ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1 งานวิวาห์
งานวิวาห์ลูกไฮโซสุดยิ่งใหญ่ในรอบปีถูกจัดขึ้น ณ ห้อง บอลลูม โรงแรมแกรนด์องคอร์ต เชอดีล่าห์ เหล่าไฉโซคนดังทุกตระกูลได้รับเชื้อเชิญเป็นแขกในงานมงคลสมรสของวิลาวัลย์ และธนกร ทายาทของตระกูลดัง เจ้าของธุรกิจส่งออกผ้าไหมรายใหญ่
พิธีในช่วงเช้าจัดอย่างเรียบง่ายตามแบบประเพณีไทย มีเพียงญาติผู้ใหญ่ และคนสนิทเท่านั้นร่วมเป็นสักขีพยาน แต่ก็มีนักข่าวสองสามสำนักเข้ามาทำข่าว ตามคำสั่งแลก 'เบี้ยเลี้ยง' จากคุณหญิงจรูง ศรีธรรมกูล ณ อยุธยา ผู้เป็นแม่เจ้าสาว
ไม่นานนักเจ้าบ่าวรูปหล่อทายาทผ้าไหมในชุดราชปะแตนดูภูมิฐานเดินเข่าเข้ามานั่งพับเพียบข้างนายประวิทย์ ผู้เป็นพ่อ พลางชะเง้อมองหาตัวเจ้าสาวเป็นระยะ ก้นแทบไม่ติดพื้น จนแม่เจ้าสาวอดแซวไม่ได้ว่า
" กลัวไม่ได้แต่งหรือไงจ๊ะ"
หัวเราะครืนทั้งงาน ทำให้เจ้าบ่าวอายหน้าแดงเป็นผลตำลึง ปักก้นลงพื้น รอด้วยใจที่เต้นผิดจังหวะ
ไม่ช้าไม่นานเกินกว่าหัวใจเจ้าบ่าวจะทนไหว จ้าหญิงของงานก็ย่างเท้าเข้ามา ตาชายหนุ่มเหมือนพร่ามัวด้วยหมอกบางๆ ชุดไทยสีทองเข้ากันได้ดีกับผิวสีแทนเนียน และรูปร่างเพียวระหงส์ ผมดำขลับเกล้ามวยช่วยขับให้ใบหน้าเรียวรูปไข่ดูเด่นขึ้น ดวงตาโต คมรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ส่งให้เธอสง่างามสมดัง 'เจ้าหญิง'
ยักข่าวรัวชัตเตอร์ เก็บภาพทุกอิริยาบทของ'เจ้าหญิง' ซึ่งกำลังนั่งพับเพียบ ประสานมือไว้หน้าตักอย่างสำรวมกริยา แต่อดสั่นสะท้านไม่ได้เมื่อแอบเห็นรอยยิ้มยั่วเย้าของเจ้าบ่าว
แม้นเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า ใบหน้าเหลี่ยมสันเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้เธออบอุ่นอย่างประหลาด คงด้วยเป็นคนร่าเริง มีอามรณ์ขัน และเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัวในแบบที่หญิงหลายคนหมายปอง หญิงสาวจึงไม่ลังเล ตอบตกลงทันทีที่เขาขอแต่งงาน โดยได้รับการเห็นดีเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
ชายหนุ่มหยิบกล่องบุกำมะหยี่เล็กๆ มาจากพานสินสอด ซึ่งมีทั้งเงินสดมูลค่าหลายสิบล้าน สร้อยทองหลายสิบเส้น และเครื่องเพชรเก่าแก่ประจำตระกูลชุดใหญ่ กำลังส่องประกายล้อแสงแฟรชจากกล้องช่างภาพ รวมทั้งหมดแล้วคงหลายร้อยล้านบาท
ฝากล่องแย้มเปิด เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดโตส่องแสงวิบวับยามกระทบแสงไฟ เขาหยิบขึ้นมาพร้อมกับประคองมือนุ่ม เรียวของหญิงสาว ก่อนบรรจงสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างสั่นเทา
วิลาวัยล์หยิบกล่องลักษณะเหมือนกัน สวมแหวนอีกวงให้เจ้าบ่าวแล้วประนมมือก้มลงกราบบนตักด้วยท่าทีเคอะเขิน
"ยิ้มอะไรคะพี่กร"
หญิงสาวถามเสียงเข้ม เหลือบเห็นหน้าหล่อเหลานั้นยิ้มกว้างผิดสังเกต
"พี่ว่าวิไหว้สวยดีนะ"
ผู้ถูกถามตอบชื่น ชวนหมั่นไส้(แอบน่ารัก)
"พี่วิก็...อย่าทำให้วิตื่นเต้นไปมากกว่านี้เลยค่ะ แค่นี้หัวใจก็จะออกมานอกอกแล้ว..."
"...พี่รักวินะ"
พี่กรพูดโพล่งขึ้นให้ได้ยินทั้งงาน คนถูกบอกรักโดยไม่ตั้งตัวสะดุ้งขึง ทำท่าทีไม่ถูก ได้แต่ก้มมองพื้น หน้าแดงก่ำ
คนบอกรักยิ้มอย่ารักใคร่
อาหารน่ารับประทานทยอยเสริฟตามโต๊ะเกือบทุกรายการแล้ว จนถึงซุบเนื้อแกะ อาหารจานสุดท้ายวางลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับพิธีกรกล่าวเปิดงานเลี้ยงวิวาห์ทายาทสองตระกูบดัง
พิธีกรชายย่างขึ้นไปบนเวที หยุดตรงข้างช่อดอกกล้วยไม้ขาวแล้วสูดดมลึก
"เหมือนดอกไม้กับแมลง ที่เกิดมาเพื่อกัน และกัน ไม่มีสิ่งใดสามารถอยู่ได้ถ้าขาดส่วนหนึ่งของชีวิตไป จ้าบ่าว เจ้าสาวเช่นกัน เขาทั้งสองเกิดมาเพื่อกันและกัน เพื่อรักกัน และอยู่คู่กันตลอดไป... เอาล่ะครับ พวกท่านคงอยากเห็นคู่บ่าวสาวแล้ว งั้นผมขอเสียงปรบมือต้อนรับหน่อยครับ
เสียงปรบมือดังกึกก้องต้อนรับเจ้าของงาน ทั้งสองเดินควงคู่ออกมาจากหลังม่านเวที หญิงสาวดูสวยงามที่สุดในชุดเจ้าสาวฟูฟ่อง เจ้าบ่าวชวนหลงไหลไม่เปลี่ยนแปลง เสียงดนตรีคลาสสิคบรรเลงขึ้นเบาๆ เคล้าไปในอากาศ รอยยิ้มละมุนอย่างเปี่ยมสุขของเธอพลอยทำให้คนในงานยิ้มโดยไม่รู้ตัว
"เชิญเจ้าบ่าวพูดความในใจแด่เจ้าสาวครับ"
พิธีกรผายมือ พร้อมกับยื่นไมโครโฟนให้ ก่อนเบี่ยงตัวหลบไปยืนด้านข้าง เขากระแอมให้โล่งคอก่อนพูดว่า
"ผมดีใจมากที่ได้มีวันนี้ วันที่เราทั้งสองจะได้อยู่ร่วมกัน"
เขาจับมือเธอแน่นจุมพิตหลังมืออย่างแผ่วเบา หญิงสาวรู้สึกร้อนไปทั่วกาย หัวใจเต้นแรง ท่ามกลางสายตาที่จ้องมาเป็นตาเดียว พวกเพื่อนของทั้งสองพากันผิวปากหวือ เฮละโลลั่น
"ผมขอสัญญาไว้ตรงนี้เลยว่า ตราบใดที่เราไม่ตายจากกัน ผมจะรักเธอคนนี้ตลอดไป"
ไม่สามารถหาคำใดมาแทนความรู้สึกในขณะนี้ได้ นอกจากอ้อมกอดจากมือเล็กๆ ของเธอคนนี้ ที่สัญญาว่าจะรักเขาตลอดไปเช่นกัน
พิธีในช่วงเช้าจัดอย่างเรียบง่ายตามแบบประเพณีไทย มีเพียงญาติผู้ใหญ่ และคนสนิทเท่านั้นร่วมเป็นสักขีพยาน แต่ก็มีนักข่าวสองสามสำนักเข้ามาทำข่าว ตามคำสั่งแลก 'เบี้ยเลี้ยง' จากคุณหญิงจรูง ศรีธรรมกูล ณ อยุธยา ผู้เป็นแม่เจ้าสาว
ไม่นานนักเจ้าบ่าวรูปหล่อทายาทผ้าไหมในชุดราชปะแตนดูภูมิฐานเดินเข่าเข้ามานั่งพับเพียบข้างนายประวิทย์ ผู้เป็นพ่อ พลางชะเง้อมองหาตัวเจ้าสาวเป็นระยะ ก้นแทบไม่ติดพื้น จนแม่เจ้าสาวอดแซวไม่ได้ว่า
" กลัวไม่ได้แต่งหรือไงจ๊ะ"
หัวเราะครืนทั้งงาน ทำให้เจ้าบ่าวอายหน้าแดงเป็นผลตำลึง ปักก้นลงพื้น รอด้วยใจที่เต้นผิดจังหวะ
ไม่ช้าไม่นานเกินกว่าหัวใจเจ้าบ่าวจะทนไหว จ้าหญิงของงานก็ย่างเท้าเข้ามา ตาชายหนุ่มเหมือนพร่ามัวด้วยหมอกบางๆ ชุดไทยสีทองเข้ากันได้ดีกับผิวสีแทนเนียน และรูปร่างเพียวระหงส์ ผมดำขลับเกล้ามวยช่วยขับให้ใบหน้าเรียวรูปไข่ดูเด่นขึ้น ดวงตาโต คมรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ส่งให้เธอสง่างามสมดัง 'เจ้าหญิง'
ยักข่าวรัวชัตเตอร์ เก็บภาพทุกอิริยาบทของ'เจ้าหญิง' ซึ่งกำลังนั่งพับเพียบ ประสานมือไว้หน้าตักอย่างสำรวมกริยา แต่อดสั่นสะท้านไม่ได้เมื่อแอบเห็นรอยยิ้มยั่วเย้าของเจ้าบ่าว
แม้นเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหน้า ใบหน้าเหลี่ยมสันเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มนั้นทำให้เธออบอุ่นอย่างประหลาด คงด้วยเป็นคนร่าเริง มีอามรณ์ขัน และเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัวในแบบที่หญิงหลายคนหมายปอง หญิงสาวจึงไม่ลังเล ตอบตกลงทันทีที่เขาขอแต่งงาน โดยได้รับการเห็นดีเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
ชายหนุ่มหยิบกล่องบุกำมะหยี่เล็กๆ มาจากพานสินสอด ซึ่งมีทั้งเงินสดมูลค่าหลายสิบล้าน สร้อยทองหลายสิบเส้น และเครื่องเพชรเก่าแก่ประจำตระกูลชุดใหญ่ กำลังส่องประกายล้อแสงแฟรชจากกล้องช่างภาพ รวมทั้งหมดแล้วคงหลายร้อยล้านบาท
ฝากล่องแย้มเปิด เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดโตส่องแสงวิบวับยามกระทบแสงไฟ เขาหยิบขึ้นมาพร้อมกับประคองมือนุ่ม เรียวของหญิงสาว ก่อนบรรจงสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างสั่นเทา
วิลาวัยล์หยิบกล่องลักษณะเหมือนกัน สวมแหวนอีกวงให้เจ้าบ่าวแล้วประนมมือก้มลงกราบบนตักด้วยท่าทีเคอะเขิน
"ยิ้มอะไรคะพี่กร"
หญิงสาวถามเสียงเข้ม เหลือบเห็นหน้าหล่อเหลานั้นยิ้มกว้างผิดสังเกต
"พี่ว่าวิไหว้สวยดีนะ"
ผู้ถูกถามตอบชื่น ชวนหมั่นไส้(แอบน่ารัก)
"พี่วิก็...อย่าทำให้วิตื่นเต้นไปมากกว่านี้เลยค่ะ แค่นี้หัวใจก็จะออกมานอกอกแล้ว..."
"...พี่รักวินะ"
พี่กรพูดโพล่งขึ้นให้ได้ยินทั้งงาน คนถูกบอกรักโดยไม่ตั้งตัวสะดุ้งขึง ทำท่าทีไม่ถูก ได้แต่ก้มมองพื้น หน้าแดงก่ำ
คนบอกรักยิ้มอย่ารักใคร่
อาหารน่ารับประทานทยอยเสริฟตามโต๊ะเกือบทุกรายการแล้ว จนถึงซุบเนื้อแกะ อาหารจานสุดท้ายวางลงบนโต๊ะอาหารพร้อมกับพิธีกรกล่าวเปิดงานเลี้ยงวิวาห์ทายาทสองตระกูบดัง
พิธีกรชายย่างขึ้นไปบนเวที หยุดตรงข้างช่อดอกกล้วยไม้ขาวแล้วสูดดมลึก
"เหมือนดอกไม้กับแมลง ที่เกิดมาเพื่อกัน และกัน ไม่มีสิ่งใดสามารถอยู่ได้ถ้าขาดส่วนหนึ่งของชีวิตไป จ้าบ่าว เจ้าสาวเช่นกัน เขาทั้งสองเกิดมาเพื่อกันและกัน เพื่อรักกัน และอยู่คู่กันตลอดไป... เอาล่ะครับ พวกท่านคงอยากเห็นคู่บ่าวสาวแล้ว งั้นผมขอเสียงปรบมือต้อนรับหน่อยครับ
เสียงปรบมือดังกึกก้องต้อนรับเจ้าของงาน ทั้งสองเดินควงคู่ออกมาจากหลังม่านเวที หญิงสาวดูสวยงามที่สุดในชุดเจ้าสาวฟูฟ่อง เจ้าบ่าวชวนหลงไหลไม่เปลี่ยนแปลง เสียงดนตรีคลาสสิคบรรเลงขึ้นเบาๆ เคล้าไปในอากาศ รอยยิ้มละมุนอย่างเปี่ยมสุขของเธอพลอยทำให้คนในงานยิ้มโดยไม่รู้ตัว
"เชิญเจ้าบ่าวพูดความในใจแด่เจ้าสาวครับ"
พิธีกรผายมือ พร้อมกับยื่นไมโครโฟนให้ ก่อนเบี่ยงตัวหลบไปยืนด้านข้าง เขากระแอมให้โล่งคอก่อนพูดว่า
"ผมดีใจมากที่ได้มีวันนี้ วันที่เราทั้งสองจะได้อยู่ร่วมกัน"
เขาจับมือเธอแน่นจุมพิตหลังมืออย่างแผ่วเบา หญิงสาวรู้สึกร้อนไปทั่วกาย หัวใจเต้นแรง ท่ามกลางสายตาที่จ้องมาเป็นตาเดียว พวกเพื่อนของทั้งสองพากันผิวปากหวือ เฮละโลลั่น
"ผมขอสัญญาไว้ตรงนี้เลยว่า ตราบใดที่เราไม่ตายจากกัน ผมจะรักเธอคนนี้ตลอดไป"
ไม่สามารถหาคำใดมาแทนความรู้สึกในขณะนี้ได้ นอกจากอ้อมกอดจากมือเล็กๆ ของเธอคนนี้ ที่สัญญาว่าจะรักเขาตลอดไปเช่นกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น