ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ***ความทรงจำที่เลวร้ายของแพนนี่***
“แพนนี่ เร็วๆสิ เราจะไปกันแล้วนะ” เสียงตะโกนเรียกของ มดแดง เพื่อนสนิทคนหนึ่งของแพนนี่ดังขึ้นมา ตอนนี้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1ของโรงเรียนแห่งหนึ่งกำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นรถทัวร์ของ “ศิษย์เจ้าแม่กวนอิม” เพื่อไปทัศนศึกษายังจังหวัดตรัง แพนนี่ที่กำลังล่ำลาแม่สุดที่รักของเธอ
“อ๊ะ! จ๊ะๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” แพนนี่ซึ่งในตอนนี้อายุ 12 ปี ตะโกนบอกเพื่อนของเธอ ก่อนจะหันไปไหว้มารดาของเธอ
“แม่คะ แพนนี่ไปแล้วนะคะ” แพนนี่เงยหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มให้แม่
“จ๊ะลูก ระวังตัวดีๆนะ” แม่ของเธอพูดอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ค่ะแม่” แพนนี่พูดก่อนลากกระเป๋าเดินทาง ซึ่งถ้าคนอื่นมองแล้วเหมือนกับไปต่างประเทศมากกว่าต่างจังหวัด เพราะกระเป๋ามันใบใหญ่ม๊าก!!! ก็แน่ล่ะ แพนนี่ของเราเล่นใส่ของกระจุกกระจิกไว้เพียบเลย ไม่เว้นแม้แต่ขนม........
“แหม แพนนี่จ๊ะ เราไปทัศนศึกษากัน3วัน2คืนเองนะจ๊ะ กระเป๋าใบใหญ่อย่างกะจะไปเป็นเดือนแหนะ”อาจารย์ทัศนาครูประจำชั้นที่เป็นกันเองและนักเรียนรักที่สุดของห้องม.1/2 ห้องของแพนนี่แซวขึ้น เมื่อเธอยื่นกระเป๋าให้เก็บที่ช่องเก็บกระเป๋า แพนนี่ยิ้มเขินๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถทัวร์ไป
“ทางนี้ๆแพนนี่” มดดำ ฝาแฝดของมดแดงเรียกแพนนี่ มดดำกำลังนั่งอยู่กับมดแดงในเก้าอี้ด้านหน้า เนื่องจากมีรถแค่3คันและมีอยู่5ห้อง เก้าอี้หนึ่งจึงต้องนั่ง3คน ซึ่งสำหรับคนหุ่นดีๆอย่างทั้งสามคน ก็สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ..........
    เมื่อนักเรียนชั้นของแพนนี่มากันครบแล้ว อาจารย์ทัศนาก็ออกมาพูดออกไมค์กับทุกๆคน
“โอเคจ๊ะ มากันครบแล้วนะคะ ขณะนี้ พวกเรากำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่ค่ะ เดี๋ยวครูจะเล่าประวัติของจังหวัดกระบี่แล้วก็สถานที่ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้นะคะ” อาจารย์ทัศนาพลิกกระดาษไปยังหน้าต่อไป ก่อนจะพูดต่อ........
“กระบี่ เมืองชายทะเลในฝันงดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร กระบี่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปราสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง........” เมื่ออาจารย์ทัศนากล่าวจบ ก็เห็นว่านักเรียนเริ่มเบื่อกัน จึงยิ้ม
“มีนักเรียนคนไหนทราบคำขวัญของจังหวัดกระบี่บ้างคะ ถ้ายกมือตอบได้คนแรกให้คะแนนเพิ่มนะ” อาจารย์ทัศนาเริ่มใช้กลยุทธ์ดึงความสนใจ ซึ่งได้ผลเสมอเวลาอยู่ในห้องเรียน และในตอนนี้ก็เช่นกัน........
    แพนนี่ยกมือขึ้นสูง เธอทราบดีว่าอาจารย์ทัศนาต้องถามอย่างนี้ เธอจึงเตรียมตัวอ่านมาแล้ว อิอิ เธอหัวดีมากๆเรื่องพวกนี้น่ะ......
“อ้าว สุกัญญา ตอบได้สินะคะ” อาจารย์ทัศนาเรียกให้ตอบ สีหน้าอาจารย์ยิ้มอย่างรู้ว่าต้องเป็นแพนนี่ ก็แพนนี่เรียนเก่งที่สุดในห้องของอาจารย์แล้วนี่นา
“หอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะเพาะปลูกปาล์ม งามหาดทรายใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามันค่ะอาจารย์” แพนนี่ตอบเสียงดังฟังชัด เพื่อนๆของเธอยิ้มให้อย่างทึ่งๆ ก่อนจะมีเสียงตบมือดังขึ้น แพนนี่ยิ้มให้ทุกคนอย่างภูมิใจ
“ดีมากค่ะ สุกัญญา นั่งลงได้” อาจารย์ทัศนายิ้มให้เธอ ใครเห็นก็ต้องรู้ดีว่า แพนนี่น่ะ เป็นศิษย์โปรดเลยทีเดียว......
“โอเคจ๊ะ ตอนนี้ครูจะให้นักเรียนพักผ่อนนะ แล้วถึงแล้วอาจารย์จะเรียกค่ะ” อาจารย์ทัศนาบอกกับนักเรียนทุกคนแล้วไปนั่งยังที่นั่งของตน.............
“นักเรียนทุกคนคะ ตื่นได้แล้วค่ะ ถึงที่พักแล้ว นี่ก็เย็นแล้วนะคะ รีบไปเก็บกระเป๋า แล้วมารับประทานอาหารเย็นค่ะ” อาจารย์ทัศนากล่าวอีกครั้ง ที่จริงแล้ว อาจารย์ในมัธยมที่มาด้วยก็มีเยอะนะ แต่ว่าอาจารย์ทัศนาเป็นอาจารย์ที่นักเรียนเชื่อฟังมากที่สุด จึงเป็นหัวหน้าของครูมัธยมได้สบายๆ
    ครูประจำชั้นทั้งห้าห้องเรียกนักเรียนของตน เช็คชื่อ หลังจากนั้นก็พานักเรียนไปยังตึกที่พัก ซึ่งมีห้องเล็กๆอยู่10ห้อง แยกชายและหญิง ห้องหนึ่งอยู่ประมาณ 15-18คน แต่ละห้องนั้น เป็นแค่ห้องที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย!!! ต้องปูเสื่อเองเพื่อทำเป็นที่นอนอีกด้วย.......
“เฮ้อ.....โรงเรียนนี่ไม่ค่อยลงทุนเลยเนอะ เอาห้องพักดีๆหน่อยก็ไม่ได้ นอนพื้น!! จะบ้าตาย” มดแดงพูดขึ้นเบาๆอย่างเบื่อๆ มดแดงกับมดดำถือเป็นลูกคุณหนูเลยทีเดียว บ้านหลังใหญ่สุดๆ
“เอาน่าๆ ลำบากบ้างเป็นประสบการณ์” แพนนี่ปลอบเพื่อนอย่างเข้าใจ เธอรู้ดีว่าเพื่อนไม่เคยลำบาก แต่เธอก็อยากให้ฝึกไว้บ้าง.....
    วันรุ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นวันที่สอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1จึงยกทัพ เอ้ย! เดินทางไปศึกษาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กัน แพนนี่รู้สึกสนุกมาก แต่ที่แพนนี่ต้องการจริงๆสำหรับการมาทัศนศึกษาครั้งนี้คือการมา“ดำน้ำ!!” เธอเคยมาดำน้ำกับพ่อแม่ครั้งหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วเธอก็ชอบมาก...... อาจารย์บอกว่าวันนี้ได้แค่เล่นน้ำทะเล แต่พรุ่งนี้จะได้ดำน้ำในช่วงบ่าย!!! (ลืมบอกไปว่าที่ๆแพนนี่ไปพักมีชายทะเลด้วย แล้วก็มีศูนย์สำหรับดำน้ำ...)
    วันที่สาม หลังจากทำกิจกรรมและทานอาหารกลางวันกับทางโรงเรียนเสร็จแล้ว อาจารย์จึงปล่อยให้เล่นน้ำทะเลและอาบแดดในชายหาดก่อน ซึ่งแพนนี่ มดดำ มดแดงก็เป็นหนึ่งในคนที่ตื่นเต้นด้วย เพราะหมายความว่า หลังจากเล่นเสร็จแล้วจะเป็นการดำน้ำ!!! พวกเธอรีบทาครีมกันแดด สวมสุดว่ายน้ำ แล้วลงไปยังชายหาดอย่างรวดเร็ว.....
“5555+” เสียงหัวเราะอย่างสดใสดังขึ้น พวกของแพนนี่เล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน สาดน้ำกันไปสาดน้ำกันมา เป็นที่จับตามองของเหล่าพวกผู้ชายที่เล็งทั้งสามคนอยู่ และกลุ่มพวกผู้หญิงขี้อิจฉา.....
“โอ๊ย!!” เสียงร้องของแพนนี่ดังขึ้น ขณะที่เธอกำลังเล่นน้ำทะเลอยู่
“เกิดอะไรขึ้น แพนนี่” มดดำและมดแดงถามอย่างเป็นห่วง เดินเข้ามาดู
“ไม่รู้สิ แต่เจ็บขามากๆเลยอ่ะ” แพนนี่พูดทั้งน้ำตา เสียงของนักเรียนคนอื่นเริ่มดังขึ้น มีหลายคนวิ่งไปหาอาจารย์
“เกิดอะไรขึ้นนักเรียน” อาจารย์ศรเทพเดินเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงร้อง
“สุกัญญาเจ็บขาค่ะ ไม่รู้ไปโดนอะไรบาดรึเปล่า” มดดำบอกกับอาจารย์ ส่วนมดแดงประคองแพนนี่เอาไว้
“มาแพนนี่ เดี๋ยวครูอุ้มไปดีกว่า แผลจะได้ไม่บวมมาก” อาจารย์ศรเทพเดินเข้าไปอุ้มแพนนี่และวิ่งไปยังกลุ่มอาจารย์ที่กำลังนั่งคุยกันอยู่
“ตายแล้ว!! แพนนี่เป็นอะไรไปคะ” อาจารย์ทัศนาถามอย่างร้อนใจ เป็นห่วงศิษย์คนโปรด
“คงโดนเศษแก้วบาดน่ะครับ” อาจารย์ศรเทพบอก แต่กลับจ้องมองขาของแพนนี่ที่มีเลือดไหลออกมาอย่างเป็นกังวล และวางแพนนี่ให้นั่งลงบนเก้าอี้แถวๆนั้น
~~~~ นี่ล่ะน้า เวลาคนมาเที่ยวก็เอาแก้วเอาอะไรค้างไว้ ถึงได้เกิดอะไรอย่างนี้ไงล่ะ ~~~~ อาจารย์ศรเทพเป็นครูที่สอนพวกวิชาสังคม เป็นคนที่ห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก
“แพนนี่จ๊ะ เดี๋ยวอาจารย์ทำแผลให้นะ แสบนิดหน่อย ทนเอานะ” อาจารย์พยาบาลบอกกับแพนนี่ เธอใช้น้ำสะอาดล้างแผล และทำแผลให้เธออย่างเบามือ หน้าของแพนนี่นิ่ว ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บแสบ......
“เฮ้ออ อย่างนี้คงไปดำน้ำไม่ได้แล้วล่ะ แย่จังนะ” อาจารย์ทัศนากล่าวอย่างเสียดายที่ศิษย์รักไม่ได้ดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม แบบที่เธอใฝ่ฝัน.... แพนนี่หันมาจ้องอาจารย์ด้วยความผิดหวัง เพราะเธอเฝ้ารอมานานแล้ว น้ำตาเธอคลอด้วยความเสียดาย อาจารย์ทุกคนมองเธออย่างเห็นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้........
“เฮ้ออ!!!” แพนนี่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เธอมองจากห้องพักไปยังเพื่อนๆอย่างอิจฉาเต็มที่ เธอคงยืนอยู่ตรงนั้นถ้าไม่มาบาดเจ็บแบบนี้ น้ำตาของเธอไหลอย่างทรมานด้วยความเหงา เธอไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอรัก และยังไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนอีกด้วย เธอเหงา....เหงาเหลือเกิน..........
“.........ที่เธอเห็นฉันยิ้ม ที่เธอเห็นฉันหัวเราะ  ที่เธอเห็นเหมือนฉันมีความสุขทุกวัน ไม่เคยทุกร้อน ไม่เคยคิดมากอะไร เจอที่ไหนก็ยิ้มเหมือนชีวิตสุขสันต์  ฉันเองก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ลึกๆ แล้วมันไม่ใช่เลย  ฉันเองก็เหงาเป็นเหมือนกัน เธอไม่รู้เลยว่าฉันคิดกับเธอยังไง ที่ฉันหัวเราะก็เพราะไม่มีใคร คงไม่มีใครมาปลอบใจ ถ้าฉันร้องไห้  ฉันเลยต้องเหงาอยู่ทุกวัน เธอไม่รู้เลยว่าฉันคิดกับเธอยังไง ที่ฉันหัวเราะก็เพราะไม่มีใคร คงไม่มีใครมาปลอบใจ ถ้าฉันร้องไห้ ก็ได้แต่ยิ้มปลอบใจตัวเองไปวันๆ ” แพนนี่ร้องเพลงโปรดของเธอ น้ำตาของเธอไหลลงมาเรื่อยๆ ตอกย้ำถึงความเหงาในใจของเธอตอนนี้ เพลงนี้ก็ทำหน้าที่แค่นี้ ถ้าเวลาหยุดไว้เพียงแค่ตรงนี้ เธอคงต้องขาดใจตายแน่ๆ เพราะอะไรกัน เธอไม่ชอบอยู่คนเดียวเลย เหงา เหงา เหงาจัง..........
                    ~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O
แหะๆ นี่ก็ตอนที่10ซะทีนะคะ
นั่งนึกตอนไปทัศนศึกษาตั้งแต่เช้า
กะว่าจะอัพไปยาวเลย
ตอนนี้เศร้ามากเลยค่ะ
peacesss เกือบร้องไห้แหนะ
เขียนไปก็เศร้าไป
แพนนี่น่าสงสารอ่า
อืมม เรื่องนี้มันก็มีข้อคิดสำคัญนะคะ
การทิ้งขยะ เศษแก้ว ทำลายความสวยงาม
ของสิ่งแวดล้อมมากมาย
หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ
http://www.kapook.com/musicstation/newmusicstation/play.php?id=982 <<< เพลงเหงาที่ใช้ค่ะ เพลงเก่าแล้วแต่เพราะดี ลองไปฟังกันดูนะคะ
สวัสดีค่ะ ติดตามตอนต่อไป ซึ่งจะดองไว้นะคะ อิอิ
“อ๊ะ! จ๊ะๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” แพนนี่ซึ่งในตอนนี้อายุ 12 ปี ตะโกนบอกเพื่อนของเธอ ก่อนจะหันไปไหว้มารดาของเธอ
“แม่คะ แพนนี่ไปแล้วนะคะ” แพนนี่เงยหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มให้แม่
“จ๊ะลูก ระวังตัวดีๆนะ” แม่ของเธอพูดอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ค่ะแม่” แพนนี่พูดก่อนลากกระเป๋าเดินทาง ซึ่งถ้าคนอื่นมองแล้วเหมือนกับไปต่างประเทศมากกว่าต่างจังหวัด เพราะกระเป๋ามันใบใหญ่ม๊าก!!! ก็แน่ล่ะ แพนนี่ของเราเล่นใส่ของกระจุกกระจิกไว้เพียบเลย ไม่เว้นแม้แต่ขนม........
“แหม แพนนี่จ๊ะ เราไปทัศนศึกษากัน3วัน2คืนเองนะจ๊ะ กระเป๋าใบใหญ่อย่างกะจะไปเป็นเดือนแหนะ”อาจารย์ทัศนาครูประจำชั้นที่เป็นกันเองและนักเรียนรักที่สุดของห้องม.1/2 ห้องของแพนนี่แซวขึ้น เมื่อเธอยื่นกระเป๋าให้เก็บที่ช่องเก็บกระเป๋า แพนนี่ยิ้มเขินๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถทัวร์ไป
“ทางนี้ๆแพนนี่” มดดำ ฝาแฝดของมดแดงเรียกแพนนี่ มดดำกำลังนั่งอยู่กับมดแดงในเก้าอี้ด้านหน้า เนื่องจากมีรถแค่3คันและมีอยู่5ห้อง เก้าอี้หนึ่งจึงต้องนั่ง3คน ซึ่งสำหรับคนหุ่นดีๆอย่างทั้งสามคน ก็สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ..........
    เมื่อนักเรียนชั้นของแพนนี่มากันครบแล้ว อาจารย์ทัศนาก็ออกมาพูดออกไมค์กับทุกๆคน
“โอเคจ๊ะ มากันครบแล้วนะคะ ขณะนี้ พวกเรากำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดกระบี่ค่ะ เดี๋ยวครูจะเล่าประวัติของจังหวัดกระบี่แล้วก็สถานที่ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้นะคะ” อาจารย์ทัศนาพลิกกระดาษไปยังหน้าต่อไป ก่อนจะพูดต่อ........
“กระบี่ เมืองชายทะเลในฝันงดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร กระบี่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปราสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตรที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณก่อนที่จะสร้างเมือง........” เมื่ออาจารย์ทัศนากล่าวจบ ก็เห็นว่านักเรียนเริ่มเบื่อกัน จึงยิ้ม
“มีนักเรียนคนไหนทราบคำขวัญของจังหวัดกระบี่บ้างคะ ถ้ายกมือตอบได้คนแรกให้คะแนนเพิ่มนะ” อาจารย์ทัศนาเริ่มใช้กลยุทธ์ดึงความสนใจ ซึ่งได้ผลเสมอเวลาอยู่ในห้องเรียน และในตอนนี้ก็เช่นกัน........
    แพนนี่ยกมือขึ้นสูง เธอทราบดีว่าอาจารย์ทัศนาต้องถามอย่างนี้ เธอจึงเตรียมตัวอ่านมาแล้ว อิอิ เธอหัวดีมากๆเรื่องพวกนี้น่ะ......
“อ้าว สุกัญญา ตอบได้สินะคะ” อาจารย์ทัศนาเรียกให้ตอบ สีหน้าอาจารย์ยิ้มอย่างรู้ว่าต้องเป็นแพนนี่ ก็แพนนี่เรียนเก่งที่สุดในห้องของอาจารย์แล้วนี่นา
“หอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะเพาะปลูกปาล์ม งามหาดทรายใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามันค่ะอาจารย์” แพนนี่ตอบเสียงดังฟังชัด เพื่อนๆของเธอยิ้มให้อย่างทึ่งๆ ก่อนจะมีเสียงตบมือดังขึ้น แพนนี่ยิ้มให้ทุกคนอย่างภูมิใจ
“ดีมากค่ะ สุกัญญา นั่งลงได้” อาจารย์ทัศนายิ้มให้เธอ ใครเห็นก็ต้องรู้ดีว่า แพนนี่น่ะ เป็นศิษย์โปรดเลยทีเดียว......
“โอเคจ๊ะ ตอนนี้ครูจะให้นักเรียนพักผ่อนนะ แล้วถึงแล้วอาจารย์จะเรียกค่ะ” อาจารย์ทัศนาบอกกับนักเรียนทุกคนแล้วไปนั่งยังที่นั่งของตน.............
“นักเรียนทุกคนคะ ตื่นได้แล้วค่ะ ถึงที่พักแล้ว นี่ก็เย็นแล้วนะคะ รีบไปเก็บกระเป๋า แล้วมารับประทานอาหารเย็นค่ะ” อาจารย์ทัศนากล่าวอีกครั้ง ที่จริงแล้ว อาจารย์ในมัธยมที่มาด้วยก็มีเยอะนะ แต่ว่าอาจารย์ทัศนาเป็นอาจารย์ที่นักเรียนเชื่อฟังมากที่สุด จึงเป็นหัวหน้าของครูมัธยมได้สบายๆ
    ครูประจำชั้นทั้งห้าห้องเรียกนักเรียนของตน เช็คชื่อ หลังจากนั้นก็พานักเรียนไปยังตึกที่พัก ซึ่งมีห้องเล็กๆอยู่10ห้อง แยกชายและหญิง ห้องหนึ่งอยู่ประมาณ 15-18คน แต่ละห้องนั้น เป็นแค่ห้องที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย!!! ต้องปูเสื่อเองเพื่อทำเป็นที่นอนอีกด้วย.......
“เฮ้อ.....โรงเรียนนี่ไม่ค่อยลงทุนเลยเนอะ เอาห้องพักดีๆหน่อยก็ไม่ได้ นอนพื้น!! จะบ้าตาย” มดแดงพูดขึ้นเบาๆอย่างเบื่อๆ มดแดงกับมดดำถือเป็นลูกคุณหนูเลยทีเดียว บ้านหลังใหญ่สุดๆ
“เอาน่าๆ ลำบากบ้างเป็นประสบการณ์” แพนนี่ปลอบเพื่อนอย่างเข้าใจ เธอรู้ดีว่าเพื่อนไม่เคยลำบาก แต่เธอก็อยากให้ฝึกไว้บ้าง.....
    วันรุ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นวันที่สอง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1จึงยกทัพ เอ้ย! เดินทางไปศึกษาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กัน แพนนี่รู้สึกสนุกมาก แต่ที่แพนนี่ต้องการจริงๆสำหรับการมาทัศนศึกษาครั้งนี้คือการมา“ดำน้ำ!!” เธอเคยมาดำน้ำกับพ่อแม่ครั้งหนึ่งเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วเธอก็ชอบมาก...... อาจารย์บอกว่าวันนี้ได้แค่เล่นน้ำทะเล แต่พรุ่งนี้จะได้ดำน้ำในช่วงบ่าย!!! (ลืมบอกไปว่าที่ๆแพนนี่ไปพักมีชายทะเลด้วย แล้วก็มีศูนย์สำหรับดำน้ำ...)
    วันที่สาม หลังจากทำกิจกรรมและทานอาหารกลางวันกับทางโรงเรียนเสร็จแล้ว อาจารย์จึงปล่อยให้เล่นน้ำทะเลและอาบแดดในชายหาดก่อน ซึ่งแพนนี่ มดดำ มดแดงก็เป็นหนึ่งในคนที่ตื่นเต้นด้วย เพราะหมายความว่า หลังจากเล่นเสร็จแล้วจะเป็นการดำน้ำ!!! พวกเธอรีบทาครีมกันแดด สวมสุดว่ายน้ำ แล้วลงไปยังชายหาดอย่างรวดเร็ว.....
“5555+” เสียงหัวเราะอย่างสดใสดังขึ้น พวกของแพนนี่เล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน สาดน้ำกันไปสาดน้ำกันมา เป็นที่จับตามองของเหล่าพวกผู้ชายที่เล็งทั้งสามคนอยู่ และกลุ่มพวกผู้หญิงขี้อิจฉา.....
“โอ๊ย!!” เสียงร้องของแพนนี่ดังขึ้น ขณะที่เธอกำลังเล่นน้ำทะเลอยู่
“เกิดอะไรขึ้น แพนนี่” มดดำและมดแดงถามอย่างเป็นห่วง เดินเข้ามาดู
“ไม่รู้สิ แต่เจ็บขามากๆเลยอ่ะ” แพนนี่พูดทั้งน้ำตา เสียงของนักเรียนคนอื่นเริ่มดังขึ้น มีหลายคนวิ่งไปหาอาจารย์
“เกิดอะไรขึ้นนักเรียน” อาจารย์ศรเทพเดินเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงร้อง
“สุกัญญาเจ็บขาค่ะ ไม่รู้ไปโดนอะไรบาดรึเปล่า” มดดำบอกกับอาจารย์ ส่วนมดแดงประคองแพนนี่เอาไว้
“มาแพนนี่ เดี๋ยวครูอุ้มไปดีกว่า แผลจะได้ไม่บวมมาก” อาจารย์ศรเทพเดินเข้าไปอุ้มแพนนี่และวิ่งไปยังกลุ่มอาจารย์ที่กำลังนั่งคุยกันอยู่
“ตายแล้ว!! แพนนี่เป็นอะไรไปคะ” อาจารย์ทัศนาถามอย่างร้อนใจ เป็นห่วงศิษย์คนโปรด
“คงโดนเศษแก้วบาดน่ะครับ” อาจารย์ศรเทพบอก แต่กลับจ้องมองขาของแพนนี่ที่มีเลือดไหลออกมาอย่างเป็นกังวล และวางแพนนี่ให้นั่งลงบนเก้าอี้แถวๆนั้น
~~~~ นี่ล่ะน้า เวลาคนมาเที่ยวก็เอาแก้วเอาอะไรค้างไว้ ถึงได้เกิดอะไรอย่างนี้ไงล่ะ ~~~~ อาจารย์ศรเทพเป็นครูที่สอนพวกวิชาสังคม เป็นคนที่ห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก
“แพนนี่จ๊ะ เดี๋ยวอาจารย์ทำแผลให้นะ แสบนิดหน่อย ทนเอานะ” อาจารย์พยาบาลบอกกับแพนนี่ เธอใช้น้ำสะอาดล้างแผล และทำแผลให้เธออย่างเบามือ หน้าของแพนนี่นิ่ว ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บแสบ......
“เฮ้ออ อย่างนี้คงไปดำน้ำไม่ได้แล้วล่ะ แย่จังนะ” อาจารย์ทัศนากล่าวอย่างเสียดายที่ศิษย์รักไม่ได้ดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม แบบที่เธอใฝ่ฝัน.... แพนนี่หันมาจ้องอาจารย์ด้วยความผิดหวัง เพราะเธอเฝ้ารอมานานแล้ว น้ำตาเธอคลอด้วยความเสียดาย อาจารย์ทุกคนมองเธออย่างเห็นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้........
“เฮ้ออ!!!” แพนนี่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เธอมองจากห้องพักไปยังเพื่อนๆอย่างอิจฉาเต็มที่ เธอคงยืนอยู่ตรงนั้นถ้าไม่มาบาดเจ็บแบบนี้ น้ำตาของเธอไหลอย่างทรมานด้วยความเหงา เธอไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอรัก และยังไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนอีกด้วย เธอเหงา....เหงาเหลือเกิน..........
“.........ที่เธอเห็นฉันยิ้ม ที่เธอเห็นฉันหัวเราะ  ที่เธอเห็นเหมือนฉันมีความสุขทุกวัน ไม่เคยทุกร้อน ไม่เคยคิดมากอะไร เจอที่ไหนก็ยิ้มเหมือนชีวิตสุขสันต์  ฉันเองก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ลึกๆ แล้วมันไม่ใช่เลย  ฉันเองก็เหงาเป็นเหมือนกัน เธอไม่รู้เลยว่าฉันคิดกับเธอยังไง ที่ฉันหัวเราะก็เพราะไม่มีใคร คงไม่มีใครมาปลอบใจ ถ้าฉันร้องไห้  ฉันเลยต้องเหงาอยู่ทุกวัน เธอไม่รู้เลยว่าฉันคิดกับเธอยังไง ที่ฉันหัวเราะก็เพราะไม่มีใคร คงไม่มีใครมาปลอบใจ ถ้าฉันร้องไห้ ก็ได้แต่ยิ้มปลอบใจตัวเองไปวันๆ ” แพนนี่ร้องเพลงโปรดของเธอ น้ำตาของเธอไหลลงมาเรื่อยๆ ตอกย้ำถึงความเหงาในใจของเธอตอนนี้ เพลงนี้ก็ทำหน้าที่แค่นี้ ถ้าเวลาหยุดไว้เพียงแค่ตรงนี้ เธอคงต้องขาดใจตายแน่ๆ เพราะอะไรกัน เธอไม่ชอบอยู่คนเดียวเลย เหงา เหงา เหงาจัง..........
                    ~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O~o~O
แหะๆ นี่ก็ตอนที่10ซะทีนะคะ
นั่งนึกตอนไปทัศนศึกษาตั้งแต่เช้า
กะว่าจะอัพไปยาวเลย
ตอนนี้เศร้ามากเลยค่ะ
peacesss เกือบร้องไห้แหนะ
เขียนไปก็เศร้าไป
แพนนี่น่าสงสารอ่า
อืมม เรื่องนี้มันก็มีข้อคิดสำคัญนะคะ
การทิ้งขยะ เศษแก้ว ทำลายความสวยงาม
ของสิ่งแวดล้อมมากมาย
หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ
http://www.kapook.com/musicstation/newmusicstation/play.php?id=982 <<< เพลงเหงาที่ใช้ค่ะ เพลงเก่าแล้วแต่เพราะดี ลองไปฟังกันดูนะคะ
สวัสดีค่ะ ติดตามตอนต่อไป ซึ่งจะดองไว้นะคะ อิอิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น