นไปประทับหน้าอกด้านซ้ายของตน สีหน้าระรื่นเย้ยหยันก็พลันเปลี่ยนไปกลายเป็นสะดุดกึกในทันที ราวกับกำลังนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ ก่อนที่เขาจะเปรยออกมาลอยๆ ว่า

    รันช่วยปกป้องลูกแทนผมด้วยนะ

    เสียงอันแหบแห้งของพ่อแม้จะแผ่วเบาแต่น่าแปลกที่ฉันกลับได้ยินมันอย่างถนัดชัดเจน

    และทันใดนั้นภาพอันน่าสะเทือนขวัญและสยดสยองก็ได้บังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเราทั้งหมด เมื่อจู่ๆ ก็มีเลือดสดๆ สีแดงคล้ำไหลทะลักออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ดวงตา จมูก ปาก และรูหู ของท่านจนทุกคนพากันอึ้งตะลึง

    พ่อคะ!”  ฉันร้อง หัวใจแทบหยุดเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้าสายทิพย์ที่นอนแผ่อยู่ใต้ร่างอันผอมแห้งซีดเซียวซึ่งบัดนี้ชโลมไปด้วยเลือดที่ไหลหลั่งลงมาก็กรีดร้องลั่นออกมาระคนสะอึกสะอื้นฟูมฟายด้วยความตกใจ

    กรคุณกร กรี๊ดดด!”

    อ็อกอ๊อกเลือดที่ขับออกมาจากอวัยวะภายในทำให้พ่อมีอาการสำลักโลหิต และหน้าอกเต้นกระเพื่อมขึ้นลงถี่กระชั้น ดวงตาดำเหลือกขึ้นไปด้านบนก่อนจะสำรอกเลือดที่กบไปทั้งปากออกมาเป็นสายอย่างหนักหน่วงราวกับน้ำตก

    พรวดด!”

    น้ำสีแดงข้นคลั่กที่พ่ออาเจียนพุ่งลงมาราดรดไปบนตัวผู้หญิงร่างผอมบางในชุดนอนสีดำนั่นจนเปรอะเปียก บางส่วนก็กระเซ็นไปโดนดวงหน้าขาวๆ ที่กำลังแหกปากร้องโวยวายอยู่จนเปื้อนละอองแห่งความตายเห็นเป็นเส้นเป็นจุด สีแดงชาด

    กลิ่นคาวของมันคละคลุ้งและน่าสะอิดสะเอียนยิ่ง 

    ภาพร่างกายของท่านที่กระตุก หงึก หงึก เส้นเลือดปูดโปนขึ้นใบหน้า และฝ่ามือ  พร้อมกับเสียง อ็อก อ็อกที่ดังเครือออกมาจากลำคออย่างทุกข์ทรมานสะท้อนอยู่ในแววตาฉัน

    หว๋า!” อาสุบรรณรีบกระชากแขนที่คล้องอยู่ออกโดยอัตโนมัติ และปล่อยให้พ่อทรุดกายโถมทับร่างบางที่กำลังตื่นตระหนกนั้นอย่างไม่ใยดี  ก่อนจะกระโดดแผล็วหลบฉากออกมายืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้างๆ

    หือๆผู้ใหญ่บ้านถึงกับครวญครางเสียงกระเส่า กลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ท่านถึงเป็นแบบนี้ 

    ไม่นะ พ่อ ม่ายย!” ฉันกรีดร้องน้ำตาไหลทะลักทลายลงมา รู้สึกรวดร้าวราวหัวใจได้ถูกบดขยี้ให้แหลกเละอย่างไม่มีชิ้นดี  เมื่อเห็นบุพการีอันเป็นที่รักกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความเจ็บปวดย่างแสนสาหัส

    พ่อขา~ฉันเรียกพร้อมกับจะถลาเข้าไปหาท่าน แต่ก็ถูกเอกคว้าข้อมือเอาไว้ก่อน

    ริณอย่า!” เขาร้องเตือน แต่ฉันพยายามสะบัดมันให้หลุดออก 

    ปล่อยนะฉันจะไปหาพ่อ…”  ฉันผินหน้ามาสั่งเสียงกร้าวขอบตาร้อนผ่าวและเต็มไปด้วยม่านน้ำใสๆ

    ริณหยุดเถอะ!” เขาบอกพยายามดึงตัวฉันไว้

    ไม่!” ฉันแผดเสียงพร้อมกับสะอื้นไห้ ฮือ ฮือ ฮือ

    เอกปล่อยริณนะ ริณจะไปหาพ่อ

    ริณพอเถอะชานนท์กล่าวเสียงสั่นพร้อมกับร้องไห้ออกมา พ่อของริณตายแล้วนะ

    คำพูดของเขาทำให้ฉันหยุดชะงัก

    อะไรนะ?!”

                เหตุการณ์นั้นมันช่างรวดเร็วและรุนแรงเกินไปเกินกว่าหัวใจดวงนี้จะตั้งรับได้ทัน

                ฉันหันมามองวงหน้าที่อาบไปด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาของเอกก่อนจะผินหน้ากลับไปมองร่างของพ่อซึ่งตอนนี้นอนฟุบนิ่งอยู่บนตัวของน้าสายทิพย์ที่บัดนี้ได้เงียบเสียงลงไปแล้ว

                ฉันไม่เชื่อหรอก มันไม่จริง ไม่นะ ไม่

                ริณแสงพลอยเดินโผเผเข้ามาหา เธอกำลังร้องห่มร้องไห้และตัวสั่นระริกอย่างน่าสงสารอยู่เช่นกัน

     ริณเธอเรียกฉันอีกหน หยดน้ำใสๆ ไหลลงมาเอื่อยๆ ใบหน้าสวยช่างดูเศร้าตรมด้วยความเสียใจ

    ฉันผินหน้าไปมองพ่ออีกครั้ง ชานนท์ค่อยๆ คลายนิ้วมือออก ฉันจึงรีบรุดไปดูท่านในทันที

    นั่งลงข้างๆ เขา  ทอดมองร่างไร้ลมหายใจที่กำลังนอนตะแคงข้างทับอยู่บนตัวผู้หญิงคนนั้นที่สลบเหมือดไปตั้งแต่เมื่อครู่ด้วยน้ำตานองหน้า ดวงตาของท่านยังคงพองโตเบิกค้างอย่างน่ากลัว ริมฝีปากอ้าออกเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลหยดย้อยลงมาเป็นแอ่งโลหิตข้นๆ บนพื้นดิน

    ความตายสำหรับฉันแล้วหาได้น่ากลัวไม่ แต่สิ่งที่ฉันกลัวก็คือการที่ต้องมาทนเห็นคนที่ฉันรักต้องตายจากไปนี่สิ มันเจ็บปวดทรมานกว่าเป็นไหนๆ

    พ่อขา พ่อ ตื่นสิ เราจะไปโรงพยาบาลกันฉันเรียกเขาเสียงสั่นไปหมดก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าเพื่อปลุกให้ท่านตื่นอย่างไม่รู้จะทำอะไรให้มันดีไปกว่านี้ได้ 

    ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันเคยนึกขันกับการกระทำของตัวแสดงในละครอยู่บ่อยๆ

     คนตายไปแล้วเขย่าแบบนั้นจะฟื้นขึ้นมารึไงฉันมักจะนึกเถียงขึ้นมาทุกที เมื่อเห็นนางเอกร้องไห้ฟูมฟายและทำอะไรที่ไร้ความคิดความอ่านเช่นนั้น

    แต่ทว่าในตอนนี้ เมื่อตนเองได้เจอกับตัวถึงได้เข้าใจว่าความรู้สึกโหยหาอาลัยอาวรณ์มันเป็นเช่นไร

    พ่อขาอย่าทิ้งหนูไปได้โปรด…” ฉันคร่ำครวญปานจะขาดใจก่อนจะสะอึกสะอื้นออกมาฮึก ฮึก พ่อต้องไม่ตาย พ่อต้องไม่ตายแบบนี้

    พ่อขา~” ฉันยังคงพร่ำเรียกท่านที่ยังคงเบิกตาโพลงอยู่อย่างนั้น ซ้ำๆ

     ช่างโง่เขลา โง่เขลาสิ้นดี

    จนในที่สุดฉันก็ได้ตระหนักว่าพ่อคงไม่มีวันกลับคืนมาอีกแล้ว ท่านจากไปแล้วจริงๆ

    ฉันคิดด้วยความรู้สึกที่เบาโหวงและกลวงเปล่า เหมือนกับคนที่เจ็บและจุกเกินกว่าจะพรรณนาอะไรออกมาได้ ก่อนจะเลื่อนมือขวาอันสั่นเทาไปปิดตาเขาลงอย่างช้าๆ เป็นการบอกลา

    ขอให้พ่อไปสู่สุขคติริณรักพ่อค่ะ

     นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ลูกสาวของท่านคนนี้จะทำได้

                นานนับนาทีทีเดียวกว่าที่ชานนท์จะนั่งยองๆ ลงข้างๆ แล้วจึงค่อยๆ ประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น แก้วเดินเข้ามาหาก่อนที่ฉันจะสวมกอดทั้งสองแน่น พวกเราสามคนยืนกอดกันกลมภายใต้ราตรีที่ดูเสมือนจะยาวนานกว่าค่ำคืนไหนไหน

                เราต่างสุมศีรษะรวมกันก้มหน้าลงมองพื้น จากนั้นฉันจึงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายด้วยความรู้สึกหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลเผาะลงสู้ผืนธรณี โดยไม่รู้เลยว่ามันจะหยุดลงได้เมื่อไร

    จวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้หวนคิดถึงเรื่องราวในครั้งนั้น ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าสะเทือนใจขึ้นมาทุกที  เหมือนกับว่ามันยังคงรินไหลอยู่ข้างในลึกๆ แม้หยาดน้ำตาที่มีในค่ำคืนนั้นจะเหือดแห้งไปนานหลายปีแล้วก็ตาม


     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×